The Smile Devil นายปีศาจตัวร้ายกับยัยตัวเเสบ

9.7

เขียนโดย winter

วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10.04 น.

  21 #
  7 วิจารณ์
  27.91K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557 12.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) Chapter 2 วิกฤต

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter II

วิกฤต

 

             “นาย เก็น!” ฉันร้องลั่นห้องคาราโอเกะทำให้ยัยอากิถึงกับหยุดร้องเพลงเพื่อดูสถานการณ์

             “ไงครับ” เขาตอบกลับด้วยแสงกวนๆเช่นเคย ตามมาหลอกหลอนอีกแล้วนะ

             “นายมาได้ยังไงเนี่ย!” ฉันตวาดกับไปพร้อมลุกพรวดพราดจากตักเขา

             “ก็ฉันผ่านมาแถวนี้ พอดีและเกิดอยากร้องเพลงก็เลยแวะมา ไม่คิดว่าจะเจอ ยัยขี้เซาน้ำลายยืดในนั้นอะ”

             “ไม่เชื่อ นายตามพวกฉันมาใช่ไหม!” ต้องใช่แน่ๆ

             “แต่..” *o*!!

             “แต่อะไร?” -_-???

             “แต่อะไรหละ!ยังมีหน้ามาถามอีก ว่าใครกันว่ายัยขี้เซาน้ำลายยืดฟะ!” ชักจะมากเกินไปแล้วนะ

             “ก็เธอไง ยัยขี้เซาน้ำลายยืด” ชิชะ

             “ไอ้บ้า!มาทำลายฝันอันแสนหวานของฉันไม่พอแถมยังมากวนโอ๊ยฉันอีก”

             “เหรอ..เมื่อกี้เธอฝันถึงใครละ เอ๊ะ..”

             “เอ๊ะอะไรอีก”

             “หรือเธอฝันถึงฉัน ฮึๆๆ”

             “ใครมันจะไปอยากฝันถึงนายกันเล่า! หลงตัวเองชะมัด!”

             “อย่าพึ่งโวยวายสินามิ ไม่เห็นเป็นไรเลยเขาแค่พูดเล่น” ยัยอากิพูดแทรกขึ้น

             “ไม่เห็นเป็นไรงั้นเหรอ ถ้าเกิดเธอไม่อยู่ตอนนายนี่เขามาฉันไม่รู้นะว่าจะโดนแกล้งอะไรรึเปล่า”

             “เอาเหอะ เมื่อกี้แกยังหนุนตักเขา แล้วยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่เลยนะ แล้วทำไมพอลืมตาถึงโวยวายได้หละ”

             “ก็ฉันฝันว่าหนุนตักของ เอ่อ...” อ้ำอึ้งพักหนึ่ง

             “ตักใครเหรอ” นายเก็นถามขึ้น

             “ใครก็ช่างไม่เกี่ยวกับนายซะหน่อย” ฉันตวาดกลับไปและเหลือบไปเห็นยัยอากิมองฉันแปลกๆ

             “เอาหละ ไหนๆก็มาแล้วมาร่วมร้องเพลงกับพวกเราก็ได้นะ เก็นคุง”ยัยอากิพูดแทรกขึ้น

             “ว่าไงนะ! นี่เธอจะให้นายนี่อยู่ร้องเพลงกับเราอีกเหรอ” ให้ตายก็ไม่เอา

             หลังจากนายเก็นร้องเพลงได้สองสามเพลงฉันกับยัยอากิเลยขอตัวกลับบ้านแค่อ้างว่าดึกแล้วและ ชิ ใครจะทนฟังนายนี่ร้องเพลงกันล่ะห่วยแตกสุดๆ(ตามจริงก็เพราะนั้นแหละฉันแค่อัคติไปเอง)แต่ก่อนแยกกันฉันกับยัยอากิ ก็พากันแวะกินไอศกรีมรอบค่ำที่หน้าหมู่บ้านก่อนกลับ แถมยัยอากิเป็นเจ้ามืออีก(ก็แหม ยัยนี่รวยออกแค่นี้ขนหน้าแข่งไม่ร่วงหรอก)

           “ทำไมเธอต้องไปว่าเก็นคุงเขาอย่างนั้นหละ นามิ “ ยัยอากิถามฉัน

             “แล้วทำไมเธอถึงไปเรียกเขาแบบ สนิทสนมแบบนั้นด้วยหละ”

             “แกยังไม่ตอบฉันเลยนะว่าทำไมแกต้องฉุนขนาดนั้นเมื่อเจอเขา” ถามทำไมกันนักกันหนานะยัยคุณหนูบ้อง

             “ก็ฉันไม่ชอบหน้าเขา ก็เท่านั้นเอง” ฉันพูดลอยๆกับยัยอากิ และตักไอศกรีมคำโตเข้าปาก

             “ฉันไม่เชื่อหรอก เธอเห็นแค่เขาหน้าคล้ายๆกับ..เอ่อ..”ยัยอากิหยุดพูดและมองที่ใบหน้าฉันที่ตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตา

             “เฮ้ย ฉันขอโทษฉันจะไม่พูดเรื่องนี้อีกก็ได้ฉันสัญญา แต่ตอนนี้ขอร้องหละเธอหยุดร้องไห้เถอะนะ.”

ยัยอากิรีบพูดปลอบใจฉันที่กำลังร้องไห้ถึงจะไม่มีเสียงจากปากฉันก็เหอะ ฉันทำไมอ่อนแอแบบนี้นะแค่คิดถึงความทรงจำอันเศร้าก็น้ำตาร่วงซะแล้ว

           หลังจากยัยอากิปลอบฉันด้วยไอศกรีมรสมะนาวอีกสองถ้วยใหญ่ๆเสร็จ เราก็เลยแยกทางกันกลับบ้านเพราะบ้านยัยอากิอยู่คนละทาง ฉันเดินทางกลับบ้านและคิดเรื่องเก่าๆที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนและนึกถึงนายเก็นคนนั้นอีกครั้ง เฮ้อ คล้ายชะมัดเลยนะ

             วันเวลาดำเนินผ่านไปราวกับสายน้ำตามปกติแต่ไม่สุขเพราะเกือบทุกวัน ไม่สิทุกวันเลยก็ว่าได้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับฉันคือนายเก็น ก็คอยก่อกวนฉันอยู่ทุกวัน ทั้งแย่งข้าวกล่อง(ขนาดมัมยังเหลือแบบเดียวกันกับฉันตั้งเยอะแยะยังมาฉกจากมือฉัน)คอยก่อกวนตอนไปคาราโอเกะกับยัยอากิโดยใช้ข้ออ้างเดิมๆว่า “ก็ฉันผ่านมาแถวนี้ พอดีและเกิดอยากร้องเพลงก็เลยแวะมา” ซะจนเอือมละอาใจ ชิไอ้บ้าครั้งแรกที่นายพูดมาใครเชื่อก็บ้าแล้ว แต่ก็มีแค่ยัยอากิเท่านั้นแหละที่บ้าจี้ตามนายนั้นพูด ชิ “บังเอิญจังเลยนะค่ะ มาร้องเพลงด้วยกันดีกว่านะ”พูดได้แค่นี้เหรอแม่คุณไม่ห่วงสุขภาพจิตฉันเลยใช่ไหมเนี่ย! แต่จะยังไงก็ช่าง ทุกครั้งที่ว่าและตวาดเขา แต่เขากลับได้ใจและกวนฉันอยู่เรื่อยๆToT

           “นี่!นาย ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ!” ทำไมถึงต้องตามตอแยฉันนักนะ

             “อะไรของเธออีกหละนามิ” ยัยอากิถ้าขึ้น

             “ก็อะไรซะอีกละ นายบ้านี้ทำไมถึงมาก่อกวนฉันอยู่เลื่อยเลยเธอไม่เห็นรึไง” น่ารำคาญที่สุดเลย

             “ก็แค่..เอ่อ...ฉันออยากเป็นเพื่อนกับพวกเธอก็เท่านั้นเอง”

 

...แค่เนี่ยเนี่ยนะคนในห้องก็เยอะแยะและสาวทั้งโรงเรียนก็อีกมากที่อยากเป็นเพื่อนกับทำไมถึงตามแต่พวกฉันไปวันละฟะ...

 

           “คนในห้องก็เยอะแยะ ทำไมถึงตามแต่พวกฉันทุกวี่ทุกวันละบอกมาซิ นายเก็น” ฉันพูดจบนายนี่ก็อ้ำอึ้งเล็กน้อยในคำถามของฉัน

             “ก็เพราะว่า.....” *//*

             “เพราะอะไร”-_-??

             “เพราะ...*///*”

 

...ไม่ตอบอีกแถมยังยิ้มหน้าแดงอีก เอ๊ะหรือหมอนี่มาตอแยฉันเพราะอยากอยู่ใกล้ยัยอากิ เห็นเข้าขากันง่ายดีนักต้องใช่แน่ๆเลย…

 

             “ฉันรู้แล้ว หรือว่านาย.....ชอบ” -_-??

             “ชอบอะไรพูดให้ดีๆนะ *////* ” แหนะ ชิพูดแหย่ไม่ทันจบนายนี่ก็หน้าแดงยิ่งขึ้นกลัวยัยอากิรู้อะดิ

             “เปล๊า!..ไม่มีอะไร๊ ...” ฉันพูดเสียงสูงแหย่เขาเล่นนายนี่ก็หน้าแดงยิ่งขึ้นกลัวยัยอากิรู้อะดิ จริงๆด้วยฉันนี่เก่งชะมัดเดาใจนายนี่ถูกซะด้วย ฮุๆๆๆ

             “มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเสมอไปนะ” *-* อะไรกันรู้เหรอว่าเราคิดอะไร

             “อะไรของนายที่ว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิด นายรู้เหรอว่าฉันคิดอะไร” คงไม่เก่งขนาดอ่านใจได้หรอกนะคิดแล้วขนลุก

             “ก็รู้สิว่าเธอกำลังคิดว่าฉัน.....” ฉันอะไรบอกมาดิ -_-??

             “ฉันอะไร....บอกมาสิ” บอกมาสิ ไม่กล้าละสิฮึๆๆ

             “ฉัน...” ลีลาชะมัด ไม่กล้าละสิฮ่าๆๆ

             “ลีลาชะมัดเลย ไม่กล้าพูดละสิ”

             “ฉันหล่อบาดใจพวกเธอจนแทนละลายเลยใช่ไหมละ”

 

...ก็ถูกของเขานะผมสีน้ำตาลก็ดูเท่ดีนะ จมูกก็โด่ง ปากก็สีชมพูน่าสัมผัส นัยน์ตาสีฟ้าเข้มน่าหลงใหล แต่….

           “หลงตัวเองชะมัดเลยไอ้บ้า!”

ฉันนี่บ้าจริงดันคิดตามไอ้บ้าเก็นได้ไงฟะ เล่นซะฉันเคลิ้มเชียวเพราะตอนนายนี่ตอบคำถามฉันมาดันยิ้มแบบที่ว่าสาวๆได้เห็นยังละลายซะด้วยสิ ไม่ได้ๆเราอย่าหวั่นไหวสินายนี่เป็นศัตรูนะ แค่นั้นไม่ทำให้ฉันหายโกรธหรือหลงใหลได้หรอก (แต่เมื่อกี้ก็เกือบไปนะ)*///*

             “โวยวายอะไรกันอีกละ หึ” ยัยอากิพูดแทรกขึ้นหลังร้องเพลงจบ

             “ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ว่าคนหลงตัวเองก็เท่านั้นแหละ ชิพูดมาได้ว่าฉันหล่อบาดใจพวกเธอจนแทนละลายแหวะเลียนชะมัดเลย” ถึงจะจริงก็เหอะ

             “อะไรของแก นามิ ก็ถูกของเขานะผมสีน้ำตาลก็ดูเท่ดีนะ จมูกก็โด่ง ปากก็สีชมพูน่าสัมผัส นัยน์ตาสีฟ้าเข้มน่าหลงใหล และเขาก็ดูเหมือนเอ่อ….”

             “ไหนว่าแกจะไม่พูดเรื่องนี้อีกไง”ฉันเริ่มฉุนที่ยัยอากิเริ่มจะหลุดปากเรื่องนั้นอีกครั้ง

             “โทษทีๆ ฉันที่จริงๆเลยนะเกือบหลุดปากซะได้” ยัยอากิพูดแบบเสียงห้อยๆแล้วก็เงียบไป แต่นายเก็นกลับถามขัดขึ้นมาซะได้

             “มีความลับอะไรกันหรือเปล่า บอกฉันหน่อยสิ รับรองว่าไม่บอกใครหรอก”

             “ยุ่งอะไรด้วยมิทราบ” ฉันพูดตอบไป

           “ก็แค่อยากรู้เฉยๆ นะๆๆ เพื่อนกันไม่ควรมีความลับต่อกันนะ” ว่าไงนะ

             “นายเป็นเพื่อนฉันตอนไหนมิทราบห๊า!”

              “ตอนไหนมันไม่สำคัญหรอก แต่บอกหน่อยสิว่ามีความลับอะไรกัน” เซาซี้ชะมัดเลย

             “ไม่เกี่ยวกับนาย”

             “ถ้างั้นฉันก็คงไม่ต้องบอกความลับกับเธอเหมือนกันสินะ ก็ดีเหมือนกัน งั้นเราก็ต่างฝ่ายต่างมีความลับต่อกักและกันนะ ” อะไรของหมอนี่มีความลับอะไรแต่ช่างเหอะไม่เกี่ยวกับฉันก็พอ

             “เกี่ยวเต็มๆ“ อะไรของหมอนี่นะ อ่านใจได้จริงๆใช่ไหมเนี่ย

             “เกี่ยวเต็มๆที่ว่า มันคืออะไรบอกมานะ”

             “ไม่บอกจนกว่าเธอจะบอกความลับของเธอมา” อะไรกันนักกันหนาฟะ น่าชกให้คว่ำจริงๆเลย

             “ไม่เป็นสุภาพสตรีเลยนะ อยากชกฉันมากเลยละสิ” อะไรกัน

             “นี่นายอ่านใจฉันได้เหรอ นายเป็นใครกันแน่” น่ากลัวชะนัด

             “อะไรของเธอน่ะ นามิ เขาแค่ล้อเล่นเองคิดมากไปได้เขาแค่ทายใจคนได้ใช่ไหมเก็น” ยัยอากิพูดแล้วหันไปยิ้มให้นายเก็น

             “ปิ้งป่องถูกต้อง ฉันแค่ทายใจสาวๆเก่งก็เท่านั้นเอง” อาจใช่นะ มนุษย์ที่อ่านใจคนได้มีที่ไหนกันฉันนี่คิดมากเกินไปจริงๆ

             “ยังไงก็ช่างเหอะ ฉันขอตัวกลับก่อนละกันเชิญพวกเธอ สวีทกันตามสบายเถอะแต่อย่าเลยเถิดละเดี๋ยวหาว่าฉันไม่เตือน บาย..”พูดจบฉันก็รีบเดินออกจากร้านคาราโอเกะทันที ฉันหวังว่านายนั้นคงจะไม่ทำแบบที่ฉันพูดหรอกนะ แต่ฉันพอเดินมาถึงตรงหน้าร้านก็แทบช็อค เพราะเขาได้ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าฉันซะงั้น อึ๋ย นายนี่เป็นผีหรือไงกันฉันกลัวนะ

             “นาย....มาได้ไงกัน เมื่อ...กี้นายยังอยู่ในร้านกับเพื่อนฉันอยู่เลยหนิ” ฉันพูดกับเขาด้วยสีหน้าที่หวาดกลัวหน่อยๆ คิดแค่ว่านายนี่คงแอบออกหลังร้านมาดักรอเราก็ได้

             “ฉันหายตัวได้ล่ะมั้ง ฮึๆๆ” ไอ้บ้าพูดอะไรออกมาน่ะ ทำฉันกลัวรู้ไหม ฉี่จะราดแทบแย่แล้ว

              “นาย...พูดจริงเหรอ...” ฉันค่อยๆถอยห่างจากเขาทีละก้าว

             “เปล่าหรอกอย่าระแวงฉันขนาดนั้นสิ ฉันแค่แอบออกหลังร้านมาดักรอเธอเท่านั้นเอง” ฉันแค่แอบออกหลังร้านมาดักรอเธอเท่านั้นเอง บ้าหรือเปล่านี่สรุปทายใจแม่นหรืออ่านใจได้กันแน่

             “เฮ้อ.....โล่งอก แล้วนายมีธุระอะไรนักหนากับฉันละ”

             “ธุระฉันคือ......” *///*

             “อะไร! รีบพูดมาสิ” ชักฉุนแทนกลัวได้เลยหละหากนายนี่ยังอ้ำอึ้งอยู่อย่างนี้

             “คงไม่ว่ากันนะ...ให้ฉันไปส่งไหม”

 

...ว่าไงนะ!...

 

เขายิ้มแบบเขินๆอีกครั้ง สรุปนายนี่ตามจีบฉันหรอกเหรอเนี่ย! ไม่ได้ๆ คิดว่าคนอย่างฉันจะใจอ่อนง่ายๆเหรอ ไม่มีทางซะหรอก(แต่ก็ดันหลงคิดได้ไงว่านายนี่ตามจีบยัยอากิได้นะ)ชอบกวนประสาทฉันเอง รอชาตินี้ตอนบ่ายๆเถอะนายเก็นเอ๋ย (อ่านไม่ผิดหรอกฉันก็อย่างมีแฟนเหมือนกันนะแต่..ไม่ใช่นายนี่แน่ฉันเอาหัวเป็นประกัน)

             “ไม่ต้อง! ฉันกลับของฉันเองได้” พูดเสร็จฉันก็ผลักนายเก็นออกไปไกลๆจากฉันแล้ววิ่งหนีไปแบบไม่เหลียวหลังไปมอง (ขืนมองเดี๋ยวหาว่าให้ตามไปอีกยิ่งซวยเขาไปใหญ่)แต่พอเดินไปได้ซักก้าวสองก้าวเขาก็พูดขึ้น

             “งั้นเจอกันพรุ่งนี้ละกันระวังตัวด้วยนะ”

 

...คนบ้าอะไรพิลึกชะมัดฉันก็ละวังตัวของฉันอยู่แล้วล่ะ...

 

             ระหว่างทางกับบ้าน

             ฉันเดินผ่านทางลัด เพราะทางปกติมันไกลมากคงช่วยย่นเวลาการกลับได้ซักนาทีสองนาทีล่ะมั้ง แต่รู้สึกแปลกๆตั้งแต่ฉันเดินเขามาซอยทางลัดนี้ รู้สึกเหมือนมีใครเดินตามเรามา หรือว่า นายเก็นพอฉันหยุดเดินเสียงฝีเท้านั้นก็หยุดตาม แล้วค่อยๆหันไปมองก็ไม่เจอใคร

 

...คงคิดไปเองล่ะมั้ง…

 

             แต่พอเดินไปได้ซักพักเสียงฝีเท้านั้นกลับเร็วขึ้นเรื่อยๆฉันเลยเร่งฝีเท้าไปเรื่อยๆ และสุดท้ายฉันก็วิ่งสุดแรงเกิด แต่ไอ้เสียงนั้นกลับวิ่งตามฉันมาติดๆ แต่เอ๊ะเสียงขนาดนั้นไม่ใช่แค่หนึ่งคนแน่ และฉันก็วิ่งมาชนเขากับอะไรบางอย่างจนล้มลงเจ็บชะมัดเลย ชนเข้ากับอะไรกันเนี่ย! ฉันค่อยๆได้ยินเสียงฝีเท้าพวกนั้นหยุดลง พอฉันเงยหน้าขึ้นก็พบกับวัยรุ่นประมาณม.ปลายได้ล่ะมั้ง

 

...ดูท่าไม่ดีซะแล้วสิเอาไงดีละเรา...

 

             “ไงสาวน้อยให้พวกพี่ช่วยอะไรไหมจ๊ะ ฮึๆ” ฮึๆๆอะไรเล่าไอ้พวกบ้า

             “ไม่ต้องฉันไม่เป็นไรพวกนายจะไปไหมก็ไป” ฉันพูดปนกับสั่นนิดๆ

             “ไปแน่ถ้าเธอยอมไปเที่ยวกับพวกเรา”

พูดจบพวกที่เหลือที่วิ่งตามฉันมาก็กรูกันเข้ามาฉุดกระชากฉันลุกขึ้นและพวกนั้นก็เขามาล้อมฉันไว้ เอาไงดีละถ้าร้องให้คนช่วยคงไม่มีใครบ้าพอที่จะมาช่วยเราแน่เลย แถมที่นี่ยังทั้งเปลี่ยวทั้งมืดซะด้วย

 

...ฮือ....หมดกันชีวิตฉันทำไมถึงซวยแบบนี้นะ…

 

             ฉันขัดขืนพวกมันจนสุดกำลัง ถึงสู้ไม่ได้แต่ไม่ทำอะไรซักอย่างเลยเราก็คงไม่รอดแน่ และพวกมัดก็พยายามลากตัวฉันไปในที่ที่เปลี่ยวขึ้นเรื่อยๆ เอาไงดีใครก็ได้ช่วยฉันด้วยอยากตะโกนใจจะขาดเหมือนกันแต่ไอ้บ้านั้นดันเอามืออุดปากฉันไว้

 

...แหวะเค็มชะมัด...

 

             เฮือกสุดท้ายฉันเลยกัดมือไอ้บ้านั้นจนมันร้องโอ๊ยแล้วมันก็ปล่อยมือจากปากฉันให้เป็นอิสระและฉันก็เลยตะโกนอย่างสุดเสียงเพื่อให้ใครซักคนมาช่วย ฉันตะโกนพร้อมกับน้ำตาแห่งความหวังว่าใครซักคนที่ว่าจะมาช่วยฉันได้

             “ใครก็ได้!..ช่วยฉันด้วย!” 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา