Decisive wars สู่จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
เขียนโดย CyCloEclipse
วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.46 น.
แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
22) ปีกแห่งวิหคอมตะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"แองเจลอยด์การสงคราม... เนพติสท์ เปลี่ยนเข้าสู่โหมดต่อสู้จริง"
กระแสลมอ่อนโชยที่แผ่ออกมาอย่างอ่อนโยนจากแองเจลอยด์หน้าใหม่ที่ยืนเป็นศูนย์กลางการต่อสู้ครั้งนี้อยู่ตลอดเวลานั้นเริ่มเพิ่มความแข็งกล้าขึ้นจนกลายเป็นคลื่นพายุที่รุนแรงไม่แพ้รูหนอนเมื่อสักครู่นี้พัดพาเอาเศษขี้เถ้าจากความสูญเสียกำลังรบของมนุษย์ที่กระจายอยู่ทั่วพื้นและกลางอากาศนั้นให้ลอยขึ้นไปกลางอากาศ พร้อมกันกับแสงสีน้ำเงินที่แผ่ออกมาจากช่วงปีกทั้งสองข้างของเธอคนนั้นจนพวกฮิซาชิเริ่มสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น
บรรยากาศโดยรอบที่เคยอบอวลด้วยความอ่อนโยนขณะนี้กลับคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นไอแห่งความทรมานอย่างหนาแน่นจนอธิบายเป็นคำพูดได้ลำบาก ชายผ้าสีขาวที่ปกคลุมช่วงขาของฮานามิเริ่มเปลี่ยนไปเป็นละอองแสงสีน้ำเงินย้ายไปรวมตัวกันที่เท้าทั้งสองข้างก่อนจะอัดแน่นเป็นรูปร่างของรองเท้าเกราะสีน้ำเงินปกปิดส่วนเท้าของเธอยาวไปถึงส่วนกลางลำขา ส่วนชายผ้าที่ปกปิดส่วนลำแขนของฮานามิก็เช่นเดียวกัน เพียงแต่ละอองแสงสีน้ำเงินนั้นได้ก่อร่างเป็นเกราะแขนสีน้ำเงินป้องกันฝ่ามือและท่อนแขนยาวไปถึงข้อศอกเลยทีเดียว
และดวงตาสีท้องฟ้าสดใสทั้งสองข้างของเธอยังถูกแทนที่ด้วยวงแหวนเป้าเล็งสีส้มแทน ซึ่งในตอนนี้ฮานามิไม่ได้มีความปรานีต่อศัตรูของเธอแม้แต่น้อย...และฮิซาชิยังสัมผัสได้อีกด้วยว่าเธอจะไม่ปรานีต่อคนที่เข้ามาขวางเธอแบบที่เขาเคยรู้จักอีกต่อไปแล้ว!!
"ฮา..นามิ!?"
ดวงตาทั้งสองของเด็กชายเบิกโพลงด้วยความตระหนกและหวาดกลัวที่เริ่มปรากฏขึ้นมาทีละนิดในจิตใจส่วนลึกที่ค่อยๆขยายอาณาเขตกว้างขึ้นจนเข้ากัดกร่อนจิตใจที่พร้อมจะต่อสู้ทีละนิด
เพราะระดับพลังของฮานามิในขณะนี้...เหนือชั้นกว่าร่างปลดปล่อยพลังระดับสูงสุดของฮิซาชิไปแล้ว!!
"รูปร่างแบบนี้... ความรู้สึกหวาดหวั่นแบบนี้... หรือว่าseiriเมื่อตอนนั้นก็คือ!?"
ทันทีที่มิรันได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอกของแองเจลอยด์ที่เป็นผู้สร้างตัวเธอขึ้นมาแล้ว เธอก็รู้สึกสะกิดใจได้ถึงตัวตนที่แท้จริงของแองเจลอยด์ที่เคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้เมื่อครั้งที่เธอต่อสู้กับอาร์พาที... และยังเป็นผู้ที่ช่วยชีวิตฮิซาชิเอาไว้จากการต่อสู้กับโครทินอสอีกด้วย!
ตอนนั้นเองที่ฮานามิเหลือบสายตามายังแองเจลอยด์ที่ส่งสายตาสงสัยอยู่ข้างๆ...ก่อนจะขมวดคิ้วลงแน่นกว่าเดิมเป็นสัญญาณว่าไม่ให้เธอเข้ามายุ่งในการต่อสู้ครั้งนี้
"ที่แท้ก็เธอเองเหรอ... seiriอ่อนหัดที่อวดดีต่อสู้กับสัตว์ประหลาดแบบไม่คิดหน้าคิดหลังคนนั้นคือเธอนี่เอง"
มันก็น่าดีใจอยู่หรอกที่ทั้งมิรันและฮานามิจะจำกันและกันได้ หากแต่วิธีการทักทายของคู่กรณีนี่น่ะสิ..!
"อวดดีงั้นเหรอ... แล้วคนที่เล่นงานคนอื่นทีเผลอมันมีอะไรน่าอวดนักหรือไง!!"
มิรันทนต่อแรงยั่วที่ฮานามิปล่อยออกมาไม่ไหวเดินเข้าไปจะตำหน้าของแองเจลอยด์ผู้ให้กำเนิดสักที แต่ในจังหวะที่เธอก้าวเท้าออกไปนั้นเอง...ฮิซาชิก็ยื่นแขนเข้ามาขัดกลางเสียก่อนจนมิรันไม่พอใจมาก
"นายคิดอะไรกันแน่... นี่มันเรื่องระหว่างเราสองคน นายไม่เกี่ยวอะไรสักหน่อย!"
"เธอนั่นแหละที่คิดอะไรอยู่กันแน่! ปัญหาระหว่างพวกเธอสองคนเอาไว้สะสางกันหลังจัดการสัตว์ประหลาดนั่นก็ได้ไม่ใช่หรือไง!!"
"งั้นเธอนับนิ้วรอได้เลย..."
ในระหว่างที่ฮิซาชิกำลังสะสางเรื่องความขุ่นเคืองที่มิรันมีอยู่นั้น สายตาที่จับจ้องไปด้านหน้าอย่างเดียวของฮิโรมิก็เห็นฮานามิเผยยิ้มแคบๆออกมาก่อนจะนึกสนุกถีบเท้าเข้าหาสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์นตรงหน้าด้วยตัวคนเดียว ซึ่งนั่นได้ทำให้เทอร์รารอยด์ระดับ2ที่เห็นเหตุการณ์อย่างชัดเจนทุกฉากทุกช็อตตกใจมากจนฮิซาชิและมิรันต้องหันมามองเป็นตาเดียวกัน ซึ่งท่าทางบ้าบิ่นแบบกล้าได้กล้าเสียนั้นดูคล้ายกับฮิซาชิเป็นอย่างมาก...
"ยัยบ้านั่น...ทำเป็นปากดีมาสั่งสอนคนอื่นนะ"
มิรันกัดฟันอย่างอารมณ์เสียเรื่องที่ฮานามิเหน็บแนมเธอเมื่อสักครุ่นี้ ซึ่งในตอนนี้เจ้าตัวที่ต่อว่าเธอยังเป็นผู้ลงมือแหกกฏนั้นด้วยตัวเอง แน่นอนว่าอาจจะเป็นเพราะเธอมั่นใจในพลังของตัวเองมากว่าสามารถเอาชนะสัตว์ประหลาดที่แม้แต่ยุทธภัณฑ์ทางทหารยังไม่สามารถระคายเคืองผิวหนังได้อย่างสบายๆ
"อย่างเธอน่ะมีสิทธิ์มาว่าคนอื่นเขาด้วยเหรอ!!"
แม้จะโมโหที่ถูกฮานามิต่อว่า ถึงอย่างนั้นมิรันก็ไม่สามารถปล่อยให้กำลังสำคัญในการต่อสู้ของเหล่ามนุษย์ต้องเป็นอะไรไปได้อยู่ดี และสิ่งที่ยังอยู่ในใจของเธออีกอย่างก็คือ... สำหรับแองเจลอยด์ที่วิวัฒนาการถึงระดับสามอย่างฮานามินั้นย่อมมีการหลบหลีกและปล่อยการโจมตีที่รุนแรงของคู่ต่อสู้โดยไม่สนใจที่จะทำลายมันทิ้งอย่างแน่นอน ซึ่งนั่นจะทำให้เหล่ามนุษย์ที่ไร้พลังได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
เอี๊ยกกกกกกกกก..........
"หน้าตาน่าเกลียดจริงๆ พับผ่าสิ..!"
แล้วก็เป็นจริงอย่างที่มิรันคาดการณ์เอาไว้ ฮานามิกล่าวคำพูดแสดงความรังเกียจที่มีต่อสัตว์ประหลาดนกยักษ์ที่ปรากฏตัวขึ้นรบกวนการเดินร่อนอย่างสบายอารมณ์อย่างเธอ ก่อนที่จะกระโดดพุ่งเข้าไปเตะช่วงอกของมันเข้าอย่างแรงจนเกิดคลื่นกระแทกกระจายออกจากจุดที่เกราะเท้ากับเกล็ดเกราะปะทะกันออกเป็นวงกว้าง จากนั้นเพียงไม่ถึงวินาที... ร่างอันใหญ่โตของสัตว์ประหลาดก็กระเด็นออกไปด้านหลังด้วยความเร็วที่สูงมาก จนแทบจะไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นผลลัพธ์จากการกระทำของseiriที่มีขนาดร่างกายที่เล็กกว่ามาก
แต่แล้วด้วยสัญชาตญาณการต่อสู้ที่ชี้ให้เห็นถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นของสาวน้อยผมดำประกายน้ำเงินที่สามารถเล่นงานสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่กว่าหลายสิบเท่าได้อย่างสบายนั้นกำลังบ่งบอกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้ฮานามิตั้งท่ารับมือทุกสถานการณ์ทันที...
"อย่ามาทำตาขวางใส่ฉัน...ไม่งั้นแกตาย!"
ฮิซาชิเห็นสัตว์ประหลาดใช้ท่อนปีกดันตัวลุกขึ้นมาทำตาขวางใส่ฮานามิอย่างโกรธแค้น ก่อนจะมีประกายเพลิงสีดำเล็ดลอดออกมาจากช่องฟันที่ขบกันแน่น สัตว์ประหลาดร่างยักษ์เชิดหน้าขึ้นสูงก่อนจะพ่นเปลวเพลิงสีดำออกมาจากปากแบบเดียวกับที่อดีตเพื่อนของเขาเคยจุดขึ้นมาที่ฝ่ามือ เปลวเพลิงนิลกาฬที่โหมกระหน่ำนั้นพุ่งออกมาข้างหน้าอย่างรุนแรงจนเกิดเป็นคลื่นปะทะอย่างรุนแรงพัดเอาทุกสิ่งที่ขวางหน้าจนราบในพริบตา
แต่ถึงอย่างนั้น...คู่ต่อสู้ของมันก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ในท่าเดิมคิ้วไม่กระดิก!
"บ้าไปแล้ว!! รีบหลบออกมาสิ...ฮานามิ!!"
ฮิซาชิเห็นท่าไม่ดีรีบวิ่งเข้าไปขวางหน้าเปลวเพลิงทำลายล้างของสัตว์ประหลาดเอาไว้อย่างไม่คิดชีวิต ผิดกับแองเจลอยด์ระดับ3ที่ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยแววตาส่อแววปรารถนาที่จะฆ่าคู่ต่อสู้ให้ได้ เธอตัดสินใจที่จะประสานแขนเอาไว้ที่...
"เอจิส!!" ฮิโรมิที่กระทุ้งปีกยกโล่เข้ามากางเอจิสป้องกันเปลวเพลิงนั้นเอาไว้
"ปัดโธ่เว้ย!!!" ส่วนฮิซาชิเองก็กางม่านป้องกันซ้อนเอาไว้ด้านหน้าเอจิสของฮิโรมิที่ด้านหน้าเช่นกัน
ในขณะที่ฮานามิ...
"นิวตรอน สตรีม..."
ในขณะที่คลื่นเพลิงดำของสัตว์ประหลาดกำลังถูกต้านเอาไว้ด้วยการป้องกันสองชั้นของฮิซาชิกับฮิโรมิ ในระหว่างที่มิรันกำลังใช้ท่าพลาสม่า แสลชเชอร์ ช่วยลดทอนพลังทำลายของการโจมตีของสัตว์ประหลาดลงมาให้อยู่ในระดับที่ทั้งสองคนจะรับได้ ฮานามิก็เร่งพลังในตัวขึ้นเพื่อใช้ท่าไม้ตายเฉพาะตัวของเธอ...
แขนที่นำมาไขว้กันเป็นกากบาทที่กลางคิ้วเริ่มมีแสงสีน้ำเงินเรืองออกมา ก่อนจะเกิดเป็นคลื่นแสงกระจายออกเป็นวงแหวนแสงสีน้ำเงินอ่อนออกมาจากแขนทั้งสองข้าง ฮานามิรวบรวมพลังแสงทั้งหมดนั้นไว้ที่แขนขวาที่ค่อยๆเลื่อนขึ้นไปเหนือศีรษะจนกลายเป็นลำแสงสีน้ำเงินพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าที่อยู่สูงขึ้นไปอย่างรุนแรง
"ท่าไม้ตายนั่น... ฮิโรมิ!!"
ทางด้านฮิซาชิที่รู้สึกไม่ค่อยดีกับแสงสว่างสีน้ำเงินที่ส่องออกมาจากร่างของฮานามินั้นรีบออกแรงผลักม่านพลังของเขาไปด้านหน้าก่อนจะคว้าลำแขนของฮิโรมิที่กำลังกางเอจิสอยู่ด้านหน้าออกไปด้านข้างทันที หลังจากนั้นเพียงไม่ถึงวินาที... ฮานามิก็สับแขนขวาลงให้ลำแสงพลังทำลายสูงพุ่งตรงไปยังร่างของสัตว์ประหลาดที่อยู่ตรงหน้าเป็นจังหวะเดียวกับที่ฮิซาชิกระโดดหลบออกจากรัศมีการโจมตีที่ราวกับไม่สนใจว่าแนวการโจมตีของลำแสงนั้นจะพุ่งไปโดนใครบ้าง
ซึ่งลำแสงของฮานามินั้นคงยากที่จะโดนตัวสัตว์ประหลาดได้โดยง่ายเนื่องจากม่านพลังที่ฮิซาชิใช้ป้องกันเปลวเพลิงของสัตว์ประหลาดนั้น...
เพล้ง!!!!
ไม่ใช่แค่พวกseiriสองคนเท่านั้น... แม้กระทั่งฮิซาชิเองก็ตกใจจนพูดอะไรไม่ถูกเช่นกัน ม่านป้องกันที่ฮิซาชิใช้ป้องกันคลื่นเพลิงดำที่มีพลังทำลายล้างสูงมากได้อย่างสมบูรณ์แบบกลับถูกทำลายลงอย่างง่ายดายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวของแองเจลอยด์ที่เขาเคยเอาชนะได้ง่ายๆ
ซึ่งในตอนนี้ฮิซาชินั้นมีสิ่งเดียวที่อยากจะรู้คำตอบ..!
ลำแสงที่ประจุพลังทำลายมหาศาลของฮานามิออกแรงดันเปลวเพลิงนิลกาฬของสัตว์ประหลาดอย่างรวดเร็วราวกับว่าพลังที่มิรันปล่อยออกมาเพื่อต้านทานเอาไว้นั้นมีพลังทำลายที่ด้อยกว่ามาก ลำแสงสีน้ำเงินและฟ้าของฮานามิและมิรันเมื่อสัมผัสถูกร่างของสัตว์ประหลาดก็เกิดเป็นลำแสงขนาดเล็กหลายเส้นหมุนวนรอบร่างของสัตว์ประหลาดเป็นหลายๆแถบ ก่อนที่ร่างของมันจะระเบิดหายไปจากพื้นโลกตลอดกาล...
"กำจัดมันได้แล้ว... สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ขนาดนั้นน่ะนะ..!"
ด้วยความเร็วในการจัดการเป้าหมายของฮานามิที่รวดเร็วไม่ถึง10นาที ทำให้สมาชิกที่รวบรวมมาจากการค้ำจุนจิตใจของกันและกันเกิดอาการลิ้นจุกปากพูดอะไรไม่ออก ผิดกับฮานามิที่หันหลังจากไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น... ซึ่งนั่นได้ทำให้มิรันรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมาก!!
"เดี๋ยวก่อนสิ... ฮานามิ!" มิรันเรียกชื่อของสาวน้อยที่กำลังจะจากไปก่อนจะเดินเข้าไปคว้าคอเสื้อของเธอเอาไว้
"ทำไมเมื่อกี้เธอถึงปล่อยพลังออกมา... เธอเกือบจะฆ่าฮิซาชิกับฮิโรมิแล้วนะ!!"
มิรันกดคิ้วลงเป็นสัญญาณว่าเธอในตอนนี้ไม่สนใจแล้วว่าฮานามิจะแข็งแกร่งสักเท่าไหร่ ถ้าหากว่าคำตอบที่ได้รับจากปากของเธอนั้นไม่เป็นที่พอใจแล้ว...ที่เมืองแห่งนี้จะมีการต่อสู้ระหว่าง"seiriที่แข็งแกร่งลำดับ2,3"เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
"ก็ถ้าเธอไม่อยากให้ฉันทำแบบนั้นอีกละก็... คราวหน้าเธอก็จัดการศัตรูของเธอเองสิ!!"
คำพูดแบบไม่สนใจโลกของฮานามินั้นได้ส่งผลให้มือของมิรันที่กำแน่นอยู่นั้นเกิดอ่อนแรงลงจนคลายตัวออกจากคอเสื้อของแองเจลอยด์ที่มีฐานะคล้ายๆกับแม่ผู้ให้กำเนิดเธอด้วยตัวเอง สาวน้อยผมดำประกายน้ำเงินจึงสามารถเดินจากไปได้อย่างเยือกเย็นโดยไม่จำเป็นต้องสังหารกำลังรบที่สำคัญไปด้วยเรื่องไร้สาระแบบนี้... ส่วนมิรันนั้นก็ทำได้เพียงยืนมองขนนกของวิหคอนตะร่วงลงสู่พื้นคอนกรีตอย่างช้าๆเท่านั้น
"จะยังไงฉันก็ไม่ยอมรับวิธีการต่อสู้ของเธอแน่... ฮานามิ!"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ