DETECTIVE GIRL อย่าให้ใครรู้ว่าฉันเป็นนักสืบ

8.2

เขียนโดย ทานากะ

วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.26 น.

  8 ตอน
  22 วิจารณ์
  12.86K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 เมษายน พ.ศ. 2556 19.32 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) หลักฐานประหลาดของคดีฆาตกรรม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
                 แดดอ่อนๆ ในยามเย็นของฤดูร้อน  สายลมที่พัดมาที่ต้นไม้น้อยใหญ่ภายในโรงเรียนอย่างไม่ขาดสาย  เสียงออดภายในโรงเรียนดังขึ้น นักเรียนที่อยู่ตามอาคารต่างๆ ก็พากันทยอยออกมาจากอาคารเรียน โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนมัธยมปลายประจำจังหวัดอุรุกะ ภายในโรงเรียนมัธยมปลายอุรุกะนั้น จะมีจุดที่สวยงามอยู่จุดหนึ่งคือ  น้ำพุใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าอาคารหลักในโรงเรียน ที่จะมีทางเดินยาวจนไปถึงหน้าประตูโรงเรียน 
                 "  มินนะจัง วันนี้พาฉันไปช้อปด้วยนะ วันนี้อัลบั้มของชินคิม่า วางแผงวันนี้ด้วยแหละ "   เสียงของหญิงสาวใส่ชุด ม. ปลาย ผมสั้น ที่กำลังทำท่าระริ้กระรี้อยู่นั้น เธอมีชื่อว่าฮานากะ  เธอพูดพร้อมกับดึงแขนเสื้อของเพื่อนสาวที่กำลังนั่งชมน้ำพุของโรงเรียนอยู่ มินนะได้ยินเสียงของเพื่อนสาวก็หันมาพูดกับฮานากะทันที
                 "  ชินคิม่านักร้องหัวแดง ที่เต้นจนตกเวทีคนนั้นหนะเหรอ "  
                 " แหม....มินนะจังก็ เค้าเรียกว่ามูฟเม้น ยะ อีกอย่างเค้าแกล้งตกยะ "
                 "  จ้าๆ ทำอะไรก็ดีไปหมดแหละ ชินคิม่าของเธอหนะ แกล้งตกซะเหมือนเชียว "   ทั้งสองหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ และเดินไปตามทางฟุตบาท ของโรงเรียน ไม่นานนักทั้งคู่ก็เดินมาถึงประตูโรงเรียน  และไม่ทันที่ทั้งคู่จะก้าวออกจากประตู
                 บรื้นนนนนนนนนนนนนนน......  เสียงรถเก๋งสีแดงคันหรูที่วิ่งด้วยความเร็ว  ได้ขี่ออกมาจากตัวโรงเรียน  และได้ปาดหน้าของทั้งสอง ทำเอาทั้งสองกรี๊ดดังลั่น  และขณะนั้นทั้งคู่ก็ได้มองไปที่นั่งคนขับทันที
                 " นั่นมัน  เก็นจิ ประธานนักเรียนสุดหล่อคนนั้นนี่  เท่ห์ สุดๆไปเลย "   ฮานากะมองเห็นก็สามารถรู้ทันทีว่าเป็นใครเพราะรถคนนั้นไม่ได้ติดฟิล์มสีดำจนทึบ จึงสามารถมองเห็นได้ง่า
                "  ไอ้ประธานขี้เก๊กหนะเอง  คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน  ขับรถไม่มองดูชาวบ้านที่กำลังเดินอยู่เลย  ยัยนี่ก็ยิ้มอยู่นั่นหละ  เค้าจะชนเราตายอยู่แล้วยังยิ้มให้เค้าอีก  "    มินนะรู้สึกโกรธประธานนักเรียนคนนั้นมาก ต่างกับฮานากะที่คลั่งไคล้จนโงหัวไม่ขึ้น
                
                 ไม่นานทั้งคู่ก็ถึงห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก  ทั้งคู่เดินดูของอยู่บนชั้นสอง ที่เป็นแผนกเสื้อผ้า ผู้คนมากมายต่างเพลิดเพลินกับการเลือกสินค้า ทั้งคู่ก็เช่นกัน  จากนั้นก็ได้มีเสียงกรี๊ดดังลั่นมาจากห้องน้ำชายที่อยู่ใกล้ๆกับที่พวกเธอเดินอยู่ จากนั้น ทั้งคู่ก็เห็นผู้ชายสองคน กับผู้หญิงอีกหนึ่งคนยืนตกตะลึงอยู่ ทั้งคู่จึงเดินเข้าไปดูภายในห้องน้ำ  มินนะและฮานากะก็ต้องตกใจเมื่อเห็นชายคนนึงเสียชีวิตด้วยการถูกมีดแทงไปที่หัวใจ และนอนหันหัวไปทางกระจกของอ่างล้างหน้า 
               " เลือด "   ฮานากะพูดเสียงเบาๆภายในลำคอ  ก่อนที่จะหมดสติไป  มินนะที่ยืนอยู่ข้างๆ โอบหลังฮานากะที่กำลังฟลุบลงไปที่พื้นไว้ได้ทัน
               "  พวกคุณหนะ  เรียกรถพยาบาล และ ตำรวจมาทีสิ  มัวยืนทำอะไรกันอยู่ " มินนะหันหลังไปพูดกับคนที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ด้านหลัง และมินนะก็เหลือบไปเห็นสิ่งปกติบางอย่างที่อยู่ที่ปลายนิ้วชี้ด้านซ้ายของผู้ตาย
 
              ไม่นานนักตำรวจ และรถพยาบาลต่างก็มาถึง  ฮานากะก็ได้ถูกแพทย์พามานั่งที่ม้านั่งที่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุนักเพื่อปฐมพยาบาล    ตำรวจกันทุกคนที่กำลังมุงดูอยู่  ยกเว้นผู้เห็นเหตุการณ์รวมทั้งมินนะด้วย  ในขณะที่ตำรวจกำลังเก็บหลักฐานจากที่เกิดเหตุอยู่นั้น  ตำรวจนายหนึ่งที่กำลังจดหลักฐานที่รวบรวมมาได้   มารายงานกับนายตำรวจ วัยกลางคน ที่กำลังยืนอยู่กับมินนะ และผู้เห็นเหตุการณ์อีกสามคน
                "  ผู้ตายคือนายวาตานาเบะ กุนจิมะ  อายุ20 ปี เป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮุโรจิ  เวลาที่เสียชีวิตคือเวลาประมาณ 17.40 นาที สาเหตุการเสียชีวิตคือถูกแทงที่หัวใจและเสียชีวิตทันที มีดที่ใช้เป็นอาวุธก็ยังเสียบอยู่ที่อกของผู้ตายด้วยครับ "   นายตำรวจที่กำลังฟังการรายงานของหน่วยพิสูจน์หลักฐานนั้น ชื่อว่า สารวัตร ฮายาเตะ  ฟุกิโอะ  พอได้ฟังเสร็จ ก็หันมาคุย กับผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งสี่คน
                "   พวกคุณทั้งสี่คนเห็นอะไรบ้าง  เกี่ยวข้องยังไงกับผู้ตายแล้วก็ก่อน 17.40 นาที พวกคุณไปทำอะไรอยู่ที่ไหน  เริ่มที่หนูน้อยใส่แว่นนี่ก่อนเลย  "
                "   ฉันชื่อเฮจิ  มินนะ  เป็นแค่คนเห็นเหตุการณ์เท่านั้นค่ะ  ไม่ได้เกี่ยวข้องยังไงกับผู้ตาย  ส่วนรายละเอียด ก็เหมือนกับคุณตำรวจคนนั้นรายงานแหละค่ะ  "  มินนะพูดจบ สารวัตรที่กำลังฟังอย่างใจจดใจจ่อนั้นก็ละสายตาไปจากมินนะ และมองไปที่คนถัดไปทันที 
                " ผมชื่อ ทานาเบะ  รุจิม่า  อายุ 20ปี  ผมกับผู้ตายนั้นเป็นเพื่อนสนิทกันและ ได้มาซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้พร้อมกับเพื่อนอีกสองคน  เค้าขอตัวมาเข้าห้องน้ำเพราะผม เผลอซุ่มซ่ามทำน้ำชาไข่มุกหกใส่เสื้อของเค้า  เค้าก็เลยขอตัวมาเข้าห้องน้ำ  ส่วนก่อน 17.40 นาทีนั้นผมก็ได้นำแก้วน้ำไปทิ้งขยะ ที่อยู่มุมถัดไปของห้องน้ำที่เกิดเหตุนี่แหละครับ
                 " งั้นแสดงว่าคุณก็อยู่ใกล้ทีเกิดเหตุละสินะ เอาหละคนต่อไป "  สารวัตรพูดจบก็ได้กวดสายตามองไป  ผู้เห็นเหตุการณ์ที่เป็นผู้หญิงอีกคนทันที
                 "  ชั้นชื่อ  ฟุรูโอกะ  นัทสึมิ   อายุ 20 ปี เป็นเพื่อนของผู้ตายเช่นกันคะ  ส่วน 17.40 นั้น ฉันไปซื้อชาไข่มุกแก้วใหม่ให้กับ รุจิม่า  และเมื่อซื้อเสร็จแล้ว    ก็เดินไปหาฟุรุจิม่าที่นั่งอยู่ที่ม้านั่ง หน้าห้องน้ำ และเมื่อเห็นกุนจิมะ ไปนานเข้าก็เอะใจจึงเข้าไปดู ก็เห็นกุนจิมะนอนเสียชีวิตไปแล้ว "  สารวัตรยืนฟังอย่างใจจดใจจ่อและมองไปที่คนสุดท้าย
                 " ผมชื่อ ฮาราสึกิ ฮิโรชิ  อายุ 20ปี   ก็เป็นเพื่อนของผู้ตายได้ไม่นานเพราะพึ่งย้ายเข้ามาใหม่แต่ก็ได้รู้จักกัน ตอนเรียนในชมรมเดียวกันนี่แหละ ส่วนเวลาที่รุจิม่าเสียชีวิตนั้น  ผมนำของที่ทุกคนซื้อไปเก็บที่รถ "
                 " เอาหละ ตอนนี้ตำรวจยังไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นฝีมือของคนภายนอกรึเปล่า  แต่ก็ขอให้พวกคุณนั่งรอเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนแล้วกัน "  สาวัตรฟุกิโอะพูดจบ  เพื่อนของผู้ตายทั้งสาม  ก็ไปนั่งตรงโต๊ะทานอาหารที่อยู่ถัดไปของห้องน้ำ  จะมีก็แต่มินนะที่ไม่ยอมไปไหนเพราะกำลังข้องใจกับสิ่งที่ตนเองเห็นในตอนแรก   มินนะเดินไปดูสภาพศพ พร้อมกับก้ม แล้วใช้นิ้วขยับแว่นขึ้นเพื่อให้มองเห็นได้ชัด
                 " นี่ๆ ยัยหนู ไปนั่งรอให้ปากคำเพิ่มเติม นู่นไป เดี๋ยวทางตำรวจจะเรียกมาเอง "  ดูเหมือนมินนะจะไม่ค่อยสนใจในคำพูดของสารวัตรเท่าไรนัก                    
                 "  คุณตำรวจค่ะ คราบดำๆ ที่นิ้วมือ ด้านซ้ายของผู้ตายมันคืออะไรค่ะ " นายตำรวจที่กำลังนั่งดูสภาพศพอยู่ข้างๆ ก็ได้ดูสมุดบันทึก แล้วได้บอกกับมินนะไปว่า
                 " อ๋อ นี่หนะหรอมันเป็นไข่มุกที่เค้าใส่ชาไข่มุกไงหละ แล้วก็ยังมีที่เน็กไทต์อีกด้วยนะ " นายตำรวจชี้ให้มินนะดูตรงที่เน็กไทต์ของผู้ตาย
จากนั้นมินนะลุกขึ้นพร้อมกับเดินตรงไปที่สารวัตรฟุกิโอะ
                  " สารวัตรค่ะ  หนูพอจะรู้วิธีที่จะเจอตัวคนร้ายแล้วหละค่ะ " มินนะพูดพร้อมกับยิ้ม  แต่สารวัตรยังคงทำหน้างงๆ
                  " วิธีอะไรของเธอ แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าคนร้ายเป็นใครแล้วเค้าใช้วิธียังไงในการหลบหนี "
                   " แฮะๆ เรื่องวิธีฆ่าแล้วก็หลบหนี หนูไม่รู้หรอกค่ะ แต่หนูสามารถรู้ตัวคนร้ายได้แน่นอนค่ะถ้าใช้วิธีนี้ "  มินนะแกล้งทำเป็นหัวเราะ
                   " งั้นอธิบาย หลักฐานมาซิ "  ไม่ทันที่มินนะจะได้พูดกับสารวัตร  เสียงของชายคนหนึ่งก็ได้พูดแทรกเข้ามา  
                   " หลักฐาน ก็คือ  คราบของไข่มุก ที่ติดอยู่ที่นิ้วซ้ายของผู้ตายและที่เน็กไทต์ ผู้ตายก่อนจะถูกลงมือสังหาร ก็คงจะใช้มือซ้ายที่ตนเองถนัดจับไข่มุกออกจากเน็กไทต์ แล้วคนร้ายก็ มาทางด้านหลังของผู้ตาย ผู้ตายก็เห็นคนร้ายที่กระจกจึงหันหน้ามา  แล้วก็โดนแทงในที่สุด แล้วที่นิ้วของผู้ตายมีคราบไข่มุกอยู่เพียงเล็กน้อยนั้น ไม่แน่อาจจะติดอยู่ที่แขนเสื้อหรือขอบข้างในแขนเสื้อของผู้ร้ายก็ได้ เพราะผู้ร้ายสวมถุงมือด้วยการที่จะติดอยุ่ที่แขนเสื้อเป็นไปได้ยากมาก  "   สารวัตรและมินนะ หันไปมองต้นตอของเสียงที่กำลังสันนิษฐานอยู่ตรงที่เกิดเหตุ
                   " ไอ้เจ้าประธานนักเรียนขี้เก๊ก  คำสันนิษฐานนั้นมันต้องเป็นของชั้นยะ  มาตัดหน้ากันเฉยเลย แล้วว่าแต่นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน "
                   " สมกับเป็นลูกชายของพ่อไม่เสียแรงที่ฟักแกออกมา "  ไม่ทันที่เก็นจิจะได้ตอบ สารวัตรก็พูดแทรกขึ้นมา
                   " หมอนี่เป็นลูกชายของสารวัตรหรอกเหรอค่ะ "  มินนะถามอย่าง งงๆ
                   "  เอาหละๆ  ไหนมีวิธีอะไร มินนะจังเล่ามาซิ "  เก็นจิยิ้มพร้อมกับหันหน้าไปมองมินนะ
                   "  อย่ามาเรียกว่ามินนะจังนะ  ไม่ได้สนิทกันซักหน่อย "  จากนั้นมินนะก็บอกถึงวิธีที่จะจับตัวคนร้าย  แล้วตำรวจก็เริ่มทำตามแผน แผนของมินนะคือ นำน้ำไปเสิร์ฟให้กับเพื่อนผู้ตาย  มินนะ และเก็นจิได้มองอยู่ห่างๆ และทุกอย่างก็เป็นตามที่มินนะคาดเอาไว้
                   " คอยดูเถอะ ไอ้ขี้เก๊กชั้นจะไขคดีนี้ให้ได้ก่อนนายเลยคอยดู ชิ "  มินนะพูดพร้อมกับสบัดหน้าหนีเก็นจิ ที่กำลังยืนดูพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยอยู่
                   จากนั้นมินนะก็ออกมายืนคิดตรงหน้า ห้องน้ำที่เกิดเหตุและยืนคิดวิธีที่ผู้ร้ายใช้ในการหลบหนี และเวลาของคนร้ายที่ใช้ในการก่อเหตุ จากนั้นมินนะก็เดินไปกระซิบกับตำรวจฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน  และผ่านไปไม่นานนายตำรวจก็กลับมาพร้อมกับพูดกับมินนะบางอย่าง มินนะจึงเดินตรงไปที่สารวัตรทันที
                    " สารวัตร ค่ะ  หนูรู้ตัวคนร้ายแล้วหละค่ะ คนร้ายเป็นหนึ่งในสามคนนั้น หนูว่าเราไปพบกับพวกเค้าเลยดีกว่าค่ะ  "  
จากนั้น สารวัตร นายตำรวจ รวมทั้งเก็นจิ ก็ได้ยืนต่อหน้าเพื่อนผู้ตายทั้งสามที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหาร
                   " พวกเราสงสัยว่าหนึ่งในพวกคุณ เป็นคนร้าย "  จากนั้นทั้งสามคนก็เริ่มทำสีหน้าไม่พอใจ
                   " อะไรกันคุณตำรวจ พวกเราจะทำไปทำไม อีกอย่างหาหลักฐานได้แล้วรึยังไงกัน "  รุจิม่า  ลุกขึ้นต่อว่า สารวัตร
                   " หลักฐานหนะมีแน่นอน เอาหละยัยหนูว่ามาซิ "
                   " หลักฐานก็คือ  คราบไข่มุกของผู้ตายที่มันจากหายไป มันไม่ใช่รอยที่เช็ดออกอย่างแน่นอน เพราะมันเป็นรอยขาดเป็นช่วงอย่างชัดเจน  และการแทงเข้าไปที่หัวใจ มันเป็นการแทงของคนถนัดซ้าย ปลายมีดมันแทยงเข้าไปแทงทางซ้ายของผู้ตาย  ซึ่งคนที่ถนัดมือขวานั้นจะแทงในลักษณะนี้ไม่ได้ "
                   " แล้วคราบไข่มุก พวกคุณสงสัยว่าอยู่กับพวกเรารึไง ถ้าจะติดก็คงไม่แปลกหรอก เพราะพวกเราอยู่กับผู้ตายตลอดเลยนี่นา "  รุจิม่า แทรกขึ้นมาอีกครั้ง
                   " มันก็แน่อยู่หรอก ถ้าคนนั้นไม่ใช่คนร้ายก็จะติดอยู่ที่มือ เพราะคนร้ายสวมถุงมือในการลงมือฆ่า  เออคุณ ฮิโรชิค่ะช่วยบอกหน่อยว่าตอนนี้กี่โมงแล้วค่ะ “  
                   " ฮิโรชิที่นั่งอยู่อย่างใจเย็นนั้นก็ได้ พับแขนเสื้อขึ้นเนื่องจาก  แขนเสื้อติดที่นาฬิกาที่เค้าใส่อยู่ที่มือขวามันติด จึงต้องพับแขนเสื้อขึ้น จากนั้นทุกคนที่อยู่รอบๆ  ต่างก็ตกใจ  เพราะคราบของไข่มุกมันติดอยู่ที่แขนเสื้อของเขา  มินนะยิ้มแล้วได้ทำการสันนิษฐานต่ออีกว่า
                   " คนร้ายนั่นก็คือคุณนั่นแหละค่ะ  จากที่เราให้ตำรวจเอาน้ำมาเสิร์ฟนั้นมีคุณคนเดียวที่เป็นคนถนัดซ้าย เพราะฉะนั้นคุณถึงต้องสวมนาฬิกาที่มือขวา แล้วตอนที่ลงมือนั้น คุณก็ใช้มือถืออาวุธมีดด้วยมือซ้าย   แทงไปที่หัวใจ แต่ผู้ตายใช้มือซ้ายของผู้ตายดึงแขนเสื้อของคุณก่อนที่จะล้มลงไป ก่อนอื่นคุณคงจะแกล้งอาสาเอาของไปเก็บให้จากนั้นคุณก็เดินตามมาที่ห้องน้ำเพื่อที่จะฆ่าผู้ตาย เมื่อคุณทำการฆาตกรรมเสร็จ คุณก็นำของไปเก็บอย่างหน้าตาเฉย หลักฐานที่มัดตัวคุณแน่นที่สุดคือ "   ตำรวจพิสูจน์ ก็ได้นำถุงเสื้อผ้าที่พวกเขาได้ซื้อไว้มาให้กับมินนะ
                    " นี่คือตราบของไข่มุกที่ติดจากถุงมือของคุณด้วย  คุณอาจจะรีบร้อน จนไม่ได้สังเกตว่า คราบของไข่มุกนั้นได้ติดอยู่ที่ถุงที่คุณนำไปไว้ แล้ว ถุงมือที่คุณใช้คุณอาจจะกดลงชักโครกไปแล้วก็ได้ ถ้าให้หน่วยพิสูจน์หลักฐาน ดูในท่อของห้องน้ำก็คงจะเจอ  เพราะถ้าไม่ใช่คนที่ตามเข้าไปฆ่าผู้ตายถึงห้องน้ำคงจะไม่มีคราบพวกนี้อยู่เลย  จริงมั๊ย คุณ ฮิโรชิ "
                    ฮิโรชิ ลุกขึ้นจาก เก้าอี้ แล้วก็คุกเข่าลงที่พื้นพร้อมกับสารภาพ ทุกอย่าง
                    " ใช่  ผมเป็นคนฆ่ามันเอง  เมื่อสองปีก่อน มันเป็นขับรถชนแม่ของผมจนเสียชีวิต แต่ถ้ามันมาช่วยแม่ของผมซักหน่อยละก็แม่ผมก็คงไม่ตายอย่างนี้หรอก แต่มันก็ดันขับหนี แล้วผมก็บังเอิญเห็นหน้ามันเข้า  เมื่อผมเข้ามาเรียนผมก็บังเอิญมาเจอกับมันแล้วก็ตีสนิท จนรอเวลานี้นี่แหละ "
                    แล้วมินนะที่ฟังอยู่ถึงกับตะคอกด้วยเสียงอันแข็งกร้านออกมา
                    " แล้วคุณคิดว่าการฆ่าคนเพื่อแก้แค้นให้คุณแม่ของคุณ แม่คุณคงจะยินดีด้วยงั้นเหรอ "
                     ฮิโรชิ  ได้แต่นั่งเงียบเหมือนคนที่ไร้วิญญาณ ตำรวจจับเขาลุกขึ้นแล้วใส่กุญแจมือ แต่เขาก็ยังคงนิ่งอยู่เช่นนั้น
                           ถึงแม้เขาจะมีเหตุผลหรือ ผู้ตายกระทำผิดอย่างไรก็ตาม การฆ่าคนนั้นก็เป็นการผิดอยู่ดี  หลังจากนั้นตำรวจก็ควบคุมตัว ฆาตกร ไปดำเนินคดีตามกฎหมาย สารวัตรจึงเดินมาขอบคุณมินนะ ที่ช่วยไขคดีให้
                               " เอาหละ เพื่อเป็นการตอบแทน ชั้นจะให้ เก็นจิไปส่งเธอกับเพื่อนแล้วกัน ยังไม่ได้สติเลยนี่เพื่อนของเธอ "  มินนะขัดใจสารวัตรก็ไม่ได้ เพราะจะแบกฮานากะไปคงไม่ไหว จึงต้องยอมติดรถไปด้วย   มินนะที่นั่งในรถ ได้แต่นั่งเงียบตลอดทาง มินนะเป็นคนนั่งข้างๆคนขับ ฮานากะนั้นนอนหลับอยู่ข้างหลังรถ  ไม่นานก็มาถึงที่บ้านของฮานากะ แล้วเก็นจิก็โอบหลังของฮานากะไปส่งถึงในบ้าน จากนั้นก็ตรงไปที่บ้านของมินนะ ที่อยู่ไม่ไกลจาก บ้านของฮานากะ  และแล้วก็มาถึงหน้าบ้านของมินนะ เก็นจิก็ได้หันมามองเธอ พร้อมกับหัวเราะ แล้วก็ใช้มือมาดึงแว่นของ มินนะออก
                              " ดูสิ แว่นตาก็เปื้อนหมดแล้ว " เก็นจิใช้เสื้อของตัวเองเช็ดเลนส์ที่แว่นของมินนะให้ แล้วสวมกลับเข้าไป
                              " เธอนี่  ถอดแว่นแล้วก็น่ารักดีเหมือนกันนะ "   มินนะที่ได้ยินอย่างนั้นก็หันหน้าหนี แล้วเปิดประตูรถลงไปทันที จากนั้นก็ยืนหันหน้าเข้าหาบ้านของตัวเอง แต่เธอก็ยิ้มแล้วก็พูดเบาๆว่า       
                               "  ไอ้ประธานขี้เก๊กบ้า "  
 
                         

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา