Extinction Wars สัญญาครั้งนั้น...จะเริ่มกันเลยไหม
เขียนโดย CyCloEclipse
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.14 น.
แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 11.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) คำถามที่ตอบซ้ำไปซ้ำมา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"นี่... พี่มิคาสะคะ!"
เสียงแหลมเล็กของสาวน้อยฟ้าอ่อนดังขึ้นระหว่างที่พี่สาวของเธอกำลังเตรียมอาหารอยู่ ทำให้อควารอยด์ผู้มีปีกสองคู่ถึงกับจำเป็นต้องหยุดมือลงทันทีเนื่องจากสิ่งที่น้องสาวของเธอต้องการตะถามนั้นไม่เคยมีเรื่องไหนเลยที่สามารถให้คำตอบได้ง่ายๆ...
"คือว่าหนูมีเรื่องที่สงสัยอยู่เรื่องนึงน่ะค่ะ... แล้วหนูคิดว่าพี่น่าจะให้คำตอบกับหนูได้ค่ะ"
สาวน้อยออกอาการหน้าแดงนิดหน่อย เธอรวบรวมความกล้าที่จะเอ่ยปากถามสิ่งที่อยากรู้ที่เก็บเอาไว้ในใจตลอดมาออกไป ซึ่งพี่สาวเธอก็รอฟังอยู่อย่างใจเย็น...
จนกระทั่ง!!
"ความรัก...คืออะไรคะ!"
กลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังช่วงการต่อสู้อันแสนทรมานซึ่งนำพาให้ฮิซาชิและเหล่าเพื่อนพ้องseiriได้พบกับสมาชิกกลุ่มต่อต้านศัตรูที่ไม่คาดฝันคนใหม่ ชิบุกิได้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของฮิซาชิเป็นการถาวร ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความลำบากให้กับเขามากขึ้นอีกเนื่องเพราะ...
เมื่อสาวน้อยที่เพิ่งย้ายเข้ามาเป็นน้องสาวอีกคนของมิคาสะ และยังกระหายใคร่รู้เรื่องความรักอีกด้วย...
'ความรักคืออะไร...ฉันยังไม่รู้เลย แล้วฉันจะไปตอบคำถามนั้นได้ยังไงกันเล่า!'
"ทำไมอยู่ๆถึงมาถามเรื่องแบบนี้กับฉันล่ะ... สคริว-- ชิบุกิ!"
มิคาสะยังไม่ชินกับการเรียกชื่อใหม่ของสาวน้อยตรงหน้าที่เพิ่งจะได้มีโอกาสใช้เรียกจริงเมื่อ3-4วันมานี้เอง จึงทำให้มิคาสะเกิดอาการติดขัดไปบ้างเวลาคุยโต้ตอบกับน้องสาวเธอ
"ก็แหม... พี่มิคาสะก็รู้จักกับความรักแล้วไม่ใช่เหรอ... ก็น่าจะตอบคำถามหนูได้นี่นา!"
คนละเรื่องกันเลย! เรื่องที่รู้จักกับความรักกับเรื่องอธิบายความหมายมันคนละเรื่องก็เห็นๆ!! แต่ในเมื่อน้องสาวช่างสงสัยของเธอถามมาก็ต้องตอบล่ะนะ...
"เอ่อ... จะว่าไงดีล่ะ! ความรักก็คือ... เอ่อ..."
มิคาสะพยายามใช้ความคิดให้ได้คำตอบดีๆให้ได้มากที่สุด แต่ต่อให้ใช้ความคิดขนาดไหน... seiriที่ไม่สามารถรักใครได้อย่างสนิทใจก็ไม่มีวันที่จะตอบคำถามนี้ได้หรอกนะ... แน่นอนว่าเรื่องนี้มิคาสะรู้อยู่แล้ว
"ช่วยไม่ได้นะ... เธอลองไปถามยัยนั่นดูแล้วกัน"
"โยโซระ!"
มิคาสะที่ตอบคำถามไม่ได้ชี้นิ้วให้ชิบุกิเบนเข็มไปค้นหาความจริงจากแองเจลอยด์ที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อย่างสบายอารมณ์ แต่ขอแนะนำว่าอย่าไปถามยัยนี่จะดีกว่านา... ไม่งั้นอาจจะได้คำตอบแนวที่ว่า...
"ความรักก็คือความเจ็บปวดไงล่ะ!" เห็นไหมล่ะ..!
"แต่ว่านะ... เมื่อก่อนฮิซาชิก็เคยพูดให้ฟังนี่นา เรื่องความรักที่แท้จริงน่ะ..."
"ความรักที่แท้จริงคืออะไรเหรอ!!" ชิบุกิส่งสายตาเป็นประกายให้กับสาวน้อยผมน้ำตาลอย่างมีความหวัง ดูเหมือนถ้ายังไม่ได้คำตอบ แม่นี่คงจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆแน่...
"ก็จริงที่ความรักมันทำให้เจ็บปวด...แต่ภายในนั้นก็มีความอบอุ่นแฝงอยู่ ถ้ามันไม่มีความอบอุ่น มันก็ไม่ใช่ความรักหรอกนะ!! ประมาณนี้แหละ..."
ชิบุกิแสดงท่าทีเหมือนจะเข้าใจทันที เธอย้ำแนวคิดของเธอให้แองเจลอยด์ตรงหน้าเธอยืนยัน
"ทำให้เจ็บปวด...แต่อบอุ่น! งั้นก็หมายความว่าให้เอาคนที่เรารักไปใส่ในเตาอบสินะ!"
นั่นไง..! ไม่ได้เข้าใจเลยสักนิด...
เมื่อชิบุกิยังไม่ได้คำตอบตามที่ใจต้องการ เธอจึงไปหาที่พึ่งแห่งใหม่อย่างไม่รอช้า... และอาจจะเป็นแห่งสุดท้ายแล้วก็ได้
"ฮิโรมิ!!"
สาวน้อยวิ่งเข้าไปหาคนที่เธอเคยทำร้ายอย่างร่าเริง เหมือนเธอจะลืมไปแล้วว่าเคยทำอะไรไว้ ซึ่งในขณะนี้บาดแผลตามตัวของฮิโรมิได้หายไปหมดแล้วเพราะการรักษาร่วมกันของมิคาสะกับชิบุกิ พวกมันจึงหายสนิทราวกับไม่เคยมีการต่อสู้ครั้งนั้นเกิดขึ้นมาก่อน...รวมไปถึงรอยแผลเป็นที่สาวน้อยสร้างไว้ด้วย
"ความรักคืออะไรงั้นเหรอ..."
ส่วนเจ้าตัวก็ดูเหมือนจะไม่ได้โกรธเคืองอะไรเลย เธอกำลังพยายามใช้ความคิดที่กลั่นกรองออกมาจากสมองส่วนที่ไม่ค่อยมีอย่างหนักเพื่อน้องใหม่ของบ้านที่เพิ่งหลุดออกมาจากพันธนาการชั่วร้ายที่บีบรัดเอาไว้ให้เธอทำในสิ่งที่ทั้งเธอและไม่ว่าใครๆต่างก็ไม่อยากทำ
"ความรักคืออะไร... ถ้าเธอได้ไปใกล้ชิดกับฮิซาชิก็คงจะได้คำตอบเร็วกว่ามาถามฉันแน่!"
เมื่อได้ยินดังนั้น ชิบุกิก็รีบวิ่งไปตามคำแนะนำของเทอร์รารอยด์ที่เธอเคยแค้นอย่างเร่งรีบ เหมือนเธอจะไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว...
"ฮิซาชิ...จ๋า!!" สาวน้อยวิ่งไปกอดช่วงเอวของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว จนชายหนุ่มเซถลาลงไปกับพื้น
"นี่เธอเล่นบ้าอะไร!! รีบปล่อยมือออกเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!"
........................
"ความรักคืออะไรงั้นเหรอ...."
ชายหนุ่มเครียดมากกับคำถามโลกแตกพรรค์นี้ แต่ไม่ใช่เพราะเขาตอบไม่ได้หรืออะไรหรอกนะ... หากเพราะเขารำคาญต่างหาก!!
"ตั้งแต่ตอนที่ยัยโยโซระถามฉันเมื่อ7ปีก่อนแล้วนะ..!" ฮิซาชิขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด เมื่อไหร่จะมีคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาซะทีนะ!!
ส่วนชิบุกิก็จ้องเขาตาไม่กระพริบ ซ้ำยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆด้วย... ราวกับว่ากำลังส่องเข้าไปในความคิดของอีกฝ่ายเพื่อที่จะได้ทราบคำตอบที่แน่ชัดก่อนที่ฮิซาชิจะได้พูดออกมาเสียอีก
"ให้ตายสินะ... ทำไมพวกseiriนี่ถึงได้กระหายใคร่รู้เรื่องนี้กันจังนะ..!"
ถึงจะรำคาญกับคำถามซ้ำซากที่เคยทำให้เขาลำบากมานักต่อนักแล้ว ฮิซาชิก็ยังข่มจิตใจที่ขุ่นเคืองถึงที่สุดตัวเองก่อนจะให้คำตอบที่แสนจะยาวเยื้อยออกมา...
"เธอไปฟังคำนิยามความรักจากโยโซระมาแล้วสินะ..."
ชิบุกิพยักหน้า ทำให้ฮิซาชิรู้สึกปลอดโปร่งถึงที่สุด... อันที่จริงเขาอยากจะแทรกแผ่นดินหนีจากสาวน้อยนรกส่งมาเกิดให้ได้เร็วที่สุด ถ้าไม่ติดที่ว่าพวกเธอสามารถชกไปที่พื้นจนแตกกระจายเป็นส่วนๆจนพบตัวเขาได้ง่ายๆละก็นะ...
"งั้นฟังสิ่งที่ฉันจะพูดให้ดีๆนะ... ฟังอย่างตั้งใจด้วย!"
ความรักน่ะนะ... คือการที่คนเราไม่ว่าใครก็ตามเคารพซึ่งกันและกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เป็นห่วงซึ่งกันและกันโดยไม่หวังว่าอีกฝ่ายจะทำแบบนี้กับเราหรือเปล่า แน่นอนว่ามันต้องมีความเจ็บปวดเกิดขึ้นแน่ๆ แต่สิ่งที่ทำให้เจ็บปวดไม่ใช่การทำร้ายกันทางร่างกาย...หรือจิตใจ สิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดได้น่ะก็คือ การที่คนที่เรามอบความเป็นห่วง ความเป็นห่วงเป็นใยนั้นให้โดยไม่ขออะไรตอบแทน มอบสิ่งเดียวกันนั้นให้กับเรา สิ่งนั้นจะทำให้หัวใจเราเจ็บปวดมาก เจ็บจนทนไม่ได้... แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ทำให้เรามีความสุขด้วยเหมือนกัน ความรักไม่จำเป็นต้องมีคำนิยามอะไรเลย ขอแค่ให้เราทำในสิ่งที่เราคิดว่าดีให้กับเขา โดยไม่ทำให้คนที่เรามอบสิ่งเหล่านั้นให้ต้องเป็นห่วง แค่นั้นมันก็เรียกได้ว่าเป็น"ความรัก"แล้ว... ไม่ใช่เหรอ!
..................................................
"นายนี่ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิดนะ! ถึงเวลาจะผ่านมา5ปีแล้วก็เถอะ..!"
เสียงสาวน้อยคนหนึ่งที่คอยเฝ้ามองฮิซาชิจากที่ไหนสักแห่งมาตลอดผ่านทางจอLCDขนาดยักษ์บนกำแพงอิฐสีน้ำตาลหม่น เธอยิ้มอย่างมีความสุขหลังจากที่ได้เห็นชายหนุ่มคนนั้นกกับเหล่าseiriที่เหลือรอดเป็นจำนวนหนึ่งกำลังเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน...
หลังจากที่ได้เห็นใบหน้าที่แสนจะคิดถึงของพวกเขาจนเต็มอิ่มแล้ว สาวน้อยผมดำสั้นคนนั้นก็ลุกเดินออกไปยังโต๊ะที่เธอใช้เวลาขลุกอยู่กับมันมาตลอด5ปี
เธอยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินเลยโต๊ะที่มีปุ่มกดพะรุงพะรังนั้นออกไปข้างหน้าอย่างช้าๆ
"อีกไม่นาน... ฉันก็จะได้กลับไปอยู่กับนายแล้วนะ! ฮิซาชิคุง..."
ตรงหน้าของเธอมีแคปซูลเรียวยาวอยู่3แท่ง พวกมันมีขนาดพอดีให้ผู้ใหญ่เข้าไปนอนได้ ข้างในแคปซูลเหล่านั้นมีหญิงสาวกำลังนอนอยู่อย่างสงบเป็นจำนวนพอดีกับแค๊ปซูลเหล่านั้น อันที่จริง... ต่อให้พวกเธออยากจะขยับตัวแค่ไหนก็ยังขยับไม่ได้หรอก
สาวน้อยผมดำเดินเข้าไปแตะแคปซูลพวกนั้นอย่างอ่อนโยน พร้อมกับพูดอะไรบางอย่างออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม...
"แน่นอน... พวกเธอก็ด้วย!"
..................................................
เมื่อครั้งอดีตกาล ทั่วทุกพื้นที่ทั่วโลกมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นแตกต่างกันไปในต่างยุคสมัย อย่างเช่น การที่อาณาจักรที่รุ่งเรืองถึงขีดสุดกลับล่มสลายในชั่วข้ามคืน ว่ากันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นการกระทำของอำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์จะต่อต้านได้ บ้างก็ว่าเป็นการลงโทษจากพระเจ้า... บ้างก็ว่าเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ...
แต่ถึงจะมีคำอธิบายต่างๆนานามากมายจนเขียนเป็นสิบหน้ากระดาษก็ไม่หมด ถึงอย่างนั้นนักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถอธิบายถึงสาเหตุของเรื่องเหล่านั้นได้ จนประกาศให้ทุกคนเข้าใจว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น...
แต่จะแค่บังเอิญจริงๆเหรอ!
"เมื่อกี้...เธอว่าอะไรนะ!!"
มาอีกแล้วไง... คำพูดแบบนี้! แต่ถึงคำพูดนี้จะซ้ำแนวเดิม เนื้อหาข้างในก็ต่างออกไปทุกครั้งที่พูดถึง ซึ่งแต่ละครั้งๆนั้นก็ทำให้ผู้ฟังรู้สึกอ้ำอึ้งไปได้ทุกครั้งเช่นกัน
"เรื่องราวการต่อสู้ทั้งหมดนั่น... มันยังไม่จบ!"
ชิบุกิพูดด้วยน้ำเสียงที่ชวนขนแขนแสตนอัพออกมาอย่างง่ายๆ แต่ท่าทีตอบสนองของผู้ฟังนั้นไม่ได้สบายตามไปด้วยเลยสักนิด
" ก็ตอนนั้นพวกเราจัดการเจ้าปิศาจที่เธอเรียกว่า'นายเหนือหัว'อะไรนั่นไปแล้วนี่นา... เธอก็เห็นนี่!" ชายหนุ่มไม่อยากแม้แต่จะคิดเชื่อเรื่องที่เธอพูด แม้มันจะเป็นจริงก็ตาม...
และถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกแบบเดียวกันก็ตาม
"ใช่..! ตอนนั้นพวกเรากำจัดปิศาจตัวนั้นไปแล้วก็จริง... แต่ต้นตอของเรื่องทั้งหมดยังไม่ถูกทำลายไปเลยนะ..."
ประโยคทำนองนี้... น้ำเสียงประมาณนี้... หรือว่า!!
"เธออย่าบอกนะว่า..!!" ชายหนุ่มต้องการได้ยินประโยคอื่นที่ไม่ใช่ที่เขาคิดเอาไว้ แต่ยังไงก็หนีความจริงไม่พ้นอยู่ดี
"อืม..." ดูเหมือนชิบุกิจะเข้าใจความรู้สึกของเขาดี เธอจึงพยายามพูดให้เขารู้สึกไม่ดีน้อยที่สุด
"ที่พวกเราจัดการไปเมื่อตอนนั้น... ก็แค่ระดับลูกน้องเท่านั้นเอง!"
คำพูดประโยคนี้ทำให้ฮิซาชิได้รับคำยืนยันทันที เขาคิดอยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ แต่ทั้งอย่างนั้นเขาก็ใจยอมรับไม่ได้อยู่ดี...
"แล้วทำไม... หลังจากที่พวกเราจัดการมันได้เมื่ออาทิตย์ก่อน เรื่องต่างๆถึงได้เงียบไปเหมือนไม่เคยมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นเลยล่ะ!"
"สึนามิ...ไงล่ะ!" สาวน้อยก้มหน้าลงนิดหน่อย สีหน้าเธอดูหนักใจมาก
"เมื่อคลื่นลูกแรกที่พัดเข้าฝั่งสงบลงแล้ว... เรื่องราวทั้งหมดจะสงบลงไปสักพัก...ก่อนจะตามมาด้วยคลื่นลูกใหญ่กว่าเดิม!"
ได้ยินดังนั้น ฮิซาชิก็ใจเสียทันที ตามจริงตอนปิศาจหมึกกระดองนั่นเขาสามารถจัดการได้อยู่แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องเอาพลังของชิบุกิมาเสริมเลย ที่เขาทำไปก็แค่อยากให้ชิบุกิได้แก้แค้นด้วยมือของเธอเอง...
แต่ครั้งนี้ความรู้สึกมันต่างออกไป... เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดที่ลอยเข้ามาแตะจมูกเขาอย่างเข้มข้น บางทีถ้าเขาประมาทละก็... เขาอาจถูกฆ่าตายได้ทุกเมื่อ!!
"แล้ว...นอกจากเจ้านั้นที่พวกเราเจอเมื่อตอนนั้นแล้ว ระดับพลังของพวกนั้นถ้าเอามาเทียบกันแล้วมันจะเท่าไหร่!"
ชิบุกิไม่อยากตอบคำถามนี้เลย เพราะถ้าเธอพูดออกไปแม้เพียงเสียงที่แผ่วเบา มันก็อาจทำให้บรรยากาศแย่ลงทันที
"ถ้าเอามาเทียบกันแล้ว... นายเหนือหัว..." ถึงจะไม่อยาก... แต่มันก็ดีกว่าปล่อยให้ฮิซาชิออกไปตายนั่นแหละ
"ก็เป็นได้แค่เด็กทารกเท่านั้นเอง..."
"พลังของพวกนั้นน่ะ... อาจจะเทียบเท่าหรือเหนือกว่าโคโรน่าโหมดไปเลยก็ได้!"
ได้ฟังดังนั้นฮิซาชิก็ตัวสั่นทันที แต่ไม่ใช่เพราะความกลัวหรอกนะ... หากแต่เพราะเขากำลังคิดอยู่ว่า...
"ยิ่งพวกเราจบการต่อสู้ครั้งนี้ได้เร็วเท่าไหร่... พวกเราก็จะได้กลับมาใช้ชีวิตในแบบที่พวกเราอยากจะใช้ได้เร็วขึ้นเท่านั้น!!!"
อันที่จริงชิบุกินั้นยังมีเรื่องที่อยากจะบอกให้ชายหนุ่มได้รู้อีกสักเรื่อง แต่ยังไม่ทันทีทั้งสองคนจะได้พูดอะไรต่อ พื้นดินทั่วบริเวณก็เกิดการสั่นอย่างรุนแรงขึ้น เหมือนแผ่นดินจะถล่มลงไปเลย...
"นี่มันอะไรกัน!!"
"ฮิซาชิ! ชิบุกิ! มาดูโทรทัศน์สิ!!"
ในขณะนั้นโทรทัศน์ก็กำลังถ่ายทอดสดสาเหตุของแผ่นดินไหวครั้งใหญ่นั้นอยู่พอดี... ราวกับว่ารู้อยู่ก่อนแล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ