Extinction Wars สัญญาครั้งนั้น...จะเริ่มกันเลยไหม
เขียนโดย CyCloEclipse
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.14 น.
แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 11.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
29) วงรอบนาฬิกาที่ไร้กำหนด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"นูเรตัส... นี่แก!!"
อาคาริเริ่มตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวทันทีที่ปิศาจที่อยู่เบื้องหน้าของเธอแสดงท่าไม้ตายของอดีตเพื่อนของเธอที่เธอพลั้งมือสังหารไปเมื่อหลายปีก่อน ดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว... ไม่ใช่เพราะว่าหวาดกลัวในความสามารถลอกเลียนแบบท่าไม้ตายประชิดตัวที่รุนแรงเป็นอันดับสองรองจากดาบคริสซาออร์ของฮิโรมิหรอก
แต่เพราะอาคารินั้นหวาดกลัวตัวเองที่ลงมือสังหารเพื่อนที่ใกล้ชิดที่สุดอย่างไม่รั้งมือต่างหาก!!
"ตอนนั้นแกฆ่าแองเจลอยด์คนนั้นได้ง่ายๆไม่ใช่เหรอ... แล้วทำไมแกถึงกับตัวสั่นกะอีแค่ข้าแสดงท่าไม้ตายของแองเจลอยด์คนนั้นให้แกเห็นเท่านั้นเองล่ะ หรือว่าแกเพิ่งจะมาสำนึกได้ว่าแก...ทำพลาดที่สุดในชีวิต!!"
สาวน้อยยังคงตัวสั่นระรัวยิ่งขึ้นไปอีกทุกๆก้าวที่นูเรตัสขยับเข้าไปหาเธอ แต่ไม่นานนั้นเองนูเรตัสก็เลิกใช้ท่ากระสุนวงจักรที่มือขวา ก่อนจะฉุดคอเสื้อของอาคาริขึ้นมาตรงหน้าแล้วเทศนาให้ฟังเป็นจังหวะเดียวกับที่หมัดขวาของมันค่อยๆเงื้อขึ้นเตรียมจะพุ่งกระแทกใส่เป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปตรงหน้าไม่ถึงเมตรได้ทุกเมื่อ
"ต่อให้แกแข็งแกร่งแค่ไหน... ถ้าจิตใจของแกไม่เข้มแข็งตามไปด้วยก็ไร้ค่า จำเอาไว้!"
ปิศาจตนนั้นขว้างสาวน้อยคนนั้นขึ้นไปบนอากาศก่อนจะพุ่งไปตามไปชกเข้าที่ใบหน้าอันขาวนวลของอาคาริจนเกิดเป็นรอยตำหนิสีแดงเข้ม สาวน้อยลอยไปตามแรงหมัดปะทะกับผนังตึกที่ได้รับความเสียหายจากการบุกถล่มของฮารันด้าเมื่อครู่นี้จนถล่มลงมา ถ้าเป็นคนธรรมดาต้องไม่รอดแน่ๆ... แต่เพราะอาคารินั้นแข็งแกร่งเกินกว่าร่างมนุษย์ทั่วไปหลายสิบเท่า เธอจึงมีเพียงแผลบอบช้ำเท่านั้นเอง หากแต่ในจิตใจของเธอตอนนี้นั้นบอบช้ำยิ่งกว่ามาก
อาคาริดันตัวลุกขึ้นมาจากซากตึกที่ถล่มลงมาอย่างคนไร้วิญญาณ ขณะนั้นนูเรตัสก็ค่อยๆสาวเท้าเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ ในขณะที่อาคาริไม่ตอบสนองอะไรเลยแม้ศัตรูของเธอจะเข้ามาใกล้เธอทุกขณะ
"ดูเหมือนแกจะห่างการต่อสู้ไปนานเหลือเกินนะ คงเพราะมัวใช้เวลาอยู่กับความพยายามอันไร้ค่าพวกนั้นอยู่ล่ะสิ!"
ทันใดนั้นก็ปรากฏเปลวไฟสีเขียวอ่อนขึ้นที่ฝ่ามือของปิศาจตนนั้น เปลวไฟนั้นขยายใหญ่ขึ้นจนคลุมไปทั่วฝ่ามือขวาอันหยาบกร้านเป็นสัญญาณว่าการโจมตีที่รุนแรงเกินกว่าร่างของมนุษย์หรือแม้แต่seiriบางคนยังไม่สามารถทนรับได้ ในขณะเดียวกันนูเรตัสก็ยิ้มกริ่มภายใต้หนวดสีขาวอันยาวเฟื้อยจนไม่รู้เลยว่ากำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่หากไม่สังเกตดีๆ
"เอาล่ะ... ทีนี้ก็ตายไปซะเถอะนะ!"
เมื่อหมดเรื่องที่จะคุยกันแล้ว นูเรตัสก็ยิงลูกพลังใส่อาคาริที่ไม่ยอมกระดิกแม้สักนิ้วเดียว เหมือนจิตใจของเธอจะหมดแรงขยับเขยี้อนไปโดยสมบูรณ์... แต่ก่อนที่ลูกพลังของปิศาจตนนั้นจะสัมผัสถูกผิวอันอ่อนนิ่มของสาวน้อยชาวมนุษย์คนนั้น กลับมีคลื่นปะทะเข้ามาผ่ามันออกเป็นสองส่วน พลังปิศาจของมันจึงพุ่งเฉี่ยวเนื้อของอาคาริไประเบิดที่พื้นข้างหลังเธอ
"ดาบโฟตอนทำงานเกินขีดจำกัด คริสซาออร์!!!"
ชื่อท่าไม้ตายที่ถูกขานออกมานี้ฟังดูคุ้นหูอาคาริเป็นอย่างมาก ดาบคริสซาออร์นี้แต่เดิมเป็นของฮิโรมิที่เสียชีวิตไปแล้ว แล้วใครเป็นคนเอามาใช้กันนะ...
ยังไม่ทันที่เธอจะคิดอะไรได้มากไปกว่านี้ ข้างหลังของเธอก็มีผู้หญิงรูปร่างเหมือนนางฟ้าสองคนกำลังมุ่งหน้าเข้ามาหาเธอ หนึ่งในนั้นกำลังเงื้อดาบแสงที่ยืดระยะฟันออกถึงขีดสุดเตรียมจะผ่าร่างศัตรูของพวกเธอเป็นสองท่อน เธอคนนั้นใช้รูปแบบการโจมตีของดาบด้วยการลงดาบอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นแสงตามขวางพุ่งเข้าโจมตีเป้าหมายในระยะไกล
แต่น่าเสียดายที่นูเรตัสสามารถหลบการโจมตีนั้นได้ง่ายๆ ทำให้ลำแสงจากดาบนั้นฟันไปโดนซากตึกที่ถล่มลงมาจนระเบิดออกเป็นควันพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า และเป็นที่น่าเสียดายมากที่ดาบคริสซาออร์นั้นไม่สามารถยืดระยะออกได้นานหากผู้ใช้ไม่ใช่เทอร์รารอยด์ หลังจากที่คลื่นโจมตีถูกซากคอนกรีตนั้นแล้วมันก็หดกลับสู่รูปแบบปกติทันที ขณะเดียวกันนั้นก็มีนางฟ้าอีกคนหนึ่งคนหนึ่งลงมาช่วยอาคาริเอาไว้...
ซึ่งรูปร่างและสีของปีกนั้นน่าจะเรียกเธอว่า"นางฟ้าตกสวรรค์"มากกว่า
"ฮิคาริ... ชิบุกิ..."
ดวงตาสีดำอันไร้ประกายของอาคาริเหลือบไปเห็นนางฟ้าทั้งสองบินผ่านหน้าเธอไป โดยฮิคาริลงมาช่วยประคองตัวเธอไว้ ส่วนชิบุกินั้นถือดาบคริสซาออร์ที่เปลี่ยนเป็นสีฟ้าตามพลังที่อัดเข้าไปไล่ฟันปิศาจที่ข่มเหงจิตใจเพื่อนของเธออย่างกระชั้นชิด
"ทำไมพวกเธอถึงมาที่นี่ด้วย... บาดแผลพวกนั้นยังไม่ฟื้นตัวดีเลยไม่ใช่เหรอ!"
อาคาริหันไประบายความอัดอั้นกับฮิคาริที่เข้ามาช่วยประคองตัวเธอไว้ แววตาของฮิคาริในตอนนี้นั้นแทบจะไม่ได้ต่างกับแววตาของฮิซาชิตอนที่สู้กับไกอารุ่นสองนั้นเลย...
"เพราะฉันไม่อยากให้ฮิซาชิต้องลำบากคนเดียวอีกแล้วน่ะสิ!!"
ได้ยินดังนั้นอาคาริก็ถึงกับอึ้ง ที่ผ่านมาเธอเคยได้ยินคำๆนี้จากในหนังเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าจะได้มาได้ยินจากคนเป็นๆแบบในครั้งนี้เลย...
ในขณะเดียวกันนั้นชิบุกิก็เข้าต่อสู้กับนูเรตัสตัวต่อตัว ทั้งสองคนบินขึ้นไปบนฟ้าอย่างรวดเร็วจนเหนือกว่าความเร็วเสียง ทั้งคู่เข้าแลกหมัดกันนัดหนึ่งก่อนจะแยกตัวออกไปห่างกันเกือบสามสิบเมตร เมื่อได้ระยะห่างพอเหมาะแล้วทั้งคู่ก็บุกเข้าหากันใหม่ คราวนี้นูเรตัสจุดเปลวไฟสีเขียวที่ฝ่ามือข้างขวาอย่างรุนแรง ในขณะเดียวกันชิบุกิก็เร่งพลังดาบคริสซาออร์ถึงขีดสุดจนเปล่งแสงสีฟ้าออกมา และในที่สุดทั้งสองก็เข้าปะมะกันอย่างหนักหน่วงจนเกิดเป็นลมอัดกระแทกแผ่ออกมาจากจุดปะทะอย่างรุนแรง
ถึงอย่างนั้นทั้งสองคนก็ไม่ยอมให้มันลงเอยแบบการต่อสู้ระหว่างฮิโรมิกับอาคาริเมื่อ5ปีก่อน ทั้งคู่ยังคงเข้าปะทะกันอย่างต่อเนื่องจนเกิดเสียงดังราวกับระเบิดดังกึกก้องไปทั่วน่านฟ้า ทำให้มนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่เริ่มสังเกตเห็นการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างนางฟ้ากับปิศาจแม้จะอยู่ห่างจากจุดนั้นไปกว่ากิโลฯก็ตาม...
"ดูเหมือนแกจะเก่งขึ้นเยอะนะ สคริวล่า... ต่างจากตอนที่แกยังคงเป็นพวกข้าอยู่เลย!"
"ใช่! ฉันแข็งแกร่งขึ้นแล้ว!! เพราะตอนนี้ฉันมีคนที่ต้องปกป้องแล้วยังไงล่ะ!!"
ชิบุกิเริ่มเอาจริงมากขึ้นเรื่อยๆ เธอเร่งพลังดาบขึ้นไปอีกจนมีพลังเหนือกว่าตอนที่ฮิโรมิยังเป็นเจ้าของอยู่เสียอีก นอกจากนี้ชิบุกิยังใช้ยุทธวิธีที่ฮิโรมิเคยใช้ต่อสู้กับอาคาริได้ผลมาแล้วด้วย...
ชิบุกิเร่งความเร็วบินขึ้นสูงมากจนนูเรตัสเริ่มตามเธอไม่ทัน ถึงแม้ว่ามันจะปล่อยลูกไฟสีเขียวของมันออกมามากเท่าไหร่... การโจมตีนั้นก็ไม่สามารถทำได้แม้แต่เฉี่ยวผิวหนังของเธอได้เลยแม้แต่น้อย และสุดท้ายชิบุกิก็สามารถฟันโดนไหล่ซ้ายของนูเรตัสได้สำเร็จ
แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอพอใจเลยแม้แต่น้อย ชิบุกิยังคงระดมฟันนูเรตัสอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ามันจะได้แผลจากการโจมตีของเธอไปนับไม่ถ้วนแล้วแท้ๆ แต่ถึงอย่างนั้นชิบุกิก็ยังคงเร่งฝีดาบขึ้นไปอีกจนปิศาจตนนั้นไม่สามารถทำการตอบโต้ใดๆได้... และมันก็เริ่มอ่อนแรงลงไปแล้ว
"ดาบโฟตอนทำงานเกินขีดจำกัด คริสซาออร์!! ยืดระยะฟันถึงขีดสุด!!"
เมื่อสบโอกาสเหมาะ ชิบุกิก็เร่งพลังดาบขึ้นจนดาบนั้นเริ่มกลายสภาพจากที่มีรูปร่างคล้ายดาบสองคมธรรมดาก็กลายเป็นดาบคริสตัลสีม่วงแบบที่เห็นได้บ่อยในเทพนิยาย และในตอนนี้ดาบในเทพนิยายนั้นก็กำลังจะปลิดชีวิตของจอมอสูรนูเรตัสแล้ว...
"หายไปซะ!!!!"
ชิบุกิฟันลงที่กลางศีรษะของนูเรตัสอย่างแม่นยำจนเกิดระเบิดขนาดยักษ์ขึ้นกลางม่านฟ้า ควันระเบิดที่คลุ้งโขมงนั้นเรียกได้ว่าเป็นสัญญาณปิดฉากศึกอันยากลำบากนี้ลงอย่างงดงาม...
แต่โชคชะตามักจะเล่นตลกกับเราเสมอ..!
ท่ามกลางกลุ่มควันระเบิดนั้นกลับมีร่างๆหนึ่งบินฝ่ากลุ่มควันขึ้นไปราวกับไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลย ชิบุกิจึงรีบบินตามมันไปเพื่อปิดบัญชีอีกรอบ...
"อย่างแกน่ะจะต้องให้ฆ่าสักกี่ครั้ง!!!"
เมื่อสาวน้อยคนนั้นบินเข้าไปในระยะประชิด ร่างของนูเรตัสก็หายไปต่อหน้าสายตาอันตกตะลึงของเธอ ก่อนที่ร่างของมันจะก่อรูปขึ้นใหม่ที่ด้านหลัง และสุดท้ายเธอก็ถูกมันเล่นงานจนตกลงมากระแทกพื้นดินอย่างรุนแรง
"นั่นมันอะไรกัน!! ก็เห็นอยู่ชัดๆว่าเจ้านั่นตายไปแล้วนี่นา!!!"
อาคาริกับฮิคาริที่เห็นชิบุกิถูกทำร้ายก็ไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็นเมื่อสักครู่ พวกเธอเห็นอยู่จะๆว่านูเรตัสถูกชิบุกิผ่าร่างออกเป็นสองท่อนแล้วแท้ๆ แล้วทำไมมันถึงยังไม่ตาย!!
"พลังดาบคริสซาออร์ก็รุนแรงขึ้นกว่าเดิมมาก แถมนูเรตัสยังโดนเล่นงานจนทำอะไรตุกติกไม่ได้แล้วด้วย... นี่มันบ้าอะไรกัน!!"
จากนั้นไม่นานร่างของปิศาจตนนั้นก็ลงมาถึงพื้นดิน มันแสยะรอยยิ้มภายใต้หนวดเครารุงรังพร้อมหัวเราะในลำคออย่างเยือกเย็น
"พลังแค่นี้น่ะทำอะไรข้าไม่ได้หรอก! ไม่ใช่สิ! พวกแกน่ะฆ่าข้าไม่ได้หรอก!!"
"อะไรนะ!! จะบอกว่าแกเป็นอมตะหรือไง!!"
"เปล่าๆ... ความอมตะอะไรนั่นน่ะไม่มีจริงหรอก ก็แค่ถ้าข้ายังไม่ตายในวงรอบเวลาที่กำหนด...ร่างของข้าจะคืนชีพได้อีกครั้งเท่านั้นเอง!"
"งั้นแค่พวกเราฆ่าแกให้ได้ก่อนจะครบช่วงรอบนั้นก็พอแล้วใช่ไหมล่ะ!!"
ในระหว่างที่สถานการณ์กำลังตึงเครียดเพราะศัตรูที่ฆ่าไม่ตายนั้นเอง เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งก็ดังขัดจังหวะสาธยายของปิศาจตนนั้นพอดี ชายคนนั้นเข้ามาในสนามรบในสภาพบาดเจ็บหนัก แต่ก็พอหายดีไปแล้วบางส่วน...
"ต่อจากเจ้าฮารันด้าก็แกงั้นเหรอ... ว่าแต่แกเป็นใครกันน่ะ!?"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ