มหาเวทย์เนตรสยบธาตุ
7.7
เขียนโดย CL666
วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.57 น.
3 ตอน
11 วิจารณ์
6,956 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 10.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ศาสตราอาวุธแห่งธาตุ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “ ศาสตราอาวุธแห่งธาตุ อันใดของเจ้า ”
แพทย์ปีศาจ เจ กิล ที่คุกคามสาวเท้าเข้ามาเบื้องหน้าแล้ว หยุดยืนหยัดมั่น ปล่อยให้กลุ่มควันรอบกายจ่างหายไปกับแสงอาทิตย์ยามสนธยาอย่าช้า ๆ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วตอนนี้ฟ้ามืด พลบค่ำแล้ว บรรยากาศทั่วบริเวณล้วนเงียบงัน วังเวงยิ่งนัก
“ เจ้าเด็กน้อย แห่งธาตุไม้เอ๋ย ความรู้เจ้าช่างด้อยนัก ฟังจากความนี้ไม่แปลกใจเลยที่ตระกูลธาตุไม้ของเจ้าจึงต้องหลบซ่อนผู้คนเหมือนสุนัขขี้แพ้เช่นนี้ ”
“ เจ้าตัวประหลาด อย่าได้กล่าววาจากล่าวร้าวผู้คนจนเกินไป หาไม่เจ้าอาจมีคิดรำคาญการมีชีวิตสืบไป ”
“ จงรับฟังไว้ก่อนตาย ศาสตราอาวุธแห่งธาตุ ของพวกเจ้าคือ ...”
“ ศาสตราอาวุธแห่งธาตุ เจ้ารับทราบมาจากที่ใด ”
ทันใดนั้นเองพลันมีเสียงกล่าววาจา บนคาคบไม้อีกครั้ง ปรากฏร่างสองสายยืนหยัดไว้ ร่างหนึ่งชราต่ำเตี้ยถังน้ำใบหนึ่ง ร่างชราหนึ่งผอมสูงราวกับต้นไผ่ ในมือของชายร่างสูงถือไว้ด้วยไม้เท้าลำไผ่สีดำ ใต้คางไว้หนวดเคราแพะกระจุกหนึ่ง ท่ายืนสงบนิ่ง เช่นนั้นเสมอมา
“ เจตนาดีไม่มาเจตนาร้ายจึงมา แสดงว่าเจ้ามาเพื่อ ศาสตราอาวุธแห่งธาตุ จริง ๆ ”
วาจาที่กล่าวเมื่อครู่แสดงว่ามาจากชายร่างต่ำเตี้ยคนนี้เอง ร่างต่ำเตี้ยราวถังน้ำของมันพกไว้ด้วยกระสวยเงินจำนวนหนึ่ง ไม่เยอะไปไม่น้อยเกิน ยามเคลื่อนไหว มีเสียงกระทบกัน ติง ตังตลอดเวลา ราวกับเสียงระฆังจำนวนหนึ่งดังสะท้านสดใสในสนธยายามนี้
“ ท่านอาจารย์ ”
งูไผ่เขียว แสดงสีหน้าปิติยิ่งเมื่อเห็นคนทั้งสอง กระโดดตีหลังกาโผขึ้น บนคาคบไม้เบื้องซ้ายของชายร่างต่ำเตี้ยแสดงความเคารพ บอกเล่าเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทั้งหมด
“ เฮอะ เพียงมันผู้เดียวทะลวงด้านทรายเพลิงเข้ามาได้ น้อยครั้งนักที่จะมีผู้ผ่านด้านนั้นเข้ามาได้ ฝีมือของมันคงพอมีอยู่สักท่าสองท่า ”
“ อาจารย์ ศิษย์เห็นว่าร่างของมันดูผิดกับพวกเรามากนัก ในกายมันยังมีอสูรร้ายซ่อนอยู่ตนหนึ่ง ”
“ เช่นนั้นไหนเลยเจ้าจะฝ่าฝืนใช้ออกด้วยวิชาธาตุเช่นนี้ หากคำนึงถึงความผิดครั้งนี้เจ้ามีโทษสถานหนัก แต่สุดที่เจ้าจะไม่ใช้ออกได้ในภาวะเช่นนี้ ครั้งนี้ยังคงล่ะโทษไว้ก่อน หนหลังเจ้าควรระวังให้มากไว้ จงรีบไปรายงานให้ท่านผู้นำทราบไว้ ”
“ ศิษย์รับทราบ ”
งูไผ่เขียวรับคำ กระโดดคราหนึ่งพุ่งกายหายไปในเงาไม้อย่างรวดเร็ว
ชายชราร่างต่ำ กล่าวจบกระโดดลงจากคาคบไม้ลอยล่องลงสู่พื้นอย่างแผ่วเบาราวขนนก ที่น่าแปลกเมื่อครู่เมื่อเคลื่อนไหวปรากฏเสียงติงตังตลอดเวลา แต่ตอนนี้กับกลายเป็นไร้เสียงร่างทิ้งตัวลงจากคาคบไม้ กระสวยรอบกายหาได้เคลื่อนไหวไปมาไม่ แสดงถึงสุดยอดวิชาตัวเบาเป็นเลิศในต่ำใต้ได้เต็มภาคภูมิ
“ เจ้าหรือคือแพทย์ปิศาจที่ยุทธจักรร่ำลือ เราเมนอส ฮูริแกน วันนี้มีวาสนาได้ประสบ นับถือ ๆ ”
จากต้นจนถึงบัดนี้ร่างของแพทย์ปีศาจยังยืนหยัดไม่เคลื่อนไหว ปล่อยให้ผ้าคลุมพลิ้วไหวในสายลม แสงจันทร์สะท้อนใบหน้าอันขาวซีดราวปลาตาย ปิดปากลง ท่าทีเยือกเย็น กราดสายตาอันคมวาวราวคมมีด จับจ้องร่างชายชราร่างเตี้ยเบื้องหน้า
“ หามิได้ ๆ ท่านเมนอส ฮูริแกน กระสวยตรึงวิญญาณอันกระเดื่องดังดั่งอาทิตย์ยามเที่ยง วันนี้ได้พานพบย่อมมีความปิติเช่นกัน ”
“ ท่านมาเพื่อ ศาสตราอาวุธแห่งธาตุ จริง ๆ จุดประสงค์ของท่านพอจะชี้แจงรายละเอียดได้หรือไม่ ”
เมนอส ฮูริแกน ฉายา กระสวยตรึงวิญญาณกล่าว
“ เมื่อมีคนมาเพิ่ม มากไปอีกหนึ่งก็หาเป็นไรไม่ ความนัยที่ท่านต้องการทราบ รับฟังไว้ ท่านคงได้ยินถึงเรื่องราวของท่านผู้ครอบครองตำรามหาเวทย์ควบคุมธาตุ มาไม่มากก็น้อย ”
“ จากคำร่ำลือ ที่รับฟังมาก็มีไม่น้อย ฟังว่าคนผู้นั้นบ้างก็ว่าเป็นเด็กหนุ่มวัยฉกรรจ์ บางว่ามันเป็นชายสูงวัยร่างกายสูงใหญ่ราวยักษา ในคำร่ำลือหาได้มีขอสรุปเท็จจริงไม่ รู้เพียงว่าผู้ที่ได้เห็นมันล้วนไปรายงานตัวกับยมบาลทั้งสิ้นใช่เป็นไปตามความนี้หรือไม่ ”
เมนอส ฮูริแกนกล่าว
“ รับฟังมาก็มาก คำร่ำลือสำหรับนายท่านบ้างเกินจริง บ้างลึกลับน่ากลัว นั้นเป็นเพียงตำนานที่เล่าอ้างกล่าวกันมาเพียงเท่านั้น แท้จริงแล้ว การตามหาศาสตราอาวุธแห่งธาตุ ยอดศาสตราเพื่อควบคลุมธาตุหลักทั้งสี่ จึงเป็นเป้าหมายสำคัญที่แท้จริง ”
เมนอส ฮูริแกน และชายชราร่างสูงเมื่อได้ฟังถึงกับหน้าถอดสี
“ ควบคลุมธาตุหลักทั้งสี่ หมายความว่าธาตุหลักทั้งสี่ถูกชายผู้นั้นควบคลุมไว้แล้ว ใช่หรือไม่ ”
“ เป็นเพียงการควบคลุมชั่วคราวเท่านั้น การที่จะควบคลุมธาตุหลักหาได้เป็นเรื่องง่ายดายไม่ อาวุธธาตุทั้งสี่ที่สูญหายไป หากได้ครอบครองนำมาหลอมรวมเป็นอาวุธสี่ธาตุเมื่อใด เมื่อนั้น จึงเป็นการครอบครองตระกูลธาตุหลักไว้ได้ทั้งหมดไว้อย่างแท้จริง ”
สิ้นเสียงแพทย์ปิศาจ ร่างกายของมันพลั้นกระตุกสั่นไหว ร่างกายคล้ายกับมีการเปลี่ยนแปลงกล้ามเนื้อของมัน เคลื่อนไหวไปมาเป็นกลุ่มก้อน สะท้อนขึ้นลง ทรุดกายล้มลงเบื้องหน้า ทันใดนั้นเองแผ่นหลังใต้ผ้าคลุมดำของมันเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมใดโผล่พ้นชายผ้าคลุมออกมา ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้ ค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปร่าง คล้ายคนผู้หนึ่ง หลุดจากร่างของแพทย์ปิศาจ บิดลำคอไปมาปรากฏชัดตากลายเป็นร่างชายสันทัดรูปร่างสมส่วนผู้หนึ่ง เดินสาวเท้าก้าวออกมา
ภาพเห็นการแปรเปลี่ยนที่เกิดขึ้น ทำให้ชายชรานามเมนอส อดแสดงสีหน้าแปลกใจมิได้แต่ไม่มีที่ท่าหวาดกลัวแม้สักเล็กน้อยเป็นเพียงตกใจต่อการเปลี่ยนแปรที่เกิดขึ้นเท่านั้น แสดงถึงมีกำลังขวัญอันแข็งกล้าที่ยากจะพานพบได้จริง ๆ
“ ฟังเจ้าผายลมมามากพอแล้ว เจ้าแพทย์ทารก ทำไมไม่ทำให้เสร็จเรื่องสิ้นราวไปเสีย มั่วแต่พร่ำกล่าววาจาไร้สาระอันใด ”
“ ยังไม่ถึงเวลาของเจ้า ริปเปอร์ ”
แพทย์ปิศาจ ยันกายขึ้นช้า ๆ ร่างกายยังมีอาการสั่นไหว ดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัดหลั่งเหงื่อโทรมกายราวขึ้นจากน้ำ
“ หุบปาก เจกิล ต้องรอถึงเวลาใด ”
ริปเปอร์ตะคอกหันไปกล่าวกับแพทย์ปิศาจด้วยน้ำเสียงอันดุดัน จากนั้นหันสบตากับผู้เฒ่าเมนอส ฮูริแกนด้วยสายตาอันเลื่อนลอยแสยะยิ้มลึกลับกล่าวสืบต่อ
“ ทางเดียวเว้นแต่พวกเจ้าในที่นี้จะมีผู้ใดรอดชีวิตจะรับทราบเรื่องราวตอนหลังทั้งหมด ”
“ เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่ ”
เฒ่าเมนอส ฮูริแกน กล่าวด้วยความสงสัยใจ ไม่ทราบในมือเพิ่มกระสวยเงินตั้งแต่เมื่อใด
“ อยากรับรู้ว่า ข้าเป็นใคร มาเล่นให้สมใจสักครา ค่อยว่ากล่าวกันก็ยังมิสาย ”
แพทย์ปีศาจ เจ กิล ที่คุกคามสาวเท้าเข้ามาเบื้องหน้าแล้ว หยุดยืนหยัดมั่น ปล่อยให้กลุ่มควันรอบกายจ่างหายไปกับแสงอาทิตย์ยามสนธยาอย่าช้า ๆ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วตอนนี้ฟ้ามืด พลบค่ำแล้ว บรรยากาศทั่วบริเวณล้วนเงียบงัน วังเวงยิ่งนัก
“ เจ้าเด็กน้อย แห่งธาตุไม้เอ๋ย ความรู้เจ้าช่างด้อยนัก ฟังจากความนี้ไม่แปลกใจเลยที่ตระกูลธาตุไม้ของเจ้าจึงต้องหลบซ่อนผู้คนเหมือนสุนัขขี้แพ้เช่นนี้ ”
“ เจ้าตัวประหลาด อย่าได้กล่าววาจากล่าวร้าวผู้คนจนเกินไป หาไม่เจ้าอาจมีคิดรำคาญการมีชีวิตสืบไป ”
“ จงรับฟังไว้ก่อนตาย ศาสตราอาวุธแห่งธาตุ ของพวกเจ้าคือ ...”
“ ศาสตราอาวุธแห่งธาตุ เจ้ารับทราบมาจากที่ใด ”
ทันใดนั้นเองพลันมีเสียงกล่าววาจา บนคาคบไม้อีกครั้ง ปรากฏร่างสองสายยืนหยัดไว้ ร่างหนึ่งชราต่ำเตี้ยถังน้ำใบหนึ่ง ร่างชราหนึ่งผอมสูงราวกับต้นไผ่ ในมือของชายร่างสูงถือไว้ด้วยไม้เท้าลำไผ่สีดำ ใต้คางไว้หนวดเคราแพะกระจุกหนึ่ง ท่ายืนสงบนิ่ง เช่นนั้นเสมอมา
“ เจตนาดีไม่มาเจตนาร้ายจึงมา แสดงว่าเจ้ามาเพื่อ ศาสตราอาวุธแห่งธาตุ จริง ๆ ”
วาจาที่กล่าวเมื่อครู่แสดงว่ามาจากชายร่างต่ำเตี้ยคนนี้เอง ร่างต่ำเตี้ยราวถังน้ำของมันพกไว้ด้วยกระสวยเงินจำนวนหนึ่ง ไม่เยอะไปไม่น้อยเกิน ยามเคลื่อนไหว มีเสียงกระทบกัน ติง ตังตลอดเวลา ราวกับเสียงระฆังจำนวนหนึ่งดังสะท้านสดใสในสนธยายามนี้
“ ท่านอาจารย์ ”
งูไผ่เขียว แสดงสีหน้าปิติยิ่งเมื่อเห็นคนทั้งสอง กระโดดตีหลังกาโผขึ้น บนคาคบไม้เบื้องซ้ายของชายร่างต่ำเตี้ยแสดงความเคารพ บอกเล่าเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทั้งหมด
“ เฮอะ เพียงมันผู้เดียวทะลวงด้านทรายเพลิงเข้ามาได้ น้อยครั้งนักที่จะมีผู้ผ่านด้านนั้นเข้ามาได้ ฝีมือของมันคงพอมีอยู่สักท่าสองท่า ”
“ อาจารย์ ศิษย์เห็นว่าร่างของมันดูผิดกับพวกเรามากนัก ในกายมันยังมีอสูรร้ายซ่อนอยู่ตนหนึ่ง ”
“ เช่นนั้นไหนเลยเจ้าจะฝ่าฝืนใช้ออกด้วยวิชาธาตุเช่นนี้ หากคำนึงถึงความผิดครั้งนี้เจ้ามีโทษสถานหนัก แต่สุดที่เจ้าจะไม่ใช้ออกได้ในภาวะเช่นนี้ ครั้งนี้ยังคงล่ะโทษไว้ก่อน หนหลังเจ้าควรระวังให้มากไว้ จงรีบไปรายงานให้ท่านผู้นำทราบไว้ ”
“ ศิษย์รับทราบ ”
งูไผ่เขียวรับคำ กระโดดคราหนึ่งพุ่งกายหายไปในเงาไม้อย่างรวดเร็ว
ชายชราร่างต่ำ กล่าวจบกระโดดลงจากคาคบไม้ลอยล่องลงสู่พื้นอย่างแผ่วเบาราวขนนก ที่น่าแปลกเมื่อครู่เมื่อเคลื่อนไหวปรากฏเสียงติงตังตลอดเวลา แต่ตอนนี้กับกลายเป็นไร้เสียงร่างทิ้งตัวลงจากคาคบไม้ กระสวยรอบกายหาได้เคลื่อนไหวไปมาไม่ แสดงถึงสุดยอดวิชาตัวเบาเป็นเลิศในต่ำใต้ได้เต็มภาคภูมิ
“ เจ้าหรือคือแพทย์ปิศาจที่ยุทธจักรร่ำลือ เราเมนอส ฮูริแกน วันนี้มีวาสนาได้ประสบ นับถือ ๆ ”
จากต้นจนถึงบัดนี้ร่างของแพทย์ปีศาจยังยืนหยัดไม่เคลื่อนไหว ปล่อยให้ผ้าคลุมพลิ้วไหวในสายลม แสงจันทร์สะท้อนใบหน้าอันขาวซีดราวปลาตาย ปิดปากลง ท่าทีเยือกเย็น กราดสายตาอันคมวาวราวคมมีด จับจ้องร่างชายชราร่างเตี้ยเบื้องหน้า
“ หามิได้ ๆ ท่านเมนอส ฮูริแกน กระสวยตรึงวิญญาณอันกระเดื่องดังดั่งอาทิตย์ยามเที่ยง วันนี้ได้พานพบย่อมมีความปิติเช่นกัน ”
“ ท่านมาเพื่อ ศาสตราอาวุธแห่งธาตุ จริง ๆ จุดประสงค์ของท่านพอจะชี้แจงรายละเอียดได้หรือไม่ ”
เมนอส ฮูริแกน ฉายา กระสวยตรึงวิญญาณกล่าว
“ เมื่อมีคนมาเพิ่ม มากไปอีกหนึ่งก็หาเป็นไรไม่ ความนัยที่ท่านต้องการทราบ รับฟังไว้ ท่านคงได้ยินถึงเรื่องราวของท่านผู้ครอบครองตำรามหาเวทย์ควบคุมธาตุ มาไม่มากก็น้อย ”
“ จากคำร่ำลือ ที่รับฟังมาก็มีไม่น้อย ฟังว่าคนผู้นั้นบ้างก็ว่าเป็นเด็กหนุ่มวัยฉกรรจ์ บางว่ามันเป็นชายสูงวัยร่างกายสูงใหญ่ราวยักษา ในคำร่ำลือหาได้มีขอสรุปเท็จจริงไม่ รู้เพียงว่าผู้ที่ได้เห็นมันล้วนไปรายงานตัวกับยมบาลทั้งสิ้นใช่เป็นไปตามความนี้หรือไม่ ”
เมนอส ฮูริแกนกล่าว
“ รับฟังมาก็มาก คำร่ำลือสำหรับนายท่านบ้างเกินจริง บ้างลึกลับน่ากลัว นั้นเป็นเพียงตำนานที่เล่าอ้างกล่าวกันมาเพียงเท่านั้น แท้จริงแล้ว การตามหาศาสตราอาวุธแห่งธาตุ ยอดศาสตราเพื่อควบคลุมธาตุหลักทั้งสี่ จึงเป็นเป้าหมายสำคัญที่แท้จริง ”
เมนอส ฮูริแกน และชายชราร่างสูงเมื่อได้ฟังถึงกับหน้าถอดสี
“ ควบคลุมธาตุหลักทั้งสี่ หมายความว่าธาตุหลักทั้งสี่ถูกชายผู้นั้นควบคลุมไว้แล้ว ใช่หรือไม่ ”
“ เป็นเพียงการควบคลุมชั่วคราวเท่านั้น การที่จะควบคลุมธาตุหลักหาได้เป็นเรื่องง่ายดายไม่ อาวุธธาตุทั้งสี่ที่สูญหายไป หากได้ครอบครองนำมาหลอมรวมเป็นอาวุธสี่ธาตุเมื่อใด เมื่อนั้น จึงเป็นการครอบครองตระกูลธาตุหลักไว้ได้ทั้งหมดไว้อย่างแท้จริง ”
สิ้นเสียงแพทย์ปิศาจ ร่างกายของมันพลั้นกระตุกสั่นไหว ร่างกายคล้ายกับมีการเปลี่ยนแปลงกล้ามเนื้อของมัน เคลื่อนไหวไปมาเป็นกลุ่มก้อน สะท้อนขึ้นลง ทรุดกายล้มลงเบื้องหน้า ทันใดนั้นเองแผ่นหลังใต้ผ้าคลุมดำของมันเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมใดโผล่พ้นชายผ้าคลุมออกมา ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้ ค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปร่าง คล้ายคนผู้หนึ่ง หลุดจากร่างของแพทย์ปิศาจ บิดลำคอไปมาปรากฏชัดตากลายเป็นร่างชายสันทัดรูปร่างสมส่วนผู้หนึ่ง เดินสาวเท้าก้าวออกมา
ภาพเห็นการแปรเปลี่ยนที่เกิดขึ้น ทำให้ชายชรานามเมนอส อดแสดงสีหน้าแปลกใจมิได้แต่ไม่มีที่ท่าหวาดกลัวแม้สักเล็กน้อยเป็นเพียงตกใจต่อการเปลี่ยนแปรที่เกิดขึ้นเท่านั้น แสดงถึงมีกำลังขวัญอันแข็งกล้าที่ยากจะพานพบได้จริง ๆ
“ ฟังเจ้าผายลมมามากพอแล้ว เจ้าแพทย์ทารก ทำไมไม่ทำให้เสร็จเรื่องสิ้นราวไปเสีย มั่วแต่พร่ำกล่าววาจาไร้สาระอันใด ”
“ ยังไม่ถึงเวลาของเจ้า ริปเปอร์ ”
แพทย์ปิศาจ ยันกายขึ้นช้า ๆ ร่างกายยังมีอาการสั่นไหว ดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัดหลั่งเหงื่อโทรมกายราวขึ้นจากน้ำ
“ หุบปาก เจกิล ต้องรอถึงเวลาใด ”
ริปเปอร์ตะคอกหันไปกล่าวกับแพทย์ปิศาจด้วยน้ำเสียงอันดุดัน จากนั้นหันสบตากับผู้เฒ่าเมนอส ฮูริแกนด้วยสายตาอันเลื่อนลอยแสยะยิ้มลึกลับกล่าวสืบต่อ
“ ทางเดียวเว้นแต่พวกเจ้าในที่นี้จะมีผู้ใดรอดชีวิตจะรับทราบเรื่องราวตอนหลังทั้งหมด ”
“ เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่ ”
เฒ่าเมนอส ฮูริแกน กล่าวด้วยความสงสัยใจ ไม่ทราบในมือเพิ่มกระสวยเงินตั้งแต่เมื่อใด
“ อยากรับรู้ว่า ข้าเป็นใคร มาเล่นให้สมใจสักครา ค่อยว่ากล่าวกันก็ยังมิสาย ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ