ความรักที่ร้องขอ
เขียนโดย soso_sung
วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 00.26 น.
แก้ไขเมื่อ 21 เมษายน พ.ศ. 2556 23.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“โอ้ย ปวดหัวจังเลย” แสงสว่างจ้าของดวงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในห้องสีขาว
“กี่โมงแล้วเนี่ย” มือเริ่มคว้าหานาฬิกาที่ข้างเตียง แต่คว้ายังไงก็เจอแต่อากาศเปล่าทำให้ฉันต้องลืมตาขึ้นเผื่อว่าจะฉันจะลืมเอาไปไว้ที่ไหน
“ที่นี้ที่ไหน” พอลืมตาขึ้นก็ต้องเจอกับสถานที่ที่แปลกตา
“ตื่นแล้วหรอ” ฉันยังไม่ทันสำรวจทั่วห้องก็ต้องเจอกับผู้ชายหุ่นล้ำที่เต็มไปด้วยหมัดกล้ามยืนนุ่งเพียงกางเกงขายาวเพียงตัวเดียวพร้อมกับเช็ดผมอยู่
“นายเป็นใครกัน” ฉันตะโกนถามด้วยความตกใจ
“อ่าว ลืมกันได้ยังไงเมื่อคืนเรายังนั่งคุยกันอยู่เลย” เขาเดินเข้ามาใกล้
“อย่าเข้ามานะ ฉัน...” ฉันพยายามนึกให้ได้ว่าเมื่อคืนฉันทำอะไรและแล้ว
“นายๆๆ” ฉันชี้นิ้วไปที่เขาแล้วมองการกระทำสบายๆของเขา
“นึกออกแล้วใช่ไม” เขาถามยิ้มๆ
“ทำไมนายไม่พาฉันกลับบ้าน” ฉันถามพร้อมกับลุกขึ้น แต่ด้วยอาการเมาค้างบวกกับที่นอนดิ้นได้(หรือว่าฉันเซเองก็ไม่รู้)ฉันเลยโน้มตัวไปทางเขา
“ระวังหน่อยสิ” แล้วตัวฉันก็ไปแปะกับตัวเขาที่ไม่มีอะไรเลย
“มึนหัวจังเลย” ฉันพยายามดึงตัวเองออกมาแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยฉัน
“อยู่เฉยๆ” เขาบอกเสียงนุ่มๆข้างหู
“นอนรอแป๊บ เดี๋ยวผมไปเอายาแก้เมามาให้” ว่าแล้วเขาก็เดินออกไปจากห้อง
“ฉันทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย” และเขาก็เดินเข้ามา
“กินยาแล้วนอนสักพัก อาหารผมทำไว้ข้างนอนแล้ว คุณโอเคก็ค่อยลุกไปกินแล้วกัน” เขาประคองให้ฉันกินยาแล้วเขาก็เดินไปแต่งตัว
“ขอบคุณค่ะ”
“เรื่องเสื้อผ้า ผมให้แม่บ้านจัดการให้แล้วน่ะ” เสื้อผ้าฉันก็ใส่อยู่แล้วทำไม...
“คุณเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันหรอ” ฉันกระเด้งตัวก้มมองสิ่งที่หุ้มกายฉัน แทนที่มันจะเป็นเสื้อที่ฉันใส่เมื่อวานกลับเป็นเชิ้ตตัวยาวสีขาวที่ทะลุเห็นทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน และเมื่อกี้ฉัน...ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย
“ใจเย็นๆคุณไม่ต้องเป็นห่วง ผมให้แม่บ้านเปลี่ยนให้ สาบานว่าผมไม่ได้ทำอะไรคุณเลย” เมื่อเขาเห็นฉันช็อคนิ่งเขาก็รีบยกมือขึ้นมาสาบานว่าไม่ได้ทำอะไรกับตัวฉันเลย
“ฉันจะรู้ได้ไงยังว่าคุณไม่ได้ทำอะไรฉัน” ฉันถามอย่าออกไปอย่างเคร่งเครียด
“ถามแม่บ้านได้” เขาตอบออกมาอย่างสบายๆผิดกับฉันที่วิตกไปหมด
“แต่คุณควรจะไปส่งฉันที่บ้าน” ฉันยังไม่ยอม ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าทำไม
“ก็คุณนั่งร้องไห้จะเป็นจะตายพูดอะไรก็ไม่พูด เอาแต่ร้องไห้” เขาใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเดินเข้ามาใกล้ฉันที่ตอนนี้นั่งมองเขาอย่างเดียว
“คุณดูเศร้ามากเลย” เขาก้มมาหาฉันทีละนิด
“ขอโทษค่ะ” จู่ๆแม่บ้านก็เข้ามาขัดจังหวะแต่ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะไม่อย่างนั้นหัวใจที่อยู่อย่างสงบจะต้องได้แตกสลายอีกเป็นแน่
“ผมไปทำงานก่อนนะ แล้เจอกัน” เขาโบกมือแล้วเดินออกไป
“พูดมาได้แล้วเจอกัน ชิ ฉันไม่มีทางเจอนายอีกแน่” ตาบ้านิ เมื่อกี้เขาจะจูบฉัน แล้วยังจะมาเจออะไรกันอีก ฉวยโอกาสเป็นบ้า
“เธอคิดว่าเธอเป็นใคร” ตอนนี้ฉันกำลังโดนเทศน์เรื่องมาทำงานสายอีกครั้ง
“รู้ไมว่าบริษัทเราใหญ่ขนาดไหน...”
“รู้ไมว่ามีคนมากมายอยากจะทำงานที่นี้...”
“ทำไมไม่ตอบ”
“รู้ค่ะ”
“แล้วทำไมยังมาสายอีก วันนี้ท่านประธานมาดูงานแล้วเธอหายไปไหน ห๊า!!!”
“ฉันขอโทษค่ะ ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว” นอบน้อมเข้าไว้ๆ
“นี้มันกี่รอบแล้ว อย่าคิดว่าคุณเป็นเพื่อนกับหุ้นส่วนนี้แล้วจะมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้นะ” ฉันอยากจะแย้งเหลือเกินว่าฉันมาด้วยความสามารถของตัวเองไม่ได้มีเกี่ยวข้องอะไรกับสิ่งที่ผู้จัดการพูดเลยสักนิดแต่ก็ทำได้แค่เงียบ
ก๊อกๆๆ
“เข้ามา”
“ท่านประธานเรียกพบผู้จัดการค่ะ” โชคดีที่เลขามาขัดจังหวะการเทศนาครั้งนี้ได้
“เดี๋ยวผมไป ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย...ถ้าคุณมาสายอีกผมจะไล่คุณออก” แล้วผู้จัดการก็เดินอย่างสง่าผ่าเผยออกไป
และเมื่อผู้จัดการเดินออกจากห้องไปนั้นก็ทำให้ฉันรีบออกจากห้องตามออกไป ใครจะอยู่ให้เขาหลับมาว่าให้อีกละ
“ถ้าคุณมาสายผมจะไล่คุณออก แบะแบะแบะ...”
“คุณเป็นใบ้หรอ”
“เฮ้ย!!!” ฉันที่กำลังบ่นกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่อยู่คนเดียวก็มีผู้ชายหน้าตาดีที่ไหนไม่รู้มาตะโกนข้างหู
“อ่าวไม่ได้เป็นใบ้หรอกหรอ เห็นแบะๆๆอยู่คนเดียว” เขาพูดขำๆ
“แล้วคุณยุ่งอะไรด้วย” ฉันตอบเสียงห้วนๆไปอย่างไม่สบอารมณ์
“ก็ไม่อยากยุ่งหรอก แต่เห็นคุณแล้วน่าแกล้งนะ” เขาตอบยียวนกลับมา
“คุณไม่ใช่พนักงานที่นี้นิ คุณขึ้นได้มาได้ยังไง” หน้าตาก็ดีหรอกนะแต่นิสัยกวนอวัยวะเบื้องล่างมากเลย
“คุณรู้ได้ยังว่าผมไม่ใช่พนักงานที่นี้” เขาถามกลับ
“ก็ฉันไม่เคยเห็นหน้านาย อีกอย่างคนที่นี้ก็ไม่ได้มีหน้าตาแย่ๆอย่างนายด้วย” หน้าตาของเขาก็ดีเผลอๆหล่อกว่าดาราอีกแต่ฉันแค่หมั่นไส้เลยพูดไปอย่างนั้น
“ผมเป็นวิศวกรด้านคอมฯดูแลอยู่ชั้นบน ผมเบื่อๆก็เลยลงมาเดินเล่นนะแล้วเผอิญมาเจอคุณเข้า” ที่แท้เขาก็เป็นพวกรักษาความปลอดภัยข้อมูลของบริษัทแห่งนี้นี้เอง
“ค่ะ ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนนะค่ะรปภ.” ตำแหน่งเขาใหญ่กว่าฉันอีกอย่างนี้ต้องรีบเผ่น
“ผมไม่ใช่...” แต่ไม่ทันที่เขาจะแก้ไขความเข้าใจ เธอก็วิ่งแผล็บหายไปซะแล้ว
“แกไปไหนมาย่ะ”
“ว้าย! ตกใจหมดเลย” ฉันที่หนีเขาออกมาถึงกลับตกใจเมื่อเจนเข้ามาทักฉัน
“ทำลับๆล่อๆไปฆ่าใครตายมาย่ะ”
“น้อยๆหน่อย คนที่ฉันจะฆ่าก็มีแต่เธอนั้นแหละ” ฉันตอบ
“แล้วไปไหนมา ผู้จัดการเรียกตัวไปบ่นตั้งนานแล้วนิ”
“ก็ใช่แต่ไปเจอคนบ้ามาก็เลยช้าอย่างที่เห็น”
“จริงหรอ คนบ้าหล่อไม”
“นี้คนบ้าก็ไม่เว้นหรือไงย่ะ คนบ้านะคนบ้า”
“ที่นี้จะมีคนบ้าที่ไหนละ ถ้ามีก็แต่นักวิศวกรหนุ่มข้างบนนู่น”
“ชิ! รู้ดี ไปทำงานได้แล้ว”
“เธอยังไม่บอกเลยว่าหล่อหรือไม่หล่อ”
“ไม่หล่อ หน้างี้มันแพลบ สิวที่มีแต่หนองเต็มหน้า ยี้ น่ากลัวๆ” ฉันเดินลูบแขนทำท่าขนลุกขนพองในสิ่งที่ตัวเองจิตนการขึ้น
“อย่าโกหกฉันนะ” น้ำเสียงของเจนอ่อนลงเหมือนจะเชื่อแต่ก็ยังไม่เชื่อ
“เดี๋ยวฉันพาไปแนะนำเอาไม” ฉันถาม
“ไม่เป็นไร ฉันไปทำงานดีกว่า” เมื่อเจนเห็นว่าฉันคงไม่ได้โกหกเธอก็ยอมผละตัวไปทำงานของตัวเองต่อ
“เฮ้อ ถ้าเจอแบบนั้นก็ดีนะสิ คนอะไรหล่ออย่างกับเทพบุษร” ผิวขาวๆเหมือนคนไม่เคยออกแดดมาเป็นชาติ คิ้วเข้มๆ ตาเรียวเหมาะกับแว่นทรงรีที่เขาสวมใส่ ปากอิ่มอมชมพูนั้นเหมือนไม่ใช่ปากผู้ชาย สันจมูกที่ไม่โด่งมากแต่ก็เข้ากับหน้าหวานของเขา
“เหมาะจะเป็นหมอมากกว่าอีก”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ