Decisive wars สู่จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
7.2
เขียนโดย CyCloEclipse
วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.46 น.
44 ตอน
5 วิจารณ์
49.95K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) ความบริสุทธิ์ที่แปดเปื้อน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "แองเจลอยด์...งั้นเหรอ!?" ท่ามกลางม่านพายุกรรโชกที่เกิดจากการปรากฏตัวขึ้นอย่างไร้ที่มาของรูหนอนที่แปรปรวนกลางอากาศขึ้นแทนที่อากาศที่สมดุลอยู่ในตัวจนความสมมาตรนั้นเสื่อมลงไป ด้วยแรงลมที่พัดกระหน่ำอย่างรุนแรงนั้นได้พัดเอาเศษกรวดที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นถนนนั้นจนฟุ้งกระจายเข้าจู่โจมดวงตาอันบอบบางของเด็กชายที่ใช้มือป้องตาเอาไว้ไม่ให้เศษที่หลุดร่อนออกจากมาจากการก่อสร้างที่ไม่ค่อยได้มาตรฐานเท่าไหร่นั้นเข้ามาทำลายสาตที่สำคัญมากของเขาได้ ซึ่งฮิซาชิก็ผ่อนนิ้วที่เกร็งเอาไว้ลงเพื่อให้พอมีช่องให้มองทะลุออกไปยังบุคคลที่อยู่ข้างหน้าได้นิดหน่อย... สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าดวงตาที่หรี่ลงของฮิซาชินั้นคือ สาวน้อยรุ่นราวๆมัธยมปลายช่วงสุดท้ายได้สยายปีกที่ซ่อนเอาไว้ภายใต้เสื้อนอกของโรงเรียนมัธยมปลายเดียวกับที่ฮิซาชิเข้าเรียนในระดับเดียวกันนั้นท่ามกลางกระแสลมที่พัดอย่างรุนแรง ในตอนนั้นเองที่ชุดนักเรียนกระโปรงสั้นเผยให้เห็นหัวเข่าของเธอก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นชุดอื่นที่ไม่ใช่อะไรที่ผู้หญิงทั่วไปไม่มีทางที่จะใส่มันได้แน่... ชายผ้าสีขาวนวลราวกับผลิตจากใยฝ้ายอย่างดีค่อยๆถูกสร้างขึ้นจากต้นคอของเธอยาวลงไปจนถึงช่วงเอวที่เรียวบาง ถัดมาส่วนกระโปรงผ้าสังเคราะห์สีน้ำเงินแกมม่วงที่สาวน้อยคนนั้นใส่อยู่ก็ถูกเปลี่ยนไปเป็นกระโปรงผ้าฝ้ายบางๆตั้งแต่รอยต่อของชุดเสื้อของเธอยาวลงไปเป็นลอนถึงข้อเท้า ทันทีที่การสร้างชุดใหม่ของเธอสิ้นสุดลง... ปรากฏเป็นแสงสีน้ำเงินห่อหุ้มช่วงหน้าอกและสะโพกที่เปิดออกรับลมอย่างเต็มกำลังจนของเหลวสีโลหิตที่ไหลออกมาจากช่องลมของเด็กชายหลุดไหลทันที แสงสีน้ำเงินนั้นค่อยๆก่อรูปร่างเป็นเกราะสีน้ำเงินเข้มปกปิดอวัยวะสำคัญในการดึงดูดผู้ชายเอาไว้ และในจังหวะนั้นเองที่การแปลงเข้าสู่โหมดต่อสู้ของเธอคนนั้นสิ้นสุดลง... พร้อมกับที่พวกมิรันที่ถูกทิ้งท้ายเอาไว้ในซอยเล็กๆแห่งนั้นวิ่งออกมาถึงตัวฮิซาชิพอดี และในตอนนั้นเองที่ดวงตาทั้งสี่ของseiriสาวได้เบิกโพลงด้วยความหวั่นวิตก"ไม่ผิดแน่... ใช่เธอจริงๆนั่นแหละ!" มิรันและฮิโรมิที่กำลังตะลึงนั้นพูดพึมพำกับตัวเองหลังจากที่เห็นสิ่งมีชีวิตสาวที่อยู่ตรงหน้า"แองเจลอยด์เพียงหนึ่งเดียวที่สามารถเข้าถึงระดับสามที่มีพลังเหนือกว่าseiriคนอื่นๆจะต้านทานได้... seiriที่แข็งแกร่งเป็นอันดับสองรองลงมาจาก'ลิมนาเดส'..." "seiriผู้สรรค์สร้างชีวิต... ฟูจิมิยะ ฮานามิ!" ฮิซาชิไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็นและสัมผัสได้อยู่ตรงหน้าแม้แต่น้อย เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแท้ที่จริงแล้วฮานามิที่มีพลังเพียงสามารถเอาชนะพวกมิคาสะในร่างพื้นฐานเท่านั้นจะมีพลังในช่วงก่อนที่จะถูกอาคาริดัดแปลงสักเพียงไหน... ในขณะนี้เพียงสายลมที่พัดโชยมาจากร่างของเธอคนนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เขาได้รู้ตัวเสียทีว่าความกดดันในการเผชิญหน้ากับseiriที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร... ถ้าหากว่าอาคาริไม่อาศัยจังหวะที่ฮานามิเข้าสู่สภาวะหลับไหลเพื่อมาพบกับฮิซาชิในการดัดแปลงสภาพร่างกายและแกนปีกของเธอในระยะที่"วิวัฒนาการถึงขีดสุด"แล้ว ทั้งฮิซาชิและอาคาริ...รวมไปถึงseiriคนอื่นๆที่เคยต่อสู้กับฮานามิสามารถถูกเธอฆ่าตายได้ภายในเวลาไม่ถึง10วินาที!! "เธอขยับแล้ว!!" ปลายนิ้วของฮิโรมิที่ทำเสียงลุ้นระทึกราวกับกำลังพากย์ฟุตบอลโลกนั้นได้จับไปยังภาพของฮานามิที่อยู่ห่างจากพวกเธอออกไปในระยะไม่กี่เมตร ฮิซาชิและมิรันที่มองตามไปเห็นseiriที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขาไปหลายขั้นหันมามองทั้งสามคนชั่วครู่หนึ่งก่อนจะกระพือปีกพุ่งขึ้นไปยังท้องฟ้าที่วิปริตด้านบนอย่างรวดเร็วจนมองตามแทบไม่ทัน แม้จะแค่แว่บเดียว...แม้จะสบตากันเพียงไม่ถึงวินาที... แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้จิตใจของฮิซาชิหล่นลงไปยังปลายนิ้วเท้าได้แล้ว ซึ่งทั้งมิรันและฮิโรมิที่แข็งแกร่งกว่าเขาก็รู้สึกได้เช่นเดียวกัน! "น-นี่ไม่ใช่เวลาจะมาตกใจนะ! มิรัน!! ฮิโรมิ!!" "ข-เข้าใจแล้ว!!" "รู้อยู่แล้วน่า!!" ทันทีที่ฮิซาชิตั้งสติได้ เขาก็หันไปตะดกนปลุกสติที่กระเจิงไปของสาวน้อยทั้งสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยความหวั่นใจจนแทบจะยืนไม่ติดเท้าด้วยเสียงที่ดังแข่งกับเสียงลมที่พัดกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง มิรันและฮิโรมิที่ได้สติกลับคืนมาก็รีบบินตามฮานามิที่บุกเข้าไปก่อนแล้วไปยังดาดฟ้าตึกที่ตั้งตระหง่านเสียดฟ้าอย่างรวดเร็ว "รอก่อนสิ...ฮานามิ!!" เมื่อพวกเขาทั้งสามขึ้นไปถึงยอดตึกที่อยู่ใกล้กับอุโมงค์ข้ามมิติที่สุดแล้ว เด็กชายที่มีพลังเช่นเดียวกับเหล่าseiriก็ตะโกนเรียกแองเจลอยด์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่เหมือนกับมาสังเกตการณ์รูหนอนที่แปรปรวนอย่างตั้งมั่นอย่างต่อเนื่องจนสาวน้อยคนนั้นต้องหันกลับมามองเด็กชายที่ส่งเสียงน่ารำคาญอย่างช่วยไม่ได้... "เดี๋ยวสิ..! ฉันมีเรื่องจะถามเธอเยอะเลยนะ!!" "ถ้าเธออยากจะคุยกับฉันจริงๆ...เธอก็ต้องรอดไปจากที่นี่ให้ได้สิ พ่อหนู!" บรรยากาศรอบๆตัวเปลี่ยนไปทันทีที่ฮานามิพูดคำๆนั้นกับฮิซาชิ ที่ใจกลางรูหนอนนั้นมีสภาพบิดเบี้ยวซึ่งอาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ความบิดเบี้ยวของมิติเกิดการเสียสมดุลไปก็ได้... บริเวณก้นหลุมที่ต่อยาวขึ้นไปกลางท้องฟ้านั้นเริ่มจะบิดเบี้ยวมากขึ้นและโก่งตัวออกมาราวกับมีอะไรบางอย่างกำลังดันมันอยู่จากด้านใน และทันทีที่พื้นหลุมเกิดการบิดเบี้ยวถึงขีดสุด...ก็ปรากฏสสารบางอย่างค่อยๆยื่นตัวออกมาจากอีกด้านหนึ่งราวกับสิ่งของที่โผล่พ้นผิวน้ำ รูปร่างของมันเหมือนกับ... "ไม่จริงน่า... ทำไมมันถึงได้ใหญ่ขนาดนั้นล่ะ!?" สิ่งที่ปรากฏออกมาจากรูหนอนขนาดใหญ่นั้นก็คือ สิ่งมีชีวิตประหลาดที่มีรูปร่างเหมือนปักษาวายุที่เคยถูกนำมาทำเป็นหนังสมัยก่อน ร่างกายของมันถูกห่อหุ้มด้วยเกล็ดเกราะสีน้ำตาลดินเหมือนกับสัตว์ประหลาดทุกตัวที่ปรากฏขึ้นมาต่อสู้กับพวกฮิซาชิและseiri ส่วนปีกของมันก็ไม่มีขนเหมือนกับสัตว์ปีกทั่วไป... หากแต่มันมีลักษณะเหมือนกับกรงเล็บที่เชื่อมต่อกันด้วยพังผืดจนเป็นเนื้อเยื่อคล้ายๆปีกมากกว่า "ถ้าฉันจำไม่ผิด...เจ้าปีกลักษณะนั้นมันเหมือนกับปีกมังกรของพวกอควารอยด์เลยไม่ใช่เหรอ!" ในตอนแรกฮิซาชิก็ไม่ได้สังเกตลักษณะภายนอกของมันสักเท่าไหร่... แต่ทันทีที่มิรันทักให้เห็นถึงลักษณะร่างกายของมันก็ได้ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยกับมันมาก จุดสนใจของเด็กชายในตอนนี้ได้เปลี่ยนมาจากรูหนอนขนาดใหญ่มาเป็นปีกที่คล้ายมังกรบินของสัตว์ประหลาดตัวนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้! ซึ่งอย่างที่มิรันทักเอาไว้... ปีกมังกรนั้นเป็นลักษณะเด่นของสายพันธุ์seiriเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถต่อสู้ใต้น้ำได้ เป็นลักษณะเด่นของ'อควารอยด์'อย่างเห็นได้ชัด การที่จะทำให้รูปร่างภายนอกของมันมีลักษณะเป็นเช่นนี้ได้นั้นไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วนอกจากจะดัดแปลงเซลล์พันธุกรรมของมนุษย์เท่านั้น และในบรรดาเซยริทั้งหมด... อควารอยด์นั้นสามารถถูกสังเคราะห์พันธุกรรมขึ้นมาได้ยากที่สุด!! เจ้าผู้ที่สร้างสัตว์ประหลาดตัวนี้ขึ้นมามีจุดประสงค์อะไรกันแน่..! ถ้าหากว่าอยากจะสร้างออกมาเป็นอควารอยด์สมบูรณ์ก็แค่เอาร่างสังเคราะห์ของมนุษย์ที่ดัดแปลงให้ทนทานต่อความเปลี่ยนแปลงมาดัดแปลงนิดๆหน่อยๆก็สามารถออกมาเป็นอควารอยด์รูปร่างเหมือนมนุษย์แล้วแท้ๆ... เอี๊ยกกกกกก!!!!!! ในระหว่างที่ฮิซาชิกำลังมองหาคำตอบข้างในจิตใจนั้น...สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็ลงมาถึงพื้นแล้ว! พร้อมกันนั้นก็จุดเปลวเพลิงสีดำข้างในปากละเลงบทเพลงแห่งความโศกให้กับสิ่งปลูกสร้างตรงหน้าจนเสียหายยับเยิน และในตอนนั้นเองที่ฝูงบินจากกองทัพอากาศที่เฝ้ารอการปรากฏตัวของสิ่งมีชีวิตที่กำลังออกมาจากรูหนอนได้มาถึงพอดี ผู้ควบคุมยานรบทุกลำนั้นจัดการขึ้นลำจรวดจู่โจมพร้อมที่จะล้างบางสิ่งมีชีวิตที่คุกคามการดำรงอยู่ของมนุษย์"ขนาด20เมตร"ที่อยู่ตรงหน้าได้ทุกเมื่อ "เครื่องบินทุกลำเตรียมโจมตีเป้าหมายในอีก 5..4..3..2..1"เครื่องบินรบทุกลำกำลังบินวนฉวัดเฉวียนรอรับคำสั่งโจมตีในครั้งเดียวพร้อมกันไปรอบตัวสัตว์ประหลาด ซึ่งมันก็ไม่ได้โง่พอที่จะรอให้อีกฝ่ายเล่นงานมันก่อน เปลวเพลิงนิลกาฬในปากของมันพร้อมที่จะผลาญทำลายจรวดจู่โจมที่ฝูงรบระดับชำนาญการณ์เตรียมส่งมอบให้มันเป็นของขวัญที่มันลงมาถึงพื้นโลกได้ ก็ถ้าวิทยาการของปี2170นี้มีแค่จรวดมิสไซล์ที่มีอานุภาพพอที่จะทำร้ายสิ่งมีชีวิตไม่ระบุสายพันธุ์ได้เพียงอย่างเดียวละก็นะ... "ทุกลำ...ยิง!!"แทนที่เครื่องบินรบที่ได้รับคำสั่งจู่โจมนั้นจะปล่อยกระสุนบรรจุดินระเบิดเต็มอัตราใส่สัตว์ประหลาด พวกมันกลับสาดกระสุนลำแสงจากปากกระบอกที่ติดตั้งอยู่ใต้ปีกทั้งสองข้างแทน ทันทีที่กระสุนลำแสงนั้นตรงเข้าปะทะกับร่างของสัตว์ประหลาด พวกมันเหล่านั้นก็ระเบิดออกสร้างอาการบาดเจ็บให้แก่เป้าหมายจู่โจมอย่างต่อเนื่องและรุนแรง และด้วยความต่อเนื่องของการโจมตีนั้น... ทำให้สัตว์ประหลาดถึงกับยืนไม่ติดพื้นเลยทีเดียว และเพราะการโจมตีเหล่านั้นปะทะเข้ากับผิวหนังเกราะของสัตว์ประหลาดอย่างเต็มเหนี่ยว... ทำให้สัตว์ประหลาดไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย! "แย่แล้ว! รีบหนีออกมา!!!" เป็นที่น่าเสียดายที่เสียงตะโกนของฮิซาชินั้นไม่สามารถถูกส่งไปถึงฝูงบินรบเหล่านั้นได้...และปฏิกิริยาตอบสนองของนักบินนั้นไม่ได้ไวพอที่จะควบคุมเครื่องบินให้หลบสิ่งกีดขวางที่ปรากฏขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยในระยะห่างเพียง2เมตรได้ เครื่องบินรบทุกลำที่บินตามหัวหน้าชุดบินจึงไม่สามารถหลบหลีกร่างกายของสัจว์ประหลาดที่บินขึ้นมาได้จนเสียชีวิตเกือบทั้งหมด ซึ่งเครื่องบินรบที่รอดมาได้2-3ลำนั้นก็ถูกเปลวเพลิงจากปากของมันทำลายจนไม่เหลือซาก "บ้าที่สุดเลย!! แบบนี้เราก็ต้อง..!?" ฮิซาชิทนเห็นภาพความโหดร้ายของการต่อสู้ที่ในสมัยของเขายังไม่ร้ายแรงเท่าตอนนี้ไม่ได้อีกต่อไปเตรียมจะพุ่งเข้าไปต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่สังหารหมู่ฝูงบินต่อต้านอย่างโกรธแค้น ติดเพียงแค่ว่าสายลมอ่อนๆที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนที่พัดโชยมาแทนที่ลมพายุที่เชี่ยวกราดเมื่อสักครู่นี้จนทำให้ร่างกายของเขาต้องหยุดชะงัก "แองเจลอยด์การสงคราม... เนพติสท์ เปลี่ยนเข้าสู่โหมดต่อสู้จริงได้..!"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ