No money! ภารกิจปลดหนี้ ขยี้หัวใจ นายจอมโหด

-

เขียนโดย ammoko

วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 21.53 น.

  5 ตอน
  1 วิจารณ์
  9,231 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2556 21.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) หนีไม่พ้น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ฮ้าววว~

ฉันยืดแขนยืดขาบิดขี้เกียจในท่านอน ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นเพราะรู้สึกเหมือนมีแสงแดดส่องพาดลงมาบนเปลือกตา จึงค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ

“อรุณสวัสดิ์นะ ^^”

“กรี๊ดดดดดดด!”

โป๊ก!

                “โอ๊ยย!”

ร่างน้อยๆของฉันหล่นตุบลงมาจากโซฟาด้วยความตกใจสุดขีด อยู่ๆก็มีหน้าหล่อๆของใครก็ไม่รู้โผล่มาอรุณสวัสดิ์ใกล้ๆ ฉันเลยสะดุ้งสุดตัวเผลอเอาหัวโหม่งกับเหม่งของเขาก่อนจะกลิ้งตกลงมาเนี่ยแหละ T0T

“ทำไมต้องรุนแรงขนาดนี้ด้วยนะ T^T”

“แล้วนายเป็นใคร ขโมยเหรอ โลกิ โลกิ๊!!”

:x

                เขาเอามืออุดปากของฉันไว้ แต่พอมองใกล้ๆนี่ หน้าตาเขาก็หล่อเหมือนกันนะ ออกแนวหล่อแบบน่ารักอ่ะ >///<

                “ฟังนะ ฉันเป็นลูกน้องคนสนิทของโลกิ หมอนั่นออกไปทำธุระด่วน เลยโทรให้ฉันพาเธอไปส่งที่บ้าน -*-”

                “แล้วทำไมเขาไม่ปลุกฉันล่ะ -0-”

                “คงคิดว่าป่วยการล่ะมั้ง ขนาดฉันปลุกเธอ ทั้งเรียกทั้งตะโกนยังไม่ตื่นเลย นี่มันก็ 9 โมงเช้าแล้วด้วย - -”

                น่าอายจริงๆ T0T

                “ฉันอยากกลับบ้าน”

                “หน้าที่ของฉันก็คือพาเธอกลับบ้านนั่นแหละ - -”

                “นายรู้จักบ้านฉันเหรอ?”

                “นั่นก็เป็นหน้าที่เธอที่ต้องบอกทางนี่”

                โอเค! ถูกของมัน ไม่เถียงให้เปลืองน้ำลาย -*-

                “ฉันชื่อแอเรียสนะ เธอล่ะ”

                “เฟรย่า”

                “งั้นฉันจะเรียกเธอว่าหญ้านะ ง่ายๆดี ^^”

                รู้สึกจะมีแต่คนชอบเปลี่ยนชื่อให้ฉันโดยไม่ถามความสมัครใจเลยสักคำ L

               

ที่หน้าบ้านของฉัน

                แอเรียสขับรถมาส่งฉันถึงหน้าบ้าน แต่พอลงจากรถมาจะหันไปขอบคุณ รถของเขาก็ขับเคลื่อนไปไกลเสียแล้ว ฉันจึงทำได้แค่เพียงยืนอ้าปากพะงาบๆมองรถคันนั้นจนกระทั่งลับสายตา ฉันจึงรีบเดินเข้าบ้านไปด้วยอารมณ์คุกรุ่น

                ทันทีที่ฉันปรากฏตัวด้วยสภาพที่ยังคงเดิม พ่อกับแม่ก็รีบวิ่งมาหาฉันด้วยความดีใจ

                “แม่ดีใจจริงๆที่ลูกไม่เป็นอะไร”

                แม่โผเข้ากอดฉันแน่น จนหายใจแทบไม่ออก แอ่กก!

                “แล้วมันได้ทำร้าย หรือ เอ่อ”

พ่อของฉันถามด้วยความเป็นห่วง สีหน้าของเขาดูซีดเผือดเมื่อจะพูดอะไรบางอย่างซึ่งฉันรู้ดี

                “ไม่มีใครทำอะไรเฟรย์ทั้งนั้น แล้วเฟรย์ก็ไม่ได้มีอะไรกับเขาด้วย”

                “เฮ้อ โล่งอกไปที ไม่อย่างนั้นแม่รู้สึกผิดไปตลอดชีวิตแน่ๆ ที่ทำให้เฟรย์ต้องลำบาก”

                “แต่ก็น่าแปลกนะ ที่พวกมันปล่อยลูกมาง่ายๆแบบนี้”

                ฉันจึงอธิบายให้พวกเขาฟัง แล้วทั้งสองคนก็ถึงบางอ้อ ร้องอ๋อ ปนทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ แต่ฉันยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงล้วนๆ

                “คราวนี้หนูก็อยากจะถามพ่อกับแม่ว่าเป็นหนี้เขาเท่าไหร่ เมื่อไหร่ เพราะอะไรถึงเป็นหนี้คะ!”

                (. . ) ( . .)

                ต่างคนต่างก้มหน้า นั่นก็ยิ่งทำให้ฉันอยากรู้ จึงคาดคั้นต่อไปจนกว่าจะได้คำตอบ

                “ตอบหนูมานะคะ!”

                “แล้วเขาไม่ได้บอกลูกมาเหรอ”

                “หนูอยากถามพ่อกับแม่เองมากกว่า ว่าไงคะพ่อ ว่าไงคะแม่ ใครจะเป็นคนพูด”

                แม่ของฉันรีบยกมือของพ่อให้ชูขึ้น ซึ่งพ่อกับทำท่าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจยาวแล้วเปิดปากออกมา

                “200 ล้านเองจ้ะลูกรัก”

                เฮือกกกก! จะเป็นลม เป็นหนี้เกินตัวไปมั้ยอ่ะ ถึงครอบครัวของเราจะรวย แต่ก็ไม่ถึงขั้นเศรษฐีร้อยล้านหรอกนะ!

                “ทำไมถึงเป็นหนี้เยอะขนาดนั้นล่ะคะ! O_o”

                “พ่อกับแม่ไปเล่นการพนันในบ่อนของพวกมันน่ะ”

                “แล้ว?”

                ฉันถามต่อไป เมื่ออีกฝ่ายหยุดพูด

                “เราสองคนแทงทีแบบทุ่มสุดตัว ผลสุดท้ายคือไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว พอรู้ว่าเจ้าพ่อมาเฟียของบ่อนนั้นปล่อยเงินกู้ ก็นั่นแหละ พอแทงหมดอีกก็กู้อีก จนหนี้โปะมาเรื่อยๆจนถึง 200 ล้าน  ตอนนี้ใช้ไปแค่ 10 ล้านเอง T^T”

                เหลืออีกแค่ 190 ล้านเอ๊ง!  O_O

                จากที่แค่วิงเวียนศีรษะ  ถึงคราวนี้ฉันก็หงายหลังเงิบเป็นลมล้มลงไปกองกับพื้นทันที

 

วันต่อมา

ที่สถานีรถไฟ

                ฉันมายืนส่งพ่อกับแม่ จนกระทั่งขบวนรถไฟได้มาจอดเทียบชานชาลา พวกเขาจึงขึ้นไป ฉันจึงโบกไม้โบกมือเป็นการล่ำลาครั้งสุดท้าย ก่อนจะตัดสินใจหันหลังกลับและเดินเหม่อมาเรื่อยๆราวกับคิดอะไรอยู่ในใจตลอดเวลา

                “นี่คงเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วล่ะ”

                ฉันได้จองตั๋วรถไฟด่วนพิเศษ ขาไป กรุงเทพ-เชียงใหม่ 2 ใบให้พ่อกับแม่ โดยใช้เงินในบัญชีของฉันที่เหลือเพียงไม่กี่พันออกให้ (อยู่เมืองนอกใช้จ่ายเยอะ เปล่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยนะ T^T) เมื่อวานฉันโทรไปขอญาติที่เชียงใหม่ (ซึ่งเขาก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แค่พอมีพอกิน)  บอกพ่อกับแม่จะขอไปอยู่ด้วยชั่วคราว ซึ่งเขาก็ไม่ถามอะไรต่อ มีแต่รีบบอกให้ไปอยู่ทันที แถมยังชวนฉันให้ไปอยู่ด้วยอีกต่างหาก แต่ฉันก็ปฏิเสธไป เพราะมีภาระอันใหญ่หลวงที่ต้องทำ (หนักมากด้วย)

                ไม่มีสัจจะในหมู่โจร

                สำนวนนี้ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ฉันจึงตัดสินใจให้แม่ไปอยู่ที่เชียงใหม่นั่นแหละปลอดภัยที่สุดแล้ว หากฉันไม่อยู่ที่บ้าน ไปหางานทำ ก็ไม่มีใครอยู่ดูแลพ่อกับแม่ คนใช้ ยาม คนขับรถก็ออกไปกันหมด T^T อันตรายแน่ๆถ้าปล่อยพวกเขาสองคนไว้ที่บ้านตามลำพัง หากวันใดวันหนึ่งไอ้พวกเจ้าหนี้มันนึกครึ้มขึ้นมา แล้วทำร้ายร่างกายพ่อกับแม่ล่ะ?  ถึงโลกิบอกว่าจะไม่ทำอะไร จนถึงกำหนดครบ 2 เดือน แต่นั่นก็เป็นเพียงสัญญาใจ ที่จะยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เขาต้องการ ถ้าจะมีคนเป็นอะไร ก็ขอเป็นฉันคนเดียวแล้วกัน T0T

                ฉันเป็นนางเอกที่รอบคอบและรักครอบครัวจริงๆ T0T

                ในขณะที่ฉันกำลังเดินคิดอะไรเพลินๆ พลันสายตาก็ดันไปเห็นใครบางคนที่บอกตามตรงว่าไม่อยากเห็นเลยให้ตาย! TT0TT

                โลกิ!

                โลกาวินาศชัดๆ T0T

                “ซวยแล้ว ทำไงดี!”

                ฉันรีบหันไปทางอื่นก่อนอีกฝ่ายจะมองเห็น พลางควานหาสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋า เผื่อจะมีอะไรใช้อำพรางหน้าได้บ้าง แต่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเครื่องสำอาง

                แต่งหน้า!

                เรื่องแต่งหน้านี่ฉันระดับโปรเลยทีเดียว อยู่ที่เมืองนอก ฉันเคยเข้าประกวดแต่งหน้าหลายสไตล์ที่ไฮสกูลจัดขึ้น และก็ได้ที่หนึ่งมาครองด้วยแหละ แต่นี่ไม่ใช่เวลามากระหยื่มใจ มีอะไรก็จัดการละเลงบนใบหน้าให้สวยจนโลกลืมไปเลย (แบบลืมไปเลยว่าเคยเป็นคน *0*)

                ฉันหยิบกระจกขึ้นมาส่อง แล้วก็ต้องพอใจสุดๆ เมื่อเห็นเหง้าหน้าของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในนั้น แก้มนี่แดงเหมือนตูดลิง ตาหลายเฉดสีอย่างกับนกแก้ว ปากแดงเหมือนเพิ่งกินเลือดสดๆมา

                เฟรย่าแปลงร่าง O_o

                “ทำไมวันนี้เธอแต่งหน้าจัดจัง - -”

                ในขณะที่ฉันหันมาก็ป๊ะเข้ากับคนตัวสูง ที่ทำหน้าเอือมระอาสุดขีด  ฉันรีบหันหลังให้เขา ทำท่าจะเดินออกไป แต่ก็ถูกจับไหล่ไว้ สถานการณ์แบบนี้ มันเหมือนเรื่องรถไฟฟ้า มาหานะเธอเลยเนอะ เหมยลี่แต่งหน้าเพื่อหลบคุณลุง แล้วคุณลุงก็ทักแบบนี้เด๊ะๆ เหมือนกำลังฉายหนังซ้ำเลยแฮะ T^T

                แต่ฉันขอตั้งชื่อเรื่องนี้ว่า รถไฟฟ้า มาหาฉันทำไม  -0-

                นั่นสิ มาทักฉันทำไมคะ คุณโลกิ T0T

                “คือเรารู้จักกันเหรอคะ -*-”

                “ห่างกันแค่วันเดียว ถึงกับจำไม่ได้เลยเหรอ คุณลูกหนี้ ^^”

                แสดงว่าจำได้จริงๆ T^T

                “อ๋อๆ จำได้แล้ว ฮะๆ เมื่อเช้านอนตกเตียงหัวกระแทกพื้น เลยเบลอๆ อึนๆหน่อยน่ะ  ^0^”

                “ดูจากการแต่งหน้าก็รู้แล้วล่ะ  - -”

                ขอบคุณที่ไม่ได้วิจารณ์อะไรมากนัก T^T

                “แล้วนายมาทำอะไรที่นี่อ่ะ”

                “ลูกหนี้ของนายฉันมีอยู่ทุกพื้นที่ ฉันคงไม่ได้มาเดินจ่ายตลาดหรอก”

                บางทีเขาก็กวนประสาทเหมือนกันนะ L

                “งั้นฉันกลับก่อนดีกว่า แหะๆ”

                “เดี๋ยวก่อน”

                คำสั่งนั้นทรงพลังจริงๆ ทำให้ฉันหยุดชะงักได้ทันควัน กระซิกๆ T^T

                “มีอะไรเหรอจ๊ะ ^^”

                ทำเสียงอ่อน เสียงหวานสุดฤทธิ์

                “ไม่ได้มาส่งใครขึ้นรถไฟหรอกเหรอ”

                “เปล๊า! เปล่านะ ไม่ได้มาส่งใครเล้ยยย!”

                โกหกได้เสียงสูงสุดๆ  -*-

                “ก็นึกว่ามาส่งเพื่อน แต่เห็นเธอแต่งหน้าจัดขนาดนี้ คงจะมาเปิดโชว์แปลกๆอะไรที่นี่เพื่อหาเงินสินะ ดีๆ จะได้หาเงินมาใช้ไวๆหน่อย ^^”

                ก็ยังดีที่เขาไม่ได้ติดใจหรือสงสัยอะไร แต่อย่างหลังนี่นอยด์มากนะ ใครจะกล้าทำแบบนั้นในสถานที่แบบนี้ยะ!

                “นายจะเข้าใจอะไรก็เรื่องของนายเถอะ ว่าแต่ ลูกน้องของนายไม่ได้มาด้วยเหรอ”

                “ใคร มีหลายคน”

                ลืมไปว่าเป็นหัวหน้าแก๊งค์ทวงหนี้

                “คนที่นายให้มาพาฉันไปส่งที่บ้านเมื่อวานไง”

                จำชื่อไม่ได้ เรียกยากเกิ๊น!

                “แอเรียสน่ะเหรอ”

                “ใช่ๆ ไม่ได้มากับนายเหรอ ก็ไหนบอกว่าเป็นลูกน้องคนสนิทไง”

                “ฉันกับแอเรียสไม่ได้ตัวติดกันตลอดเวลานี่ หรือว่าชอบหมอนั่นล่ะ จะได้ไปบอกให้ เผื่อแอเรียสมันมีใจให้เธอด้วย คราวนี้เธอจะได้ขอเงินมันมาใช้หนี้ไงล่ะ จะบอกให้ว่าหมอนั่นก็มีเงินเหมือนกันนะ”

                คิดเองเออเองได้เป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ หายใจเข้าหายใจออกก็เป็นเงินไปหมดเลยสินะ กลัวฉันจะไม่ใช้หนี้ให้ขนาดนั้นเลยเหรอ เหอะๆ แต่ก็น่ากลัวอยู่หรอก หนี้ตั้งเยอะ วิธีสุดท้ายของฉันก็คือหนีออกนอกโลกนั่นแหละ T^T

                “ฉันไม่ได้ใจง่ายขนาดนั้นหรอกนะ แล้วก็ไม่ได้เห็นแก่เงินขนาดนั้นด้วย คุณเป็นเจ้าหนี้ของฉัน ฉันเป็นลูกหนี้ของคุณก็พอ”

                แอบจำมาจากทีเซอร์เรื่องคู่กรรมน่ะ อยู่เมืองนอกไม่ได้ดู เสียด๊าย เสียดาย T^T

                “ก็ดี อย่าคิดหนีเมื่อถึงคราวจนตรอกก็แล้วกัน”

                 จนตรอกตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ T^T

“ฉันไม่ชอบให้ใครดูถูกด้วยสิ รอดูแล้วกัน”

ปากดีไปงั้นแหละ - -

“งั้นฉันจะรีบไปหาส้วมที่มันเต็มๆรอแล้วกัน ^0^”

ดูร่าเริงเกินเหตุอ่ะ รับไม่ได้! T^T

“พี่โลกิ”

จู่ๆก็มีผู้หญิงน่าตาน่ารักเดินเข้ามาหาโลกิ พลางมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าสงสัย ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้โลกิ เขาลูบศีรษะเธออย่างอ่อนโยน และมองเธอด้วยสายตาเอ็นดูเป็นพิเศษซึ่งแตกต่างไปจากที่ฉันเคยเห็นจริงๆ

แฟนโลกิชัวร์!!!

“เอ่อ ฉันไปก่อนนะ ^^”

เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นส่วนเกิน - -

“เดี๋ยวก่อนสิ”

ฉันที่เดินไปข้างหน้ากลับต้องชะงักเพราะเขาเรียกไว้

“มีอะไรอีกล่ะ - -”

“ถ้าไม่ได้โชว์ ก็ลบหน้าออกซะนะ เดี๋ยวคนอื่นเขาจะตกใจ -*-”

ฉันจะคิดว่านั่นคือความหวังดีก็แล้วกัน =0=

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา