Extinction Wars สัญญาครั้งนั้น...จะเริ่มกันเลยไหม

5.7

เขียนโดย CyCloEclipse

วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.14 น.

  31 ตอน
  3 วิจารณ์
  33.33K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 11.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) นางฟ้าผู้มีปีกสีดำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ย้อนกลับไป5นาทีก่อนการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์... ในขณะนั้นเป็นการสัมภาษณ์สดถึงการปรากฏตัวขึ้นมาอย่างโจ่งแจ้งและเห็นได้ชัดของseiriเป็นครั้งแรกในรอบ27ปีที่ผ่านมา

"ไม่ทราบว่าคุณคิดยังไงกับการที่เหล่าสิ่งมีชีวิตที่เคยก่อเรื่องเดือดร้อนให้กับพวกเราเมื่อ25ปีก่อน ที่ขณะนี้กลับยื่นมือเข้าช่วยพวกเราต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตประหลาดพวกนั้นคะ!"

ณ สวนสาธารณะใหญ่กลางเมืองโตเกียว ทีมข่าวโทรทัศน์ได้ยกขบวนแห่ขอสัมภาษณ์ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนั้นในเวลานั้น เหตุเพราะการต่อสู้ครั้งใหญ่กับบุคคลที่สาวน้อยอควารอยด์ผู้หลงผิดเรียกว่า"นายเหนือหัว"นั้น ได้ทำให้ทุกคนบนโลกทราบถึงการดำรงอยู่ของพวกseiriที่น่าจะหายสาปสูญไปตั้งแต่ในการต่อสู้ที่เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อ27ปีที่แล้วเป็นที่เรียบร้อย...

"ผมคิดว่ามันก็ไม่แปลกนะครับ เพราะพวกเขาเอง...ก็เป็นผู้ที่อาศัยอยู่บนโลกเหมือนกับพวกเรา การที่สิ่งมีชีวิตต่อสู้เพื่อปกป้องดินแดนเกิดของตนและสิ่งที่ตนเองรักก็เป็นเรื่องปกติแล้วไม่ใช่เหรอครับ..."

การสัมภาษณ์ดำเนินไปได้ไม่นาน ก็มีใครบางคนเข้ามาขัดขวางเอาไว้...

"เจ้าพวกนั้นมันเลวบริสุทธิ์!! สัตว์ประหลาดอย่างพวกมันน่ะไม่มีวันที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องโลกที่มันต้องการจะทำลายหรอก!!!"

ในระหว่างที่การสัมภาษณ์กำลังดำเนินไปนั้นเอง กลับมีชายแก่คนหนึ่งเข้ามาแย่งไมค์จากผู้สื่อข่าวประกาศพร้อมตะโกนต่อต้านพวกseiriอย่างสุดเสียง ดูเหมือนถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปถึง27ปีแล้ว...

ความเจ็บปวดที่ผ่านมาจะยังไม่จางหายไปเลยซะทีเดียว


"อ๊ะ! พูดถึงยังไม่ทันขาดคำ ดูสิ!! นั่นไงพวกมัน!!!"

ระหว่างที่ชายแก่คนนั้นกำลังตะโกนผ่านไมค์ทำให้ผู้ที่ดูโทรทัศน์ในขณะนั้นแสบแก้วหูกันไปตามๆกันอยู่นั่นเอง... เขาก็ชี้นิ้วไปยังยอดตึกที่อยู่ห่างออกไป

ณ จุดที่ชายคนนั้นชี้ไปนั้นเอง... ปรากฏร่างของนางฟ้าตนหนึ่งกำลังก้มมองสิ่งมีชีวิตผู้มีอิทธิพลสูงสุดเหนือผืนดินด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยามเหมือนเวลามนุษย์ก้มดูมดปลวกที่ได้แต่คลานอยู่บนพื้นดินอย่างนั้นแหละ

และเมื่อกล้องโทรทัศน์ทำการซูมภาพเข้าไปใกล้ๆ ทุกคนที่กำลังดูโทรทัศน์อยู่ก็ต้องตกใจมากโดยเฉพาะผู้คนอายุ30ขึ้นไป เพราะที่ปรากฏอยู่ในหน้าจอโทรทัศน์ก็คือ...

นางฟ้าคนนั้นกำลังยืนมองพวกเขาอยู่จากยอดตึกสูงซึ่งห่างจากสวนสาธารณะนั้นไปเกือบกิโลฯ สายตาของเธอเหมือนจะเห็นพวกเขาได้ชัดเจนถึงจะไม่ต้องใช้กล้องส่อง แน่นอว่าพวกฮิโรมิและโยโซระที่กำลังดูรายการนี้ผ่านหน้าจอโทรทัศน์เองก็ต้องประหลาดใจไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดา เพียงปีกของนางฟ้าแองเจลอยด์เป็นสีขาวน้ำนม ในขณะที่ปีกของเธอคนนั้นมีสีดำ และชุดเกราะของเธอก็สะท้อนประกายสีดำเย็นยะเยือกดุจแสงจันทร์

ราวกับไม่ใช่seiriธรรมดาอย่างนั้นแหละ...

"อันตราย!!"

เสียงที่เกิดขึ้นผ่านหน้าจอโทรทัศน์ไม่มีทางที่จะถูกส่งไปยังกล้องที่ถ่ายอยู่ได้ แองเจลอยด์คนนั้นยื่นมือข้างหนึ่งออกมาข้างหน้าเข้าหากล้องโทรทัศน์ก่อนจะยิงลำแสงสีดำใส่สวนสาธารณะอย่างเต็มแรงจนทำให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงจนทุกสิ่งที่อยู่บนพื้นถูกแรงดีดจากผืนดินจนลอยขึ้นไปกลางอากาศเป็นเวลาชั่วระยะหนึ่ง

...........................................

"เป็นไปไม่ได้..! เรื่องแบบนี้..."

สาวน้อยอควารอยด์ที่หันมาดูหน้าจอโทรทัศน์ที่ฉายภาพเหตุการณ์ซ้ำตามเสียงเรียกของฮิโรมิก็เป็นต้องมองดูด้วยความตกใจ ราวกับว่าเธอจะเคยเห็นเจ้าสิ่งนั้นมาก่อน...

"มีอะไรเหรอ...ชิบุกิ! เธอเคยเห็นนางฟ้าคนนั้นมาก่อนเหรอ... ยัยนั่นก็เป็นหนึ่งในพวกนั้นเหรอ!!"

เบาะแสในการระบุตัวเพียงอย่างเดียวของพวกเธอ ชิบุกิพยายามรวบรวมพลังในการออกเสียงตอบคำถามชายหนุ่ม

"อือ... เมื่อก่อนฉันเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ตอนที่ไปเข้าเฝ้านายใหญ่น่ะ นายเหนือหัวเคยพาฉันไปดูการประกอบร่างseiriที่จะใช้เพื่อกวาดล้างพวกมนุษย์ด้วยน่ะ... แล้วseiriพวกนั้นก็ไม่ได้มีแค่ยัยนี่คนเดียวด้วย"

"แล้ว! ถ้าเธอเคยเห็นseiriคนนี้มาก่อน... ผู้หญิงคนเมื่อกี้...แข็งแกร่งแค่ไหนเหรอ"
โยโซระหวังจะใช้ข้อมูลจากชิบุกิในการวิเคราะห์สถานการณ์ความได้เปรียบในการต่อสู้ แต่แล้วสาวน้อยอควารอยด์ก็หักอกเธอจนได้... คำพูดที่หลุดออกมาจากปากน้อยๆของชิบุกินั้นได้สร้างลางสังหรณ์แปลกๆให้กับผู้ที่ได้ฟังจนได้


"ระดับพลังของพวกเธอแต่ละคน... แข็งแกร่งเทียบชั้นได้กับพี่มิคาสะในโหมดสงครามเลยล่ะ..!"


โหมดสงคราม...ของมิคาสะ...งั้นเหรอ! ถ้าแบบนั้นพวกเธอก็ไม่มีทางสู้ได้เลยน่ะสิ! ขนาดมิคาสะในโหมดปกติ พวกเธอยังหืดขึ้นคอกันเลย แล้วแบบนี้..!


"เอาเถอะ! มาประเมินกันอยู่แบบนี้ ก็เท่ากับปล่อยให้ยัยนั่นทำลายเมืองจนไม่เหลือน่ะสิ!!"

ฮิซาชิไม่คิดอะไรอีกแล้ว เขารีบมุ่งหน้าไปยังโตเกียวทันที โดยได้แต่หวังว่า... เมืองนั้นจะยังไม่ย่อยยับไปก่อนที่เขาจะไปถึงนะ!

..................................................

"เชอะ! อาวุธของเจ้าพวกมนุษย์นี่อ่อนหัดจริงๆ!"

เหล่าตำรวจกับทหารได้เข้ามายิงสกัดไว้ไม่ให้เธอเข้าทำลายเมืองได้มากไปกว่านี้ แต่ก็ไร้ผล... กระสุนปืนของพวกเขาไม่สามารถทำอะไรเธอได้เลย กระสุนหัวตะกั่วหรืออะไรก็ว่ากันไปไม่สามารถทะลวงชุดเกราะสีนิลที่ปกคลุมร่างกายเธอเอาไว้ได้เลย

แม้แต่ส่วนที่เป็นเนื้อก็เช่นเดียวกัน!!

"รับไปซะ... เหล่ามนุษย์ผู้โง่เขลา!"

แองเจลอยด์ปีกดำคนนั้นเริ่มรู้สึกรำคาญยิงคลื่นพลังสีดำใส่มนุษย์ผู้ต่อต้านในทันทีโดยไม่จำเป็นต้องสะสมพลังใดๆเลย เพราะมันไม่จำเป็นอยู่แล้ว...

"อ๊ากกกกก-!"

หลังจากที่สังหารผู้ที่ออกมาต่อต้านเธอได้ทั้งหมดแล้ว แองเจลอยด์คนนั้นได้ทำการกวาดล้างทุกคนที่ต่อต้านเธอจนไม่เหลือแม้แต่คนเดียว เธอเพียงคนเดียวสามารถทำลายกรุงโตเกียวได้ถึงครึ่งจังหวัดในเวลาไม่ถึง2นาที แต่เมื่อเธอกำลังจะเคลื่อนหน้ากวาดล้างมนุษย์ต่อนั้นเอง... เธอก็ถูกกระแทกจากด้านหน้าจนลอยไปกระแทกซากตึกที่ถล่มลงมา

พร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังร่อนลงมาที่พื้นหลังจากกระแทกร่างกายของseiriคนนั้นด้วยฝ่าเท้าจนกระเด็นไปด้วย

"นี่มัน...อะไรกัน!"

ฮิซาชิไปถึงโตเกียวที่ไม่เหลือเค้าโครงเดิมให้ยืนยันได้จากทางอากาศเลย ความตายของผู้คนนับพันในที่แห่งนั้นได้กระตุ้นต่อมโมโหของเขาให้ทำงานขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว


"คิดจะทำอะไรของเธอ... ไกอา!!!"


ฮิซาชิตะโกนถามแองเจลอยด์ผู้ไร้ซึ่งความรู้สึกที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยชื่อที่เขารู้มาจากชิบุกิอย่างเดือดดาล เขาไม่มีวันยกโทษให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่...

"ระบุตัวศัตรู... มนุษย์ดัดแปลงพันธุกรรม... โคริคาวะ ฮิซาชิ เริ่มทำการโจมตีได้"

ไกอาบุกเข้าชาร์จชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว ความเร็วของเธอนั้นเร็วกว่าฮิโรมิเสียอีก แรงปะทะที่อัดใส่ฮิซาชิอย่างรุนแรงทำให้เขากระเด็นไถลกับพื้นเป็นระยะทางไกลมาก

"โธ่เฟ้ย! ทำไมคู่ต่อสู้ของตรูทุกคนถึงต้องเป็นผู้หญิงด้วยฟะ!!"

ฮิซาชิตะโกนอย่างหงุดหงิดก่อนพุ่งเข้าไปแลกหมัดกับแองเจลอยด์เกราะดำที่ทำหน้าตาไร้อารมณ์ใส่เขาอย่างดุเดือด ทั้งคู่ผลัดกันรุกรับ ต่างฝ่ายต่างโดนหมัดของกันและกันจนอ่วม

และเมื่อฮิซาชิเริ่มทนไม่ไหว ชายหนุ่มก็เร่งพลังเข้าสู่โคโรน่าโหมดทันที

คราวนี้ฮิซาชิได้เปรียบเต็มๆ เพราะถึงแม้ว่าไกอาจะแข็งแกร่งเทียบเท่ากับมิคาสะในโหมดสงคราม... มันก็ยังต่างชั้นกับโคโรน่าโหมดอยู่มาก ฮิซาชิกลายเป็นฝ่ายเล่นงานไกอาอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่เธอไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย สุดท้ายฮิซาชิก็เตะเธอเข้าที่ช่วงอกอย่างแรงจนไถลครูดไปกับพื้น...
(สังเกตไหม... การเตะผู้หญิงเป็นงานประจำของฮิซาชิ!)


ไกอาพยายามดันตัวขึ้นจากพื้น ซึ่งฮิซาชิได้รวมพลังสร้างลูกไฟเตรียมเผด็จศึกคอยอยู่แล้ว...

"หายไปซะ..! ไกอา!!"

ฮิซาชิยิงลำแสงเพลิงใส่ไกอาจนเธอพ่ายแพ้ไป แต่ก่อนที่ร่างของเธอจะระเบิดไปนั้น เธอก็พูดออกมาด้วยเสียงของผู้ชาย...

"แกอีกแล้วเหรอ... โคริคาวะ ฮิซาชิ!"
เสียงนั้นฟังดูโหดมาก เหมือนเจ้าของเสียงจะโกรธมากที่เขามาขัดขวางสิ่งที่เขาพยายามจะทำอยู่ตลอดมา

"แกกวาดล้างพวกseiriเพื่อพวกมนุษย์... พวกเราก็กวาดล้างพวกมนุษย์เพื่อทุกชีวิตบนโลก... แล้วพวกเรามันต่างกันตรงไหนหือ..! ฮิซาชิ- อ๊าก!!"


แล้วร่างของไกอาก็ระเบิดหายไป โดยทิ้งข้อคิดให้ชายหนุ่มนำกลับไปคิดท่ามกลางสายตานับพันของผู้ที่ยังรอดชีวิต... แน่นอนว่าเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่ไกอาพูดออกมาในตอนสุดท้ายของชีวิตเธอเลย...แม้แต่นิดเดียว!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา