ความรักที่ร้องขอ
-
เขียนโดย soso_sung
วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 00.26 น.
3 chapter
0 วิจารณ์
5,945 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 เมษายน พ.ศ. 2556 23.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ ปัจจุบัน
“พอเถอะแกเลิกร้องได้แล้ว” แมนเดินเข้ามาปลอบฉัน
“พวกแกแต่งงานกันแล้วแถมเมียแกก็กำลังคลอดลูกคนที่สาม เศร้าว่ะ” ตอนนี้พวกเราจบกันแล้วและภรรยาของแมนที่ฉันพูดถึงก็คือแว่นแก้ว ใช่แล้ว พอจบสองคนนี้ก็แต่งงานและมีลูกทันที แถมเป็นลูกแฝดอีกต่างหาก
“แกก็อคติกับผู้ชายไปทั่ว แล้วแกจะเศร้าทำไมว่ะ” ไอ้แมนผลักหัวฉัน
“ก็ผู้ชายมันเห็นแกตัวนิ โชคดีนะที่แกไม่ใช้ผู้ชายเต็มตัวไม่งั้น...”
“ไอ้เวร ฉันผู้ชายแมนสมชื่อเว้ย ไม่งั้นฉันจะได้ลูกชายถึงสามคนเลยหรือไงว่ะ”
“เอ่อ เชื้อป๊าแกดีมากกว่าเว้ย” ฉันทะเละกับมันโดยไม่อายสายตาครอบครัวของแมนและแว่นแก้วเลย
“สองคนเลิกเล่นแล้วไปดูแว่นแก้วได้แล้ว” แม่แว่นแก้วปรามเราสองคนแล้วพวกเราก็อพยพไปหาแว่นแก้วที่ห้องพักฟื้น
“เป็นยังไงบ้างที่รัก” เมื่อเข้ามาในห้องแมนก็ตรงดิ่งไปหาแว่นแก้วที่นอนยิ้มรออยู่
“เหนื่อยนิดหน่อย” แว่นแก้วยิ้มตอบแล้วมองหน้าทุกคน
“ดีใจด้วยนะเพื่อน” ฉันเดินเข้าไปกุมมือเพื่อนแล้วแสดงความดีใจอย่างสุดซึ้ง
“ขอบใจจ๊ะ”
“หมดเวลาเยี่ยมแล้วค่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมใหม่นะค่ะ” พยาบาลสาวสวยเดินเข้ามาบอกหมดเวลาเยี่ยม
“ไปก่อนนะ พรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่” ฉันบอกลาแว่นแก้ม ส่วนแมนก็หอมแก้มแว่นแก้วจุ๊บแล้วจุ๊บเล่าจนทำให้พ่อแว่นแก้วต้องลากคอเสื้อออกมาแทน
“คุณพ่อครับ ผมคิดถึงเมีย ผมอยากแสดงความรักมันผิดตรงไหนครับ” แมนทำเสียงเสียดายที่ไม่ได้ชื่นใจเมียอย่างที่ต้องการ
“เองอยากตายหรือไงว่ะเห็นอยู่ว่าลูกข้าเหนื่อยยังจะไปเจอะแจะอีก” คุณพ่อของแว่นแก้วก็ไม่ยอม ตวาดเสียงดังด้วยความโกรธที่ลูกเขยไม่ยอมให้ลูกสาวสุดที่รักของท่านพักผ่อน
“พอเลยทั้งสองคน แยกย้ายกลับบ้านได้แล้ว” คุณแม่ของทั้งสองฝ่ายจับแยกทั้งสองคนออกทันทีก่อนที่จะเกิดวางมวยกันอีก
“งั้นหนูลาก่อนนะค่ะ” ฉันได้จังหวะเลยขอตัวกลับ
“เดี๋ยวฉันไปส่ง” แมนเสนอตัวจะไปส่งฉัน
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันต้องไปซื้อของอีก” ฉันบอกอย่างเกรงใจ เพราะแมนมันจะชอบมาเป็นสารถีให้ฉันอยู่บ่อยๆ จนบางทีคนอื่นคิดว่ามันเป็นแฟนฉันมากกว่า
“งั้นเจอกันพรุ่งนี้” และเราก็แยกย้ายกัน
ตอนนี้ฉันยังไม่กลับบ้านอย่างที่บอกถูกคนหรอก ฉันมานั่งปล่อยอารมณ์ที่ไนท์คลับของรุ่นพี่ที่คณะ เวลาฉันกลุ้มๆฉันก็จะมานั่งที่นี้แหละเพราะเป็นที่ฉันสบายใจเมื่อได้มานั่ง บรรยากาศชิวๆสบายๆเสียงเพลงคลอเบาๆทำให้จิตฟุ้งซ่านดูสงบเครื่องดื่มของที่นี้ก็รสชาติดีสมกับบาร์เทนเดอร์ที่หาตัวได้ยาก
“อ่าวน้องชม มานั่งคนเดียวอีกแล้ว” รุ่นพี่ชินเดินเข้ามาทักพร้อมสาวสวยข้างกาย
“ค่ะ วันนี้คนเยอะดีนะคะ” ฉันชวนพี่เขาคุยเมื่อพี่เขานั่งข้างๆ
“อื้อ พวกนั้นก็เพื่อนๆพี่นี้แหละ มันพึ่งกลับจากต่างประเทศเลยฉลองต้อนรับ น้องเข้าไปร่วมวงก็ได้นะ” พี่ชินชักชวน
“ขอบคุณค่ะ แต่นั่งตรงนี้ดีกว่า”
“งั้นพี่ไปร่วมวงก่อนนะ ออกมานานละ”
“ค่ะ ขอให้สนุกนะค่ะ”
“ขอนั่งด้วยได้ไม” พี่ชินเดินออกไปได้สักพักก็มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญนั่งลง
“คุณนั่งแล้วนิค่ะ” ฉันคิดว่าคืนนี้คงพอแค่นี้แหละ
“แล้วคุณจะลุกไปไหน รังเกียจผมหรอ” เสียงของเขาดังใกล้หูของฉันและพอฉันหันไปก็ต้องเจอกับกลิ่นแอลกอฮอร์ที่ลอยมากับลม
“คุณจะทำอะไรนะ” ฉันผลักเขาออกไปจากตัวทันที
“ขอโทษที่ทำให้คุณตกใจ แต่ผมก็แค่ไม่อยากทำให้คุณหมดสนุก” ฉันว่าเขาต้องเมาแล้วแน่ๆเลย
“ฉันสนุกมากค่ะ แต่ฉันคิดว่าฉันควรกลับแล้ว” ฉันตอบไปอย่างใจเย็นเมื่อเห็นเขานั่งอย่าสงบ
“เด็กอนามัยจัง พึ่งจะสี่ทุ่มเอง” เขายกมือดูนาฬิกา
“ค่ะ ฉันเด็กอนามัย” ฉันไม่อยากเสวนากับเขาไปมากกว่านี้ สายตาและน้ำเสียงของเขามันดึงดูดฉันเหลือเกิน
“คุณดื่มแต่พั้นซ์หรอ อยากลองชิมนี้ไม” เขายังหาเรื่องคุยไม่สนใจว่าฉันที่เริ่มจะอึดอัด
“ไม่ละค่ะ ขอบคุณ” ฉันคว้ากระเป๋าแล้วเตรียมออกเดินแต่ก็ต้องถูกคว้าข้อมือไว้
“คุณไม่ได้รังเกียจผม งั้นนั่งเป็นเพื่อนผมสักครู่ได้ไม”
“...”
“คิดนานจัง ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ผมแค่อยากมีเพื่อน คือผมพึ่งมาประเทศไทยนะ” เขาคงเห็นว่าฉันไม่คิดจะนั่งเป็นเพื่อนเขา เขาก็เลยสาธยายต่างๆนาๆ
“ก็แค่แปบเดียวเอง”
“ก็ได้” ถ้าเขาไม่ทำหน้าสงสารฉันคงเดินออกไปจากตรงนี้แล้ว
“คุณทำงานอะไรหรอ” เมื่อนั่งได้สักพักเขาก็เริ่มชวนคุย
“ขอไม่ตอบได้ไม” ฉันถามเขากลับ
“ดูท่าคุณจะไม่ตอบอะไรผม งั้นผมจะตอบคำถามคุณเอง โอเคมั้ย” เหมือนเขาจะรู้
“ผมมาเที่ยวเมืองไทยได้สองสามวัน” เขาเล่าโดยที่ตาก็มองไปที่กลุ่มเพื่อนๆพี่ชิน
“คุณพูดไทยชัดนะค่ะ”
“ฮ่าๆๆ ผมพูดมากไปหรอ”
“เปล่าค่ะ ฉันชมจากใจ คือฉันเคยเห็นคนต่างชาติพูดไทยหรือแม้แต่คนไทยที่ไปเรียนที่ต่างประเทศยังพูดไทยไม่ค่อยชัดเลย”
“ขอบคุณครับ แม่ผมสอนมาดีนะ” เขายิ้มๆ แต่ยิ่งเห็นเขายิ้มฉันยิ่งรู้สึกแปลกๆ
“คุณโอเคไมครับ” เขาถาม
“ค่ะฉันโอเค” แค่รู้สึกมีนนิดๆ ไม่รู้ว่ามึนรอยยิ้มหรือว่ามึนแอลกอฮอร์
“เหมือนคุณจะไม่ไหว ผมว่าเรากลับกันดีกว่านะครับ”
“อ่าว โจชัว นายมานั่งอยู่นี่นี้เองตามหาซะทั่ว” เสียงพี่ชินนิ แต่ฉันรู้สึกหนักๆตา
“ชมๆ เธอจะมานอนแบบนี้ไม่ได้นะ” พี่ชินเขย่าตัวฉันแรงๆ
“ไม่ไหวแล้วพี่ชิน คืนนี้ขอนอนนี้ก่อนนะ” ฉันตอบเสียงอ้อแอ้
“ไม่ได้เว้ย ไอ้แมนก็ไม่อยู่” พี่ชินบ่นหนักเหมือนว่าฉันเป็นตัวปัญหาที่จะทำให้พี่เขาลำบาก
“คืนเดียวเองน่ะๆๆ” ฉันลุกขึ้นกอดคออ้อนพี่ชิน
“เอาแล้วไง นายยืนเฉยทำไร ช่วยฉันก่อนสิ” พี่ชินหันไปสั่งโจชัวให้ช่วยเอามือปลาหมึกของฉันออกจากตัวพี่ชิน
“ชมอยู่เฉยๆได้ไม” พี่ชินกับโจชัวพยายามเอามือที่เกาะหนึบออกจากตัวพี่ชิน
“โอ้ว เธอเป็นตุ๊กแกแน่เลยเนี่ย” และในที่สุดก็ออก
“ชมขอนอนนี้คืนน่ะพี่ชิน ชมขี้เกียจกลับ” ฉันเพ้อไปเรื่อยไม่สนว่าตอนนี้ตัวเองได้ไปเกาะอีกคนเข้าแล้ว
“นายจะเอาไง” โจชัวถามเพื่อน
“เดี๋ยวแฟนฉันจะมานะสิ แถมเพื่อนๆก็ดูถ้าจะดึก” พี่ชินตอบอย่างเหนื่อยๆ
“งั้นนายเอาที่อยู่มาเดี๋ยวฉันไปส่งเอง” โจชัวสรุป
“ไหนๆนายก็จะกลับอยู่แล้ว ฝากยัยชมด้วยแล้วกัน”
“พี่ชิน” ฉันก็ยังเพ้อไม่สนใจเลยว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
“พอเถอะแกเลิกร้องได้แล้ว” แมนเดินเข้ามาปลอบฉัน
“พวกแกแต่งงานกันแล้วแถมเมียแกก็กำลังคลอดลูกคนที่สาม เศร้าว่ะ” ตอนนี้พวกเราจบกันแล้วและภรรยาของแมนที่ฉันพูดถึงก็คือแว่นแก้ว ใช่แล้ว พอจบสองคนนี้ก็แต่งงานและมีลูกทันที แถมเป็นลูกแฝดอีกต่างหาก
“แกก็อคติกับผู้ชายไปทั่ว แล้วแกจะเศร้าทำไมว่ะ” ไอ้แมนผลักหัวฉัน
“ก็ผู้ชายมันเห็นแกตัวนิ โชคดีนะที่แกไม่ใช้ผู้ชายเต็มตัวไม่งั้น...”
“ไอ้เวร ฉันผู้ชายแมนสมชื่อเว้ย ไม่งั้นฉันจะได้ลูกชายถึงสามคนเลยหรือไงว่ะ”
“เอ่อ เชื้อป๊าแกดีมากกว่าเว้ย” ฉันทะเละกับมันโดยไม่อายสายตาครอบครัวของแมนและแว่นแก้วเลย
“สองคนเลิกเล่นแล้วไปดูแว่นแก้วได้แล้ว” แม่แว่นแก้วปรามเราสองคนแล้วพวกเราก็อพยพไปหาแว่นแก้วที่ห้องพักฟื้น
“เป็นยังไงบ้างที่รัก” เมื่อเข้ามาในห้องแมนก็ตรงดิ่งไปหาแว่นแก้วที่นอนยิ้มรออยู่
“เหนื่อยนิดหน่อย” แว่นแก้วยิ้มตอบแล้วมองหน้าทุกคน
“ดีใจด้วยนะเพื่อน” ฉันเดินเข้าไปกุมมือเพื่อนแล้วแสดงความดีใจอย่างสุดซึ้ง
“ขอบใจจ๊ะ”
“หมดเวลาเยี่ยมแล้วค่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมใหม่นะค่ะ” พยาบาลสาวสวยเดินเข้ามาบอกหมดเวลาเยี่ยม
“ไปก่อนนะ พรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่” ฉันบอกลาแว่นแก้ม ส่วนแมนก็หอมแก้มแว่นแก้วจุ๊บแล้วจุ๊บเล่าจนทำให้พ่อแว่นแก้วต้องลากคอเสื้อออกมาแทน
“คุณพ่อครับ ผมคิดถึงเมีย ผมอยากแสดงความรักมันผิดตรงไหนครับ” แมนทำเสียงเสียดายที่ไม่ได้ชื่นใจเมียอย่างที่ต้องการ
“เองอยากตายหรือไงว่ะเห็นอยู่ว่าลูกข้าเหนื่อยยังจะไปเจอะแจะอีก” คุณพ่อของแว่นแก้วก็ไม่ยอม ตวาดเสียงดังด้วยความโกรธที่ลูกเขยไม่ยอมให้ลูกสาวสุดที่รักของท่านพักผ่อน
“พอเลยทั้งสองคน แยกย้ายกลับบ้านได้แล้ว” คุณแม่ของทั้งสองฝ่ายจับแยกทั้งสองคนออกทันทีก่อนที่จะเกิดวางมวยกันอีก
“งั้นหนูลาก่อนนะค่ะ” ฉันได้จังหวะเลยขอตัวกลับ
“เดี๋ยวฉันไปส่ง” แมนเสนอตัวจะไปส่งฉัน
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันต้องไปซื้อของอีก” ฉันบอกอย่างเกรงใจ เพราะแมนมันจะชอบมาเป็นสารถีให้ฉันอยู่บ่อยๆ จนบางทีคนอื่นคิดว่ามันเป็นแฟนฉันมากกว่า
“งั้นเจอกันพรุ่งนี้” และเราก็แยกย้ายกัน
ตอนนี้ฉันยังไม่กลับบ้านอย่างที่บอกถูกคนหรอก ฉันมานั่งปล่อยอารมณ์ที่ไนท์คลับของรุ่นพี่ที่คณะ เวลาฉันกลุ้มๆฉันก็จะมานั่งที่นี้แหละเพราะเป็นที่ฉันสบายใจเมื่อได้มานั่ง บรรยากาศชิวๆสบายๆเสียงเพลงคลอเบาๆทำให้จิตฟุ้งซ่านดูสงบเครื่องดื่มของที่นี้ก็รสชาติดีสมกับบาร์เทนเดอร์ที่หาตัวได้ยาก
“อ่าวน้องชม มานั่งคนเดียวอีกแล้ว” รุ่นพี่ชินเดินเข้ามาทักพร้อมสาวสวยข้างกาย
“ค่ะ วันนี้คนเยอะดีนะคะ” ฉันชวนพี่เขาคุยเมื่อพี่เขานั่งข้างๆ
“อื้อ พวกนั้นก็เพื่อนๆพี่นี้แหละ มันพึ่งกลับจากต่างประเทศเลยฉลองต้อนรับ น้องเข้าไปร่วมวงก็ได้นะ” พี่ชินชักชวน
“ขอบคุณค่ะ แต่นั่งตรงนี้ดีกว่า”
“งั้นพี่ไปร่วมวงก่อนนะ ออกมานานละ”
“ค่ะ ขอให้สนุกนะค่ะ”
“ขอนั่งด้วยได้ไม” พี่ชินเดินออกไปได้สักพักก็มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญนั่งลง
“คุณนั่งแล้วนิค่ะ” ฉันคิดว่าคืนนี้คงพอแค่นี้แหละ
“แล้วคุณจะลุกไปไหน รังเกียจผมหรอ” เสียงของเขาดังใกล้หูของฉันและพอฉันหันไปก็ต้องเจอกับกลิ่นแอลกอฮอร์ที่ลอยมากับลม
“คุณจะทำอะไรนะ” ฉันผลักเขาออกไปจากตัวทันที
“ขอโทษที่ทำให้คุณตกใจ แต่ผมก็แค่ไม่อยากทำให้คุณหมดสนุก” ฉันว่าเขาต้องเมาแล้วแน่ๆเลย
“ฉันสนุกมากค่ะ แต่ฉันคิดว่าฉันควรกลับแล้ว” ฉันตอบไปอย่างใจเย็นเมื่อเห็นเขานั่งอย่าสงบ
“เด็กอนามัยจัง พึ่งจะสี่ทุ่มเอง” เขายกมือดูนาฬิกา
“ค่ะ ฉันเด็กอนามัย” ฉันไม่อยากเสวนากับเขาไปมากกว่านี้ สายตาและน้ำเสียงของเขามันดึงดูดฉันเหลือเกิน
“คุณดื่มแต่พั้นซ์หรอ อยากลองชิมนี้ไม” เขายังหาเรื่องคุยไม่สนใจว่าฉันที่เริ่มจะอึดอัด
“ไม่ละค่ะ ขอบคุณ” ฉันคว้ากระเป๋าแล้วเตรียมออกเดินแต่ก็ต้องถูกคว้าข้อมือไว้
“คุณไม่ได้รังเกียจผม งั้นนั่งเป็นเพื่อนผมสักครู่ได้ไม”
“...”
“คิดนานจัง ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ผมแค่อยากมีเพื่อน คือผมพึ่งมาประเทศไทยนะ” เขาคงเห็นว่าฉันไม่คิดจะนั่งเป็นเพื่อนเขา เขาก็เลยสาธยายต่างๆนาๆ
“ก็แค่แปบเดียวเอง”
“ก็ได้” ถ้าเขาไม่ทำหน้าสงสารฉันคงเดินออกไปจากตรงนี้แล้ว
“คุณทำงานอะไรหรอ” เมื่อนั่งได้สักพักเขาก็เริ่มชวนคุย
“ขอไม่ตอบได้ไม” ฉันถามเขากลับ
“ดูท่าคุณจะไม่ตอบอะไรผม งั้นผมจะตอบคำถามคุณเอง โอเคมั้ย” เหมือนเขาจะรู้
“ผมมาเที่ยวเมืองไทยได้สองสามวัน” เขาเล่าโดยที่ตาก็มองไปที่กลุ่มเพื่อนๆพี่ชิน
“คุณพูดไทยชัดนะค่ะ”
“ฮ่าๆๆ ผมพูดมากไปหรอ”
“เปล่าค่ะ ฉันชมจากใจ คือฉันเคยเห็นคนต่างชาติพูดไทยหรือแม้แต่คนไทยที่ไปเรียนที่ต่างประเทศยังพูดไทยไม่ค่อยชัดเลย”
“ขอบคุณครับ แม่ผมสอนมาดีนะ” เขายิ้มๆ แต่ยิ่งเห็นเขายิ้มฉันยิ่งรู้สึกแปลกๆ
“คุณโอเคไมครับ” เขาถาม
“ค่ะฉันโอเค” แค่รู้สึกมีนนิดๆ ไม่รู้ว่ามึนรอยยิ้มหรือว่ามึนแอลกอฮอร์
“เหมือนคุณจะไม่ไหว ผมว่าเรากลับกันดีกว่านะครับ”
“อ่าว โจชัว นายมานั่งอยู่นี่นี้เองตามหาซะทั่ว” เสียงพี่ชินนิ แต่ฉันรู้สึกหนักๆตา
“ชมๆ เธอจะมานอนแบบนี้ไม่ได้นะ” พี่ชินเขย่าตัวฉันแรงๆ
“ไม่ไหวแล้วพี่ชิน คืนนี้ขอนอนนี้ก่อนนะ” ฉันตอบเสียงอ้อแอ้
“ไม่ได้เว้ย ไอ้แมนก็ไม่อยู่” พี่ชินบ่นหนักเหมือนว่าฉันเป็นตัวปัญหาที่จะทำให้พี่เขาลำบาก
“คืนเดียวเองน่ะๆๆ” ฉันลุกขึ้นกอดคออ้อนพี่ชิน
“เอาแล้วไง นายยืนเฉยทำไร ช่วยฉันก่อนสิ” พี่ชินหันไปสั่งโจชัวให้ช่วยเอามือปลาหมึกของฉันออกจากตัวพี่ชิน
“ชมอยู่เฉยๆได้ไม” พี่ชินกับโจชัวพยายามเอามือที่เกาะหนึบออกจากตัวพี่ชิน
“โอ้ว เธอเป็นตุ๊กแกแน่เลยเนี่ย” และในที่สุดก็ออก
“ชมขอนอนนี้คืนน่ะพี่ชิน ชมขี้เกียจกลับ” ฉันเพ้อไปเรื่อยไม่สนว่าตอนนี้ตัวเองได้ไปเกาะอีกคนเข้าแล้ว
“นายจะเอาไง” โจชัวถามเพื่อน
“เดี๋ยวแฟนฉันจะมานะสิ แถมเพื่อนๆก็ดูถ้าจะดึก” พี่ชินตอบอย่างเหนื่อยๆ
“งั้นนายเอาที่อยู่มาเดี๋ยวฉันไปส่งเอง” โจชัวสรุป
“ไหนๆนายก็จะกลับอยู่แล้ว ฝากยัยชมด้วยแล้วกัน”
“พี่ชิน” ฉันก็ยังเพ้อไม่สนใจเลยว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ