God Problem : หมายถึงรัก
7.8
เขียนโดย ก่อนหวาน
วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 11.08 น.
22 ตอน
7 วิจารณ์
24.34K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 02.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
15) สัมผัสไม่ได้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "ขณะนี้มีฝนตกลงมาดูแลรักษาสุขภาพกันด้วย.." ผมปิดวิทยุที่ผมกำลังฟังอยู่ในรถส่วนตัวของผม
"พวกนายกลับกันได้แล้ว"
"นายท่านจะไม่เป็นไรแน่หรอครับ" ลูกน้องของผมคนหนึ่งพูดขึ้นผ่านวิทยุสัญญาณของพวกเรา ผมไม่ได้
พูดอะไรเป็นคำตอบของคำถามอยู่แล้ว ผมดึงsmall talk ที่ติดต่อกับบอดี้การ์ดของผมออก รถ 3 คัน ที่นำหน้ารถ
ผมและทั้งอยู่ด้านหลังผม ค่อยๆขับออกไปช้าๆ ตอนนี้ผมกำลังจอดรถอยู่ข้างหน้าวัด ซึ่งเธอต้องอยู่ที่นั่นอย่างแน่นอน
ป๊อดเดินก้างร่มออกมาจากศาลาศาลาหนึ่ง บรรยากาศตอนนั้นฝนตกลงมาปรอยๆ ป๊อดเดินเข้ามาแล้วยิ้มให้กับผม
"ซักตัวมั๊ย" ผมยื่นบุหรี่ให้กับป๊อด
"เลิกดูดตั้งแต่มีลูกแล้วละ"
"ยินดีกับมึงด้วย เรา2คนไม่ได้พบกันนานแล้วนะ ตั้งแต่ที่เรียนจบไป" ผมยิ้มแล้วพูดขึ้น
"โคตรคิดถึงมึงเลยวะเพื่อน หายไปไหนมา" ป๊อดกอดคอผม
"ขายปลาอยู่บ้านเกิดนะ" ผมพูดแกมหัวเราะ
"ท่าทางจะขายดี ขายปลาวาฬด้วยรึเปล่า" ป๊อดมองที่รถผม แล้วตบบ่าผมสองที
"สมบัติเก่าของพ่อนะ แกก็รู้หลังจากที่พ่อ แม่ชั้นโดนฆาตกรรม เมื่อ5 ปีที่แล้ว มรดกก็ตกเป็นของใครละ"
"เสียใจเรื่องนั้นด้วย" ป๊อดดึงมือออกจากบ่าผม หลังจากนั้นก็วางร่มลงกับพื้น
"ทิ้งร่มทำไม"
"เพื่อนเปียกแล้วจะให้กุไม่เปียกได้ไงละ" ป๊อดปล่อยคำคมกับผมอีกแล้ว
"รักเพื่อนไม่เปลี่ยนเลยนะ" ผมทิ้งบุหรี่แล้วดับ พร้อมกับยกแขนขึ้นกอดคอป๊อดแล้วออกเดินไปตามทางเข้าไปในวัด
"มึงว่าน้ำค้างให้อภัยมึงยังวะ" ผมหยุดเดินหลังจากที่ประโยคนั้นสิ้นเสียงลง
"กุจำไม่ได้วะ" ผมออกเดินต่อแล้วยิ้มตอบกลับ
เราสองคนเดินมาจนถึงหน้าศาลาที่มีผู้คนอยู่ข้างในเป็นจำนวนมาก ผมเห็นพลอยเดินเสริฟน้ำให้แขกที่มา
งานอยู่อย่างขมักเขม้น ป๊อดขอตัวแล้วเดินแยกกับผมไปทางเข้าด้านหลัง ผมใส่แว่นตาสีดำที่พึ่งควักออกมาจากใน
กระเป๋าเสื้อโค๊ตที่ยาวลงมาจนถึงหัวเข่า ที่บ่าของผมมีรอยเปียกฝนนิดหน่อย ย่างเท้าก้าวกำลังเดินขึ้นที่ศาลา ผม
เดินตรงไปที่ จุดไหว้ศพพร้อมกับทุกสายตาจ้องมองมาที่ผม ผมรู้สึกอย่างนั้น ผมยื่นซองให้กับคนรับซองหน้าทาง
เข้าของศาลา แล้วเดินไปที่จุดไหว้ วินาทีที่ผมปักธูปลง โทรศัพท์มือถือของผมก็สั่นขึ้น ผมเดินออกไปยังศาลา
ทันทีหลังจากที่ปักธูปหนึ่งดอกลงที่กระถางธูปหน้าโลงศพ
"ตอนนี้ผมไม่ว่างนะ" ผมตอบกลับไปหลังจากที่รับโทรศัพท์นั้น
"เห็นลูกน้องคนสนิทคุณบอกว่าขึ้นไปกรุงเทพหรอค่ะ"
"ไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะ เคธี่" ผมวางหูแล้วปิดเครื่องในทันที
"จะกลับแล้วหรอวะ" ป๊อดเดินมาไม่ให้สุ้มให้เสียง
"ไปดื่มกันมั๊ย" ผมถามขึ้น
"รอสวดเสร็จแล้วกัน เข้าไปข้างในก่อนสิ" ผมเดินตามป๊อดเข้าไปในงาน ผมคิดในใจว่าเธอไม่อยู่หรือยัง
ไง เธออาจจะเข้าห้องน้ำก็ได้ ผมนั่งลงที่โซฟาสีดำภายในงานซึ่งอยู่หน้าสุด พลอยเดินมาเสริฟน้ำแล้วมองมาที่
ใบหน้าของผม เธอตกใจเล็กน้อยแล้วรีบเดินออกจากตรงนั้น
พระสงฆ์กำลังเดินออกจากศาลาช้าๆเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ ผมนั่งอยู่จนกระทั่งแขกภายในงานออกไป
จนหมด ผมอยู่เพื่ออะไรหรอ ผมนั่งเพื่อรออะไร ผมรอเธอไง รอเธอ แต่ผมไม่เห็นเธอแม้แต่เงา แขกทุกคนกลับกันจนหมด ป๊อดเดินมาทักผม
"ไปดื่มกัน ....ไปดื่มกัน.... บอย บอยยย" ผมตื่นจากภวัง
"วันนี้ขอกลับมาเมาวันนึงแล้วกันขอศรีภรรยาแล้ว" ป๊อดชี้ไปทางพลอย พลอยยิ้มให้กับผมละก็ป๊อดหลัง
จากที่ผมหันหลังกลับไปมองหน้าของพลอย
"ตกลงหลังจากนั้นมึงสานสัมพันธ์กับพลอยหรอวะ" ผมยิงคำถามแกมหัวเราะขณะที่กำลังขับรถพาไปที่
ผับของพี่สาวผมซึ่งไม่ได้มาที่นี่มา 6 ปีแล้ว
"ที่นี่ไม่เปลี่ยนไปมากเลยนะ เปลี่ยนแค่เพลง กับผู้คนแค่นั้นเอง" ผมมองไปบรรยากาศรอบๆร้าน
"รู้ป่าวเพื่อน ไปส่งกุด้วยนะ กุเมาแล้วว" ป๊อดหัวเราะแล้วดื่มเข้าไปอีกแก้วหนึ่ง
เราสองคนชนแก้วกันคืนนั้นทำให้ผมนึกถึงผมตอนสมัยเรียน ตอนนั้นพวกเรายังเกเร หาเรื่องไปทั่วทำความลำบาก
ใจให้พี่สาว และครอบครัวของผมอย่างมาก ผมมองกลุ่มนักศึกษาในโต๊ะข้างๆ พวกเขาเหล่านั้นดูมีความสุขมาก
เหลือเกิน นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกนั้น ผมคงไม่มีวันพบกับความรู้สึกนั้นแล้วละ ผมรู้ตัว
ของผมดี สิ้นเสียงเพลงของผับนี้ ผมต้องแบกป๊อดกลับบ้านเหมือนเคย
ผมพาป๊อดมาส่งถึงบนบ้านและถึงห้องนอนของป๊อด คนในบ้านคงหลับกันหมดแล้วละ ผมเหลือบไปเห็น
รูปภาพหัวเตียงของป๊อด ในรูปนั้นผมเห็นป๊อดใส่ชุดตำรวจซึ่งดูไม่เหมือนตำรวจทั่วไปตามท้องถนน ผมออกจากบ้านของป๊อดอย่างเงียบเชียบราวกลับล่องหน
"นี่เป็นคำสั่ง ตามหา นางสาวที่ชื่อ อภิญญา เบญจวรรณ" ผมพูดในโทรศัพท์หลังจากที่ผมติดต่อกับลูก
น้องของผม ภายในรถที่จอดอยู่หน้าบ้านของป๊อด
"ครับท่าน" เสียงดูน่าเกรงขามตอบกลับมา
คุณไม่เคยปิดเครื่องหนีฉันเลยนะค่ะ ฉันเข้าใจค่ะ แต่เป็นห่วงความปลอดภัยของคุณ ถ้าเสร็จธุระแล้วรีบ
กลับมานะค่ะ ผมอ่านข้อความที่เคธี่ ส่งเข้ามาที่เครื่องผม เคธี่เป็นผู้หญิงของผม ผมเจอเธอในสถานที่อโคจรแห่ง
หนึ่งซึ่งอยู่ในพื้นที่การคุ้มครองของพ่อผม ผมเห็นเธอถูกทำร้ายอย่างทารุณในร้านนั้น ผมจ่ายเงินซื้อตัวเธอมา
เพราะเธอมีแววตาที่เหมือนผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมรักมากที่สุด แววตาของเธอเหมือนของน้ำค้างมาก แต่ผมไม่ได้รู้สึกรักหรอกนะ เพราะว่า
ความรู้สึกนั้น ผมไม่สามารถสัมผัสมันได้อีกตลอดชีวิต
"พวกนายกลับกันได้แล้ว"
"นายท่านจะไม่เป็นไรแน่หรอครับ" ลูกน้องของผมคนหนึ่งพูดขึ้นผ่านวิทยุสัญญาณของพวกเรา ผมไม่ได้
พูดอะไรเป็นคำตอบของคำถามอยู่แล้ว ผมดึงsmall talk ที่ติดต่อกับบอดี้การ์ดของผมออก รถ 3 คัน ที่นำหน้ารถ
ผมและทั้งอยู่ด้านหลังผม ค่อยๆขับออกไปช้าๆ ตอนนี้ผมกำลังจอดรถอยู่ข้างหน้าวัด ซึ่งเธอต้องอยู่ที่นั่นอย่างแน่นอน
ป๊อดเดินก้างร่มออกมาจากศาลาศาลาหนึ่ง บรรยากาศตอนนั้นฝนตกลงมาปรอยๆ ป๊อดเดินเข้ามาแล้วยิ้มให้กับผม
"ซักตัวมั๊ย" ผมยื่นบุหรี่ให้กับป๊อด
"เลิกดูดตั้งแต่มีลูกแล้วละ"
"ยินดีกับมึงด้วย เรา2คนไม่ได้พบกันนานแล้วนะ ตั้งแต่ที่เรียนจบไป" ผมยิ้มแล้วพูดขึ้น
"โคตรคิดถึงมึงเลยวะเพื่อน หายไปไหนมา" ป๊อดกอดคอผม
"ขายปลาอยู่บ้านเกิดนะ" ผมพูดแกมหัวเราะ
"ท่าทางจะขายดี ขายปลาวาฬด้วยรึเปล่า" ป๊อดมองที่รถผม แล้วตบบ่าผมสองที
"สมบัติเก่าของพ่อนะ แกก็รู้หลังจากที่พ่อ แม่ชั้นโดนฆาตกรรม เมื่อ5 ปีที่แล้ว มรดกก็ตกเป็นของใครละ"
"เสียใจเรื่องนั้นด้วย" ป๊อดดึงมือออกจากบ่าผม หลังจากนั้นก็วางร่มลงกับพื้น
"ทิ้งร่มทำไม"
"เพื่อนเปียกแล้วจะให้กุไม่เปียกได้ไงละ" ป๊อดปล่อยคำคมกับผมอีกแล้ว
"รักเพื่อนไม่เปลี่ยนเลยนะ" ผมทิ้งบุหรี่แล้วดับ พร้อมกับยกแขนขึ้นกอดคอป๊อดแล้วออกเดินไปตามทางเข้าไปในวัด
"มึงว่าน้ำค้างให้อภัยมึงยังวะ" ผมหยุดเดินหลังจากที่ประโยคนั้นสิ้นเสียงลง
"กุจำไม่ได้วะ" ผมออกเดินต่อแล้วยิ้มตอบกลับ
เราสองคนเดินมาจนถึงหน้าศาลาที่มีผู้คนอยู่ข้างในเป็นจำนวนมาก ผมเห็นพลอยเดินเสริฟน้ำให้แขกที่มา
งานอยู่อย่างขมักเขม้น ป๊อดขอตัวแล้วเดินแยกกับผมไปทางเข้าด้านหลัง ผมใส่แว่นตาสีดำที่พึ่งควักออกมาจากใน
กระเป๋าเสื้อโค๊ตที่ยาวลงมาจนถึงหัวเข่า ที่บ่าของผมมีรอยเปียกฝนนิดหน่อย ย่างเท้าก้าวกำลังเดินขึ้นที่ศาลา ผม
เดินตรงไปที่ จุดไหว้ศพพร้อมกับทุกสายตาจ้องมองมาที่ผม ผมรู้สึกอย่างนั้น ผมยื่นซองให้กับคนรับซองหน้าทาง
เข้าของศาลา แล้วเดินไปที่จุดไหว้ วินาทีที่ผมปักธูปลง โทรศัพท์มือถือของผมก็สั่นขึ้น ผมเดินออกไปยังศาลา
ทันทีหลังจากที่ปักธูปหนึ่งดอกลงที่กระถางธูปหน้าโลงศพ
"ตอนนี้ผมไม่ว่างนะ" ผมตอบกลับไปหลังจากที่รับโทรศัพท์นั้น
"เห็นลูกน้องคนสนิทคุณบอกว่าขึ้นไปกรุงเทพหรอค่ะ"
"ไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะ เคธี่" ผมวางหูแล้วปิดเครื่องในทันที
"จะกลับแล้วหรอวะ" ป๊อดเดินมาไม่ให้สุ้มให้เสียง
"ไปดื่มกันมั๊ย" ผมถามขึ้น
"รอสวดเสร็จแล้วกัน เข้าไปข้างในก่อนสิ" ผมเดินตามป๊อดเข้าไปในงาน ผมคิดในใจว่าเธอไม่อยู่หรือยัง
ไง เธออาจจะเข้าห้องน้ำก็ได้ ผมนั่งลงที่โซฟาสีดำภายในงานซึ่งอยู่หน้าสุด พลอยเดินมาเสริฟน้ำแล้วมองมาที่
ใบหน้าของผม เธอตกใจเล็กน้อยแล้วรีบเดินออกจากตรงนั้น
พระสงฆ์กำลังเดินออกจากศาลาช้าๆเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ ผมนั่งอยู่จนกระทั่งแขกภายในงานออกไป
จนหมด ผมอยู่เพื่ออะไรหรอ ผมนั่งเพื่อรออะไร ผมรอเธอไง รอเธอ แต่ผมไม่เห็นเธอแม้แต่เงา แขกทุกคนกลับกันจนหมด ป๊อดเดินมาทักผม
"ไปดื่มกัน ....ไปดื่มกัน.... บอย บอยยย" ผมตื่นจากภวัง
"วันนี้ขอกลับมาเมาวันนึงแล้วกันขอศรีภรรยาแล้ว" ป๊อดชี้ไปทางพลอย พลอยยิ้มให้กับผมละก็ป๊อดหลัง
จากที่ผมหันหลังกลับไปมองหน้าของพลอย
"ตกลงหลังจากนั้นมึงสานสัมพันธ์กับพลอยหรอวะ" ผมยิงคำถามแกมหัวเราะขณะที่กำลังขับรถพาไปที่
ผับของพี่สาวผมซึ่งไม่ได้มาที่นี่มา 6 ปีแล้ว
"ที่นี่ไม่เปลี่ยนไปมากเลยนะ เปลี่ยนแค่เพลง กับผู้คนแค่นั้นเอง" ผมมองไปบรรยากาศรอบๆร้าน
"รู้ป่าวเพื่อน ไปส่งกุด้วยนะ กุเมาแล้วว" ป๊อดหัวเราะแล้วดื่มเข้าไปอีกแก้วหนึ่ง
เราสองคนชนแก้วกันคืนนั้นทำให้ผมนึกถึงผมตอนสมัยเรียน ตอนนั้นพวกเรายังเกเร หาเรื่องไปทั่วทำความลำบาก
ใจให้พี่สาว และครอบครัวของผมอย่างมาก ผมมองกลุ่มนักศึกษาในโต๊ะข้างๆ พวกเขาเหล่านั้นดูมีความสุขมาก
เหลือเกิน นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกนั้น ผมคงไม่มีวันพบกับความรู้สึกนั้นแล้วละ ผมรู้ตัว
ของผมดี สิ้นเสียงเพลงของผับนี้ ผมต้องแบกป๊อดกลับบ้านเหมือนเคย
ผมพาป๊อดมาส่งถึงบนบ้านและถึงห้องนอนของป๊อด คนในบ้านคงหลับกันหมดแล้วละ ผมเหลือบไปเห็น
รูปภาพหัวเตียงของป๊อด ในรูปนั้นผมเห็นป๊อดใส่ชุดตำรวจซึ่งดูไม่เหมือนตำรวจทั่วไปตามท้องถนน ผมออกจากบ้านของป๊อดอย่างเงียบเชียบราวกลับล่องหน
"นี่เป็นคำสั่ง ตามหา นางสาวที่ชื่อ อภิญญา เบญจวรรณ" ผมพูดในโทรศัพท์หลังจากที่ผมติดต่อกับลูก
น้องของผม ภายในรถที่จอดอยู่หน้าบ้านของป๊อด
"ครับท่าน" เสียงดูน่าเกรงขามตอบกลับมา
คุณไม่เคยปิดเครื่องหนีฉันเลยนะค่ะ ฉันเข้าใจค่ะ แต่เป็นห่วงความปลอดภัยของคุณ ถ้าเสร็จธุระแล้วรีบ
กลับมานะค่ะ ผมอ่านข้อความที่เคธี่ ส่งเข้ามาที่เครื่องผม เคธี่เป็นผู้หญิงของผม ผมเจอเธอในสถานที่อโคจรแห่ง
หนึ่งซึ่งอยู่ในพื้นที่การคุ้มครองของพ่อผม ผมเห็นเธอถูกทำร้ายอย่างทารุณในร้านนั้น ผมจ่ายเงินซื้อตัวเธอมา
เพราะเธอมีแววตาที่เหมือนผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมรักมากที่สุด แววตาของเธอเหมือนของน้ำค้างมาก แต่ผมไม่ได้รู้สึกรักหรอกนะ เพราะว่า
ความรู้สึกนั้น ผมไม่สามารถสัมผัสมันได้อีกตลอดชีวิต
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ