มหาเวทย์เนตรสยบธาตุ

7.7

เขียนโดย CL666

วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.57 น.

  3 ตอน
  11 วิจารณ์
  7,075 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 10.23 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ผู้มาเยือน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

                สายลมพัดผ่านพาความร้อนอบอ้าวลอยร่อง ทั่งบริเวณแถบนี้ยากนักที่จะหาแหล่งพักพิงกายคลายร้อนสักชั่วครู่ชั่วยามเงาร่างสีดำดูเลือนราง สะท้อนเงาของแสงแดดยามนี้เป็นเงาไหว ๆ สาวเท้าก้าวเดินท้าทายลมแดดอันร้อนระอุ ราวกับไฟนรกก็มิปาน

 

                เงาร่างเลือนรางนั้นคือเงาร่างของชายลึกลับใต้ผ้าคลุมดำนั้นเอง

 

                ยามนี้ใกล้สนธยามากแล้วมันลัดเลาะตามเนินทราย ไม่นานก็พบกับแนวทิวไม้ใหญ่หนาทึบ มันจึงสาวเท้าไปเบื้องหน้าตรงเข้าแนวทิวไม้อย่างเร่งร้อน รวดเร็ว

 

                “  หากมิได้พบพานด้วยสายตาตนเอง ยากนักที่จะเชื่อได้ว่าท่ามกลางทะเลทรายอันแห้งแล้งจะยังคงมีพื้นป่าหนาทึบเฉกเช่นนี้  แสดงว่าเราเข้าใกล้จุดหมายเข้าไปทุกทีแล้ว ”

 

                ชายร่างลึกลับพึมพร่ำกล่าว

 

                ทันใดนั้นเอง บนเส้นทางเบื้องหน้า พลันมีอาวุธสีเงินสะท้อนประกายวาววับ ปรักตรึงกับพื้นเบื้องหน้าห่างจากร่างชายลึกลับเพียงช่วงตัวเท่านั้น

 

                ชายลึกลับใต้ผ้าคลุมดำยืนก้มศีรษะหลุบต่ำลงเพ่งมองอาวุธที่ถูกซัดมา เบื้องหน้า ยืนหยัดนิ่งไม่เคลื่อนไหว 

 

                ยามนั้นบนคาคบไม้พลันปรากฏเงาร่างสายหนึ่งในอาภรณ์สีเขียว โผล่พ้นเงาไม้ออกมา ส่งเสียงกล่าว

 

                “ สหายขออภัยเส้นทางสายนี้มิอาจผ่านได้ ”

 

                น้ำเสียงของชายแปลกหน้าความจริงราบเรียบแต่แฝงแววเดือดดาลในน้ำเสียง แสดงถึงอารมณ์ ยามนี้ของมันได้เป็นอย่างดี แล้วกล่าวาจาสืบต่อ

 

                “  ผ่านด้านงูทะเลทรายเข้ามาถึงที่แห่งนี้ แสดงว่าพวกมันคง ยากที่จะมีวาสนาไปกว่าคราเคราะห์เป็นแน่แสดงว่าท่านเป็นคนสังหารพวกมันทั้ง ห้าใช่หรือไม่  ”

 

                แท้จริงแล้วตามความจริงที่มันกล่าวนั้นไม่ต้องรอคำตอบก็สามารถรับทราบกระจ่างชัดอยู่แล้ว หากด้านทะเลทรายไม่ถูกทะลวงไหนเลยจะมีผู้ใดเล็ดรอดผ่านเข้ามายังด้านไม้ของมันได้เช่นนี้

 

                ร่างของชายลึกลับเงยหน้าขึ้นมองทางต้นเสียง สาดสายตาอำมหิตคราหนึ่งแล้วสลายไปอย่างรวดเร็ว

 

                “  เฮอะ งูทะเลทรายอันใดพวกมันล้วนใช้การมิได้ เป็นได้ก็แค่หนอนในผลส้มเน่า ๆ จะเหมาะกว่า ”

 

                ชายแปลกหน้ากระชับกระสวยเงินในมือแนบแน่น แสดงสีหน้าปั้นยาก ขบกรามแน่น สาดสายตาอันคมวาวราวคมมีดจับจ้องชายร่างลึกลับ แล้วกล่าว

 

                “  หากเป็นเช่นนั้นท่านใย ไม่ลองรับทราบพิษส่งของคมเขี้ยวงูไผ่เขี้ยวหน่อยเป็นไร ”

 

                มันพอกล่าวจบเป็นลงมือในทันทีโผขึ้นตีลังกากลับหลัง พาร่างของมันลับหายลับไปกิ่งไม้โดยรอบอย่างรวดเร็ว เลือนหายไปอย่างไร่ร่องรอยราวกับมายา  จากนั้นประกายสีเงินสามจุดถูกซัดจากเบื้องร่างด้านซ้ายมือของชายร่างลึกลับในทันทีอย่างรวดเร็ว

 

                เสียงหวีดหวิวผ่าอากาศ เข้ามาอย่างรุนแรง ชายร่างลึกลับโผบินขึ้นฟ้า อย่างว่องไว กระสวยเงินทั้งสามุดผ่านใต้เท้าไปอย่างหวุดหวิด ในขณะที่มันโผขึ้นหมายหลบหลีก ปรากฏกระส่วยอีก ห้าจุดซัดมาจากด้านบนอย่างรุนแรงรวดเร็วในเวลาชั่วแล่น

 

                ในสภาวะลอยเคว้งในอากาศเช่นนี้ยากนักที่จะหลบหลีกป้องกันการอาวุธลับที่จู่โจมเช่นนี้ได้ ทำให้กระสวยทั้งสี่จุดซัดต้องร่างชายลึกลับอย่างถนัดถนี่ แยกเป็นสี่จุด มือ เท้า ปักตรึงกับต้นไม้ มิอาจเคลื่อนไหวอันใดได้อีกแล้ว

 

                “ นึกว่าเป็นยอดฝีมือในเส้นทางใดที่แท้ก็ คนพเนจรเท่านั้นเอง ”

 

                ชายแปลกหน้าสาวเท้าออกมาจากดงไม้กล่าว

 

                “  มันเจ็บไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะเจ้าว่าไหม  กับการถูกกระสวยเงินปักตรึงไว้แบบนี้ ”

               

                 ชายร่างลึกลับกล่าว

 

                “  เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร ในเมื่อขยับกายไม่ได้เช่นนี้ ” 

               

                  มีเสียงลึกลับเสียงหนึ่งกล่าววาเป็นเชิงถามความเห็น

 

                ชายแปลกหน้า ฉายา งูไผ่เขี้ยว กระชับอาวุธในมือ หันสำรวจไปบริเวณโดย รอบป้องกันการเปลี่ยนแปลงในใจ ฉุกคิดขึ้นได้ว่าผู้มาอามีจำนวนไม่น้อยกว่า หนึ่ง โคจรลมปราณป้องกันทั่วร่าง กระจายพลังวัดสำรวจเท่าบริเวณไม่พบสิ่งผิดสังเกตใดอดแปลกใจมิได้

 

                “  เสียงผู้ใดกัน  ”

 

                “  เจ้าก็ออกไปจากร่างนี้เป็นการชั่วคราวเป็นไร อย่างน้อยเจ้าก็เคลื่อนไหวภายนอกได้สะดวก ”

 

                เสียงประหลาดกล่าวอย่างเฉื่อยชาว่า

 

                “  อยู่ในนี้อืดอัดแทบตาย  ”

 

                สิ้นเสียงประหลาด ร่างใต้ผ้าคลุมดำพลันระเบิดออก ผ้าคลุมถูกฉีกเป็นสองส่วนราวกับมือที่มองไม่เห็นคู่หนึ่งจับกระชากออกแยกเป็นซ้ายขวา จากนั้นปรากฏเงาร่างสองสายยืนหยัดมั่นบนคาคบไม้

 

                “  เจ้าเด็กน้อยอย่าได้ตกใจขวัญฝ่อตายไปเสียก่อน บิดายังมิได้เล่นกับเจ้าสักเล็กน้อยเลย  ”

 

                ชายบนคาคบไม้เบื้องขวาแสดงว่าเป็นเจ้าของเสียงประหลาดเมื่อครู่การ การเปลี่ยนแปรกะทันหันเกินคาดคิดเช่นนี้ถึงกับทำให้ งูไผ่เขียวต้องหน้าถอดสี ก้าวถอยหลังอย่างลืมตัว ตลึงลาน ไป

 

                “  มิสเตอร์ไฮด์  รีบกำจัดเด็กน้อยอย่าได้ผายลมสุนัขเจ้าให้มากความ ”

 

                เงาร่างเบื้องซ้ายขู่คำรามเป็นเชิงสั่งการ

 

                “  แพทย์ปีศาจเฉกเช่นเจ้า เจ กิลอย่าได้ออกคำสั่งต่อข้า หรือว่าเจ้าจะสะสางบัญชีเก่าก่อนของสองเรา ในตอนนี้เลยเราก็น้อมสนอง ”

 

                ชายเบื้องขวานามมิสเตอร์ไฮด์ กล่าวด้วยน้ำเสียงแหลมเล็กฟังดูเยือกเย็นยิ่ง

 

                ชายเบื้องซ้ายนาม แพทย์ปีศาจ เจ กิล สงบปากคำไม่พูดจาอันใดหันควับส่งประกายอำมหิตมายังงูไผ่เขียวแสยะแยกเขี้ยวอันคมวาวของมันกล่าวต่อว่า

 

                “  บัญชีรายนั้นยังคง ลืมไปชั่วคราว ตอนนี้ให้เจ้าได้ยึดเส้นสายกับเจ้าเด็กผู้นั้นก่อนเป็นไร มิสเตอร์ไฮด์  ”

 

                มิสเตอร์ไฮด์หันควับมาจ้องร่างของงูไผ่เขียวในทันที บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มอันเย็นยะเยียบเย็นชากกล่าวว่า

 

                “  จะว่าไปเราท่านก็ร่างเดียวกัน ยังคงพักเรื่องราวไว้ชั่วคราว มิให้ก่อกวนเจ้าเด็กน้อยนี้ ให้ตื่นตกใจไปก่อน ”

 

                “  ลงมือฆ่า  “

 

                สิ้นเสียงของตะโกนของแพทย์ปีศาจ เจ กิล ร่างมิสเตอร์ไฮด์ก็โผ่บินขึ้นฟ้า หมุนคว้างราวลูกข่างยักษ์ ปรากฏเป็นคลื่นลมแรงพุ่งตรงมายังร่างของงูไผ่เขียวที่ตลึงลาน กับที่ ก่อนที่พายุลมกลดของมีดเตอร์ไฮด์จะกระทบถูก ยังดีที่งูไผ่เขียวมีการโคจรลมปราณไว้ก่อนตัดสิ้นใจกระโดดถอยหลังด้วยวิชา แมลงปอถลาลม ถอยห่างไปเบื้องหลังหมายหลบรอดจากการโจมตีครั้งนี้

 

                แต่มิคาดก่อนที่ร่างของมันจะถอยหลังยืนยัดต้านรับมั่น ในวามรู้สึกของมันยังคงบ่งบอกถึงอันตรายที่หน้ากลัวอยู่ด้านหลังมันจึงลวงเอากระสวยชุดใหม่ในอกเสื้อซัดชี้เฉียงขึ้นไปเบื้องบน พร้อมกับกระตุกข้อมืออย่างเร่ง ร่งของมันก็เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นคู่หนึ่งโอบอุ้มมันโผขึ้นไปหลบรอดจากการโจมตีเบื้องหน้าและ เบื้องหลัง

 

                แท้จริงแล้วในความรู้สึกตอนถอยกายไปด้านหลังหาใช่คิดไปเองไม่ ในขณะที่พายุลมกลดของมีดเตอร์ไฮด์จู่โจมมาเบื้องหน้าปรากฏว่าเบื้องหลัง แพทย์ปีศาจ เจ กิล ได้ใช่ท่าร่างอันรวดเร็วสาดพุ่งดักทางไว้เบื้องหลังรออยู่ก่อนแล้วในการลงมือของทั้งสองหาได้มีการเตรียมการก่อนหลังไม่ เป็นเพียงกระแสจิตของมันที่เชื่อมกันไว้จึงสามารถประสานการลงมือได้สมบูรณ์แบบเช่นนี้

 

                “  จะหนีไปที่ใดเด็กน้อย บิดาอยู่เบื้องร่างยังสามารถปลิดชีพเจ้าได้โดยเท้าไม่ขยับ ค่อยดู  ”

 

แพทย์ปีศาจ เจ กิลหัวร่อเฮอะฮะ ยืนแขนอันยาวเหยีดของมันสาดพุ่งตรงไปยังร่างของงูไผ่เขียว

 

                “  นี้พวกมันเป็นตัวอะไรกันแน่หรือว่าพวกมัน …”

 

                ในขณะที่ทางหนึ่งครุ่นคิดทางหนึ่งหลบรอดการโจมตีของแพทย์ปีศาจ เจ กิล มือไม้อันยาวเยียดอย่างไม่มีที่สุดที่สิ้นของมันยังคงพัวพันดังเงาตามตัว พันเลี้ยวเคี้ยวคดไปตามกิ่งไม้วนไปมา หะแรกอาจดูเหมือนเป็นการโจมตีที่ไร่แบบแผนแต่แท้จริงเป็นการจำกัดพื้นที่หนทางถอยของงูไผ่เขียวนั้นเอง ตอนนี้ถูกล้อมในบริเวณที่แคบลงไปมากแล้ว

 

                “  เจ้าเด็กน้อย อย่าลืมยังมีบิดา รอเล่นกับเจ้าอยู่ทางนี้ ”

 

                มิสเตอร์ไฮด์ส่งเสียงคำรามก้องซัดโผเข้ากลางวงล้อมยืนหยัดไว้เบื้องหน้าไม่ห่างเท่าใดนัก

 

                “  การต่อสู้ครั้งนี้ยิ่งมายิ่งตรึงมือนักยากนักที่จะเอาชัย   จำต้องใช้ไม้ตายวิชาลับธาตุไม้ของเราเข้าหักหาญสักคราหนึ่งแล้ว  ”

 

                งูไผ่เขียวเมื่อคิดขึ้นได้ หาที่มั่นยืนหยัดทรงกาย หลับตาประสานมือ เป็นท่าทางสลับนิ้วไปมาอย่างรวดเร็ว คล้ายกับท่วงท่าเฉกเช่นเล่นมายากล แท้จริงเป็นการประสานอิน โคจรลมปราณตำรับ ธาตุไม้ซึ่งเป็นธาตุประจำสายเลือดของมัน เดิมทีหากไม่เกิดเหตุการณ์คับขันจวนตัว ยากนักที่จะถูกใช้ออกมาหากใช่ออกมาเมื่อใดเป็นต้องเอาชัยให้ได้

 

                จะกล่าวไปไม่ว่าสายธาตุในตระกูลใด หากไม่เกิดการต่อสู้เป็นตายร้ายแรง อยากนักจะมีผู้ใช้ออกเพียงเพราะว่ากฎที่ถูกตราขึ้นมิอาจละเมิดได้ ( *** เกี่ยวกับตระกูลธาตุจะถูกกล่าวถึงในตอนต่อไปโปรดติดตาม***) ดังนั้นน้อยครั้งจะมีผู้ใช้วิชาไม้ตายประจำตระกูลธาตุเพื่อเผยตัวตนออกไป

 

                “  คาถาไม้ คุกไม้พันธนาการ”

 

                สิ้นเสียงงูไผ่เขียวปรากฏ กิ่งไม้ใหญ่รอบบริเวณ เลื้อย แทรกเข้ามา แหวกอากาศดัง หวีดหวิว แผ่กระจายแยกออกจู่โจมครอบกิ่งก้านสาขาครอบคลุมใส่ ร่างของ มิสเตอร์ไฮด์ กับแพทย์ปีศาจ เจ กิล การเป็นคุกไม้พันธนาการทั้งสองไว้ภายในแยกเป็นสองกรงอย่างแน่นหนา

 

                “  ที่แท้เด็กน้อยเจ้าก็เป็นคนของตระกูลฝ่ายธาตุไม้จริง ๆ ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่านายท่านหลังจากควบคลุมตระกูลธาตุหลักไว้ได้แล้ว เหตุใดจึงไม่กำจัดพวกมันให้สิ้นละเว้นให้เจ้าธาตุนอกรีตพวกนี้กำแหงก่อการกำเริบเช่นนี้ด้วยเหตุใด  “

 

                “  นายท่านอาจมีเหตุผลใดนอกเหนือจากลูกเต่าเจ้าจะคิดได้อยู่ก่อนแล้ว การที่นายท่านส่งเรามาย่อมมีเหตุผลอยู่  ”

 

                “  นายท่านอันใด เป็นผู้ใดใช้พวกเจ้ามายังสถานที่ต้องห้ามแห่งนี้  ”

 

งูไผ่เขียวกระโดนคราหนึ่ง ใช้นิ้วประกบกัน  กรีดนิ้วกลางอากาศ ปรากฏกรงไม้ทั้งสองด้านที่อยู่ห่างกัน เคลื่อนย้ายแนบชิดกันเบื้องหน้าในทันที

 

                “  เจ้ามาในที่แห่งนี้ประสงค์ในสิ่งใด มีจุดมุ่งหมายอันใด จงบอกมา  ”

 

                “  เฮอะ อย่าคิดว่ากรงไม้แค่นี้จะกักขังบิดาได้ เจ้าคำนวณพลาดผิดไปแล้ว  ”

 

                มิสเตอร์ไฮด์กล่าวอย่างเยือกเย็น

 

                “  หากเจ้าคิดว่ากักขังเราไว้ก็ประเสริฐอยู่แต่หากว่า หากข้าหลุดจากการคลุมขังของเจ้านี้ได้เรื่องราวในหนหลังคาดว่าเจ้าคงคิดคำนวณได้  ”

 

                แพทย์ปีศาจ เจ กิล สาดสายตาส่งประกายอำมหิต กล่าว

 

                “  หุบปากสุนัขเจ้า อย่าพูดจากล่าวราวผู้คนจนเกินไป  ”

 

                “  เด็กน้อยหรือว่าเจ้ามิเชื่อบิดา เช่นนั้นเจ้าจงรับทราบด้วยตัวเองเถอะ ”

 

                สิ้นเสียงของมิสเตอร์ไฮด์ ทันใดนั้นเอง ร่างของมันเบ่งพองคล้ายลูกหนังขนาดใหญ่แล้วระเบิดออกเสียงดังสะนั่นสะท้านแก้วหูแล้วกลายเป็นหมอกควัน กระจายออกรอบข้าง ลอดผ่านช่องกรงไม้ออกมา ยิ่งมายิ่งหนาทึบ

 

                งูไผ่เขียวเห็นผิดท่ารีบกระโดดกลับหลังทิ้งห่างออกไปหลายวา เตรียมพร้อมการรับการเปลี่ยนแปรภายในกลุ่มหมอกควันที่หน้าทึบพลันปรากฏร่างของ แพทย์ปีศาจ เจ กิล เดินฝ่ากลุ่มหมอกควันอันหน้าทึบออกมา ทำท่าผายมือ แสยะยิ้มอันชั่วช้า กล่าวว่า

 

                “  ใช้สองรุมหนึ่งออกจะเอาเปรียบเจ้าเกินไป สลายร่างเจ้าหมีใหญ่นั้นก่อนเหลือไว้แค่เจ้ากับข้าแล้วค่อยมาวากล่าวสนธนากันเป็นไร  ”

 

                ร่างมิสเตอร์ไฮด์ที่ระเบิดแกตอนนี้พลันหายสาบสูญไปเหลือไว้แต่แพทย์ปีศาจ เจ กิลการแปรเปลี่ยนที่ปรากฏต่อหน้าทำให้งูไผ่เขียวถึงกับหน้าถอดสี มิอาจเชื่อในสายตาตนเองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุกไม้พันธนาการสุดยอดวิชาในตำรับธาตุไม้สายโจมตี ควบคลุมศัตรูถึงกลับถูกชายร่างลึกลับคู่นี้ทำลายไปได้กล่าวไปหากไม่พบเจอกับตัวยากนักจะเชื่อได้จริง ๆ

 

                “  พวกเจ้ามีความเป็นมา เช่นไรกันแน่  ”

 

                 “  ในเมื่อเจ้าสงสัยใคร่รู้ก่อนตาย ข้าจะสนองความใคร่รู้ของเจ้าก่อนไปรายงานตัวกับยมบาลให้  ”

                แพทย์ปีศาจ เจ กิล แสยะยิ้ม หลุบคิ้ว ต่ำสาดสายตาคมกล้าเยือกเย็นกล่าวว่า

 

                 “  เพื่อยอดศาสตราอาวุธธาตุของพวกเจ้ายังไงล่ะ  ”

 

 

               

               

 

 

 

 

               

                

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา