The Smile Devil นายปีศาจตัวร้ายกับยัยตัวเเสบ
9.7
เขียนโดย winter
วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10.04 น.
21 #
7 วิจารณ์
27.93K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557 12.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) Chapter 18 ปีศาจสถิตอีกตน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter XVIII
ปีศาจสถิตอีกตน
หมับ
นายเก็นจับมือฉันแล้วดึงฉันลุกขึ้นจากโซฟาและลากฉันไปหลบหลังเขาอีกที แล้วทำท่าทางน่ากลัวๆเหมือตอนที่กำลังจะสู้กับปีศาจยังไงยังงั้นเลย
“คิดยังไงมาสิงร่างของเพื่อนฉันได้ละคะ อารากิคุง” สิงร่างเหรอ หรือว่า!!!
“อากิ!” ฉันตะโกนเรียกอากิ แล้วเธอก็หันมา
“หืม....อะไรเหรอ แม่หนูน้อย เรียกเพื่อนเธอเหรอ ตอนนี้หลับอยู่ซักครู่เดียวก็ตื่นแล้วล่ะ”
“หมายความว่าไงแกทำอะไรอากิกันบอกมานะ!!!” นายเรียวทำท่าทางเกลี่ยวกลาดแล้วตะโกนถาม
“ก็คือว่า...แม่หนูนี่ดันเห็นฉันเขานะสิ”
“แกสิงร่างของอากิทำไมกันหรือว่าแก...”
“มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะครับ” แล้วอากิก็ชูมือขวาขึ้น ทุกคนมองไปที่มือของเธอแล้วก็พบกับ
“กำไรเงินนั่นมันมีอะไร” ฉันพูดขึ้น เอ๊ะหรือว่า....
“ก็เหมือนฉันกับคุณพี่นามิไงคะ” ยัยเรย์พูดขึ้น งั้นยัยอากิก็
“เธอกับผมทำสัญญากันซะแล้วสิครับ”
“หมายความว่าไงอากิทำสัญญากับแกงั้นเหรอแล้วตอนไหนเมื่อไหร่ที่ไหนบอกมานะ!!!” ถามเป็นชุดเลยนะนายเรียว ห่วงเพื่อนฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอนี่
“มันบังเอิญน่ะเอาเป็นว่าค่อยว่ากันละนะ” อากิพูดจบแล้วล้มพับลงตรงโซฟาทันที่ แต่ปรากฏร่างของใครคนหนึ่งที่สิงสู่ยัยอากิอยู่เมื่อครู่แทน
แสงสีแดงค่อยๆลอยออกจากร่างของอากิทีละนิดๆ และรวมกันเป็นร่างๆหนึ่ง เป็นผู้ชายซะด้วยสิแต่สูงชะมัดเลย ผมสีเงินยาวถึงเอว หูแหลม นัยน์ตาสีแดง ผิวสีแดงออกน้ำตาล มีขนตามตัวเป็นจุดๆ และมีลวดลายสีดำตรงใบหน้าและตรงตัวเขาเล็กน้อย เล็บยาวสีแดงสดที่ดูแล้วน่าขนหัวลุกชะมัดเลย แถมเขายิ้มจนเขี้ยวขาวๆที่ยาวยื่นออกมานั้นอีก ปีศาจชัวร์ๆเลย
“แกต้องการอะไรกันแน่!!!” เรียวฉันพูดขึ้น
“ไม่มีอะไรมากหรอก แค่อยากอยู่อย่างคนธรรมดาแบบที่มนุษย์เขาทำกันเท่านั้นเองแหละ”
“แล้วแกมาทำสัญญาอะไรไว้กับอากิล่ะ แถมสิงร่างเธออีกคิดจะทำอะไรกันแน่!!!” นายเรียวยังคงยิงคำถามต่อไป
“เฮ้อ...ระแวงไปแล้วมั้ง นายคนผิดนัดเจ้านายฉัน ตามจริงจิตใต้สำนึกของเธอคนนี้ไม่โกรธนายหรอกนะ แต่ฉันน่ะโกรธแทนซะมากกว่า อยากฆ่าแกจริงๆเลยเจ้าหนุ่ม” จะฆ่ากันจริงๆเหรอ เจ้าตัวที่ออกจากร่างของอากิพูดกับนายเรียวแบบนั้นเล่นขนลุกไปหมดเลย
“อย่าทำแบบนั้นจะดีกว่านะคะคุณอารากิ” ยัยเรย์พูดแล้วเดินเข้ามาหาปีศาจตนนั้น
“ครับผม ผมไม่ฆ่ามนุษย์หรอกตามที่สัญญากับคุณไว้ไงครับ เอาเป็นว่าเรามาลื้อฟื้นความหลังกันดีกว่านะเรย์ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายร้อยปี คิดถึงชะมัดเลย” ว่าจบปีศาจตัวนั้นก็เขามากอดยัยเรย์ อะไรอ๊ะ*////*(เขินแทน)
ร่างกายของเขาค่อยหดเล็กลง ผมสีเงินยาวถึงเอวค่อยๆสั้นลงจนเหลือแค่ประบ่า ร่างที่ดูสูงใหญ่ค่อยเล็กลงจนเหลือความสูงพอๆกับยัยเรย์ สีของตัวเขาจากสีแดงน้ำตาลกลายเป็นสีขาวคล้ำแทน หูของเขากลายเป็นแบบคนทั่วๆไป ตาสีแดงของเขาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และเสื้อผ้าที่ดูแล้วน่าจะเสกเอาล่ะมั้ง ค่อยๆห่อหุ้มร่างกายจนเป็นชุดนักเรียนชายของโรงเรียนฉัน เขาผละออกจากการกอดยัยเรย์และหันมายิ้มให้กับทุกคน(ว่าแต่ชุดเครื่องแบบของโรงเรียนฉันทำไมมันเป็นที่นิยมของปีศาจนักนะ)
“สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อ อาซึกะ อารากิ ครับ เป็นทูตรับใช้ของคุณพี่อากิครับ ฝากตัวด้วยนะ” ทุกคนยังคงอึ้งกับเหตุการณ์กันอยู่ แล้วพ่อก็พูดตัดบทแล้วเดินออกไป
“งั้นขอฝากเพื่อนของนามิด้วยละกันนะ อารากิคุง” รับได้ง่ายอย่างงี้เลยเหรอคะพ่อ
“ครับคุณ เซน” เอ่อ....คือรู้จักพ่อฉันด้วยเหรอ
แล้วคุณพ่อก็เดินกลับห้องไป แต่ก็นะ ฉันยังสงสัยอยู่อย่างว่าทำไมพวกทูตสถิตแบบยัยเรย์กับนายอารากิอะไรเนี่ยถึงชอบใช้นามสกุลของคนอื่นเขาจังนะ และก็ปลอมแปลงมาเป็นสมาชิกในบ้านของฉันด้วยอีก ละที่สำคัญทำไมต้องปลอมเป็นรุ่นน้องของฉันด้วยนะ อยากเป็นเด็กกันนักรึไงฟะ
“อากิ อากิ ตื่นสิตื่น ได้ยินฉันรึเปล่าอากิ”
นายเรียวที่หลังจากยืนยิงคำถามกับตัวแปลกหน้าตัวใหม่อยู่นาน ก็รีบเข้าไปพยุงตัวของยัยอากิและกอดเอาไว้ซะแน่นเลยเพื่อนฉันจะขาดอากาศหายใจตายซะก่อนแล้วล่ะมั้ง แต่ก็เป็นภาพที่ดีอยู่นะ นายเรียวจอมหยิ่ง จอมโหด จอมป่าเถื่อน ปากเสีย และจอมทำร้ายจิตใจ ก็มีมุมที่ห่วงใยคนอื่นเป็นอยู่บ้างก็เป็นนะ พอเห็นยัยอากิล้มลงไปฉันก็อยากจะเข้าไปประคองอยู่เหมือนกันอะนะแต่ว่า
“นี่...นาย....จะกอดฉันอีกนานไหม” นายเก็นดันกอดฉันไว้นี่สิ(*////*)
“โทษทีมันเผลอทำ” แล้วนายเก็นก็ค่อยๆปล่อยฉันจากอ้อมกอดเขาอย่างช้าๆเหมือนเสียดายอะไรทำนองนั้น
ว่าแต่นายนี่มากอดฉันตอนไหนกันนะ จำได้ว่านายนี่ให้ฉันหลบอยู่ด้านหลังเขานี่ แล้วนายนี่มากอดฉันไว้ตอนไหนกัน เล่นเอาซะเคลิมเลย อ๊ะไม่ใช่ !!! คือฉันหมายถึงเล่นซะหายใจไม่ออกเลย ตอนที่มองนายเรียวกอดยัยอากิแล้วมาย้อนดูตัวเองโดนนายเก็นกอดแบบแนบแน่นก็รู้เลยรู้สึกยังไง อุบอุ่น เอ๊ย!! อึดอัดต่างหาก
“ว่าแต่นายมากอดฉันตอนไหนล่ะเนี่ย” ฉันหันกลับมาถามนายเก็น
“ไม่รู้สิ คงตอนเธอจะเข้าไปหาอากิจังล่ะมั้ง ตอนนั้นฉันเห็นว่ามันอันตรายนี่เลยคว้าเธอเอาไว้” ตอนนั้นนั่นเอง
“แล้วยุ่งอะไรด้วยล่ะ ฉันเห็นเพื่อนฉันหมดสติแล้วล้มลง ฉันก็ต้องเข้าไปช่วยอยู่แล้ว”
“แล้วเธอไม่เห็นตัวไอ้ตัวที่ออกมาหลังอากิจังหมดสติรึไง น่ากลัวออก ขืนเธอเข้าไปตอนนั้นโดนนายนั่นเขมือบเอาทำไงล่ะ” เป็นห่วงฉันด้วยแฮะนายนี่(พึ่งรู้ตัวเหรอเธอ)
“งั้นเหรอ ขอบใจละกัน ฉันจะไปดูเพื่อนฉันก่อนล่ะ” แล้วฉันก็หันตัวเดินหนีนายเก็นออกมาแต่...
หมับ
นายเก็นดันคว้ามือฉันไว้และมองไปที่นายเรียวกับยัยอากิที่หมดสติอยู่ และยิ้มอย่างหวานจนใจละลาย แต่ว่ายกเว้นฉันล่ะนะ
“อะไรของนายเนี่ย ปล่อยนะ” ฉันพูดแล้วพยายามแกะมือนายเก็นออก
“คงจะไม่ได้หรอก”
“ทำไมล่ะ”
“เธอจะเข้าไปเป็นก้างขวางคอของพวกนั้นเหรอ” เออ...นั้นดิลืมไปเลย
“แล้วจะทำยังไงละฉันเป็นห่วงเพื่อนฉันนะ”
“เอาไว้ทีหลังละกัน เอาเป็นว่า เราไปถามเจ้าหน้าใหม่นั้นก่อนดีกว่านะ ว่าเป็นยังไงมายังไงถึงทำสัญญากับเพื่อนเธอได้” นั้นสิเอาเป็นว่าค่อยมาถามอาการกับคุณซากุระเอาทีหลังละกัน เพราะตอนนี้คุณเธอกำลังปฐมพยาบาลยัยอากิที่หมดสติอยู่กับนายเรียวจอมเคร่งเครียดพอดี(รู้สึกว่านายเรียวจะมีหลายฉายาซะเหลือเกินนะ)
“เอาล่ะ นาย เอ่อ....อารากิใช่ไหม”
“ครับ ผมชื่ออารากิ”
“นายมาทำสัญญากับเพื่อนฉันได้ยังไง” ฉันเปิดฉากถาม
“ก็พอดีว่าคนที่ผมรับใช้อยู่ดันตายเพราะหมดอายุไขอะนะผมก็เลยเร่ร่อนเพราะหมดพันธะ จนมาเจอเธอในซอยมืดๆนั่นละนะ ตามจริงก็ไม่ได้อยากจะทำสัญญาด้วยหรอกนะแต่พอดีเธอเดินชนผมเข้าก็เลย...”
“อะไร อย่าลีลา”
“ครับคุณคนสวย พอดีว่า ตอนนั้นมีปีศาจฝูงนึงซักสิบถึงยี่สิบล่ะมั้ง กำลังจะจู่โจมเธอ ผมเลยเข้าไปช่วยเอาไว้ แต่บังเอิญว่า เธอเดินชนผมเข้า ก็เลยต้องทำสัญญาด้วย ถึงเธอไม่อยากก็ตามอะนะ”
“หมายความว่าไง ปีศาจงั้นเหรอ พวกมันจะทำร้ายเพื่อนฉันทำไมกัน”
“เพราะเธอ...ยังไงล่ะแม่หนู เลือดจำเพราะที่มีกลิ่นแตกต่างจากคนทั่วๆไปยังไงล่ะ มันมีกลิ่นติดตัวของเจ้านายคนใหม่ฉันด้วยนะสิ เธอก็เลยโดน ดีนะที่ผมเห็นเข้าก่อน” อะไรกัน เป็นเพราะเราเหรอ
“แต่ยังสงสัยอยู่อย่าง แค่เดินชนนายเข้าทำไมถึงต้องทำสัญญาด้วยล่ะ”
“ก็คือ อย่างนี้นะคะคุณพี่นามิ อาระกิน่ะ เขาตั้งกฎงี่เง่าเอาไว้ว่า คนแรกที่สัมผัสตัวเขาหลังจากหมดพันธะจากคนอื่นมาจะต้องเป็นนายเขาโดยไม่สนว่าจะยินยอมหรือเปล่า เป็นกฎที่ยาวนานเกือบๆห้าร้อยปีแล้วล่ะมั้งคะ” กฎบ้าอะไรฟะฟังดูงี่เง่าจริงๆด้วย
“แล้วสัญญาหมดลงเมื่อไหร่ล่ะ” คงไม่ถึงกับจนวันตายนะ
“ไม่ถึงขนาดอยู่จนถึงเจ้านายตายหรอกครับ แค่ความต้องการของเจ้านายสำเร็จก็หมดพันธะแล้วล่ะ” ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ
“แค่นี่เองเหรอ แล้วที่บอกว่าคนก่อนหมดอายุไขล่ะ” ฉันถามเขา
“อ๋อ นั้นนะเหรอ คืองี้นะครับ เจ้านายคนก่อนเขาไม่มีลูกน่ะ เลยทำสัญญาว่าให้ผมเป็นลูกชายคอยดูแลเขาน่ะ พอเธอตาย ก็ถือว่าความต้องการเขาเป็นจริงและสมปรารถนาแล้ว ผมจึงหมดพันธะกับเขา”
“ฉันว่าน่าจะเจอกับนายซะยังดีกว่าเจอกันยัยนี่นะ” ฉันพูดแล้วหันไปมองยัยเรย์ แต่
“คุณพี่ละก็ ไม่น่าพูดทำร้ายจิตใจกันแบบนี้เลยนะคะ ชิ หนูเสียใจนะ ฮือ...(TToTT)” ยัยบ้านี่ดันบีบน้ำตาร้องไห้แบบเด็กๆซะงั้น
“โอ๋ๆ เรย์จังอย่าร้องนะ มามะใช้เสื้อฉันซับน้ำตาก็ได้จ๊ะ” แล้วนายอารากิก็กอดยัยเรย์อีกครั้งแล้วใช้ชายเสื้อซับน้ำตาให้
“นี่เรย์ ให้มันน้อยๆหน่อย ฉันรู้นะว่าเธอไม่ได้เสียใจจริงๆจังๆหรอก” แล้วยัยเรย์ก็หันมาหาฉันแล้วยิ้มอย่างน่ารักๆน่าหยิกแล้ว
“รู้ด้วยเหรอค่ะเนี่ยแปลกจังมนุษย์นี่ดูออกง่ายจังเลยนะคะว่าจริงหรอแสร้ง” เฮ้อ...ไม่นะรู้สิเรียกว่าแปลก
“อะไรก็ช่างเหอะ แล้วหลังจากนี้นายจะเอาไง จะอยู่กับยัยอากิที่บ้านเหรอ”
“ครับ คงงั้นแหละ”
“แล้วนายจะอยู่ที่บ้านยัยนั้นในฐานะอะไรล่ะ น้องชายเหรอ” คงงั้นล่ะมั้งถ้าคิดไม่ผิด
“คงจะเป็นลูกพี่ลูกน้องจะดีกว่านะครับ เดี๋ยวพันธะคงจะหมดเร็วๆนี้แหละ” งั้นก็ดี
“งั้นก็ดีแล้วล่ะ”
หลังจากคุยกับสมาชิกใหม่จนรู้เรื่องแล้ว ฉันก็เดินออกจากบ้านของฉันมาสูดอากาศบริสุทธิ์ด้านนอก เฮ้อ....อีกไม่กี่วันก็จะถึงแล้วสินะ วันเกิดฉัน วันเกิดครบรอบสิบแปดปีของฉัน เฮ้อ..... แก่ลงอีกปีแล้วสินะ วันเกิดของตัวเองทีไรรู้สึกแบบนี้ทุกที พูดแล้วคิดถึงวันเกิดครบรอบสิบเจ็ดปีของฉัน วันนั้นแม่พาฉันไปกินเลี้ยงที่ร้านอาหารในห้าง ถึงจะเป็นมื้อเรียบง่ายก็เหอะ แต่แค่มีคุณแม่ พี่สาวนานะ(พี่สาวฉันชื่อนานะค่ะ) ยัยอากิและฉันร่วมงาน แค่นี้ก็มีความสุขแล้วล่ะ มื้ออาหารที่เรียบง่ายยังไงมันก็พอจะทำให้เป็นมื้อที่สุดยอดที่สุดแล้วล่ะ ปีนี้จะมีใครมาร่วมงานบ้างน๊า แต่.....จะว่าไปวันเกิดฉันทุกปีก็มีแขกที่มาร่วมงานแค่ยัยอากิคนเดียวอยู่แล้วนี่ ฉันนี่คงจะเป็นคนที่แย่มากๆเลยสินะเนี่ย ถึงมีเพื่อนแค่ยัยอากิคนเดียวเอง ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว เมื่อก่อนฉันมีเพื่อนสมัยเด็กแค่สามคนรวมฉัน มียัยอากิที่เราสนิทกันมาก อยู่ด้วยกันเที่ยวด้วยกัน และซ่ามาด้วยกัน และคนที่ฉันแอบชอบมาตลอด คิดถึงเขามาตลอด เป็นเพื่อนคนแรกที่สัญญากันว่าฉันจะยอมเป็นเจ้าสาวให้(*////*) คนนั้นก็คือ....
เทนโด โซจิ
กี่ปีแล้วนะที่เขาจากไป ไม่ใช่สิ ไปเรียนที่ต่างประเทศต่างหากเพราะพ่อเขาต้องทำงานที่นั้นถาวร ในตำแหน่งผู้จัดการ....ล่ะมั้ง แต่มันทำให้เราต้องห่างกัน ไม่รู้ว่าเขาจะเจอคนใหม่ที่เขาชอบ หรือลืมฉันรึยังนะ คิดแล้วมันน่าเศร้าจริงเลย แต่.... พอนายเก็นเข้ามาเรียนที่โรงเรียน และเข้ามาในชีวิตฉัน ก็พอที่จะลดความคิดถึงเขาคนนั้นลงได้อยู่หรอก เพราะเก็นกับเทนโดเขาหน้าคล้ายกันมากๆ แต่ต่างกันที่สีผม สีตา ท่าทาง นิสัยและที่สำคัญ เทนโดเป็นมนุษย์ส่วนเก็นเป็นปีศาจ ถึงจะเป็นลูกครึ่งก็ตาม
“นามิ” นายเก็นที่น่าจะเดินออกมาตามฉันล่ะมั้งสงเสียงเรียก
“อะไร”
“พวกเราจะกลับแล้วล่ะ และจะพาอากิจังไปสงที่บ้านด้วย”
“อากิรู้สึกตัวแล้วเหรอ”
“อืม..”เสียงนายนี่ดูไม่ร่าเริงเลยแฮะ
พอรู้ว่ายัยอากิรู้สึกตัว ฉันก็รีบเดินเข้าไปในบ้านทันที แว๊บนึงที่เดินผ่านนายเก็น อะไรบางอย่างของเขาที่ดูมืดมัวก็แผ่ออกมาจนสัมผัสได้ทำให้รู้สึกเศร้าเข้าไปอีก และดูน่ากลัวมากๆจนไม่กล้าหันกลับไปมองเขา ฉันเลยตั้งหน้าเดินเข้าไปที่ห้องรับแขกทันทีแทน เขาเป็นอะไรของเขากันนะ
พอมาถึงห้องรับแขก ฉันก็ยังสะดุ้งไม่หายกับแขกผู้มาเยือนคนใหม่ ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับยัยอากิ และข่างๆก็มียัยเรย์นั่งอยู่ แต่ตำแหน่งว่างตรงยัยอากิมีนายเรียวนั่งอยู่ และที่สำคัญนายเรียวคอยดูแลประคบประหงมใหญ่เลย แต่แววตายังคงเชือดเฉือนนายอารากิไม่ยอมวาง หึหึหึ
“เป็นยังไงบ้าง อากิ”
“ค่อยยังชั่วแล้วล่ะ”
“แล้วเป็นไงมาไงเธอถึงหมดสติได้ล่ะ”
“รู้สึกว่า...” หวังว่านายพวกนี่คงเปลี่ยนความทรงจำหรือลบทิ้งแล้วละนะ หวังว่านะ
“.......” ฉันรอฟังนะยะ
“อืม.....” ลืมไปซะ ลืมไปซะนะ ฉันไม่อยากให้เธอมายุ่งกับเรื่องพวกนี้เลย
“อะไรเล่าพูดมาสิ”
“ขอโทษที จำไม่ได้” ดีมาก
“จำไม่ได้ไม่เป็นไรดีแล้วล่ะ เอ๊ะ!” ฉันดูนาฬิกาติดผนังแล้ว “นี่ก็เกือบๆเที่ยงคืนแล้ว ฉันว่า เธอน่าจะกลับไปพักผ่อนได้แล้วนะอากิ ฉันว่าให้นายเรียวกับอารากิคุงไปส่งดีกว่านะ” ฉันก็แถไปทั่วจนได้ และก็ดันรวมชื่อนายอารากิเข้าไปในบทสนทนาจนได้สิ
“เอ่อ....” ยัยอากิอยู่ๆก็พูดเหมือนสงสัยอะไรบางอย่างขึ้น
“มีอะไรอีกเหรออากิ”
“คือ...ว่า...”
“......” ฉันรอฟังอยู่นะ
“อารากิน่ะ” อารากิเหรอ นายนี่ทำไม
“อารากิทำไมเหรออากิ”
“เขา....” ยัยนี่น๊า....ไม่รู้จะพูดทีละประโยคทำไมนะมันเปลืองน่ากระดาษคนเขียนนะเฟ้ย!
“นี่....อากิ เธอเลิกพูดทีละประโยคได้ไหมฉันขี้เกลียดลุ้นว่าเธอจะพูดอะไร” เฮ้อ.....ถอนหายใจ
“อารากินี่ เข้าเป็นใครเหรอ???”
ปีศาจสถิตอีกตน
หมับ
นายเก็นจับมือฉันแล้วดึงฉันลุกขึ้นจากโซฟาและลากฉันไปหลบหลังเขาอีกที แล้วทำท่าทางน่ากลัวๆเหมือตอนที่กำลังจะสู้กับปีศาจยังไงยังงั้นเลย
“คิดยังไงมาสิงร่างของเพื่อนฉันได้ละคะ อารากิคุง” สิงร่างเหรอ หรือว่า!!!
“อากิ!” ฉันตะโกนเรียกอากิ แล้วเธอก็หันมา
“หืม....อะไรเหรอ แม่หนูน้อย เรียกเพื่อนเธอเหรอ ตอนนี้หลับอยู่ซักครู่เดียวก็ตื่นแล้วล่ะ”
“หมายความว่าไงแกทำอะไรอากิกันบอกมานะ!!!” นายเรียวทำท่าทางเกลี่ยวกลาดแล้วตะโกนถาม
“ก็คือว่า...แม่หนูนี่ดันเห็นฉันเขานะสิ”
“แกสิงร่างของอากิทำไมกันหรือว่าแก...”
“มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะครับ” แล้วอากิก็ชูมือขวาขึ้น ทุกคนมองไปที่มือของเธอแล้วก็พบกับ
“กำไรเงินนั่นมันมีอะไร” ฉันพูดขึ้น เอ๊ะหรือว่า....
“ก็เหมือนฉันกับคุณพี่นามิไงคะ” ยัยเรย์พูดขึ้น งั้นยัยอากิก็
“เธอกับผมทำสัญญากันซะแล้วสิครับ”
“หมายความว่าไงอากิทำสัญญากับแกงั้นเหรอแล้วตอนไหนเมื่อไหร่ที่ไหนบอกมานะ!!!” ถามเป็นชุดเลยนะนายเรียว ห่วงเพื่อนฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอนี่
“มันบังเอิญน่ะเอาเป็นว่าค่อยว่ากันละนะ” อากิพูดจบแล้วล้มพับลงตรงโซฟาทันที่ แต่ปรากฏร่างของใครคนหนึ่งที่สิงสู่ยัยอากิอยู่เมื่อครู่แทน
แสงสีแดงค่อยๆลอยออกจากร่างของอากิทีละนิดๆ และรวมกันเป็นร่างๆหนึ่ง เป็นผู้ชายซะด้วยสิแต่สูงชะมัดเลย ผมสีเงินยาวถึงเอว หูแหลม นัยน์ตาสีแดง ผิวสีแดงออกน้ำตาล มีขนตามตัวเป็นจุดๆ และมีลวดลายสีดำตรงใบหน้าและตรงตัวเขาเล็กน้อย เล็บยาวสีแดงสดที่ดูแล้วน่าขนหัวลุกชะมัดเลย แถมเขายิ้มจนเขี้ยวขาวๆที่ยาวยื่นออกมานั้นอีก ปีศาจชัวร์ๆเลย
“แกต้องการอะไรกันแน่!!!” เรียวฉันพูดขึ้น
“ไม่มีอะไรมากหรอก แค่อยากอยู่อย่างคนธรรมดาแบบที่มนุษย์เขาทำกันเท่านั้นเองแหละ”
“แล้วแกมาทำสัญญาอะไรไว้กับอากิล่ะ แถมสิงร่างเธออีกคิดจะทำอะไรกันแน่!!!” นายเรียวยังคงยิงคำถามต่อไป
“เฮ้อ...ระแวงไปแล้วมั้ง นายคนผิดนัดเจ้านายฉัน ตามจริงจิตใต้สำนึกของเธอคนนี้ไม่โกรธนายหรอกนะ แต่ฉันน่ะโกรธแทนซะมากกว่า อยากฆ่าแกจริงๆเลยเจ้าหนุ่ม” จะฆ่ากันจริงๆเหรอ เจ้าตัวที่ออกจากร่างของอากิพูดกับนายเรียวแบบนั้นเล่นขนลุกไปหมดเลย
“อย่าทำแบบนั้นจะดีกว่านะคะคุณอารากิ” ยัยเรย์พูดแล้วเดินเข้ามาหาปีศาจตนนั้น
“ครับผม ผมไม่ฆ่ามนุษย์หรอกตามที่สัญญากับคุณไว้ไงครับ เอาเป็นว่าเรามาลื้อฟื้นความหลังกันดีกว่านะเรย์ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายร้อยปี คิดถึงชะมัดเลย” ว่าจบปีศาจตัวนั้นก็เขามากอดยัยเรย์ อะไรอ๊ะ*////*(เขินแทน)
ร่างกายของเขาค่อยหดเล็กลง ผมสีเงินยาวถึงเอวค่อยๆสั้นลงจนเหลือแค่ประบ่า ร่างที่ดูสูงใหญ่ค่อยเล็กลงจนเหลือความสูงพอๆกับยัยเรย์ สีของตัวเขาจากสีแดงน้ำตาลกลายเป็นสีขาวคล้ำแทน หูของเขากลายเป็นแบบคนทั่วๆไป ตาสีแดงของเขาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และเสื้อผ้าที่ดูแล้วน่าจะเสกเอาล่ะมั้ง ค่อยๆห่อหุ้มร่างกายจนเป็นชุดนักเรียนชายของโรงเรียนฉัน เขาผละออกจากการกอดยัยเรย์และหันมายิ้มให้กับทุกคน(ว่าแต่ชุดเครื่องแบบของโรงเรียนฉันทำไมมันเป็นที่นิยมของปีศาจนักนะ)
“สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อ อาซึกะ อารากิ ครับ เป็นทูตรับใช้ของคุณพี่อากิครับ ฝากตัวด้วยนะ” ทุกคนยังคงอึ้งกับเหตุการณ์กันอยู่ แล้วพ่อก็พูดตัดบทแล้วเดินออกไป
“งั้นขอฝากเพื่อนของนามิด้วยละกันนะ อารากิคุง” รับได้ง่ายอย่างงี้เลยเหรอคะพ่อ
“ครับคุณ เซน” เอ่อ....คือรู้จักพ่อฉันด้วยเหรอ
แล้วคุณพ่อก็เดินกลับห้องไป แต่ก็นะ ฉันยังสงสัยอยู่อย่างว่าทำไมพวกทูตสถิตแบบยัยเรย์กับนายอารากิอะไรเนี่ยถึงชอบใช้นามสกุลของคนอื่นเขาจังนะ และก็ปลอมแปลงมาเป็นสมาชิกในบ้านของฉันด้วยอีก ละที่สำคัญทำไมต้องปลอมเป็นรุ่นน้องของฉันด้วยนะ อยากเป็นเด็กกันนักรึไงฟะ
“อากิ อากิ ตื่นสิตื่น ได้ยินฉันรึเปล่าอากิ”
นายเรียวที่หลังจากยืนยิงคำถามกับตัวแปลกหน้าตัวใหม่อยู่นาน ก็รีบเข้าไปพยุงตัวของยัยอากิและกอดเอาไว้ซะแน่นเลยเพื่อนฉันจะขาดอากาศหายใจตายซะก่อนแล้วล่ะมั้ง แต่ก็เป็นภาพที่ดีอยู่นะ นายเรียวจอมหยิ่ง จอมโหด จอมป่าเถื่อน ปากเสีย และจอมทำร้ายจิตใจ ก็มีมุมที่ห่วงใยคนอื่นเป็นอยู่บ้างก็เป็นนะ พอเห็นยัยอากิล้มลงไปฉันก็อยากจะเข้าไปประคองอยู่เหมือนกันอะนะแต่ว่า
“นี่...นาย....จะกอดฉันอีกนานไหม” นายเก็นดันกอดฉันไว้นี่สิ(*////*)
“โทษทีมันเผลอทำ” แล้วนายเก็นก็ค่อยๆปล่อยฉันจากอ้อมกอดเขาอย่างช้าๆเหมือนเสียดายอะไรทำนองนั้น
ว่าแต่นายนี่มากอดฉันตอนไหนกันนะ จำได้ว่านายนี่ให้ฉันหลบอยู่ด้านหลังเขานี่ แล้วนายนี่มากอดฉันไว้ตอนไหนกัน เล่นเอาซะเคลิมเลย อ๊ะไม่ใช่ !!! คือฉันหมายถึงเล่นซะหายใจไม่ออกเลย ตอนที่มองนายเรียวกอดยัยอากิแล้วมาย้อนดูตัวเองโดนนายเก็นกอดแบบแนบแน่นก็รู้เลยรู้สึกยังไง อุบอุ่น เอ๊ย!! อึดอัดต่างหาก
“ว่าแต่นายมากอดฉันตอนไหนล่ะเนี่ย” ฉันหันกลับมาถามนายเก็น
“ไม่รู้สิ คงตอนเธอจะเข้าไปหาอากิจังล่ะมั้ง ตอนนั้นฉันเห็นว่ามันอันตรายนี่เลยคว้าเธอเอาไว้” ตอนนั้นนั่นเอง
“แล้วยุ่งอะไรด้วยล่ะ ฉันเห็นเพื่อนฉันหมดสติแล้วล้มลง ฉันก็ต้องเข้าไปช่วยอยู่แล้ว”
“แล้วเธอไม่เห็นตัวไอ้ตัวที่ออกมาหลังอากิจังหมดสติรึไง น่ากลัวออก ขืนเธอเข้าไปตอนนั้นโดนนายนั่นเขมือบเอาทำไงล่ะ” เป็นห่วงฉันด้วยแฮะนายนี่(พึ่งรู้ตัวเหรอเธอ)
“งั้นเหรอ ขอบใจละกัน ฉันจะไปดูเพื่อนฉันก่อนล่ะ” แล้วฉันก็หันตัวเดินหนีนายเก็นออกมาแต่...
หมับ
นายเก็นดันคว้ามือฉันไว้และมองไปที่นายเรียวกับยัยอากิที่หมดสติอยู่ และยิ้มอย่างหวานจนใจละลาย แต่ว่ายกเว้นฉันล่ะนะ
“อะไรของนายเนี่ย ปล่อยนะ” ฉันพูดแล้วพยายามแกะมือนายเก็นออก
“คงจะไม่ได้หรอก”
“ทำไมล่ะ”
“เธอจะเข้าไปเป็นก้างขวางคอของพวกนั้นเหรอ” เออ...นั้นดิลืมไปเลย
“แล้วจะทำยังไงละฉันเป็นห่วงเพื่อนฉันนะ”
“เอาไว้ทีหลังละกัน เอาเป็นว่า เราไปถามเจ้าหน้าใหม่นั้นก่อนดีกว่านะ ว่าเป็นยังไงมายังไงถึงทำสัญญากับเพื่อนเธอได้” นั้นสิเอาเป็นว่าค่อยมาถามอาการกับคุณซากุระเอาทีหลังละกัน เพราะตอนนี้คุณเธอกำลังปฐมพยาบาลยัยอากิที่หมดสติอยู่กับนายเรียวจอมเคร่งเครียดพอดี(รู้สึกว่านายเรียวจะมีหลายฉายาซะเหลือเกินนะ)
“เอาล่ะ นาย เอ่อ....อารากิใช่ไหม”
“ครับ ผมชื่ออารากิ”
“นายมาทำสัญญากับเพื่อนฉันได้ยังไง” ฉันเปิดฉากถาม
“ก็พอดีว่าคนที่ผมรับใช้อยู่ดันตายเพราะหมดอายุไขอะนะผมก็เลยเร่ร่อนเพราะหมดพันธะ จนมาเจอเธอในซอยมืดๆนั่นละนะ ตามจริงก็ไม่ได้อยากจะทำสัญญาด้วยหรอกนะแต่พอดีเธอเดินชนผมเข้าก็เลย...”
“อะไร อย่าลีลา”
“ครับคุณคนสวย พอดีว่า ตอนนั้นมีปีศาจฝูงนึงซักสิบถึงยี่สิบล่ะมั้ง กำลังจะจู่โจมเธอ ผมเลยเข้าไปช่วยเอาไว้ แต่บังเอิญว่า เธอเดินชนผมเข้า ก็เลยต้องทำสัญญาด้วย ถึงเธอไม่อยากก็ตามอะนะ”
“หมายความว่าไง ปีศาจงั้นเหรอ พวกมันจะทำร้ายเพื่อนฉันทำไมกัน”
“เพราะเธอ...ยังไงล่ะแม่หนู เลือดจำเพราะที่มีกลิ่นแตกต่างจากคนทั่วๆไปยังไงล่ะ มันมีกลิ่นติดตัวของเจ้านายคนใหม่ฉันด้วยนะสิ เธอก็เลยโดน ดีนะที่ผมเห็นเข้าก่อน” อะไรกัน เป็นเพราะเราเหรอ
“แต่ยังสงสัยอยู่อย่าง แค่เดินชนนายเข้าทำไมถึงต้องทำสัญญาด้วยล่ะ”
“ก็คือ อย่างนี้นะคะคุณพี่นามิ อาระกิน่ะ เขาตั้งกฎงี่เง่าเอาไว้ว่า คนแรกที่สัมผัสตัวเขาหลังจากหมดพันธะจากคนอื่นมาจะต้องเป็นนายเขาโดยไม่สนว่าจะยินยอมหรือเปล่า เป็นกฎที่ยาวนานเกือบๆห้าร้อยปีแล้วล่ะมั้งคะ” กฎบ้าอะไรฟะฟังดูงี่เง่าจริงๆด้วย
“แล้วสัญญาหมดลงเมื่อไหร่ล่ะ” คงไม่ถึงกับจนวันตายนะ
“ไม่ถึงขนาดอยู่จนถึงเจ้านายตายหรอกครับ แค่ความต้องการของเจ้านายสำเร็จก็หมดพันธะแล้วล่ะ” ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ
“แค่นี่เองเหรอ แล้วที่บอกว่าคนก่อนหมดอายุไขล่ะ” ฉันถามเขา
“อ๋อ นั้นนะเหรอ คืองี้นะครับ เจ้านายคนก่อนเขาไม่มีลูกน่ะ เลยทำสัญญาว่าให้ผมเป็นลูกชายคอยดูแลเขาน่ะ พอเธอตาย ก็ถือว่าความต้องการเขาเป็นจริงและสมปรารถนาแล้ว ผมจึงหมดพันธะกับเขา”
“ฉันว่าน่าจะเจอกับนายซะยังดีกว่าเจอกันยัยนี่นะ” ฉันพูดแล้วหันไปมองยัยเรย์ แต่
“คุณพี่ละก็ ไม่น่าพูดทำร้ายจิตใจกันแบบนี้เลยนะคะ ชิ หนูเสียใจนะ ฮือ...(TToTT)” ยัยบ้านี่ดันบีบน้ำตาร้องไห้แบบเด็กๆซะงั้น
“โอ๋ๆ เรย์จังอย่าร้องนะ มามะใช้เสื้อฉันซับน้ำตาก็ได้จ๊ะ” แล้วนายอารากิก็กอดยัยเรย์อีกครั้งแล้วใช้ชายเสื้อซับน้ำตาให้
“นี่เรย์ ให้มันน้อยๆหน่อย ฉันรู้นะว่าเธอไม่ได้เสียใจจริงๆจังๆหรอก” แล้วยัยเรย์ก็หันมาหาฉันแล้วยิ้มอย่างน่ารักๆน่าหยิกแล้ว
“รู้ด้วยเหรอค่ะเนี่ยแปลกจังมนุษย์นี่ดูออกง่ายจังเลยนะคะว่าจริงหรอแสร้ง” เฮ้อ...ไม่นะรู้สิเรียกว่าแปลก
“อะไรก็ช่างเหอะ แล้วหลังจากนี้นายจะเอาไง จะอยู่กับยัยอากิที่บ้านเหรอ”
“ครับ คงงั้นแหละ”
“แล้วนายจะอยู่ที่บ้านยัยนั้นในฐานะอะไรล่ะ น้องชายเหรอ” คงงั้นล่ะมั้งถ้าคิดไม่ผิด
“คงจะเป็นลูกพี่ลูกน้องจะดีกว่านะครับ เดี๋ยวพันธะคงจะหมดเร็วๆนี้แหละ” งั้นก็ดี
“งั้นก็ดีแล้วล่ะ”
หลังจากคุยกับสมาชิกใหม่จนรู้เรื่องแล้ว ฉันก็เดินออกจากบ้านของฉันมาสูดอากาศบริสุทธิ์ด้านนอก เฮ้อ....อีกไม่กี่วันก็จะถึงแล้วสินะ วันเกิดฉัน วันเกิดครบรอบสิบแปดปีของฉัน เฮ้อ..... แก่ลงอีกปีแล้วสินะ วันเกิดของตัวเองทีไรรู้สึกแบบนี้ทุกที พูดแล้วคิดถึงวันเกิดครบรอบสิบเจ็ดปีของฉัน วันนั้นแม่พาฉันไปกินเลี้ยงที่ร้านอาหารในห้าง ถึงจะเป็นมื้อเรียบง่ายก็เหอะ แต่แค่มีคุณแม่ พี่สาวนานะ(พี่สาวฉันชื่อนานะค่ะ) ยัยอากิและฉันร่วมงาน แค่นี้ก็มีความสุขแล้วล่ะ มื้ออาหารที่เรียบง่ายยังไงมันก็พอจะทำให้เป็นมื้อที่สุดยอดที่สุดแล้วล่ะ ปีนี้จะมีใครมาร่วมงานบ้างน๊า แต่.....จะว่าไปวันเกิดฉันทุกปีก็มีแขกที่มาร่วมงานแค่ยัยอากิคนเดียวอยู่แล้วนี่ ฉันนี่คงจะเป็นคนที่แย่มากๆเลยสินะเนี่ย ถึงมีเพื่อนแค่ยัยอากิคนเดียวเอง ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว เมื่อก่อนฉันมีเพื่อนสมัยเด็กแค่สามคนรวมฉัน มียัยอากิที่เราสนิทกันมาก อยู่ด้วยกันเที่ยวด้วยกัน และซ่ามาด้วยกัน และคนที่ฉันแอบชอบมาตลอด คิดถึงเขามาตลอด เป็นเพื่อนคนแรกที่สัญญากันว่าฉันจะยอมเป็นเจ้าสาวให้(*////*) คนนั้นก็คือ....
เทนโด โซจิ
กี่ปีแล้วนะที่เขาจากไป ไม่ใช่สิ ไปเรียนที่ต่างประเทศต่างหากเพราะพ่อเขาต้องทำงานที่นั้นถาวร ในตำแหน่งผู้จัดการ....ล่ะมั้ง แต่มันทำให้เราต้องห่างกัน ไม่รู้ว่าเขาจะเจอคนใหม่ที่เขาชอบ หรือลืมฉันรึยังนะ คิดแล้วมันน่าเศร้าจริงเลย แต่.... พอนายเก็นเข้ามาเรียนที่โรงเรียน และเข้ามาในชีวิตฉัน ก็พอที่จะลดความคิดถึงเขาคนนั้นลงได้อยู่หรอก เพราะเก็นกับเทนโดเขาหน้าคล้ายกันมากๆ แต่ต่างกันที่สีผม สีตา ท่าทาง นิสัยและที่สำคัญ เทนโดเป็นมนุษย์ส่วนเก็นเป็นปีศาจ ถึงจะเป็นลูกครึ่งก็ตาม
“นามิ” นายเก็นที่น่าจะเดินออกมาตามฉันล่ะมั้งสงเสียงเรียก
“อะไร”
“พวกเราจะกลับแล้วล่ะ และจะพาอากิจังไปสงที่บ้านด้วย”
“อากิรู้สึกตัวแล้วเหรอ”
“อืม..”เสียงนายนี่ดูไม่ร่าเริงเลยแฮะ
พอรู้ว่ายัยอากิรู้สึกตัว ฉันก็รีบเดินเข้าไปในบ้านทันที แว๊บนึงที่เดินผ่านนายเก็น อะไรบางอย่างของเขาที่ดูมืดมัวก็แผ่ออกมาจนสัมผัสได้ทำให้รู้สึกเศร้าเข้าไปอีก และดูน่ากลัวมากๆจนไม่กล้าหันกลับไปมองเขา ฉันเลยตั้งหน้าเดินเข้าไปที่ห้องรับแขกทันทีแทน เขาเป็นอะไรของเขากันนะ
พอมาถึงห้องรับแขก ฉันก็ยังสะดุ้งไม่หายกับแขกผู้มาเยือนคนใหม่ ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับยัยอากิ และข่างๆก็มียัยเรย์นั่งอยู่ แต่ตำแหน่งว่างตรงยัยอากิมีนายเรียวนั่งอยู่ และที่สำคัญนายเรียวคอยดูแลประคบประหงมใหญ่เลย แต่แววตายังคงเชือดเฉือนนายอารากิไม่ยอมวาง หึหึหึ
“เป็นยังไงบ้าง อากิ”
“ค่อยยังชั่วแล้วล่ะ”
“แล้วเป็นไงมาไงเธอถึงหมดสติได้ล่ะ”
“รู้สึกว่า...” หวังว่านายพวกนี่คงเปลี่ยนความทรงจำหรือลบทิ้งแล้วละนะ หวังว่านะ
“.......” ฉันรอฟังนะยะ
“อืม.....” ลืมไปซะ ลืมไปซะนะ ฉันไม่อยากให้เธอมายุ่งกับเรื่องพวกนี้เลย
“อะไรเล่าพูดมาสิ”
“ขอโทษที จำไม่ได้” ดีมาก
“จำไม่ได้ไม่เป็นไรดีแล้วล่ะ เอ๊ะ!” ฉันดูนาฬิกาติดผนังแล้ว “นี่ก็เกือบๆเที่ยงคืนแล้ว ฉันว่า เธอน่าจะกลับไปพักผ่อนได้แล้วนะอากิ ฉันว่าให้นายเรียวกับอารากิคุงไปส่งดีกว่านะ” ฉันก็แถไปทั่วจนได้ และก็ดันรวมชื่อนายอารากิเข้าไปในบทสนทนาจนได้สิ
“เอ่อ....” ยัยอากิอยู่ๆก็พูดเหมือนสงสัยอะไรบางอย่างขึ้น
“มีอะไรอีกเหรออากิ”
“คือ...ว่า...”
“......” ฉันรอฟังอยู่นะ
“อารากิน่ะ” อารากิเหรอ นายนี่ทำไม
“อารากิทำไมเหรออากิ”
“เขา....” ยัยนี่น๊า....ไม่รู้จะพูดทีละประโยคทำไมนะมันเปลืองน่ากระดาษคนเขียนนะเฟ้ย!
“นี่....อากิ เธอเลิกพูดทีละประโยคได้ไหมฉันขี้เกลียดลุ้นว่าเธอจะพูดอะไร” เฮ้อ.....ถอนหายใจ
“อารากินี่ เข้าเป็นใครเหรอ???”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ