Extinction Wars สัญญาครั้งนั้น...จะเริ่มกันเลยไหม
เขียนโดย CyCloEclipse
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.14 น.
แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 11.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
23) แสงสว่างสีดำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"ต่อจะเป็นใคร! เธอเหรอ...มิคาสะ!? หรือว่าจะเป็นเธอ ฮิโรมิ!?"
หลังจากที่ชิบุกิที่สามารถจัดการกับseiriรุ่นที่สองผู้ใช้พลังแบบเดียวกับอดีตพี่สาวฝาแฝดของเธอลงได้ด้วยตัวเองประกาศท้าทายคู่ต่อสู่ที่เหลืออยู่เพียงสองคนด้วยน้ำเสียงที่คล้ายจะแข็งกร้าวนั้นเอง ไกอารุ่นที่สองผู้มีร่างกายของฮิโรมิก็ก้าวออกมาข้างหน้าทันที เธอคนนั้นเร่งพลังขึ้นจนเกิดเป็นแรงกดดันที่สูงมาก ทำให้ชิบุกิเริ่มที่จะหวั่นใจในคำพูดเมื่อสักครู่ของตัวเองขึ้นมาทีละน้อย
ซึ่งก็ไม่ได้มากเท่าไหร่นัก...
"พลังระดับนี่มัน...เหนือกว่าไกอาทั้งหมดนั่นเลยนี่นา!"
เมื่อไกอาเร่งพลังข่มสาวน้อยตรงหน้าเสร็จแล้ว มันก็พุ่งเข้ามาสวมวิญญาณนักมวยเข้าคลุกวงในกับชิบุกิอย่างรวดเร็ว และเพราะพลังหมัดที่เหนือกว่ามากของไกอาซึ่งเมื่อเทียบกับความเร็วในการออกหมัดที่สูงมากของคู่ต่อสู้ของเธอนั้น ทำให้ไกอาคนนั้นถูกชิบุกิอัดกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตรจนเกิดฝุ่นควันคลุ้งโขมงเป็นทางยาว
ชิบุกิชกใส่ใบหน้าด้านซ้ายของไกอาจนลอยไปไกลมากและถึงแม้ว่าร่างของไกอาจะตกลงถึงพื้นแล้วก็ตาม สาวน้อยคนนั้นก็ยังไถลต่อไปเรื่อยๆจนไปกระแทกกับก้อนหินขนาดใหญ่ซึ่งร่วงลงมาจากอาคารสูงจนร้าว แต่ไกอาก็ยังไม่คิดที่จะยอมแพ้ มันยังคงพุ่งเข้ามาสู้กับชิบุกิอย่างต่อเนื่อง แต่ชิบุกิก็กระโดดส่งตัวขึ้นไปกลางท้องฟ้าก่อนที่จะระดมสาดลูกพลังสีฟ้าใส่จนเกิดระเบิดจนก้อนหินสีเทาขนาดใหญ่ที่อยู่รายรอบนั้นกลายเป็นเศษกรวดในพริบตา
"เป็นไง!! ทีนี้รู้ถึงความต่างชั้นของพลังแล้วหรือยัง!!!"
ชิบุกิได้รับความมั่นใจกลับคืนมาจากการที่เธอยืนยันความคิดที่จะรับช่วงต่อในการปกป้องฮิซาชิแทนพวกseiriที่เสียชีวิตไปเพื่อช่วยเธอ แต่ท่ามกลางกลุ่มควันระเบิดที่เธอสร้างขึ้นนั้นเอง กลับปรากฏร่างของไกอาพุ่งขึ้นมาระดมหมัดและลูกเตะใส่ชิบุกิอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าที่ชิบุกิสามารถทำได้จนได้รับแผลช้ำหลายแห่ง ก่อนที่นางฟ้าปีกดำคนนั้นจะใช้ลูกเตะปิดท้ายใส่อควารอยด์ที่ทำได้เพียงตั้งรับเพียงอย่างเดียวจนลอยไปกระแทกพื้นอย่างรุนแรง และเพราะเธอถูกเตะเข้าที่จุดสำคัญ ทำให้ชิบุกิลุกไม่ขึ้นและเริ่มหายใจติดขัด
"ทำไมมันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้นะ... รึว่า!!"
ตอนนั้นเองที่ชิบุกินึกอะไรขึ้นมาได้ บางทีไกอาอีกห้าคนที่ถูกกำจัดไปก่อนหน้านี้อาจจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่าร่างโคโรน่าเลยแม้แต่คนเดียว บางที...ไกอาร่างนี้อาจจะเป็นเพียงร่างเดียวที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากันหรือเหนือกว่าระดับนั้นก็ได้! และการต่อสู้เมื่อสักครู่ของชิบุกิก็ได้ยืนยันคำตอบนั้นแล้ว!!
ในตอนนั้นเองก็มีอะไรบางอย่างดลใจให้เธอหันไปมองฮิซาชิที่นอนอยู่กับพื้น ซึ่งร่างของชายหนุ่มคนนั้นได้หายไปแล้ว!!
"นี่แกเป็นคนทำเหรอ... ไกอา"
หลังจากที่กวาดสายตาหาฮิซาชิอยู่นานเพื่อที่จะทำให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ถูกไกอาเอาไปใช้เป็นโล่แบบเดียวกับที่เธอเคยโดน สายตาของชิบุกิก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังลากร่างกายที่ชุ่มไปด้วยเลือดของตัวเองไปยังร่างอันไม่ครบส่วนของโยโซระอย่างช้าๆ ก่อนที่จะหันสายตาอันแฝงแววอาฆาตไปมองไกอาอีกคนหนึ่งที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ในแววตาของเธอนั้นมีอะไรบางอย่างแอบซ่อนอยู่ บางอย่างที่ต่างจากไกอาคนอื่นๆโดยสิ้นเชิง
ซึ่งชิบุกิกลับไม่ได้คิดที่จะลงไปสู้กับไกอาคนนั้นเลย ในทางกลับกัน...ชิบุกิกลับจะยิ่งอุ่นใจมากกว่าที่คนที่อยู่ข้างๆฮิซาชิในตอนนั้นคือไกอารุ่นสองที่มีรูปร่างเหมือนมิคาสะ
"เอ่าเถอะ! แล้วฉันจะมาคิดบัญชีกับเธอทีหลัง!"
"นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ... แกจะกลับมาอยู่กับฉันหรือเปล่า! หรือว่าจะให้ไกอาของฉันจัดการแยกชิ้นส่วนของแกแล้วเอามาประกอบใหม่ในร่างของไกอารุ่นที่สองของฉัน... สคริวล่า!?"
เสียงผู้ชายทุ้มๆดังขึ้นมาในสมองของสาวน้อยที่กำลังมองดูชายหนุ่มกับผู้ที่เป็นศัตรูของเธอที่อยู่บนพื้นอีกครั้ง คราวนี้ชิบุกิไม่ได้สนใจในเสียงที่ดังลอดระบบสื่อสารภายในร่างของเธออีกแล้ว ในขณะนั้นเธอกำลังส่องสายตาหาอะไรบางอย่างที่อาจจะสามารถนำพาเธอไปสู่ชัยชนะได้
"นั่นสินะ..! ถ้าฉันกลับไปอยู่กับแก ฉันก็จะได้ฮิซาชิมาครองทันทีใช่ไหม..." ชิบุกิตอบกลับเจ้านายเก่าของเธออย่างเหลือทน
"แต่ว่านะ! ฉันสัญญากับseiriพวกนั้นไว้แล้วว่าจะปกป้องเจ้ามนุษย์นั่น เพราะงั้นอย่ามาตื๊อฉันเลย!!"
เมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่เจริญหูของเธอ เจ้านายของผู้นำมาซึ่งความวิบัติที่หมายหัวฮิซาชิอยู่นั้นก็สั่งให้ไกอาจัดการseiriที่หักหลังเขาในทันที สาวน้อยจึงหลับตาลงอีกครั้งเพื่อยืนยันคำตอบของตัวเอง แต่คราวนี้เธอรอแล้วรออีกก็ยังไม่มีอะไรมาสัมผัสผิวของเธอสักที ชิบุกิจึงลืมตาขึ้นมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น...
"เธอจะบ้าหรือไง!! ฉันก็บอกเธอไปแล้วนี่!!!" เมื่อชิบุกิลืมตาขึ้น เธอก็เห็นฮิซาชิยืนอยู่ตรงหน้า ส่วนไกอาก็ถอยไปตั้งหลักห่างๆ
"ฉันไม่อยากเห็นใครต้องเป็นอะไรไปอีกแล้ว!!"
คำพูดนี้ของฮิซาชิได้เตือนสติของเธอเอาไว้ได้ อันที่จริงชิบุกิก็รู้ดีว่าฮิซาชิไม่มีวันยอมให้ใครเป็นอะไรไปแน่นอน ต่อให้ตัวเองจะต้องตาย...เขาก็จะปกป้องทุกคนให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือศัตรูก็ตาม
"ถ้าอย่างนั้นนะฮิซาชิ... นายจะต้องช่วยไกอาที่อยู่ใกล้ตัวนายที่สุดให้หลุดจากพันธนาการอันนี้ให้ได้นะ!"
คำพูดของชิบุกิเมื่อครู่เหมือนสัญญาณลั่นกลองรบไม่มีผิด ทันทีที่เธอพูดจบไกอาที่มุ่งเป้าไปยังชิบุกิก็เบนเข็มปล่อยลูกพลังสีม่วงใส่ฮิซาชิทันที แต่ฮิซาชิก็ป้องกันได้ด้วยม่านพลังของเขาอย่างทันเฉียดฉิว และเพราะพลังที่รุนแรงมากของไกอาทำให้เขาต้องถอยหลังไปเพื่อลดทอนพลังส่วนเกินที่รุนแรงนั้นให้ได้พอดี พลังทำลายของไกอาที่ปล่อยออกมานั้นรุนแรงมากจนฮิซาชิไม่สามารถสะท้อนการโจมตีนั้นกลับไปได้อย่างที่แล้วๆมา
แต่ถึงอย่างนั้นฮิซาชิก็สามารถทำลายมันลงได้พร้อมกับม่านพลังที่แตกออก เมื่อลูกพลังนั้นสลายไป ฮิซาชิก็ชูมือขึ้นเข้าสู่ร่างโคโรน่าทันทีเพื่อเข้าต่อสู้กับศัตรูที่ฉวยจังหวะที่จิตใจของเขาเปิดช่องโหว่ในการเล่นงานเขาอย่างขุ่นเคือง
แน่นอนว่าเป้าหมายการต่อสู้ของฮิซาชิในตอนนี้คือ..."ไกอาผู้มีรูปร่างของฮิโรมิ"
ทั้งสองคนเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันนัวเนียก่อนที่จะแยกตัวออกมา แต่ฮิซาชิก็กลายเป็นฝ่ายได้เปรียบเพราะลีลาการต่อสู้ที่พริ้วไหวของเขาที่สามารถหลบหลีกและจู่โจมใส่ไกอาได้อย่างต่อเนื่อง และเมื่อสบโอกาสเหมาะ ฮิซาชิก็วิ่งเข้าไปกระโดดถีบขาคู่ใส่จนไกอากระเด็นออกไป
ไกอาลุกขึ้นมาคำรามอย่างโมโหหิว เธอเริ่มรุกใส่ฮิซาชิหนักขึ้นทีละน้อยๆ แต่ทั้งอย่างนั้นฮิซาชิก็สามารถจับเธอทุ่มลงพื้นได้ราวกับว่าอาการบาดเจ็บที่เขาได้รับเมื่อไม่นานมานี้เป็นเพียงแผลถลอกเท่านั้น และจังหวะที่ไกอาลุกขึ้นมาจะจับตัวเขาป่นเป็นปลากรอบนั้นเอง ฮิซาชิก็กลิ้งตัวหลบไปด้านหน้าผ่านไกอาไปก่อนจะปล่อยลำแสงเพลิงใส่ไกอาอย่างหนักหน่วง จนไกอาลอยไปตามลำแสงนั้นไปไกลเกือบ50เมตร
แต่ถึงอย่างนั้นการโจมตีของเขาก็สามารถทำให้ไกอาบาดเจ็บได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะอาการบาดเจ็บตกค้างของเขาได้ไปบั่นทอนพลังของเขาลงนั่นเอง และเพราะไกอาร่างนี้แข็งแกร่งกว่าร่างโคโรน่าอีกด้วย ฮิซาชิจึงรู้ได้ทันทีว่าการจะเอาชนะไกอาได้นั้น... "จำเป็นจะต้องใช้ร่างอีคลิปส์เท่านั้น!!"
เมื่อคิดดังนั้นฮิซาชิจึงเร่งพลังเข้าสู่อีคลิปส์โหมดทันที แต่เมื่อการแปลงร่างใกล้จะสมบูรณ์ พลังของเขาก็ถอยลงไปในร่างมนุษย์ปกติอย่างรวดเร็ว แบบนี้ราวกับ...
"พลังของฮิซาชิใกล้จะหมดเต็มทีแล้ว!!"
และเมื่อฮิซาชิแทบไม่เหลือพลังอีกแล้ว จึงเป็นโอกาสให้ไกอาปฏิบัติกับฮิซาชิราวกับกระสอบตุ๊กตาล้มลุกที่ชกแล้วขกอีกก็ยังลุกมาให้ชกต่ออีก นั่นเพราะฮิซาชิไม่อยากจะยอมแพ้นั่นเอง ชิบุกิทนดูไม่ได้จึงยิงกระสุนอาร์เทมิสใส่ไกอาอย่างเต็มเหนี่ยว
แต่ไกอาก็ไม่บาดเจ็บอะไรเลยเพราะอาร์เทมิสซึ่งเป็นท่าไม้ตายประจำตัวของอควารอยด์คู่ชีวิตของยูนะนั้นสามารถโจมตีได้เร็วก็จริง...แต่ก็มีอำนาจทำลายที่ต่ำมาก ซ้ำไกอาที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยยังหันกลับไปยิงลูกพลังใส่ชิบุกิที่ต้องการจะช่วยฮิซาชิโดยไม่สนใจตัวเองจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ฮิซาชิเห็นดังนั้นจึงยันตัวลุกขึ้นไปดึงไกอากลับมาหาเขาก่อนจะเตะเข้าที่ชายโครงของเธอ แล้วจับเธอเหวี่ยงข้ามไหล่เขาไปเพื่อให้ได้จังหวะเหมาะๆที่จะเตะไล่เธอออกไป
แต่ไกอาก็แก้เกมได้ด้วยการตีลังกากลับหลังบนไหล่ฮิซาชิก่อนจะลงพื้นอย่างนิ่มๆ แต่ฮิซาชิที่รู้ในความต่างชั้นของพลังแล้วก็ยังไม่คิดที่จะยอมแพ้ยังคงคลุกวงในกับไกอาต่อ ซึ่งไกอาพยายามเต็มที่ที่จะเล่นลูกตื๊อเล่นงานเขาจนทำให้ฮิซาชิต้องใส่กระบวนท่ายูโดทุกรูปแบบ ซึ่งก็ได้ผล... ฮิซาชิสามารถจับไกอาเหวี่ยงกระเด็นไปกับพื้นจนกลิ้งไปหลายตลบ
แต่เพราะการเล่นกระบวนท่ายูโดใส่ไกอาที่แข็งแกร่งกว่ามากพร้อมทั้งตอบโต้กลับเข้าสู่ตำแหน่งที่ตัวเองได้เปรียบนั้นต้องใช้แรงอย่างมาก ทำให้ฮิซาชิแทบจะไม่มีแรงเหลือแม้แต่จะปล่อยกระสุนแสงใส่อีกแล้ว และไกอายังคงรุกเข้าหาเขาต่ออีก ทำให้ฮิซาชิต้องเผาแรงข้าวต้มประเคนหมัดมวยคนแก่ใส่ไกอาที่ไม่รู้สึกเจ็บจากหมัดของเขาเลย
และในตอนที่ฮิซาชิกำลังเสียเปรียบหนักอยู่นั่นเอง ชิบุกิก็วิ่งเข้ามาเหมือนนางเอกละครรักที่พยายามปกป้องพระเอกจากกลุ่มผู้ร้ายอย่างสุดกำลัง เธอใช้พลังเฮือกสุดท้ายของเธอสร้างลูกพลังที่มือขวา แล้วยิงใส่ช่องอกที่ไร้การป้องกันของไกอาอย่างเต็มที่จนไกอารุ่นที่สองนั้นกระเด็นออกไปตามแรงปะทะ ชิบุกิวิ่งเข้ามาขวางหน้าระหว่างทั้งสองคนเอาไว้ทั้งๆที่พลังที่เหลืออยู่ของเธอในตอนนี้เองก็ไม่ต่างจากฮิซาชิเท่าไหร่เลย
"อย่านะ...ชิบุกิ!! เธอน่ะบาดเจ็บหนักแล้วนะ!! ถ้าโดนการโจมตีแรงๆของไกอาเข้าไปอีกแม้แต่ครั้งเดียวละก็..!"
"ฉันไม่สน!! ถ้าเพื่อได้ปกป้องนายละก็...กะอีแค่ชีวิตน่ะอยากจะได้เท่าไหร่ก็เอาไป!!!"
และเมื่อสถานการณ์กำลังคับขันถึงขีดสุด กลับมีความช่วยเหลือจากใครคนหนึ่งที่มาได้จังหวะเหมาะราวกับอัศวินม้าขาวมาช่วยพวกเขาต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าเอาไว้ได้ทันพอดี...
หรือบางที...มากันเป็นฝูงแมลงวันเลยล่ะมั้ง!?
"พวกเรา!! ยิงคุ้มกันอควารอยด์ด้วย!!!"
กองกำลังทหารราบนำพลปืนระดมยิงใส่ไกอาอย่างต่อเนื่อง แต่กระสุนปืนกับกระสุนระเบิดกลับไม่สามารถระคายผิวของไกอาได้เลยแม้แต่น้อย...
"จะบ้าเหรอ!! รีบหนีไปซะ!!!"
ยังไม่ทันที่ฮิซาชิจะพูดเสร็จ ไกอาก็ยิงลูกพลังใส่พวกทหารจนพินาศต่อหน้าต่อตาพวกฮิซาชิที่ลุกไม่ขึ้นแล้ว ท่ามกลางเปลวเพลิงที่ลุกไหม้นั้นได้แผดเผาชีวิตของผู้คนมานักต่อนักจนไม่อยากจะนับอีกต่อไปแล้ว
"ทีนี้ก็ไม่มีใครมาช่วยพวกแกอีกแล้วล่ะนะ..." เสียงไกอาพูดขึ้นครั้งแรกหลังจากที่เงียบมานานมาก
"พวกเราก็ไม่เคยคิดจะให้ใครมาช่วยอยู่แล้วล่ะน่า!"
แต่ก่อนที่ไกอาจะเริ่มลงมือกับพวกเขา กลับมีลำแสงสีดำลำหนึ่งพุ่งเข้ามาอัดใส่แผ่นหลังของไกอาจนกระเด็นออกไป เมื่อฮิซาชิส่องตาดูดีๆ เขาก็รู้ว่าความช่วยเหลือนั้นมาจากคนที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน แน่นอนว่าไกอาก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าจะถูกเล่นงานเอาแบบนี้...
"แกทำแบบนี้คิดดีแล้วงั้นเหรอ..."
ไกอาที่กำลังได้เปรียบคู่ต่อสู้มากราวกับคนที่กำลังจะตักขนมเค้กเข้าปากคนนั้นหันไปยังผู้ที่ช่วยศัตรูของเธอเอาไว้ ทันใดนั้นเจ้าของคลื่นพลังนั้นก็ลอยลงมายังพื้นเข้ามาขวางระหว่างเธอกับพวกฮิซาชิที่อ่อนแรงเอาไว้
"ไกอา..."
ฮิซาชิได้แต่ตะลึงในสิ่งที่เห็นตรงหน้า ไกอาร่างมิคาสะเข้ามาช่วยพวกเขาไว้ทำไม ในตอนนั้นเองที่สายตาอันเกือบจะเลือนรางของชายหนุ่มเห็นบริเวณขอบแก้มทั้งสองข้างของนางฟ้าปีกดำคนนั้นมีน้ำอะไรบางอย่างที่อาจจะเป็นได้ทั้งเหงื่อและน้ำตากำลังไหลลงมาหยดลงพื้นดินด้านล่าง
ซึ่งมันน่าจะเป็นน้ำตามากกว่า...
"ขอร้องล่ะ..! ช่วยตั้งชื่อให้ฉันหน่อย... อย่าเรียกฉันว่าไกอาเลยนะ! ได้โปรด!!"
"อะไรนะ..."
"ฉันน่ะ...อยากจะเป็นแบบชิบุกิ ฉันไม่อยากทำร้ายใครอีกแล้ว!"
ถึงจะไม่เข้าใจสิ่งที่ไกอาคนนั้นกำลังขอร้องให้เขาทำแทนที่จะตรงเข้ามาทำร้ายเขา ฮิซาชิที่เห็นน้ำตาของไกอาค่อยๆรินลงมาก็รู้สึกประหลาดราวกับว่ากำลังจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยที่ศัตรูกลายมาเป็นพรรคพวกร่วมต่อสู้เหมือนเมื่อครั้งก่อน ฮิซาชิจึงพยายามใช้ความคิดอย่างรวดเร็วก่อนที่ไกอาฮิโรมิจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง
"เข้าใจแล้วๆ... ถ้างั้นจากนี้ไป...เธอน่ะไม่จำเป็นที่จะต้องฆ่ามนุษย์คนไหนอีกแล้ว แต่เพื่อให้เธอจะได้ไม่ต้องทำร้ายใคร...เธอจำเป็นต้องต่อสู้นะ เข้าใจใช่ไหม!?"
สาวน้อยผมดำคนนั้นพยักหน้าตกลงในข้อผูกมัดของฮิซาชิ ในขณะที่ผู้เป็นเจ้านายของเธอนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่...ซึ่งมันแน่นอนอยู่แล้ว!
"เดี๋ยวก่อน! เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไร... รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลัง---"
เสียงเจ้านายของเธอถูกตัดไปทันทีที่ไกอาผู้หักหลังเปลี่ยนสัญญาณสื่อสารไปยังช่องอื่นซึ่งไม่มีอยู่จริง... ทั้งเธอและชิบุกิได้ทำลายระบบสื่อสารทางไกลซึ่งกำลังรับการติดต่อจากอดีตเจ้านายของพวกเธอทิ้งไปอย่างไม่ลังเล ต่อหน้ารอยยิ้มอันพึงพอใจของคนที่เธอจะเรียกว่า"เพื่อน"นับจากนี้ตลอดไป
"เธออยากจะได้ชื่อสินะ... งั้นเอาชื่อ'ฮิคาริ'...ได้หรือเปล่า!?"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ