ชมรมวิจัยเรื่องลึกลับ (หลังเลิกเรียน)

6.8

เขียนโดย shotaro

วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.35 น.

  32 ตอน
  8 วิจารณ์
  37.63K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 15.39 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

18) คาบเรียนที่ 10 : งานเทศกาล และชมรม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ชมรมวิจัยเรื่องลึกลับ (หลังเลิกเรียน)

คาบเรียนที่ 10 : งานเทศกาล และชมรม (บทอำลา 2)

          “คนในชมรมงั้นเหรอเป็นไปไม่ได้หรอก นั่นหมายความว่ามีเพื่อนในกลุ่มของเราทรยศเลยนะ แล้วถึงจะเป็นแบบนั้น...แต่ใครล่ะ!?” โตพยายามที่จะไม่เชื่อในความคิดนั้นแต่ทว่าก็ต้องยอมรับในโอกาสที่มีอยู่สูง

            “นั่นแหละครับที่เป็นปัญหา..” เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว “มีบางคนในกลุ่มเราโกรธแค้นชมรมนี้”

          “ตอนที่ยันต์หายไปคือหนึ่งปีที่แล้ว...แสดงว่าผู้ต้องสงสัยก็คือ อีฟ โจ แทงค์ ธัน กับเอธร งั้นเหรอ” โตพึมพำขณะกัดเล็บนิ้วโป้ง

            “นั่นสินะครับ...”

            การสนทนาของทั้งคู่จบลงโดยที่ไร้ข้อสรุป ไคขอตัวออกมาในขณะที่ปล่อยให้โตนอนพักผ่อนอยู่ในห้องพยาบาลต่อไป

            เมื่อเด็กหนุ่มออกจากห้องก็พบว่าพิธีเปิดได้จบลงไปแล้ว ทุกคนต่างเดินกันขวักไขว่ซึ่งมากกว่าตอนจัดเตรียมบูทหลายเท่า

          “อ้าอ้า! ไม่เข้าจริงๆ แฮะ” เด็กหนุ่มเกาศีรษะขณะเดินผ่านผู้คนไปตามทางเดิน ภายในห้องเรียนแต่ละห้องถูกจัดให้มีสภาพเป็นบูท มีผู้คนมากมายไม่ขาดสาย

            “อ๊ะเจอตัวแล้ว!!” เสียงผู้หญิงตะโกนไล่หลังมา

            เมื่อได้ยินเสียงเรียกเด็กหนุ่มจึงหันกลับไปหาต้นเสียง “เอิร์ธ เดียร์” เดียร์และเอิร์ธซึ่งไม่เห็นเด็กหนุ่มขณะที่เข้าแถวในพิธีนั้นจึงรู้สึกเป็นห่วงแล้วออกเดินตามหา

            “ฉันก็นึกว่าเธอจะป่วยแล้วไม่มาเสียอีก โทรไปก็ไม่รับ” เด็กสาวทำหน้าเข้มงวด “ทำไมถึงไม่เข้าแถว” เพราะเธอเป็นหัวหน้าห้องซึ่งมีหน้าที่เช็คชื่อจึงรู้ได้ทันทีเมื่อไคไม่อยู่ในแถว

                “อ๋อ..ฉัน.. พาพี่โตมาที่ห้องพยาบาลและก็คุยกันเพลินไปหน่อย ส่วนมือถือสงสัยจะลืมไว้ที่บ้านน่ะพอดีเมื่อเช้ารีบ ขอโทษนะที่ทำให้พวกเธอเป็นห่วง” ไคยกมือไหว้ขอโทษแบบเพื่อนๆ

            เอิร์ธบีบไหล่ไคเบาๆ“อ่าฉันก็ไม่ได้จริงจังอะไรขนาดนั้นหรอก”       

         

          “คราวหลังก็น่าจะบอกหัวหน้าห้องอย่างฉันบ้างสิ” เดียร์สะบัดหน้างอนเล็กน้อยก่อนจะหันมายิ้มให้เด็กหนุ่ม “เอาล่ะพวกเราไปเดินดูบูทกันดีกว่านะ” เธอจับแขนเด็กหนุ่มลากตามไป ในขณะที่เอิร์ธเอามือพาดบ่าเดินคุยไปด้วยกัน

          ภายในงานเทศกาลเต็มไปด้วยความรื่นเริงแม้จะเพิ่งเปิดใหม่ๆ ก็ตามการเดินสวนกันบนอาคารมีสภาพที่ดูเหมือนคนเบียดกันในตลาดที่แออัด ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ไม่อาจมีผลต่อรอยยิ้มของผู้คนในงานเทศกาล ความสนุกเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น หนุ่มสาว กลุ่มเพื่อน เหล่าอาจารย์ และคนนอก ต่างรวมตัวกันในงานครั้งนี้

            “นี่ๆ เห็นซุ้มถ่ายรูปนั้นมั้ยพวกเราสามคนไปถ่ายกันเถอะ” เอิร์ธชวนขณะชี้นิ้วไปยัง บูทที่ตกแต่งด้วยผ้าใบสีดำคลุมไว้ ประดับด้วยรูปภาพผู้คนไว้หน้าบูท

            “ก็ได้นี่พวกเราไปกันเถอะ” เดียร์สนับสนุนความคิดนั้นของเอิร์ธ เพราะทั้งสามคนยังไม่เคยถ่ายรูปร่วมกันมาก่อนเลย

            “อ่า...เอ่อ..อื้ม” เนื่องจากมติเป็นเอกฉันท์ไคจึงไม่สามารถโต้แย้งได้ เขาจึงเออออตามไปด้วย

            เมื่อเข้าไปในบูทไคถึงกับร้องอุทาน “เฮ่ย! พี่โจ” โจเป็นคนถ่ายรูปในบูทนี้ ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้เขาเป็นอย่างมาก

            “ย..โย่ว บูทนี้เป็นบูทของห้องพี่น่ะ ส่วนบูทของชมรมให้อีฟ กับแทงค์และโซเฟียดูแลอยู่” โจชี้นิ้วเป็นเชิงบอกให้ทั้งสามคนไปยืนประจำที่ “เอ้า 3 2 1 ชีส” แชะ!!

            เมื่อได้รูปถ่ายทั้งสามคนก็เดินออกจากบูทของโจ มุ่งออกไปเดินนอกอาคารเพราะความแออัดเริ่มทำให้ร้อน ความจริงก็คือความจริง แม้จะเป็นแสงแดดยามเช้าในประเทศไทยก็ทำให้ร้อนได้ การเดินในที่แออัดจึงทำให้คนขี้ร้อนต้องเลี่ยงกันบ้าง ไคซื้อไอศกรีมมาแจกให้เอิร์ธและเดียร์ทานขณะเดินเล่นไปด้วยกัน พลางดูรูปถ่ายที่ได้มาจากบูทของโจ

            ขณะนั่งพักบนม้านั่งนอกอาคาร “ความจริงก็เกินคาดนะเนี่ย ไม่คิดว่าจะบังเอิญมาเห็นพี่โจในบูทถ่ายรูป” เด็กหนุ่มเลียไอศกรีมหลังจากพูดเสร็จ

            “เอ๋งั้นเหรอ เราสังเกตเห็นว่าเขาชอบสะพายกล้องไปไหนมาไหนตั้งแต่งานฉลองที่บ้านเธอแล้วนะ” เดียร์เอียงคอสงสัยในขณะเลียไอศกรีม

          “โว้ย เห็นพวกหล่อๆ สวยๆ เดินคู่กันในงานแล้วมันอิจฉาเว้ย!!” จู่ดีๆ เอิร์ธก็โพล่งออกมา ซึ่งก็ทำให้ไคกับเดียร์หลุดขำ

            เด็กหนุ่มตบไหล่เพื่อนสนิทเบาๆ “ฮ่าฮ่าฮ่า เอิร์ธเอ๋ยนายไม่ต้องกังวลหรอก นิสัยดีๆ แบบนายยังไงก็น่าจะหาได้บ้างแหละนะ”

          “หึ! จร้าๆ พ่อรูปหล่อวันก่อนเห็นจู๋จี๋กับแฟนจนตกหลังคาเลยนี่นา  เป็นนายก็หาได้สิ” เอิร์ธขยี้ผมไคแรงๆ แบบเพื่อนสนิท

            “ฮ่า ฮ่า ฮ่า โอเค ๆ นั่นน่ะไม่ใช่แฟนซักหน่อย เอาเถอะแต่ฉันรู้นะว่าใครชอบนายอยู่ เนอะเดียร์” ไคจับมือของเอิร์ธให้หยุดขยี้หัวตนเอง

            เดียร์หลบสายตาของไค“ของแบบนั้นฉันจะไปรู้ได้ไงกันเล่า” เธอเผยใบหน้าแดงอมชมพูซึ่งดูน่ารักในแบบของเธอ

            “จริงเหรอ! ใครวะ?” เอิร์ธมองไคอย่างจดจ่อ

            “อ่า..เอ่อ...พี่โจ..ล่ะมั้ง” ไคหลีกสายตาไปทางอื่น

            “คิก!!” เด็กสาวรีบกลั้นหัวเราะทันทีที่ได้ยินดังนั้น

            “หัวเราะอะไรฟระ!” เอิร์ธหันไปหาเดียร์ก่อนจะหันกลับมาหาไค “ขอร้องล่ะคนยิ่งกังวลอยู่”

          “อ้าๆ ขอโทษน้าล้อเล่นแรงไปนิดนึง” ไคขอโทษพลางกลั้นหัวเราะ (‘คิก คิก แต่ฉันรู้จริงๆ นะว่าใครชอบนายเอิร์ธ’)

            หลังจากการหยอกล้อผ่านไปประมาณ 10 นาที ทั้งสามก็กลับมาเดินเที่ยวงานต่อ ซึ่งไคก็หาวิธีที่จะทำให้ตัวเองไม่ต้องอยู่เป็นก้างขวางคอให้ทั้งสอง

          “เอ้อจริงด้วย เดี๋ยวฉันต้องไปตามหาแอนนาก่อนนะเดี๋ยวยัยนั่นจะงอนที่ฉันออกมาก่อนโดยไม่ปลุกเธอ” ไคนึกถึงแอนนาขึ้นมาได้ขณะที่กำลังหาวิธีปลีกตัว ซึ่งอีกนัยหนึ่งเขาก็ต้องการเวลาในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของผ้า ยันต์ให้ได้มากที่สุด จากปากของวิญญาณทั้งหลายในโรงเรียน

          “เห.. นี่นายจะไปหาสาวโดยทิ้งพวกเราไปเนี่ยนะ!” เอิร์ธมองหน้าไคอย่างกวนประสาท

            “อ่า..ก็..ก็นะ”   ไคหันหน้าไปกระพริบตาข้างหนึ่งให้เดียร์ ก่อนจะโบกมือลาแยกตัวออก แล้วกลับเข้าอาคาร

          เด็กหนุ่มหยุดคิดหาจุดแรกที่จะเริ่มค้นหาข้อมูล (‘ที่ไหนดีนะ หรือว่าจะไปหาแทงค์แล้วถามพี่ชายของหมอนั่นดู ไม่สิ! ไม่เอาแบบนั้นแน่ ... ที่ๆ แม้แต่คนที่มองเห็นกลิ่นไออย่างพี่โตก็ยังหาไม่เจอ..มันอยู่ที่ไหนกันนะ’)

            เสียงกระซิบดังขึ้นที่ข้างหูของเด็กหนุ่ม“สถานที่แบบนั้นน่ะมันไม่มีหรอก” เป็นเสียงกระซิบที่ทำให้เด็กหนุ่มเกลียดเข้าไส้

            “เอธร..” เด็กหนุ่มหันซ้ายแลขวาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่พบเจอใครเลยสักคน “กายทิพย์...อีกแล้วสินะ”

            “นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะช่วยพวกแก อย่างไรเสียนี่ก็เป็นผลงานของฉันล่ะนะ คงจะทนให้ไอ้บ้าที่ไหนมาใช้ตามใจชอบไม่ได้เด็ดขาด” น้ำเสียงของเขาดูโกรธเกรี้ยว

            “อา....นี่ก็จะครั้งสุดท้ายเหมือนกันที่ฉันจะพึ่งแก” ไคพูดอย่างเจ็บใจ

          “มีวิธีหนึ่งที่จะสามารถทำให้คนที่มองเห็นกลิ่นไอไม่สามารถจับตำแหน่งของต้นตอได้”

          “แล้วมัน...คืออะไรกันล่ะ”

          “ฮ่า ฮ่า ฮ่า มันก็ง่ายจะตาย.. ก็แค่ทำให้ยันต์กระจายอยู่ทั่วโรงเรียนซะยังไงล่ะ”เอธรหัวเราะที่ไคไม่สามารถคิดได้ถึงเรื่องนี้

          “หมายความว่ายังไงกัน..” เด็กหนุ่มยังไม่เข้าใจ

          “ถ้าหากมีสถานที่เปิดทางผีผ่านมากกว่าหนึ่งซ้อนทับกันอยู่    ต่อให้นายจะตาดีมองเห็นกลิ่นไอแค่ไหน กลิ่นไอของแต่ละยันต์ก็จะปกปิดกันเอง” น้ำเสียงฟังดูจริงจังมากขึ้น “เจ้านั่นมันก็อปผลงานของฉันได้อย่างแนบเนียน จนใช้เป็นของตนเองได้นะสิ”

          “ถ้าแบบนั้นเราก็ต้องตามหาโดยที่ไม่รู้ที่อยู่ของมันเลย งั้นเหรอ!?” ไคเริ่มรู้สึกท้อ ทว่าอย่างไรเสียเขาก็ต้องพยายามทำให้สำเร็จ

          “ก็ประมาณนั้น...แต่ว่าพอหาไปเรื่อยๆ เดี๋ยวใบสุดท้ายก็โผล่ออกมาเองนั่นแหละ”

          (‘แล้วมันจะหายังไงล่ะฟะ!!’)

………………………………………………………………………………………………….

 

          อีกด้านหนึ่งที่บูทของชมรมทำงานบ้าน ทั้งสามคนกำลังช่วยกันเรียกลูกค้าและสาธิตการทำความสะอาดที่ถูกต้อง รวมไปถึงการขายสินค้าสำหรับทำความสะอาดมีคุณภาพ ซึ่งผู้ที่เข้าชมส่วนใหญ่จะเป็นเหล่าแม่บ้านพ่อบ้าน ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของชมรม

          “พี่อีฟคะ ทางนี้ลูกค้าเพียบเลยค่ะ” โซเฟียกวักมือเรียกรุ่นพี่ซึ่งเพิ่งจะสาธิตเสร็จไปหมาดๆ

          “อ้า..จ่ะ เดี๋ยวนะ!!” อีฟดื่มน้ำจากขวดสามอึกก่อนจะเดินไปช่วยรุ่นน้องต่อรองราคากับลูกค้า

          “อ๊ะ! นี่เธอเด็กที่อยู่ชมรมเดียวกับพี่ยานี่นา” จีนซึ่งต่อแถวอยู่ในกลุ่มแม่บ้านสังเกตเห็นแทงค์ซึ่งกำลังดูแลลูกค้า

          แทงค์พยายามนึกให้ออกว่าเธอเป็นใครจนสำเร็จ “..น้องสาว...ของพี่ไค..”

          “อ้าว น้องจีนมาที่งานนี้กับเขาด้วยเหรอ!?” อีฟหันมาพูดกับจีนขณะขายสินค้า

          “โดดเรียนมากับเพื่อนค่ะ สงสัยจะต้องสั่งสอนพี่ยาซะหน่อยแล้วไม่มีรอน้องบ้างเลย” เวลาที่เธอคนนี้ขมวดคิ้วช่างดูน่ารักกว่าทุกครั้ง

          “ฮ่า ฮ่า ฮ่า พี่คิดว่าเขาคงจะไปเดินเล่นอยู่กับเพื่อนๆ นั่นแหละ เดี๋ยวก็คงจะต้องมาผลัดเวรเฝ้าบูทพร้อมกับโจแล้วล่ะ เดินรอแถวๆ นี้ไปก่อนก็ได้มั้ง” อีฟพูดพลางหัวเราะในความน่ารักของพี่น้องคู่นี้

          ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้แทงค์คิดถึงพี่ชายมากยิ่งขึ้น เด็กชายพยายามหักห้ามใจไม่ให้คิดฟุ้งซ่านซึ่งนั่นช่างยากสำหรับเด็กอายุ เพียงสิบสามปีที่เพิ่งเสียคนสำคัญไป

          “แทงค์ เป็นอะไรเหรอ” โซเฟียเห็นท่าทีของรุ่นน้องดูซึมๆ เธอจึงนึกเป็นห่วง

          “ป....เปล่าครับ! คือผม...” แทงค์ฝืนยิ้มกลับไปทั้งน้ำตา

          “เอ่อ...นี่หนู ขายให้ป้าได้ยังจ๊ะ ยืนรอมา 5 นาทีแล้วเนี่ย” แม่บ้านที่ยืนต่อแถวคนหนึ่งทักขึ้น  

           “อ่า..ครับเครื่องดูดฝุ่น 1700 บาทครับ” แทงค์รีบปาดน้ำตาแล้วขายสินค้าต่อ

          ช่างน่าสงสารโซเฟียคิดเช่นนั้น เธอหาวิธีทำให้แทงค์กลับมาร่าเริง “แทงค์งั้นเดี๋ยวพวกเรารีบเคลียร์งานตรงนี้ให้เสร็จผลัดเวรกับพี่ไค และพี่โจ แล้วไปหาไอติมกินกันนะ” เป็นเด็กผู้หญิงที่จิตใจดีเสียจริง อีฟมองดูทั้งสองคนพลางคิดว่าโซเฟียดูเป็นพี่สาวที่ดีสำหรับแทงค์เลยทีเดียว

            อีฟยิ้มแล้วพูดอย่างมั่นใจ“ดีล่ะพวกเราก็มีที่ที่อยากไปเดินอยู่เหมือนกันนี่นะ เสร็จนี่แล้วไปกันเถอะ งานนี้พี่เลี้ยงเอง”

          “ค่ะ/ครับ” ทั้งสองตอบรับอย่างรวดเร็ว

..........................................................................................................................................................

            ในเวลาเดียวกัน ทางด้านเอิร์ธและเดียร์ซึ่งก็เดินด้วยกันมาเกือบยี่สิบนาทีแล้วหลังจากไคขอ ปลีกตัวออกไป เด็กสาวใบหน้าแดงก่ำพยายามเดินตามให้ทันเด็กหนุ่มผู้รูปร่างใหญ่ผิวเข้ม

            “เอ่อนี่....เอิร์ธ!” เดียร์พยายามหาวิธีชักชวนเด็กหนุ่ม

            “หือ!!?” เอิร์ธหันกลับไปมองเด็กสาว ซึ่งตามมาจากข้างหลัง

          “นายสนใจ...เอ่อ..แบบ..” เธอดูลุกลี้ลุกลนกว่าทุกครั้ง

            “แบบ...”

          “เข้าบูทร้านกาแฟด้วยกันหน่อยมั้ย!?” เธอก้มปิดหน้าอันแดงก่ำชี้นิ้วไปยังร้านกาแฟของนักเรียนกลุ่มหนึ่ง

            “ก็ดีนะ ฉันอยากนั่งพักอยู่เหมือนกัน” เด็กหนุ่มเดินนำไปยังร้านที่หัวหน้าห้องชี้

            “ด..เดี๋ยวสิรอฉันด้วย!” เดียร์รีบเดินตามหลังเขาไป (‘นี่ขนาดเมื่อยจนอยากนั่งพัก...เขาเดินเร็วขนาดนี้ได้ยังไงนะทั้งที่พุงก็ใหญ่ขนาดนั้น...’)

            เอิร์ธนั่งลงที่โต๊ะกลุ่มหน้าสุดของบูท“ผมขอลาเต้เย็นครับ” เด็กหนุ่มรีบสั่งทันทีที่คนรับออเดอร์สาวสวยเดินมา

            “ข..ของฉัน...เอ่อคือ...” เด็กสาวพยายามจะเหลือบดูเมนูเพราะตัวเองไม่เคยเข้าร้านแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต เพราะปกติแล้วเธอจะไม่ดื่มอย่างอื่นนอกจากน้ำเปล่า “ล...ลาเต้เย็นค่ะ” เดียร์ก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย

            “ค่ะจะขอทวนรายการนะคะ ลาเต้เย็นสองแก้ว....ทางร้านเรามีขนมเค้กด้วยนะคะ จะรับเพิ่มมั้ย” พนักงานสาวทวนคำสั่งพลางแนะนำให้สั่งขนม

            เอิร์ธทำท่าทีคิดหนักเล็กน้อยขณะลูบพุงอันกว้างอยู่พอสมควร “ผมขอบลูเบอรี่ชีสเค้กครับ”

          พนักงานสาวฉีกยิ้ม “ค่ะ! แล้วคุณผู้หญิงล่ะคะ”

          “…” เด็กสาวเงียบแล้วก้มหน้าลงชี้นิ้วไปยังเอิร์ธก่อนจะพูดเสียงค่อย “เอาเหมือน....คนนี้”

          “คะ!?” พนักงานสาวไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอพูด

            “เอาเหมือนคนนี้ค่ะ!” เดียร์ตอบออกไปเสียงดังฟังชัดจนลั่นร้าน

            “รับทราบค่ะรอสักครู่นะคะ” พนักงานสาวเดินกลับไปยังโต๊ะชงชาและกาแฟ  

          เอิร์ธหลุดขำ“ฮ่าฮ่าฮ่า..นี่เธอทำท่าเหมือนไม่เคยเข้าร้านแบบนี้เลยนะ ดูประหม่าสุดๆ เลยแหละ!”

          เด็กสาวพยายามฝืนยิ้มอย่างเขินอาย เสียงหัวใจเต้นแรงจนไม่อาจปรับอารมณ์ได้ “ก..ก็ครั้งแรกน่ะสิยะ” เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาเผยใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา

            “เฮ้! นี่! เธอร้องไห้แน่ะ” เอิร์ธชะโงกหน้าเข้าหาเด็กสาว “เป็นอะไรมั้ย ไหวรึเปล่าไปห้องพยาบาลกันเถอะ”

            เด็กสาวหน้าแดงมากกว่าเดิมเมื่อใบหน้าของเอิร์ธเข้ามาใกล้มากจนเกือบหน้าผาก จะชนกัน ลมออกหู หัวใจเต้นแรงจนนั่งอยู่เฉยๆ ก็ได้ยิน เหงื่อไหลเป็นทาง นี่หรือคืออาการของคนมีความรัก เด็กสาวคิดเช่นนั้น “อ..อื้มไม่เป็นไรหรอก” เดียร์หลบการเผชิญสายตากับเอิร์ธตรงๆ “ก็แค่...เหงื่อน่ะ!” ความจริงแล้วเธอน้ำตาไหลเพราะต้องฝืนรวบรวมความกล้าสั่งอาหารที่ไม่คุ้นเคยต่อหน้าเด็กหนุ่มนี่แหละ

            “เอาล่ะเสร็จจากนี่แล้วไปไหนดี...ดูกริยาสวมชุดเซลแมนขายเครื่องกรองน้ำกันมั้ย..ฮ่าฮ่าฮ่า” เอิร์ธหัวเราะอย่างเป็นกันเองโดยไม่รู้ถึงความอึดอัดในใจของเดียร์เลยแต่เพียงน้อย

            “อ่า...อื้ม”

………………………………………………………………………………………………………

          และ กลับมาที่ไค ซึ่งเขายืนชะงักอยู่ในห้องมืดแห่งหนึ่ง... กลิ่นไอฟุ้งจนแม้เเต่สัมผัสด้านวิญญาณของเขาก็รับรู้ได้ถึงความหนาวเย็นไป ถึงสันหลัง รอบข้างรายล้อมด้วยเหล่าวิญญาณเร่ร่อน                          

          “ในที่สุดก็เจอสินะ” เอธรเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน

 

                    “อา...ไม่น่าเชื่อเลยแฮะ...ว่าจะมาอยู่ที่นี่..!”

 

จบตอน

โปรดติดตามตอนต่อไป

ที่นี่คือที่ไหนกัน!!

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา