Extinction Wars สัญญาครั้งนั้น...จะเริ่มกันเลยไหม
เขียนโดย CyCloEclipse
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.14 น.
แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 11.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
16) ขอบคุณจริงๆนะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความระหว่างที่ฮิซาชิกำลังรวมพลังจากม่านที่เขากางป้องกันการโจมตีของไกอาเตรียมทำการโต้กลับเพื่อปิดบัญชีอีกครั้ง ก็มีเสียงร้องของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นทำให้เขาต้องหยุดมือทันที
"ปล่อยหนูนะ!!! พี่ชาย..!! พี่สาวคะ!!!"
"โอ๊ะๆ อย่าขยับเชียวนา... ไม่งั้นฉันไม่รับประกันชีวิตของเด็กคนนี้นะ..."
ที่อีกฟากหนึ่งของสนามบินซึ่งถูกใช้เป็นเวทีต่อสู้ตัดสินความสามารถระหว่างseiriรุ่นที่ถูกผลิตขึ้นก่อนกับรุ่นที่สองที่สร้างขึ้นโดยใครก็ไม่ทราบได้ เด็กผู้หญิงอายุประมาณ5ขวบคนหนึ่งกำลังร้องสุดเสียงพร้อมสลัดให้หลุดจากกำมือของไกอาอีกคนที่ไม่ได้โจมตีใส่พวกเขา
แต่ก็ไม่เป็นผล... ซ้ำไกอาคนนั้นยังเตรียมจะง้างแขนโยนเด็กคนนั้นเข้ากองเพลิงที่ลุกโชนทันทีหากฮิซาชิโจมตีใส่พรรคพวกของเธอที่อยู่ตรงหน้า
"ไม่ต้องเป็นห่วงหนูหรอก... ฆ่าพวกมันเลย...แบบเดียวกับที่มันฆ่าพ่อแม่ของหนูยังไงล่ะ โอ๊ย!!"
ไกอาใช้กรงเล็บจิกผมเด็กคนนั้นจนเธอร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ทำให้ฮิซาชิต้องยอมยกเลิกการโจมตีสวนนั้นพร้อมคุกเข่าลงยอมศิโรราบแต่โดยดี... ทั้งเพื่อปกป้องชีวิตของเด็กหญิงที่สามารถพาตัวเองเดินมายังสนามต่อสู้ที่มีเลือดและเศษผิวหนังกระเด็นออกมาตลอดเวลา และเพื่อปกป้องชีวิตของseiriอีกสองคนที่อ่อนแอเกินกว่าที่จะต่อกรกับพวกไกอาต่ออีกด้วย
"ปล่อยเด็กคนนั้นได้แล้ว! เธอไม่เกี่ยวอะไรสักหน่อย!!"
แต่ถึงฮิซาชิจะร้องขอยังไง ไกอาก็ไม่ยอมฟังคำพูดของเขาเลย เธอโยนเด็กผู้หญิงในมือของเธอขึ้นไปสูงมาก มิคาสะที่จะบินไปช่วยก็ต้องชะงักเมื่อพวกมันอีกสองคนเตรียมยิงลูกพลังใส่เธอและชิบุกิที่ทรุดลงกับพื้นเพราะความเจ็บปวดจากกระดูกแขนที่หักเป็นสองท่อน ทำใมิคาสะสามารถทำได้เพียงยืนมองเด็กคนนั้นตกลงมาอยู่เฉยๆด้วยสายตาที่เคียดแค้นถึงที่สุด...
"ปัดโธ่ว้อย!!!"
มิคาสะร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งในขณะที่เด็กคนนั้นเริ่มตกลงมาสู่พื้น แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง ไกอาก็ยิงลูกพลังใส่เด็กที่กำลังตกลงมาอย่างเลือดเย็น
"อย่านะเฟ้ย!!!!!!!"
สิ้นเสียงของพวกมิคาสะก็มีใครบางคนบินเข้ามารับตัวเด็กคนนั้นไว้ ทำให้เธอรอดพ้นจากการโจมตีของไกอามาได้อย่างฉิวเฉียด โยโซระกับฮิโรมิพยายามจะเข้ามาช่วยพวกเธอตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วถ้าไม่ได้ติดที่ว่าทั้งสองคนต้องช่วยกันจัดการเหล่านางฟ้านอกรีตที่บุกเข้าถล่มแหล่งชุมชนและแย่งชิงชีวิตของมนุษย์ที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นอย่างโหดเหี้ยม
แต่เมื่อพวกเธอทั้งสองคนเตรียมเข้ามาช่วยทั้งสามคนต่อสู้กับศัตรูใหม่ทั้งสามคนนั้น....ฮิซาชิก็ห้ามพวกเธอไว้ให้พาเด็กคนนั้นไปส่งยังศูนย์อพยพและช่วยคนอื่นๆที่ยังตกค้างอยู่ในเมืองก่อนโดยไม่ต้องสนใจพวกเขา
แต่ถึงแม้ว่าแผนการอันแสนโสโครกของพวกไกอาจะถูกทำลายลงแล้ว ไกอาทั้งสามก็ยังบุกเข้ามาเล่นงานพวกฮิซาชิต่อจนบาดเจ็บสาหัส โดยที่ฮิซาชินั้นไม่สามารถตอบโต้พวกไกอาได้เลยเนื่องจากความเจ็บปวดและอ่อนล้าที่สั่งสมมา แน่นอนว่ามิคาสะและชิบุกิเองก็ไม่ได้ต่างกันเลย...
แต่ถึงจะได้ทำร้ายเหล่าผู้ต่อต้านจนบาดเจ็บสาหัสไปแล้วก็ตาม...พวกseiriรุ่มที่สองนั้นก็ยังไม่สาแก่ใจ ทั้งสามชาร์จพลังเตรียมยิงลำแสงพลังใส่พวกฮิซาชิที่กำลังยันตัวเองขึ้นจากพื้นอย่างลำบาก เหมือนนายพรานที่กำลังจะยิงเหยื่อที่ตัวเองล่าได้ซ้ำอย่างเลือดเย็น
"อึดกันจริงๆนะ... แต่ว่าทีนี้...ตายๆไปซะ!"
ไกอาทั้งสามชาร์จพลังสูงสุดเตรียมจะปล่อยออกมาสังหารพวกเขาแล้ว ทำให้ฮิซาชิกับมิคาสะไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะในเป้าหมายของพวกเธอนั้นมีชิบุกิที่เคยเป็นพวกเดียวกับไกอาอยู่ด้วย...
"นี่พวกแกไม่มีจิตใจเลยหรือไง! ชิบุกิ...สคริวล่าเคยเป็นพวกเดียวกับแกมาก่อนไม่ใช่เหรอ!!!"
แต่เสียงตะโกนของฮิซาชิไม่ได้ช่วยอะไรเลย ไกอาทั้งสามมองมายังพวกเขาราวกับแววตาของนักล่าที่ไม่สนใจเสียงร้องก่อนตายของเหยื่อเลยแม้แต่น้อย
"สำหรับพวกฉันแล้ว... ผู้ที่ไม่จำเป็นสำหรับเจ้านายก็ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่!"
พูดจบพวกมันก็ปล่อยลำแสงสังหารใส่พวกฮิซาชิที่ขยับไม่ได้ทันที พวกเขาแต่ละคนรู้ดีว่า...ถ้าโดนเข้าไปแม้แต่ครั้งเดียว ส่งศพข้ามแม่น้ำแห่งความตายโดยไม่ต้องฌาปนกิจได้เลย...
จากนั้นเพียงพริบตาเดียวก็เกิดระเบิดรุนแรงมากจนพัดเอาซากฐานทัพอากาศยานจนปลิวไปในอากาศไกลกว่ากิโลฯ พื้นโบกซีเมนต์บริเวณนั้นถูกระเบิดทำลายจนเหลือแต่ผิวดินที่ถูกปูนโบกทับ ไร้ซึ่งเศษซากปรักหักพังแม้แต่ชิ้นเดียว...หรือแม้แต่เปลวไฟที่เคยลุกโหมเข้าทำลายทุกสิ่งที่ช่วยต่อชีวิตให้มันก็ตาม
แต่ถึงจะโดนโจมตีใส่อย่างนั้น ฮิซาชิกับชิบุกิกลับไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว... มีอะไรบางอย่างป้องกันพวกเขาไว้จากลำแสงพลังเมื่อครู่นี้ บางสิ่ง...ที่ทั้งสองคนไม่อยากที่จะใช้มันเป็นโล่กำบังเลยแม้จะบาดเจ็บจนเข้าสถานการณ์ล่อแหลมก็ตามที
และเมื่อทั้งคู่ลืมตาขึ้นเพื่อพิสูจน์ว่าอะไรคือโล่ที่ป้องกันพวกเขาไว้ มันก็กลายเป็นความจริงที่พวกเขาอยากให้เป็นแค่ความฝันเพียงตื่นหนึ่ง... ที่แค่ลืมตาตื่นขึ้นมาก็กลับสู่สภาวะปกติ
"มิคาสะ!!!!!!!"
"พี่มิคาสะ!!!!!!!"
นี่พวกเราต้องฝันไปแน่ๆ มิคาสะกำลังยืนอยู่ตรงหน้าทั้งสองคนในร่างที่เกือบจะเปลือยเปล่า ปีกมังกรอันเป็นสัญลักษณ์ของseiriอควารอยด์ทั้งสองคู่ที่แผ่นหลังของเธอขาดกระเด็นเพราะพลังทำลายอันมหาศาลจากการโจมตีของไกอา เธอยังคงมีชีวิตอยู่ หากแต่ร่างกายของเธอในขณะนี้ไม่มีความรู้สึกอะไรอีกแล้วเพราะการโจมตีเมื่อครู่ได้ทำลายเส้นประสาทและตัดขาดระบบสมองที่รับรู้ความเจ็บปวดของเธอไปจนหมดสิ้น
มิคาสะในตอนนี้... ก็ไม่ต่างอะไรกับตุ๊กตายางที่ทนรับความเจ็บปวดที่ไม่สามารถรู้สึกได้เลยแม้แต่นิดเดียว
"ปลอดภัยดีใช่ไหม... ฮิซาชิ... ชิบุกิ..."
ตุ้บบบบ.......
มิคาสะล้มลงกับพื้นทันทีที่แรงอัดระเบิดหมดลง ฮิซาชิกับชิบุกิเข้ามาประคองร่างกายอันไร้เรี่ยวแรงของเธอไว้ในขณะที่ไกอาทั้งสามกำลังให้โอกาสทั้งสองให้ได้ไว้อาลัยแก่เพื่อนสนิทของพวกเขาด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย...ทั้งๆที่พวกเธอเพิ่งจะฆ่าคนไปมากกว่าร้อยกว่าพันคนก็ตาม
"เธอบ้าไปแล้วหรือไง!!! ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย!!!!"
"อย่านะคะพี่มิคาสะ!!! อย่าทิ้งหนูไปนะ!!!!"
ทั้งสองคนได้แต่ร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือดพูดจาไม่ได้ศัพท์กรอกหูมิคาสะที่อาจจะไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกแล้วก็ได้ สาวน้อยผมน้ำเงินเข้มบนตักของฮิซาชิเองก็ร้องไห้ออกมาเหมือนกัน
"อยากร้องไห้สิ... ไม่สมกับเป็นพวกเธอเลยนะ..."
ฮิซาชิกับชิบุกิได้ยินเสียงมิคาสะพูดเบาๆเข้ารูหูที่เปื้อนไปด้วยเลือดที่กระเด็นออกมาจากตัวเธอตอนที่เข้าไปรับลำแสงนั้นแทน ไม่ทราบว่าพวกเขาคิดไปเองหรือไร... แต่สีหน้าที่อ่อนล้าจนแทบจะขยับไม่ได้แม้แต่ริมฝีปากของมิคาสะตอนนี้กลับเปี่ยมล้นไปด้วยความเข้มแข็งที่ยิ่งกว่าเมื่อครั้งที่แล้วๆมาหลายเท่าตัว
"ฮิซาชิ... ตอนนั้นนายบอกว่าจะฆ่าฉันไม่ใช่เหรอ... แล้วทำไมนายถึงมาร้องไห้ตอนที่เป้าหมายของนายกำลังลุล่วงซะล่ะ..!"
"ชิบุกิ... ก่อนหน้านี้ที่ฉันบอกว่าจะฆ่าเธอถ้ากลับไปร่วมกับฝั่งนั้นน่ะ... ถ้าเธอจะกลับไป...ฉันก็ไม่ว่าหรอก...นะ โขลก!!"
มิคาสะกระอักเลือดออกมาเลอะชุดสีน้ำเงินที่เต็มไปด้วยคราบเลือดของชิบุกิอย่างกลมกลืน ทำให้ทั้งสองคนได้แต่มองดูเธอค่อยๆหายใจแผ่วลงไปต่อหน้าต่อตาโดยที่ไม่สามารถทำอะรได้เลยแม้แต่นิดเดียว
"อย่าเพิ่งพูดอะไร!! ทำใจโล่งๆไว้นะคะ!! เดี๋ยวหนูจะรักษาพี่เอง!!!" ชิบุกิน้ำตาคลอเบ้าขณะเริ่มการรักษาอาการบาดเจ็บของพี่สาวเธอ ถึงแม้ว่ามันจะดูไร้ประโยชน์มากสำหรับตอนนี้ก็ตาม...
"ฮิซาชิ... ตั้งแต่ที่ฉันเข้ามาอยู่ที่บ้านของนาย... นายต้องลำบากใจมากเลยสินะ ระหว่างเพื่อนกับหน้าที่น่ะ..! ฉันต้องขอบใจจริงๆที่ตอนนั้นนายเลือกไว้ชีวิตฉัน..."
หลังจากได้ยินคำพูดของมิคาสะแล้ว น้ำตาที่ไหลไม่หยุดของชายหนุ่มผู้อ่อนโยนและแข็งแกร่งก็พรั่งพรูออกมาทั้งทางปากและจมูก
"ขอร้องล่ะ! อย่าพูดอะไรอีกเลยนะ!!"
"แล้วก็นะ... หลังจากที่ฉันได้อาศัยอยู่กับนาย... ได้ใช้ชีวิตร่วมกับทุกๆคน... ฉันก็ได้รู้จักกับความแข็งแกร่ง... ความอ่อนโยน... แล้วก็ความกล้าหาญที่นายมี... ฉันอยากให้- ค่อก!!"
เห็นได้ชัดว่ามิคาสะไม่ไหวแล้ว... ที่เธอยังพูดอยู่ได้ในขณะนี้ก็เพราะการรักษาของชิบุกิ ถ้าไม่ได้เธอช่วยยืดเวลาชีวิตไว้ละก็... เธอคงจะตายตั้งแต่ก่อนที่จะได้ย้อนนึกถึงอดีตแล้วด้วยซ้ำ!
"แล้วก็ชิบุกิ..! เธอช่วย...ดูแลฮิซาชิ...ปกป้องเขา...แทนฉันด้วย..นะ....."
"ยัยบ้านี่!! ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว!!!!"
ฮิซาชิพยายามที่จะบังคับไม่ให้มิคาสะพูดอะไรอีกเพื่อสงวนเรี่ยวแรงเอาไว้ให้การรักษาของชิบุกินั้นยังคงได้ผลอยู่ แต่มิคาสะนั้นรู้ตัวดีอยู่แล้วว่ายังไงวันนี้ก็ต้องมาถึง เธอจึงเช็ดคราบเลือดสีแดงเขรอะที่เปื้อนอยู่ตามใบหน้าของเธอด้วยของเหลวใสๆที่สามารถชำระได้แม้กระทั่งความเศร้า...
และในระหว่างที่แสงสว่างที่ลอดฝ่านดวงตาของมิคาสะกำลังจะจางหายไปนั้น... เธอก็นึกคำพูดที่ต้องการจะบอกกับชายหนุ่มที่กำลังทำในสิ่งที่เธออยากจะให้เขาทำกับเธอมาตลอดได้เสียที ทั้งๆที่เมื่อก่อนหน้านี้ในหัวของเธอนึกอะไรไม่ออกแท้ๆ...
"ยังอีกเรื่องนึงนะ...ฮิซาชิคุง... ขอบคุณที่...รับฉัน...และพวกseiri...เป็นครอบครัว...นะ"
เสียงของมิคาสะขาดไปพร้อมกับสัญญาณชีวิตของเธอ ขณะนี้มิคาสะได้สิ้นลมหายใจไปบนตักอันแสนรักของฮิซาชิกับชิบุกิ เธอจากไปด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม...
เหลือไว้เพียงผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ที่ต้องอยู่กับความเศร้าและความเจ็บปวดที่เกินกว่าจะรับไว้ได้เท่านั้น
"ยกโทษให้ไม่ได้แล้ว..."
ชายหนุ่มใช้นิ้วมือที่เปื้อนเลือดที่ไหลออกมาจากช่องปากของสาวน้อยที่นอนหลับอย่างสงบในอ้อนแขนของเขาขึ้นมาเช็ดคราบน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมาเลอะแก้มอันแสนอ่อนนุ่มของเธออย่างทะนุถนอม ก่อนที่จะวางศีรษะของเธอลงกับพื้นอย่างช้าๆแล้วลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายที่สั่นระรัว...
ทั้งด้วยความเศร้า...และความเจ็บแค้นอย่างที่สุด!
"ยกโทษให้ไม่ได้แล้ว!!! ไกอา!!!!!"
ฮิซาชิระเบิดพลังอาฆาตแค้นใส่ผู้ที่ลงมือสังหารเพื่อนที่รักที่สุดของตนอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยทำมาก่อนในชีวิต เขาเตรียมพุ่งเข้าไปปะทะกับทั้งสามตนอย่างไม่เกรงกลัวอะไรอีกแล้ว
"แก!!! ตาย!!!!!"
ฮิซาชิพุ่งเข้าปะทะอสุรกายในร่างนางฟ้าอย่างรุนแรงจนเกิดลมพัดเศษดินลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า พวกเขาต่อสู้กันอย่างดุเดือดจนแม้แต่กลางท้องฟ้ายังลุกเป็นไฟ ท่ามกลางสายตาอันเศร้าสลดของชิบุกิที่นั่งกอดร่างไร้ลมหายใจของพี่สาวเธอด้วยแขนเพียงข้างเดียวเอาไว้อย่างไม่มีแรงจะทำอะไรทั้งนั้น
ในใจเธอหวังเพียงให้ฮิซาชิจัดการฆ่าพวกอสุรกายที่ฆ่าพี่สาวของเธอให้ได้เท่านั้น!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ