No money! ภารกิจปลดหนี้ ขยี้หัวใจ นายจอมโหด

-

เขียนโดย ammoko

วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 21.53 น.

  5 ตอน
  1 วิจารณ์
  9,418 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 21.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ความซวยของผู้หญิงที่ชื่อเฟรยา!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ฉันนั่งอยู่บนแลมโบกินี่สุดหรูกับอีตาเจ้าหนี้แค่สองต่อสอง ส่วนลูกน้องหน้าโหดสองคนขับรถอีกคันตามหลัง บรรยากาศในรถนี่ก็เงียบเกินไปนะ เงียบจนไม่กล้าหายใจเลยอ่ะ กลัวเสียงมันจะดังรบกวนคนข้างๆที่เอาแต่ทำหน้านิ่งไร้อารมณ์
    “มองอะไรนักหนา -*-”
    รู้ได้ไงวะ  -^-
    “ก็ เอ่อ นายหน้าตาดีเลยมองไง -0-”
    “ก็พอรู้ตัวอยู่”
    เอาตัวรอดไว้ก่อน ขืนพูดอะไรไม่เข้าหูมีหวังเจอยิงพรุนแน่  แต่ฉันก็ไม่ได้โกหกหรอกนะ ก็เขาน่าตาดีจริงๆนี่ แถมยังไม่ปฏิเสธคำชมด้วย
ไม่ค่อยหลงตัวเองสักเท่าไหร่หรอก - -”
    รถคันหรูขับเคลื่อนไปเรื่อยๆจนกระทั่งมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งใหญ่โตพอสมควร ดูแล้วก็คงเป็นบ้านคนมีจะกิน ลูกหนี้ของอีตาหน้าหล่อนี่มีแต่คนรวยๆหรอเนี่ย และฉันก็มั่นใจมาตลอดว่าเป็นคุณหนูผู้มีอันจะกิน แต่วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นที่พ่อกับแม่เป็นหนี้ และฉันก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำมาจำนวนเงินที่ฉันไม่ได้เป็นคนก่อมันมากมายสักแค่ไหนจนพ่อกับแม่ไม่มีเงินใช้ T0T
    “รออยู่ในรถนี่แหละ ฉันจะล็อครถไว้ และห้ามทุบกระจกหนีไปไหนนะ ไม่งั้นเธอได้ตายก่อนใช้หนี้แน่!”
    ถ้าขู่กันขนาดนี้ ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ  T^T
    “แล้วนายจะลงไปทำอะไร”
    “เก็บเงินจากลูกหนี้รายสุดท้ายของวันนี้”
ปึง!
    ประโยคนั้นเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่เขาจะลงจากรถไปแล้วปิดประตูเสียงดัง ชิ! หล่อแต่ป่าเถื่อนแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ ไม่อยากจะคิดว่าหากถึงคราวชะตาขาดของฉัน เขาคงจับร่างน้อยๆนี้ทุ่มลงไปบนเตียงจนกระดูกแตกแน่ๆ T^T
    “รออยู่ในรถไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไม่ได้เปิดแอร์นี่คืออะไร ร้อนนะเว้ยย ไอ้คนใจร้าย!”
    ฉันตะโกนออกมาอย่างสติแตก จะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก แต่เหงื่อออกแทนซะงั้น มาที่ประเทศไทยไม่กี่ชั่วโมงก็ไม่รู้ว่าเสียเหงื่อไปกี่ลิตร แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉันกำลังสนใจเลยสักนิด เพราะสายตาอันเฉียบคมกำลังมองไปยังหน้าต่างของบ้านหลังนั้นไม่วางตา ขณะที่กำลังจดๆจ้องๆอยู่นั้น ฉันก็เห็นน้ำสีแดงกระจายเต็มกระจกหน้าต่างและผ้าม่าน มั่นใจพันเปอร์เซ็นต์ว่ามันคือเลือด!
    ฉันไม่เห็นนะ ไม่รู้อะไรทั้งนั้น!!
     หายใจเข้า ไม่รู้ หายใจออก ไม่รู้ T^T
    “นึกว่าจะร้อนตายอยู่ในรถซะแล้ว”
    “กรี๊ดดด ฉันไม่เห็นนะ ไม่เห็นจริงๆว่านาย...เอ่อ”
    เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย O_o   ว่าแต่ ฉันไม่ได้หลุดปากพูดอะไรออกไปใช่มั้ย?
    “ไม่เห็นอะไร อ่อ”
    ใบหน้าหล่อๆนั่นหันไปตามสายตาที่ฉันมองอยู่ ก่อนจะสตาร์ทเครื่องแล้วขับพุ่งไปข้างหน้าจนหัวฉันแทบทิ่ม  -0-
    “นายฆ่าคน”
    กรี๊ดดดดด  ตบปาก ยัยคนปากโป้ง ปากไม่มีหูรูด!
    พูดขนาดนี้แล้วยังทำมายิ้มมุมปาก นึกว่าเท่มากเลยสิ 
    “ก็แค่โมโหแล้วโยนกระป๋องสีลงพื้น จนสีมันกระเด็นติดหน้าต่าง คงไม่มีใครตายหรอกมั้ง - -”
    “แต่มันคือสีแดง -0-”
    “แล้วมันแปลกตรงไหนล่ะ -*-”
    “ก็แปลกตรงที่ว่านายไม่เห็นต้องโกหกเลยนี่ ฆ่าคนมันเป็นเรื่องปกติของนายอยู่แล้ว!”
    กลัวมันก็กลัวอยู่หรอก แต่ปากมันไวกว่าความคิดเสียอีก ปากรั่วจริงๆ ตบปากรัวๆ  >*<
    “ฆ่าให้โง่เหรอ ตราบใดที่ยังใช้หนี้ไม่หมด ถ้ายิงทิ้ง ลูกหนี้อย่างพ่อกับแม่เธอและคนอื่นๆก็สบายน่ะสิที่ไม่ต้องใช้หนี้ สู้ขู่ไปเรื่อยๆให้สะดุ้งเล่น ด้วยปืนบ้าง มีดบ้าง สนุกจะตาย เหอะๆ”
    สนุกเขาคนเดียวล่ะ เคยถามคนอื่นดูบ้างไหม ว่าเขาสนุกด้วยรึเปล่า  - - แบบนี้เขาเรียกว่าฆ่าให้ตายช้าๆแบบเลือดเย็นชัดๆ
    “เมื่อไหร่เงินกู้นอกระบบมันจะหมดจากประเทศ ไม่ใช่สิ จากโลกนี้ซะที”
    เผลอคิดเป็นเสียงอีกแล้ว - -
    “คงยาก เพราะทุกวันนี้มีแต่คนโลภ ขนาดมีสัญญาให้เซ็นให้อ่าน รู้ว่าดอกโหดขนาดไหน ก็ยังหน้ามืดเซ็นกัน แล้วก็ขอโทษด้วยนะ ที่นี่เป็นเงินกู้นอกระบบที่ถูกกฎหมายและดอกโคตรโหดที่สุดในประเทศไทย ^^”
    จ้ะ พูดดักทุกทางเลยนะพ่อคุณ กะไม่ให้จู่โจมทางไหนได้เลย ชิ!
    ในที่สุดเจ้าหนี้จอมโหดที่ฉันยังไม่รู้จักนามก็ขับรถเข้ามาจอดในที่จอดรถภายในคอนโดหรู ส่วนผู้ชายหน้าโหดสองคนนั้นขับรถไปไหนแล้วก็ไม่รู้ คงจะกลับสู่ธรรมชาติล่ะมั้ง ใกล้ค่ำแล้วนี่ -*-
 ฉันที่หน้าสลดหดเหลือหนึ่งนิ้วครึ่งได้เปิดประตูและก้าวลงมาจากรถมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ ปนตื่นเต้นเล็กน้อยในส่วนลึก (ทำไมต้องตื่นเต้นยะ - -)
    “เธอยังซิงอยู่ป่ะ”
    นั่นก็ถามตรงเกิ๊น!
    “จะไม่ซิงก็วันนี้นี่แหละ!”
    “งั้นวันนี้ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ฉันจะติวให้ฟรีๆ ไม่เพิ่มหนี้ ^^”
    “ไม่ต้องติว ไม่ต้องอะไรทั้งนั้น อยากทำอะไรก็ทำ ฉันจะนอนนิ่งๆ เป็นหุ่นยนต์ให้นายหมดอารมณ์ไปเลย!”
    “หลังยังไม่ถึงเตียงนุ่มๆ ก็อย่ามั่นใจอะไรมากนัก ถึงตอนนั้นหุ่นยนต์ก็หุ่นยนต์เถอะ หึๆ”
    “กรี๊ดดดดดดด! พูดจาน่าเกลียด!”
    “เบาๆสิ กลัวคนอื่นไม่ได้ยินหรือไง!”
    เขาเอามือมาปิดปากของฉัน จนกระทั่งฉันสงบลงเขาถึงลดมือลงเปลี่ยนมาทำหน้าเอือมระอาแทน ฉันต่างหากที่ควรทำหน้าแบบนั้น ถึงเขาจะหล่อจนณเดชชิดซ้ายติดผนัง มาริโอ้ชิดขวาติดกับกำแพง ฉันก็ไม่ภูมิใจกับการมีอะไรกับคนที่ไม่ได้รักกันหรอกนะ!
    ฉันเดินคอตกตามหลังเขาไป แต่เพราะรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆราวกับมีคนจ้องมองอยู่จึงเงยหน้าขึ้น ก่อนจะหันหน้าไปทางขวาตามลางสังหรณ์ของตัวเอง
    “ระวัง!”
ปัง!
    ฉันรีบพุ่งตัวและผลักคนตรงหน้าจนล้มลงไปพร้อมกัน ก่อนเราสองคนจะกลิ้งลงไปกองกับพื้น พร้อมเสียงปืนที่ดังลั่น ตอนแรกที่หันไป ฉันเห็นรถคันนั้นอยู่ไกลๆ และยิ่งกว่านั้นด้วยความเป็นคนที่มองการณ์ไกลหรือสายตายาวนั่นแหละ ฉันเห็นคนเปิดกระจกรถออกมาพร้อมปืนที่เพ่งเล็งมายังเราสองคน ไม่ใช่สิ เป้าหมายน่าจะเป็นเขามากกว่า คงไม่ใช่ฉันแน่ๆ เพราะไม่เคยไปสร้างศัตรูที่ไหน พอมันพลาดเลยรีบปิดประจกและขับรถหนีไปอย่างรวดเร็วจนฉันไม่ทันได้สังเกตเห็นหน้ามันได้ชัดๆ
    แต่ตอนนี้ฉันทับอยู่บนตัวเขาในท่าที่อันตรายมากๆ ฉันจึงรีบลุกขึ้นมายืนอย่างรวดเร็ว เขาจึงลุกขึ้นยืนตามและทำท่าจะเดินไปข้างหน้าเฉยๆราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    “ศัตรูนายเหรอ”
    ฉันรีบเดินมายืนดักหน้าเขาไว้และถามออกไป
    “คงงั้นมั้ง”
    “แปลกนะที่นายไม่ได้ไหวตัวอะไรเลย”
    “ฉันไม่ได้สังเกต แต่เธอนี่ก็เก่งนะที่ไหวตัวทัน”
    “มันโจ่งแจ้งมากต่างหาก แล้วอีกอย่างฉันก็ต้องคอยระวังตัวอยู่เสมอ เผื่อมีพวกโรคจิตเข้ามาทำร้ายน่ะ ฉันยิ่งสวยอยู่ๆ”
    “แล้วเธอจะช่วยฉันทำไม ถ้าฉันตาย เธอจะได้หนีหนี้ไปได้สบายๆไง”
    “จะให้ตามรถคันนั้นกลับมายิงนายมั้ยล่ะ - - ก็ช่วยไปแล้วนี่แหม ยังจะมาพูดจาแดกดันอยู่ได้”
    “ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันถูกยิงล่ะ”
    นี่แสดงว่าอยากตายมากใช่มั้ยเนี่ย ทำไมไม่บอกล่ะ จะได้ทำเป็นเหมือนไม่เห็น โธ่!
    “ฉันเห็นคนตายต่อหน้าไม่ได้หรอก มีอยู่ครั้งหนึ่ง ฉันเห็นลูกหมาอยู่กลางถนนจนถูกรถชนตาย ฉันจึงรู้สึกผิดมาตลอดที่ตอนนั้นฉันได้แค่ยืนเฉยๆ ช่วยอะไรหมาน้อยตัวนั้นไม่ได้ นายเป็นถึงเจ้าหนี้พ่อกับแม่ฉัน ถ้าฉันรู้อยู่แก่ใจว่านายจะตาย แต่ไม่ช่วยไว้ มันก็ยิ่งเพิ่มความรู้สึกผิดให้ฉันอีกน่ะสิ ฉันยอมใช้หนี้นายให้หมดๆไปดีกว่า จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกัน”
    เผลอพูดซะยาวเชียว เขาก็ฟังโดยไม่ขัดอะไรด้วยนะ ดีแค่ไหนที่เขาไม่บอกว่าน่ารำคาญ
    “เธอนี่มันบ้าจริงๆ”
    ร้ายแรงกว่าคำว่ารำคาญอีก -*-
    เขาเดินไปข้างหน้าโดยไม่รอฉันอีกแล้ว นี่ไม่กลัวลูกหนี้หนีเลยใช่มั้ยเนี่ย -0-
    “นี่! เดี๋ยวก่อนสิ นายจะไม่บอกชื่อนายหน่อยเหรอ”
    จะได้ด่าในใจถูก 
    “โลกิ ถ้าครางก็เรียกชื่อให้มันถูกๆด้วยล่ะ”
    ตัวอยู่ตรงนี้ แต่สมองลอยไปที่เตียงแล้วนะนั่น ขนาดเกือบตาย ยังจะคิดแต่เรื่องแบบนั้นอีก หื่นจริงๆ - -
    “ส่วนเธอคงชื่อกอหญ้าอะไรนั่นใช่ป่ะ เห็นพ่อกับแม่เธอเรียกอยู่ ชื่อเชยชะมัด”
    “เฟรยาย่ะ อย่ามาคิดเปลี่ยนชื่อแทนพ่อกับแม่ฉันสิ!”
      โลกิทำเป็นหูทวนลม เขาพาฉันเดินเข้าไปข้างในและขึ้นลิฟท์ทันที เกลียดที่สุดเลยกับการขึ้นลิฟท์ มันเวียนหัว แต่ก็ต้องทน ยังดีกว่าเดินหอบแฮ่กๆวิ่งขึ้นวิ่งลงกับตึกหลายสิบชั้น
    “นี่เธอขนข้าวของเตรียมมาอยู่กับฉันเลยเหรอ - -”
    เขาเหลือบมองกระเป๋าเป้ใบโตที่ฉันสะพายมา บอกตรงๆนะ เพิ่งรู้สึกหนักและรู้สึกตัวว่าเผลอเอาติดตัวมาด้วยเพราะเขาทักเนี่ยแหละ
    “ฉันไม่ได้เตรียมพร้อมนะ พอดีวันนี้เพิ่งกลับมาจากนิวซีแลนด์ก็เลยติดมาด้วย แต่พอกลับมาก็ต้องมาเจออะไรก็ไม่รู้”
    “พูดได้น่าสงสารดีนี่”
    “แล้วสงสารมั้ยล่ะคะ”
    “เฉยๆ”
    ขอบคุณ งั้นก็หุบเมาท์ไปเลย! T^T
ติ๊ง! (แต่ไม่ต๊อง)
    เสียงลิฟท์ดังขึ้น ประตูลิฟท์ค่อยๆเปิดออกให้เห็นเส้นทางไปนรกอยู่รำไร
อยากจะร้องไห้ อยากให้เวลาเดินช้าๆ ขอเวลาสักหน่อย~
ยิ่งอยากให้เวลาเดินช้า มันกลับเดินเร็วขึ้นกว่าเดิมนะรู้สึก เมื่อในตอนนี้ฉันได้เข้ามาอยู่ในห้องของเขาสองต่อสองภายในห้องกว้างที่เรียบง่ายแต่หรูหรา ขอเวลาทำใจบนโซฟานี้ก่อนเถอะ ยังไม่อยากขึ้นเขียง เอ๊ย! ขึ้นเตียง
“เลือกมุมได้ดีนี่ เริ่มเลยมั้ยล่ะ”
“อ๊ากกก อย่าเพิ่ง ไม่ใช่ตรงนี้!!”
ฉันรีบหยิบหมอนแถวนั้นขึ้นมาบังทันที เมื่อเจ้าหนี้จอมโหดสุดหื่นทำท่าจะเข้ามาตะครุบฉัน
“ขอร้องล่ะ ฉันจะรีบหาเงินใช้หนี้ให้ ฉันยังไม่พร้อม ได้โปรดเถอะ พลีส”
สิบนิ้วพนมก้มกราบอย่างหวาดกลัว -*-  ความบริสุทธินี่นี้ จะต้องเป็นคนที่เขารักฉันด้วยหัวใจเท่านั้น ถึงจะได้ครอบครอง!
“เมื่อไหร่”
“2 เดือน พ...พอมั้ย?”
“ช้าไปมั้ง - -”
ฉันก้มหน้าทำตาปริบๆ 2 เดือนยังเร็วไปสำหรับฉันเลย มีใบจบเกรด 12 ที่เทียบเท่ากับวุฒิ ม.6 จะไปสมัครงานที่ไหนที่เงินเดือนดีๆได้มั่งล่ะ T^T
“ถือซะว่าเธอช่วยฉันไว้ ฉันจะยกดอกให้ทั้งหมด ส่วนเงินต้นต้องเอามาให้ฉันภายใน 2 เดือนห้ามขาดห้ามเกิน ไม่อย่างนั้นทั้งบ้าน และครอบครัวรวมถึงตัวเธอไม่เหลือซากแน่”
ได้ยินไม่ผิดใช่มั้ย กรี๊ดดดดดด! บุญคุณต้องทดแทน ถึงเขาจะไม่ขอบคุณสักคำ แต่ก็ยังสำนึก >0<
แต่ปลายประโยคก็ยังไม่ทิ้งคำขู่ไว้ T0T
“อ้อ ที่ฉันยอมอ่อนข้อให้ เพราะไม่อยากมีอะไรติดค้างที่เธอช่วยฉันไว้น่ะ”
คำพูดมันฟังดูคุ้นๆนะ เลียนแบบนี่!
“ยังไงก็ขอบคุณมากนะ งั้น เอ่อ ฉันกลับก่อนแล้วกัน”
“เดี๋ยวก่อน”
ฉันลุกขึ้น ทำท่าจะเดินออกไป แต่ก็ชะงัก เพราะถูกอีกฝ่ายเรียกดักไว้
“มีอะไร”
“คืนนี้เธอค้างที่นี่ก่อน เพราะคืนนี้พวกมันคงจะวนเวียนอยู่แถวคอนโดของฉัน เธออาจซวย โดนพวกมันเก็บก็ได้”
จริงด้วย! ว่าแต่เขาเป็นห่วงฉันเหรอ >///<
“ไม่ใช่อะไร ถ้าลูกหนี้ของฉันเป็นอะไรสักคน เจ้าหนี้อย่างฉันก็ไม่ได้อะไรเลย - -“
เก็บคำพูดนั้นไว้พูดในใจก็ได้นะ กำลังจะมองเขาในแง่ดีแล้วเชียว -*-
“แต่ความจริงแล้วฉันก็ไม่ใช่เจ้าหนี้เธอหรอกนะ”
จู่ๆเขาก็โพล่งออกมา ยิ่งทำให้ฉันงงหนักเข้าไปอีก ขอเคลียร์ๆค่ะ =+=
“ยังไง ฉันงงไปหมดแล้วนะ”
“ฉันเป็นแค่หัวหน้าแก๊งค์ทวงหนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินพวกนั้น ถึงเธอจะมีอะไรกับฉัน ก็ไม่เกี่ยวกัน เพราะฉันไม่ได้ซื้อตัวเธอ”
“แสดงว่านายแค่จะหลอกฟันฉันฟรีๆงั้นสิ!”
“คงงั้นแหละมั้ง -*-”
กรี๊ดดดดดดด! ดูฮีพูดสิ บัดซบจริงๆ เกือบเสียความสาวไปฟรีๆแล้วมั้ยล่ะ!
“หรือเธอจะเสนอขายล่ะ”
เขาจับไหล่ทั้งสองข้างของฉันก่อนจะดันให้นอนราบไปกับโซฟาตัวยาวอย่างรวดเร็ว ใบหน้าหล่อๆของเขาค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ และนิ่งค้างอยู่แบบนั้นรอฟังคำตอบจากปากของฉัน
ปากสั่นอ่ะ พูดไม่ออก บอกไม่ถูก T^T
 “ว่าไงล่ะ ไม่พูดแสดงว่าตกลงเหรอ แต่หนี้ขนาดนั้นสงสัยคงหนักหน่อยนะ เผลอๆอาจจะไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันเลยก็ได้ ^^”
ใบหน้าของเขาค่อยๆเคลื่อนลงมาหายใจรดต้นคอของฉัน อ๊ากกกกกก! เรี่ยวแรงหายไปไหนหมด ผลักสิ มีมือทำไมไม่ผลัก มีเท้าทำไมไม่ถีบ ฉันไม่เข้าใจตัวเธอ! (เถียงกับตัวเองในใจ - -)
“มะ ไม่ใช่นะ ไม่เด็ดขาด ฉันจะไม่ใช้หนี้ด้วยวิธีนี้!”
ยังดีที่มีปากพูดออกไป เมื่อประโยคนั้นดังออกมาจากปากของฉัน เขาจึงค่อยๆเคลื่อนตัวออกห่าง ก่อนจะนั่งไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์
 “ถ้า 2 เดือนเธอไม่ได้ใช้หนี้ อันนี้ก็ไม่รู้นะ เธออาจจะโดนรุมโทรมแล้วโดนหั่นเป็นชิ้นๆหมกส้วมก็ได้ ฉันจะเลือกส้วมที่มันเต็มด้วย หึๆ”
พูดซะเห็นภาพเลย T^T โหดร้ายป่าเถื่อนที่สุด โดยเฉพาะเอาตัวฉันไปหมกกับขี้เละๆเนี่ยดิ ทำไมต้องเลือกส้วมเต็มด้วยนะ T0T
“โอเคตามนั้น!”
“งั้นฉันไปนอนละ เธอก็นอนบนโซฟานี่แหละ หรูสุดแล้วสำหรับลูกหนี้อย่างเธอ”
“จ้ะ ขอบพระคุณอย่างสุดซึ้ง ไปนอนเถอะ T^T”
ยังดีที่ไม่ให้ไปนอนบนพื้นระเบียงข้างนอกตากยุงอ่ะนะ นอนโซฟาถือว่าดีมากๆแล้วแหละ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา