เผลอรัก...จับใจ

10.0

เขียนโดย soso_sung

วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 14.15 น.

  20 chapter
  0 วิจารณ์
  25.12K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 เมษายน พ.ศ. 2556 20.49 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

20)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 20

 

            ผ่านมาได้เพียง 2วัน ฉันก็ออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านได้แล้ว แต่คาร์ลยังคงนอนอยู่ที่โรงพยาบาล แท้ที่จริงแล้วเขาก็นอนห้องข้างๆฉันไม่ไปไหนแต่เดลล์กลัวว่าฉันจะรับสภาพของเขาไม่ได้เลยให้ฉันหายเป็นปกติก่อน ภาพแรกที่เข้าไปเห็นเขา ฉันคิดว่าจะได้เห็นเครื่องอุปกรณ์แพทย์เต็มห้องเสียอีก แต่พอได้เห็นกลับมีเพียงสายน้ำเกลือเท่านั้น

            “มาแล้วหรอ” เดลล์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเงยหน้าขึ้นมาทัก

            “อื้อ เขาตื่นหรือยัง” ฉันเดินเข้าไปพร้อมเอาผลไม้ยื่นให้เดลล์

            “อืม”

            “คุณคาร์ลคะ” ฉันเรียกเขาที่กำลังดูโทรทัศน์อยู่

            “...”

            “คุณ...” ฉันกำลังจะเรียกชื่อเขาอีกครั้งก็ต้องหยุดชะงักกับสายตาที่บอกได้ว่าเขากำลังหงุดหงิด

            “เดลล์ นายเลิกเอาผู้หญิงของนายมายุ่งกับฉันสักที” เพียงแค่นั้นเขาก็หันไปสนใจข่าวที่อยู่ตรงหน้า แต่กับไขไข่เธอรู้สึกเหมือนเธอขาดอาการหายใจ

            “นายจะบ้าหรอ เธอเป็นแฟนนายนะเว้ย!” เดลล์ทำหน้างงงวยแต่ก็คิดในใจว่าเพื่อนอาจจะแกล้งก็เป็นได้

            “อะไร ฉันไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ แล้วเธอจะมาเป็นแฟนฉันได้ยังไง” ทั้งสายตาและน้ำเสียงบอกได้ว่าเขาไม่ได้โกหกหรือกำลังลองใจเลย นั้นยิ่งทำให้ไขไข่นิ่งไม่สามารถขยับไปไหนได้

            “คุณจำฉันไม่ได้หรอ” เมื่อเธอหาเสียงของเธอได้ เธอก็ถามเขาออกไปอย่างไม่แน่ใจ

            ไม่มีคำพูดใดเท่ากับสายตาที่เขาสื่อออกมาได้

            “เธอร้องไห้ทำไม ญาติฝ่ายไหนของเธอตายหรอ” คำถามที่ไม่ได้สื่ออะไรมากกว่าความรำคาญทำให้ขายไข่ไม่อาจทนอยู่ต่อได้อีก

            “พรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่นะคะ ดูแลตัวเองด้วย”

            “ไม่ต้องมาหรอก ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ”

            “...คุณแกล้งฉันใช่ไมคะ” แต่ก่อนที่เธอจะออกจากห้องเธออยากแน่ใจว่าเธอมองสายตานั้นไม่ผิด และมันก็เป็นอย่างที่เห็น สายตานั้นมองเธอด้วยความว่างเปล่า เหมือนกับว่าคนที่ยืนตรงหน้าเป็นคนแปลกหน้าที่เขาไม่เคยรู้จัก

            “พรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่นะคะ” ไขไข่ไม่รอคำตอบอีกเป็นครั้งที่สองเธอหมุนร่างเดินออกไปจากห้องด้วยหัวใจที่เจ็บปวด เมื่อเธอออกมาจากห้องร่างบางก็ทรุดลงหน้าประตูนั้นทันที

            “เขาก็แค่แกล้งเราเหมือนทุกทีแหละ” เธอพยายามปลอบใจตัวเอง แต่นำตาของเธอก็ยังคงไหลอกมาอย่างไม่ขาดสายโดยไม่อายคนที่เดินผ่านไปผ่านมา

 

            วันต่อมา

            “เธอมาทำไมอีก” สิ่งที่หลุดออกมาจากปากเขาทำให้เธออยากจะหายไปจริงๆตามที่เขาพูด แต่ด้วยความรักที่เธอมีต่อเขานั้นไม่สามารถทำตามที่คิดได้

            “คุณเป็นแฟนฉัน ฉันก็ต้องมาดูและคุณสิคะ” ไขไข่ยิ้มแล้วเดินเข้าไปหาเขาพร้อมกับจูบปากเขาเบาๆ

            “นี้คุณจะทำอะไรนะ” คาร์ลร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นการกระทำของผู้หญิงตรงหน้า

            “ก็ทำเหมือนที่คุณทำไงละคะ” ขายไข่ไม่สนสีหน้าที่ไม่พอใจนั้นแล้วเดินไปปอกผลไม้

            “ผมขอเตือนว่าถ้าคุณยังไม่เลิกยุ่งกับผม ผมจะ...”

            “คุณจะทำไมคะ”

            “ผมจะฆ่าคุณ”

            “ฮ่าๆๆ”

            “คุณหัวเราะอะไร ผมเป็นคนพูดจริงทำจริงนะ”

            “ฉันรู้ดีคะว่าคุณเป็นคนยังไง”

            “แล้วทำไมคุณไม่ไปสักที”

            “คุณรู้คำตอบอยู่แล้วนิคะ”

            คาร์ลไม่ต่อความอะไรอีกได้แต่ล้มตัวลงนอนด้วยความเซ็งเนื่องด้วยร่างกายของเขาไม่สามารถขยับไปไหนได้เพราะต้องใส่เฝือก

            “มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฉันที่นั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆต้องเงยหน้ามามองคนบนเตียงที่เล่นจ้องหน้าอย่างเดียว

            “คุณอยากได้เท่าไร” คำถามที่ถามออกมาอย่างง่ายๆนั้นสะเทือนคนฟังอย่างขายไข่อย่างมาก

            “คุณมีเท่าไรละคะ” ขายไข่วางหนังสือลงพร้อมกับถามกลับ

            “นั้นไง ฉันนึกแล้วว่าเธอเป็นพวกเห็นแกเงิน ฉันให้เธอสองแสน...”

            “สองแสนน้อยไปด้วยซ้ำ ฉันขอสามสิบล้าน คุณให้ฉันได้หรือเปล่า” พอคาร์ลพูดจำนวนเลขจบขายไข่ก็แทรกออกมาด้วยเสียงที่แข็งเพราะตอนนี้เธอเริ่มควบคุมตัวเองไม่ไหว น้ำตาของเธอกำลังจะไหลออกมา

            “หึ คนอย่างเธอแม้แต่เศษเงินก็ยังไม่คู่ควร” คำพูดนั้นแรงยิ่งกว่าฝ่ามือใหญ่ของเขากระทบเข้าหน้าของเธอเสียอีก  

            “คุณไม่คิดว่าคุณพูดแรงไปหน่อยหรอคะ” ไขไข่เปลี่ยนใบหน้าที่นิ่งกลับมายิ้มอีกครั้ง

            “...” ไม่มีเสียงตอบรับนอกจากสายตาที่บ่งบอกมว่า สิ่งที่เขาพูดนั้นมันยังน้อยเกินไปที่ต่อว่าเธอ

            “คุณคงเหนื่อย พรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่แล้วกันนะคะ” ไขไข่ไม่อาจทนสภาพในตอนนี้เลยต้องขอตัวกลับไปตั้งหลักก่อน

            และเป็นอีกครั้งที่การมาเยี่ยมของเธอทำเอาเธอหมดพลังงานไปโดยศูนย์เปล่า เธอหวังว่าการมาของเธอจะสามารถทำให้เขาจำเธอได้ แต่เหมือนยิ่งเธอเดินหน้าหาเขามากเท่าไร เขาก็ยิ่งถอยห่างเธอมากเท่านั้น เธอเริ่มที่จะทนไม่ไหวแล้ว แต่ไม่รู้เพราะอะไร พอหลับตาทีไรก็มักจะเห็นเขายืนอยู่ใกล้ๆฉัน กระแสความอบอุ่นที่เคยได้รับมันมักจะออกมาตลอดเวลาที่เธอรู้สึกท้อใจ

            “ฉันจะทำทุกอย่างให้คุณกลับมารักฉันให้ได้ คุณคาร์ล” ไขไข่ตั้งมั่นในสิ่งที่ตัวเองจะทำทันที

            และหลายวันต่อมาชายไข่ก็มักจะไปเยี่ยมคาร์ลและเอก็ต้องกลับออกมาด้วยน้ำตาทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการกระทำหรือคำพูด เขามักจะทำให้เธอต้องเสียกำลังใจเสมอ แต่ขายไข่ก็ไม่ยอมแพ้เมื่อเทียบกับสิ่งที่เคยทำให้กับเธอ เขาเคยรอเธอ อดทนตลอดเวลาแม้บางครั้งเขาอาจเผลอตัวทำตัวไม่ดีไปบ้าง แต่เขาก็ยังอยู่เคียงข้างเธอเสมอ

            “เธอต้องเป็นบ้าแล้วแน่ๆ ฉันหนีออกจากโรงพยาบาลเธอยังจะมาตามฉันถึงนี้อีกหรอ”

            “ก็นายเรียกให้ฉันมานิ”

            “ใครเรียกเธอ”

            “นี้ไง มันกำลังเรียกฉัน” ไขไข่เดินเข้ามาวางมือทาบที่หน้าอกของเขา ที่ตอนนี้หัวใจของเขาเต้นอย่าบ้าคลั่ง “เห็นไม่ว่ามันเรียกฉันอยู่”

            “เพ้อเจ้อ” คาร์ลปัดมือขายไข่ออกแล้วเดินตรงไปที่ห้องนอน

            “ฉันไม่ได้เพ้อจ้อเสียหน่อย ก็เห็นอยู่ว่าคุณ...” ไขไข่เดินเข้ามาในห้องก็ถึงกับต้องอึ้งกับกำแพงที่เคยว่างเปล่า แต่มาตอนนี้มันกลับมีภาพของเธอเต็มไปหมด

            “อย่าเข้าใจผิดว่าฉันชอบเธอนะ เธอก็แค่หน้าเหมือนผู้หญิงในรูป” คาร์ลรีบแก้ต่างเมื่อเห็นขายไข่หยุดพูดไป

            “แล้วผู้หญิงคนที่อยู่ในรูปไปไหนแล้วละคะ”

            “เธอจากฉันไปแล้ว” เขาตอบออกมาด้วยเสียงเรียบๆไม่แสดงออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่คำตอบของเขาทำให้ไขไข่เริ่มทนไม่ไหวต้องตะโกนออกมา

            “คุณเลิกหลอกตัวเองเสียทีเถอะคะ คุณรู้ว่าฉันอยู่ตรงนี้”

            “ฉันอยู่ตรงหน้าคุณแล้วนี้ไงคะ”

            “เธอก็แค่คนหน้าเหมือน ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว” คาร์ลแทรกด้วยเสียงที่สั่นเทา

            “ไม่ค่ะ จนกว่าคุณจะยอมรับว่าฉันคือคนที่คุณรอ”

            “เลิกยุ่งกับฉันซะที!!!”

            “ฉันไม่ออกไปไหนทั้งนั้น จนกว่าคุณจะบอกว่าฉันเป็นคนที่คุณรอ”

            “อย่าหาว่าผมไม่เตือน”

            “นั้นคุณจะทำอะไรนะ...”

คาร์ลเดินเข้ามาใกล้ตัวขายไข่อย่างช้าๆ แต่ไม่ว่าเขาจะเดินก้าวเข้ามาใกล้ตัวเธอมากเท่าไร ร่างของไขไข่ก็ไม่อาจขยับไปไหนได้เพราะเธอถูกสายตาของเขาสะกดเอาไว้

            “คุณไปไหนไม่รอดหรอก” เพียงแค่นั้นตัวของฉันก็ได้เข้าไปอยู่ในร่างของเขา มือของเขาเริ่มสำรวจเรือนร่างนั้นอย่างไม่เกรงกลัว

            “คุณจะไปหรือไม่ไป” แต่ก่อนที่จะเลยเถิดไปมากกว่านี้เขาก็ได้ให้โอกาสเธอ แต่เวลาที่จะหนีของเธอได้หมดแล้ว เธอไม่อยากที่จะไปจากเขาอีกต่อไปแล้ว

            “ฉันจะไม่ไปไหน...อีกแล้ว” เพียงแค่นั้นริมฝีปากหนาก็ครอบครองเรียวปากบางนั้นอย่างถือวิสาสะ และเพียงไม่นานร่างสองร่างก็หล่อหลอมด้วยความเร้าร้อนที่ต่างฝ่ายต่างสร้างมันขึ้นมาด้วยความรักที่ไม่อาจจะปิดบังกันได้อีกต่อไป

 

            สายฝนได้หายไปแล้ว ท้องที่เต็มไปด้วยก้อนเมฆสีขาวต่างเลื่อนลอยเปิดทางให้แสงอาทิตย์ได้ทำตามหน้าที่ของมันคือการปล่อยแสงอบอุ่น แสงนั้นนำพามาที่ร่างสองร่างที่นอนเปลือยกอดกันซึ่งพวกเขาได้หยุดการแสดงความรักกันไม่นาน

            “ฉันมีที่ๆหนี่งอยากจะพาคุณไป” ฉันหันไปบอกเขาด้วยรอยยิ้มอ่อนเนื่องจากเหนื่อยกับการแสดงความรัก

            “ผมยังไม่อยากไปไหนเลย” เขาครางออกมาอย่างงัวเงียเพราะต้องทำหน้าที่เป็นผู้นำ

            “ที่รักคะ ฉันอยาก...ฮือ” ไม่ทันที่ขายไข่จะได้ออดอ้อนเขาจบ เขาก็ปิดปากเธอด้วยริมฝีปาก

            “ผมไม่ไหวแล้ว...ที่รัก” และเป็นอีกครั้งที่ทั้งสองต้องมอบกายให้แก่กัน

            “คุณจะพาผมไปไหนหรอครับ” คาร์ลถามเมื่อเห็นฉันสั่งให้คนขับรถพาออกมานอกเมือง

            “ไม่บอกหรอก ความลับ” ฉันยิ้มเมื่อเห็นหน้าเขาที่เริ่มจะไม่พอใจ

            “จะบอกผมดีๆหรือให้ผม...” เขายิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วขยับเข้ามาใกล้ “เปิดปากที่รักด้วยจุ๊บ” คาร์ลยื่นหน้าเข้ามาหมายจะจุ๊บตามที่พูดแต่ก็ไม่ได้แอ้มเพราะฉันรีบเอามือยันหน้าเขาได้ทัน

            “ถ้าฉันบอกคุณมันก็ไม่ใช่ความลับนะสิคะ อีกอย่างฉันอยากเซอร์ไพรส์คุณด้วย” เพียงได้ยินคำว่าเซอร์ไพรส์คาร์ลก็ยอมกลับไปนั่งนิ่งๆเหมือนเด็กว่านอนสอนง่าย

            “จริงหรอ เซรร์ไพรส์ของที่รักจะเป็นยังไงน่า”

            เขามักน่ารักแบบนี้กับฉันเสมอ เวลาที่เขาอยู่ต่อหน้าสาธารณะเขามักจะวางมาดขรึมให้ดูน่าเกรงขามแต่เมื่ออยู่กับฉันก็เหมือนแมวขี้อ้อนที่เห็นก็น่าเข้ามาจูบ หอม ฟัด คิดถึงตรงนี้ก็รู้สึกถึงลมหายใจที่คลอเคลียอยู่ข้างแก้ม และพอหันไปมอง

            “คุณคาร์ล” เขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร

            “ผมแค่สงสัยว่าคุณคิดอะไรอยู่ ทำไมคุณยิ้มจนหน้าบาน คิดถึงผู้ชายคนไหนอยู่หรือเปล่า” แล้วเขาก็เอามือมาดึงแก้มทั้งสองของฉันพร้อมกับโน้มหน้าเข้ามาใกล้

            “ฉันเจ็บน่า” ฉันพยายามดึงมือของเขาออกจากแก้ม

            “น่ารักจังเลย” เขาไม่สนใจว่าฉันเจ็บแค่ไหนแต่เขากลับยิ้มเมื่อมองหน้าบิดๆเบี้ยวๆของฉัน

            “ผมหลงรักผู้หญิงน่ารักคนนี้จนหยุดไม่ได้แล้ว” แล้วเขาก็ปล่อยมืออกจากแก้มแล้วคว้ามือทั้งสองข้างของฉันไปอังไว้ที่แก้ม

“ที่รักของผม...” คาร์ลเอ่ยเสียงนุ่มนวลแล้วสบตาหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า “บอกผมได้ไม...”

            “ไม่คะ จนกว่าเราจะถึงสถานที่เราจะไป” แต่ก่อนที่คาร์ลจะได้ถาม ขายไข่ก็ขัดอย่างรู้มันแล้วชักมือกลับไปกอดอกแล้วมองวิวข้างนอกแทนที่จะสนใจคนตัวตัวที่นั่งหน้างอไปแล้ว

            “ผมไม่ชอบคุณก็ตรงนี้แหละ ผู้หญิงอะไรรู้ทันไปซะหมด เชอะ” เขากระแทกตัวลงพิงพนักอย่างไม่พอใจแล้วกอดออกมองไปนอกหน้าต่างไม่สนใจหญิงสาวข้างกายอีกเลย...จนถึงที่เซอร์ไรส์

            “ลงมาเถอะคะ” ขายไข่ต้องอ้อนวอนเขาให้ลงจากรถด้วยความอ่อนเพลีย

            “ไม่” คาร์ลกอดอกหันหน้าหนีไขไข่ทำเป็นไม่สนใจเธอแต่แท้จริงแล้วใจเขากำลังนึกสนุกที่ได้แกล้งขายไข่

            “คุณคาร์ล” ไขไข่เอ่ยเสียงอย่างยอมแพ้ เมื่อเธอเรียกเขาทั้งอ้อนวอนเขาหลายสิบนาทีไปแล้วแต่เขาก็ยังคงปักหลักนั่งอยู่ที่เดิมไม่ยอมไปไหน นี้ถ้าไม่เป็นเพราะเธออยากแสดงให้เขารู้ว่าเธอก็รักเขา เธอคงไม่ยอมมานั่งง้อเขาแบบนี้หรอก

            “ไม่...” เมื่อคาร์ลไม่ยอมที่จะทำตามแผนที่เธอวางไว้เธอก็เริ่มหาแผนใหม่โดยที่รู้แน่ว่าตัวเองอาจะถูกเอาเปรียบ โดยการจู่โจมเข้าไปจูบเขาอย่างร้อนแรง และก็ได้ผลเมื่อคาร์ลก็เริ่มที่จะตอบโต้

            “ที่รักคะ ไปกับฉันหน่อยได้ไม” เสียงหวานหยดย้อยดั่งน้ำผึ้งอ่อยออกมาผ่านริมฝีปากที่บวมเพราะถูกเจ้าผึ้งดูดดื่มน้ำหวานนั้น พร้อมกับสายตาอ้อนวอนได้น่ารักน่าหยิกของหญิงสาวตรงหน้าทำให้หัวใจของคนตัวใหญ่เต้นไม่เป็นจังหวะ

            “อ่ะฮึ่ม” คาร์ลถึงทำกับตัวไม่ถูกถึงต้องกระแอมแล้วมองหญิงสาวตรงหน้า

            “นะคะ” หญิงสาวยังคงอ้อนต่อ

หากแท้จริงแล้วเขาใจอ่อนตั้งแต่เธอพูดหวานๆกับครั้งแรกแล้วแต่ด้วยความอยากแกล้งเลยทำให้เขาไม่ยอมทำตามเธอแต่ก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะเขานั้นชอบวิธีที่เธอง้อแบบนี้ที่สุดเลย

            “ร้ายกาจจริงๆเลย” เขายื่นมือไปบีบจมูกเล็กๆนั้นด้วยความมั่นเขี้ยว

            “ที่แบบนี้มีด้วยหรอเนี่ย” คาร์ลมองไปโดยรอบทุ่งกว้างที่เต็มไปด้วยหญ้าสีเขียวแล้วเขาต้องสะดุดลงเมื่อเห็นบ้านไม้สีขาวหลังเล็กตั้งอยู่ใกล้กับต้นใหม่ใหญ่ที่เต็มไปด้วยใบไม้สีเขียว และมันถูกตกแต่งด้วยแสงไฟหลากสี

            “บ้านหลังนี้เป็นความทรงจำของฉันคะ” ไขไข่กุมมือคาร์ลแล้วออกเดินไปที่บ้านไม้สีขาว

            “บ้านคุณหรอ” เขาถามด้วยความพาซื่อ

            “เมื่อก่อนที่นี้เคยเป็นที่ดินของคุณปู่แต่คุณปู่ก็ได้ขายไปแล้ว”

            “แล้วตอนนี้มันเป็นของใครกัน”

            “คุณพ่อซื้อให้ฉันก่อนท่านเสียชีวิต ที่นี้เป็นสถานที่ที่คุณพ่อสารภาพรักคุณแม่” ไขไข่หยุดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่แล้วมองไปที่คาร์ล เธอยื่นมือไปสัมผัสใบหน้าของเขาด้วยความรัก

            “คุณคาร์ลคะ ฉันมีอะไรจะสารภาพ” ถึงแม้ว่าเขาจะรู้แล้วเธอต้องการจะสารภาพอะไรแต่เขาก็ยังอยากจะได้ยิน เขารอเธอพูดออกมาไม่นาน สิ่งที่เขารอคอยมาตลอดก็ได้หลุดออกมาจากริมฝีปากเรียวบาง

            “ฉันรักคุณ”

            “ผมก็มีอะไรจะสารภาพคุณเหมือนกัน”

            “ที่จริงที่ดินพื้นนี้ผมซื้อไว้ตั้งนานแล้ว...” เขามองสีหน้าของคนรักแล้วก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ “ผมรู้ว่าคุณอยากได้พื้นที่แปลงนี้ แต่ก่อนหน้านั้นมันเป็นของชาวต่างชาติคนหนึ่งแล้วผมได้ซื้อไว้ให้คุณอาของคุณเป็นผู้ดูแล” เพียงแค่นั้นไขไข่ก็ทำหน้าบึ้งหนีเขาทันที เธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงได้ราคาที่ถูกมากขนาดนั้น ทีแท้ตัวการก็เป็นเพราะเขานั้นเอง

            “ผมรักคุณ ถึงแม้ว่าผมอาจจะจำอะไรไม่ได้ แต่ผมก็รู้ว่าคุณคือคนที่ผมรัก และผมก็จะรักคุณตลอดไป!!!” คาร์ลตะโกนนอกมาดังสนั่นไปทั่วทุ่งกว้าอย่างไม่อายทำให้ไขไข่ที่ก้าวเดินต้องหยุดชะงัก

            “เราแต่งงานกันนะ” คาร์ลขอเธอแต่งงานอีกครั้งและครั้งนี้เขามั่นใจว่าเขาจะได้อยู่กับเธอตลอดไปเมื่อเธอหันออกมาพร้อมกับวิ่งเข้ามาสวมกอด

            “รู้ไมคะ ว่าฉันรอคุณพาไปตัดชุดเจ้าสาวอยู่” เพียงแค่นั้นคาร์ลก็อุ้มเธอแล้วร้องออกมาอย่างดีใจ ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะสุขใจเท่าครั้งนี้มาก่อน

            ภาพของเขาทั้งสองไม่อาจรอดพ้นจากสายตาของบุพการีที่ล่วงลับไปแล้ว พวกท่านมองดูลูกๆของเขาอย่างเปี่ยมไปด้วยสุข ดีแล้วที่ใครสักคนจะเข้ามาเติมเต็มกันและกัน และคอยเป็นห่วงใยกัน เพียงแค่นี้พวกเขาก็นอนตายตาหลับแล้ว...การรอคอยเป็นเพียงเวลาที่ผ่านไปอย่างช้าๆ แต่หากเราได้พยายามที่จะทำอะไรสักอย่างกับมัน การรอคอยก็ไม่สูญเปล่าไปอย่างแน่นอน...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา