Extinction Wars สัญญาครั้งนั้น...จะเริ่มกันเลยไหม
เขียนโดย CyCloEclipse
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.14 น.
แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 11.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) ชีวิตที่ใช้จนคุ้มที่สุดแล้ว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความอสุรกายร่างหมึกกระดองตรงหน้าพวกเขาหัวเราะลั่นอย่างชอบใจ เสียงของมันเหมือนพวกซาดิสม์ไม่มีผิด
"หึ...ฮ่าๆๆๆ!!! ต่อให้เปลี่ยนชื่อสักกี่ครั้ง... แกก็ยังเป็นสคริวล่า เป็นทาสรับใช้ที่ซื่อสัตย์ต่อข้าอยู่ดี จริงไหม..!"
"หนวกหูจริงๆ..." เสียงสาวน้อยตัวเล็กดังขึ้นอย่างรำคาญ สคริวล่า...ชิบุกิขบฟันด้วยความโกรธแค้นพร้อมขมวดสายตาใส่มัน
"อย่างแกน่ะ... ฉันจะทำเป็นปลาหมึกเสียบไม้ปิ้งกินให้หายแค้นเลย!"
ก่อนที่ชิบุกิจะบุกเข้าไปจัดการศัตรูที่เกือบจะบังคับให้เธอสังหารพี่น้องร่วมสายเลือดโดยไร้ทางเลือก ฮิซาชิก็กางมือห้ามเธอเอาไว้ก่อนที่จะเกิดความสูญเสียโดยไม่จำเป็น...หรือเปล่า!?
"มาห้ามฉันทำไม..!"
"อย่าว่าอะไรกันเลยนะ แต่ฉันขอเปิดเกมก่อนได้หรือเปล่า..!"
ในตอนนี้เองแม้แต่ฮิซาชิที่วิเคราะห์สถานการณ์การต่อสู้อย่างเยือกเย็นมาตลอดก็เดือดดาลขึ้นมาในใจไม่ต่างกับชิบุกิและมิคาสะเลย ชายหนุ่มรู้สึกโมโหมากในสิ่งที่อสูรตัวนั้นเคยก่อไว้ จนเขาเกือบคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่และบุกเข้าไปตายฟรีแล้ว หากเขาไม่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับอควารอยด์ตัวน้อยเมื่อสักครู่นี้
ฮิซาชิเร่งพลังแสงไว้ทั้งสองมือก่อนจะเอามือทั้งสองมาประสานกันไว้เหนือหัว แต่ด้วยลีลาที่เยอะเกินของเขา ทำให้เขากลายเป็นเป้านิ่งให้หมึกกระดองนั้นเล่นงานไปโดยปริยาย
"หลบเซ่! ไอ้บ้านี่!!"
แต่คำเตือนของสาวน้อยก็ถูกมองข้าม ฮิซาชิยังคงยืนอยู่นิ่งๆรอรับการโจมตีที่สัตว์ประหลาดคลุกถ่านหินตัวนั้นกำลังจะทำกับเขาไว้ แต่พริบตาก่อนที่การโจมตีที่รวดเร็วราวหอกทะลวงจะเข้าถึงตัว ฮิซาชิก็อาบลำแขนข้างขวาของเขาเอาไว้ด้วยลำแสงพุ่งใส่หนวดของมันที่พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็วจนแยกออกเป็นสองซีก สัตว์ประหลาดแผดเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับของเหลวสีน้ำตาลขุ่นที่กระเด็นออกมาจากอวัยวะที่ฉีกขาดของมัน
แต่ถึงอย่างนั้นฮิซาชิก็ไม่รอช้า เขากระโดดขึ้นสูงมากแล้วปล่อยลำแสงใส่ลำตัวขนาดใหญ่ของสัตว์ประหลาดนั้นอีกรอบ ลำแสงสีขาวที่เขาปล่อยออกมานั้นถูกร่างกายสีดำนิลของมันเต็มๆจนเกิดระเบิดเป็นควันโขมงไปทั่ว...
"สะ-สำเร็จ..."
"ไม่... ยังหรอก"
แต่ในขณะที่สาวน้อยข้างล่างกำลังตะลึงกับชัยชนะที่ได้มาอย่างง่ายดายนี้ ก็มีหนวดปลาหมึกขนาดยักษ์พุ่งออกมาจากม่านควันโบกแหวกม่านควันออกจนกระจายไปเป็นขี้เถ้าร่วงลงสู่พื้นดิน
"นี่มัน...อะไรกัน!"
สิ่งที่หญิงสาวทั้งสองเห็นหลังจากม่านควันสลายไปแล้วก็คือ... อสุรกายตัวนั้นยังคงอยู่ที่เดิม และเหมือนมันจะไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย หนวดของมันกำลังเปลี่ยนรูปร่างไปคล้ายกับคลื่นกระแทกที่มีรูปร่างคล้ายกับมังกรสีน้ำตาลดิน
ใช่แล้ว....มันกำลังเตรียมใช้การโจมตีระยะไกลเพื่อรับมือฮิซาชินั่นเอง!!
"แบบนี้มัน...แย่แน่ๆ!"
"พี่มิคาสะคะ..!" ชิบุกิมีอาการเหมือนโกรธสุดขีด เธอข่มอารมณ์ไว้ไม่ไหวแล้วไม่ว่าใครจะห้ามเธอยังไง
"หนูขอจัดการมันเอง!!"
"จะบ้าเหรอ! ปัดโธ่เว้ย!!!"
ชิบุกิระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่บุกเข้าไปจัดการมันด้วยตัวเอง ทำให้มิคาสะต้องรีบตามไปห้ามเธอไม่ให้ทำอะไรบ้าๆในระหว่างที่ฮิซาชิยังคงอยู่ห่างจากตัวทั้งสองคนไปไกลจนไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ถนัดนัก
แต่ก็ไม่ทัน...
"นี่คือโทษฐานที่แกหลอกใช้ให้ฉันมาฆ่าฮิซาชิ... หลอกให้ฉันมาฆ่าคนที่ฉันจะรักไปตลอดชีวิต!!!"
ชิบุกิระดมยิงอาร์เทมิสใส่มันอย่างเดือดดาล แต่ด้วยระดับพลังที่ยังคงห่างชั้นกับสัตว์ประหลาดมากทำให้เป้าหมายความแค้นของเธอไม่เป็นอะไรเลย มันโมโหมากพร้อมยิงลูกพลังความมืดใส่เธอ แต่มิคาสะก็ยิงลูกพลังสกัดไว้ได้...
ทั้งอย่างนั้นชิบุกิยังคงรุกเข้าหามันอย่างไม่ลดละ ในขณะนี้สติที่ใช้ตอบสนองการโจมตีสวนของเธอได้ถูกผนึกไว้หมดจากอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของเธอจนหมด ทำให้ชิบุกิไม่ทันสังเกตว่าอสุรกายตัวนั้นได้ยิงลูกพลังมาอีกลูกในระยะประชิด
ซึ่งกว่าเธอจะรู้สึกตัว มันก็ไม่ทันแล้ว...
"กรี๊ดดดด!!!!!!"
ชิบุกิที่เพิ่งจะเห็นว่ากำลังจะถูกเล่นงานทำได้เพียงเอามือมาบังไว้ ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว...
"ไม่ยอมให้ทำหรอก..."
ตึงงงงงงงงงงง
"ชิบุกิ!!!"
ฮิซาชิกับมิคาสะเห็นชิบุกิถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตา แรงระเบิดได้ทำให้ตัวชิบุกิกระเด็นออกมาตามแรงระเบิด
เมื่อมิคาสะเข้าไปดูอาการของสาวน้อย เธอก็โล่งอกทันทีที่รู้ว่าน้องสาวของเธอไม่เป็นอะไรมาก ทั้งนี้เป็นเพราะเอจิสของโยโซระเข้ามาขวางไว้ทันพอดี...
"ให้ตายสิ... ถ้าจะตื่นก็ช่วยตื่นให้มันเร็วกว่านี้ก็ดีนะ!"
ฮิซาชิหันไปยังโยโซระที่เพิ่งฟื้นสติมาเมื่อครู่นี้ เขาร่อนลงกับพื้นไปหาพวกseiriทั้งหมดเพื่อทำการประชุมแผนการต่อสู้ที่จำเป็นต้องใช้หลังจากนี้... แน่นอนว่ารวมการต่อว่าการกระทำอันบ้าบิ่นเกินอภัยของอควารอยด์ที่โกรธแค้นจนไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจด้วย
"บ้าบิ่นเกินตัว!! รู้ไหมว่าตัวเองเกือบจะถูกฆ่าแล้วนะ!!!"
"อย่ามาสั่งสอนกันหน่อยเลย!! เป็นนายถ้าคนที่ฆ่าคนที่นายรักมายืนอยู่ตรงหน้า นายจะไม่ทำอะไรเลยรึไง!!!"
ฮิซาชิเข้าใจความรู้สึกของชิบุกิในตอนนี้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อก่อนนี้เขาเองก็เคยเผชิญกับการต่อสู้ที่ทำให้เขาต้องสูญเสียคนที่รักไปถึงสามคนมาแล้ว ในตอนนั้นฮิซาชิก็เกือบจะลงมือทำในสิ่งที่ชิบุกิกระทำไปเมื่อสักครู่นี้ด้วยเช่นกัน... หากแต่ในครั้งนั้นปัญหาทุกอย่างได้ถูกสะสางโดยseiriที่รอดชีวิตมาได้ทั้งสามคนแล้วนั่นเอง
"ก็ใช่ว่าฉันไม่เข้าใจล่ะนะ... แต่เอาเถอะ! ถ้าเธอตายไปละก็...ฉันก็คงจะเข้าใจความรู้สึกของเธอขึ้นมาได้บ้างล่ะนะ!"
ชิบุกิอยากทำหูทวนลมกับคำพูดของเขาจริงๆ แต่ข้อความที่เขาอยากจะสื่อจริงๆกลับทำให้เธออยากจะร้องไห้...
"สำหรับฉันแล้ว... พวกเธอน่ะเป็นคนสำคัญที่จะยอมให้เสียไปไม่ได้แม้แต่คนเดียว เพราะพวกเธอทุกคน...เป็นสมาชิกในครอบครัวของฉันยังไงเล่า!!"
คำพูดของฮิซาชิทำให้ชิบุกิถึงกับอึ้ง เท่าที่ผ่านมา...ไม่เคยมีใครให้ความสำคัญกับเธอเลย ไม่แม้แต่จะเอาใจใส่ จนเธอล้มเลิกความตั้งใจที่จะเปิดใจให้คนอื่น...
จนกระทั่งได้มาพบกับฮิซาชิ เหมือนเขาจะมีพลังประหลาดอะไรสักอย่าง... เขาเข้าใจความรู้สึกของเธอทั้งหมด เหมือนกับเขาสามารถมองทะลุจิตใจคนอื่นได้ทะลุปรุโปร่ง
"ฮิซาชิ..." เธอเรียกชื่อเขาเบาๆ "ฉันอยากให้นาย...รับสิ่งนี้เอาไว้"
ชิบุกิถอดอัญมณีประดับอกเสื้อของเธอ แล้วยื่นใส่มือฮิซาชิไว้
"นี่มัน..."
"รับไว้เถอะน่า! ไม่งั้นฉันเจี๋ยนนายแน่!!"
ถึงจะยังงงๆกับท่าทีพิลึกของชิบุกิ แต่ฮิซาชิก็รับมันไว้แต่โดยดีแล้วเอาใส่กระเป๋ากางเกงไว้
"สัญญานะ... ไม่ว่าฉันจะอยู่ไหน... นายต้องเก็บเจ้าสิ่งนี้เอาไว้ตลอดนะ!"
ถึงคำพูดจะฟังดูเหมือนแค่คำพูดของสาวน้อยผู้โหยหาความรักธรรมดาๆ แต่เขาสัมผัสได้ถึงสิ่งไม่ชอบมาพากลบางอย่าง...
เหมือนกับว่า...
"เอาล่ะ!! ไปลุยกันเลย!!!"
ยังไม่ทันขาดคำ อสุรกายตัวนั้นก็ยิงพลังความมืดใส่พวกฮิซาชิที่อยู่บนพื้นราวกับอดทนรอให้ทั้งสี่พูดคุยกันมานานเกินพอแล้ว แบบนี้ต่อให้กางเอจิสซ้อนกันก็คงสกัดมันไว้ไม่ได้ทั้งหมดแน่...
"ไม่มีใครสอนแกรึไง... เวลาผู้หญิงพูดน่ะห้ามแทรก!!"
ฮิซาชิกางม่านพลังป้องกันลูกไฟดำนั้นเอาไว้ได้อย่างสบาย แต่สัตว์ประหลาดก็ยังยิงออกมาไม่หยุดจนทำให้ฮิซาชิเริ่มรำคาญ
"อย่านะ!! รีบหนีออกมา!!!"
คำร้องห้ามของพวกสาวๆไม่สามารถหยุดเขาได้ แต่ดูเหมือนม่านพลังที่เขากางออกจะไม่มีรอยขีดข่วนใดๆเลย ซ้ำมันยังค่อยๆกลายเป็นสีม่วง
เหมือนกับว่ามันกำลังดูดซับพลังของลูกไฟพวกนั้นอยู่...
"เอาคืนไปเลย!!!!"
เมื่อสะสมพลังทำลายได้มากพอแล้ว... ฮิซาชิก็รวบรวมพลังที่เก็บไว้ในม่านป้องกันนั้นไว้ที่มือทั้งสองข้าง ก่อนจะปล่อยออกมาในรูปของบอลพลังสีม่วงเข้ม
ลูกไฟดำของอสุรกายตัวนั้นไม่สามารถสกัดคลื่นพลังที่เก็บสะสมพลังทำลายเข้มข้นถึงขีดสุดเอาไว้ได้ พลังของมันจึงเข้าทำร้ายตัวมันเองในที่สุด
อสุรกายยักษ์นั้นกรีดร้องอย่างเจ็บปวด แต่ฮิซาชิยังไม่ยอมจบแค่นี้ เขาชูมือที่อาบแสงสีแดงขึ้นอย่างทรงพลังแล้วเปลี่ยนเข้าสู่โคโรน่าโหมดทันที
ถึงจะเห็นเค้าลางแห่งความพินาศแล้ว แต่อสุรกายนั้นก็ยังไม่ยอมแพ้ มันระดมยิงลูกไฟดำใส่ฮิซาชิหมายจะเอาคืนในสิ่งที่ชายหนุ่มทำเอาไว้ทั้งการทำร้ายร่างกายและการแยกลูกน้องที่แข็งแกร่งที่สุดออกไปจากตัวมันให้หายขาดกันไป แต่ฮิซาชิก็ปัดป้องได้ทุกลูก ซ้ำยังสามารถปัดกลับไปยังตัวมันได้อีกด้วย
"สุดยอด... ฮิซาชิแข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ!?"
ในระหว่างที่ชิบุกิกำลังปลาบปลื้มในความสามารถของชายหนุ่มผู้นั้น ก็มีปิศาจจำนวนมหาศาลผุดขึ้นมาจากใต้ดินราวกับรู้ดีว่าเจ้านายของตนกำลังลำบากอยู่
พวกseiriทั้งสองคนจึงเข้าต่อสู้กับพวกมันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ฮิซาชิก็ไม่ได้สนใจพวกเธอเลย เพราะรู้ว่าทั้งสองคนนั้นสามารถจัดการกับพวกสัตว์ประหลาดตัวกระจ้อยได้แน่ๆ
เดี๋ยวก่อน... สองคนเหรอ!?
"แกตาย!!!"
ชิบุกิพุ่งลงมาจากท้องฟ้าเข้าจู่โจมมันอย่างรวดเร็ว แต่มันกลับไม่เป็นอะไรเลย ซ้ำร้ายมันยัง...
"ชิบุกิ!!!!"
ฮิซาชิตะโกนอย่างลืมตัวเมื่อเจ้าอสุรกายยักษ์นั่นได้ดูดกลืนร่างของสาวน้อยเข้าไป
เขาพยายามจะเข้าไปช่วยทันที แต่กลับถูกหนวดขนาดใหญ่ของมันปัดกระเด็นขึ้นไปกลางอากาศ...
'แกคิดดีแล้วเหรอที่เข้ามาที่นี่...' เสียงอสุรกายดังก้องในตัวมัน ชิบุกิที่อยู่ข้างในหลับตาลงตอบอย่างไม่ลังเล
'เออ! ฉันคิดดีแล้ว!!'
ทันใดนั้นร่างของชิบุกิก็เปล่งแสงสีฟ้าขึ้น เจ้าอสุรกายนั้นร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดจากภายในร่าง ในตอนนั้นเองที่ร่างกายขอฝมันเริ่มจะสลายไปจากภายในเป็นก้อนสีดำหยุ่นๆ
เมื่อเห็นว่ายังไงก็ไม่มีทางหยุดความพยายามที่จะสละชีพเพื่อชาติของอดีตลูกน้องของมันได้ สัตว์ประหลาดตัวนั้นจึงงัดไพ่ตายสุดท้ายออกมา
'งั้นเจ้านั่นจะเป็นอะไรก็ช่างงั้นสินะ...'
กลับมาที่ฮิซาชิที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ อสุรกายยักษ์ได้โอกาสใช้หนวดของมันทะลวงช่องอกของเขาอย่างนิ่มๆ แต่แล้วแผนการของมันก็ล้มไม่เป็นท่าเพราะ...
"นี่มันอะไรกัน!!"
อสุรกายตัวนั้นตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวฮิซาชิ จู่ๆก็มีม่านเอจิสที่แข็งมากเข้าโอบล้อมตัวเขาไว้ป้องกันการโจมตีของมัน แต่ด้วยแรงกระแทกทำให้ฮิซาชิตกลงไปไถลกับพื้น
"เธอคิดบ้าอะไรของเธออยู่กันแน่... ชิบุกิ!!!!" ฮิซาชิตะโกนออกมาอย่างไม่เข้าใจ
'แกไม่มีวันทำอะไรมนุษย์คนนั้นได้หรอก... อัญมณีที่ฉันให้เขาไปน่ะประจุพลังมหาศาลของฉันไว้อยู่ มันจะปกป้องเขาทันทีที่อัตรายจะเข้าถึงตัวโดยอัตโนมัติ ตามความต้องการของฉัน!'
'ทำไม... ทำไมแกถึงต้องปกป้องมันด้วย!! ทั้งๆที่มนุษย์มันด้อยค่ากว่าseiriอย่างแกตั้งไม่รู้กี่เท่า!!!'
เจ้าอสุรกายพยายามยกเหตุผลมาอ้างเพื่อให้เธอล้มเลิกความตั้งใจ ชิบุกิก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะพูดประโยคหนึ่งที่แสดงถึงความตั้งใจจริงของเธอ...
'เพราะสำหรับฉันแล้ว...มนุษย์คนนั้นมีค่ายิ่งกว่าชีวิตฉันทั้งชีวิตยังไงล่ะ!'
ชิบุกิเร่งพลังของเธอขึ้นไปอีก จนร่างของอสุรกายตัวนั้นเปล่งแสงสีฟ้าออกมา ท่ามกลางความตกใจของทุกคนที่เห็นเหตุการณ์...
สัตว์ประหลาดส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทรมานอย่างที่มันไม่เคยเจอมาตลอดชีวิต ก่อนที่ชิบุกิจะเร่งพลังขึ้นไปอีกจนถึงขีดสุด
'จากนี้ร่างของฉันจะพังเหมือนยูนะ... หรือจะสลายไปเหลือแต่แกนปีกเหมือนพี่มิรัน...ฉันก็ไม่รู้หรอก! แต่แกต้องหายไปจากโลกนี้ตลอดกาล!!!'
ร่างของอสุรกายยักษ์เปล่งแสงสีฟ้าออกมาสว่างจ้า ก่อนที่ร่างของทั้งคู่จะสลายไป... พวกฮิซาชิทุกคนได้ยินเสียงแผ่วเบาดังมาจากภายในร่างของมัน
"ฉันฝาก...ฮิซาชิด้วยนะ!"
แล้วในตอนนั้นเอง... ชิบุกิก็ได้ยินเสียงของใครคนหนึ่งที่ไม่น่าจะมาอยู่ตรงหน้าเธอในขณะนั้นได้! เป็นเสียงตะโกนที่ดังกระทบกับจิตใจภายในของเธออย่างรุนแรง!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ