No money! ภารกิจปลดหนี้ ขยี้หัวใจ นายจอมโหด
-
เขียนโดย ammoko
วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 21.53 น.
5 ตอน
1 วิจารณ์
9,327 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 21.58 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) หนีไม่พ้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฮ้าววว~
ฉันยืดแขนยืดขาบิดขี้เกียจในท่านอน ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นเพราะรู้สึกเหมือนมีแสงแดดส่องพาดลงมาบนเปลือกตา จึงค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ
“อรุณสวัสดิ์นะ ^^”
“กรี๊ดดดดดดด!”
โป๊ก!
“โอ๊ยย!”
ร่างน้อยๆของฉันหล่นตุบลงมาจากโซฟาด้วยความตกใจสุดขีด อยู่ๆก็มีหน้าหล่อๆของใครก็ไม่รู้โผล่มาอรุณสวัสดิ์ใกล้ๆ ฉันเลยสะดุ้งสุดตัวเผลอเอาหัวโหม่งกับเหม่งของเขาก่อนจะกลิ้งตกลงมาเนี่ยแหละ T0T
“ทำไมต้องรุนแรงขนาดนี้ด้วยนะ T^T”
“แล้วนายเป็นใคร ขโมยเหรอ โลกิ โลกิ๊!!”
:x
เขาเอามืออุดปากของฉันไว้ แต่พอมองใกล้ๆนี่ หน้าตาเขาก็หล่อเหมือนกันนะ ออกแนวหล่อแบบน่ารักอ่ะ >///<
“ฟังนะ ฉันเป็นลูกน้องคนสนิทของโลกิ หมอนั่นออกไปทำธุระด่วน เลยโทรให้ฉันพาเธอไปส่งที่บ้าน -*-”
“แล้วทำไมเขาไม่ปลุกฉันล่ะ -0-”
“คงคิดว่าป่วยการล่ะมั้ง ขนาดฉันปลุกเธอ ทั้งเรียกทั้งตะโกนยังไม่ตื่นเลย นี่มันก็ 9 โมงเช้าแล้วด้วย - -”
น่าอายจริงๆ T0T
“ฉันอยากกลับบ้าน”
“หน้าที่ของฉันก็คือพาเธอกลับบ้านนั่นแหละ - -”
“นายรู้จักบ้านฉันเหรอ?”
“นั่นก็เป็นหน้าที่เธอที่ต้องบอกทางนี่”
โอเค! ถูกของมัน ไม่เถียงให้เปลืองน้ำลาย -*-
“ฉันชื่อแอเรียสนะ เธอล่ะ”
“เฟรย่า”
“งั้นฉันจะเรียกเธอว่าหญ้านะ ง่ายๆดี ^^”
รู้สึกจะมีแต่คนชอบเปลี่ยนชื่อให้ฉันโดยไม่ถามความสมัครใจเลยสักคำ L
ที่หน้าบ้านของฉัน
แอเรียสขับรถมาส่งฉันถึงหน้าบ้าน แต่พอลงจากรถมาจะหันไปขอบคุณ รถของเขาก็ขับเคลื่อนไปไกลเสียแล้ว ฉันจึงทำได้แค่เพียงยืนอ้าปากพะงาบๆมองรถคันนั้นจนกระทั่งลับสายตา ฉันจึงรีบเดินเข้าบ้านไปด้วยอารมณ์คุกรุ่น
ทันทีที่ฉันปรากฏตัวด้วยสภาพที่ยังคงเดิม พ่อกับแม่ก็รีบวิ่งมาหาฉันด้วยความดีใจ
“แม่ดีใจจริงๆที่ลูกไม่เป็นอะไร”
แม่โผเข้ากอดฉันแน่น จนหายใจแทบไม่ออก แอ่กก!
“แล้วมันได้ทำร้าย หรือ เอ่อ”
พ่อของฉันถามด้วยความเป็นห่วง สีหน้าของเขาดูซีดเผือดเมื่อจะพูดอะไรบางอย่างซึ่งฉันรู้ดี
“ไม่มีใครทำอะไรเฟรย์ทั้งนั้น แล้วเฟรย์ก็ไม่ได้มีอะไรกับเขาด้วย”
“เฮ้อ โล่งอกไปที ไม่อย่างนั้นแม่รู้สึกผิดไปตลอดชีวิตแน่ๆ ที่ทำให้เฟรย์ต้องลำบาก”
“แต่ก็น่าแปลกนะ ที่พวกมันปล่อยลูกมาง่ายๆแบบนี้”
ฉันจึงอธิบายให้พวกเขาฟัง แล้วทั้งสองคนก็ถึงบางอ้อ ร้องอ๋อ ปนทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ แต่ฉันยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงล้วนๆ
“คราวนี้หนูก็อยากจะถามพ่อกับแม่ว่าเป็นหนี้เขาเท่าไหร่ เมื่อไหร่ เพราะอะไรถึงเป็นหนี้คะ!”
(. . ) ( . .)
ต่างคนต่างก้มหน้า นั่นก็ยิ่งทำให้ฉันอยากรู้ จึงคาดคั้นต่อไปจนกว่าจะได้คำตอบ
“ตอบหนูมานะคะ!”
“แล้วเขาไม่ได้บอกลูกมาเหรอ”
“หนูอยากถามพ่อกับแม่เองมากกว่า ว่าไงคะพ่อ ว่าไงคะแม่ ใครจะเป็นคนพูด”
แม่ของฉันรีบยกมือของพ่อให้ชูขึ้น ซึ่งพ่อกับทำท่าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจยาวแล้วเปิดปากออกมา
“200 ล้านเองจ้ะลูกรัก”
เฮือกกกก! จะเป็นลม เป็นหนี้เกินตัวไปมั้ยอ่ะ ถึงครอบครัวของเราจะรวย แต่ก็ไม่ถึงขั้นเศรษฐีร้อยล้านหรอกนะ!
“ทำไมถึงเป็นหนี้เยอะขนาดนั้นล่ะคะ! O_o”
“พ่อกับแม่ไปเล่นการพนันในบ่อนของพวกมันน่ะ”
“แล้ว?”
ฉันถามต่อไป เมื่ออีกฝ่ายหยุดพูด
“เราสองคนแทงทีแบบทุ่มสุดตัว ผลสุดท้ายคือไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว พอรู้ว่าเจ้าพ่อมาเฟียของบ่อนนั้นปล่อยเงินกู้ ก็นั่นแหละ พอแทงหมดอีกก็กู้อีก จนหนี้โปะมาเรื่อยๆจนถึง 200 ล้าน ตอนนี้ใช้ไปแค่ 10 ล้านเอง T^T”
เหลืออีกแค่ 190 ล้านเอ๊ง! O_O
จากที่แค่วิงเวียนศีรษะ ถึงคราวนี้ฉันก็หงายหลังเงิบเป็นลมล้มลงไปกองกับพื้นทันที
วันต่อมา
ที่สถานีรถไฟ
ฉันมายืนส่งพ่อกับแม่ จนกระทั่งขบวนรถไฟได้มาจอดเทียบชานชาลา พวกเขาจึงขึ้นไป ฉันจึงโบกไม้โบกมือเป็นการล่ำลาครั้งสุดท้าย ก่อนจะตัดสินใจหันหลังกลับและเดินเหม่อมาเรื่อยๆราวกับคิดอะไรอยู่ในใจตลอดเวลา
“นี่คงเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วล่ะ”
ฉันได้จองตั๋วรถไฟด่วนพิเศษ ขาไป กรุงเทพ-เชียงใหม่ 2 ใบให้พ่อกับแม่ โดยใช้เงินในบัญชีของฉันที่เหลือเพียงไม่กี่พันออกให้ (อยู่เมืองนอกใช้จ่ายเยอะ เปล่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยนะ T^T) เมื่อวานฉันโทรไปขอญาติที่เชียงใหม่ (ซึ่งเขาก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แค่พอมีพอกิน) บอกพ่อกับแม่จะขอไปอยู่ด้วยชั่วคราว ซึ่งเขาก็ไม่ถามอะไรต่อ มีแต่รีบบอกให้ไปอยู่ทันที แถมยังชวนฉันให้ไปอยู่ด้วยอีกต่างหาก แต่ฉันก็ปฏิเสธไป เพราะมีภาระอันใหญ่หลวงที่ต้องทำ (หนักมากด้วย)
ไม่มีสัจจะในหมู่โจร
สำนวนนี้ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ฉันจึงตัดสินใจให้แม่ไปอยู่ที่เชียงใหม่นั่นแหละปลอดภัยที่สุดแล้ว หากฉันไม่อยู่ที่บ้าน ไปหางานทำ ก็ไม่มีใครอยู่ดูแลพ่อกับแม่ คนใช้ ยาม คนขับรถก็ออกไปกันหมด T^T อันตรายแน่ๆถ้าปล่อยพวกเขาสองคนไว้ที่บ้านตามลำพัง หากวันใดวันหนึ่งไอ้พวกเจ้าหนี้มันนึกครึ้มขึ้นมา แล้วทำร้ายร่างกายพ่อกับแม่ล่ะ? ถึงโลกิบอกว่าจะไม่ทำอะไร จนถึงกำหนดครบ 2 เดือน แต่นั่นก็เป็นเพียงสัญญาใจ ที่จะยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เขาต้องการ ถ้าจะมีคนเป็นอะไร ก็ขอเป็นฉันคนเดียวแล้วกัน T0T
ฉันเป็นนางเอกที่รอบคอบและรักครอบครัวจริงๆ T0T
ในขณะที่ฉันกำลังเดินคิดอะไรเพลินๆ พลันสายตาก็ดันไปเห็นใครบางคนที่บอกตามตรงว่าไม่อยากเห็นเลยให้ตาย! TT0TT
โลกิ!
โลกาวินาศชัดๆ T0T
“ซวยแล้ว ทำไงดี!”
ฉันรีบหันไปทางอื่นก่อนอีกฝ่ายจะมองเห็น พลางควานหาสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋า เผื่อจะมีอะไรใช้อำพรางหน้าได้บ้าง แต่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเครื่องสำอาง
แต่งหน้า!
เรื่องแต่งหน้านี่ฉันระดับโปรเลยทีเดียว อยู่ที่เมืองนอก ฉันเคยเข้าประกวดแต่งหน้าหลายสไตล์ที่ไฮสกูลจัดขึ้น และก็ได้ที่หนึ่งมาครองด้วยแหละ แต่นี่ไม่ใช่เวลามากระหยื่มใจ มีอะไรก็จัดการละเลงบนใบหน้าให้สวยจนโลกลืมไปเลย (แบบลืมไปเลยว่าเคยเป็นคน *0*)
ฉันหยิบกระจกขึ้นมาส่อง แล้วก็ต้องพอใจสุดๆ เมื่อเห็นเหง้าหน้าของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในนั้น แก้มนี่แดงเหมือนตูดลิง ตาหลายเฉดสีอย่างกับนกแก้ว ปากแดงเหมือนเพิ่งกินเลือดสดๆมา
เฟรย่าแปลงร่าง O_o
“ทำไมวันนี้เธอแต่งหน้าจัดจัง - -”
ในขณะที่ฉันหันมาก็ป๊ะเข้ากับคนตัวสูง ที่ทำหน้าเอือมระอาสุดขีด ฉันรีบหันหลังให้เขา ทำท่าจะเดินออกไป แต่ก็ถูกจับไหล่ไว้ สถานการณ์แบบนี้ มันเหมือนเรื่องรถไฟฟ้า มาหานะเธอเลยเนอะ เหมยลี่แต่งหน้าเพื่อหลบคุณลุง แล้วคุณลุงก็ทักแบบนี้เด๊ะๆ เหมือนกำลังฉายหนังซ้ำเลยแฮะ T^T
แต่ฉันขอตั้งชื่อเรื่องนี้ว่า รถไฟฟ้า มาหาฉันทำไม -0-
นั่นสิ มาทักฉันทำไมคะ คุณโลกิ T0T
“คือเรารู้จักกันเหรอคะ -*-”
“ห่างกันแค่วันเดียว ถึงกับจำไม่ได้เลยเหรอ คุณลูกหนี้ ^^”
แสดงว่าจำได้จริงๆ T^T
“อ๋อๆ จำได้แล้ว ฮะๆ เมื่อเช้านอนตกเตียงหัวกระแทกพื้น เลยเบลอๆ อึนๆหน่อยน่ะ ^0^”
“ดูจากการแต่งหน้าก็รู้แล้วล่ะ - -”
ขอบคุณที่ไม่ได้วิจารณ์อะไรมากนัก T^T
“แล้วนายมาทำอะไรที่นี่อ่ะ”
“ลูกหนี้ของนายฉันมีอยู่ทุกพื้นที่ ฉันคงไม่ได้มาเดินจ่ายตลาดหรอก”
บางทีเขาก็กวนประสาทเหมือนกันนะ L
“งั้นฉันกลับก่อนดีกว่า แหะๆ”
“เดี๋ยวก่อน”
คำสั่งนั้นทรงพลังจริงๆ ทำให้ฉันหยุดชะงักได้ทันควัน กระซิกๆ T^T
“มีอะไรเหรอจ๊ะ ^^”
ทำเสียงอ่อน เสียงหวานสุดฤทธิ์
“ไม่ได้มาส่งใครขึ้นรถไฟหรอกเหรอ”
“เปล๊า! เปล่านะ ไม่ได้มาส่งใครเล้ยยย!”
โกหกได้เสียงสูงสุดๆ -*-
“ก็นึกว่ามาส่งเพื่อน แต่เห็นเธอแต่งหน้าจัดขนาดนี้ คงจะมาเปิดโชว์แปลกๆอะไรที่นี่เพื่อหาเงินสินะ ดีๆ จะได้หาเงินมาใช้ไวๆหน่อย ^^”
ก็ยังดีที่เขาไม่ได้ติดใจหรือสงสัยอะไร แต่อย่างหลังนี่นอยด์มากนะ ใครจะกล้าทำแบบนั้นในสถานที่แบบนี้ยะ!
“นายจะเข้าใจอะไรก็เรื่องของนายเถอะ ว่าแต่ ลูกน้องของนายไม่ได้มาด้วยเหรอ”
“ใคร มีหลายคน”
ลืมไปว่าเป็นหัวหน้าแก๊งค์ทวงหนี้
“คนที่นายให้มาพาฉันไปส่งที่บ้านเมื่อวานไง”
จำชื่อไม่ได้ เรียกยากเกิ๊น!
“แอเรียสน่ะเหรอ”
“ใช่ๆ ไม่ได้มากับนายเหรอ ก็ไหนบอกว่าเป็นลูกน้องคนสนิทไง”
“ฉันกับแอเรียสไม่ได้ตัวติดกันตลอดเวลานี่ หรือว่าชอบหมอนั่นล่ะ จะได้ไปบอกให้ เผื่อแอเรียสมันมีใจให้เธอด้วย คราวนี้เธอจะได้ขอเงินมันมาใช้หนี้ไงล่ะ จะบอกให้ว่าหมอนั่นก็มีเงินเหมือนกันนะ”
คิดเองเออเองได้เป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ หายใจเข้าหายใจออกก็เป็นเงินไปหมดเลยสินะ กลัวฉันจะไม่ใช้หนี้ให้ขนาดนั้นเลยเหรอ เหอะๆ แต่ก็น่ากลัวอยู่หรอก หนี้ตั้งเยอะ วิธีสุดท้ายของฉันก็คือหนีออกนอกโลกนั่นแหละ T^T
“ฉันไม่ได้ใจง่ายขนาดนั้นหรอกนะ แล้วก็ไม่ได้เห็นแก่เงินขนาดนั้นด้วย คุณเป็นเจ้าหนี้ของฉัน ฉันเป็นลูกหนี้ของคุณก็พอ”
แอบจำมาจากทีเซอร์เรื่องคู่กรรมน่ะ อยู่เมืองนอกไม่ได้ดู เสียด๊าย เสียดาย T^T
“ก็ดี อย่าคิดหนีเมื่อถึงคราวจนตรอกก็แล้วกัน”
จนตรอกตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ T^T
“ฉันไม่ชอบให้ใครดูถูกด้วยสิ รอดูแล้วกัน”
ปากดีไปงั้นแหละ - -
“งั้นฉันจะรีบไปหาส้วมที่มันเต็มๆรอแล้วกัน ^0^”
ดูร่าเริงเกินเหตุอ่ะ รับไม่ได้! T^T
“พี่โลกิ”
จู่ๆก็มีผู้หญิงน่าตาน่ารักเดินเข้ามาหาโลกิ พลางมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าสงสัย ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้โลกิ เขาลูบศีรษะเธออย่างอ่อนโยน และมองเธอด้วยสายตาเอ็นดูเป็นพิเศษซึ่งแตกต่างไปจากที่ฉันเคยเห็นจริงๆ
แฟนโลกิชัวร์!!!
“เอ่อ ฉันไปก่อนนะ ^^”
เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นส่วนเกิน - -
“เดี๋ยวก่อนสิ”
ฉันที่เดินไปข้างหน้ากลับต้องชะงักเพราะเขาเรียกไว้
“มีอะไรอีกล่ะ - -”
“ถ้าไม่ได้โชว์ ก็ลบหน้าออกซะนะ เดี๋ยวคนอื่นเขาจะตกใจ -*-”
ฉันจะคิดว่านั่นคือความหวังดีก็แล้วกัน =0=
ฉันยืดแขนยืดขาบิดขี้เกียจในท่านอน ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นเพราะรู้สึกเหมือนมีแสงแดดส่องพาดลงมาบนเปลือกตา จึงค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ
“อรุณสวัสดิ์นะ ^^”
“กรี๊ดดดดดดด!”
โป๊ก!
“โอ๊ยย!”
ร่างน้อยๆของฉันหล่นตุบลงมาจากโซฟาด้วยความตกใจสุดขีด อยู่ๆก็มีหน้าหล่อๆของใครก็ไม่รู้โผล่มาอรุณสวัสดิ์ใกล้ๆ ฉันเลยสะดุ้งสุดตัวเผลอเอาหัวโหม่งกับเหม่งของเขาก่อนจะกลิ้งตกลงมาเนี่ยแหละ T0T
“ทำไมต้องรุนแรงขนาดนี้ด้วยนะ T^T”
“แล้วนายเป็นใคร ขโมยเหรอ โลกิ โลกิ๊!!”
:x
เขาเอามืออุดปากของฉันไว้ แต่พอมองใกล้ๆนี่ หน้าตาเขาก็หล่อเหมือนกันนะ ออกแนวหล่อแบบน่ารักอ่ะ >///<
“ฟังนะ ฉันเป็นลูกน้องคนสนิทของโลกิ หมอนั่นออกไปทำธุระด่วน เลยโทรให้ฉันพาเธอไปส่งที่บ้าน -*-”
“แล้วทำไมเขาไม่ปลุกฉันล่ะ -0-”
“คงคิดว่าป่วยการล่ะมั้ง ขนาดฉันปลุกเธอ ทั้งเรียกทั้งตะโกนยังไม่ตื่นเลย นี่มันก็ 9 โมงเช้าแล้วด้วย - -”
น่าอายจริงๆ T0T
“ฉันอยากกลับบ้าน”
“หน้าที่ของฉันก็คือพาเธอกลับบ้านนั่นแหละ - -”
“นายรู้จักบ้านฉันเหรอ?”
“นั่นก็เป็นหน้าที่เธอที่ต้องบอกทางนี่”
โอเค! ถูกของมัน ไม่เถียงให้เปลืองน้ำลาย -*-
“ฉันชื่อแอเรียสนะ เธอล่ะ”
“เฟรย่า”
“งั้นฉันจะเรียกเธอว่าหญ้านะ ง่ายๆดี ^^”
รู้สึกจะมีแต่คนชอบเปลี่ยนชื่อให้ฉันโดยไม่ถามความสมัครใจเลยสักคำ L
ที่หน้าบ้านของฉัน
แอเรียสขับรถมาส่งฉันถึงหน้าบ้าน แต่พอลงจากรถมาจะหันไปขอบคุณ รถของเขาก็ขับเคลื่อนไปไกลเสียแล้ว ฉันจึงทำได้แค่เพียงยืนอ้าปากพะงาบๆมองรถคันนั้นจนกระทั่งลับสายตา ฉันจึงรีบเดินเข้าบ้านไปด้วยอารมณ์คุกรุ่น
ทันทีที่ฉันปรากฏตัวด้วยสภาพที่ยังคงเดิม พ่อกับแม่ก็รีบวิ่งมาหาฉันด้วยความดีใจ
“แม่ดีใจจริงๆที่ลูกไม่เป็นอะไร”
แม่โผเข้ากอดฉันแน่น จนหายใจแทบไม่ออก แอ่กก!
“แล้วมันได้ทำร้าย หรือ เอ่อ”
พ่อของฉันถามด้วยความเป็นห่วง สีหน้าของเขาดูซีดเผือดเมื่อจะพูดอะไรบางอย่างซึ่งฉันรู้ดี
“ไม่มีใครทำอะไรเฟรย์ทั้งนั้น แล้วเฟรย์ก็ไม่ได้มีอะไรกับเขาด้วย”
“เฮ้อ โล่งอกไปที ไม่อย่างนั้นแม่รู้สึกผิดไปตลอดชีวิตแน่ๆ ที่ทำให้เฟรย์ต้องลำบาก”
“แต่ก็น่าแปลกนะ ที่พวกมันปล่อยลูกมาง่ายๆแบบนี้”
ฉันจึงอธิบายให้พวกเขาฟัง แล้วทั้งสองคนก็ถึงบางอ้อ ร้องอ๋อ ปนทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ แต่ฉันยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงล้วนๆ
“คราวนี้หนูก็อยากจะถามพ่อกับแม่ว่าเป็นหนี้เขาเท่าไหร่ เมื่อไหร่ เพราะอะไรถึงเป็นหนี้คะ!”
(. . ) ( . .)
ต่างคนต่างก้มหน้า นั่นก็ยิ่งทำให้ฉันอยากรู้ จึงคาดคั้นต่อไปจนกว่าจะได้คำตอบ
“ตอบหนูมานะคะ!”
“แล้วเขาไม่ได้บอกลูกมาเหรอ”
“หนูอยากถามพ่อกับแม่เองมากกว่า ว่าไงคะพ่อ ว่าไงคะแม่ ใครจะเป็นคนพูด”
แม่ของฉันรีบยกมือของพ่อให้ชูขึ้น ซึ่งพ่อกับทำท่าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจยาวแล้วเปิดปากออกมา
“200 ล้านเองจ้ะลูกรัก”
เฮือกกกก! จะเป็นลม เป็นหนี้เกินตัวไปมั้ยอ่ะ ถึงครอบครัวของเราจะรวย แต่ก็ไม่ถึงขั้นเศรษฐีร้อยล้านหรอกนะ!
“ทำไมถึงเป็นหนี้เยอะขนาดนั้นล่ะคะ! O_o”
“พ่อกับแม่ไปเล่นการพนันในบ่อนของพวกมันน่ะ”
“แล้ว?”
ฉันถามต่อไป เมื่ออีกฝ่ายหยุดพูด
“เราสองคนแทงทีแบบทุ่มสุดตัว ผลสุดท้ายคือไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว พอรู้ว่าเจ้าพ่อมาเฟียของบ่อนนั้นปล่อยเงินกู้ ก็นั่นแหละ พอแทงหมดอีกก็กู้อีก จนหนี้โปะมาเรื่อยๆจนถึง 200 ล้าน ตอนนี้ใช้ไปแค่ 10 ล้านเอง T^T”
เหลืออีกแค่ 190 ล้านเอ๊ง! O_O
จากที่แค่วิงเวียนศีรษะ ถึงคราวนี้ฉันก็หงายหลังเงิบเป็นลมล้มลงไปกองกับพื้นทันที
วันต่อมา
ที่สถานีรถไฟ
ฉันมายืนส่งพ่อกับแม่ จนกระทั่งขบวนรถไฟได้มาจอดเทียบชานชาลา พวกเขาจึงขึ้นไป ฉันจึงโบกไม้โบกมือเป็นการล่ำลาครั้งสุดท้าย ก่อนจะตัดสินใจหันหลังกลับและเดินเหม่อมาเรื่อยๆราวกับคิดอะไรอยู่ในใจตลอดเวลา
“นี่คงเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วล่ะ”
ฉันได้จองตั๋วรถไฟด่วนพิเศษ ขาไป กรุงเทพ-เชียงใหม่ 2 ใบให้พ่อกับแม่ โดยใช้เงินในบัญชีของฉันที่เหลือเพียงไม่กี่พันออกให้ (อยู่เมืองนอกใช้จ่ายเยอะ เปล่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยนะ T^T) เมื่อวานฉันโทรไปขอญาติที่เชียงใหม่ (ซึ่งเขาก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แค่พอมีพอกิน) บอกพ่อกับแม่จะขอไปอยู่ด้วยชั่วคราว ซึ่งเขาก็ไม่ถามอะไรต่อ มีแต่รีบบอกให้ไปอยู่ทันที แถมยังชวนฉันให้ไปอยู่ด้วยอีกต่างหาก แต่ฉันก็ปฏิเสธไป เพราะมีภาระอันใหญ่หลวงที่ต้องทำ (หนักมากด้วย)
ไม่มีสัจจะในหมู่โจร
สำนวนนี้ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ฉันจึงตัดสินใจให้แม่ไปอยู่ที่เชียงใหม่นั่นแหละปลอดภัยที่สุดแล้ว หากฉันไม่อยู่ที่บ้าน ไปหางานทำ ก็ไม่มีใครอยู่ดูแลพ่อกับแม่ คนใช้ ยาม คนขับรถก็ออกไปกันหมด T^T อันตรายแน่ๆถ้าปล่อยพวกเขาสองคนไว้ที่บ้านตามลำพัง หากวันใดวันหนึ่งไอ้พวกเจ้าหนี้มันนึกครึ้มขึ้นมา แล้วทำร้ายร่างกายพ่อกับแม่ล่ะ? ถึงโลกิบอกว่าจะไม่ทำอะไร จนถึงกำหนดครบ 2 เดือน แต่นั่นก็เป็นเพียงสัญญาใจ ที่จะยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เขาต้องการ ถ้าจะมีคนเป็นอะไร ก็ขอเป็นฉันคนเดียวแล้วกัน T0T
ฉันเป็นนางเอกที่รอบคอบและรักครอบครัวจริงๆ T0T
ในขณะที่ฉันกำลังเดินคิดอะไรเพลินๆ พลันสายตาก็ดันไปเห็นใครบางคนที่บอกตามตรงว่าไม่อยากเห็นเลยให้ตาย! TT0TT
โลกิ!
โลกาวินาศชัดๆ T0T
“ซวยแล้ว ทำไงดี!”
ฉันรีบหันไปทางอื่นก่อนอีกฝ่ายจะมองเห็น พลางควานหาสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋า เผื่อจะมีอะไรใช้อำพรางหน้าได้บ้าง แต่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเครื่องสำอาง
แต่งหน้า!
เรื่องแต่งหน้านี่ฉันระดับโปรเลยทีเดียว อยู่ที่เมืองนอก ฉันเคยเข้าประกวดแต่งหน้าหลายสไตล์ที่ไฮสกูลจัดขึ้น และก็ได้ที่หนึ่งมาครองด้วยแหละ แต่นี่ไม่ใช่เวลามากระหยื่มใจ มีอะไรก็จัดการละเลงบนใบหน้าให้สวยจนโลกลืมไปเลย (แบบลืมไปเลยว่าเคยเป็นคน *0*)
ฉันหยิบกระจกขึ้นมาส่อง แล้วก็ต้องพอใจสุดๆ เมื่อเห็นเหง้าหน้าของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในนั้น แก้มนี่แดงเหมือนตูดลิง ตาหลายเฉดสีอย่างกับนกแก้ว ปากแดงเหมือนเพิ่งกินเลือดสดๆมา
เฟรย่าแปลงร่าง O_o
“ทำไมวันนี้เธอแต่งหน้าจัดจัง - -”
ในขณะที่ฉันหันมาก็ป๊ะเข้ากับคนตัวสูง ที่ทำหน้าเอือมระอาสุดขีด ฉันรีบหันหลังให้เขา ทำท่าจะเดินออกไป แต่ก็ถูกจับไหล่ไว้ สถานการณ์แบบนี้ มันเหมือนเรื่องรถไฟฟ้า มาหานะเธอเลยเนอะ เหมยลี่แต่งหน้าเพื่อหลบคุณลุง แล้วคุณลุงก็ทักแบบนี้เด๊ะๆ เหมือนกำลังฉายหนังซ้ำเลยแฮะ T^T
แต่ฉันขอตั้งชื่อเรื่องนี้ว่า รถไฟฟ้า มาหาฉันทำไม -0-
นั่นสิ มาทักฉันทำไมคะ คุณโลกิ T0T
“คือเรารู้จักกันเหรอคะ -*-”
“ห่างกันแค่วันเดียว ถึงกับจำไม่ได้เลยเหรอ คุณลูกหนี้ ^^”
แสดงว่าจำได้จริงๆ T^T
“อ๋อๆ จำได้แล้ว ฮะๆ เมื่อเช้านอนตกเตียงหัวกระแทกพื้น เลยเบลอๆ อึนๆหน่อยน่ะ ^0^”
“ดูจากการแต่งหน้าก็รู้แล้วล่ะ - -”
ขอบคุณที่ไม่ได้วิจารณ์อะไรมากนัก T^T
“แล้วนายมาทำอะไรที่นี่อ่ะ”
“ลูกหนี้ของนายฉันมีอยู่ทุกพื้นที่ ฉันคงไม่ได้มาเดินจ่ายตลาดหรอก”
บางทีเขาก็กวนประสาทเหมือนกันนะ L
“งั้นฉันกลับก่อนดีกว่า แหะๆ”
“เดี๋ยวก่อน”
คำสั่งนั้นทรงพลังจริงๆ ทำให้ฉันหยุดชะงักได้ทันควัน กระซิกๆ T^T
“มีอะไรเหรอจ๊ะ ^^”
ทำเสียงอ่อน เสียงหวานสุดฤทธิ์
“ไม่ได้มาส่งใครขึ้นรถไฟหรอกเหรอ”
“เปล๊า! เปล่านะ ไม่ได้มาส่งใครเล้ยยย!”
โกหกได้เสียงสูงสุดๆ -*-
“ก็นึกว่ามาส่งเพื่อน แต่เห็นเธอแต่งหน้าจัดขนาดนี้ คงจะมาเปิดโชว์แปลกๆอะไรที่นี่เพื่อหาเงินสินะ ดีๆ จะได้หาเงินมาใช้ไวๆหน่อย ^^”
ก็ยังดีที่เขาไม่ได้ติดใจหรือสงสัยอะไร แต่อย่างหลังนี่นอยด์มากนะ ใครจะกล้าทำแบบนั้นในสถานที่แบบนี้ยะ!
“นายจะเข้าใจอะไรก็เรื่องของนายเถอะ ว่าแต่ ลูกน้องของนายไม่ได้มาด้วยเหรอ”
“ใคร มีหลายคน”
ลืมไปว่าเป็นหัวหน้าแก๊งค์ทวงหนี้
“คนที่นายให้มาพาฉันไปส่งที่บ้านเมื่อวานไง”
จำชื่อไม่ได้ เรียกยากเกิ๊น!
“แอเรียสน่ะเหรอ”
“ใช่ๆ ไม่ได้มากับนายเหรอ ก็ไหนบอกว่าเป็นลูกน้องคนสนิทไง”
“ฉันกับแอเรียสไม่ได้ตัวติดกันตลอดเวลานี่ หรือว่าชอบหมอนั่นล่ะ จะได้ไปบอกให้ เผื่อแอเรียสมันมีใจให้เธอด้วย คราวนี้เธอจะได้ขอเงินมันมาใช้หนี้ไงล่ะ จะบอกให้ว่าหมอนั่นก็มีเงินเหมือนกันนะ”
คิดเองเออเองได้เป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ หายใจเข้าหายใจออกก็เป็นเงินไปหมดเลยสินะ กลัวฉันจะไม่ใช้หนี้ให้ขนาดนั้นเลยเหรอ เหอะๆ แต่ก็น่ากลัวอยู่หรอก หนี้ตั้งเยอะ วิธีสุดท้ายของฉันก็คือหนีออกนอกโลกนั่นแหละ T^T
“ฉันไม่ได้ใจง่ายขนาดนั้นหรอกนะ แล้วก็ไม่ได้เห็นแก่เงินขนาดนั้นด้วย คุณเป็นเจ้าหนี้ของฉัน ฉันเป็นลูกหนี้ของคุณก็พอ”
แอบจำมาจากทีเซอร์เรื่องคู่กรรมน่ะ อยู่เมืองนอกไม่ได้ดู เสียด๊าย เสียดาย T^T
“ก็ดี อย่าคิดหนีเมื่อถึงคราวจนตรอกก็แล้วกัน”
จนตรอกตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ T^T
“ฉันไม่ชอบให้ใครดูถูกด้วยสิ รอดูแล้วกัน”
ปากดีไปงั้นแหละ - -
“งั้นฉันจะรีบไปหาส้วมที่มันเต็มๆรอแล้วกัน ^0^”
ดูร่าเริงเกินเหตุอ่ะ รับไม่ได้! T^T
“พี่โลกิ”
จู่ๆก็มีผู้หญิงน่าตาน่ารักเดินเข้ามาหาโลกิ พลางมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าสงสัย ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้โลกิ เขาลูบศีรษะเธออย่างอ่อนโยน และมองเธอด้วยสายตาเอ็นดูเป็นพิเศษซึ่งแตกต่างไปจากที่ฉันเคยเห็นจริงๆ
แฟนโลกิชัวร์!!!
“เอ่อ ฉันไปก่อนนะ ^^”
เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นส่วนเกิน - -
“เดี๋ยวก่อนสิ”
ฉันที่เดินไปข้างหน้ากลับต้องชะงักเพราะเขาเรียกไว้
“มีอะไรอีกล่ะ - -”
“ถ้าไม่ได้โชว์ ก็ลบหน้าออกซะนะ เดี๋ยวคนอื่นเขาจะตกใจ -*-”
ฉันจะคิดว่านั่นคือความหวังดีก็แล้วกัน =0=
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ