The Smile Devil นายปีศาจตัวร้ายกับยัยตัวเเสบ

9.7

เขียนโดย winter

วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10.04 น.

  21 #
  7 วิจารณ์
  28.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557 12.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) Chapter 3 สองพี่น้องปริศนา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter III

สองพี่น้องปริศนา

 

“เฮ้ย...รังแกผู้หญิงแบบนี้มันไม่เลวไปหน่อยเหรอ” เอ๊ะเสียง..นายเก็นนี่ เขามาช่วยฉันนี่แสดงว่าเขาแอบตาบฉันมาจริงๆด้วย นึกว่ามีแต่ไอ้พวกชั่วซะอีกที่ตามเรามา

              “แล้วเสือกอะไรด้วยฟะ! “ หนึ่งในพวกนั้นตวาดขึ้น

           “ก็..ยัยนี่แฟนฉันนะสิ แกกล้าดียังไงมารังแกเธอไอ้พวกสวะ” อะไรนะแฟนเหรอ ฉันเป็นแฟนตอนไหนมิทราบ เขินนะ(ใช่เวลาไหมเนี่ย)-////-

             “งั้นเหรอ แล้วไงล่ะแบ่งๆกันเชยชมไม่ได้หรือไง ฮะๆๆ” ไอ้บ้า เห็นฉันเป็นสิ่งของรึไงฟะ

             “ถ้ามีใครทำกับแฟนแกแบบนี้บ้าง แกยอมได้เหรอฟะ” นั้นสิๆ พูดถูก

              “จะยังไงก็ช่างแต่แกมาขัดขวางพวกฉันแบบนี้ต้องเจอดีบ้างล่ะ เฮ้ย! พวกเราจัดการมันเดี๋ยวเราค่อยมาสนุกกันต่อ” พูดจบพวกมันก็ละจากฉันเข้าไปจัดการกับนายเก็นทันที ไม่รู้เป็นไงบ้างฉันทำได้แค่เพียงหลับตาไม่อยากเห็นเขาตอนโดนพวกมันรุมทำร้าย

 

             อ๊าก......!!!!

             เสียงร้องอันโหยหวนดังขึ้นหลายเสียง ฉันลืมตาดูก็ปรากฏภาพนายเก็นยืนปัดฝุ่นแบบเรียบๆ และรอบตัวเขามีพวกที่คิดจะทำร้ายฉันนอนจมกองเลือดอยู่และร้องเสียงที่แทบไม่เป็นคำอย่างเจ็บปวด ฝีมือนายนี่เหรอเนี่ยน่ากลัวชะมัด

             “เป็นไงบ้าง นานิ” นายนั้นถามด้วยความห่วงใยก่อนจะเดินเข้ามาพยุงฉันลุกขึ้น

             “ไม่เป็นไร แค่ตกใจนิดหน่อย...” ชิ กลั้นเอาไว้ไอ้น้ำตาบ้านี้อย่าไหลต่อหน้านายนี่เด็ดขาด

             “ฉันเตือนเธอแล้วไงให้ระวังตัว น่าจะให้ฉันไปส่งแต่แรกก็บอกว่าไม่ ไม่งั้นคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้หรอก” เขาทำเป็นบ่นปนดุเล็กน้อยทำตัวยังกับฉันแบบที่เคยพูดหลอกๆพวกนั้น แต่มันก็น่าซึ้งใจอยู่หรอกนะ

             “ขอบใจนะ...ที่ช่วยฉัน ถ้า..ไม่ได้นายฉันคงแย่”

             “ไม่เป็นไรหรอก ยังไงถ้าฉันไม่เสียมารยาทแอบเดินตามมาฉันคงมาช่วยเธอไม่ทัน” นิสัยแย่ๆนายช่วยเอาไว้นะเนี่ย ฉันยิ้มเล็กน้อยแล้วยอมให้นายเก็นเดินตามฉันไปจนถึงบ้าน

             “บ้านเธอน่าอยู่นะ อยู่กันกี่คนล่ะ” พอถึงหน้าบ้านฉันก็ถามทันที ไหงชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านนักนะ

             “อยู่กันสามคนน่ะ ไม่มีอะไรแล้ว นายก็กลับได้แล้วหละนี้มันก็ดึกแล้วนะ” ฉันถือโอกาสไล่ซะเลย

             “ใครบ้างล่ะ ที่บ้านฉันก็อยู่กันสามคนเหมือนกัน” แล้วมาพูดเรื่องส่วนตัวกับฉันทำไมกัน

             “ฉันอยู่กับแม่และก็พี่สาว ไม่มีอะไรแล้วฉันเข้าบ้านแล้วนะ” ว่าจบฉันก็เดินเข้าไปเปิดประตูรั้วเพื่อเขาบ้าน

             “แล้วเจอกันที่โรงเรียนนะ” เข้าพูดทักทายก่อนจะหันมาล็อกประตูรั้ว แต่เขาก็หายไปแล้วซะงั้น ลึกลับจริงๆเลยนะนายนี่ สรุปหายตัวได้จริงๆสินะไวชะมัด

 

             วันต่อมา

             “นี่นามิ เมื่อคืนเธอได้ข่าวพวกวัยรุ่นที่ดักฉุดสาวๆไปขมขืนในซอยแถวๆบ้านเธอไหม” คำถามของยัยอากิทำฉันสะดุ้งเฮือก คิดแล้วยังเสียวสันหลังวาบๆจนแทบไม่อยากผ่านแถวนั้นอีกเลย

             “ข่าวอะไร” หวังว่าคงไม่ใช่ข่าวที่ฉันโดนฉุดหรอกนะ

             “ก็พวกนั้นนะสิ โดนใครก็ไมรู้จัดการซะสาหัสเลย “ สะ..สาหัสเลยเหรอ

             “ขนาดนั้นเลยเหรอ” พูดแล้วคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ภาพยังติดตาอยู่เลย

             “ก็รุ่นพี่ที่ย้ายจากที่นี่ในโรงเรียนเขาบอกมา เห็นบอกว่าคงถูกคนโขยงใหญ่รุมทำร้ายตอนนี้ยังอยู่ห้องฉุกเฉินไม่รู้จะรอดหรือเปล่าก็ไม่รู้” จะบ้าเหรอ แค่นายเก็นคนเดียวเองนะ

            “ถ้า...เป็นฝีมือของ...”

           “ของใคร” เสียงเรียบๆที่ชวนขนหัวลุกถามขึ้น เสียงนายนี่ชักน่ากลัวเขาทุกวันๆ

           “ใครก็ช่างฉันไม่รู้หรอกแค่พูดไปลอยๆ”

 

...เกือบหลุดปากแล้วสิ ขืนพูดอาจโดนนายนี่เก็บก็ได้ สยองแฮะ…

 

            “ห้าม...บอก...ใคร...เด็ด...ขาด” ลากเสียงทำแปะยิ้มอะไรมิทราบแค่นี้ฉันก็กลัวจะแย่แล้วนะ

             “ชิ รู้แล้วน่า ถือเป็นสิ่งตอบแทนที่ช่วยฉันไว้”

             “ขอบใจนะ” เขาพูดแล้วยิ้มเล็กน้อยแล้วกลับไปนั่งที่ตามเดิม แต่แปลกนะพักหลังๆนายนี่ไปค่อยก่อกวนฉันเลยแฮะ แต่ก็ดีแล้วต่างคนต่างอยู่ดีที่สุด

 

             คาบแรก

             อาจารย์สอนศิลปะก็อารมณ์ดีเข้ามาตามเคยอาจารย์คนนี้อารมณ์ดีได้ตลอดเลยนะคะ

           “นักเรียนทุกคน วันนี้จะมีนักเรียนชั่วคราวมาเรียนห้องเดียวกับเราสองคน เห็นบอกว่าย้ายตามผู้ปกครองที่มาติดต่องานเลยขอเรียนที่นี้ไปก่อน” มีงี้ด้วยเหรอ แต่คงจะย้ายโรงเรียนตามผู้ปกครองบ่อยละสิหวังว่าสองคนนั้นจะไม่มาทำให้ชีวิตฉันวุ่นวายเหมือนนายเก็นบ้านี่นะ

             “เข้ามาสิทั้งสองคน”

ประตูเปิดออกทั้งสองก็เดินเข้ามาในห้องผู้ชายนั้นผมสีดำสนิทตัดสั้นก็ดูเท่ดีนะ จมูกก็โด่ง ปากก็สีชมพู นัยน์ตาสีดำเข้มดูลึกลับ ส่วนผู้หญิงนั้นก็ผมสีดำสนิทหยักศกเหมือนฉัน จมูกก็โด่ง ปากก็สีชมพู นัยน์ตาสีดำเข้ม สองคนนี่หน้าตาเหมือนๆกันแฮะคงพี่น้องกันล่ะมั้ง

           “สวัสดีครับ/ค่ะ”แหมพูดพร้อมกันเลยนะ

             “สวัสดีค่ะ ฉันอาโอกิ ซากุระ เรียก ซากุระจังก็ได้นะค่ะพึ่งย้ายมาจากโรงเรียนมัธยมโอซากาค่ะ ฝากตัวด้วยนะค่ะ” ชื่อซากุระเหรอชื่อน่ารักจังแถมหน้าตาเธอก็หน้ารักเหมือนชื่อซะด้วย แต่น้อยกว่าฉันอยู่ดี(หลงตัวเองชะมัด)

             “ผม อาโอกิ เรียวกะ เรียกว่าเรียว ก็ได้ขอฝากตัวด้วยนะครับ” ทำเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์เลย เคืองใครรึไงฟะ แถมเขม่นมาทางฉันด้วยสิ

             “ทักทายเสร็จแล้วทำความรู้จักกันก่อนนะเดี๋ยวครูไปธุระซักครู่ แล้วก็ที่นั่งพวกเธอก็เอาเป็นข้างหลังนามิละกันนะ” ที่ว่างเหรอ มีตอนไหนเนี่ย แถมข้างหลังฉันซะด้วย

              “สวัสดีฉันฮารุนะ นามิ เรียกนามิก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก” ฉันเปิดฉากทักทายตามมารยาท

             “ฉัน โอซากะ เก็นกิชิ เรียกเก็นก็ได้ยินดีที่ไม่รู้จัก” ยินดีที่ไม่รู้จักเหรอ ชิ เปิดฉากเป็นศัตรูกันเลยเหรอ

             “ยินดีที่ไม่รู้จักเช่นกัน เก็นทาโร่” คริๆ เรียกนายเก็นว่า เก็นทาโร่เหรอ ฮะฮ้าขำเฟ้ย

             “ขำอะไรนามิ แล้วก็นายกล้าดีไงมาเรียกฉันแบบนี้ฟะ เรียวทาโร่” แต่คำว่าเรียวทาโร่นี้ฟังดูดีกว่าเก็นทาโร่ละกันนะ(รำเอียงชะมัดเลยเรา)

             “อย่าไปใส่ใจเลยค่ะพี่เขาก็เป็นแบบนี้แหละคงไม่โกรธนะค่ะ” พอคุณซากุระพูดจบก็ดันเกิดความเงียบระหว่างเรา(รวมฉันด้วย)

             “ก็อย่าไปทำตัวกวนประสาทชาวบ้านชาวช่องเขาให้มากสินายเก็น ตอนนายอยู่เฉยๆไม่กวนหรือตอแยฉันนะ.....มัน...” เมื่อกี้จะพูดอะไรหว่าลืมจนได้เห็นแวบๆเขามาในหัวครู่นึ่งเหมือนกันนะ

             “มัน อะไรบอกมาดิ แค่นี้คิดไม่ออกเหรอ” ไอ้บ้านี้ สรุปอ่านใจคนเขาได้จริงๆใช้ไหม แต่ไงก็ช่างเหอะฉันยังไม่ได้คิดอะไรซะหน่อยอย่าหวังว่าจะรู้เลยว่าฉันคิดอะไรอยู่ ฮึๆๆ

             “ถึงเธอไม่คิดต่อ แต่..ก็ไม่น่าเงียบนิ มันน่าสงสัยนะนามิจัง”

             “ฉันคิดอยู่อะไร นายรู้เหรอว่าฉันคิดอะไรนายเป็นตัวอะไร” ชักไม่ไว้ใจนายนี้ซะแล้วถ้าอ่านใจได้จริงๆละก็โดนล้วงความลับไปหมดแน่(ว่าแต่ว่าฉันมีความลับกะเขาด้วยเหรอนอกจากเรื้องนั้น)

             “เปล่าๆก็บอกว่าทายใจสาวๆเก่งแค่นั้นเอง ” ทายแม่นไปมั้ง

             “งั้นนายมาลองทายใจฉันหน่อยสิ” เสียงนายเรียวพูดแทรกขึ้นตอนฉันกำลังเถียง(กัดกันซะมากกว่า)กับนายเก็นอยู่ ท่าจะบ๊องตามเราอีกคนล่ะมั้งนายนี่

             “ฉันไม่ชอบทายใจผู้ชาย ฉันชอบทายใจแต่เลดี้เข้าใจปะ” กวนทุกประโยคเลยนะนายเนี่ย

           “งั้นทายใจน้องฉันก็ได้นะ ซากุระจังเป็นผู้หญิงตรงเงื่อนไขนายทุกอย่างซะด้วย” สรุปจะให้ทายใจโชว์ให้ได้ใช่ไหมเนี่ยนายนี่ ว่าจบคุณซากุระก็เดินเขามานั่งข้างๆนายเก็นแถมยิ้มใหญ่เลย น่ารักจัง และในเวลาไม่ถึงครึ่งนาทีกริ่งของโรงเรียนเตือนพักเที่ยงก็ดังขึ้นแล้วนายเก็นก็ลุกขึ้น

             “โทษทีฉันอ่านไม่ได้จริงๆอย่าพยายามเลย” แล้วไหงทีฉันคิดอะไรนายนี่ถึงได้รู้ทะลุปรุโปร่งนักนะ

             “ขอตัวละพักเที่ยงแล้ว ไปกินข้าวด้วยกันไหมนามิ” ไปก็ไปดิมาทำหน้าอ้อนวอนฉันทำไมกัน

             “เดี๋ยววันนี้ฉันเลี้ยง “ เอาของกินมาล่อเหรอแต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ยินคำนี้จากปากนาย OoO แต่สุดท้าย

             “ไปก็ได้” ว่าจบแล้วฉันก็เดินนำนายเก็นออกมา ปล่อยให้สองพี่น้องอาโอกินั้นนั่งยิ้มต่อไปละกัน

             “จะกินอะไรเดี๋ยวไปหยิบมาให้” ไม่น่าเชื่ออีกครั้งว่าจะได้ยินคำนี้จากปากนาย เป็นสุภาพบุรุษขึ้นมากเลยนะนาย แต่เมื่อก่อนทำไมงกจังไม่เคยเลี้ยงอะไรเพื่อนๆเลยคุณหนูจริงอะเปล่าเนี่ย

             “ได้แล้วครับ ข้าวหน้าปลาไหลย่างหอมๆทานให้เต็มที่เลยนะ” วันนี้นายทำตัวดีสุดๆเลยนะนายเก็น(แค่เลี้ยงข้าวเองแหละตามจริงแค่นี้ฉันก็ซื้อกินเองได้หรอกยะ)

             “น่าอร่อยดีนะ ไหนๆก็เลี้ยงนามิแล้วเลี้ยงพวกฉันฉันบ้างสิ” ฉันมองไม่ยังตนเสียงก็พบกับสองพี่น้องอาโอกิ

             “ได้สิ จะกินอะไรก็แล้วแต่พวกนายถือว่าเลี้ยงต้อนรับละกัน” นายทำตัวดีสุดๆอีกแล้วนะ ถึงกับเลี้ยงข้าวคนที่พึงรู้จักกันไม่ถึงครึ่งวันซะด้วยคนดีกว่าที่คาดแฮะ

           หลังจากนายเก็นจ่ายเงินค่าอาหารแล้ว ก็มานั่งข้างๆฉันและสองพี่น้องอาโอกิก็มานั่งโต๊ะตัวเดียวกัน แต่น่าแปลกนะที่วันนี้นายเก็นไม่แย่งอาหารในกล่องฉันกิน อีกทั้งบรรยากาศที่น่ากลัวระหว่างสองคนคือนายเก็นกับนายเรียวที่นั่งกินด้วยกันกับฉันนี่อีก รู้สึกถึงพลังอันชั่วร้ายที่ทั้งสองปล่อยออกมาใส่กันจนน่าขนหัวลุกจนกินข้าวแทบไม่ลง

            “พวกเธอสองคนพักอยู่ที่ไหนกันเหรอ” ฉันพูดขึ้นท่ามกลางสงครามประสาทของทั้งคู่

            “พวกเราพักอยู่แถวๆโบสถ์ท้ายหมู่บ้านค่ะ” เสียงของคุณซากุระจังที่เเสนจะสุภาพแต่เป็นกันเองตอบกลับ

            “งั้นพอดีเลยวันอาทิตย์ว่างพอดี เดี๋ยวฉันแวะไปหานะ”

           “ถ้าอย่างนั้น ชวนอากิกับเก็นทาโร่ไปด้วยละกัน”

           “ได้สิฉันไปแน่แล้วต้อนรับพวกฉันดีๆด้วยล่ะ เรียวทาโร่” สรุปนายสองคนจะเป็นศัตรูกันจริงๆใช่ไหมเนี่ย จะว่าไปแล้วยัยอากิไปหายหัวไปไหนล่ะเนี่ยไม่มากินข้าวเที่ยงกับฉันหลายวันแล้วนะ นี่คิดจะให้ฉันต้องเจอกับนายนี่คนเดียวทุกวันจริงนะเหรอ

 

             หลังพักเที่ยง

             พวกเราแยกย้ายกันไปทำกิจกรรมในชมรมที่เราร่วมซึ่งฉันอยู่ชมรมเคนโด้หรือชมรมฟันดาบไม้ญี่ปุ่นและบังเอิญว่าคุณซากุระก็อยู่ชมรมเดียวกันกับฉันถึงหน้าตาจะน่ารักยังไงแต่ขอยอมรับว่าเขาเก่งมากๆเลยเพราะเขาสามารถเอาชนะเอสของชมรมได้เพียงแค่ไม่ถึงนาที สุดยอดมากแต่ฉันก็เกือบเป็นเอสของชมรมเหมือนกันนะถ้าในมือฉันมีดาบไม้ตอนไอ้บ้าพวกนั้นมาลวนลามละก็ได้หัวแบะกันถ้วนหน้าแน่ชิ ส่วนยัยอากิอยู่ชมรมนันทนาการเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมของโรงเรียนตามจริงยังไม่ค่อยมีกิจกรรมซักเท่าไหร่แต่อีกสองอาทิตย์จะมีงานโรงเรียนยัยอากิเลยวุ่นอยู่กับการเตรียมงาน ส่วนนายเก็นอยู่ชมรมยิงธนู แต่ก็คงเป็นเรื่องบังเอิญอีกครั้งที่ นายเรียวก็อยู่ชมรมเดียวกับนายเก็นคงอยากแข่งกันมากละสิถึงอยู่ชมรมเดียวกัน

             “กรี๊ด...ท่านเรียวยิงแม่นจังเลยค่ะ” เสียงของเด็กม.ต้นกลุ่มหนึ่งดังขึ้นขณะที่นายเรียวยิงธนูเข้าเป้าตรงกลางพอดี ว่าแต่เรียกท่านเรียวเลยเหรอ สูงศักดิ์เกินไปล่ะมั้ง

             “กรี๊ด...ท่านเก็นก็ยิงแม่นเหมือนกันเลย” เสียงของเด็กม.ต้นอีกกลุ่มดังขึ้นเมื่อนายเก็นก็ยิงธนูเขาตรงกลางเป้าเหมือนกันกับนายเรียว

             ทั้งสองเริ่มมองหน้ากัน สงสัยมีเฮแน่ๆ แต่ยังไงทั้งคู่ก็ยังยิงธนูไปเรื่อยๆโยไม่ยอมแพ้กัน ยิ่งเรียกเสียงเชียร์ของสาวๆม.ต้นและม.ปลายดังขึ้นเรื่อยๆในขณะที่ฉันกำลังมองนายสองคนนั้นยิงธนูเพลินๆก็มีเสียงเล็กๆทักฉันดังขึ้น

             “คุณนามิค่ะ เหม่ออะไรค่ะคิวคุณแล้วนะ” เสียงซากุระดังขึ้นเพราะฉันคือคิวต่อไป อ้อลืมบอกไป เห็นบอกว่าจะขอทดสอบฝีมือคนในชมรมรวมถึงฉันด้วย แต่แย่ละสิพอหันกับไปมองภายในชมรมก็พบกับเพื่อนๆร่วมชมรมหลายๆคนนอนร้องโอดโอยอยู่ นี่อย่าบอกนะเป็นฝีมือเธอน่ะซากุระ แล้วฉันจะรอดไหมเนี่ย

             “คือว่าลงดาบหนักไปหน่อยเลยเป็นแบบนี้ “ ไม่หน่อยแล้วแม่คุณแกร่งเกินคาดแฮะ สิบห้าคนหมดสภาพในเวลาไม่ถึงนาที

             “เอ่อ..ค่ะ ช่วยออมมือด้วยนะค่ะ” ก็หวังว่านะเห็นยิ้มแบบนี้คงออมมือจริงๆละนะ พอฉันเข้าไปประจำที่กรรมการก็มาอธิบายกฎตามระเบียบแล้วสั่งเริ่มแข่ง

             “เริ่มได้!” ฉันขอบุกก่อนละกันนะ

             “ย๊าก! ” ฉันเริ่มบุกตามฉบับที่ฉันถนัดคือพันลงตรงกลางกะบาล แต่เธอกลับรับได้อย่างง่ายดาย ฉันเลยต้องกระโดดหลบไปด้านหลังเพราะเธอฟันสวนมาทางลำตัว เกือบไปแล้วสิ

             “ใช่ได้นิค่ะ คุณนามิเมื่อกี้ไม่มีใครหลบได้เลยพึ่งมีคุณคนแรกนะคะที่หลบได้” ว่าไงนะแค่ท่ากระจอกๆ นี่ไม่มีใครหลบได้เลยเหรอท่าจะบ้าไปแล้วสิชมรมนี้

           “มาต่อกันเถอะค่ะ คุณซากุระ”

            ว่าจบฉันฟันไปในแนวเฉียงด้วยมือข้างขวาเพื่อให้อีกฝ่ายกัน แต่ความจริงดาบไม้อยู่ด้านมือซ้าย แล้วถือโอกาสตอนอีกฝ่ายกันดาบจากมือข้างเปล่าๆ ฉันเลยใช้ดาบผาดไปที่สีข้างของเธอทันที แต่เหมือนว่าเธอจะรู้เลยกระโดดไปด้านหลังเพื่อหลบทันที น่าแปลกมากที่เธอรู้เพราะท่านี้เป็นท่าที่คุณพ่อของฉันคิดขึ้นมา ตอนนั้นถึงฉันจะแค่จำๆมาใช้ฝึกตอนโต แถมท่านี้ยังไม่มีใครเคยเห็นอีกด้วยแม้กระทั้งคนในชมรมก็เหอะ

“ท่านี้ร้ายกาจมากเลยนะคะ เรียกว่าท่าอะไรเหรอ”

“ท่านี้ฉันตั้งชื่อว่าโดเปลี่ยนข้าง แต่เธอก็สุดยอดนะที่หลบได้”

“ไม่ขนาดนั้นหรอกคะแค่ปฏิกิริยาตอบโต้ละค่ะ” ก็น่าจะจริงนะ

“งั้นมาต่อกันเลยนะคะ”

ซากุระพูดจบก็วาดดาบมาที่ฉันแต่ฉันรับไว้ได้ แรงมากเลยดาบไม้แทนหลุดมือแหนะ แล้วเธอก็ฟันรัวไปเรื่อยๆและเธอก็หยุดลงโดยห่างจากกันพอสมควร แต่ดาบเธอไปไหนแล้วล่ะ อ๊ะอยู่ด้านซ้ายมือหรือว่าท่านี้

 

เปรี้ยง!...

ดาบของเธอฟาดลงที่สีข้างขวาอย่างจัง เจ็บชะมัดเลย แต่ถึงฉันจะเอาด้ามดาบมารับไว้แต่แรงปะทะทำให้ด้ามดาบของฉันถึงกับหักแต่ว่าท่านี้มันโดสลับด้านที่พ่อฉันคิดและดัดแปลงจากวิชาดาบสองมือนิตอนนั้นถึงจะห้าขวบก็พอจำได้ แล้วเขาฝึกมาได้ยังไงนะหรือแค่ฟลุ๊คเท่านั้น

“สีแดงได้แต้ม มานิแพ้” ก็แหงละ ดาบฉันด้ามหักแล้วนี่แข่งต่อไม่ได้แล้ว แต่ก็เจ็บเป็นบ้าเลยแฮะหวดมาได้

“ฝีมือใช้ได้ทั้งคู่เลย สนใจมาเป็นกัปตันคนใหม่ชมรมเราเหรอ” เสียงครูที่ปรึกษาทักขึ้นหลังจากฉันและซากุระออกจากสนามปะลอง

“ไม่ล่ะค่ะ ขอเป็นสมาชิกก็สนุกพอแล้วล่ะค่ะ” เสียงของคุณซากุระปฏิเสธ

“แล้วเธอล่ะนามิสนใจไหม” ว่าไงนะอาจารย์ร้อยวันพันปีไม่เคยชวนไหงวันนี้มาชวนได้ล่ะ

“เหมือนกันค่ะ ขอเป็นสมาชิกก็สนุกพอแล้วล่ะค่ะ” ฉันปฏิเสธไปเช่นกัน

“น่าเสียดายนะ งั้นขอไปดูคนเจ็บก่อนล่ะกัน ซากุระนี่ก็เห็นว่าสวยๆน่ารักแบบนี้ก็ร้ายกาจใช่เล่นนะเนี่ย” ว่าจบอาจารย์ก็เดินไปดูคนเจ็บราวๆเกือบยี่สิบได้ล่ะมั้ง

“นี่ซากุระท่านี้เธอไปเรียนมาจากไหนเหรอ” นั้นสิน่าสงสัยนะ

“อาจารย์เซ็นท่านสอนมา มีอะไรหรือเปล่าค่ะ” อาจารย์เซ็นเหรอคุ้นๆแฮะแต่ช่างเถอะคงจะบังเอิญล่ะมั้งที่ชื่อคล้ายพ่อฉัน พ่อของฉันชื่อ ฮารุนะ เซ็นเซ ท่านตายไปเกือบจะสิบปีแล้วนี่นะ

“อ๋อไม่หรอก แค่อยากรู้เฉยๆ ว่าแต่ชื่อว่าอะไรเหรอท่านี้อะ”

“เขาเรียกว่าโดสลับข้าง”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา