DETECTIVE GIRL อย่าให้ใครรู้ว่าฉันเป็นนักสืบ
เขียนโดย ทานากะ
วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.26 น.
แก้ไขเมื่อ 20 เมษายน พ.ศ. 2556 19.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ใครกัน !! คือ จอมโจรโจ๊กเกอร์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
" นี่แม่ค่ะ ทำไมต้องพาหนูไปงานเปิดตัวเพรชอะไรนี่ด้วย ว่าจะดูละครอยู่ที่บ้านซะหน่อย " เสียงของมินนะที่ทำหน้าตาบูดบึ้งอยู่ภายในรถเก๋งสีขาว
มินนะนั่งข้างๆคนขับ รถที่เธอนั่งอยู่นั้น เต็มไปด้วยรถมากมายที่ล้อมหน้าล้อมหลัง ที่กำลังติดสัญญาณไฟแดงอยู่ แต่ด้วยเป็นเวลากลางคืนรถจึงไม่มากนัก
" ก็มาเป็นเพื่อนแม่แค่นิดๆ หน่อยๆ ทำบ่นเป็นคนแก่ไปได้ นี่ถ้าพ่อไม่ติดงานสืบคดีที่ต่างประเทศละก็แม่ก็ไม่เอามินจังมาด้วยหรอก " แม่ของมินนะใช้มือจับพวกมาลัยรถ พร้อมกับหันมาพูดกับมินนะที่นั่งอยู่ข้างๆ
" อย่างนี้ไงละค่ะ ที่หนูเกลียดนักสืบ มีเวลาไปช่วยเหลือคนอื่น แต่ไม่เคยเที่ยวกับครอบครัวเลยซักครั้ง " มินนะกอดอกทำหน้าบึ้ง
" ปากก็บอกว่าเกลียด เห็นอาทิตย์ก่อนไขคดีได้ไม่ใช่หรอ หะ .... มินจังสาวยอดนักสืบ " แม่ของมินนะหันมาพูดพร้อมกับยิ้มหยอกล้อกับมินนะ
" ใช่ที่ไหนกันเล่า ก็แค่ไม่อยากให้คนร้าย หนีลอยนวลได้หน้าตาเฉย ยังไงหละ " ถึงมินนะจะแก้ตัวยังไง แม่ของมินนะก็เอาแต่ยิ้มพร้อมกับใช้นิ้วเคาะพวงมาลัยตามจังหวะเพลงที่เปิดในรถ
จากนั้นสัญญาณไฟเขียวก็ขึ้นมาแทนที่สัญญาณไฟแดง รถที่อยู่ข้างหน้าของมินนะก็เริ่มออกตัว จากนั้นรถของมินนะก็เคลื่อนตามไปติดๆ
ไม่นานนักก็ถึงหน้าห้าง ที่จะเปิดตัวเพรช ห้างที่จะเปิดตัวเพรชนั้น เป็นตึกสามชั้น แต่ใหญ่และสวยงามมาก โดยเฉพาะแสงไฟที่ติดอยู่ทั่วทั้งตึก
ห้าง ไดอาม่อน เซ็นเตอร์ เวลา 19.30 นาที
รถเก๋งสีขาวของมินนะได้วิ่งเข้ามาถึงที่จอดรถภายในห้าง จากนั้นประตูรถทั้งสองข้างก็เปิดออก ทั้งคู่ก้าวลงมาจากรถ ทั้งสอง สวมด้วยชุดเดรสและรองเท้าส้นสูงทั้งคู่ แต่ชุดของมินนะจะเป็นสีชมพูดอ่อนๆ ส่วนชุดแม่ของมินนะจะเป็นสีฟ้า ทั้งคู่เดินออกมาจากที่จอดรถจนมาถึงประตูทางเข้าของห้าง
" คนเยอะจังเลยนะเนี่ย สงสัยเพรชที่ว่านี้คงจะเเพงน่าดู " มินนะมองผ่านประตูกระจกใสที่เป็นทางเข้าของห้าง เธอเห็นการ์ดมากมาย ยืนเฝ้าทางเข้าอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันการโจรกรรมเพรช และผู้คนที่แต่งด้วยชุดหรูหรามากมาย ยืนรอเพื่อที่จะเข้างานเต็มไปหมด
" แม่ว่าเราเข้างานกันก่อนเถอะ มินจัง " จากนั้นทั้งคู่ก็มาถึงชั้นสอง ที่เป็นโซนที่จะเปิดตัวเพรช และเช่นกันกับผู้คนที่จะรอชมก็มีเป็นจำนวนมาก
ผู้คนนั้นเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในงานมากขึ้น
" รับเครื่องดื่ม มั๊ยครับ " พนักงานเสิร์ฟใส่แว่น และสวมด้วยชุดทักซิโด้ ท่าทางดูเรียบร้อย เดินเข้ามาถามมินนะที่กำลังยืนอยู่กับแม่ของเธอ ที่อยู่ข้างๆงาน
" อ่อ ไม่ดีกว่าค่ะ ขอบคุณค่ะ " มินนะยิ้มพร้อมกับโบกมือปฏิเสธ
" แค่ก แค่กๆ " เสียงไอที่มากจากพนักงานคนเดิม ได้ไอออกมาเบาๆ พร้อมกับใช้มือปิดปาก
" เอ่อ ขอโทษครับ พอดีไม่ค่อยสบายนิดหน่อย " พนักงานเสิร์ฟหันมาพูดกับมินนะที่กำลังมองดูอยู่ เธอก็ได้แต่ยิ้มตอบ
มินนะรู้สึกเบื่อ จึงกวาดสายตามองดูคนรอบๆงาน มินนะสังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่ง ที่เป็นทีมงาน เข้ามาเช็คกลไก ที่ตั้งอยู่ตรงกลางของงาน
กลไกที่ว่านี้เป็นกลไกที่มีลักษณะ สูงและเป็นรูปดอกบัวตูม ภายในนั้นจะมีกลไกที่จะทำให้เปิดตัวเพรชออกมาอย่างสวยงาม จากนั้นมินนะก็สังเกตเห็นชายที่ยืนมองดูกลไกอยู่ และเค้าจะมองดูนาฬิกาที่ข้อมืออยู่ตลอดเวลา และก็ชายวัยกลางคนที่ถือไม้เท้าทรงประหลาดอีกคน กำลังยืนมองดูกลไกอยู่เช่นกัน
จากนั้นประธานในงานก็ออกมายืนข้างๆกลไก เพื่อที่จะทำการเปิดตัวเพรช
" เอาหละครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ทุกท่านจะได้พบกับ ซิลเวอร์ ไดอาม่อน ที่ทางเราภูมิใจ เพราะมันมีมูลค่า ถึง หนึ่งพันล้านบาท ขอเชิญทุกท่านเชิญชมความสวยงามได้ ณ บัดนี้ครับ " เมื่อสิ้นสุดเสียงประธานของงาน กลไกก็เริ่มทำงาน กลไกที่เป็นดอกบัวตูมนั้นก็ค่อยๆบานออก ผู้คนในงานต่างก็มองเพรชที่ส่องระยิบระยับนั้นจนตาค้าง รวมทั้งมินนะที่ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างพนักงานเสิร์ฟกับคุณแม่ของเธอที่ยืนดู อย่างใกล้ชิด
" แค่ก แค่กๆๆๆ " เสียงไอของพนักงานเสิร์ฟดังอีกครั้ง มินนะก็หันมามองพนักงานเสิร์ฟและยิ้มให้ เหมือนเดิม ขณะที่ผู้คนในงานกำลังชื่นชม ซินเวอร์ไดอาม่อนอยู่นั้น ไฟทั่วทั้งตึกก็ดับลง เสียงของผู้คนในงานที่ได้แต่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ดังไปทั่วงาน มินนะหันไปด้านข้างขวาของเธอเพราะได้ยินเสียงไอของพนักงานเสิร์ฟ จากนั้นมินนะก็ได้สังเกตเห็น แสงเล็กๆที่ส่องอยู่ตรงหน้าของเธอ ไม่นานไฟทั้งตึกก็ติดขึ้นมาอีกครั้ง
" แว่นตา แว่นตาผม " เสียงของพนักงานเสิร์ฟที่กำลังนั่งลงควานหาแว่นตาที่พื้น มินนะจึงก้มไปหยิบแว่นตามาสวมให้และจับชายคนนั้นลุกขึ้น
" เพรช หายไปแล้ว !! " เสียงของชายคนหนึ่งตะโกนขึ้น ทุกคนต่างมองไปที่กลไกที่ว่างเปล่า จากนั้นทีมงานก็สังเกตเห็นบางอย่าง ที่อยู่ข้างบนของกลไก ทีมงานคนนั้นรีบวิ่งเข้าไปดู
" นี่มันไพ่รูปโจ๊กเกอร์ งั้นก็แสดงว่าโจ๊กเกอร์ แฝงตัวอยู่ในงานเปิดตัวครั้งนี้ เหรอเนี่ย " ทีมงานหยิบไพ่ใบนั้นขึ้นมา
ประธานของงานได้ยินดังนั้น ก็สั่งการ์ดที่อยู่รอบๆของงาน ให้ปิดประตูเข้าออกทุกทางภายในตึก มินนะก็เริ่มคิดในใจ
" ไฟนั้นดับในเวลาไม่นาน ถ้าคิดตามความเป็นจริงคือ จะมีผู้ต้องสงสัยคือ คนที่ถือไม้เท้า ทีมงาน และคนที่ดูนาฬิกาอยู่ตลอดเวลา เพราะเมื่อไฟติดขึ้น ก็มีแต่คนเหล่านี้เท่านั้นที่ทำได้ "
" คิดอะไรอยู่เหรอ แม่นักสืบ " เสียงทุ้มต่ำของชายคนหนึ่งดังมาจากด้านหลังของมินนะ มินนะจึงหันไปตามเสียงนั้นทันที
" พ่อ " มินนะ และแม่ของมินนะ ต่างหันมามองชายคนนั้นที่สวมชุดสูทสีน้ำตาล ไว้หนวด ที่กำลังยิ้มให้กับคนทั้งสอง
" ก็พ่อ นี่ไง เห็นเป็นใครกัน "
" แล้วพ่อมาที่นี้ได้ยังไงกัน " มินนะถามสวนกลับไปทันที
" ก็มาตามคำเชิญหนะสิ "
" คำเชิญ " มินนะถามกลับไปอีกครั้ง
" ก็คำเชิญของเจ้าโจ๊กเกอร์ ที่ขโมยเพรช ในครั้งนี้ไปยังไงหละ นี่ไงจดหมายแล้วก็ไพ่รูปโจ๊กเกอร์ของมัน จดหมายนั้นมันส่งไปยังที่อยู่ของพ่อ
ในจดหมายนั้นมันเขียนไว้ว่า " ยอดนักสืบ เฮจิ โคจิโร่ ถ้าหากไม่อยากให้เพรชที่มีมูลค่าสูง หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้วหละก็ จงสืบให้ได้ว่าฉันคือใครที่อยู่ภายในงาน อย่าทำให้ชื่อยอดนักสืบต้องหายไปหละ มาตามที่อยู่ของงานครั้งนี้ ลงชื่อ โจ๊กเกอร์ " ที่จริงพ่อไม่อยากมาเท่าไรหรอก แต่ถ้ามันมั่นใจว่าพ่อจะจับมันไม่ได้หละก็ พ่อก็อยู่เฉยไม่ได้ " เฮจิ พ่อของมินนะ ยื่นจดหมายและไพ่ให้มินนะดู
" งั้นก็แสดงว่าตอนนี้ มันก็ยังคงอยู่ในงานอย่างงั้นสินะ แล้วตอนนี้พ่อสงสัยใครเป็นพิเศษรึเปล่า " มินนะพูดพร้อมกับมองพวกคนที่มินนะได้สงสัยเอาไว้แต่แรก
" ใช่ พ่อยืนดูอยู่ตั้งแต่ตอนเริ่มงานแล้วหละ คนที่น่าสงสัยก็คือ คนที่ถือไม้เท้า ทีมงาน คนที่ดูนาฬิกาอยู่บ่อยครั้ง แล้วก็พนักงานเสิร์ฟ คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นไง " เฮจิ มินนะ และแม่ของมินนะ ก็มองไปยังพนักงานเสิร์ฟคนนั้น
" พนักงานเสิร์ฟคงทำไม่ได้หรอกน่า เพราะตอนไฟดับเค้าก็อยู่ข้างๆ หนูตลอดเลยนี่นา " มินนะพูดกับเฮจิ พ่อของเธอ
" สิ่งที่เรามองเห็นหรือได้ยินนั้นไม่ใช่ทุกอย่างหรอก เดี๋ยวพ่อจะขอไปคุยกับเจ้าของงานหน่อย จะตามมาก็ได้นะ " เฮจิ พูดชักชวนมินนะ แล้วมินนะก็เดินตามไปเพราะความอยากรู้ จากนั้นทั้งสองก็เดินไปถึงประธาน ที่กำลังยืนทำหน้าเคร่งเครียดอยู่นั้น และประธานก็ได้สังเกตเห็น เฮจิ
" อ้าว คุณคือ ยอดนักสืบ เฮจิ โคจิโร่ นี่ โชคดีจริงๆที่เจอคุณในเวลานี้ " สีหน้าที่เคร่งเครียดของประธานคนนั้น กลับกลายเป็นยิ้มอย่างมีความหวังทันที
" ผมอยากให้ประธานช่วย เรียก สี่คนนี้ที่ผมจะบอกมาหน่อยได้ไม๊ครับ "
" ยินดีเลยครับ " จากนั้นประธานก็ได้ทำตามคำบอกของเฮจิ จึงได้เรียกผู้ต้องสงสัยทั้งสี่มา
" ผมสงสัยพวกคุณทั้งสี่ว่าจะเป็นผู้ต้องสงสัย ยังไงก็ให้ความร่วมมือด้วยนะครับ " เฮจิพูดกับชายทั้งสี่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
" นี่ๆ อย่าบอกนะว่าพวกเราเป็นคนขโมยเพรชไป คนที่ขโมยป่านนี้มันหนีกลับไปแล้วละมั้ง " เสียงของชายกลางคนที่ถือไม้เท้าพูดขึ้น
" ไม่หรอกครับ เพราะโจ๊กเกอร์มันเป็นคนรักษาคำพูดซะด้วยสิ ผมคิดว่าโจ๊กเกอร์คือ คนที่แฝงตัวอยู่ภายในพวกคุณนี่แหละ ยังไงก็ขอตรวจดูบัตรประชาชนของพวกคุณก่อนแล้วกัน " จากนั้นเฮจิก็ได้ ดูบัตรประชาชนของผู้ต้องสงสัยทุกคนแต่รูป ชื่อ และหน้า ก็ตรงกับในบัตรประชาชนหมดทุกคน
" นี่ เลิกสงสัยพวกเรารึยัง พวกเราไม่ใช่คนร้ายหรอกน่า " ทีมงานพูดขึ้นมา
" ยังไงผมก็ขอตรวจดูหลักฐานซักครู่ ยังไงพวกคุณก็ต้องอยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนเป็นอันขาด "
เฮจิ เริ่มเคร่งเครียด เพราะยังหาหลักฐานจะมัดตัวว่าใครเป็นโจ๊กเกอร์ ไม่ได้
" นี่คุณ ดูสิ วิดีโอที่ฉันถ่ายไว้เป็นไงเพรชสวยใช่มั๊ยหละ " แม่ของมินนะพูดขึ้นกับเฮจิ ที่ยืนเคร่งเครียดอยู่ข้างๆ
" นี่คุณเวลานี้ยังจะมาดูอยู่อีกเหรอ " เฮจิพูดเสียงเนือยๆ
" จริงสิ กล้องเหรอ ไหนเอามาดูหน่อย " เฮจิรีบคว้ากล้องวิดีโอจากภรรยาของตัวเองมา และมินนะก็วิ่งมาดูด้วย
" คลิปนี้ยาว 30 วินาที ตั้งแต่เริ่มเปิดงานจนถึงไฟที่ดับติดขึ้น ตอนที่ดับนั้น ดับประมาณ 10 วินาที แต่แสงเล็กๆนี่มันอะไรกัน แถมแสงยังขาดหายในบางตอนอีกด้วย " เฮจิสงสัยกับแสงที่ขึ้นอยู่ภายในภาพ
" แสงนี้ หนูก็เห็นเหมือนกันค่ะ " จากนั้นทั้งสองก็เดินไปยังกลไกนั้นทันที
" เอาหละทีนี้ก็พอรู้แล้วว่าใครเป็นคนร้าย และเป็นที่สามารถทำได้ แต่ต้องหาหลักฐานอีกอย่างให้ได้ " เฮจิพูดขึ้นอย่างมีหวัง
" นี่นะ ตอนแรกแม่จะอัดเสียง พูดของแม่ที่ดูเพรชอยู่แล้วเอาไปอวดเพื่อนที่ไม่ยอมมาด้วยซะหน่อย แต่ดันไฟดับซะก่อนเนี่ยสิ " มินนะและเฮจิได้ยินดังนั้น ก็หันมาที่แม่ของมินนะ และยิ้มทันที
จากนั้น เฮจิก็ได้สั่งประธานให้ไปทำหน้าที่อย่างหนึ่ง โดยที่เฮจิและมินนะ ยังยืนอยู่กับผู้ต้องสงสัย
" ตอนนี้เรารู้แล้วหละครับว่าคนร้ายเป็นเริ่มจากฟฤติกรรมของพวกคุณก่อนเลย มินนะพูดมาซิ " เฮจิหันไปบอกกับมินนะที่ยืนมองผู้ต้องสงสัยอยู่ข้างๆ
" พฤติกรรมของพวกคุณล้วนแปลกๆกันทั้งนั้น ทีมงานที่ชอบเช็คกลไกบ่อยจนเกินเหตุ ชายที่ถือไม้เท้าประหลาด ชายที่ดูนาฬิกาอยู่ตลอดเวลา และคนที่ไออยู่บ่อยครั้ง อย่างพนักงานเสิร์ฟ "
" นี่ยัยหนู ฉันก็ต้องทำตามหน้าที่ของฉันสิ " ทีมงานพูดสวนขึ้นมา
" ใช่ ฉันเองก็รีบไปงานที่อื่น เลยต้องดูนาฬิกาบ่อยๆ หนะสิ "
" ฉันเองก็ถือไม้เท้านี่เป็นประจำอยู่แล้ว มันแปลกตรงไหนไม่ทราบ " ทุกคนเริ่มจี้คำถามมาที่มินนะ
" พวกเราไม่ได้สงสัยพวกคุณหรอกค่ะ สงสัยก็แต่ คุณพนักงานเสิร์ฟคนนี้นี่แหละ " ทุกคนเริ่มหันไปมองที่พนักงานเสิร์ฟ
" ผมน่าสงสัยตรงไหนกัน แล้วตอนที่ไฟดับผมก็อยู่ข้างๆคุณตลอดเวลาไม่ใช่รึไง " พนักงานเสิร์ฟเถียงขึ้นมา
" มันก็ใช่ เพราะทุกครั้งที่ไอคุณจะเอามือปิดปาก แต่ก่อนที่ไฟจะดับนั้น คุณไปจับที่โบว์ตรงคอเสื้อของคุณแล้วก็ไอขึ้นมา แทนที่จะปิดปากเหมือนทุกครั้ง ถ้าฉันเดาไม่ผิดมันก็คงเป็นไมค์นั่นเอง ส่วนหลักฐานชิ้นอื่นนั้นจะให้คุณยอดนักสืบเป็นคนเล่าแล้วกัน " จากนั้นเฮจิก็ได้เริ่มพูดขึ้น
" ใช่แล้วครับ ในวิดีโอที่พวกเราดูกันนั้น มันมีแสงเล็กๆ นั่นมันก็คือเทปเรืองแสงที่คุณได้เอาไปติดไว้นั่นเอง และหลักฐานที่ว่าคุณอยู่ข้างๆ มินนะนั้น ก็อาจจะเป็นการอัดเสียงก็ได้ เพราะจากที่มินนะเล่า คุณทำแว่นตาตกด้วย ผมจะอธิบายง่าย ๆ ก่อนที่จะเริ่มแผนของคุณ คุณก็แกล้งไอเพื่อตบตาว่าตัวเองไม่สบาย จากนั้นก็ไอขึ้นมาเพื่อเป็นสัญญาณ ให้ผู้ช่วยของคุณอีกคนที่มองดูอยู่ที่ไหนซักแห่งดับไฟซะ จากนั้นคุณก็ เปิดเทปอัดเสียงที่เตรียมไว้ วางลงที่พื้น แล้วเดินไปยังจุดที่มีเทปเรืองแสง ที่คุณเอาไว้จับตำแหน่ง จากนั้น เมื่อคุณได้เพรชไปแล้ว คุณก็กลับมาที่เดิม แล้วทำแกล้งว่าแว่นตาหล่น จากนั้นคุณก็เก็บเทปเสียงขึ้นมา "
" ฮ่าๆๆ สันนิษฐานได้สนุกดีนี่นา คุณนักสืบแล้วก็ยัยหนู นี่ด้วย งั้นมาค้นตัวผมสิ ว่ามีเทป หรือเพรชที่ขโมยไปที่ว่านั่นรึเปล่า " พนักงานเสิร์ฟเริ่มท้าทาย เฮจิ
" ฝีมืออย่างโจ๊กเกอร์นั้นการที่จะซ่อนของ นั้นทำได้ไม่ยากหรอกจริงมั๊ย ผมยังเชื่ออีกอย่างที่ว่า ที่ๆอันตรายที่สุดคือที่ๆ ปลอดภัยที่สุด " จากนั้นเฮจิ ก็ได้ก้มลงไปใต้กลไก แล้วก็เจอเพรชกับเทปเสียง ที่ติดอยู่ ใต้เครื่องของกลไก
" นี่ไงหละครับ คุณโจ๊กเกอร์ " เด็กเสิร์ฟคนนั้นถึงกับเหงื่อไหล ทันที แต่ดูเหมือนเขายังไม่ยอมรับ
" โธ่..... คุณนักสืบ ใครๆเค้าก็ทำได้ อาจจะเป็นใครที่ไหนก็ได้ในนี้วางลงไป จริงมั๊ย " จากนั้นไฟก็ดับลง ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นสังเกตเห็นแสงไฟเล็กๆ สองจุดด้วยกันและไฟ ก็เปิดขึ้นอีกครั้ง
" ทุกคนคงสังเกตเห็นแสงสองเมื่อไฟดับแล้วใช่มั๊ยหละครับ เทปเรืองแสงที่ติดอยู่ที่หลังมือของคุณ กับกลไกของที่นี้ ถ้าเดาไม่ผิดคุณก็คงกลัวคนอื่นสวมรอยขโมยเพรชไป คุณจึงนำเทปเรืองแสงมาติดไว้ที่มือเพื่อให้ผู้ช่วยของคุณรู้ว่านั่นคือคุณ ถ้าหากเป็นคนอื่นที่ไม่มีเทปเรื่องแสงผู้ช่วยคุณก็จะเปิดไฟทันที คราวนี้จะยอมรับรึยังโจ๊กเกอร์ " จากนั้นพนักงานเสิร์ฟก็เริ่มยิ้มแล้วก็หัวเราะออกมา
" สมกับเป็นยอดนักสืบ จริงๆ ยัยหนูนี่ก็ด้วยรู้จักสังเกตดีนี่นา สมกับที่เป็นลูกของยอดนักสืบ ใช่แล้วชั้นที่แหละคือโจ๊กเกอร์ แต่ระดับอย่างจอมโจมแล้วก็คงจะยอมให้จับไม่ได้ง่ายๆ หรอกนะ "
" จับมันไว้ที " เฮจิตะโกนขึ้น โจ๊กเกอร์ ทุ่มบอลยางขนาดเล็กลงที่พื้น จากนั้นควันก็เริ่มฟุ้งกระจายไปทั่วจนทำให้มองไม่เห็นอะไร และโจ๊กเกอร์มันก็พูดบางอย่างก่อนที่จะหายตัวไป
" แล้วจะกลับมาเล่นอีกนะยัยหนู สนุกจริงๆเลย ฮ่าๆๆ " จากนั้นควันก็เริ่มจางลง เฮจิก็ได้แต่เจ็บใจ ถึงแม้จะได้ของที่ขโมยไปกลับคืนมา แต่สิ่งที่เค้าหวังคือการจับจอมโจร อย่างโจ๊กเกอร์ให้ได้ เฮจิได้แต่พูดออกมาอย่างเจ็บใจ
" หนอยยย .... เจ้าโจ๊กเกอร์ “
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ