The Smile Devil นายปีศาจตัวร้ายกับยัยตัวเเสบ

9.7

เขียนโดย winter

วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10.04 น.

  21 #
  7 วิจารณ์
  27.93K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557 12.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) Chapter 17 อากิ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter XVII

อากิ

                    Chapter of Aki

                    ฉันชื่อ อาซึกะ อากิ ค่ะอายุสิบเจ็ดปี เรียนอยู่ที่โรงเรียนคาคุโยเป็นโรงเรียนขนาดกลางของเมืองทางตอนใต้ของญี่ปุ่น โรงเรียนเดียวกันกับยัยนามิ ฉันกับนามิเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะเราเรียนอนุบาลมาด้วยกัน และเรียนด้วยกันจนปัจจุบันเราก็ยังเรียนอยู่ม.ปลายที่เดียวกัน

               วันนี้ฉันต้องมาเที่ยวคนเดียวเพราะว่าฉันยกเลิกนัดช้อปปิ้งกับยัยนามิ เพราะว่าถูกเก็นคุงขอร้องล่ะนะ แต่ดูท่าแล้วเก็นคุงคงจะสนใจอะไรๆเกี่ยวกับยัยนามิแน่ๆ(ว่าแต่อะไรๆนี่คือไรฟะ)เขาคงแอบชอบยัยนามิเพื่อนฉันแน่เลย น่าอิจฉาจังมีหนุ่มหล่อขนาดนั้นมาชอบ เห็นวันนี้บอกว่าจะพายัยนามิไปเดดนี่ ไม่รู้จะออกมายังไงกันนะ รู้สึกว่าจะเป็นเดดแรกของยัยนามิซะด้วยหวังว่าเก็นคุงคงไม่ทำล่มนะ แต่คิดอีกที ยัยนามิล่ะมั้งที่จะทำล่มเสียเอง ยัยนี่ชอบหาเรื่องทะเลาะกับเก็นคุงอยู่บ่อยๆด้วยสิ ไม่รู้ทำไมนะ เขาออกจะหล่อซะขนาดนั้น ดันใจแข็งไม่เล่นด้วยกับเขาซะงั้น ถ้าเป็นฉันล่ะก็ รวบหัวรวบหางไปนานแล้ว(ยัยผู้หญิงหื่น) ที่บอกว่ารวบหัวรวบหางไม่ใช่เรื่องอย่างว่านะ แต่คบเขาเป็นแฟนอย่างไม่ลังเลยะ คิดไรอยู่รึเปล่า(เธอแหละคิด)

               วันนี้ตามจริงฉันมีนัดเดดกับหนุ่มหล่อคนหนึ่งน่ะเลยมาถึงที่นัดก่อนเวลา แต่พอมาถึงเวลาที่นัดเอาไว้เขากลับไม่มาซะได้ น่าน้อยใจชะมัดทั้งๆที่เขานัดฉันเองแท้ๆ อุตส่าห์เลือกชุดที่จะใส่มาเดดครั้งนี้ทั้งคืนเอาแบบที่เขาเห็นแล้วต้องทึ่งในความสวยของเราก็ดันมาพังลงไม่เป็นท่า

               เฮ้อ.........(YoY)

 

               ตอนนี้ฉันก็ยังยืนรอคอยการมาของเขาอยู่ นี่ถ้าเขาไม่ใช่คนที่ฉันแอบชอบล่ะก็ฉันไม่มาทำอะไรไร้สาระเช่น การรอคู่เดดแบบนี้หรอก เพราะฉันน่ะออกเดดมาไม่รู้กี่ร้อยครั้งแล้ว คู่เดดคนไหนมาช้ากว่าเวลานัดแค่วินาทีเดียวล่ะก็ฉันขอบายหมด แต่สำหรับเขามันค่อนข่างจะเกินไปล่ะมั้ง ฉันดันบ้ารอตั้งแต่เช้า ตอนนี้มันก็เริ่มมืดแล้วสิ พึ่งรู้นะว่าการรอคอยคนที่เราแอบชอบออกเดดด้วยมันนานกว่าการทำรายงานหรือคิดเลขวิชาคณิตซะอีก(รอนนานจนเพ้อเจ้อไปแล้วสินะเรา)

 

               “คุณครับคุณ” จู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น เสียงเขารึเปล่า มาอะไรเอาป่านนี้นะ

               “คะ” พอหันไปหาต้นเสียงก็พบว่า

               “ที่นี่จะปิดแล้วนะครับ” เสียง ร.ป.ภ.

               “คะ” ฉันพูดตอบแล้วเดินออกจากห้างไป

               ชีวิตหนอชีวิต ฉันรอเขาเข้าไปได้ยังไงตั้งเกือบสิบชั่วโมง ทั้งๆที่เขาเป็นที่มาชวนนัดเดดแท้ๆ เขาคงไม่ได้ชอบฉันล่ะมั้งถึงแกล้งชวนฉันออกเดดแล้วไม่มาตามนัด

               ฉันเดินกลับบ้านตามทางไปเรื่อยๆ ตามทางที่มีผู้คนค่อนข้างเบาบ้างในย่านชานเมืองน้ำใสๆที่อุ่นๆไหลออกจากตาฉันอย่างไม่ขาดสาย ฮึ ฉันไม่เคยร้องไห้เสียน้ำตาให้ใครมาก่อนเลยนอกจากเขาคนนี้ ไม่คิดเลยว่าคนที่หักอกชาวบ้านเขามาตลอดอย่างฉันจะมาเสียน้ำตาให้กับคนที่แอบชอบที่เขาไม่มาตามนัด(ตามปกติก็แอบชอบคนอื่นเขาไปทั่วไม่ใช่เหรอ)

               ฉันเดินเข้าไปในซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง ที่เดียวกับที่มีผู้หญิงถูกฉุดบ่อยๆ แต่คราวนี้ฉันไม่กลัวหรอก เพราะได้ข่าวว่ามีอันธพาลมาจัดการพวกนั้นซะเกือบตาย ฉันคิดว่าภายในอาทิตย์เดียวพวกบ้านั้นคงจะยังไม่ออกจากโรงพยาบาลมาทำเรื่องเลวได้หรอกมั้ง

               นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านฉันหรอกนะ ที่ฉันมาทางนี้เพราะอยากจะไปหายัยนามิที่บ้านของเธอ เพื่อให้ยัยนั่นปลอบใจซะหน่อย อยู่กับยัยนี่มีความสุขกว่าอยู่กับผู้ชายซะอีก(อย่าคิดว่าฉันเป็นเลดเบี้ยนนะฉันมีรสนิยมชอบผู้ชาย ย่ะ)เพราะฉันน่ะ อยู่คนเดียวที่บ้านตลอด(ตามจริงที่บ้านมีคนใช้อีกสิบคนคนสวนอีกสองคนและคนขับรถอีกสองคน)เพราะว่าคุณแม่กับคุณพ่อฉันต้องทำงานอยู่ต่างประเทศ ส่วนพี่ชายฉันก็เพิ่งจะแต่งงาน เลยย้ายออกไปอยู่กับครอบครัวที่ต่างประเทศเลยเหลือฉันอยู่คนเดียวในบ้าน(ขอย้ำอีกครั้งว่าที่บ้านมีคนใช้อีกสิบคนคนสวนอีกสองคนและคนขับรถอีกสองคน แฮะๆอวดรวยหน่อย)ซอยนี่ก็เปลี่ยวใช้ได้เลยแฮะ แต่ไม่มีวี่แววใครเลยคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง แต่…

 

               วูบ!!

 

               เงาอะไรบางอย่างผ่านหลังฉันไปเล่าทำฉันใจเต้นโครมครามเลยล่ะ แต่พอหันไปมาก็ไม่มีอะไรเลยซักอย่างคงตาฝาดล่ะมั้ง

 

               หวังว่าคงไม่ใช้ผีนะ!?!

 

               วูบ!!

 

               เงานั้นวูบผ่านไปอีกครั้งคราวนี้จากด้านหลังฉันอีกคราวนี้ฉันชักขาสั่นแล้วสิ เพราะมีบางอย่างที่มองไม่เห็นมันแวบเป็นเงาวูบไปวูบมาอยู่ตลอดตอนฉันเผลอ บรือ...น่ากลัวอ่ะ ฉันหันหลังกลับแล้วออกวิ่งไปยังท้ายซอยและลัดไปอีกซอยเพื่อลัดไปบ้านยัยนามิอีกทีแต่แล้ว

               “โอ๊ย!”

               พอหันกลับไปมองเงาที่คล้ายๆว่าตามมาก็ดันชนเข้ากับอะไรบางอย่าง เล่นทำฉันกระเด็นออกมาจนหกล้มก้นจ้ำเบ้า กระเป๋าถือหล่นลงบนพื้น ของกระจาย

               “เป็นอะไรรึเปล่าแม่หนูน้อย”

               อะไรบางอย่างที่ฉันชนเป็นคนนี่เอง มิน่าล่ะถึงได้นุ่มนิดๆแถมดูจากน้ำเสียงน่าจะเป็นผู้ชายซะด้วย หวังว่าคงไม่ใช่พวกที่ดักฉุดผู้หญิงหรอกนะ ฉันเลยหันกลับไปมองเงานั้นอีกครั้งแล้วไม่พบอะไร เลยพยายามพยุงตัวลุกขึ้นแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะข้อเท้าดันเคล็ดซะได้ตอนล้ม ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองดูบุคลปริศนา แต่ก็มองไม่ค่อยชัดเพราะในซอยนี้มันมืดมากและแถมหลอดไฟที่ติดไว้ตรงเสาไฟฟ้าก็ดันมาติดๆดับสร้างความน่ากลัวเพิ่มเติมเข้าไปอีก แต่ดูเหมือว่าเขาจะยื่นมือให้ฉันซะด้วยสิ

               “ลุกไหวไหมจ๊ะแม่หนูน้อย”

 

               หมับ

 

               ฉันจับมือเขาคนนั้นแล้วพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น ให้ความรู้สึกแปลกๆแฮะมือเขานุ่มชะมัดเลยแต่ขนตรงมือมันทำไมดกจัง ถึงจะยังมองไม่ค่อยชัดแต่ดูจากความมือแล้วเขาน่าจะสูงประมาณ 180 ถึง 190 ได้และน้ำเสียงดูเป็นผู้ใหญ่มากๆเลยแต่เขาดูเชยตรงที่เรียกฉันว่าแม่หนูน้อยนี่แหละ แต่หน้าตาจะดูเป็นไงกันนะเขาคนนี้

               “ขอโทษนะคะที่ไม่ระวังเลยชนคุณเข้า”

               “ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย” เขาพูดอย่างสุขุมและน้ำเสียงเย็นเยือกชะมัดเลย

               “งั้นก็ขอตัวก่อนนะคะ” พูดจบฉันก็เดินจากตรงที่เขายืนอยู่ออกไป แต่

               “เดี๋ยวสิแม่หนูน้อย” อึ๋ยอะไรอีกล่ะคราวนี้

               ฉันค่อยๆหันกลับไป ไอ้หลอดไฟที่ติดดับๆน่าก็ดันไม่หยุดกระพริบซะที ฉันกลัวนะยะ

               “เธอลืมของน่ะ เดี๋ยวฉันเก็บให้นะ” ที่แท้ลืมของนี่เองโล่งอกหน่อย

               แล้วเขาก็ก้มลงเก็บของให้ฉันแล้วก็ยื่นให้ฉัน แต่เก็บเร็วไปไหมเนี่ยเท่าที่จำได้ของฉันกระจายเลยนะ แถมที่มืดแบบนี้จะไปเห็นได้ไงกันถ้าจะหาก็ต้องใช้เวลาน่าดูเลยนะนอกซะจากเขาจะมองเห็นในที่มืดได้

               “รับไปสิ แม่หนู”

               ฉันยืนมือออกไปเพื่อรับกระเป๋าคืนจากเขาแต่ว่า

 

               หมับ

               เขาจับแขนฉันไว้แถมแน่นด้วยคราวนี้มือเขาดูใหญ่ๆกว่าปกตินะ แถมขนตรงมือก็เหมือนมันเยอะขึ้นด้วยอะไรกันเขาจะทำอะไรเนี่ย

               “ปล่อยฉันนะ คุณจะทำอะไรน่ะ!!!”

               “.....” ไม่มีเสียงตอบกลับ

               ฉันพยายามแกะมือเขาออกแต่ไม่เป็นผลและเหมือนยิ่งแกะเขายิ่งบีบแน่นอีกเล่นซะแขนฉันชาและเจ็บไปหมดแล้ว

               “ปล่อยฉันนะ ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!!”

 

               พรึบ

               หลอดไฟที่ติดไว้ตรงเสาไฟฟ้าที่ติดๆดับๆอยู่ก็สว่างพรึบขึ้นทำให้ฉันเห็นใบหน้าเขาชัดขึ้นและ

               “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!”

 

               End Chapter of Aki

 

*********************************************************

 

               “มาอยู่ที่นี่กันนี่เองหาซะทั่วเลยนะพวกนาย” เสียงหนึ่งดังขึ้นหลังจากเปิดประตูเข้ามา

               “อากิ” ที่แท้ยัยอากินี่เอง

               “จ๊ะ นามิเป็นไงเดดแรก” มาก็ถามเดดแรกเลยนะยะ

               ยัยอากิพูดกับฉันแต่สายตาของเธอดันมองไปที่นายเรียวตลอดแปลกจริง

               “วันนี้คุณไปไหนมาเหรอคะคุณเรียว” ยัยอากิไม่รอคำตอบจากฉันแต่ยิงคำถามต่อไปที่นายเรียวต่อ

               “คือ...ว่า....ฉันมีธุระเลย....” นายเรียวทำไมทำเสียงสั่นๆแฮะ

               “งั้นเหรอ” ยัยอากิตัดบทแล้วนั่งลงข้างๆฉัน

               ยัยอากินั่งหันหน้าไปคนละทางกันนายเรียวแววตาดูเศร้าๆแฮะแปลกแต่จริง ฉันยังไม่เคยเห็นยัยนี่ทำหน้าแบบนี้เลยมาก่อนเป็นอะไรไปนะยัยนี่

               “เป็นอะไรเหรออากิ”

               “ไม่มีอะไรหรอกฉันแค่ยกเลิกนัดกับเธอตามคำขอของเก็นแล้วไปนัดเดดกับใครคนหนึ่ง” อะไรนะยกเลิกนัดเพราะนายเก็นเหรอนายนี่มันน่านักนะ

               “แล้วทำไมเหรอ”

               “เขาผิดนัด”

               แวบหนึ่ง นายเรียวหันกลับมามองยัยอากิอย่างเร็วและดูเหมือนว่านายนี่จะตกใจซะด้วย ตกใจอะไรของนายนี่นะนายไม่ได้เป็นคู่เดดยัยนี่ซะหย่อยถึงได้มาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เอ๊ะหรือว่า

               “คุณซากุระคะคนที่นายเรียวชอบคือยัยอากิใช่ไหมคะ” ทุกคนที่นั่งสนทนาในนั้นหันมามองฉันและหันไปมองนายเรียวและยัยอากิสลับไปมา

               “จริง อ๊ะ..” นายเก็นเอ่ยกวนๆขึ้น

               “ขอยืนยันคะ”แล้วก็ได้คำยืนยันจากคุณซากุระอีกที

               “ไม่เกี่ยวกับพวกเธอนี่ ยุ่งอะไรด้วย”  นายเรียวพูดแล้วเบนหน้าหนีเพื่อหลบสายตาของทุกคน และยัยอากิด้วย

               “ทั้งที่คุณนัดฉันเองแท้แล้วไหงให้ฉันรอจนห้างปิดเลยละคะคุณเรียว” ยัยอากิยังมองไปที่นายเรียวด้วยแววตาเศร้าๆเหมือนเมื่อครู่และเหมือนว่าเขาอยู่กันสองคนซะงั้น

               “โทษทีละกัน พอดีมีงานด่วนเข้า” นายเรียวพูดแต่ยังไม่สบตากับยัยอากิ

               เฮ้อ...ความรักของคนเรามันช่างซับซ้อนเสียจริงๆเลย แค่ผิดนัดก็โกรธกันแล้วเป็นฉันไม่โกรธหรอกแต่...มันต้องตายเลยล่ะ แค้นนัก แค้นแทนเพื่อน ฮึฮึฮึ (ออกแนวโรคจิตซะแล้ว)จะว่าไปนายเรียวก็ผิดนะที่นัดเพื่อนฉันแล้วไม่ตามนัด แถมยังไม่โทรมาบอกเพื่อยกเลิกนัดหรืออธิบายว่ามีธุระหรืออะไรก็ได้ทำให้ไปตามนัดไม่ได้ แย่จริงๆทำให้เพื่อนฉันต้องรอจนห้างปิดเลยคงเสียใจแย่เลย

               “ธุระอะไรคะ ว่ามาสิ ขอร้องล่ะบอกฉันหน่อยให้เหตุผลที่ฟังขึ้นด้วยนะคะ” อะไรของยัยนี่ดูแล้ว แสดงว่ายัยอากิงอนนายเรียวอยู่เหรอ

               “คือว่า.....เรื่องนั้นบอกไม่ได้จริงๆ เอาเป็นว่าครั้งหน้า.....” จะบอกว่าไปปราบปีศาจยัยอากิคงเชื่อหรอกนะ

               “ยังจะมีครั้งหน้าอีกเหรอคะ” เอ่อ...คือ...ตัดพ้อกับไปหน่อยมั้งอากิ

               “เอ่ออากิจ๊ะ อย่าโกรธเรียวเลยนะ เขาไปรับพ่อฉันที่สนามบินน่ะ เลยไปตามนัดไม่ได้” แล้วยัยอากิก็หันควับมามองฉันทันที

               “หืม...พ่อเธอยังไม่ตายเหรอ” แช่งพ่อฉันซะงั้น

               “ยังย่ะ อย่ามาแช่งพ่อฉันสิ”

               “แล้วไหนว่าพ่อเธอ...”

               “อันนั้นฉันเข้าใจผิดน่ะ พอดีพ่อฉันแค่บาดเจ็บสาหัสธรรมดาเอง แล้วไปรักษาตัวที่ต่างประเทศน่ะ”

               “งั้นเหรอ...” ยัยอากิลากเสียงเล็กน้อยแล้วมองไปที่นายเรียว

 

               ปัง!!!

               เสียงประตูห้องรับแขกดังขึ้นและเปิดออก เผยให้เห็นร่างเล็กๆน่ารักของยัยเรย์ ข้างๆเธอมีพ่อฉันยืนอยู่ด้วยแถมทั้งสองทำหน้าตาคร่ำเครียดมากและมองมาทางฉัน แถมพ่อฉันตั้งท่าเตรียมชักดาบด้วยสิ มีอะไรอีกล่ะเนี่ย

               “มีอะไรเหรอครับ/คะ คุณท่าน” นายเรียวและคุณซากุระรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้และวิ่งไปหาพ่อฉันที่ประตูทันที(แหมๆพูดพร้อมกันเลยนะ)

               “ฉันได้กลิ่นปีศาจ” กลิ่นปีศาจเหรอ ก็ยืนอยู่ข้างๆพ่อไงคะ แล้วก็นั่งทำหน้าเอ๋อๆอยู่ข้างๆฉันนี่อีกตัวไงล่ะคะ

               “ฉันก็ได้กลิ่นนะ นามิ” นายเรียวมองมาทางฉันแล้วพูดขึ้น แต่แล้ว

               “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะอารากิ” เอ่อ...ยัยเรย์พูดขึ้นมา แต่พูดกับใครล่ะ

               “เช่นกันจ๊ะ เรย์จัง” ยัยอากิพูด แล้วก็ลุกขึ้นมองไปหายัยเรย์ ยัยอากิเป็นอะไรไปเนี่ย เดี๋ยวนี้เธอรับมุกยัยเรย์ด้วยเหรอ

               “อะไรเนี่ยอากิ พวกเธอพูดอะไรกัน”

               “นามิ!! ถอยออกมาจากคุณอากิเร็วเข้า!” นายเรียวพูดขึ้นแต่ฉันยังคงงงๆอยู่

               “หอมดีจริงๆ เลือดเธอเนี่ย น่ากินชะมัดเลย หมักไว้นานซักสิบเจ็ดหรือสิบแปดปีได้ล่ะมั้ง” เสียงอันเยือกเย็นชวนสยองออกมาจากปากของยัยอากิ

               “ไม่เปลี่ยนเลยนะคะอารากิ ได้กลิ่นหอมแล้วอยากลิ้มรสไปซะหมดเลย” อยากลิ้มรสเหรอ อะไรกันเนี่ยยัยอากิพูดอะไรกับยัยเรย์กันนะ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา