มาดามดำตับเป็ด

-

เขียนโดย มะลิหวาน

วันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 10.30 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,553 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน พ.ศ. 2556 11.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ดาวดราม่า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Sweet Jusmine

ตอนที่ 3 ดาวดราม่า


               "พี่เอกคะ"  ดาวหันหน้ามาทางพี่เอก

               "ว่าไงคะน้องดาว" พี่เอกหันมาสบตาดาวด้วยความสงสัย

               "ดาวชอบพี่ค่ะ ชอบมาตั้งนานแล้ว"  

                ดาวพูดคำนี้ออกไปแบบไม่ได้ตั้งใจ ทั้งๆที่บรรยากาศมันไม่ได้เอื้ออำนวยให้โรแมนติคเอาเสียเลย  เธอไม่ได้ตั้งใจจะหลุดคำพูดนี่ออกมาด้วยซ้ำ แต่ไอ้ปากเจ้ากรรมมันดันขยับออกมาตามเสียงในใจซะงั้น  พี่เอกไม่ได้ตอบอะไรกลับมา แต่ทำหน้างงๆเหมือนไม่ได้ยินที่ดาวพูด แต่ดาวรับรู้ได้ว่าพี่เอกได้ยิน เพราะตอนนี้พี่เอกหน้าแดงอยู่ 
                
               "ดาวว่าไงนะ  พี่ไม่ได้ยิน "
               
                ถ้าเป็นนิสัยแบบนางเอกในละครรักโรแมนติค สถานการณ์แบบนี้คงต้องทำเป็นบอกว่าไม่มีอะไร แล้วก็แปลงคำพูดเป็นอย่างอื่นแทน แต่ดาวไม่ใช่นางเอก เธอจึงไม่ยอมปล่อยโอกาสทองให้หลุดมือ ความกล้าแบบสุดๆไม่ได้เกิดบ่อยครั้ง ในตอนแรกดาวแค่อยากแอบบอกตอนพี่เอกเผลอ  ทั้งๆที่รู้จักกันเกือบสิบปี มันยังไม่มีโอกาสเผลอครั้งในเลยที่ดาวจะกล้าพลั้งพูดมันออกไปเท่าตอนนี้   ดาวไม่เคยที่จะกล้าพอ แต่ก็ไม่อยากเก็บความรู้สึกอัดอั้นที่แสนอึดอัด    ไหนๆก็พูดไปแล้ว ดาวก็ขอก็สารภาพซะเลย  ดาวหยุดวิ่งและเดินมาตรงด้านหน้าของพี่เอก ดาวส่งสายตาหวานซึ้งไปที่พี่เอกด้วยความจริงใจ  ในมือของดาวยังคงจับมือพี่เอกอยู่  เพียงแต่ว่าตอนนี้มันกระชับมากขึ้นเป็นพิเศษ


                " พี่เอกคะ " ดาวเรียกชื่อพี่เอกด้วยน้ำเสียงที่หวานย้อย  
พอพี่เอกได้ยินน้ำเสียงของดาว พี่เอกก็ได้แต่ทำหน้าเลิ่กลั่กไปมา ใบหน้าของพี่เอกตอนนี้เป็นสีแดงไปเกือบทั้งหน้า ยิ่งแก้มขาวๆของพี่เอกมันช่วยขับให้ผิวออกสีอย่างชัดเจนมากขึ้น 

                " คะน้องดาว"

                "คือ..ดาวว..." ในขณะที่ดาวกำลังเก้อเขินกับคำพูดของตัวเอง พี่เอกก็รีบสวนคำพูดกลับมาที่ดาวทันที

                "น้องดาว พี่ว่าเหตุการณ์ในห้างคงสงบแล้วหล่ะ นั่นไง พี่น้อยเข้าไปในห้างแล้ว เรากลับไปเถอะ ดูเหมือนควันแก๊สน้ำตาจะจางหมดแล้วด้วย"

                 พี่เอกใช้การเปลี่ยนเรื่องเพื่อเลี่ยงการสนทนา ซึ่งดาวก็เข้าใจว่ามันไม่ได้เหมาะสมที่จะมาสารภาพอะไรตอนนี้ พี่เอกเค้าไม่ใช่โกโบริที่กำลังจะตายซะหน่อย  อังศุมาลินอย่างดาวไม่เห็นต้องรีบบอกรักอะไรเลย  ดาวก็แอบงงตัวเองเหมือนกันว่าผีบ้าอะไรเข้ามาสิงเธอ  ทั้งๆที่ดาวก็รู้ว่าพี่เอกมีแฟนแล้ว แต่ดาวก็คิดว่า เธอเลือกที่จะอยู่กับความเป็นจริงอันน่าเจ็บปวดตรงนี้ ดีกว่าไปหวังละเมอเพ้อภพกับชายปริศนาที่ไม่รู้ตัสำหรับดาวนั้น การบอกรักมันมีความสุขกว่าการแอบรักต้องเยอะ เพราะทั้งการบอกรักและแอบรักของดาวมันมีต้นทางและปลายทางที่เหมือนกัน นั่นก็คือการไม่หวังผลว่าเค้าจะรักเราหรือไม่   ความสุขของการบอกรักคนคนนึง คือการที่ทำให้คนคนนั้นรู้ว่า เค้ายังมีคนที่รักเค้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน ก็คือ ดาว

                             ..........................................................................

                   เมื่อเหตุการณ์ชุลมุนสงบลง คุณหญิงเลอรัศมีก็ขอพบทีมงานทั้งหมดเพื่อมาสอบสวน  ทันทีที่พวกเรามาเข้ามาพบ คุณนายแกก็ทำท่าเกรี้ยวกราดใส่ทุกคนราวกับผีเสื้อสมุทรที่กำลังจะฉีกเนื้อพวกเราออกเป็นเสี่ยงๆ  ขณะที่ทีมงานกำลังจะเริ่มอ้าปากและยกมือขอโทษ คุณหญิงเลอรัศมีก็เหวี่ยงคำถามกราดสวนใส่ทุกคนรัวเป็นปืนกลแทบไม่มีช่องว่างให้พูด


                   " เนี้ยหน่ะรอ บริษัทEvent ที่ทำงานProfessional  แล้วนี่อะไร? แก๊สน้ำตาบ้าอะไรเนี้ย!  เดี๊ยนมาเปิดตัวสินค้านะคะ ไม่ใช่มาก่อม๊อบ!   ทำไม?   ยังไง?  อะไร?  เดี๊ยนไม่เข้าใจ   ใครให้คำอธิบายเดี๊ยนได้ไหมคะ?  ไหนคุณน้อย คุณตอบเดี๊ยนซิว่าไอ้แก๊สน้ำตามันมาได้ยังไงกัน! " 

                   พี่น้อยรีบยกมือไหว้ขอโทษคุณหญิงรัศมี พร้อมรีบอธิบายคำตอบก่อนที่คุณหญิงจะอ้าปากถามอะไรเพิ่ม

                   " คือทางบริษัทเราและตัวน้อยต้องกราบขอโทษคุณหญิงเลอรัศมีมากเลยนะคะ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้   ต้นเหตุมันมาจากการสื่อสารที่เข้าใจผิดตั้งแต่กระบวนการก่อนทำงานแล้วหล่ะค่ะ   ที่เรายังไม่ทราบสาเหตุก็คือ ทำไมฉลากด้านหน้ากระบอกมันคือพลุกระดาษ แต่สารข้างในกับสลักที่ดึงมันถึงเป็นระเบิดแก๊สแบบกระป๋อง  ด้วยเหตุนี้นะคะ มันเลยทำให้ทีมงานเราเข้าใจว่ามันคือพลุกระดาษค่ะ   ตัวของน้อยผิดเองที่ไม่ได้เข้าไปตรวจเช็คทุกอย่างให้ถี่ถ้วน  น้อยขอยอมรับในความสะเพร่าค่ะ ขอโทษจริงๆค่ะคุณหญิง" 


                    "เดี๊ยนไม่สนแล้วหรอกนะ ว่างานมันวุ่นวายเพราะอะไร แต่นี้! ชุดไทยโบราณเมืองละโว้ของเดี๊ยน ทำไมมันขาดอย่างนี้ มันเกิดขึ้นได้ยังไง"

                    " แอ้มผิดเองค่ะคุณหญิง.."  แอ้มเดินก้มหน้าก้มจามาตรงกลางวงสนทนา พร้อมยกมือไหว้ขอโทษคุณหญิงด้วยความสลด

                    "...คือตอนที่เกิดเหตุการณ์ชุลมุน แอ้มแสบตามาก ทำให้แอ้มมองไม่เห็นทาง  แอ้มพยายามจะหนีออกไปจากตรงนั้นให้ช้าที่สุด เพราะแอ้มกังวลว่าชุดที่เลอค่าแห่งสมัยละโว้ที่แอ้มสวมใส่อยู่จะเสียหายหน่ะค่ะ  ยังไงก็แล้วแต่ วินาทีนั้นแอ้มคิดว่าแอ้มจะปกป้องชุดให้สภาพดีที่สุด ถึงแม้จะแสบตามาก.."

                     แอ้มเงยหน้าเพื่อให้คุณหญิงเลอรัศมีเห็นดวงตาของแอ้ม ที่ตอนนี้มันแดงกร่ำราวกับเลือดนก
                    " ..แก๊สน้ำตาไม่อาจทำให้คนคนนึงเป็นอะไรไปได้มาก แต่ชุดที่เลอค่าชุดนี้ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ แอ้มไม่อยากทำให้ความถะนุถนอมของบรรพชน ที่เพียรเฝ้ารักษาชุดนี้มา ต้องมาชำรุดเพราะแอ้มหรอกค่ะ  ฮือๆ  "

                     แอ้มพูดไปพร้อมเสียงสะอึกอื้นร่ำไห้น้ำตาไหลราวกับน้ำตกเอราวัณ   คุณหญิงเลอรัศมีได้แต่มองตาปริบๆด้วยความสงสาร จากสีหน้าที่เกรี้ยวกราด กลับเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เห็นใจเอ็นดูแอ้มไปโดยฉับพลัน   แล้วหันมาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นเรียบขึ้น

                   " เดี๊ยนจะไม่โทษหนูแอ้ม เพราะเธอไม่ได้เจตนา แต่ยังไงเดี๊ยนก็จะเอาความผิดกับคนที่เดี๊ยนฝากฝังให้ดูแลชุดนี้ เธอใช่ไหม ยัยดาว! " 
                   คุณหญิงชี้มาที่หน้ามาที่ดาว
                   
                   " เสียหายเพราะอุบัติเหตุเดี๊ยนจะให้อภัย แต่นี่!  ดูนี่ซิ" คุณหญิงชี้ไปที่เสื้อมุมด้านในของผ้านุ่งและผ้าตาด

                   " เดี๊ยนบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ติดเข็มกลัดใดๆอีก ให้ใช้การผูกทบซ่อนเอา แล้วนี่อะไร เข็มกลัดติดเป็นพืด แถมมีรอยปากกามาร์คเลขไว้อีก นี่มันหมายความว่าไงยะ"

                   ดาวตกใจมากที่เห็นว่าเข็มกลัดและรอยขีดปากกามันปรากฎในบริเวณผ้าจริงๆอย่างที่คุณหญิงพูด  สมองดาวอันฉลาดตอบดาวตอนนี้ได้เลยว่า ใครจะอยู่เบื้องหลังความสกปรกนี้ ถ้าไม่ใช่ยัยปีศาจแอ๊บหน้าหวานอย่างแอ้ม ดาวหันไปมองแอ้มด้วยความคับแค้นโดยหวังว่าจะเจอสีหน้าเยาะเย้ยของแอ้มบนคราบมารยาน้ำตา  แต่แอ้มยังก้มหน้าก้มตาร้องไห้อยู่เหมือนเดิม มิหนำซ้ำยังหันหน้าไปซบที่อกพี่เอกอีกด้วย

                  "ขอโทษนะคะ หนูเองค่ะที่เป็นคนทำ"  จู่ๆทรายเดินแทรกตัวเข้ามาในวงสนทนา  คุณหญิงหันขวับไปที่ทราย และจ้องทรายตาขมึง

                  " อ่อเธอเองเหรอ แล้วจะยังไง จะรับผิดชอบเหรอ เดี๊ยนไม่รอเศษเงินของเธอมาชดใช้ให้หรอกนะยะ เพราะชุดเดี๊ยนนั้นหาค่ามิได้"

                  พี่น้อยที่เงียบอยู่นานเข้ามาพูดเพื่อเกลี่ยสถานการณ์ให้เบาลง

            "คุณหญิงคะ  เด็กคนนี้แค่เป็นเด็กฝึกงานค่ะ อย่าโกรธแกเลยนะคะ ความรับผิดชอบเป็นความรับผิดชอบโดยรวม ยังไงทางบริษัทจะชดใช้ค่าเสียหายทุกอย่างเองค่ะ"
                  คุณหญิงไม่ได้ฟังเสียงของพี่น้อยเลย เธอมองไปรอบๆวงสนทนาแต่แววตาของคุณหญิงเหมือนจะจับจ้องที่ดาวมากที่สุด

            " รับผิดชอบร่วมกันเหรอคะ เดี๊ยนเห็นมีคนออกปากรับผิดแค่สามคน ดีนะคะทีมเวิร์คดีจังเลย พองานดีก็แย่งกับเคลมว่าใครดีใครเด่น แต่พองานพังก็ตัวใครตัวมัน "

                  ดูเหมือนสิ่งที่คุณหญิงต้องการ มันไม่ใช่คำขอโทษ หรือหาตัวการที่ทำเรื่องวุ่นวาย ในแววตาของคุณหญิงตอนนี้มันดูไม่ชอบมาพากล ดาวสามารถจับความรู้สึกได้ว่า คุณหญิงกำลังล่อให้ดาวเข้ามากินเบ็ดที่วางอยู่   ตอนนี้ดาวพร้อมจะเดินหมากเกมนี้แล้วหล่ะ

                  " คุณหญิงคะน้อยบอกแล้วไงคะว่าน้อยจะจัดการให้ คือ..."

                  " ดาวขอโทษค่ะ ดาวผิดเอง ดาวเป็นคนที่คุณหญิงไว้ใจให้ดูแลชุด  คุณหญิงอย่าโทษทรายเรื่องชุดเลยนะคะ ดาวเป็นหัวหน้าดูแลทรายอีกที ดาวควรที่จะเช็คและกำชับทรายอีกครั้งแต่ดาวก็ไม่ถี่ถ้วนเอง  ส่วนเรื่องแก๊สน้ำตา ดาวก็เป็นควบคุมฝ่ายจัดซื้อเรื่องพลุกระดาษ  ดาวสะเพร่าที่ทดสอบพลุกระดาษแค่สองอัน ตอนนั้นมันก็ออกมาเป็นกระดาษ แต่ไหงอันอื่นมันออกมาเป็นแก๊สก็ไม่รู้ค่ะ ดาวขอโทษจริงๆนะคะคุณหญิง เอาเป็นว่าดาวขอรับผิดชอบทั้งหมดเองค่ะ" ทันทีที่ดาวพูดแทรกขึ้นมา คุณหญิงมองหน้ามาทางดาวด้วยความพอใจ

                  " รับผิดชอบเหรอ? ลูกกระจ๊อกรับใช้ในบริษัทอย่างเธอ จะมาผยองรับผิดชอบงั้นหรอ? จะลาออก หรือจะพักงานดีหล่ะจ๊ะ"

                  ดาวก็ไม่ยี่หระเลยสักนิดกับคำพูดคุณหญิง เธอสูดหายใจเข้าท้องแล้วเงยหน้าเชิด เธอกลับจ้องตากลับมาที่คุณหญิงเลอรัศมีด้วยความเข้มแข็ง แต่คุณหญิงก็เชิดหน้าหนีไปทางอื่นอย่างไม่แยแส

                  " เอาหล่ะคุณหญิง  ความรับผิดชอบที่คุณหญิงต้องการมันก็คงจะสะใจ อุ๊ย! มันต้องใช้ว่าสาสมใช่ไหมคะ  ดาวนี่ภาษาไม่กระดิกเหมือนคุณหญิงเลยนะคะ เลยใช้คำผิดอยู่เรื่อยเลย ลิ้นมันพันหน่ะค่ะ.. "  ดาวเสแสร้งทำท่าว่าลิ้นมันพันกันอยู่ แต่จริงๆแล้วเธอตั้งใจพูดผิด

                  "... เอาเป็นว่าดาวจะรับผิดชอบตามความสมควรและเหมาะสมนะคะ  ไอ้เรื่องชุดไทยโบราณเมืองพะโล้เนี้ย.."  คุณหญิงหันหน้าขวับมาทันทีด้วยความโกรธ แต่ไม่ทันได้อ้าปากเถียงกลับ ดาวก็รีบพูดแก้คำทันที

                 " ว้าย โทษทีค่ะ ดัดฟันมาเลยดัดจริตไปหน่อย พูดเลยไม่ชัด  คือชุดไทยเมืองละโว้ของคุณหญิงเนี้ยนะคะ ดาวจะจัดการซ่อมให้ดีที่สุดนะคะ ดาวเคยทำงานกับอาจาร์ยเผ่าทอง คุณหญิงก็คงรู้จักนะคะ อาจาร์ยแกรู้ดีค่ะว่าผ้าอันไหนมันของแท้ของเทียม เดี๋ยวดาวจะเอาของแท้มาสอยซ่อมให้เลยนะคะ"

                  หน้าของคุณหญิงซีดลงและเล่หางตามาทางดาวอย่างลับลมคมใน   ดาวหยิบชุดไทยนั้นขึ้นมาพาดที่ข้อแขนเพื่อจะพับเก็บ แทนที่ดาวจะเก็บใส่ถุงคลุมเดิมอย่างดี  ดาวกลับพับมันใส่ถุงพลาสติกเซเว่นแทน  คุณหญิงเห็นเข้าเลยหันหน้ามาประจันกับดาวเพื่อจะชี้หน้าด่า แต่ดาวก็รีบพูดใส่กลับเป็นประทัดไฟจีน

               " ไม่ต้องห่วงค่ะไม่ต้องห่วง ถุงเซเว่นมันเหนียว กันน้ำดี เดี๋ยวดาวจะซ้อนให้อีกใบนะคะ นี่ไงคะถุงสบู่เลอลักษณ์ ท่าทางจะใช้ดีนะคะ เหนี๊ยวเหนียว   อ่อ และก็ไอ้เรื่องความเสียหายของคนในงาน ดาวจะตามไปดูแลทุกส่วนกระบวนการแน่นอนค่ะ  เอ...แต่ดูเหมือนคุณหญิงจะไม่เป็นอะไรนะคะ แหมมม..เตรียมแว่นตาดำมาด้วยอ่ะ แสงไฟในห้างแยงตาหรอคะ ถึงใส่แว่นดำเข้าห้าง  ทำหยั่งกะรู้แหน่ะว่าจะมีแก๊สน้ำตา เดจาวูแรงนะคะคุณหญิง" 
               คุณหญิงรีบเอาแว่นตาดำที่คาดไว้ที่คอเสื้อออกทันทีที่ดาวทักเรื่องแว่นตาดำ

               " และสุดท้ายนะคะ ถ้าคุณหญิงกลัวว่าชื่อเสียงของสินค้าคุณหญิงจะเสียหาย ดาวว่างานนี้คุณหญิงคงขายสบู่ดีขึ้นนะคะ เพราะว่าจะมีแต่คนสงสารที่โดนคุณหญิงที่บริษัทEventทำงานพินาศซะขนาดเนี้ย  มิหนำซ้ำคุณหญิงไม่ต้องเสียค่าโฆษณาชวนเชื่อเลยค่ะ เพราะว่าสบู่สมุนไพร คุณหญิงเนี้ยมีสรรพคุณ แก้แผลผื่นแดงรได้ด้วยนิคะ แค่ให้คนที่ผื่นแดงขึ้นเพราะแก๊สน้ำตาออกมาพูดนิดพูดหน่อยว่าใช้แล้วหาย โอ๊ยยย คนแห่มาซื้อแน่ค่ะ เอ๊ะ แต่ไม่รู้มันแก้กากด้วยป่ะคะ อุ๊ยตาย ลืมคำควบกล้ำ คือดาวหมายถึงกลากหน่ะค่ะ" 

                คุณหญิงได้แต่นิ่งอึ้ง กลืนน้ำลายลงคอไปหลายอึก แต่ก็เถึยงแทรกดาวไม่ทัน
               " ทุกอย่างที่ดาวพูดเคลียร์นะคะคุณหญิง จบป๊ะคะ? คุณหญิง เรอออ ลัด ซะหมีมมมมมมมม "
                ดาวกระดกลิ้นเน้นเสียงคำควบกล้ำที่ ร.เรือ ตรงคำว่า เรอ  เพื่อให้เป็นอีกความหมายนึง แถมดาวยันลากเสียงยาวคำว่าหมีอย่างยียวน   ดาวหันหน้าหนีเดินออกไปตรงจุดนั้น ทั้งๆที่ในใจเธอตอนนี้แทบอยากจะเอาสบู่ยัดปากยัยคุณหญิงหมีสักสิบก้อน 
               " ดาว!  ขอโทษคุณหญิงเดี๋ยวนี้"  เสียงพี่น้อยอันเย็นเฉียบเสียบมาที่ด้านหลัง ทำให้ดาวต้องหันกลับไปโดยทันที
               " ขอโทษค่ะ....พี่่น้อย"  ดาวหันไปขอโทษพี่น้อยแทนที่จะขอโทษคุณนาย
               " ขอโทษที่เป็นต้นเหตุ ดาวขอไปสงบสติอารมณ์นะคะ ขอบคุณค่ะ"
คราวนี้ดาวรีบเดินออกไปโดยเร็วเพื่อให้พ้นจากตรงนั้นที่สุด ถ้าขืนดาวอยู่ต่อ รับรองว่าภูเขาไฟที่กำลังเดือดมันจะมาปะทะใส่ยัยคุณหญิงหมีแน่นอน
               " ดาว ถ้าดาวเดินออกไป แสดงว่าดาวเลือกที่จะรับผิดชอบนี้จริงๆ และถ้าดาวยังไม่มาขอโทษคุณหญิงท่าน พี่คงพิจารณาให้ดาวต้องพักงานชั่วคราวนะ"  คำพูดคำนี้ของพี่น้อยมันทำให้ดาวหยุดเดิน ดาวอึ้งกับสิ่งที่พี่น้อยพูด แต่ดาวก็รู้ว่ามันสมควรจะเป็นอย่างนั้น ดาวเดินออกไปทันทีโดยไม่สนใจตะโกนเรียกของพี่น้อย  
                ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนตัวคนเดียวและโดดเดี่ยว แต่ที่ดาวเจ็บใจที่สุดก็คือสายตาของยัยแอ้มที่จ้องมาทางดาวตอนดาวเดินออกไป  แอ้มมองมาที่ดาวอย่างสะใจแบบผู้ชนะ มิหนำซ้ำแอ้มก็ซบตรงอกพี่เอกให้แน่นขึ้นเพื่อเยาะเย้ยดาว ตรงจุดนั้นพี่เอกไม่มีแม้กระทั่งการส่งแววตาห่วงใยหรือสนใจมาทางดาวเลยสักนิด ดาวไม่คิดน้อยใจในจุดนั้น เพราะคนที่เค้าต้องดูแลอยู่ตรงอ้อมอกเค้าแล้ว นั่นก็คือแอ้ม 


..........................................................................


               "ฮัลโหล สมใจเหรอ ฉันอยากเจอแกว่ะ " ดาวโทรศัพท์หาเพื่อนรักสมัยมัธยมที่ต่างจังหวัด เพื่อนของเธอคนนี้เป็นคนที่จริงใจกับเธอที่สุดและเสมอมา ถึงแม้ว่าจะเป็นคนบอกคนอื่นในตอนนั้นก็เถอะว่าดาวผายลม แต่นั้นก็ทำให้เรื่องราวดีๆเริ่มต้นเกิดขึ้นระหว่างดาวกับพี่เอก

                  "โทรมาเนี้ย ฉันรู้เลยว่าแกโดนยัยแอ้มเล่นงานอีกแล้วใช่มะ แกจะไปยอมทำไมวะ" สมใจพูดให้กำลังใจเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย

                  " ยัยแอ้มก็ส่วนนึง แต่คราวนี้นะ มากันเป็นชุดเลย เฮ้อ ฉันเหนื่อยว่ะ " ดาวนั่งตรงบันไดหนีไฟเอากอดเข่าตัวเองและก้มหน้าซบลงที่เข่าตัวเองด้วยความเหนื่อยล้า

               " มันเกิดอะไรขึ้นวะแก เล่าให้ฉันฟังสิ" 
            
++++++++

              ดาวเริ่มเล่าเหตุการณ์ตอนที่พี่น้อยสั่งเธอพักงาน แล้วพี่น้อยก็มาขอคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวบนรถยนตร์  

                  "ดาว พี่จำเป็นต้องพักงานดาวชั่วคราวนะ" 

               "ค่ะดาวรู้ว่าดาวไม่มีมรรยาท แต่ดาวไม่เข้าใจว่าทำไมพี่น้อยต้องเทิดทูนยัยคุณหญิงนั่นด้วยค่ะ ลูกค้าห่วยแบบเนี้ยเราไม่จำเป็นต้องสนใจหรอกค่ะ พี่ก็น่าจะรู้นะคะว่าเรื่องแก๊สน้ำตามันไม่ชอบมาพากล เราไม่เคยพลาดกับเรื่องแบบนี้เลย"

               "ก็เพราะพี่รู้หน่ะซิว่าเราไม่เคยพลาด และพี่ก็รู้ด้วยว่ามันเป็นแผนของคุณหญิงที่จะใช้สถานการณ์สร้างข่าวสร้างยอดขาย เป็นอย่างที่ดาวมองแหล่ะถูกแล้ว งานนี้ไม่ได้มีคนเสียประโยชน์ มีแต่คนได้ประโยชน์กับสถานการณ์น่าสงสารนี้ทั้งนั้น"

               " แล้วพี่จะยอมให้บริษัทเสียชื่อกับเรื่องแบบนี้หรอคะ ดาวไม่เห็นว่ามันจะมีประโยชน์สำหรับฝ่ายเราเลยสักนิด"

               " ใครว่าเราเสียประโยชน์หล่ะ  บริษัทเรากับตัวสินค้าคุณหญิง เราได้ประโยชน์คนละห้าสิบห้าสิบต่างหากหล่ะ" คำตอบของพี่น้อยทำให้ดาวงงไปใหญ่ และตกใจที่เห็นรอยยิ้มเล็กอย่างมีความสุขออกมากจากพี่น้อยทั้งๆที่ไม่ควรจะเป็น


                "ดาวไม่เข้าใจคะ"

               " ดาวอาจจะไม่เข้าใจว่านี้คือเกมทางธุรกิจ และมันก็คือละครสร้างกลยุทธ์ ดาวคงไม่รู้หรอกว่า ผู้บริโภคชอบเสพข่าวในแง่ลบมากกว่าแง่ดี  คนไทยลืมง่ายและชอบลือ  อย่างมากคนก็โทษความสะเพร่าของบริษัทเรา ในระหว่างนี้เนี้ยนะ บริษัทเรากับทางคุณหญิงก็เล่นละครออกสื่อทะเลาะกันไปมา  แกล้งหาเรื่องฟ้องร้อง แล้วค่อยมาปรองดองทีหลัง "

              " บริษัทเราดังอยู่แล้ว มันไม่มีความจำเป็นเลยนะคะที่จะขายตัวเองในแง่ลบแบบเนี้ย อย่างนี้ก็มีจะเจ๊งกับเจ๊งสิคะพี่น้อย"

              "มันมีอะไรมากกว่านั้นที่ดาวยังไม่รู้นะ ถ้าจะอธิบายก็คงยาว ตอนนี้พี่บอกได้แค่ว่า พี่กำลังจะออกจากบริษัท หลังจากดาวกลับมาจากพักงานก็คงไม่เห็นพี่แล้วหล่ะ"

              "ยังไงดาวก็ไม่เข้าใจ ตอนนี้ดาวรู้อย่างเดียวว่าพี่รู้เห็นเป็นใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
 ดาวชอบในความเป็นผู้นำของพี่นะคะ พี่น้อยคือแบบอย่างของดาว  ดาวชื่นชมพี่มากค่ะในด้านการทำงาน แต่ด้านนิสัยที่ดาวรู้จักพี่ในวันนี้  พี่มันโคตรอสรพิษเลยค่ะ มิน่าหล่ะเค้าถึงเรียกพี่ว่าซูสีไทเฮาแห่งวงการEvent  ดาวไม่รู้นะคะว่าพี่ทำเพื่ออะไร แต่พี่กลับรับแค่ผลประโยชน์ แล้วสุดท้ายพี่จะถีบหัวบริษัททิ้ง  ถ้าดาวไม่เกรงใจ ดาวคงด่าพี่ว่าวรนุชแล้วหล่ะค่ะ สวัสดีค่ะ"
  ดาวพูดเสร็จก็ออกจากรถไปด้วยความโมโหสุดๆ 


+++++

                  ทันทีที่ดาวเล่าเรื่องจบ สมใจก็ด่าออกมาด้วยความแค้นใจแทนเพื่อน ด้วยสำเนียงเหน่อแบบสุพรรณของสมใจ เวลาด่าอะไรออกไปมันเลยดูตลก  จากที่ดาวเศร้าหดหู่ ตอนนี้เธออารมณ์ดีขึ้นมาทันที

                 "ขอบใจนะเว้ย สมใจ ตอนนี้ฉันก็ว่างงานแหล่ะ ฉันว่าพรุ่งนี้หรือมะรืนฉันไปหาแกที่สุพรรณนะ แล้วเจอกันนะเว้ย ขอบใจนะแก" 

                  หลังจากดาววางสายจากสมใจ ดาวก็เดินโต๋เต๋ไปเรื่อยๆริมถนนอย่างเหม่อลอย

                 "แป๋น แป๋น แป๋น" เสียงแตรรถยนต์ดังมาจากด้านหลัง

                 "ดาว ดาว "  
                 เสียงเรียกของพี่เอกดังมา ดาวหันไปดูด้วยความดีใจและรีบวิ่งไปที่รถพี่เอกทันที

                 "จะกลับหรือยัง ไปกลับพี่ต่อได้ไหม พี่อยากดื่มหน่ะ" 
                 สายตาและเสียงพี่เอกตอนนี้เหมือนคนที่มีความทุกข์อะไรบางอย่าง และต้องการใครสักคนมาพยุงหรือคอยเป็นเพื่อน ดาวไม่ปฎิเสธตามคำขอของพี่เอก ดาวรีบวิ่งไปขึ้นรถของพี่เอกโดยทันที นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ดาวได้นั่งรถพี่เอก เพราะทุกครั้งๆที่พี่เอกจะไปส่งดาวที่บ้าน ในรถคันนั้นจะมีแอ้มนั่งอยู่ด้วย ดาวเลยปฎิเสธที่จะไปกับพี่เอกในครั้งนั้น

                 " พี่ไม่รู้จะคุยกับใคร เมื่อกี้พี่เพิ่งทะเลาะกับแอ้มมา เราเถึยงกันเรื่องดาว ทั้งๆที่พี่ก็อธิบายเป็นครั้งที่ล้านแล้วว่าไม่มีอะไร  แต่แอ้มเค้าก็ไม่เชื่อ"


                 ไม่มีอะไร.....คำนี้ของพี่เอกมันช่างเสียดมาที่ใจดาวเหลือเกิน แต่ดาวก็รู้ว่าสิ่งที่พี่เอกทำมันถูกแล้ว พี่เอกมีแฟนแล้วไม่สมควรคิดอะไรกับใครอีก แล้วคนอย่างดาวมันน่าหึงน่าหวงนักหรือไง แอ้มถึงจองล้างจองผลาญซะขนาดนี้ 

                 " แอ้มบอกจะขอเลิกกับพี่ ถ้าพี่ไม่หาทางไล่ดาวออกจากบริษัท  แล้วจะให้พี่ทำยังไงหล่ะดาว   แล้วพอพี่ไม่ยอม แอ้มเลยขอเลิกพี่และบอกพี่ว่าอย่ามายุ่งกันอีก"

                 ดาวทำอารมณ์ไม่ถูกเลยว่าจะเสียใจหรือดีใจดีที่แอ้มขอเลิกพี่เอก นางมารร้ายในตัวดาวภาวนาให้พี่เอกเลิกกับแอ้มจริงๆถาวร  แต่นางฟ้าในใจดาวก็อยากจะช่วยให้เค้าคืนดีกัน  ดาวสับสนกับอารมณ์ของตัวเองในนาทีนี้อย่างมาก การที่พี่เอกปฏิเสธคำขอของแอ้ม มันแปลความหมายแบบเข้าข้างตัวเองว่าพี่เอกเลือกดาว  แต่จริงๆแล้วมันก็ไม่สมเหตุสมผลเลยถ้าจะให้พี่เอกไล่ดาวออกเพราะแอ้มหมั่นไส้   

                " ดาว ช่วยพี่ด้วยนะ พี่ไม่อยากเลิกกับแอ้ม"
                พี่เอกโน้มตัวมากอดดาวแล้วร้องไห้เหมือนเด็กๆ ดาวแทบไม่เคยเห็นพี่เอกร้องไห้อ่อนแอแบบนี้มาก่อนเลย  แสดงว่าพี่เอกคงเสียใจและรักแอ้มมาก แต่ไอ้คำว่าช่วยพี่ด้วยนะของพี่เอก มันหมายความว่ายังไง 

                "ช่วยอะไรคะพี่เอก "


               พี่เอกมองหน้าดาวด้วยแววตาวิงวอน แล้วจับมือดาวขึ้นมาซบที่แก้มพี่เอก
               " ดาวลาออกจากบริษัทได้ไหม ไหนๆดาวก็ทำเรื่องขนาดนี้แล้ว มันคงไม่มีใครสงสัยหรอกนะ"

               ดาวได้แต่นิ่งไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น ทำไม ทำไม เธอถึงเจ็บปวดกับคำพูดพี่เอกสุดๆ ดาวผละมือตัวเองจากแก้มพี่เอก แล้วตอบพี่เอกไปด้วยน้ำเสียงที่ยินดีทั้งๆทีจริงๆแล้วมันซ่อนความเจ็บปวดไว้

              " ค่ะ พี่เอก จริงๆแล้วพี่น้อยก็คงไล่ดาวออกอยู่แล้ว เพราะเมื่อกี้ดาวก็มีเรื่องทะเลาะกับพี่น้อยมา พี่เอกบอกแอ้มได้เลยค่ะว่าดาวออกแน่นอน"

             ใบหน้าของพี่เอกเปลี่ยนเป็นร่าเริงอย่างสุดๆ แล้วก็เอามือมาลูบที่หัวดาวเบาๆ
             "ขอบใจมากนะดาว น้องรักของพี่ เดี๋ยวพี่จะฝากงานให้กับเพื่อนๆพี่คนอื่นนะ"

              ดาวได้แต่นิ่งไม่ตอบอะไร แต่ดูเหมือนพี่เอกก็ไม่ได้สนใจความเศร้าของดาวเลยสักนิด ดาวพยายามปลอบตัวเองว่า รักแท้คือการเสียสละ ถ้าเราเป็นพี่เอก เราก็คงทำเพื่อคนที่เรารัก อีกอย่างนึง พี่เอกก็ไม่ได้ชอบเราเลย

              "พี่เอกคะ ดาวขอถามอะไรหน่อย"

              "ถามอะไรคะ น้องดาว"

              "ตอนที่เราวิ่งหลบแก๊สน้ำตาด้วยกัน แล้วดาวพูดบางอย่างกับพี่เอกไป ทำไมพี่เอกต้องหน้าแดงด้วยคะ"

              " พูดอะไรหรอ พี่จำไม่ได้เลยอ่ะ  แต่ที่หน้าแดงก็เพราะหน้าพี่โดนแก๊สน้ำตาเต็มๆเลยไง ตอนนั้นพี่เดินนำทางอยู่นี่คะ หน้าพี่คงแพ้อ่ะ หลังจากนั้นนะ ผื่นขึ้นเต็มเลย แต่นี่หายแล้วหล่ะ"

              คำตอบของพี่เอกมันชัดมาก ว่าดาวคิดไปเองว่าพี่เอกหน้าแดงตอนดาวสารภาพรัก

             " งั้นเราไปดื่มให้ลืมเศร้ากันดีกว่าเนอะ พี่รู้ว่าวันเนี้ยน้องดาวเจอเต็มๆเลย และพี่รู้ว่าดาวก็ไม่ผิดเรื่องชุดไทยกับแก๊สน้ำตา งานนี้พี่เลี้ยงเอง"  พี่เอกเอามือของพี่เอกมาลูบหัวดาวเบาๆอีกครั้ง แล้วก็จับมาที่มือดาวเหมือนให้กำลังใจ 

             สมองดาวตอนนี้มันโหวงเหวง ส่วนหัวใจมันก็ว้าเหว่ ทำไมความโชคร้ายในวันนี้ไม่ยิงให้ดาวตายทีเดียวจบ ทำไมจะต้องมีเรื่องแย่ๆซัดเข้ามาซ้ำๆให้ช้ำตายทีละช้าๆ แต่คำพูดของพี่เอกครั้งนี้มันเหมือนกระสุนปืนใหญ่ที่ยิงมาจุกตรงหน้าอกดาวอย่างจัง

             ในขณะที่รถแล่นไป ดาวมองเงาตัวเองในเงาสะท้อนกระจกด้านข้าง  ความน้อยเนื้อต่ำใจมันเข้ามาในสมองดาวในทุกๆครั้งที่เธออ่อนแอ ตอนนี้ดาวคิดว่าเธอมัวแต่มองหัวใจของตัวเองจนลืมมองตัวเธอเอง ว่าเธอคือใคร เธอคือสาวอ้วนเตี้ย ผิวดำกร้านเป็นถ่าน แถมหน้าก็กลมเป็นกระทะ  คนแบบเธอ เจ้าชายที่ไหนเค้าจะมากล้าจุมพิตเพื่อช่วยชีวิตจากพิษแอปเปิ้ล    บทเรียนนี้สอนให้ดาวรู้ว่า จงอย่าเชื่อหัวใจตัวเองมากกว่าเชื่อความคิดจากสมอง 


..........................................................................


ขอบคุณที่ติดตามอ่านหรือแวะเข้ามาดูกันนะจ๊ะ ยังไงก็คอมเม้นติติงกล่าวชมได้ทุกอย่างเลย เม้นกันหน่อยเนอะ จะได้รู้ว่ามีคนอ่านหรือเปล่า ขอบคุณจริงๆ  แล้วอย่าลืมดูกันนะว่าดาวจะโกอินเตอร์ไปเจอรักแท้ที่อเมริกาได้ยังไง รับรองรับประกันความสนุกจ้าาาาาาา


 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา