รอยต่อแห่งฝัน

7.4

เขียนโดย candle

วันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.36 น.

  11 ตอน
  31 วิจารณ์
  16.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556 22.19 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

          ท่ามกลางหมอกหนา  แต่หล่อนยังมองเห็นเขายืนอยู่ตรงนั้น  นิศาร้องเรียกเขา  มายพูดอะไรบางอย่างซึ่งนิศาไม่ได้ยินก่อนจะหันหลังเดินไป  นิศาพยามวิ่งตามแต่ไม่ว่าหล่อนจะวิ่งเร็วแค่ไหนยังคงตามมายไม่ทัน

 

          “ไม่นะมาย  ไม่ ๆ อย่าทำอย่างนั้น”  นิศาตะโกนสุดเสียงเมื่อเห็นเขาเดินลงไปในทะเลอย่างช้า ๆ

          “ได้โปรดมาย  ได้โปรด”  น้ำตาหล่อนอาบแก้มเมื่อเขาไม่ฟังหล่อนแม้สักนิด

 

          น้ำขึ้นมาถึงเข่า  หน้าอก  และเพียงไม่กี่วินาทีมายก็จมหายไปในท้องทะเล

 

          “มาย...!!!”  นิศาตะโกนดังลั่น

 

          หล่อนใจเต้นแรงใบหน้าชุ่มไปด้วยเหงื่อผุดลุกขึ้นนั่ง  อา...หล่อนฝันไป  แต่มันเหมือนจริงมากจนนิศาใจแกว่ง

 

          “นิศา  นิ  เกิดอะไรขึ้นเปิดประตูหน่อย”  เสียงแพรวาร้องเรียกอยู่นอกห้อง

 

          นิศาลุกจากเตียงไปเปิดประตู  ก่อนจะเดินกลับมานั่งที่เตียง

 

          “แพรได้ยินเสียงนิตะโกน”  แพรวานั่งลงข้างหล่อน  เอามือลูบผมซึ่งเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อของนิศา

          “นิฝันร้าย  เกี่ยวกับมาย”  หล่อนบอกใบหน้าซีดเผือด

          “มันก็แค่ฝัน  ไม่มีอะไรจริงหรอก”

          “แต่มันเหมือนจริงมากเลยนะแพร  มายฆ่าตัวตายเขาตั้งใจทำอย่างนั้น”

          “เป็นเพราะนิคิดถึงมายจนเก็บเอามาฝัน”

 

          นิศาส่ายหน้า

 

          หล่อนเชื่อจริง ๆ ว่ามายฆ่าตัวตาย  ความฝันครั้งนี้ต้องสื่ออะไรบางอย่างแน่นอน  จากจิตวิญญาณของมายถึงหล่อน

 

          **

          **

 

          ความทรงจำในวันนั้นวินาทีนั้นประทับแน่นในใจ  มันช๊อคความรู้สึกของเด็กสาว  ร่างแน่นิ่งไร้สติซึ่งคนกลุ่มหนึ่งลากขึ้นมาจากทะเลบนชายหาดที่เปียกชื้น  เหมือนเขานอนหลับอยู่อย่างมีความสุข  เอินพยามเชื่ออย่างนั้น

 

          เด็กสาวเรียกชื่อเขาครั้งแล้วครั้งเล่า  ก็ไม่มีทีท่าว่ามายจะลุกตื่นขึ้นมา  และหลังจากนั้นเอินก็จำไม่ค่อยได้นัก  มันเป็นแค่ภาพที่ไม่มีคำบรรยายผ่านไปเป็นช๊อต ๆ อย่างรวดเร็ว

 

          ภาพบนชายหาด  ภาพออกจากเกาะ  ภาพบุรุษพยาบาลเข็นมายอย่างรีบเร่งเข้าไปในห้องฉุกเฉิน  และสุดท้ายคือการรอคอยที่ยาวนานวันแล้ววันเล่า  คืนแล้วคืนเล่า  สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า  เป็นเดือน

 

          สองพี่น้องปิดบ้านบนเกาะกลับมาอยู่บนฝั่งในเมือง  เอินอยู่โยงเฝ้ามายทุกวันหลังจากกลับจากโรงเรียน  ผลัดเปลี่ยนกับออยซึ่งต้องไปบริหารซุปเปอร์เซ็นเตอร์  กิจการที่ออยสร้างมากับมือเมื่อหลายปีก่อน  เป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่ผงาดเคียงข้างร้านต่างสัญชาติอย่างไม่น้อยหน้า

 

          “ไปเดินเล่นกันมั๊ยคะ”  เด็กสาวชวนคนหนุ่มผู้ยังคงใช้สายตาเฝ้ามองออกไปยังท้องทะเล  ผมของเขายาวประบ่าแล้วตอนนี้  แลดูแปลกตาไปไม่เหมือนมายคนเก่าซึ่งเธอเคยรู้จัก

          “ตรงรีสอร์ทใกล้บ้านเราวันนี้มีกองถ่ายหนังโฆษณามา  ไปดูกันนะคะ เอินอยากดูเขาทำงาน”

 

          ชายหนุ่มยิ้ม

 

          “ไปสิ”  เขาลุกจากขอนไม้ขนาดใหญ่หน้าบ้าน

 

          เอินจับมือเขาไว้ข้างหนึ่ง  แหงนหน้าขึ้นมองใบหน้าซึ่งดูผ่อนคลายขึ้นของมาย

 

          “ทำไมไม่ใส่รองเท้า”  มายถามก้มมองเท้าเปลือยเปล่าของเด็กสาว

          “เอินชอบให้เท้าสัมผัสทรายค่ะ  มันทำให้รู้สึกดีมันนุ่ม ๆ”  เด็กสาวใช้เท้าเขี่ยทรายเล่น

          “ระวังด้วยล่ะเผื่อจะเจอเศษแก้ว”

          “ค่ะ”  เด็กสาวรับคำพร้อมรอยยิ้มพราย

 

          มายอาจจะยังไม่กลับมาเต็มร้อยเหมือนเดิมนัก  ความทรงจำเขาดูเลือนลางแต่เขาก็ดีขึ้น  อย่างเห็นแก่ตัวในบางคราวเอินก็อยากให้เขาเป็นแบบนี้ตลอดไป  เป็นมาย ณ.ช่วงเวลานี้  ไม่ใช่มายคนเก่าซึ่งหลงงมงายในความรักอย่างที่ผ่านมา  อีกใจหนึ่งเอินก็หวังว่ามายจะหายเป็นปกติ  เธอเองก็ไม่รู้แน่ชัดว่าต้องการแบบไหนมากว่ากัน

 

          เด็กสาวครุ่นคิดจนหลงลืมคนที่เดินอยู่เคียงข้าง

 

          “เป็นอะไรรึเปล่า”  มายก้มถาม

          “คะ”

          “เห็นเงียบไปเลยแปลกใจ”  มายว่ายิ้ม ๆ เพราะปกติเอินมักจะชวนเขาคุยนั่นคุยนี่อยู่ไม่หยุด  พาเขาเดินเล่นตามชายหาด  เล่าเรื่องของเพื่อนที่โรงเรียนให้ฟัง  จนตอนนี้คล้ายกับว่ามายรู้จักเพื่อน ๆ ในห้องของเธอดีทุกคน

          “อีกไม่นานก็เรียนจบแล้วไช่ไหม”

          “ค่ะ”

          “จะไปต่อที่ไหนดี”

          “...............”

 

          คิดถึงเรื่องเรียนต่อแล้วเอินก็เกิดอาการหงอยขึ้นมาอีก  เธอเป็นห่วงมายกลัวชายหนุ่มจะเหงาเวลาต้องอยู่คนเดียว  เพราะทั้งอาทิตย์ของออยจะอยู่ที่ร้านเสียเป็นส่วนใหญ่  จะขึ้นเกาะมาก็เป็นเย็นวันศุกร์

 

          “เป็นห่วงพี่เหรอ”

          “ค่ะ  เอินกลัวมายเหงา”  เด็กสาวบอกกับเขา

          “ลืมไปรึไง  เดี๋ยวนี้โลกเราไปถึงไหนแล้ว”  มายขยี้ผมคนที่ทำหน้าเศร้า

          “อะไรคะ”

          “เราสไกป์กันได้ทุกวันไม่ใช่รึไง”

          “จริงด้วยค่ะ  เอินลืมไปเลย”  เด็กสาวหัวเราะให้กับความหมกมุ่นของตัวเองในเรื่องมายจนลืมคิดถึงเรื่องอื่นไป

 

          **

          **

 

          “โห...ไทยมุงเยอะเหมือนกันนา  มีฝรั่งมุงด้วย”  เอินว่าเมื่อเดินมาถึงบริเวณที่มีการถ่ายทำโฆษณากันอยู่

          “ขอโทษค่ะ  ขอโทษค่ะ”  เด็กสาวพูดอยู่ไม่หยุดฉุดมือมายให้แทรกผ่านผู้คนซึ่งกำลังยืนดูการถ่ายทำ

 

          ส่วนมายก็ต้องพยักหน้าขอโทษตามหลังเธออีกทีอย่างกระอักกระอ่วนใจ  แต่ยังไงเสียเอินก็เป็นเด็กจ้าวถิ่นซึ่งเกิดและเติบโตที่นี่  ทุกคนจึงคุ้นเคยกับเด็กสาวคนนี้ดีไม่มีใครถือสาหาความเจ้าหล่อน  พอได้ที่เหมาะเด็กสาวก็นั่งจุ้มปุ๊กลงทันที  ฉุดให้มายนั่งลงด้วยเมื่อเขายังคงยืนนิ่งเป็นรูปปั้น

 

          มายรู้สึกเหมือนคุ้นเคย  การทำงาน  ผู้คน  ดอลลี่  กล้อง  คล้าย ๆ ผ่านเข้ามาในความรู้สึก  บรรยากาศแบบนี้แสนเคยคุ้น

 

          “มาย”

 

          เสียงใครบางคนเรียกชื่อเขา  มายรู้สึกตัวมองหาคนเรียกแต่เขาไม่รู้จัก  ชายหนุ่มคนนั้นก็เหมือนกันเขาดูลังเลใจเมื่อเห็นแววตาของมาย

 

          “มายรึเปล่า”  เขาสืบเท้าเข้ามาใกล้

          “ไม่ใช่”  เอินลุกขึ้นเข้าขวางไว้

          “เขาไม่ใช่คนที่คุณรู้จัก”  เด็กสาวรีบฉุดมือมายออกมา

 

          ชายหนุ่มเดินตามแรงฉุดของเด็กสาวอย่างไม่เข้าใจในอารมณ์ของเธอยามนี้นัก

 

          “โอ๊ย...!”  เอินปล่อยมือจากมาย  นั่งลงมองดูเท้าที่ตอนนี้มีเศษแก้วปักคาอยู่  เด็กสาวเริ่มหน้าซีดเมื่อเห็นเลือดไหลออกมาจากบาดแผล  เหงื่อซึมออกมาตรงขมับกับบริเวณหน้าผาก  เด็กสาวกลัวเลือดเป็นที่สุดโดยเฉพาะของตัวเองด้วยแล้วจะอาการหนักกว่าปกติ

 

          “หายใจไม่ออก”  เอินว่าเมื่อมายก้มลงดึงเศษแก้วออกเลือดแดงสดไหลออกมา  เด็กสาวหลับตาปี๋  มายฉีกเสื้อพันเท้าของเด็กสาวไว้

          “ไหวรึเปล่า  หายใจลึก ๆ ช้า ๆ”  มายว่าทำให้ดูเป็นตัวอย่าง

 

          เด็กสาวลืมตาขึ้นทำตามคำแนะนำสูดลมหายใจเข้าออกช้า ๆ

 

          “ขึ้นหลังพี่สิ”  มายย่อตัวลงตรงหน้าเด็กสาว

          “ไม่เป็นไรค่ะ  เอินเดินเองได้”

          “อย่าดื้อ”

          “เอินตัวหนักมายเหนื่อย”  เธอยังคงอินออด

          “ไม่เป็นไรหรอก  พี่แข็งแรงดีแล้ว”  มายยืนยัน

          “เธอดูแลพี่ดีออกอย่างนี้”  ชายหนุ่มทำทีเป็นเบ่งกล้ามให้ดู  เอินปล่อยเสียงหัวเราะคิกขึ้นมาได้

          “งั้นหนูจะขี่หลังนะคะพี่ชาย...”  เด็กสาวทำเสียงอย่างในซีรีย์เกาหลี

 

          “เอินขอโทษนะคะ”  เด็กสาวกระซิบบอก  โอบรอบคอเขาหลวม  วางหน้าไว้บนไหล่ด้านหนึ่งของเขา

 

          มายรู้สึกถึงอะไรเย็น ๆ ไหลลงมาตรงหน้าอก  น้ำหยดหนึ่งจากดวงตาของเด็กสาว  เขาเอื้อมมือไปขยี้ผมเธอโดยไม่พูดอะไร

 

          เอินฟุบหน้าลงบนไหล่เขา  น้ำตายังไหลไม่ยอมหยุด

 

          “นั่งนี่  พี่ไปหายามาใส่ให้”  มายจัดการให้เด็กสาวนั่งลงพร้อมกำชับ  สักพักกลับมาพร้อมกล่องปฐมพยาบาลกับน้ำอุ่นใส่กะละมังใบเล็กมา

          “ขอพี่ดูหน่อย”  มายนั่งลงจับข้อเท้าเด็กสาว

          “ไม่เป็นไรค่ะ  เอินจัดการเอง”  เธอพยามชักเท้ากลับรู้สึกเคอะเขิน

          “อยู่นิ่ง ๆ สิ เดี๋ยวเลือดก็ไหลไม่หยุดหรอก”

          “ค่ะ”  เอินหน้าง้ำเมื่อมายพูดถึงเรื่องเลือด  ยอมให้เขาดูแผลที่เท้า

 

          ชายหนุ่มใช้สำลีจุ่มน้ำอุ่นเช็ดฝ่าเท้าให้จากนั้นซับให้แห้งด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก  เช็ดบาดแผลด้วยแอลกอฮอล์ใส่เบตาดีน  ก่อนปิดแผลไว้ด้วยผ้าก๊อต

 

          “เอาล่ะเรียบร้อย  แผลนิดเดียวเอง”

          “ขอบคุณค่ะ”  เอินยกมือไหว้เขา

          “ไม่เป็นไรน่า  เธอดูแลพี่มากกว่านี้อีก”  เขาขยี้ผมเธอก่อนนั่งลงข้าง ๆ

          “จะไม่ถามหน่อยเหรอ”  เอินถามหลังจากเงียบไปพักหนึ่ง

          “...............”

          “ก็เรื่องผู้ชายที่ทักมายเมื่อกี้”

 

          มายมองเด็กสาวยิ้มพลางส่ายหน้า

 

          “พี่เชื่อการตัดสินใจของเธอ  แล้วอีกอย่างพี่ก็ไม่รู้จักเขาด้วย”

          “มายอาจจะรู้จักก็ได้นะ  แต่จำไม่ได้”  เอินพูดเบา ๆ ก้มหน้านิ่ง

          “ช่างมันเถอะ  อยากกินอะไรล่ะมื้อเที่ยง  พี่จะเข้าครัวล่ะ”

          “อะไรก็ได้ค่ะ  เอินทานได้หมด”

 

          มายพยักหน้าเดินเข้าบ้านไป  หันมามองเด็กสาวเธอยังนั่งอยู่ในท่าเดิม  แววตาส่อความกังวลใจฉายชัด

 

          ชายหนุ่มถอนใจ  เขาเองไม่อยากซักไซ้เธอนักแม้ว่ายังมีหลายอย่างในความทรงจำซึ่งเลือนราง  คล้าย ๆ มีบางอย่างถ่วงความรู้สึกเขาอยู่ลึก ๆ ภายในใจ  บางสิ่งบางอย่างซึ่งเขาจำไม่ได้

 

          มายเอามือคลำบริเวณกระดูกไหปลาร้าด้านซ้าย  มีบางสิ่งบางอย่างฝังอยู่.

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา