The Smile Devil นายปีศาจตัวร้ายกับยัยตัวเเสบ
9.7
เขียนโดย winter
วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10.04 น.
21 #
7 วิจารณ์
27.94K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557 12.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) Chapter 14 อาหารมื้อค่ำที่แสนยุ่ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter XIV
อาหารมื้อค่ำที่แสนยุ่ง
เพี้ยะ!
ฝ่ามืออันเรียวๆของแม่ประทับลงใบหน้าของพ่อจนแดง ตาของแม่เริ่มมีน้ำตาไหลออกมา แต่ไม่นานแม่ก็โผเข้ากอดพ่อเอาไว้ เปลี่ยนอารมณ์เร็วแบบนี้เล่นเอาพ่อฉันงงไปเลยแฮะ
“คุณหายไปไหนมาตั้งสิบปี...ฮึก...คุณรู้ไหม...ฉันคิดว่าคุณมากเลยนะ....”
“ผมยังไม่ได้ตายซะหน่อยที่รักอย่าร้องไห้สิ ผมสัญญาแล้วไงว่าผมจะปกป้องคุมครองคุณและลูกทั้งสองตลอดไปยังไงล่ะ”
“แล้วคุณเป็นยังไงบ้างไม่ส่งข่าวมาเลยนะคะ” แม่เริ่มหยุดร้องไห้แล้วถามไถ่พ่อฉัน
“ก็สบายดี สำนักงานใหญ่เขาใช่งานผมไม่หนักเท่าไหร่เลยไม่มีเวลาติดต่อมา” อะไรของพ่อคะหนูงงนะ
“แสดงว่างานยุ่งมากนะสินะ”
“ก็นะ งานของผมมันเลิกทำไม่ได้ด้วยสิ เลยให้แค่ลูกน้องส่งเงินมาให้แทนน่ะ แล้วพอใช้ไหม”
พ่อสงเงินมาด้วยเหรอนี่ พ่อนี่ช่างมีความรับผิดชอบเสียจริงเลยแล้วนายเก็นล่ะอยู่คนเดียวแบบนั้นมีใครส่งเงินมาให้ไหมนะ
“ก็ต้องพออยู่แล้วสิคะ ลูกน้องคุณส่งมาเดือนละล้านเยนแบบนั้นฉันเลยผ่อนบ้านและส่งยัยนานะและยัยนามิเรียนได้สบายๆเลย” ดะ...เดือนละล้านเลยเหรอคะพ่อ OoO
“ก็ดีแล้วล่ะ หึ หึ หึ”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
แกร็ก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นใครมาเอาตอนนี้นะและเสียงนั่นเปิดประตูเข้ามาภายในบ้าน
“นายเรียว คุณซากุระ”
“อืม...”
“พวกนายมีธุระอะไร”
“กับเธอไม่มีหรอกแต่....” นายเรียวมองไปที่พ่อฉันที่ยังยืนกอดเลวแม่ฉันอยู่
“มาแล้วเหรอ ไหนบอกว่าจะไปรับที่สนามบินไง”
“ต้องขอโทษจริงครับ พอดีเราต้องกันไม่ให้ปีศาจพวกนั้นอาละวาทไปมากกว่านี้ก็เลย....” นายเรียวทำหน้าสำนึกผิดเป็นด้วยแฮะพึ่งเคยเห็นอยากจะขำเหมือนกันนะแต่
“ฮะฮะฮ่า เจ้ากับปะเรียวทาโร่สำนึกผิดเป็นด้วยเหรอ”
“อยากตายนักใช่ไหมไอ้เก็นกิชิ”
“ทำได้งั้นเหรอ”
“ลองไหมล่ะ”
พูดจบทั้งสองก็ตั้งท่าทางจะจู่โจมกันทันที นายเรียวสร้างธนูแสงนั้นอีกแล้ว ส่วนนายเก็นก็ไม่รู้ไปเอาอาบมาจากไหน คงเสกเอาแน่เลย และตั้งท่าจะสู้กันแล้วสิเอาไงดี พ่อฉันก็ทำหน้าเฉยๆ แต่แม่ฉันยิ่งทำหน้าเฉยๆไปใหญ่เลยแฮะ ไม่ตกใจกับธนูของนายเรียวกับดาบของนายเก็นซักนิดเลยเหรอ
“วัยรุ่นเลือดร้อนจริงๆเลยนะคะคุณพวกนี้ก็คล้ายๆกับคุณเมื่อก่อนจริงๆ”
“นั้นสินะ” ทั้งสองนั่งลงโซฟาและดูนายเก็นและนายเรียวสู้กันซะงั้น
“พ่อคะ แม่คะ จะไม่ห้ามหน่อยเหรอเดียวพวกเขาฆ่ากันตายขึ้นมาทำไงคะ”
“ช่างพวกเขาเถอะถือว่าประลองเลือกคู่ละกัน ใครชนะก็ได้ลูกไป”
“พูดเล่นใช่ไหมคะเนี่ย!!!”
คำพูดของแม่ฉันดังขึ้นแล้วสะท้อนไปมาในหัวฉัน นี่ฉันหูผาดไปใช่ไหมเนี่ย แม่เพี้ยนไปแล้วเหรอ แต่มันยิ่งทำให้นายเก็นคึกคะนองขึ้นมาทันทีทันใดแต่ผิดกับนายเรียว
“ได้ยินแล้วนะเรียวฉันไม่ยอมแพ้นายหรอก”
“ขอผ่าน ฉันขอยอมแพ้ละกัน ใครจะไปอยากได้ยัยบ้านี่กันล่ะ”
“นายว่าไงนะ!”
“ฉันไม่ชอบพูดหลายครั้ง”
“คุณแม่ครับตามที่สัญญานะครับอย่าคืนคำนะ” นายบ้าเก็นดีใจจนเนียนเรียกแม่ฉันว่าแม่เลยซะงั้น
“ได้สิแต่ต้องทำให้ลูกสาวฉันรักในตัวเธอให้ได้ละนะ”
“ไม่มีทางคะแม่ หนูไม่แต่งกับนายบ้านี่หรอก *////*”
“เอ๊ะ เดียวๆนะคะเมื่อกี้คุณหญิงเขาแค่พูดว่ายกให้แต่ไม่ได้บอกว่าให้แต่งงานนี่คะ คุณคิดอะไรอยู่หรอเปล่า” ยัยคุณซากุระจอมเงียบพูดขึ้น เล่นฉันซะหน้าแดงเลยนะ
“เปล่าซะหน่อยอย่าคิดไปเองสิ” -////-
“คุณตางหากที่คิด”
“เอ่อ....*//////* ”
“แสดงว่าคุณพี่คิดไปโน้นแล้วสินะ”
“เปล่าซะหน่อย เอ๋...”
“เสียงใครน่ะ” พ่อฉันพูดขึ้น
“อ๋อ เรย์จังไงจำไม่ได้เหรอ”
“เรย์ไหนผมไม่เห็นรู้จักเลย” นั้นเอาแล้วไงยัยเรย์ แล้วยัยนั้นอยู่ไหนนะ
“เรย์ลูกของญาติคุณยังไงล่ะคะ”
ระหว่างที่พ่อฉันยังงงๆกับบุคคลปริศนาอยู่ นายเรียวก็รีบเข้าไปกระซิบอะไรบางอย่างอยู่ครู่หนึ่งแล้วพ่อฉันก็
“อ๋อเรย์ ลูกสาวของไทกะนี่เอง แล้วเธออยู่ไหนล่ะไม่ได้เจอกันตั้งนาน” เอ่อพ่อคะไทกะไหนอีกล่ะคะ
“อยู่นี่คะ”
ยัยเรย์เดินออกมาจากครัวตามคำเรียกของพ่อฉัน ในมือยัยนั้นยังถือข้าวปั้นจานโตเอาไว้อยู่และฉันก็เหลือบเห็นเมล็ดข้าวติดอยู่มุมปากเธอด้วยล่ะ ยัยนี่กินเลอะชะมัดเลย
“เรย์ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะมานี่สิ ไงสบายดีไหม” ยัยเรย์เดินเข้าไปหาพ่อแล้วพ่อฉันก็กอดยัยนี่ซะงั้น
“สวัสดีค่ะคุณลุง หนูสบายดีค่ะแล้วคุณลุงล่ะคะ” อะไรกันสองคนนั้น
“สบายดี ขอบใจนะที่ช่วยดูแลพี่นามิเขาอีกแรง ขอบใจนะ”
“ค่ะคุณลุง”
ฉันดูสองคนแปลกกำลังสนทนาอยู่ซักพัก นายเก็นก็ทำอะไรแปลกๆ โดยเขายื่นหน้าเข้ามาข้างๆใบหน้าฉันและกำลังหายใจรดต้นคอกับหูฉันอยู่ นายนี่โรคจิตหรือไงฟะ
“นายเป็นบ้าอะไรของนายยะ”
“ฉันหิวแล้วทำอะไรให้กินหน่อยสิ”
“นายก็หากินเอาเองสิ”
“ไม่เอาฉันจะกินฝีมือเธอ”
“ไม่กลัวฉันวางยาพิษในอาหารอีกเหรอ” นายเรียวพูดกวนๆขึ้น
“ยุ่งน่า นายไม่มีทางวางยาฉันได้อีกหรอก หรือถ้าวางอีกก็ไม่ได้ผลแล้วล่ะ”
“พล่ามบ้าอะไรของแก”
“พอดีฉันมีภูมต้านทานยานั้นแล้ว มันทำอะไรฉันเป็นครั้งที่สองได้หรอก”
“ฉันไม่เคยได้ยินว่าปีศาจอย่างพวกแกทำแบบนั้นได้” นั้นดิ
“แต่ฉันทำได้” นายจะเก่งไปหน่อยไหมเนี่ย
“งั้นก็ดีฉันจะได้ฆ่าแกยากขึ้น” แหงะนายนี่อยากฆ่านายเก็นขนาดนั้นเลยเหรอ
“นี่พวกนายจะกัดกันอีกนานไหมฮะ ฉันก็หิวแล้วนะ” ฉันพูดขัดขึ้น
“หยุดแล้วครับ ผมก็หิวเหมือนกัน” นายเก็นรีบขานรับแบบกวนๆ
“งั้นแม่ว่าเรามาทานอาหารเย็นด้วยกันทั้งหมดเลยดีกว่านะ” แม่พูดบ้าง เห็นเงียบดูเราเถียงกันนานแล้วอะนะ
“แล้วพี่นานะล่ะคะ ไม่รอพี่เขาก่อนเหรอ”
“อ๋อพี่เขาไปประชุมที่ต่างจังหวัดน่ะ อีกสองสามวันคงกลับ หรือลูกจะรอจ๊ะ” พี่นี่ก็ ดันไม่อยู่ซะงั้น
“ไม่ดีกว่า เราไปทำอาหารเย็นกันดีกว่านะคะ” แม่ของฉันกำลังจะลุกจากพ่อฉัน ฉันเลยห้ามท่านไว้ เพราะอยากให้ท่านอยู่ด้วยกันดีกว่า
หน้าที่ทำอาหารเลยตกเป็นของฉัน ยัยเรย์ และคุณซากุระ เรื่องนี้ไม่ต้องพูดถึงหรอกว่าใครทำอาหารเก่งที่สุด ก็คุณซากุระคนเดิมนั้นแหละคะ เธอโชว์การทำอาหารระดับแดจังกึมเลยล่ะมั้ง แต่นี่มันแค่อาหารญี่ปุ่นเท่านั้นเองถ้าเป็นอาหารเกาหลีล่ะก็ขอบอกว่าใช่เลย แต่ยัยเรย์ก็หายไปนานเหมือนกันนะแค่บอกให้ไปซื้อเนื้อมาทำแกงกระหรี่แค่นี้ทำไมไปนานจัง
ตอนแรกกะว่าจะให้ยัยเรย์เสกเอาแต่เธอดันบอกว่า เวทย์มนต์ก็เหมือนกับการเล่นกลเสกมามากเท่าไหร่ก็กินไม่อิ่มหรอกเพราะไม่ใช่ของจริง ฉันเลยต้องให้เธอออกไปซื้อแถวๆปากซอยหน้าหมู่บ้าน
“มาแล้วคะ” เสียงแจ้วๆมาก่อนตัวแบบนี้ใช่แน่
“ทำไมไปนานจัง หมอเครื่องปรุงน้ำแห้งจะหมดจนเกือบไหม้หลายรอบแล้วนะ” ขอโวยหน่อยละกันเพราะแกงกระหรี่ฉันทำเองถ้าไหม้ไปจริงๆล่ะก็ฉันจะอัดเธอแน่ยัยเรย์
“โทษทีคะพอดีเจอเสื้อผ้าลดราคาเลยแวะดู” ยัยนี่สนใจของแบบนี้ด้วยเหรอ
“ไหนล่ะเนื้อที่ฉันให้ไปซื้อมาน่ะ” ไม่เห็นถือเขามาในครัวแฮะ
“รอซักครู่นะคะ”
พูดจบยัยนั้นก็เดินออกไปจากห้องครัว และก็มีเสียงอะไรบางอย่างที่น่าจะหนักมากกำลังเคลื่อนที่เข้ามาในนี้ และข้อสงสัยก็หมอไปทันทีเมื่อยัยเรย์เดินเขามาพร้อมกับ...เอ่อ...
“เนื้อที่สั่งได้แล้วคะ”
“ยัยเรย์เธอซื้อมามากไปไหมเนี่ย”
“ไม่ได้ซื้อคะ ขโมยฟรามแถวๆนี้มา” ขโมยเหรอ
“ยัยบ้า! เธอขโมยเขามาเนี่ยนะ! แถมเอามาเป็นๆทั้งตัวอีก!”
มอออออ มอออออ
เจ้าวัวตัวขนาดใหญ่สีขาวดำลายจุดคล้ายๆหมีแพนด้า ร้องมอๆอยู่บนบ่ายัยเรย์ ยัยบ้านี่เล่นเอามาทั้งตัวแบบนี้คิดจะกินเป็นอาทิตย์เลยหรือไงเนี่ย แถมนั้นมันวัวของลุงคาซากิ(เป็นเพื่อนพ่อที่มาดูแลฉันแม่และพี่นานะแทนพ่ออยู่บ่อยๆ)ซะด้วย นั้นมันวัวนมนะฉันจำได้ แล้วตอนเข้ามาหวังว่าแม่คงไม่เห็นนะ
“เธอเอาไปคืนเขาเดียวนี้เลยนะเรย์”
“ทำไมล่ะคะไม่ชอบของสดใหม่เหรอ”
“สดบ้านเธอนะสิ เป็นๆซะมากกว่า ฉันอยากได้แบบสำเร็จรูปย่ะ”
“งั้นรอเดี๋ยวนะคะ”
แล้วยัยเรย์ก็เดินออกไปอีกรอบ แล้วซักพักก็เดินเข้ามาพร้อมกับ เนื้อสองแพ็ค ยัยเรย์น่าจะไปซื้อมาไหมล่ะมั้ง หรือยัยเรย์เอาวัวตัวเมื่อกี้ไปเชือดมาล่ะเนี่ย
“แล้ววัวตัวนั้นหายไปไหนล่ะ” ฉันถาม
“เอาไปคืนแล้วคะ”
“งั้นก็แล้วไป เธอนี่ทำฉันเสียเวลาชะมัดเลย เธอเอาเนื้อไปหันเดี๋ยวนี้เลยนะ แล้วเอามาให้ฉัน”
“คะ คุณพี่”
แล้วยัยเรย์ก็เดินไปตรงมุมที่มีมีดกับเขียงแล้วลงมือหั่นซักพักเธอก็เดินมาหาฉันพร้อมกับเนื้อวัวที่หั่นแล้วมาด้วย แต่แม่คุณหั่นชิ้นหนาไปไหมเนี่ย เขาหั่นพอดีคำเธอดันหั่นพอดีสองสามคำเลยซะงั้นแต่ช่างเหอะ มีแต่ตัวกินจุอยู่แล้วนี่ ทำไซต์ใหญ่ๆหน่อยละกัน
หลังใส่เนื้อแล้วคนๆกวนๆให้เข้ากันและรอจนเนื้อสุกได้ที่ แต่จะให้อร่อยจริงๆมันต้องค้างคืนแล้วเอาเคี่ยวใหม่ถึงจะกลมกล่อมและเนื้อนุ่ม แต่สำหรับนายเก็นแล้วคงกิได้ล่ะมั้งเพราะนายนี่ไม่เคยจุกจิกเรื่องของกินซักเท่าไหร่ มีแต่นายเรียวล่ะมั้งที่จะติว่าอาหารฉันแย่อย่างโน้นอย่างนี้ ถ้าหมอนั้นว่าฉันจริงๆล่ะก็ฉันจะให้พ่อฉันส่งกลับอิตาลีไปเลย ก็พ่อฉันเป็นหัวหน้าพวกนั้นนี่
“คุณนามิคะฉันเตรียมอาหารส่วนของฉันเสร็จแล้วนะคะ” เสียงของคุณซากุระพูดขึ้น “แล้วคุณเสร็จหรือยังคะ มีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้ไหมคะ” และเธอก็ถามว่าให้ช่วยอะไรไหมทันที
“ไม่ดีกว่าคะแค่ของคุณก็ทำมากพอแล้ว ของฉันเดียวได้ที่แล้วก็ยกไปเสริฟได้แล้วล่ะค่ะ”
“งั้นก็เดี๋ยวฉันไปจัดโต๊ะรอนะคะ” แล้วเธอก็เดินออกไปเหลือฉันกับยัยเรย์แค่สองคน
“เรย์หยิบช้อนให้ทีสิ”
“ค่ะ” แล้วเธอก็หยิบมาให้ฉัน
“นี่ถามจริงๆเถอะ เธออยากได้วิญญาณฉันจริงๆนะเหรอ” ฉันกลืนน้ำลายเล็กน้อย
“ถามทำไมล่ะคะ”
“ก็แหม...ฉันแค่อยากรู้นี่ว่าเธอต้องรอคอยวิญญาณอีกกี่ดวงกันถึงจะครบร้อยแล้วเธอจะเธออิสระ”
“แค่วิญญาณของคุณพี่ดวงเดียวเท่านั้น ฉันก็หลุดออกจากแหวนวงนั้นแล้วล่ะค่ะ” อะไรนะ
“งั้นก็ฉัน ก็เป็นดวงวิญญาณที่ร้อยของเธอแล้วงั้นสิ”
“ใช่คะ” OoO
“งั้นเธอก็รอฉันตายอย่างเดียวนะสิ” ยัยนี่จะฆ่าฉันไหมเนี่ย(ยังระแวงอยู่)
“ไม่หรอกคะนายหญิง ผู้รับใช้ไม่มีสิทธิคร่าชีวิตของเจ้านายก่อนเขาจะหมดอายุขัย ไม่งั้นดวงวิญญาณดวงนั้นจะไม่กลายเป็นของผู้รับใช้เพราะเขาทำผิดสัญญา” ยัยนี่อ่านความคิดฉันอีกแล้ว
“คำสัญญาที่ว่านี่ยังไงเหรอ =_= ??”
“ก็อย่างเช่นจะต้องคอยปกป้องเจ้านายจนวาระสุดท้ายจะมาถึงอะไรทำนองนี้ล่ะคะ”
“งั้นฉันไม่สามารถตายด้วยน้ำมือเธอน่ะสินะ” O_O
“ถูกต้องค่ะนายหญิง”
“งั้นก็วางใจได้หน่อย” โล่งอก -_-
“นี่คุณพี่ไม่ไว้ใจฉันเลยเหรอ น้อยใจนะคะ” แล้วยัยเรย์ก็ตีหน้าเศร้าทันทีหึ หึ ยัยบ๊อง
“เปล่าๆไม่ใช่ฉันก็แค่ถามไปนั้น”
ตึง!!
เสียงเหมือนอะไรบางอย่างดังขึ้นบริเวณห้องกินข้าว พอฉันยกหม้อออกจากเตาแล้วเดินออกจากครัวไปดูก็พบว่า
อาหารมื้อค่ำที่แสนยุ่ง
เพี้ยะ!
ฝ่ามืออันเรียวๆของแม่ประทับลงใบหน้าของพ่อจนแดง ตาของแม่เริ่มมีน้ำตาไหลออกมา แต่ไม่นานแม่ก็โผเข้ากอดพ่อเอาไว้ เปลี่ยนอารมณ์เร็วแบบนี้เล่นเอาพ่อฉันงงไปเลยแฮะ
“คุณหายไปไหนมาตั้งสิบปี...ฮึก...คุณรู้ไหม...ฉันคิดว่าคุณมากเลยนะ....”
“ผมยังไม่ได้ตายซะหน่อยที่รักอย่าร้องไห้สิ ผมสัญญาแล้วไงว่าผมจะปกป้องคุมครองคุณและลูกทั้งสองตลอดไปยังไงล่ะ”
“แล้วคุณเป็นยังไงบ้างไม่ส่งข่าวมาเลยนะคะ” แม่เริ่มหยุดร้องไห้แล้วถามไถ่พ่อฉัน
“ก็สบายดี สำนักงานใหญ่เขาใช่งานผมไม่หนักเท่าไหร่เลยไม่มีเวลาติดต่อมา” อะไรของพ่อคะหนูงงนะ
“แสดงว่างานยุ่งมากนะสินะ”
“ก็นะ งานของผมมันเลิกทำไม่ได้ด้วยสิ เลยให้แค่ลูกน้องส่งเงินมาให้แทนน่ะ แล้วพอใช้ไหม”
พ่อสงเงินมาด้วยเหรอนี่ พ่อนี่ช่างมีความรับผิดชอบเสียจริงเลยแล้วนายเก็นล่ะอยู่คนเดียวแบบนั้นมีใครส่งเงินมาให้ไหมนะ
“ก็ต้องพออยู่แล้วสิคะ ลูกน้องคุณส่งมาเดือนละล้านเยนแบบนั้นฉันเลยผ่อนบ้านและส่งยัยนานะและยัยนามิเรียนได้สบายๆเลย” ดะ...เดือนละล้านเลยเหรอคะพ่อ OoO
“ก็ดีแล้วล่ะ หึ หึ หึ”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
แกร็ก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นใครมาเอาตอนนี้นะและเสียงนั่นเปิดประตูเข้ามาภายในบ้าน
“นายเรียว คุณซากุระ”
“อืม...”
“พวกนายมีธุระอะไร”
“กับเธอไม่มีหรอกแต่....” นายเรียวมองไปที่พ่อฉันที่ยังยืนกอดเลวแม่ฉันอยู่
“มาแล้วเหรอ ไหนบอกว่าจะไปรับที่สนามบินไง”
“ต้องขอโทษจริงครับ พอดีเราต้องกันไม่ให้ปีศาจพวกนั้นอาละวาทไปมากกว่านี้ก็เลย....” นายเรียวทำหน้าสำนึกผิดเป็นด้วยแฮะพึ่งเคยเห็นอยากจะขำเหมือนกันนะแต่
“ฮะฮะฮ่า เจ้ากับปะเรียวทาโร่สำนึกผิดเป็นด้วยเหรอ”
“อยากตายนักใช่ไหมไอ้เก็นกิชิ”
“ทำได้งั้นเหรอ”
“ลองไหมล่ะ”
พูดจบทั้งสองก็ตั้งท่าทางจะจู่โจมกันทันที นายเรียวสร้างธนูแสงนั้นอีกแล้ว ส่วนนายเก็นก็ไม่รู้ไปเอาอาบมาจากไหน คงเสกเอาแน่เลย และตั้งท่าจะสู้กันแล้วสิเอาไงดี พ่อฉันก็ทำหน้าเฉยๆ แต่แม่ฉันยิ่งทำหน้าเฉยๆไปใหญ่เลยแฮะ ไม่ตกใจกับธนูของนายเรียวกับดาบของนายเก็นซักนิดเลยเหรอ
“วัยรุ่นเลือดร้อนจริงๆเลยนะคะคุณพวกนี้ก็คล้ายๆกับคุณเมื่อก่อนจริงๆ”
“นั้นสินะ” ทั้งสองนั่งลงโซฟาและดูนายเก็นและนายเรียวสู้กันซะงั้น
“พ่อคะ แม่คะ จะไม่ห้ามหน่อยเหรอเดียวพวกเขาฆ่ากันตายขึ้นมาทำไงคะ”
“ช่างพวกเขาเถอะถือว่าประลองเลือกคู่ละกัน ใครชนะก็ได้ลูกไป”
“พูดเล่นใช่ไหมคะเนี่ย!!!”
คำพูดของแม่ฉันดังขึ้นแล้วสะท้อนไปมาในหัวฉัน นี่ฉันหูผาดไปใช่ไหมเนี่ย แม่เพี้ยนไปแล้วเหรอ แต่มันยิ่งทำให้นายเก็นคึกคะนองขึ้นมาทันทีทันใดแต่ผิดกับนายเรียว
“ได้ยินแล้วนะเรียวฉันไม่ยอมแพ้นายหรอก”
“ขอผ่าน ฉันขอยอมแพ้ละกัน ใครจะไปอยากได้ยัยบ้านี่กันล่ะ”
“นายว่าไงนะ!”
“ฉันไม่ชอบพูดหลายครั้ง”
“คุณแม่ครับตามที่สัญญานะครับอย่าคืนคำนะ” นายบ้าเก็นดีใจจนเนียนเรียกแม่ฉันว่าแม่เลยซะงั้น
“ได้สิแต่ต้องทำให้ลูกสาวฉันรักในตัวเธอให้ได้ละนะ”
“ไม่มีทางคะแม่ หนูไม่แต่งกับนายบ้านี่หรอก *////*”
“เอ๊ะ เดียวๆนะคะเมื่อกี้คุณหญิงเขาแค่พูดว่ายกให้แต่ไม่ได้บอกว่าให้แต่งงานนี่คะ คุณคิดอะไรอยู่หรอเปล่า” ยัยคุณซากุระจอมเงียบพูดขึ้น เล่นฉันซะหน้าแดงเลยนะ
“เปล่าซะหน่อยอย่าคิดไปเองสิ” -////-
“คุณตางหากที่คิด”
“เอ่อ....*//////* ”
“แสดงว่าคุณพี่คิดไปโน้นแล้วสินะ”
“เปล่าซะหน่อย เอ๋...”
“เสียงใครน่ะ” พ่อฉันพูดขึ้น
“อ๋อ เรย์จังไงจำไม่ได้เหรอ”
“เรย์ไหนผมไม่เห็นรู้จักเลย” นั้นเอาแล้วไงยัยเรย์ แล้วยัยนั้นอยู่ไหนนะ
“เรย์ลูกของญาติคุณยังไงล่ะคะ”
ระหว่างที่พ่อฉันยังงงๆกับบุคคลปริศนาอยู่ นายเรียวก็รีบเข้าไปกระซิบอะไรบางอย่างอยู่ครู่หนึ่งแล้วพ่อฉันก็
“อ๋อเรย์ ลูกสาวของไทกะนี่เอง แล้วเธออยู่ไหนล่ะไม่ได้เจอกันตั้งนาน” เอ่อพ่อคะไทกะไหนอีกล่ะคะ
“อยู่นี่คะ”
ยัยเรย์เดินออกมาจากครัวตามคำเรียกของพ่อฉัน ในมือยัยนั้นยังถือข้าวปั้นจานโตเอาไว้อยู่และฉันก็เหลือบเห็นเมล็ดข้าวติดอยู่มุมปากเธอด้วยล่ะ ยัยนี่กินเลอะชะมัดเลย
“เรย์ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะมานี่สิ ไงสบายดีไหม” ยัยเรย์เดินเข้าไปหาพ่อแล้วพ่อฉันก็กอดยัยนี่ซะงั้น
“สวัสดีค่ะคุณลุง หนูสบายดีค่ะแล้วคุณลุงล่ะคะ” อะไรกันสองคนนั้น
“สบายดี ขอบใจนะที่ช่วยดูแลพี่นามิเขาอีกแรง ขอบใจนะ”
“ค่ะคุณลุง”
ฉันดูสองคนแปลกกำลังสนทนาอยู่ซักพัก นายเก็นก็ทำอะไรแปลกๆ โดยเขายื่นหน้าเข้ามาข้างๆใบหน้าฉันและกำลังหายใจรดต้นคอกับหูฉันอยู่ นายนี่โรคจิตหรือไงฟะ
“นายเป็นบ้าอะไรของนายยะ”
“ฉันหิวแล้วทำอะไรให้กินหน่อยสิ”
“นายก็หากินเอาเองสิ”
“ไม่เอาฉันจะกินฝีมือเธอ”
“ไม่กลัวฉันวางยาพิษในอาหารอีกเหรอ” นายเรียวพูดกวนๆขึ้น
“ยุ่งน่า นายไม่มีทางวางยาฉันได้อีกหรอก หรือถ้าวางอีกก็ไม่ได้ผลแล้วล่ะ”
“พล่ามบ้าอะไรของแก”
“พอดีฉันมีภูมต้านทานยานั้นแล้ว มันทำอะไรฉันเป็นครั้งที่สองได้หรอก”
“ฉันไม่เคยได้ยินว่าปีศาจอย่างพวกแกทำแบบนั้นได้” นั้นดิ
“แต่ฉันทำได้” นายจะเก่งไปหน่อยไหมเนี่ย
“งั้นก็ดีฉันจะได้ฆ่าแกยากขึ้น” แหงะนายนี่อยากฆ่านายเก็นขนาดนั้นเลยเหรอ
“นี่พวกนายจะกัดกันอีกนานไหมฮะ ฉันก็หิวแล้วนะ” ฉันพูดขัดขึ้น
“หยุดแล้วครับ ผมก็หิวเหมือนกัน” นายเก็นรีบขานรับแบบกวนๆ
“งั้นแม่ว่าเรามาทานอาหารเย็นด้วยกันทั้งหมดเลยดีกว่านะ” แม่พูดบ้าง เห็นเงียบดูเราเถียงกันนานแล้วอะนะ
“แล้วพี่นานะล่ะคะ ไม่รอพี่เขาก่อนเหรอ”
“อ๋อพี่เขาไปประชุมที่ต่างจังหวัดน่ะ อีกสองสามวันคงกลับ หรือลูกจะรอจ๊ะ” พี่นี่ก็ ดันไม่อยู่ซะงั้น
“ไม่ดีกว่า เราไปทำอาหารเย็นกันดีกว่านะคะ” แม่ของฉันกำลังจะลุกจากพ่อฉัน ฉันเลยห้ามท่านไว้ เพราะอยากให้ท่านอยู่ด้วยกันดีกว่า
หน้าที่ทำอาหารเลยตกเป็นของฉัน ยัยเรย์ และคุณซากุระ เรื่องนี้ไม่ต้องพูดถึงหรอกว่าใครทำอาหารเก่งที่สุด ก็คุณซากุระคนเดิมนั้นแหละคะ เธอโชว์การทำอาหารระดับแดจังกึมเลยล่ะมั้ง แต่นี่มันแค่อาหารญี่ปุ่นเท่านั้นเองถ้าเป็นอาหารเกาหลีล่ะก็ขอบอกว่าใช่เลย แต่ยัยเรย์ก็หายไปนานเหมือนกันนะแค่บอกให้ไปซื้อเนื้อมาทำแกงกระหรี่แค่นี้ทำไมไปนานจัง
ตอนแรกกะว่าจะให้ยัยเรย์เสกเอาแต่เธอดันบอกว่า เวทย์มนต์ก็เหมือนกับการเล่นกลเสกมามากเท่าไหร่ก็กินไม่อิ่มหรอกเพราะไม่ใช่ของจริง ฉันเลยต้องให้เธอออกไปซื้อแถวๆปากซอยหน้าหมู่บ้าน
“มาแล้วคะ” เสียงแจ้วๆมาก่อนตัวแบบนี้ใช่แน่
“ทำไมไปนานจัง หมอเครื่องปรุงน้ำแห้งจะหมดจนเกือบไหม้หลายรอบแล้วนะ” ขอโวยหน่อยละกันเพราะแกงกระหรี่ฉันทำเองถ้าไหม้ไปจริงๆล่ะก็ฉันจะอัดเธอแน่ยัยเรย์
“โทษทีคะพอดีเจอเสื้อผ้าลดราคาเลยแวะดู” ยัยนี่สนใจของแบบนี้ด้วยเหรอ
“ไหนล่ะเนื้อที่ฉันให้ไปซื้อมาน่ะ” ไม่เห็นถือเขามาในครัวแฮะ
“รอซักครู่นะคะ”
พูดจบยัยนั้นก็เดินออกไปจากห้องครัว และก็มีเสียงอะไรบางอย่างที่น่าจะหนักมากกำลังเคลื่อนที่เข้ามาในนี้ และข้อสงสัยก็หมอไปทันทีเมื่อยัยเรย์เดินเขามาพร้อมกับ...เอ่อ...
“เนื้อที่สั่งได้แล้วคะ”
“ยัยเรย์เธอซื้อมามากไปไหมเนี่ย”
“ไม่ได้ซื้อคะ ขโมยฟรามแถวๆนี้มา” ขโมยเหรอ
“ยัยบ้า! เธอขโมยเขามาเนี่ยนะ! แถมเอามาเป็นๆทั้งตัวอีก!”
มอออออ มอออออ
เจ้าวัวตัวขนาดใหญ่สีขาวดำลายจุดคล้ายๆหมีแพนด้า ร้องมอๆอยู่บนบ่ายัยเรย์ ยัยบ้านี่เล่นเอามาทั้งตัวแบบนี้คิดจะกินเป็นอาทิตย์เลยหรือไงเนี่ย แถมนั้นมันวัวของลุงคาซากิ(เป็นเพื่อนพ่อที่มาดูแลฉันแม่และพี่นานะแทนพ่ออยู่บ่อยๆ)ซะด้วย นั้นมันวัวนมนะฉันจำได้ แล้วตอนเข้ามาหวังว่าแม่คงไม่เห็นนะ
“เธอเอาไปคืนเขาเดียวนี้เลยนะเรย์”
“ทำไมล่ะคะไม่ชอบของสดใหม่เหรอ”
“สดบ้านเธอนะสิ เป็นๆซะมากกว่า ฉันอยากได้แบบสำเร็จรูปย่ะ”
“งั้นรอเดี๋ยวนะคะ”
แล้วยัยเรย์ก็เดินออกไปอีกรอบ แล้วซักพักก็เดินเข้ามาพร้อมกับ เนื้อสองแพ็ค ยัยเรย์น่าจะไปซื้อมาไหมล่ะมั้ง หรือยัยเรย์เอาวัวตัวเมื่อกี้ไปเชือดมาล่ะเนี่ย
“แล้ววัวตัวนั้นหายไปไหนล่ะ” ฉันถาม
“เอาไปคืนแล้วคะ”
“งั้นก็แล้วไป เธอนี่ทำฉันเสียเวลาชะมัดเลย เธอเอาเนื้อไปหันเดี๋ยวนี้เลยนะ แล้วเอามาให้ฉัน”
“คะ คุณพี่”
แล้วยัยเรย์ก็เดินไปตรงมุมที่มีมีดกับเขียงแล้วลงมือหั่นซักพักเธอก็เดินมาหาฉันพร้อมกับเนื้อวัวที่หั่นแล้วมาด้วย แต่แม่คุณหั่นชิ้นหนาไปไหมเนี่ย เขาหั่นพอดีคำเธอดันหั่นพอดีสองสามคำเลยซะงั้นแต่ช่างเหอะ มีแต่ตัวกินจุอยู่แล้วนี่ ทำไซต์ใหญ่ๆหน่อยละกัน
หลังใส่เนื้อแล้วคนๆกวนๆให้เข้ากันและรอจนเนื้อสุกได้ที่ แต่จะให้อร่อยจริงๆมันต้องค้างคืนแล้วเอาเคี่ยวใหม่ถึงจะกลมกล่อมและเนื้อนุ่ม แต่สำหรับนายเก็นแล้วคงกิได้ล่ะมั้งเพราะนายนี่ไม่เคยจุกจิกเรื่องของกินซักเท่าไหร่ มีแต่นายเรียวล่ะมั้งที่จะติว่าอาหารฉันแย่อย่างโน้นอย่างนี้ ถ้าหมอนั้นว่าฉันจริงๆล่ะก็ฉันจะให้พ่อฉันส่งกลับอิตาลีไปเลย ก็พ่อฉันเป็นหัวหน้าพวกนั้นนี่
“คุณนามิคะฉันเตรียมอาหารส่วนของฉันเสร็จแล้วนะคะ” เสียงของคุณซากุระพูดขึ้น “แล้วคุณเสร็จหรือยังคะ มีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้ไหมคะ” และเธอก็ถามว่าให้ช่วยอะไรไหมทันที
“ไม่ดีกว่าคะแค่ของคุณก็ทำมากพอแล้ว ของฉันเดียวได้ที่แล้วก็ยกไปเสริฟได้แล้วล่ะค่ะ”
“งั้นก็เดี๋ยวฉันไปจัดโต๊ะรอนะคะ” แล้วเธอก็เดินออกไปเหลือฉันกับยัยเรย์แค่สองคน
“เรย์หยิบช้อนให้ทีสิ”
“ค่ะ” แล้วเธอก็หยิบมาให้ฉัน
“นี่ถามจริงๆเถอะ เธออยากได้วิญญาณฉันจริงๆนะเหรอ” ฉันกลืนน้ำลายเล็กน้อย
“ถามทำไมล่ะคะ”
“ก็แหม...ฉันแค่อยากรู้นี่ว่าเธอต้องรอคอยวิญญาณอีกกี่ดวงกันถึงจะครบร้อยแล้วเธอจะเธออิสระ”
“แค่วิญญาณของคุณพี่ดวงเดียวเท่านั้น ฉันก็หลุดออกจากแหวนวงนั้นแล้วล่ะค่ะ” อะไรนะ
“งั้นก็ฉัน ก็เป็นดวงวิญญาณที่ร้อยของเธอแล้วงั้นสิ”
“ใช่คะ” OoO
“งั้นเธอก็รอฉันตายอย่างเดียวนะสิ” ยัยนี่จะฆ่าฉันไหมเนี่ย(ยังระแวงอยู่)
“ไม่หรอกคะนายหญิง ผู้รับใช้ไม่มีสิทธิคร่าชีวิตของเจ้านายก่อนเขาจะหมดอายุขัย ไม่งั้นดวงวิญญาณดวงนั้นจะไม่กลายเป็นของผู้รับใช้เพราะเขาทำผิดสัญญา” ยัยนี่อ่านความคิดฉันอีกแล้ว
“คำสัญญาที่ว่านี่ยังไงเหรอ =_= ??”
“ก็อย่างเช่นจะต้องคอยปกป้องเจ้านายจนวาระสุดท้ายจะมาถึงอะไรทำนองนี้ล่ะคะ”
“งั้นฉันไม่สามารถตายด้วยน้ำมือเธอน่ะสินะ” O_O
“ถูกต้องค่ะนายหญิง”
“งั้นก็วางใจได้หน่อย” โล่งอก -_-
“นี่คุณพี่ไม่ไว้ใจฉันเลยเหรอ น้อยใจนะคะ” แล้วยัยเรย์ก็ตีหน้าเศร้าทันทีหึ หึ ยัยบ๊อง
“เปล่าๆไม่ใช่ฉันก็แค่ถามไปนั้น”
ตึง!!
เสียงเหมือนอะไรบางอย่างดังขึ้นบริเวณห้องกินข้าว พอฉันยกหม้อออกจากเตาแล้วเดินออกจากครัวไปดูก็พบว่า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ