เผลอรัก...จับใจ

10.0

เขียนโดย soso_sung

วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 14.15 น.

  20 chapter
  0 วิจารณ์
  24.79K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 เมษายน พ.ศ. 2556 20.49 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่19

           

            “คุณจะลากผมอีกนานไมครับ” เมื่อคาร์ลไม่เห็นว่าไขไข่จะหยุดลากเขา เขาก็หยุดเดินทำให้หญิงสาวที่ออกแรงลากต้องสะดุดและมันก็เกิดผมทำให้เธอต้องเซถลาถอยกลับไปปะทะอกกว้าง

            “นี้คุณ ถ้าฉันหกล้มไปจะทำยังไง” หญิงสาวหันไปต่อว่าเขาที่ยืนยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สาต่อการกระทำ

            “ถ้าคุณเป็นอะไรไปผมจะรับผิดชอบคุณเอง”

            “ฉันไม่ต้องความรับผิดชอบของคุณ”

            “นั้นก็เรื่องของคุณ”

            “คุณคาร์ล คุณทำให้ฉันโมโหนะ”

            “คุณก็ทำให้ผมไม่พอใจเหมือนกัน” เราสองคนยืนเถียงและจ้องหน้ากันโดยไม่ได้มองรอบข้างเลยว่าวุ่นวายขนาดไหน

            “คุณสองคนช่วยหลบหน่อยคะ” เสียงพยาบาลที่พูดรัวเร็วพร้อมกับวิ่งแทรกตามหลังของหล่อนคือเตียงผู้ป่วยที่ถูกเข็นโดยบุรุษพยาบาล

            “อย่าจากฉันไปนะคะที่รัก” โดยข้างเตียงผู้ป่วยก็มีหญิงสาวที่เป็นคนรักกุมมือคนป่วยที่กำลังหายใจรวยรินอย่างไม่ห่างไปไหน

            “เธออยากตายมากหรือไง เธอไม่รู้หรอว่าฉันรักเธอ...” และเสียงร้องเอะอะโวยวายของผู้ชายคนหนึ่งก็ดังมาพร้อมกับผู้หญิงที่ถูกบุรุษพยาบาลเข็นเตียง โดยเธอนั้นมีรอยเลือดเต็มตัวเธอไปหมด

            “มันจะไม่เกิดกับเราใช่ไม” คาร์ลเดินเข้าถาม สายตาที่เขามองมาที่ฉันบอกได้ว่าเขากลัว

            “ไม่หรอก ฉันจะไม่เป็นอะไรทั้งนั้น” ฉันมองตาแล้วตอบไป โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่านั้นเป็นคำตอบว่าเธอให้อภัยเขาแล้ว

            “ผมก็จะไม่ปล่อยให้คุณเป็นอะไรเด็ดขาด” คาร์ลคว้าร่างขายไข่เข้ามากอดแน่นให้เธอรู้ไปว่าเขาจะๆม่ปล่อยให้เธอเป็นอะไรแน่ตราบใดที่ยังอยู่ในอ้อมกอดเขา

            “นี้คุณทำบ้าอะไรเนี่ย” แต่ทางด้านขายไข่นั้นเธอทั้งดันทั้งข่วนทำทุกวิถีทางให้เขาปล่อยเธอ

            “โอ้ย ผมพึ่งรู้ว่าคุณเป็นสาดิส”

            “ถ้าคุณยังแตะต้องฉัน ฉันจะฆ่าคุณ”

            “คุณไม่มีทางทำร้ายหัวใจของคุณได้หรอก” เขาพูดด้วยสายตาท้าทาย และเขาก็พูดถูกถึงแม้ว่าฉันจะต่อต้นเขามากเท่าไร แต่หัวใจของฉันก็ไปอยู่ที่เขาเรียบร้อยแล้ว

            “ฉันเกลียดคุณ” ฉันต่อว่าเขาแล้วหันหลังเดินออกมาโดยที่ริมฝีปากก็แย้มยิ้มออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

            “ผมรู้นะว่าคุณกำลังยิ้มอยู่” เสียงรู้ทันดังมาจากข้างหลังทำให้เธอถึงกับชะงักแต่เธอก็ยังคงก้าวเดินออกไป

           

 

ผ่านไปหลายวันอาเยียนออกจากโรงพยาบาลพร้อมกับลูกน้อยซึ่งมีนามว่าเหลียงเหอและแน่นอนว่าฉันก็ต้องเตรียมย้ายออกได้แล้วเพราะเมื่อหนูน้อยเหลียงเหอโตขึ้น เธอก็ต้องการความเป็นส่วนตัวและด้วยบ้านหลังนั้นมีเพียงสองห้องนอนจึงทำให้ฉันต้องหาที่นอนใหม่

“แกอยู่ที่นี้ไปก่อนก็ได้ อีกตั้งหลายปีกว่าเหลียงเหอจะโต” อาเยียนที่มองฉันที่เก็บเสื้อผ้าพูดด้วยความเป็นห่วง

“ฉันอาศัยแกอยู่นานพอแล้ว อีกอย่างบ้านฉันก็สร้างเสร็จแล้วด้วย แกไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก”

“ไม่งั้นแกก็ไปอยู่กับคุณคาร์ลก็ได้นิ”

“ไม่เอาหรอก เธอก็รู้ว่าเขาจ้องจะจับฉัน”

“ฮ่าๆๆ เธอก็ให้เขาจับๆได้แล้ว จนปานี้แล้ว”

“ไม่เอา ฉันยังไม่พร้อม”

“เฮ้อ ฉันเหนื่อยใจกับแกแล้ว ถ้าเขาเป็นอะไรไปอย่ามาเสียใจแล้วกัน”

“ไม่มีทาง” ฉันปฏิเสธเสียงแข็ง

“ฉันไปหาเหลียงเหอดีกว่า ขี้เกียจคุยกับเธอแล้ว” อาเยียนเดินออกไปอย่างเหนื่อยใจที่ไม่สามารถเกลี่ยกล่อมขายไข่ได้

“คุณจะหนีผมไปไหนอีก” หลังจากที่อาเยียนเดินออกไปได้สักพักเสียงเข้มคุ้นหูก็ดังมาทางหน้าประตู

“คุณมาได้ยังไง” ฉันลุกออกจากที่นอนมองเขาที่กำลังปิดประตูพร้อมลงกลอนเรียบร้อย “คุณจะทำอะไรนะ”

“ก็คุยกับคุณให้รู้เรื่องยังไงละ” คาร์ลเดินหน้าบึ้งเข้ามาใกล้ไขไข่เรื่อยๆ

“ถอยออกไปนะ” ฉันยื่นมือไปผลักหน้าอกเขาแต่กลับเป็นว่ายื่นมือให้เขาจับขึงติดกับผนัง

“หยุดนะ” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้หน้าฉันจนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆ

“ออกไปนะไม่งั้นฉันจะตะโกนเรียกอาเยี่ยน” ฉันขู่เขาออกไปด้วยความแน่ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็ทำให้ใจฉันยิ่งเต้นระรัวขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่

“ไขไข่ ฉันจะพาเหลียงเหอกับอาฉีไปเยี่ยมแม่นะ” จบคำพูดเสียงประตูหน้าบ้านก็ดังคล้ายว่ามีคนเปิดและปิดมันอย่างเรียบร้อย

“ว่าไง...” คาร์ลถามพร้อมกับเป่าลมออกมาใส่หน้าแล้วยิ้มออกมาอย่างมาเฟียที่รอเชือดศัตรู

“ไม่ว่าไงทั้งนั้น ปล่อยฉันได้แล้ว” ฉันพยายามบิดข้อมืออกจากเขาแต่ก็ไม่เป็นผล เลยจะเปลี่ยนเป็นใช้ขาแตะเขาเพื่อให้เขาเจ็บแต่เหมือนเขาจะรู้ทันรีบกดขาทั้งสองข้างของฉันด้วยขาแข็งแรงของเขา

“เราจะคุยกันได้หรือยัง” เมื่อเขาล็อคฉันได้ทุกทางก็พูดเข้าเรื่องทันที

“...” ฉันไม่ตอบทำให้เขาต้องเลื่อนหน้าเข้ามาอีกจนปลายจมูกของเขาชนกับแก้ม

“คุยๆ...ฉันจะคุย แต่ปล่อยฉันก่อนได้ไม” ฉันเบี่ยงหน้าหลบแล้วรีบร้องขึ้นเมื่อเขากำลังจะเลื่อนลงมาซุกที่ซอกคอ

“สัญญากับผมก่อนว่าจะทำตามที่ผมบอกทุกอย่าง” เขาทำข้อตกลงทันทีเมื่อฉันยอมที่จะคุย

“ตอนแรกคุณไม่...โอเค ฉันยอมแล้ว” ฉันที่จะแย้งเขากับตั้งรีบกลับคำพูดเมื่อเขาเอาลมหายใจอุ่นๆมาโดนที่ซอกคอ

“ทีนี้เราก็มาตกลงกัน” เขายอมปล่อยฉันแล้วไปนั่งที่ปลายเตียง

“ว่ามาสิ” ฉันกอดอกมองเขาที่มือเริ่มไม่อยู่สุข

“นั้นคุณจะทำอะไร” ฉันวิ่งเข้าไปจะคว้าบราเซียร์ของตัวเองแต่ด้วยความรีบทำให้สะดุดขาตัวเองล้มแถบเท้าเขา

“เป็นอะไรหรือเปล่า” คาร์ลถามด้วยความเป็นห่วงแต่ก็ไม่เห็นจะลุกขึ้นมาช่วย

“ฉันไม่เป็นอะไร แต่นายอย่ามายุ่งของๆฉัน” ฉันรีบลุกขึ้นมาแล้วเดินไปเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายเต็มที่นอน

“ข้อแรกที่เราจะตกลงกันคือ...คุณต้องกลับไปอยู่กับผม” เมื่อคาร์ลเห็นว่าไขไข่เก็บของเรียบร้อยแล้วก็รีบพูดในสิ่งที่เขามาพบเธอในวันนี้

“คุณยังพูดไม่ได้...” เมื่อคาร์ลเห็นว่าฉันกำลังจะแย้ง เขาก็ดักไว้ก่อน “ข้อสอง...คุณจะต้องอยู่กับผมตลอดเวลา...ข้อสาม ผมรักคุณ” แล้วเขาก็คว้ากล่องกำมะหยี่ที่อยู่ในกระเป๋าออกมา พอเปิดกล่องออกภายในนั้นเผยให้เห็นว่ามีแหวนวงเล็กๆเปล่งประกายด้วยเพชร

 “แต่งงานกับผมนะครับ”คาร์ลไม่รอคำตอบเดินเข้ามากุมมือข้างซ้ายสวมแหวนเข้าที่นิ้วนาง

“นี้คุณ...” เมื่อเห็นการกระทำของเขา ฉันรีบชักมือกลับทันทีแต่ก็ถูกเขากำแน่นและเมื่อเงยหน้าเตรียมจะต่อว่าเขาก็ต้องพบกับแววตาที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ฉันไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดว่ายังไงแต่มีความรู้สึกว่า ถ้าหากฉันปฏิเสธเขาครั้งนี้ฉันอาจจะเสียเขาไปตลอดกาล...

“ผมสามารถรอคุณได้เสมอ แต่หากว่าคุณไม่อยากจะเห็นหน้าผม ผมก็ไม่อาจจะทำตามหัวใจของผมได้ คุณเข้าใจผมใช่ไม” เขาระบายความในใจออกมาด้วยแววตาที่มั่นคง นำเสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมานั้นหนักแน่นพอจะให้รู้ว่าเขานั้นพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างฉันเสมอเมื่อฉันต้องการ แต่หากว่าฉันไม่ต้องการเขา เขาก็จะออกไปจากชีวิตฉันทันที

“ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูดหรอกคะ...” ไขไข่มองหน้าเขาที่มองเธอด้วยสายตาที่อึ้งแต่ไม่นานเขาก็หลับมาเป็นปกติ “แต่ต่อไปนี้ฉันจะไม่มีวันให้คุณ...” ไขไข่ไม่ทันจะพูดจบ คาร์ลก็แทรกด้วยคำพูดที่เจือไปด้วยเสียงเศร้า แต่ริมฝีปากกลับเผยยิ้มออกมา

“ฉันเข้าใจและ...ขอให้เธอโชคดีนะ” สายตาที่สื่อออกมามันชั่งบาดตรงกลางใจเสียเหลือเกิน

            “เราคง...” เขาคงไม่สามารถที่จะเอ่ยอาจาใดออกมาได้ในตอนนี้ มันยากเกินไปที่พูดออกมา

            “เราคงต้องจากกัน เพี้ย!!!” ทันทีที่คาร์ลพูดจบฝามือเล็กๆผ่านสายลมมาปะทะที่ใบหน้าของเขาอย่างแรง ทำให้หน้าของเขาต้องหันไปตามแรงกระทบ

            “ไหนคุณบอกว่าจะรอฉัน...ฉันยังไม่ทันพูดจบเลย คุณก็จะไปซะแล้ว” ไขไข่ตะโกนใส่หน้าพร้อมกับดึงแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายที่คาร์ลพึงสวมให้โยนไปที่หน้าอกของเขา “แต่ถ้าคุณอยากไปจริงๆคุณก็ไปเลย แต่ก่อนที่คุณจะไป ฉัน...ฉันอยากจะบอกกับคุณว่าฉันอยากมีคุณอยู่เคียงข้างกายฉันตลอดไป”

            “ทำไมคุณยังไม่ไปอีก” ไขไข่ถามออกไปด้วยความสับสนที่เห็นคาร์ลยังคงยืนมองหน้าเธออยู่อย่างนั้นไม่ยอมขยับไปไหนแม้กระทั้งเปลือกตาที่ไม่กระพริบแม้แต่น้อย

            ไม่มีการตอบสนองของทั้งสองฝ่าย ห้องทั้งห้องเงียบกริบยิ่งกว่าห้องดับจิต มีเพียงความเย็นยะเยือกที่ผ่านออกมาจากสายตาของผู้ชายตรงหน้า แต่เพียงไม่นานคาร์ลก็กระพริบตาคล้ายกับหลุดภวังค์

            “อืม” มีเพียงเสียงลงคอที่ออกมาเท่านั้นที่ทำให้ไขไข่ต้องหยุดหายใจมองการกระทำของเขาที่ค่อยๆหมุนกายหันหลังเดินไปทางประตู  

“ฉันทำอะไรลงไป” เมื่อได้ยินเสียงประตูปิด ไขไข่ก็ได้สติและมองไปทางหน้าต่างที่รถของเขาได้เคลื่อนไปอย่างเชื่องช้า เธอคิดไปว่ามันเป็นเพียงความฝันที่เธอสร้างขึ้นเอง แต่แล้วสายตาเธอเหลือบไปเห็นแหวนที่นอนนิ่งอยู่ตรงพื้น ทำให้ร่างเล็กต้องทรุดลงไปนั่งกับพื้น

ร่างเล็กเลื่อนตัวเข้าไปหาแหวนอย่างช้าๆพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆไหลออกมา

“เดี๋ยวเขาก็กลับมา” ไขไข่หยิบแหวนด้วยมืออันสั่นเทาอย่างควบคุมไม่อยู่แล้วพึมพำออกมาคล้ายกับปลอบใจ

“เจ้านายแกจะกลับมา...ใช่ไม” ถึงแม้เธอจะรู้ว่ามันไม่สามารถตอบเธอได้แต่เธอก็ยังที่จะถามเหมือนกับว่ามันจะมีเสียงตอบออกมา แต่เมื่อความเงียบยังคงมีอยู่รอบตัวเธอก็ยิ่งทำให้ไขไข่ควบคุมตัวเองไม่อยู่ร่างเล็กๆของเธอเริ่มสั่นไปด้วยความกลัวกับสิ่งที่เธอสร้างมันขึ้นมา เสียงสะอื้นที่เธอพยายามกั้นเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับยิ่งห้ามมันยิ่งออก พยายามที่จะเก็บความเจ็บปวดเท่าไรมันก็ยิ่งบาดลึกเข้าไปในใจให้ยิ่งเจ็บมากกว่าเดิม เธอเลยปล่อยความเจ็บปวดนั้นออกมาอย่างบ้าคลั่ง

เหตุการณ์เมื่อวานทำให้ไขไข่ใจไม่อยู่กับล่องกับลอย ทำให้อาเยียนที่ตอนนี้ได้เพียงแต่จ้องหน้าขายไข่ด้วยความสงสัย แต่แทนที่ไขไข่จะรู้สึกตัวกลับเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่ตอนนี้สายฝนโปรยปรายบางๆ

“ไขไข่ เธอจะเหม่ออีกนานไม”

“ฉันไม่ได้เหม่อซะหน่อย ฉันแค่คิดอะไรเพลินๆ”

“อย่ามาแก้ตัวหน่อยเลย ฉันจ้องเธอจนหน้าเธอจะผุไปหมดแล้วเธอยังไม่รู้สึกเลย”

“อ่ะ ได้เวลาที่ฉันต้องไปทำงานละ ฉันไปก่อนนะ”

            “ไขไข่ ฝนตกแบบนี้เธอจะไปไหน” อาเยียนตะโกนไล่หลังมาแต่ก็ไม่ได้ทำให้ไขไข่หยุดได้

            เธอเดินออกมาตัวเปล่าทั้งที่รู้ว่าข้างนอกฝนตก แต่เธอก็ไม่ได้หยิบอะไรติดตัวออกมาเลยแม้กระทั่งร่ม เธอเดินออกมาโดยใจที่เหม่อลอย ไม่มีใครรู้ได้ว่าเธอจะเดินไปไหน ไม่มีใครรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่  แม้แต่ตัวเธอก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเธอกำลังทำอะไรอยู่

            ปี๊น!!!

            เสียงบีบแตรของรถดังขึ้นเรียกสติของเธอมาอยู่กับตัวและเมื่อเธอรู้สึกตัวก็หันไปมองตามเสียงนั้นภาพที่เธอเห็นมีเพียงแสงไฟที่ขยายตัวกว้างขึ้นตามความเร็วของรถ เธอคิดได้ทันทีว่าร่างของเธอจะต้องถูกเจ้าเหล็กเคลื่อนที่กระแทกตัวอย่างแรกแน่ๆ เธอได้แต่หลับตารับความเจ็บปวดนั้นทันที แต่แล้วความรู้สึกที่เธอได้รับไม่ใช่เป็นแรงกระแทกแต่เป็นแรงผลักและความรู้สึกต่อมาคือร่างของเธอได้กระแทกไปกับพื้นที่เปียกไปด้วยฝน

            ปั้ง!!!

            เอี๊ยด!!!

            เสียงแรกที่ได้ยินเป็นเสียงเหมือนของกระแทกและต่อมาก็มีเสียงของยางรถบดกับถนน

            และเมื่อเธอรู้สึกถึงความเจ็บที่แขนก็ทำให้รู้ว่าเธอยังไม่ตาย เธอค่อยๆเปิดเปลือกตามองดูว่าใครช่วยเธอไว้ แต่ภาพที่เห็นมีเพียงสายน้ำสีแดงไหลมาทางเธอ

            “คุณไม่เป็นอะไรใช่ไม” หญิงสาวที่มองเหตุการณ์อยู่รีบวิ่งเข้ามาถามอาการของฉัน แต่เสียงเอะอะที่ดังอยู่ข้างๆเรียกความสนใจจากฉัน

            “เดี๋ยวสิคะ” เธอเรียกฉันที่กำลังเดินไปดูคนที่นอนอยู่กลางวง

            “คุณ...”  แต่พอเดินเข้าไปใกล้ จู่ๆหัวใจก็กระตุกอย่างไม่มีสาเหตุ

            มันอาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้...

            เขาไม่มีทางอยู่ที่นี้ได้...

            ไขไข่คิดไปต่างๆนาๆ เธอหวังว่าคนที่ช่วยเธอจะเป็นใครสักคนที่ไม่ใช่เขา แต่ไม่รู้เพราะอะไร พอเดินเข้าใกล้มากเท่าไร กำลังทั้งหมดก็เริ่มที่จะเลื่อนหายไปหมด

            “ขอทางฉันหน่อย...” ไขไข่เดินเข้าไปแหวกวงล้อมนั้นโดยกำลังที่มีอยู่น้อย

            “เราต้องเอาเขาไปส่งโรงพยาบาล” เสียงของไทมุงคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับเข้าไปหาคนที่นอนจมกองเลือด

            “ผมเป็นหมอ อย่าแตะต้องตัวเขา และขอให้ทุกคนยืนออกไปห่างๆ”

            “คุณเดลล์...” ไขไข่มองตามเสียงคุ้นหูนั้นและไม่อาจจะเชื่อสายตาตัวเองเมื่อผู้ชายที่วิ่งเข้าไปหาคนที่นอนจมกองเลือดนั้นจะเป็นคนที่เธอรู้จัก

            “ไม่จริง” คุณหมอผลิกร่างที่นอนจมกองเลือดเผยให้เห็นหน้าทำให้ไขไข่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ

            “คุณคาร์ล” เธอเรียกชื่อนั้นออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา ทั้งร่างกายและจิตใจของเธอตอนนี้มันเจ็บปวดเหมือนตายทั้งเป็น เธอทำอะไรลงไป...

            “คุณคะ...คุณ...”

 

 

            เสียงสายฝนที่โปรยปรายลงมาไม่หยุดหย่อนเรียกให้หญิงสาวที่นอนคดตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มยอมตื่นขึ้นด้วยความงัวเงีย เธอเกลียดเสียงฝน เสียงฟ้าร้อง เธอไม่ชอบความหนาวเย็นของมันที่มาพร้อมกับความเศร้า เพราะมันทำให้เธอต้องเจอเรื่องเลวร้าย ความฝันที่เธอได้พบเมื่อก่อนที่จะตื่นนี้อีก มันทำให้เธอต้องร้องไห้ออกมาจนเธอสะอื้นจนเจ็บหน้าอกไปหมด แต่เธอก็ต้องชะงักกับกลิ่นแปลกๆ ขายไข่เริ่มรู้สึกตัวอีกครั้ง เธอมองสำรวจไปทั่วห้อง เธอเริ่มประจักษ์แล้วว่าความฝันนั้นไม่ใช่ความฝัน...

            “เธอเป็นยังไงบ้าง” เสียงของอาเยียนดังขึ้นทางหน้าประตู

            “คุณคาร์ล...” ไขไข่เอ่ยออกมาได้เท่านั้นก็เงียบเมื่อรู้สึกว่าเสียงสะอื้นจะแทรกแทน

            “เขาปลอดภัยดี” อาเยียนตอบไม่เต็มเสียงนักแต่ก็ยังยิ้มให้รู้ว่าเขาไม่เป็นอะไรจริงๆ

            “ฉันอยากไปหาเขา” ไขไข่กลืนก้อนสะอื้นแล้วดึงสายน้ำเกลือแต่อาเยียนก็เข้ามาห้ามไว้ทัน

            “หมอบอกว่าเขาต้องพักผ่อนให้มากๆ ไว้พรุ่งนี้เราค่อยไปเยี่ยมเขานะ”

            “แต่ฉันอยากไปหาเขา”

            “เขาปลอดภัยดีครับ”

            “คุณเดลล์”

            “เขาไม่เป็นอะไรหรอกครับ ก็แค่ซี่โครงหักสองสามซี่ แขนหักแล้วก็...” คุณเดลล์พูดออกมาเหมือนเป็นเรื่องตลกแต่ผิดกับไขไข่ที่ตอนนี้มองเขาเหมือนเขาเป็นคนโรคจิต

            “ผมไม่อยากให้คุณต้องกังวลนะครับ”

            “ฉันอยากเจอหน้าเขา”

            “ตอนนี้เขาไม่ได้รักษาตัวอยู่ที่นี้หรอกครับ”

            “เขาอยู่ที่ไหน”

            “รอคุณหายดี แล้วผมจะพาคุณไปนะครับ”

            เมื่อไม่สามารถแย้งได้ไขไข่ก็ยอมล้มตัวลงนอนเป็นปกติและรอเวลาให้ตัวเขาและเธอหายดี

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา