จอมใจ....สุดที่รัก

7.7

วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.25 น.

  23 ตอน
  50 วิจารณ์
  123.68K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 21.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) +++ รักเรา….ยังหวานอยู่ (ไหม) 3 +++

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 http://ookbeetunwalai.s3.amazonaws.com/files/member/3183/1145229563-member.jpg

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

“ไปกันเถอะโจเซฟ”

 

                วิลเลียมเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาจนสารถีจำเป็นอย่างโจเซฟแทบจะไม่ได้ยินหากไม่ได้กำลังตั้งใจฟัง ดวงตาสีเข้มลอบมองเจ้านายของตนผ่านกระจกมองหลังด้วยแววตาที่แสดงถึงความเห็นใจ เพราะเขาเห็นทุกอย่างเหมือนกับที่นายใหญ่ของเขาเห็น หากแต่เขายังไม่รู้ความลึกตื้นหนาบางของเรื่องว่ามันไปยังไงมายังไงกันแน่ถึงได้กลับกลายมาเป็นแบบนี้ได้ แต่จะให้เขาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆของเจ้านายมันก็ไม่ใช่ เพราะหน้าที่ของเขาคือการทำตามคำสั่งคนในตระกูลนี้ และปกป้องคุ้มครองให้พวกเขาอยู่รอดปลอดภัยก็เท่านั้น เรื่องอื่นๆที่เจ้านายไม่ได้สั่งเขาจึงไม่มีวันเข้าไปยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด….หากว่าไม่จำเป็น!

 

 

                ส่วนอีกด้านหนึ่งก็กำลังปรึกษาหารือกันอย่างเคร่งเครียด หญิงสาวนั่งมองภาพถ่ายตรงหน้าซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้นด้วยความรู้สึกมึนหัวตึ้บไปหมด กาแฟอุ่นๆถูกคนเป็นเจ้าของเมินเฉยจนมันเย็นชืดไร้รสชาติความหอมกรุ่นไปเสียแล้ว หากแต่คนทั้งสองกลับไม่สนใจแม้แต่จะสั่งแก้วใหม่เลยสักนิด

 

“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะว่ามันเป็นเรื่องจริง” กานดากล่าวขึ้นเสียงเครียดพลางขมวดคิ้วแทบจะจับเป็นปมแน่น

 

“โมนิคก้าทำได้ทุกอย่างครับคุณกานดา แบบชนิดที่เรียกได้ว่าคุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว” ไมเคิลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดไม่แพ้กัน “รูปพวกนี้สาวๆเลสเซิ้ลเป็นคนส่งมาให้ผมเมื่อคืนเองครับ พอดีว่าวันนี้พวกเธอต้องไปเดินแบบและถ่ายโฆษณาที่ต่างประเทศ กว่าจะกลับเห็นบอกว่าอีกตั้งหลายอาทิตย์พวกเธอก็เลยส่งรูปมาให้ผมก่อน”

 

“คุณเอมิลี่กับคุณมีอาน่ะหรอคะ” หญิงสาวถามพร้อมกับทำตาโตด้วยความประหลาดใจ

 

“ใช่ครับ….เมื่อวานผมไปถ่ายรูปให้พวกเธอมาและหลังจากเลิกงานพวกเราก็เลยแวะดื่มกาแฟที่ร้านนี้ แล้วจู่ๆโมนิคก็โทรมาบอกให้ผมมาพบกับเธอที่ร้านฝั่งตรงข้ามพวกสาวๆก็เลยตามมาด้วย” ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะหยิบรูปที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดูบ้าง “แต่พวกเธอขอไปซื้อของกันก่อนแล้วค่อยตามมาคุณก็เลยได้เจอผมแค่คนเดียว พอพวกเธอตามเข้ามาในร้านพวกเธอก็ดันมาเห็นโมนิก้ากำลังยืนแอบถ่ายรูปคุณกับผมอยู่พอดี หลังจากนั้นโมนิคก็แอบไปคุยกับผู้หญิงคนนี้ที่ร้านกาแฟอีกร้านหนึ่งสาวๆก็เลยถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานตามที่เห็นในภาพนั่นแหละครับ”

 

“คุณโมนิก้าแอบถ่ายรูปเราหรอคะ” คำอธิบายของชายหนุ่มทำให้คนฟังยิ่งรู้สึกตื่นตระหนกเข้าไปใหญ่

 

“ครับ….ผมคิดว่าเธอคงจะเอาไปให้วิลเลียมดูแล้ว แต่….ไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่ไหมครับ” ไมเคิลเอ่ยพลางหรี่ตามองคนตรงหน้าเล็กน้อย

 

“ใช่ค่ะ คุณวิลก็ดูปกติดีทุกอย่าง”

 

               กานดาตอบพลางครุ่นคิด เมื่อคืนนี้เจ้านายสุดแสนจะรักของเธอก็ไม่เห็นมีท่าทีผิดปกติอะไรเลยแม้แต่น้อย จะมีก็แต่จู่ๆเขาก็เข้ามาสอนบทรักบทสวาทให้กับเธออย่างไม่พูดไม่จา แถมยังทำตัวเป็นสามีแสนใจดีเล่านิทานให้เธอฟังแต่ก็ดันหลับไปก่อนเสียอย่างนั้น ดูแล้ว….ก็ไม่เห็นว่าเขาจะมีท่าทีโมโหเธอเลยสักนิด ต่างจากปกติที่ถ้าได้เห็นเธอใกล้ชิดกับหนุ่มเพื่อนบ้านคนนี้ทีไร เป็นต้องทำหัวฟัดหัวเหวี่ยงขึ้นมาทุกที

 

เอ….หรือว่ามีอะไรที่เธอยังไม่รู้กันนะ?

 

“วิลเลียมน่ะถ้ารักใครแล้วเขาจะจริงจังและมั่นคงกับคนรักของเขามาก ถ้าไม่เห็นกับตาเขาไม่เชื่อหรอกครับ” คนเป็นเพื่อนรักเพื่อนชังของเจ้านายหนุ่มกล่าวเพิ่มให้เธอเข้าใจแจ่มแจ้งมากขึ้น

 

“ดาก็ภาวนาขออย่าให้เขาหลงเชื่อคนอื่นง่ายๆเหมือนกันค่ะ” หญิงสาวบอกพลางนึกไปว่าถ้าหากสามีทางพฤตินัยสุดที่รักของเธอดันเกิดหลงเชื่ออดีตคนรักเก่าของเขาขึ้นมา….แล้วเธอจะทำอย่างไร

 

“ผู้หญิงคนนี้เป็นเจ้าของร้านรับสักร่วมกับสามีของเธออยู่แถวๆชายหาด ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าโมนิก้าไปรู้จักมักจี่กับเธอได้ยังไง แต่โมนิคจ้างเธอมาหลอกคุณด้วยราคาหนึ่งหมื่นดอลลาร์….เยอะใช่ไหมล่ะครับ” ชายหนุ่มหันมาเข้าเรื่องต่อด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดเช่นเดิม

 

“เธอมีสามีแล้วหรอคะ” กานดาถามคนตรงหน้าด้วยความประหลาดใจมากเข้าไปใหญ่

 

“ใช่ครับ….แล้วเด็กในท้องก็เป็นลูกของเธอและสามี ไม่ใช่ลูกของวิลเลียมอย่างที่เธอโกหกคุณด้วย” ไมเคิลเอ่ยพร้อมกับมองใบหน้าหวานด้วยแววตาจริงจังพลางเลิกคิ้วข้างหนึ่งเล็กน้อย

 

“คุณโมนิก้าเธอทำแบบนี้เพื่ออะไรกันคะ” เสียงหวานเล็กถามออกมาด้วยความสับสนและงุนงงไปหมดกับเรื่องที่เกิดขึ้น

 

“ข้อแรกคือเพื่อให้คุณสองคนแตกหักกัน….คุณก็รู้ว่าสองคนนั้นเขาเคยคบหากันมาก่อน มันเป็นนิสัยของโมนิก้าที่ชอบชิงดีชิงเด่น ต้องการจะเอาชนะทุกๆคน ไม่เว้นแม้แต่วิลเลียมเองก็ตาม” เสียงทุ้มกล่าวด้วยความที่รู้นิสัยของนางแบบสาวคนนี้ดีไม่แพ้ใครๆ เพราะช่วงหนึ่งเขาก็เคยได้ควงหล่อนเหมือนกัน “ข้อสอง….ดูเหมือนเรื่องแผนการนี้จะเกี่ยวข้องกับพ่อของเธอด้วย แต่ผมก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่นัก”

 

“คุณพ่อของคุณโมนิก้าน่ะหรอคะ….เป็นไปได้ยังไง” คำสันนิษฐานของคนตรงหน้าทำเอาหญิงสาวต้องรู้สึกประหลาดใจและงุนงงมากเข้าไปใหญ่

 

“คงต้องสืบกันยาวแล้วล่ะครับทีนี้” ชายหนุ่มว่าพลางถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ดูเหมือนเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องจะกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาเสียแล้ว

 

               เพราะเมื่อเช้ามืดนี้เขาได้ข่าวจากเพื่อนนักสืบที่เขาวานให้ช่วยสืบเรื่องนี้ว่าผู้เป็นพ่อของนางแบบสาวกำลังทำบางสิ่งบางอย่าง ที่ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าฝ่ายนั้นกำลังทำอะไรแต่ที่แน่ๆคือมันเกี่ยวข้องกับเพื่อนหนุ่มข้างบ้านของเขาอย่างแน่นอน เพราะเพื่อนของเขาทำการสืบจนได้คำตอบมาว่าโมนิก้าเป็นคนอยู่เบื้องหลังเขาจึงทำการค้นหาความจริงต่อโดยการดักฟังการสนทนาผ่านโทรศัพท์ของสองพ่อลูกคู่นี้ ใจความคร่าวๆที่เพื่อนผู้นี้บอกเขาคือนายอีดีธ เจสซี่สั่งให้ผู้เป็นลูกหลอกล่อให้วิลเลียม เลสเซิ้ลนักธุรกิจรายใหญ่ติดกับหล่อนให้ได้ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม หากว่าหล่อนทำไม่สำเร็จก็ถึงขั้นจะตัดพ่อตัดลูกกันเลยทีเดียว เหมือนกับว่าผู้เป็นพ่ออยากได้ลูกเขยจนตัวสั่น เหมือนกับว่าเพื่อนหนุ่มข้างบ้านของเขาเป็นคนสำคัญสำหรับตระกูลเจสซี่เหลือล้นจนไม่อาจปล่อยให้หลุดมือไปได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย แต่จะหาเหตุผลมาอ้างเท่าไหร่เขาก็นึกไม่ออกเสียทีว่าฝ่ายโน้นจะต้องการตัวเพื่อนของเขาไปทำไม ในเมื่อเพื่อนของเขาก็ไม่ได้คิดจริงจังกับนางแบบสาวแสนมารยาคนนี้เลยสักนิด

 

คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขานี่ต่างหากล่ะ ที่เพื่อนหนุ่มข้างบ้านของเขาคิดจริงจัง….และยอมให้เป็นตัวจริงแต่เพียงผู้เดียว!

 

“แล้วฉันจะทำยังไงดีคะ ทำไมคุณโมนิก้าต้องให้คนมาเอาเงินจากฉันด้วย แถมยังตั้งสิบล้านดอลลาร์แน่ะมันไม่ใช่น้อยๆเลยนะคะ” กานดากล่าวด้วยความเป็นกังวล พลางคิดไม่ตกว่าทำไมอดีตคนรักของเจ้านายหนุ่มของเธอถึงอยากได้เงินตั้งมากมายจากเธอหนักหนา ในเมื่อหล่อนก็ออกจะรวยล้นฟ้าอยู่แล้วไม่ใช่หรือ

 

“เรื่องเงินนี่คงไม่ได้เกี่ยวกับโมนิก้าหรอกครับ คงเป็นความประสงค์ของผู้หญิงคนนั้นมากกว่า” เสียงทุ้มตอบออกไปตามความคิด

 

                หญิงสาวได้แต่นั่งขมวดคิ้วคิดไม่ตกกับเรื่องที่เกิดขึ้น หากเป็นตามที่คนตรงหน้าพูดมาทั้งหมดก็เท่ากับว่าตอนนี้เธอกำลังโดนหลอกอยู่เต็มๆ สันนิษฐานที่ว่าอดีตคนรักของเจ้านายหนุ่มอยากจะให้เธอและเขาแตกหักกันมันก็ฟังดูเข้าท่าอยู่หรอกเพราะก็ดูเหมือนว่าหล่อนยังคงรักเขาอยู่มากเหมือนกัน ดูได้จากตั้งแต่วันแรกที่เธอพบกับหล่อน การกระทำของหล่อนมันบ่งบอกว่ายังรักเขาอยู่เป็นไหนๆ จวบจนถึงทุกวันนี้ที่หล่อนจะคอยแวะมาหาเขาที่ทำงานเมื่อมีโอกาสทุกครั้งไป จนบางครั้งมันก็ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาเหมือนกัน แถมยังมีความรู้สึกเห็นใจหล่อนขึ้นมาเหมือนกันด้วย

 

               แต่ข้อที่บอกว่าเกี่ยวข้องกับผู้เป็นพ่อของหล่อนเธอไม่เห็นจะเข้าใจเลยสักนิด นึกไม่ออกเลยจริงๆว่ามันจะเกี่ยวกันตรงไหน คนเป็นผู้ใหญ่คงไม่เข้ามายุ่งเรื่องรักๆใคร่ๆของหนุ่มๆสาวๆหรอกกระมัง คงเป็นเรื่องที่ชายหนุ่มตรงหน้าเข้าใจผิดเสียมากกว่า การสันนิษฐานของเขาข้อแรกคงเป็นอะไรที่ถูกต้องที่สุดแล้ว

 

แต่ถ้าไม่ใช่….แล้วมันเกิดเป็นข้อสองที่ถูกขึ้นมา….เธอจะทำอย่างไร?

 

“ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆค่ะคุณไมเคิล” เสียงหวานกล่าวออกมาอย่างมืดแปดด้าน

 

“ค่อยๆคิดค่อยๆแก้กันไปครับคุณกานดา ถ้าผมได้หลักฐานชิ้นสำคัญมาเมื่อไหร่ผมจะรีบบอกคุณทันทีเลยนะ แต่ตอนนี้เรายังทำได้แค่เล่นไปตามแผนที่ฝ่ายโน้นวางไว้ก่อนเท่านั้น” เขากล่าวปลอบหญิงสาวกรายๆ พลางนึกเห็นอกเห็นใจที่ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอจะต้องมารับมือกับเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องแบบนี้

 

“ถ้าอย่างนั้นฉันว่าฉันไปหาผู้หญิงคนนั้นก่อนดีกว่าค่ะ นี่ก็นานมากแล้วเดี๋ยวเธอจะสงสัยเอา” เธอเอ่ยเมื่อมองนาฬิกาและเห็นว่ามันเลยเวลาที่เธอออกจากบ้านมานานมากแล้ว

 

“จริงสิ….เอาอย่างนี้ก็แล้วกันครับ ผมจะแอบเข้าไปในร้านกับคุณด้วย เผื่อว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลเราจะได้ช่วยกันแก้ไขสถานการณ์ได้ เพราะยังไงผู้หญิงคนนั้นก็ไม่รู้จักผมอยู่แล้ว”

 

“เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ งั้นเรารีบไปกันดีกว่า” กานดาเอ่ยพลางลุกขึ้นทำให้คนที่นั่งอยู่ต้องลุกขึ้นตามไปด้วย

 

                ทั้งสองรีบไปยังร้านกาแฟที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโดยที่ชายหนุ่มเดินเข้าไปในร้านก่อนและไปยังโต๊ะที่นั่งหันหลังติดกับหญิงสาวที่ว่างอยู่พอดี ร่างเล็กเดินเข้ามาในร้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและเพียงแค่ส่งยิ้มบางเฉียบให้กับอีกฝ่ายที่ส่งยิ้มกว้างให้กับเธอเท่านั้น มือเรียวที่ลูบท้องนูนๆวนไปวนมาทำเอาใบหน้าหวานต้องเลิกคิ้วขึ้นโดยอัตโนมัติและจ้องตามดั่งคนกำลังครุ่นคิด

 

“นั่งสิคะ” เสียงยียวนตามแบบฉบับบอกกับเธออย่างสบายอารมณ์ “หาได้หรือยังคะเงินสิบล้านดอลลาร์น่ะ”

 

“ยังไงฉันก็หามาให้คุณไม่ได้หรอกค่ะ เงินตั้งเยอะแยะขนาดนั้นฉันจะไปเอามาจากที่ไหน….แต่ถ้าคุณจะให้ฉันผ่อนจ่าย ฉันก็ยินยอมค่ะ” คนถูกทวงเงินตอบด้วยน้ำเสียงหนักๆ ใบหน้าสวยมีแต่ความตึงเครียดจนคนเห็นอดที่จะหัวเราะเยาะอยู่ในใจไม่ได้

 

“หึ…น่าตลกดีนะคะ” หล่อนกล่าวพลางเหยียดยิ้ม

 

“มีอะไรน่าตลกงั้นหรอคะ” เสียงหวานถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ นี่เธอเครียดจนจะบ้าตายอยู่แล้วอีกฝ่ายกลับมาพูดว่าน่าตลกอย่างนั้นหรือ

 

“ไม่น่าเชื่อเลยว่าสมัยนี้ยังจะมีคนทำตัวเป็นนางเอ๊กนางเอกอย่างคุณอยู่ด้วย….ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ค่อยชอบทานปลาสินะคะ” หล่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติของหล่อน หากแต่ฟังแล้วดูเหมือนหล่อนกำลังจิกกัดเธออยู่ก็มิปาน

 

“ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูดหรอกค่ะ แล้วคุณมีอะไรหรือคะถึงได้นัดฉันออกมาหาคุณอย่างนี้” เธอเอ่ยปัดตัดเรื่องไป พลางมองคนตรงหน้าด้วยสายตาจริงจัง “แต่ถ้าเป็นเรื่องเงินฉันขอบอกเลยว่าตอนนี้ฉันยังไม่มีให้คุณค่ะ”

 

“คุณบอกวิลเลียมหรือยังคะ….เรื่องที่เกิดขึ้นน่ะ” หล่อนยังคงทำหน้าสบายอารมณ์ พลางเหยียดยิ้มเล็กน้อยเมื่อถามคำถามนั้นออกไป

 

“ฉันไม่ได้บอกคุณวิลค่ะ เพราะคุณสั่งไม่ให้ฉันบอกนี่คะ” กานดาตอบออกไปตามความจริง แต่นั่นกลับสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนตั้งคำถามได้อย่างดีเยี่ยม จนใบหน้าหวานต้องเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

 

“แล้วคุณก็เชื่อน่ะเหรอคะ” หล่อนเอ่ยถามอย่างติดตลก “ฉันไม่คิดเลยว่าจะเจอผู้หญิงไทยแบบคุณ….ที่ทำตัวซื่อจนโง่ ไม่ยอมลืมหูลืมตาขึ้นมาดูอะไรบ้างเลย” ก่อนที่หล่อนจะจิกกัดฝ่ายตรงข้ามด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงการเหยียดหยามอย่างไม่มีอ้อมค้อม ทำเอาใบหน้าหวานต้องรู้สึกตึงชาขึ้นมาในทันทีที่โดนด่าว่าตรงๆ

 

“ฉันเป็นคนไม่ชอบผิดคำพูดกับใครค่ะ ในเมื่อคุณบอกไม่ให้ฉันบอกคุณวิลเลียมฉันก็ต้องทำตามเป็นธรรมดา เพราะเรื่องนี้มันก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆซะที่ไหนล่ะคะ แถมคุณยังมาขู่ฉันไว้กับไอ้คลิปบ้านั่นอีกต่างหาก แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะคะ” หญิงสาวตอกกลับไปอย่างเหลืออด เธออุตส่าห์ไม่บอกเจ้านายสุดที่รักของเธอเพราะเกรงว่าคนตรงหน้าและลูกในท้องจะได้รับอันตราย แต่ที่ได้กลับมาคือการต้องมาโดนหล่อนด่าหาว่าเธอซื่อจนโง่อย่างนั้นน่ะหรือ มันไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ

 

“ก็เพราะมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆยังไงล่ะคะ….คุณนี่ไร้เดียงสาจริงๆคุณกานดา ไม่ทันโลกอย่างนี้แล้วจะไปสู้อะไรกับใครเขาได้เหนี่ย” หล่อนยังคงว่าเธอต่อก่อนจะส่ายหน้าไปมาเล็กน้อยอย่างคนกำลังรู้สึกเอือมละอา

 

“คุณต้องการอะไรจะฉันกันแน่คะ” หญิงสาวถามกลับไปด้วยน้ำเสียงดุแข็ง ก็เธอไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่ถึงได้โดนใครว่าแล้วจะไม่รู้สึกกรุ่นโกรธ เธอก็เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งเหมือนกับหล่อนนะ จะไม่ให้เธอรู้สึกโมโหหล่อนได้อย่างไร  

 

“เหมือนเดิม….เงินสิบล้านดอลลาร์ตามที่ตกลงกันไว้” หล่อนตอบอย่างสบายๆ ไม่คิดจะรู้สึกเห็นอกเห็นใจคนตรงหน้าบ้างเลยสักนิด

 

“ฉันก็ยืนยันคำเดิมค่ะว่าไม่มีให้คุณ แต่ฉันจะจ่ายคุณเป็นรายเดือนแทนก็แล้วกันนะคะหากว่าคุณตกลง” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักๆ พลางยื่นข้อเสนอให้ฝ่ายตรงข้ามลดหย่อนผ่อนปรนให้เธอบ้าง

 

“คุณไม่สงสัยบ้างหรอคะว่าใครจ้างฉันมา” จู่ๆอีกฝ่ายก็เปลี่ยนประเด็นจากเรื่องเงินมาตั้งข้อสงสัยให้เธอแทน

 

“ถ้าฉันสงสัย….คุณจะบอกฉันไหมคะ” เสียงหวานถามกลับไปอย่างลองเชิง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่ออีกฝ่ายกลับบอกความจริงออกมาอย่างง่ายดาย

 

“โมนิก้าไงล่ะคะ” หล่อนกล่าวเสียงดังฟังชัดพลางเหยียดยิ้ม “นางแบบหยิ่งนั่นเป็นคนจ้างฉันมาเองค่ะ เธอเป็นคนบอกให้ฉันมาหลอกคุณว่าฉันท้องกับคุณวิลเลียม เลสเซิ้ล ซึ่งความจริงแล้วฉันท้องกับสามีของฉันต่างหากไม่ใช่กับเขา แล้วฉันก็ไม่เคยนอนกับเขาด้วย บอกได้เลยว่าฉันแทบจะไม่รู้จักเขาเลย รู้ก็แต่ว่าเขาเป็นนักธุรกิจชื่อดังที่หล่อเหลาก็เท่านั้น”

 

                คำตอบของหล่อนทำเอาคนที่ฟังอยู่ต้องรู้สึกอึ้งไปตามๆกัน หญิงสาวได้แต่งุนงงและสับสนว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้บอกความจริงกับเธอง่ายดายขนาดนี้ ทั้งๆที่หล่อนยังคงขู่เอาเงินจากเธออยู่ปาวๆ หรือว่าฝ่ายนั้นจะมีเรื่องบาดหมางกันเสียแล้วหล่อนถึงได้เอาเรื่องนี้มาบอกกับเธอโดยตรง แถมยังเป็นคนเสนอข้อสงสัยให้กับเธอเองเสียด้วย

 

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ล่ะเนี่ย!

 

“เธออยากให้คุณกับคุณวิลเลียมเลิกกัน เพื่อที่เขาจะได้หันมาสนใจเธอ และเธอจะได้เข้าไปอยู่ในชีวิตของเขาได้ง่ายขึ้นค่ะ” เสียงยียวนกล่าวเสริมให้คนตรงหน้าต้องงุนงงมากเข้าไปใหญ่

 

“ทำไมคุณถึงเอาเรื่องนี้มาบอกฉัน” กานดาถามกลับด้วยความประหลาดใจอย่างยวดยิ่ง

 

“ฉันเห็นว่าเราเป็นคนไทยด้วยกัน และฉันก็ไม่อยากสร้างบาปไปมากกว่านี้เพราะอีกไม่กี่เดือนเจ้าตัวน้อยก็จะลืมตาดูโลกแล้ว” หล่อนตอบก่อนจะหัวเราะออกมาเล็กน้อย “ความจริงแล้วเพราะสามีของฉันดันมารู้เรื่องนี้จากใครบางคนเข้า แล้วมันก็ทำให้เขาโกรธฉันมากจนแทบจะหักคอฉันได้เลยทีเดียว โชคดีที่ฉันตั้งท้องลูกของเขาอยู่เขาเลยสั่งให้ฉันมาเล่าความจริงทุกอย่างให้คุณฟังแทน ฉันก็เลยมาสารภาพบาปกับคุณนี่แหละค่ะ”

 

“อย่างนั้นหรอคะ” เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา ดวงตากลมหรี่ตาลงและเสมองไปทางอื่นดั่งกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

 

“แต่ว่า….โมนิคก้าไม่ได้ทำเพื่อตัวเองหรอกนะคุณรู้ไว้ซะด้วย” คำพูดของอีกฝ่ายทำให้หญิงสาวต้องหันไปมองใบหน้าสวยนั้นด้วยความสงสัยอีกครั้ง

 

“แล้วเธอทำเพื่ออะไรกันคะ” เธอถามกลับอย่างไม่รอช้า รู้สึกหัวใจเริ่มเต้นแรงเมื่อนึกถึงคำพูดของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังเธอขึ้นมา

 

“เพื่อพ่อของเธอค่ะ….เธอต้องเข้าหาคุณวิลเลียมให้ได้มากที่สุด….เพื่อพ่อของเธอ” หล่อนตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ไม่มีการล้อเล่นหรือยียวนกวนประสาทแบบที่หล่อนชองทำใดๆทั้งสิ้น

 

“มันหมายความว่ายังไง….” หญิงสาวถามต่อด้วยน้ำเสียงเลื่อนลอยเพราะรู้สึกสับสนและงุนงงไปหมดจนจับต้นชนปลายไม่ถูก

 

“พ่อของเธอต้องการจะฮุบบริษัทของคุณวิลเลียมมาเป็นของตัวเองค่ะ อันนี้ฉันไม่ได้พูดพล่อยๆนะคะ พอดีฉันดันไปได้ยินเธอคุยกับพ่อของเธอเข้า ความลับของเธอจึงอยู่ที่ฉัน….เธอก็เลยไม่กล้าทำอะไรฉันยังไงล่ะคะ” คำตอบของหล่อนทำเอาคนฟังต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจไปตามๆกันอีกครั้ง

 

“อะ….อะไรนะคะ!”

 

“ฉันบอกคุณได้แค่นี้แหละค่ะ ส่วนเรื่องหลังจากนี้คุณก็ไปตามสืบกันเอาเองนะคะ….คุณไมเคิล” หล่อนกล่าวอย่างยิ้มๆก่อนจะเอียงตัวมองคนที่อยู่ด้านหลังของหญิงสาวอีกคน ทำเอาคนโดนเรียกชื่อเกือบจะสำลักน้ำลายตายเองในทันใด จนต้องหันมามองใบหน้าสวยด้วยความแปลกใจอย่างยวดยิ่งที่หล่อนรู้จักเขา

 

“แต่ยังไงฉันก็ยังอยากได้เงินสิบล้านดอลลาร์อยู่นะคะ ถ้าคุณอยากจะผ่อนให้ฉันเป็นรายเดือนฉันก็ยินดีค่ะ” หล่อนพูดแบบติดตลกอีกครั้งก่อนที่ร่างอวบอั๋นจะลุกขึ้น “ไปก่อนนะคะ ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองค่ะ”

 

                กานดาและไมเคิลมองว่าที่คุณแม่ที่ก้าวฉับอย่างมั่นใจเดินออกจากร้านไปด้วยความอึ้งทึ่งในสิ่งที่หล่อนบอกยังไม่หาย ก่อนที่ทั้งสองจะหันมองหน้ากันแบบงุนงงว่าเมื่อครู่นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สิ่งที่พวกเขาได้รับฟังมันคือเรื่องจริงใช่ไหม นักธุรกิจรายใหญ่อย่างวิลเลียม เลสเซิ้ลผู้ซึ่งเป็นเพื่อนข้างบ้านของชายหนุ่มกับผู้เป็นเจ้านายสุดที่รักของหญิงสาวกำลังโดนหุ้นส่วนรายใหญ่หวังทำลายให้สิ้นทรัพย์ โดยการฮุบบริษัทอันใหญ่โตนี้มาเป็นของตนอย่างไม่ละอายใจเลยสักนิด

 

“มันเป็นอย่างนี้นี่เอง….มิสเตอร์อีดีธต้องการจะฮุบบริษัทของวิลเลียมเองหรอกหรือ” เสียงทุ้มกล่าวขึ้นในที่สุด

 

“เราควรต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกให้คุณวิลเลียมรู้นะคะคุณไมเคิล เรื่องตอนที่คุณวิลถูกลอบยิงจะต้องเป็นฝีมือของคุณพ่อคุณโมนิก้าแน่ๆค่ะ เรารีบไปหาเขากันเถอะนะคะ” เสียงหวานบอกออกมาด้วยความร้อนใจ ร่างเล็กรีบลุกขึ้นยืนโดยเร็วพลันหากแต่มือใหญ่กลับรั้งเอาไว้เสียก่อน

 

“แต่เรายังไม่มีหลักฐานอะไรเลยนะครับคุณกานดา”

 

“ไว้ค่อยหาทีหลังก็ได้ค่ะ แต่ตอนนี้ฉันต้องไปหาคุณวิลให้เร็วที่สุด ไม่แน่ว่าตอนนี้คุณโมนิก้าอาจจะอยู่กับคุณวิลแล้วก็ได้”

 

                เธอเอ่ยพลางแกะมือแกร่งออกจากข้อมือเล็กและรีบเดินออกจากร้านกาแฟไปอย่างเร็วรี่ เรียกได้ว่าแทบจะวิ่งออกไปเลยทีเดียวทำให้ร่างใหญ่ต้องรีบวิ่งตามร่างเล็กไปติดๆ หัวใจดวงน้อยได้แต่นึกภาวนาว่าขอให้อย่าพึ่งเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกในตอนนี้เลย เพราะเธอคงจะรับมือไม่ไหวเป็นแน่หากว่าเรื่องวุ่นๆจะเกิดขึ้นให้สถานการณ์กลับกลายเป็นยุ่งเหยิงมากเข้าไปอีก แต่อะไรๆมันก็เกิดขึ้นได้หากว่าเธอไม่รีบไปหาเขา ตอนนี้….

 

ผู้หญิงแสนร้ายกาจคนนั้นอาจจะกำลังเป่าหูเขาอยู่แล้วก็เป็นได้!

 

               

 

                ขวดเหล้าชั้นดีถูกวางเคียงคู่แก้วใบใสที่มีน้ำเมาอยู่เพียงแค่ค่อนแก้ว ก่อนที่มันจะถูกเติมเต็มจนแทบจะปริ่มล้นและหมดไปภายในชั่วพริบตา ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำเพราะฤทธิ์ของสุราที่ดื่มเข้าไปอันมากล้นโดยไม่คิดจะสนใจคนที่อยู่ในห้องอีกคนด้วยเลยสักนิด มือแกร่งยังคงกระดกเหล้าเข้าปากอย่างไม่ยอมลดละ แถมยังไม่ยอมพูดยอมจาอะไรเลยแม้แต่คำเดียวจนคนที่นั่งมองอยู่เป็นนานสองนานแล้วต้องนิ่วหน้า และยื้อมือหนาเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาเติมเหล้าลงในแก้วที่เขาจับไม่ยอมปล่อยได้อีก

 

“พอได้แล้วค่ะวิล ดื่มเยอะขนาดนี้เดี๋ยวก็เมาหรอกค่ะ” โมนิก้าเอ่ยห้ามอดีตคนรักหนุ่มด้วยเสียงเข้มเล็กน้อย แต่ดูเหมือนว่าคำห้ามปรามของหล่อนจะไม่เป็นผลเสียแล้ว เพราะตอนนี้คนตรงหน้าหล่อนเกิดอาการมึนเมาเป็นที่เรียบร้อย หากแต่ยังครองสติอยู่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

“มันเรื่องของผม” วิลเลียมกล่าวพร้อมกับสะบัดมือให้หลุดออกจากมือเรียว ก่อนที่เขาจะเทน้ำเมาลงในแก้วอีกครั้งและดื่มมันให้หมดเพียงรวดเดียวอีกหน

 

“แต่ฉันเป็นห่วงคุณหนิคะ….แล้วนี่จะบอกได้หรือยังคะว่าคุณเป็นอะไร มีเรื่องไม่สบายใจอะไรถึงได้ดื่มเหล้าแต่เช้าอย่างนี้” หล่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงตามที่พูดจริงๆ พลางแกล้งถามคำถามออกไปทั้งๆที่หล่อนเองก็รู้คำตอบอยู่แล้วว่าที่อดีตคนรักหนุ่มมีอาการเช่นนี้….มันเกิดขึ้นเพราะฝีมือเธอเองทั้งนั้น!

 

                เมื่อเช้ามืดนี้หล่อนเป็นคนส่งข้อความอันหวามหวานไปให้เลขาสาวสุดที่รักของอดีตแฟนหนุ่มเองกับมือ อย่างไม่ลืมที่จะลงท้ายด้วยชื่อของคนที่หล่อนเคยควง เพราะหล่อนรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะต้องอยู่กับผู้หญิงอีกคนเป็นแน่ แต่ก็ไม่แน่ใจนักว่าเขาจะได้อ่านข้อความที่หล่อนส่งไปหรือเปล่า หล่อนก็เลยใช้วิธีส่งข้อความไปเป็นระยะๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะได้อ่านข้อความของหล่อน ไม่ข้อความใดก็ข้อความหนึ่ง แล้วก็ดูเหมือนว่ามันจะได้ผลอย่างยวดยิ่ง เมื่อหล่อนมาหาเขาที่บริษัท และเห็นว่าเขากำลังกระหน่ำดื่มเหล้าเหมือนสภาพคนกำลังอกหักอยู่ก็มิปาน

 

“เกี่ยวกับเลขาของคุณใช่ไหมคะ” เสียงเซ็กซี่ถามออกไปให้ทิ่งแทงใจคนที่กำลังชอกช้ำเล่น ก่อนที่มือเรียวจะเอื้อมไปจับมือแกร่งไว้อีกหนพลางลูบเบาๆเป็นการปลอบใจ “มีอะไรก็เล่าให้ฉันฟังได้ ฉันพร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอนะคะวิลเลียม”

 

“ผมไม่มีอะไรจะบอกคุณ เพราะคุณไม่ใช่ภรรยาของผม….และไม่ใช่คนที่ผมรักด้วย” เสียงทุ้มเข้มบอกออกมาด้วยน้ำเสียงเข้มห้วน ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับหน้าชาและต้องกัดฟันแน่นเลยทีเดียว

 

“แต่อย่างน้อยเราก็เคยรักกัน….อย่างน้อยฉันก็ยังรักคุณอยู่นะคะวิล” หากแต่หล่อนกลับกดอารมณ์ที่คุกรุ่นเอาไว้ และปรับเปลี่ยนสีหน้าให้เศร้าสร้อยลงพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อยแทน

 

“หึ….ถ้าคุณรักผมจริง คุณคงไม่หายตัวไปเป็นปีๆอย่างนี้หรอก” ชายหนุ่มว่าพลางเบ้ปากและมองคนตรงหน้าอย่างเหยียดๆ ก่อนที่ร่างใหญ่จะหมุนร่างและมองออกไปนอกผนังกระจกใสให้ไกลสุดลูกหูลูกตาแทน

 

“ฉันขอโทษนะคะ แต่ทุกอย่างมันกะทันหันไปหมด” หญิงสาวกล่าวพลางลุกขึ้นและเดินไปหาเขา ก่อนที่ร่างเพรียวสูงจะโน้มตัวลงโอบกอดกายแกร่งจากด้านหลังอย่างแนบชิด และกระซิบข้างใบหูร้อนอย่างแผ่วเบา “ให้โอกาสฉันอีกสักครั้งนะคะวิล”

 

‘แกร๊ก!!’

 

“คุณวิลคะ!”

 

                เสียงหวานที่ดังขึ้นอย่างร้อนรนหลังจากที่ประตูเปิดออกทำให้ร่างใหญ่ต้องสะดุ้งโหยงและรีบผลักร่างเพรียวให้ออกห่างจากตัวพลางลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ ทั้งคู่หันไปมองร่างเล็กที่ยืนเบิกตากว้างอ้าปากค้างอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน ฝ่ายหนึ่งรู้สึกเหมือนเนื้อตัวกำลังถูกเผาไหม้จนเหงื่อแทบตกก็มิปาน ส่วนอีกฝ่ายกลับรู้สึกสะใจจนต้องยิ้มเหยียดออกมาเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามานั้นคือคนที่หล่อนกำลังพยายามเขี่ยให้ตกกระป๋องไป!

 

                กานดามองคนทั้งสองสลับไปสลับมาอย่างพูดอะไรไม่ออก ความรู้สึกเจ็บจุกเกิดขึ้นทันทีเมื่อเธอได้เห็นภาพอันบาดตาบาดใจนั้น หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำจนเธอต้องนำมือเรียวแนบอกข้างซ้ายเอาไว้ ความรู้สึกน้อยใจและเสียใจถ่าโถมเข้ามาจนเธอแทบอยากจะร้องไห้ หากแต่ในเวลานี้มันไม่ใช่เวลาที่เธอจะแง่งอนเขา เพราะเธอรู้ทุกอย่างดีอยู่แล้วว่าที่ผู้หญิงอีกคนกำลังทำอยู่นั้นมันคือการหลอกลวงคนที่เธอรักทั้งสิ้น

 

เวลานี้จึงเป็นเวลาของการเปิดโปงความจริงเพียงเท่านั้น!

 

“ออกไปให้ห่างจากเจ้านายของฉันเดี๋ยวนี้!” เสียงหวานบอกกับหญิงสาวอีกคนด้วยเสียงกร้าวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนคนได้ยินถึงกับต้องเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงุนงง

 

“ฉันบอกว่าให้ออกไปไง!” เธอย้ำเสียงดุเข้มอีกครั้งพลางย่างสามขุมไปหาร่างเพรียวบางที่รีบคว้าแขนแกร่งเอาไว้ทันที

 

“หยุดเดี๋ยวนี้นะกานดา! อย่ามาทำตัวหยาบคายกับแขกของผมอย่างนี้นะ คุณนั่นแหละที่ต้องออกไป!”

 

                คำพูดของชายหนุ่มทำเอาหญิงสาวหยุดชะงักและเบิกตากว้าง นี่เขาหลงเชื่อหล่อนไปแล้วอย่างนั้นหรือ หล่อนเป่าหูเขาสำเร็จแล้วอย่างนั้นใช่ไหม ไม่ได้! เธอจะยอมง่ายๆไม่ได้! ถึงอย่างไรเธอจะต้องบอกความจริงกับเขา เพื่อให้เขาหูตาสว่างเสียที!

 

“คุณกำลังโดนคุณโมนิก้าหลอกนะคะคุณวิล เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นฝีมือของเธอ พ่อของเธอกำลัง….” เธอตั้งต้นจะอธิบายความจริงให้เขาฟัง หากแต่เสียงทุ้มกลับกล่าวปัดตัดบทขึ้นมาเสียก่อน

 

“ออกไปก่อนกานดา ผมยังไม่อยากคุยกับคุณตอนนี้”

 

“แต่ว่าคุณวิลคะ….”

 

“ผมบอกว่าให้ออกไปไง!!”

 

                เสียงเข้มกร้าวที่ตะหวาดออกมาดังลั่นทำเอาคนโดนไล่ต้องรู้สึกตึงชาไปทั้งตัว เหมือนมีคนเอาน้ำอันเย็นเจี๊ยบสาดใส่ตัวเธออย่างไม่ปราณี จนเธอแทบไม่สามารถจะขยับตัวไปไหนได้เลยสักนิด หากแต่หญิงสาวอีกคนนี่สิกลับรู้สึกสะใจอย่างยวดยิ่งที่เอาชนะมารหัวใจของตัวเองได้ จนต้องเหยียดยิ้มออกมาอีกครั้งและมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้ซีดเผือดด้วยแววตาหยามเหยียดอย่างผู้ที่เหนือกว่า

 

“คุณไล่ฉันหรอคะ” เสียงหวานถามกลับไปเสียงสั่นเครือ แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะไล่เธออย่างนี้ได้ลงคอ

 

“ใช่! ผมไล่คุณ….ออกไปได้แล้ว”

 

                ฤทธิ์สุราที่มากล้นทำให้เขาพูดออกไปแบบนั้น ทั้งๆที่ในหัวใจของเขาตอนนี้มันร่ำร้องหาแต่คนตรงหน้า ไม่ใช่คนที่ยืนอยู่ข้างกายเลยสักนิด หากแต่ความเจ็บช้ำที่เธอทำไว้กับเขามันมากล้นจนน้อยเนื้อต่ำใจเกินจะทานทน จนแทบไม่อยากจะเห็นหน้าหรือได้ยินเสียงเธอเลยแม้เพียงนิด

 

แต่ทำไมหัวใจมันกลับไม่เห็นด้วยกับความคิดของเขาเลยหนา….ทำไมมันถึงเรียกร้องบอกกับเธอว่าอย่าไปจากเขาเลย….อย่าเดินออกจากห้องนี้….และเปลี่ยนเป็นวิ่งมาโอบกอดเขาไว้แทนเถอะนะ….

 

                กานดามองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างยวดยิ่ง น้ำตาหยดใสค่อยๆไหลลงอาบแก้มทั้งสองข้างอย่างสุดจะกลั้น เขาเชื่อใจที่เคยมีให้แก่กันบัดนี้ถูกทำลายให้ย่อยยับโดยอดีตคนรักของเขาไปหมดแล้วสินะ ตอนนี้เธอคงเป็นแค่เศษสวะในสายตาของเขาไปแล้ว เธอคงกลายเป็นผู้ใจง่ายต่ำช้า ที่เร่หาและจับแต่ผู้ชายรวยๆเพื่อบำเรอตัวเอง เขาคงมองเธอเป็นแบบนี้แล้วสิ….เขาถึงไล่เธอไปให้พ้นๆหน้าอย่างกับหมูกับหมาแบบนี้

 

รักของเรามันไม่หวานอีกแล้วใช่ไหม….รักของเรามันมีใครมาทำลายได้แล้วใช่หรือเปล่า….คงไม่มีวันนั้นแล้วสินะ….วันที่มีแต่ความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน….มีแต่ความมั่นคงในรักจนยากที่ใครจะมาทำให้เราแตกหักจากกันได้

 

คงไม่มีวันนั้นแล้วจริงๆ….

 

                ร่างบอบบางที่เหลือเรี่ยวแรงอันน้อยนิดค่อยๆหันหลังกลับพร้อมกับเก็บกักก้อนสะอื้นเอาไว้ไม่ให้หลุดออกมา ก่อนที่กายสาวจะวิ่งออกจากห้องไปด้วยความเจ็บช้ำจนยากที่จะทนยืนสู้หน้าต่อ ทำให้ภายในห้องในเวลานี้มีแต่ความเงียบปกคลุมโดยรอบหลังจากที่ประตูบานสวยถูกปิดลงอย่างแรง กายหนุ่มแทบจะทรุดตัวลงกับพื้นหากว่าเขาไม่ฝืนตัวเองไว้เสียก่อน ดวงตาแดงก่ำจ้องไปทางประตูตาเขม็งเหมือนกับว่าอยากจะให้มันเปิดออกอีกครั้ง จนคนที่ยืนอยู่ข้างๆต้องใช้มือเรียวแตะไปที่ต้นแขนของเขาเบาๆเพื่อให้เขารู้สึกตัว

 

“ไม่เป็นไรนะคะวิล” โมนิก้าถามคนข้างกายด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่บ่งบอกถึงความเห็นใจ แต่ข้างในของเธอกลับกำลังหัวเราะลั่นเมื่อแผนการสำคัญของหล่อนมันประสบความสำเร็จเกินคาด

 

                ร่างใหญ่ทรุดตัวลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง มือแกร่งกุมเข้าหากันแน่นจนแขนแข็งแรงมีเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคมยังคงจ้องมองไปข้างหน้าหากแต่แววตากลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่าจนหญิงสาวต้องนำมือแตะต้นแขนเขาอีกครั้ง ก่อนที่ร่างเพรียวบางจะโน้มตัวลงโอบกอดกายกำยำอีกหน เพื่อเรียกคะแนนความดีความชอบให้กับตนดั่งคนที่เห็นแก่ตัวอย่างน่าเกลียด  

 

“วิลคะ….ฉันรักคุณมากนะคะ ต่อไปนี้ฉันสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างคุณอย่างที่คุณต้องการ ฉันจะไม่หนีคุณไปไหนอีกแล้วค่ะ ให้โอกาสฉันนะคะ” หล่อนกระซิบแผ่วบอกกับเขาก่อนจะกดจูบลงบนแก้มสากนั้นเบาๆ หากแต่คำตอบที่หล่อนได้รับกลับมันแทบทำให้หล่อนกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวสุดขีด

 

“แต่ผมไม่ต้องการคุณ” วิลเลียมตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำพลางแกะแขนเรียวที่กำลังโอบรัดเขาออก ก่อนจะลุกขึ้นยืนและหันมามองใบหน้าสวยด้วยสายตาเย็นชาจนหล่อนรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาในทันใด “ผมไม่ต้องการคุณโมนิก้า คนที่ผมต้องการตลอดชีวิต….คือคนที่พึ่งวิ่งออกไปจากห้องเมื่อกี้รู้ไว้ซะ”

 

                กล่าวจบกายแกร่งก็ก้าวฉับตรงไปยังประตูและออกจากห้องไปในทันที ทิ้งให้อดีตคนรักสาวต้องยืนทำตาค้างพูดอะไรไม่ออก ความรู้สึกเจ็บจุกกับคำตอบทำเอาน้ำตาหยดใสแทบจะไหลออกมาหากว่าหล่อนไม่กลั้นมันเอาไว้ ความเจ็บแค้นยิ่งฝังตัวอยู่ในร่างกายจนไม่อาจจะทนทานได้อีกต่อไป หล่อนจึงกรีดร้องสุดเสียงเหมือนคนที่กำลังคลุ้มคลั่ง และเริ่มต้นทำลายข้าวของที่อยู่บนโต๊ะทำงานหรูของผู้เป็นเจ้าของบริษัท จนลามไปถึงโต๊ะทำงานของหญิงสาวอีกคนที่หล่อนไม่สามารถจะเอาชนะได้เลยแม้แต่เพียงนิด

 

ไม่! หล่อนไม่มีวันให้ผู้หญิงคนนั้นมาเอาชนะหล่อนได้! หล่อนจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่หล่อนต้องการ แม้จะต้องแลกด้วยเลือดด้วยเนื้อของใครสักคนหล่อนก็ยอม!

 

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา