จอมใจ....สุดที่รัก

7.7

วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.25 น.

  23 ตอน
  50 วิจารณ์
  123.69K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 21.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) +++ นางมารร้าย....ในคราบนักบุญ! ++++

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 Bernardo Velasco

 

VS

 

 

 

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

                เป็นเวลากว่าสองเดือนแล้วที่หญิงสาวมาใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนเสรีชนแห่งนี้ กานดามองคนที่นั่งอยู่ข้างกายที่ตอนนี้กำลังตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารเช้าเพื่อเพิ่มกำลังวังชา หลังจากเมื่อค่ำคืนที่ผ่านเขาและเธอได้เข้าสู่สังเวียนสวาทอันแสนเร่าร้อน ที่หลอมละลายให้คนทั้งสองเป็นหนึ่งเดียวจนเธออดหน้าแดงไม่ได้เมื่อนึกถึงมัน ความหวานและความรักที่เขาเติมเต็มให้กับเธออยู่ทุกวันนั้นมันช่างมากล้นเสียจนเธอไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้รับจากใครที่ไหนอีก

 

 

และมันเหมือนเป็นบ่วงโซ่….ที่ตรวนหัวใจของเธอให้ติดอยู่กับเขา….อย่างไม่มีทางจะหลุดพ้นไปไหนได้ แม้ว่าร่างกายของเธอจะแหลกสลายไปตามกาลเวลาแล้วก็ตาม!

 

 

                แต่ก็อีกนั่นแหละ….ทุกๆวันที่ผ่านมาเธอก็ต้องเจอสองสาวฝาแฝดแห่งตระกูลเลสเซิ้ลข่มขู่ไม่เว้นแต่ละวัน คนน้องยังไม่เท่าไหร่เพราะดูเหมือนหล่อนจะเพียงแค่ทำตามพี่สาวสุดที่รักเท่านั้น และดูเหมือนว่าหล่อนอยากจะเป็นมิตรกับเธออยู่มากเสียด้วย หากแต่คนพี่นี่สิที่แสบสันได้ใจจนเธอต้องปวดหัวจี๊ดทุกครั้งที่ได้เจอ ทั้งแกล้งโน่นแกล้งนี่ ทั้งถากถางเหน็บแนมต่างๆนาๆเหมือนกับว่าเธอกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของหล่อนไปแล้วเสียอย่างนั้น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอทำสีหน้าไม่ดีเหมือนดั่งคนจะร้องไห้ขึ้นมาจริงๆแล้วล่ะก็ หล่อนก็จะพูดเป็นเสียงอ้อมแอ้มว่าแค่นี้ไม่เห็นจะต้องร้องไห้ ทำตัวเป็นเด็กขี้แยแล้วอย่างนี้พี่ชายของหล่อนจะรักเธอลงได้ยังไง ก่อนที่ร่างอวบอั๋นจะเดินปึงปังจากไปด้วยสีหน้าที่ยุ่งเหยิงพร้อมกับผู้เป็นน้องสาวที่มักจะปลอบใจเธอแบบเร็วๆและวิ่งตามผู้เป็นพี่ไป

 

 

“เดี๋ยวเราไปโรงพยาบาลกันก่อนนะ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อทั้งคู่เข้ามานั่งในรถคันหรูทางด้านเบาะหลังเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อเดินทางไปยังบริษัท หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จสรรพ

 

 

“ไปทำไมเหรอคะ” หญิงสาวถามกลับพลางมองใบหน้าหล่อคมด้วยความสงสัย

 

 

 

 

“ผมจะพาคุณไปตรวจอะไรสักหน่อย….นี่ก็ผ่านมาตั้งเดือนกว่าแล้วเผื่อจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นบ้าง” วิลเลียมตอบก่อนจะหันไปมองลูกน้องหนุ่มอย่างโจเซฟ ที่ชำเลืองมองเขาผ่านทางกระจกหลังอย่างรู้ทันอยู่ก่อนแล้ว “ออกรถเลยโจเซฟ ขับให้ไวที่สุดเลยนะ แต่อย่าทำเมียฉันตกใจล่ะไม่งั้นฉันจะหักเงินเดือนนาย เข้าใจมั้ย”

 

 

“ครับเจ้านาย” โจเซฟรับคำอย่างขำๆพลางส่ายหน้าไปมาเล็กน้อยกับอาการห่วงเมียจนเกินเหตุของเจ้านายบังเกิดเกล้า ก่อนที่เขาจะออกรถไปยังโรงพยาบาลประจำตระกูลเลสเซิ้ลทันที

  

 

              วันนี้ที่โรงพยาบาลดูจะมีคนมาใช้บริการเยอะอยู่พอควร ทำให้คู่รักหนุ่มสาวที่เดินเข้ามาในโรงพยาบาลสุดหรูนี้นั้นต้องเป็นที่จับตามองเพราะความโด่งดังของชายหนุ่มที่ไม่เป็นรองใครในเกาะปาล์มบีชแห่งนี้ กานดามองหน้าเจ้านายสุดที่รักด้วยความสงสัย รอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุขถูกแต่งแต้มอยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลาไม่ยอมจางหายทำให้เธออดนึกแปลกใจไปกับเขาไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ได้เปิดปากถามออกมาจนในที่สุดเธอก็รู้คำตอบเมื่อเขาและเธอเดินมาถึงแผนกผู้ป่วยนอกแล้ว

 

 

“ผมพาภรรยามาตรวจการตั้งครรภ์ครับ” เสียงทุ้มพูดออกไปเสียงดังฟังชัด ก่อนจะจัดแจงคว้ากระเป๋าสะพายมาจากคนข้างกายและนำบัตรสำคัญต่างๆออกมาให้นางพยาบาลที่เป็นคนทำเรื่อง เล่นเอาเหล่าสาวๆที่รู้จักนายใหญ่แห่งตระกูลเลสเซิ้ลเป็นอย่างดีต้องทำตาโตและหันมามองเป็นตาเดียว

 

 

“ว่าอะไรนะคะคุณวิล” เสียงหวานถามกลับไปด้วยความตกใจไม่แพ้กัน

 

 

“ผมพาคุณมาตรวจครรภ์….เผื่อว่าจะมีเจ้าตัวเล็กอยู่ในนั้นสักคนสองคนน่ะ” ชายหนุ่มว่าพลางฉีกยิ้มให้ภรรยาทางพฤตินัยสุดสวยด้วยความสุขที่เอ่อล้นเมื่อได้พูดถึงเจ้าตัวน้อยที่อาจจะนอนคุดคู้อยู่ในท้องแบนราบนั้นแล้วก็เป็นได้

   

 

             หญิงสาวอ้าปากค้างทำตาโตเมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา เจ้าตัวเล็กอย่างนั้นหรือ….เธอนี่นะจะมีเจ้าตัวเล็กของเขาอยู่ในท้อง โอ้! คงเป็นไปไม่ได้ล่ะ….เพราะหนึ่งเดือนกว่าที่ผ่านมาหลังจากที่เธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาในวันนั้นเธอก็รับประทานยาคุมกำเนิดมาตลอด ด้วยความช่วยเหลือของแม่บ้านอาวุโสประจำตระกูลที่เป็นคนหาซื้อยามาให้เพราะรู้ว่าเขาและเธอคงยังไม่พร้อมที่จะมีทายาทสืบสกุลในตอนนี้ และเนื่องจากเธอกับเขายังไม่ได้เข้าพิธีแต่งงานกันจึงเป็นการเสี่ยงอย่างมากหากว่าตัวเธอเองเกิดตั้งท้องขึ้นมาจริงๆแล้วเกิดว่าเขาหมดรักเธอขึ้นมา คราวนี้ไม่ใช่แค่เธอที่จะลำบาก แต่กลับพ่วงลูกน้อยที่จะต้องมาลำบากตรากตรำไปกับเธอด้วย 

 

 

มันจึงเป็นเรื่องไม่ผิดอะไรที่เธอคิดอยากจะป้องกันเอาไว้ก่อน เพราะอะไรๆมันก็ไม่แน่นอน และอนาคตที่มองไม่เห็นมันก็ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!

 

 

เผื่อว่าเขาจะหมดรักเธอ เผื่อว่าเขาจะอยากมีคนใหม่ เผื่อวันใดที่เขาเกิดรู้สึกเบื่อเธอขึ้นมา….ลูกของเธอจะได้ไม่ต้องโดนตราหน้าว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ….เหมือนอย่างเธอ….

 

 

“ขอพบหมอลูคัสนะครับ” วิลเลียมกล่าวเสียงชื่นกับพยาบาลสาวที่สะดุ้งตื่นจากภวังค์ตกใจเมื่อได้ยินเสียงของเขาและรีบดำเนินการให้เขาในทันที

 

 

“เดี๋ยวก่อนค่ะคุณวิล” ร่างเล็กรีบรั้งร่างใหญ่ไว้เมื่อเขาทำท่าจะพาเธอไปนั่งรออยู่ตรงที่นั่งไม่ไกลนัก

 

 

“ว่าไงครับที่รัก” ชายหนุ่มหันไปถามภรรยาทางพฤตินัยสุดที่รักด้วยความสงสัย

 

 

“เอ่อ….คือ….”

 

 

“เชิญทางนี้เลยค่ะคุณผู้หญิง”

  

 

              ไม่ทันที่กานดาจะได้พูดอธิบายอะไรพยาบาลสาวก็เรียกเธอให้ไปรับการตรวจเสียก่อน ดวงตาหวานมองใบหน้าคมด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อย ก่อนจะต้องยอมจำใจเดินตามนางพยาบาลไปเมื่อมือแกร่งดันเธอเบาๆเป็นการบอก

    

 

            เมื่อร่างเล็กเดินหายลับไปร่างใหญ่จึงเดินไปนั่งรอยังเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกลจากเคาน์เตอร์นัก ใบหน้าหล่อเหลายังคงมีรอยยิ้มจางๆแต่งแต้มให้รู้ว่าตอนนี้เขากำลังมีความสุขมากแค่ไหน ความอยากเป็นพ่อคนทำให้หัวใจดวงแกร่งยิ่งพองโตมากเข้าไปใหญ่เมื่อนึกถึงเจ้าตัวน้อยที่กำลังนอนหลับอุตุอยู่ในท้องของคุณแม่คนสวย แล้วก็อดรู้สึกลุ้นอยู่ในใจไม่ได้ว่าเขาอาจจะได้ลูกแฝดอันแสนจะน่ารัก และอาจจะแสนแสบสันเหมือนดั่งสองสาวฝาแฝดสุดที่รักแห่งตระกูลเลสเซิ้ลก็เป็นได้

     

 

           คิดแล้วมันก็น่าขำตัวเองอยู่เหมือนกัน….จู่ๆเขาก็คิดอยากจะมีครอบครัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น อยากจะมีภรรยาที่คอยส่งยิ้มหวานๆให้เขาได้ชุ่มฉ่ำหัวใจ อยากจะมีลูกน้อยกลอยใจให้ครอบครัวเล็กๆกลายเป็นครอบครัวที่อบอุ่นและสมบูรณ์แบบ เป็นเพราะอะไรกันน้าที่ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไปได้ถึงขนาดนี้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนเรื่องอย่างนี้ไม่เคยมีอยู่ในความคิดเขาเลยสักนิด ถึงจะมีผู้หญิงสวยๆมาลายล้อมไม่เคยขาด แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะจริงจังกับใคร ไม่เคยคิดจะยกย่องผู้หญิงคนไหนให้เป็นภรรยาสุดที่รักของเขาเลย แต่กลับผู้หญิงคนนี้….คนที่ทำให้หัวใจของเขามันเหมือนกลับมามีความรู้สึกอีกครั้ง ความรู้สึกที่เรียกว่า ‘รัก’ ที่เขาไม่ได้มอบให้ใครมาเนิ่นนาน หลังจากที่บิดาและมารดาของเขาลาจากโลกนี้ไป….

 

 

เปรียบเหมือนดั่งเธอคือของขวัญที่พระผู้เป็นเจ้ามอบให้ เหมือนทรงมอบอีกครึ่งหนึ่งของหัวใจคืนกลับมาให้กับเขา ให้ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แม้เงา ได้กลับมาสุกสว่างและไม่เงียบเหงาต่อจากนี้….ไปจนนิรันดร์

   

 

             ชายหนุ่มนั่งไปอมยิ้มไปอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่รู้ว่าถูกใครบางคนลอบมองผ่านแว่นตากันแดดสีชาเลยสักนิด ดวงตาเฉี่ยวคมนั่งมองร่างใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลด้วยสายตาดุแข็ง ฉายแววไปด้วยความริษยาที่เคลือบคลุมจิตใจให้ร้อนรุ่มเป็นไฟจนร่างเพรียวสวยแทบจะนั่งไม่ติดกับที่

 

 

           โมนิก้ากำมือแน่นจนฝ่ามือทั้งสองเกิดเป็นรอยบุ๋มลึกเพราะเล็บยาวมล หล่อนมานั่งจ่อมอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้เพื่อรอผลตรวจสุขภาพเป็นนานสองนั้นแล้ว ทำให้หล่อนได้ยินและได้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ เหตุการณ์ที่ทำให้หล่อนรู้สึกเจ็บจุกอยู่กลางอกและปวดร้าวตรงกลางใจอย่างน่าแปลก เพียงแค่ได้ยินว่าเขาพาหญิงสาวอีกคนมาตรวจการตั้งครรภ์ หัวใจของหล่อนมันกลับสั่นคลอนและเจ็บจี๊ดจนเหมือนมีคนเอามีดมากรีดให้ขาดวิ่น รอยยิ้มนุ่มที่หล่อนไม่เคยได้รับจากเขาแม้เพียงครั้งเดียว แต่เขากลับมอบให้ผู้หญิงต่างชาติคนนั้นอย่างง่ายดายและบ่อยครั้งจนหล่อนนับไม่ได้ มันช่างทำร้ายจิตใจของหล่อนจนแทบจะเกินทนเสียเหลือเกิน

 

 

        หล่อนปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเคยตกหลุมรักผู้ชายคนนี้เข้าอย่างเต็มเปา ก็ใครบ้างล่ะจะไม่หลงรักเขาในเมื่อเขาออกจะเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง ทั้งฐานะที่ร่ำรวยล้นฟ้า ทั้งหน้าตาที่หล่อเหลารูปร่างที่กำยำสมชายชาตรี การแต่งตัวที่จะต้องดูดีและเนี๊ยบตลอดเวลา เสน่ห์อันมากล้นที่สามารถดึงดูดให้เหล่าหญิงสาวเข้าหาเพียงแค่กระดิกนิ้วหรือใช้แววตาในการสื่อสารเท่านั้น แล้วใครบ้างล่ะจะไม่อยากได้เขามาควงคู่เพื่อให้ตนมีหน้ามีตาและทำให้ผู้หญิงคนอื่นอิจฉาเล่น….นั่นมันน่าภูมิใจไม่ใช่หรือ

 

 

          แต่ด้วยบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้หล่อนต้องหักห้ามหัวใจของตัวเอง ให้มองเขาเป็นเพียงชายคนหนึ่งที่หล่อนแค่อยากจะสนุกด้วยเท่านั้น ของเล่นชิ้นสำคัญที่หล่อนต้องคว้าเอาไว้ด้วยร่างกายไม่ใช่ด้วยหัวใจ เพื่อใครอีกคนที่หล่อนรักยิ่งกว่าใครคนไหนในโลกทั้งหมด!

 

 

เพราะหน้าที่ในตอนนี้ของหล่อน คือการเป็นลูกที่ดีของผู้เป็นบิดาบังเกิดเกล้า ด้วยการเชื่อฟังและทำตามคำสั่งต่างๆ ถึงแม้ว่าหล่อนจะอยากทำหรือไม่ก็ตาม….

 

 

แต่หัวใจมันกลับเรียกร้อง ให้หล่อนคว้าสิทธิ์ในตัวเขาที่เคยเป็นของหล่อน สิทธิ์ที่ได้มีเขาไว้ครอบครอง สิทธิ์ที่จะได้กกกอดกายแกร่งนั้นอีกครั้ง….ให้หัวใจได้อุ่นซ่านเหมือนเมื่อวันวานที่หล่อนและเขาเคยมีกันและกัน

 

 

“ฉันเองนะ” เสียงเซ็กซี่พูดกับปลายสายที่พึ่งกล่าวทักหลังจากที่รับสายเมื่อครู่

 

 

“มีอะไรถึงโทรมาเช้าซะขนาดนี้คะคุณโมนิค….หรือว่าจะให้ฉันเริ่มทำงานตั้งแต่วันนี้” เสียงปลายสายกล่าวกับหล่อนด้วยน้ำเสียงที่ฟังคล้ายเหยียดหยันและเสแสร้งแกล้งพูดดีเสียมากกว่า

 

 

“ใช่….ฉันอยากให้เธอเริ่มทำงานวันนี้ เธอคงรู้แล้วนะว่าฉันต้องการแบบไหน” โมนิก้าบอกกับคนปลายสายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สายตาเฉี่ยวคมยังคงมองคนตรงหน้าที่ยังนั่งรอภรรยาสุดที่รักไม่ยอมไปไหน

 

 

“ค่ะ ฉันรู้” คนปลายสายตอบพลางแสยะยิ้มเล็กน้อย “และหวังว่าผลตอบแทนจะเป็นไปอย่างที่ฉันต้องการด้วยนะคะ”

 

 

“ยิ่งกว่าที่เธอต้องการแน่….แค่นี้แหละแล้วค่อยคุยกันใหม่” หล่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่หล่อนจะต้องกดวางสายเมื่อเห็นหญิงสาวอีกคนเดินมาหาอดีตแฟนหนุ่มและพากันเดินเข้าไปในห้องตรวจของนายแพทย์แล้ว

 

 

 

                กานดามองหน้าสามีทางพฤตินัยอย่างหวั่นใจ เธออยากจะพูดออกไปว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะอุ้มท้องลูกน้อยของเขาเพราะเธอรับประทานยาคุมกำเนิดอยู่ทุกวัน แต่พอเห็นสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความหวังของเขาแล้วมันกลับทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก ส่วนคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็ได้แต่ฉีกยิ้มให้นายแพทย์หนุ่มเพื่อนรัก ที่นั่งกลั้นขำอยู่ในใจกับอาการอยากจะมีลูกเกินเหตุของเพื่อนหนุ่ม ทั้งๆที่แต่ก่อนเรื่องแบบนี้ไม่เคยมีอยู่ในหัวของเพื่อนคนนี้เลยสักนิด

 

 

“ผลเป็นยังไงบ้างหมอ” วิลเลียมถามออกไปด้วยความอยากรู้จนแทบจะขาดใจอยู่รำไร

 

 

“เสียใจด้วยนะเพื่อน นายคงต้องบำรุงตัวเองเยอะๆหน่อยแล้วล่ะ เพราะผลออกมาบอกว่าเธอยังไม่ตั้งครรภ์” ลูคัสเอ่ยก่อนจะเอื้อมมือไปตบบ่าแกร่งของเพื่อนรักเบาๆเป็นเชิงแกล้งปลอบใจ

 

 

“จริงเหรอ….นายตรวจผิดหรือเปล่าลูคัส ฉันว่าผลตรวจของนายคงมีปัญหาแน่ๆพาเธอไปตรวจใหม่เถอะ” คนอยากมีลูกเอ่ยด้วยความหวังที่ยังมีอยู่ริบหรี่

 

 

“ไม่ผิดหรอกวิลเลียม เธอยังไม่ได้ตั้งครรภ์จริงๆ” หมอหนุ่มตอบก่อนจะส่ายหน้าไปมาเล็กน้อยกับความรั้นของเพื่อนรัก “ฉันว่าเอาเวลาที่นายมานั่งเถียงกับฉันอยู่นี่ไปทำการบ้านของนายดีกว่านะ จะได้ไม่ต้องมานั่งทำหน้าหงอยอยู่อย่างนี้”

 

 

“แย่จังเลยดา….หรือว่าผมจะไม่สามารถมีลูกได้กัน” ใบหน้าคมทำแววตาเศร้าสร้อยพร้อมกับทำสีหน้าสลดจนหญิงสาวอดรู้สึกผิดจนจับหัวใจไม่ได้

 

 

“ไม่ใช่หรอกค่ะคุณวิล เอ่อ….คือว่าความจริงแล้วดา….” กานดาทำท่าจะบอกความจริงออกมา หากแต่ก่อนที่เธอจะได้บอก เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของเขาก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

 

 

“ว่าไงโจเซฟ” วิลเลียมกล่าวทักปลายสายก่อนที่สีหน้าเศร้าสลดจะเปลี่ยนมาเป็นเคร่งขรึมเมื่อปลายสายกล่าวกับมา “เจออะไรแล้วงั้นหรือ….ได้….เดี๋ยวฉันออกไป”

 

 

“รอผมอยู่ที่นี่ก่อนนะดา เดี๋ยวผมมาแปบเดียว” เขาหันมากล่าวกับเธอพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆเมื่อวางสายจากลูกน้องคนสนิทไปแล้ว ก่อนที่ร่างใหญ่จะเดินออกจากห้องตรวจไปทิ้งให้คนทำผิดต้องนั่งทำหน้าหงอยใส่นายแพทย์หนุ่มผู้แสนใจดี

 

 

“คุณคงต้องหมั่นบำรุงตัวเองด้วยเหมือนกัน เพราะดูท่าว่าเพื่อนของผมเขาอยากจะมีลูกกับคุณจริงๆ” หมอหนุ่มกล่าวพลางส่งยิ้มนุ่มให้กับเธอ “ยังไงก็ช่วยทำให้เขาสมหวังหน่อยนะครับ”

 

 

“คือคุณหมอ….” กานดาเอ่ยเสียงแผ่วพลางก้มหน้า ก่อนเธอจะเงยหน้าขึ้นแล้วส่งยิ้มแหยๆให้กับนายแพทย์หนุ่ม “ความจริงแล้วเป็นเพราะฉันทานยาคุมกำเนิดน่ะค่ะ ผลก็เลยออกมาเป็นแบบนี้”

 

 

“อ้าว! แล้วคุณไม่ได้บอกวิลเลียมหรือ” ลูคัสถามพลางทำตาโตด้วยความตกใจ

 

 

“ใช่ค่ะ….ฉันยังไม่ได้บอกคุณวิล” ใบหน้าหวานก้มหน้าตอบด้วยความรู้สึกผิด ทำเอาคนที่ได้ยินคำตอบถึงกับนิ่งเงียบไปเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา

 

 

“เฮ้อ….คุณควรจะบอกเขานะครับ เพราะเรื่องนี้มันสำคัญกับเขามาก ถ้าคุณไม่บอกแล้วเขามารู้ทีหลังมันอาจจะกลายเป็นเรื่องแย่เอาได้” คุณหมอหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจังเล็กน้อย

 

 

“กลับจากโรงพยาบาลฉันคงจะบอกเขาแล้วค่ะ เพราะฉันก็ไม่อยากมีความลับกับเขา แล้วก็ไม่อยากให้เขาคิดมากด้วย” หญิงสาวเอ่ยตามความคิดของตัวเอง เพราะเธอก็ไม่อยากจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับโดยที่ไม่จำเป็นเลยสักนิด แล้วมันก็จริงที่ว่าหากเขามารู้เรื่องนี้ทีหลังแบบที่เธอไม่ได้เป็นคนบอก มันคงจะต้องกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่โตอย่างแน่แท้

 

 

“ดีแล้วครับ วิลเลียมน่ะเขาไม่ชอบคนโกหกแล้วก็ไม่ชอบคนที่ปิดบังเรื่องที่เกี่ยวกับเขาด้วย ยิ่งดูเขาจะอยากมีลูกซะขนาดนี้คุณก็ควรบอกเขาให้เร็วที่สุดจะดีกว่า” นายแพทย์หนุ่มบอกด้วยความที่รู้จักเพื่อนรักคนนี้เป็นอย่างดี พลางอดนึกสงสารเพื่อนคนนี้ไม่ได้ที่ตัวเองอุตส่าห์หวังจะได้มีลูกน้อยกลอยใจกับเขาบ้าง แต่แม่ของลูกดันคิดป้องกันเสียอย่างนั้น สงสัยเพื่อนของเขาคงได้มีหวังรอไปอีกนานแสนนานเป็นแน่

 

 

“ค่ะ….ขอบคุณนะคะคุณหมอ” กานดาเอ่ยขอบคุณคนตรงหน้าที่ให้คำแนะนำ พลางส่งยิ้มบางๆให้กับเขา

 

 

“ไม่เป็นไรครับ” ลูคัสกล่าวพลางส่งยิ้มอ่อนโยนกลับ

 

 

“คุยอะไรกันอยู่หรือ” วิลเลียมเดินเข้ามาในห้องตรวจอีกครั้งด้วยสีหน้าที่ชื่นมื่นเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปจับแขนเรียวเพื่อให้ร่างเล็กลุกขึ้นยืน “ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะหมอ ไว้เดี๋ยวเดือนหน้าฉันจะพาเมียมาหาใหม่”

 

 

“ฉันสั่งยาบำรุงไปให้นายกับเมียนายแล้วนะ ขยันทำการบ้านล่ะเข้าใจมั้ย” คุณหมอหนุ่มตอบกลับไปอย่างติดตลก

 

 

“แน่นอนอยู่แล้วหมอ แล้วเจอกันนะ”

 

 

                 ชายหนุ่มกล่าวอย่างยิ้มๆก่อนจะพาภรรยาสุดที่รักออกจากห้องตรวจไปยังแผนกรับยา ก่อนที่จะพากันตรงไปยังบริษัทของเขาในทันทีเมื่อได้ยาบำรุงที่เพื่อนรักสั่งให้เรียบร้อยแล้ว

 

 

 

                 วันนี้ดูเหมือนเป็นวันที่ยุ่งเหยิงสำหรับประธานบริษัทหนุ่มและเลขาสาวแสนสวย เพราะตั้งแต่พวกเขาก้าวเข้ามาในห้องทำงานก็แทบจะไม่ได้เงยหน้ามองกันเลยแม้แต่น้อย แฟ้มเอกสารที่วางเป็นกองเพนินอยู่บนโต๊ะทำงานตรงหน้าทำเอาใบหน้าหล่อคมต้องขมวดคิ้วเข้าหากันจนแทบจะจับเป็นปมแน่น แต่ใช่ว่าความหวานจะจางหายไปจากคนทั้งสอง เพราะทุกๆหนึ่งชั่วโมงร่างใหญ่ก็จะลุกไปหาร่างเล็กเพื่อเพิ่มความชุ่มฉ่ำให้กับหัวใจ โดยการโอบกอดกายสาวไว้และหอมแก้มนิ่มทั้งสองข้างเสียฟอดใหญ่ ตบท้ายด้วยการมอบจุมพิตหวานๆให้กับเธอเป็นรางวัล เพียงแค่นี้ความเหนื่อยหน่ายและความเมื่อยล้าที่ครอบคลุมกายแกร่งนั้นก็กลับมลายสลายไปหมดสิ้นแล้ว

 

 

“วันนี้วันเงินเดือนออกนะดา” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นถึงแม้ว่าดวงตาคมจะไม่ละจากตัวหนังสือหยุบหยับที่อยู่ตรงหน้าก็ตาม

 

 

“จริงด้วยสิคะ….ถ้าอย่างนั้นก่อนกลับบ้านดาขอไปโอนเงินให้คุณลุงคุณป้าได้ไหมคะ” กานดากล่าวเสียงใสพลางแย้มยิ้มพิมพ์ใจให้กับชายหนุ่มเมื่อเขาเงยหน้ามามองเธอ

 

 

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับที่รัก” เขาพูดพร้อมกับกางแขนออกเป็นการบอกให้เธอมาอยู่ในอ้อมอกของเขา เธอจึงลุกขึ้นและเดินไปนั่งแหมะอยู่บนตักแกร่งแต่โดยดี พลางโอบกอดกายกำยำไว้และพิงศีรษะกับบ่ากว้างอันแสนอบอุ่น

 

 

“แต่วันนี้คุณคงต้องไปกับโจเซฟนะ เพราะผมยังต้องสะสางงานอีกตั้งเยอะ แถมอีกเดี๋ยวก็ต้องเข้าประชุมอีกไม่รู้ว่าจะเลิกเมื่อไหร่” ชายหนุ่มว่าพร้อมกับโอบกอดกายสาวตอบ

 

 

“ไว้รอให้คุณเคลียร์งานเสร็จแล้วค่อยแวะตอนเรากลับก็ได้หนิคะ” เธอเอ่ยพลางเงยหน้ามองใบหน้าหล่อคมที่ก้มมองเธอด้วยเหมือนกัน

 

 

“อย่าเลยเดี๋ยวจะมืดค่ำซะเปล่าๆ วันนี้คุณกลับไปรอผมที่บ้านก่อนก็แล้วกันนะ” วิลเลียมกล่าวก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากอิ่มสวยของคนในอ้อมกอดให้ชื่นใจเสียหนึ่งจุ๊บ

 

 

“แต่ว่าดา….” เสียงหวานทำท่าจะคัดค้าน หากแต่ถูกเสียงทุ้มขัดขึ้นมาเสียก่อน

 

 

“ไม่มีแต่ครับที่รัก ผมสัญญาว่าจะไม่ไปเถลไถลที่ไหน แล้วก็สัญญาว่าจะกลับไปหาคุณให้เร็วที่สุด….แต่คืนนี้คุณต้องให้รางวัลผมทั้งคืนเลยนะ”

 

 

“คุณวิล….” กานดาครางเสียงเรียกเจ้านายหนุ่มพลางทำหน้ายุ่งเล็กน้อย

 

 

“ผมเอาจริงนะดา คืนนี้ถ้าผมเสกลูกน้อยเข้าท้องคุณไม่ได้แล้วล่ะก็ผมจะไม่ยอมปล่อยคุณจริงๆด้วย” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่แฝงไปด้วยความหยอกเย้าตามแบบฉบับของคนชอบแกล้ง หากแต่คำพูดของเขานั้นกลับทำให้อีกฝ่ายรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมาในทันที

 

 

“คือ….คุณวิล ความจริงแล้วดา….”

 

 

‘กริ๊ง! กริ๊ง!’

 

 

               เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวถึงกับต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา ความตั้งใจที่จะบอกความจริงให้เขาฟังกลับกลายเป็นสูญสิ้นไปอีกครั้งเมื่อเธอถูกขัดจังหวะอีกหน ใบหน้าหวานทำหน้าเซ็งเล็กน้อยก่อนที่ร่างระหงจะเดินไปยังโต๊ะทำงานของตัวเองและรีบรับสายทันทีเพราะกลัวว่าปลายสายจะกดวางไปเสียก่อน

 

 

“สวัสดีค่ะ กานดาพูดสายค่ะ” เสียงหวานทักคนปลายสาย ก่อนที่เธอจะวางสายลงดั่งเดิมเมื่อมิสซิสเทนดี้บอกกับเธอว่าผู้เป็นหุ้นส่วนของบริษัทได้มาถึงบริษัทเรียบร้อยแล้วและวางสายไป

 

 

 “คุณอีเดนรออยู่ที่ห้องประชุมแล้วค่ะคุณวิล” เธอหันไปกล่าวกับเจ้านายสุดที่รักที่ทำหน้าหงอยทันทีเมื่อได้ยินคำนั้น

 

 

“ว้า….หมดเวลาสนุกแล้วสิ ถ้าอย่างนั้นคุณเก็บของกลับบ้านเถอะดา ไม่ต้องเข้าประชุมกับผมหรอกเพราะมันนาน” วิลเลียมเอ่ยพลางลุกขึ้นและเดินไปหาภรรยาทางพฤตินัยสุดที่รักและโอบกอดเธอไว้อย่างแนบแน่น ก่อนจะหอมแก้มนุ่มเสียฟอดใหญ่ให้ชื่นใจ “โอนเงินเสร็จแล้วก็รีบกลับบ้านล่ะเข้าใจมั้ย แล้วผมจะรีบเคลียร์งานและรีบกลับไปหาคุณเหมือนกันนะที่รัก”

 

 

“คือดา….” หญิงสาวพยายามจะบอกเรื่องที่เก็บเอาไว้ในใจอีกครั้ง หากแต่กลับถูกเขาขัดไม่ให้พูดเสียอย่างนั้นด้วยความที่เข้าใจว่าเธอจะขอร้องให้เขายอมให้เธออยู่รอ แทนที่จะกลับไปยังคฤหาสน์ก่อนเขาเหมือนดั่งที่เคยเป็นมาทุกครั้งที่เขาบอกให้เธอกลับก่อน

 

 

“ไปได้แล้วครับคนสวย” ว่าเสร็จมือแกร่งก็จูงมือเรียวเล็กพาให้เธอเดินออกมาจากห้องทำงานและตรงไปยังหน้าบริษัทที่มีลูกน้องคนสนิทอย่างโจเซฟยืนคอยเปิดประตูรถให้อยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่เขาจะหันมาทำตาเจ้าเล่ห์ใส่เธอเล็กน้อย “อย่าลืมนะครับคืนนี้เรามีนัดกัน….รอผมด้วยนะที่รัก อย่าหลับก่อนล่ะไม่งั้นโดนผมทำโทษไม่รู้ด้วย”

 

 

                พูดจบใบหน้าหล่อคมก็โน้มมากดจูบลงบนพวงแก้มนุ่มและสูดดมความหอมเสียฟอดใหญ่ เล่นเอาดวงหน้าใสแดงระเรื่อขึ้นมาในทันใดเพราะความเขินอายสายตาของเหล่าพนักงานที่อยู่ตรงบริเวณนั้น ก่อนที่กายกำยำจะเดินกลับเข้าไปในบริษัทอีกหนทิ้งให้คนที่กำลังขวยเขินต้องยืนมองตามเก้อ จนเมื่อเสียงทุ้มของสารถีจำเป็นดังขึ้นจึงทำให้เธอหลุดพ้นจากภวังค์ได้

 

 

“โถ่คุณวิล….ดาขอโทษนะคะ”

 

 

               กานดาโอดครวญพลางทำหน้าเศร้าสลดเพราะความรู้สึกผิดกับเรื่องที่ยังคงถูกปิดบังเอาไว้ ก่อนที่ร่างเล็กจะรีบเดินขึ้นรถไปเพราะเกรงใจผู้เป็นลูกน้องหนุ่มของเจ้านายใหญ่ที่เปิดประตูรอเธออยู่นานแล้ว หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอีกครั้งด้วยความรู้สึกอึดอัดจนแน่นอกไปหมด ดวงตาหวานมองทอดออกไปนอกหน้าต่างรถยนต์คันหรูที่กำลังแล่นไปยังธนาคารแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก

  

 

              ร่างสวยลงจากรถอย่างเหม่อลอยเมื่อถึงที่หมายเรียบร้อยแล้ว ย่านถนนที่เธอยืนอยู่นี้ในช่วงเย็นย่ำตั้งแต่เวลาหลังเลิกงานก็จะเต็มไปด้วยเหล่าคนรวยที่เดินสวนกันไปมาให้ขวักไขว่ ย่านธุรกิจย่านหนึ่งที่มีตึกพาณิชย์ตั้งเรียงรายอยู่ริมสองข้างทางของถนน ร้านกาแฟต่างๆเปิดให้สำหรับเหล่านักธุรกิจที่มานั่งจิบในช่วงพักหรือในช่วงหลังเลิกงานโดยเฉพาะ รวมถึงเหล่าธนาคารชื่อดังต่างๆที่มีมากจนเกือบจะเรียงเป็นแถวยาวจนทำให้หญิงสาวรู้สึกตาลายไปหมด    

 

 

“โอ๊ะ! ขอโทษค่ะ”

 

 

              เสียงหวานกล่าวขอโทษเป็นภาษาอังกฤษกับคนที่เธอเดินชนเมื่อสักครู่ ก่อนที่เธอจะส่งยิ้มบางๆให้กับร่างอวบอึ๋มที่แย้มยิ้มให้เธออยู่ก่อนแล้ว ใบหน้าสวยคมดูจะออกไปทางชายเอเชียมากกว่าจะเป็นชาวตะวันตก คิ้วเรียวสีเข้มกับดวงตาเฉี่ยวคมที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางสีขรึมช่างดูเข้ากันเป็นอย่างดี จมูกที่ค่อนข้างโด่งดูรับกับใบหน้ารูปไข่ยิ่งนัก เรียวปากที่แต่งแต้มด้วยสีแดงสดช่างดึงดูดสายตาเธอให้จ้องมองหล่อนเสียเหลือเกิน จนเธอต้องเปลี่ยนมาเป็นยิ้มเก้อเขินเพราะอดแอบที่จะชื่นชมในความสวยของคนตรงหน้าเสียไม่ได้

 

 

“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันเดินไม่ระวังเอง ขอโทษจริงๆค่ะ” กานดาเอ่ยคำขอโทษอีกครั้งตามนิสัยถ่อมตนของตัวเอง

 

 

“ไม่เป็นไรค่ะ” หล่อนตอบเป็นภาษาไทยที่ดังฟังชัดจนใบหน้าหวานต้องเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจเล็กน้อย

 

 

“คุณเป็นคนไทยหรอคะ” หญิงสาวถามกลับอย่างสงสัยด้วยภาษาไทยเช่นกัน

 

 

“ใช่ค่ะ ฉันเป็นคนไทย” หล่อนกล่าวก่อนจะแอบเหลือบมองเธอตั้งแต่เท้าจรดศีรษะ พลางอมยิ้มเล็กน้อยเพียงเท่านั้น

 

 

“ยินดีที่ได้พบนะคะ ดีจังเลยที่ฉันได้เจอคนไทยด้วยกันบ้าง” เสียงหวานบอกพลางแย้มยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับคนตรงหน้า

 

 

“คุณชื่อกานดาใช่ไหมคะ” หญิงแปลกหน้าถามขึ้นด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ดูจะไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าใดนัก

 

 

“ใช่ค่ะ คุณรู้จักฉันด้วยเหรอคะ” กานดาถามกลับไปอีกครั้งอย่างสงสัย ที่อยู่ๆหล่อนก็รู้ชื่อเธอขึ้นมาโดยที่เธอไม่ได้บอกหล่อนเลยสักนิด และที่ตัวเธอก็ไม่ได้ติดป้ายชื่ออะไรเสียด้วย

 

 

แล้วหล่อนมาล่วงรู้ชื่อของเธอได้ยังไงกันล่ะ?

 

 

“รู้จักสิคะ” หล่อนบอกพร้อมกับรอยยิ้มที่เคลือบไปด้วยความเหยียดหยันและเสแสร้ง ก่อนที่ใบหน้าสวยคมจะโน้มมากระซิบข้างๆหูของเธอว่า….

 

 

“ก็ฉันเป็นผู้หญิงของวิลเลียม….เหมือนกับคุณนี่คะ”

 

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา