มาดามดำตับเป็ด

-

เขียนโดย มะลิหวาน

วันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 10.30 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,556 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน พ.ศ. 2556 11.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) พระเอกขี่ม้าขาวกับสาวดำตับเป็ด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
sweet jusmine
บทที่1 พระเอกขี่ม้าขาวกับสาวดำตับเป็ด
              ในที่สุดดาวก็มาถึงงานEventที่พารากอนซึ่งวันนี้เป็นงานเปิดตัวสบู่สมุนไพรไทยยี่ห้อ''เลอลักษณ์''   งานนี้ดาวรับผิดชอบงานตั้งหลายอย่าง เรียกได้ว่าสากกระเบือยันเรือรบเลยจริงๆ ทันทีที่ดาวมาถึงและยังไม่ได้อ้าปากสวัสดีพี่น้อยซึ่งเป็นเจ้านาย พี่น้อยก็หันมาสั่งงานกับดาวอย่างฉับไว
“ดาวรีบไปที่ห้องแต่งตัวเลยนะ เอาชุดไปให้คุณแอ้มแล้วก็เจ้าเอกมันใส่ ส่วนนี้กระเป๋า เอาไปให้คุณแอ้มด้วย เมื่อกี้หล่อนลืมไว้ในรถ เรายังพอมีเวลาก่อนรันทรูนะ รีบไปให้ด่วนนะจ๊ะดาว”พอพี่น้อยสั่งเสร็จ พี่น้อยก็หันไปสั่งงานกับลูกน้องคนอื่นๆต่ออย่างเคร่งเครียด  งานนี้ถือว่าดาวรอดตัวไปที่มาสาย เพราะว่าเธอมาในจังหวะที่งานชุลมุนวุ่นวายกันอยู่ แต่จบงานมีหวังโดนเก็บบัญชีย้อนหลังอย่างละเอียดจากพี่น้อยแน่นอน
 
             ''พีน้อย'' เธอเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบสุดๆ เธอเก่งรอบด้านยิ่งกว่าผู้ชายซะอีก ในวงการขนานนามเธอว่าซูสีไทเฮาแห่งวงการEvent คนในวงการบันเทิงโดยเฉพาะศิลปินดาราล้วนแต่เกรงใจพี่น้อยกันทุกคน ก็แน่แหล่ะ คนที่จะพิจารณาว่าจะจ้างใครมาโชว์ตัวงานevent ก็คือพี่น้อยคนเดียวเท่านั้น ขืนดาราคนไหนทำตัวเรื่องมากแข็งข้อหล่ะก็ อดงานEventไปอีกนาน  ใครใครก็อยากร่วมงานกับพี่น้อย เพราะงานพี่น้อยแต่ละงานได้ค่าตัวค่อนข้างดีทีเดียว ถ้าดาราคนไหนทำงานEventกับพี่น้อยซักสามงาน ไม่นานดาราคนนั้นอาจซื็อกระเป๋าHermes มาถือเล่นได้เลยทีเดียว               แต่สำหรับดาว พนักงานเงินเดือนสามหมื่นกว่า คงไม่มีปัญญาซื้อแน่นอน ตัวดาวเองก็คงไม่ทะเยอทะยานอยากได้ในสิ่งที่ตัวเองไม่เหมาะสม  เพราะความเหมาะสมของดาว คือการใช้เงินให้เหมาะสมกับสถานะของตนเอง
++++
              ดาวไม่รอช้ารีบวิ่งตรงปรี่ไปที่ห้องแต่งตัว  ทันทีที่ดาวเปิดประตู ภาพที่เธอเห็นคือ แอ้มกำลังเอาหน้าคลอเคลียไปที่คอพี่เอก  ดาวเลยรีบปิดประตูอย่างแรงด้วยความตกใจ แล้วเพียงชั่วแวบเดียวประตูก็เปิดออกเสียงดังปะทะมาที่หน้าของดาวอย่างจัง ใบหน้าบึ้งตึงโผล่ออกมาที่หน้าประตู พร้อมท่าทางไม่พอใจอย่างสุดๆกับการโดนขัดจังหวะ
“อ่อ อีดำ แกนี่เอง ที่ไร้มารยาท ฝาประตูเค้าไว้ให้เคาะนะยะ หรือต้องให้ฉันเคาะกระโหลกแกด้วยหลังแหวนของฉันก่อนฮ๊ะ!” แอ้มโชว์แหวนทองทับทิมวงเบ้อเริ่มให้ดาวดู และทำท่าจะโขลกไปที่หัวของเธอ ดาวก็ได้แต่ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม เพราะดาวก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะคนอย่างแอ้ม แค่คำว่าขอโทษก็คงไม่จบ นอกจากโดนด่าหรือโขลกสับจนสาใจ แอ้มถึงจะยอมจบ
 
“ น้องแอ้มคะอย่าไปว่าดาวเค้าเลย" เสียงของพี่เอกดังมาจากด้านหลังและเดินตามมาที่หน้าประตู"เค้าคงไม่ตั้งใจหน่ะ ก็เมื่อกี้แอ้มบอกให้คนไปหยิบกระเป๋ามาให้ไม่ใช่เหรอ นี่ไง ดาวเค้าเอามาให้แล้ว อย่าอารมณ์เสียสิคะ อีกครึ่งชั่วโมงน้องแอ้มจะโชว์ตัวแล้วนะคะ เดี๋ยวรอยริ้วขึ้นหน้ามันจะไม่สวยนะคะ รีบไปแต่งหน้าเพิ่มที่ห้องด้านบนเถอะ ทางนี้พี่จัดการเองนะคะ”
พี่เอกพูดกับแอ้มด้วยท่าทางอ้อนว้อนจนแอ้มหมดฤิทธิ์ไปโดยปริยาย และแอ้มเดินออกจากห้องไปอย่างง่ายๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แถมพี่เอกยังส่งรอยยิ้มให้กำลังใจมาทางดาวอีกด้วย มันเป็นรอยยิ้มที่คุ้นเคย รอยยิ้มกว้างๆอย่างจริงใจ พี่เอกมักจะเป็นคนที่มาช่วยดาวได้ในทุกสถานการณ์คับขันแบบนี้เสมอ ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งที่ล้านแล้วก็ได้ที่พี่เอกใช้ความอบอุ่นอย่างละม่อมจัดการกับยัยนางแบบขี่วีนอย่างยัยแอ้ม แน่หล่ะพี่เอกและแอ้มเพิ่งเป็นแฟนกันได้สองเดือน ยัยแอ้มก็ต้องยอมเป็นธรรมดา แทบไม่น่าเชื่อว่าคนดีๆอย่างพี่เอกจะมาคบหาดูใจกับยัยแอ้ม  หน้าที่การงานดี นิสัยดีและหน้าตาก็ดี แบบพี่เอกเนี้ยมันไม่คู่ควรกับยัยปีศาจหน้าหวานอย่างยัยแอ้มเลยสักนิด
               พี่เอกไม่ใช่เพียงเจ้านายที่แสนดีแต่ยังเป็นชายในฝันที่แสนรักของดาวมาตลอด เธอแอบรักพี่เอกมาตั้งนานแล้ว ซึ่งพี่เอกเคยเป็นรุ่นพี่โรงเรียนมัธยมเดียวกับดาว  เพียงแค่ครั้งแรกที่ดาวเห็นพี่เอกหน้าสนามโรงเรียน ซึ่งตอนนั้นพี่เอกกำลังเรียนวิชากระบี่กระบอง ตอนนั้นดาวตกหลุมรักเข้าอย่างจัง เพราะว่าพี่เอกหน้าตาเหมือนดาราหนังจีนที่ชื่อ กูเทียนเล่อในมังกรหยกอย่างมาก พี่เอกทั้งขาว ตี๋ มีลักยิ้ม เนี้ยแหล่ะเอี้ยก๊วยตัวจริงหลุดออกมาจากมังกรหยกชัดๆ ส่วนดาวเธอไม่คิดว่าเธอจะเหมาะกับบทเซียวเหล่งนึ่ง เพราะนางสวยเรียบร้อยแบบเย็นๆ อย่างเธอต้องเป็นอึ้งย้งผู้ร่าเริงแก่นแก้วแสนซน  ทุกครั้งที่ดาวพูดเรื่องพี่เอกให้ในวงเพื่อนฟัง เธอมักใช้นามแฝงในการเรียกพี่เอกว่า “พี่ตี่ตี๋” หรือ "เอี้ยก๊วย"               ในการรู้จักอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างดาวและพี่เอกไม่ได้น่าประทับใจเท่าไหร่นัก แต่ดาวยังคงจำได้ดีเสมอมา วันนั้นเป็นเย็นวันซ้อมเชียร์กีฬาสีที่สนามบอลหลังโรงเรียน
 
“ สีแดงน่ารัก คึกคักเวลาลงเล่น สีแดงใจเย็นๆ เวลาลงเล่น น่ารักน่ารัก ....”
                เสียงกองเชียร์สีแดงผสมเสียงตีกลองรัวเร้ากันในสนามฟุตบอลกันอย่างสนุกสนาน  ซึ่งทีมเชียร์จะใช้เด็กม.ต้นทั้งหมดขึ้นแสตนด์เชียร์ และดาวก็เป็นหนึ่งในนั้น เรียกได้ว่าดาวเสียงดังและโดดเด่นที่สุดในกลุ่มกลุ่มคนเชียร์ทั้งหมด ดาวทั้งแก่นซนและมีคาแร็กเตอร์เป็นเอกลักษณ์ หรืออัปลักษณ์ก็ไม่รู้ เพราะบรรดาจะแซวทุกๆครั้งว่า"น้องดำ"บ้างหล่ะ "ยาย่าแอฟริกา"บ้างหล่ะ จนทำให้ดาวเป็นที่จดจำของรุ่นพี่และเพื่อนๆ สิ่งที่ทำให้ดาวไม่สนใจการล้อจากบรรดารุ่นพี่ปากมอมก็คือ พี่เอก เพราะว่าพี่เอกเป็นประธานสีแดง ดังนั้นพี่เอกจะมาตรวจซ้อมเชียร์ในทุกๆครั้ง ดาวคิดว่าแค่ได้เห็นหน้าหล่อๆและลักยิ้มน่ารักๆของพี่เอก แค่นี้ดาวก็อิ่มแล้ว พี่เอกจะมาพูดบอกข่าวสารหรือให้กำลังใจน้องๆในตอนท้ายของการซ้อมเชียร์ทุกครั้ง ไม่ว่าพี่เอกจะพูดอะไร มันฟังดูแล้วอบอุ่นมีชีวิตชีวามากๆสำหรับดาว
“เอาหล่ะครับน้องๆ วันนี้ทำได้ดีมาก ถ้าพร้อมเพรียงกันแบบนี้นะ พี่มั่นใจว่าสีเราต้องชนะเชียร์แน่นอน ซ้อมเหนื่อยนะน้องๆ แต่ไม่ต้องห่วงพี่มีรางวัลพิเศษให้พวกเราทุกคนเลย  แต่ก่อนจะบอกว่ารางวัลเป็นอะไร วันนี้หรีดจะมาขอซ้อมเพลงใหม่กับกองเชียร์หน่อยนะ วันนี้เค้าขอซ้อมเพลงซูซ่ากับเสต็ปมืออะไรซักอย่างกับพวกเราหน่ะ  เดี๋ยวให้พี่กิ่งหัวหน้าหรีดเค้าอธิบายหล่ะกัน”
                  พี่เอกผายมือเชิญพี่กิ่งและทีมหรีดเดอร์เข้ามาที่หน้าแสตนด์ เหล่าเชียร์หรีดเดอร์ประจำสีแดงเดินเชิดหน้าสลอนเข้ากันเป็นแถว ตัวดาวเองก็เคยเข้าไปคัดตัวกับเค้าเหมือนกัน แต่สิ่งที่ไม่ผ่านคือดาวเตี้ยไปจึงทำให้การวางตำแหน่งและสัดส่วนมันไม่สวยงาม แถมคนผิวแบบดาว จะมาใส่ชุดหรีดสีแดงให้เหมือนอีกาคาบพริกก็คงกลายเป็นดาวดับแน่นอน เพราะหรีดเดอร์ทีมาแต่ละคนวันนี้มีแต่หมวยๆขาวๆทั้งนั้น  นับแต่นั้นมาดาวแอบเคืองพี่กิ่งเล็กน้อยที่คัดดาวออก ที่สำคัญ พี่กิ่งคือคนที่พี่เอกชอบ มันคงรู้สึกร้อนรนเป็นไฟเมื่อเสือสาวสองตัวจะมาอยู่ถ้ำเดียวกันตรงนี้ในเวลานี้ แลัวยังมายืนสวยใส่อยู่หน้าแสตนด์ มันน่าหมั่นไส้ขัดลูกหูลูกตาชะมัด แต่ทำไงได้ เพื่อพี่เอก ดาวทำได้อยู่แล้ว ดาวไม่อยากสนใจอะไรที่พี่กิ่งพูดหน้าแสตนด์เลย เธอจึงหันไปง่วนกับการกินปลากหมึกปิ้งรสเด็ดแทน
“ยิ่งคิดแล้วแค้นอย่างนี้มันต้องเคี้ยวให้ขาดเป็นหนวดๆเลยคอยดู” ดาวแอบบ่นพึมพำอยู่คนเดียวขณะนั่งกินปลาหมึก
“ดาว ไหนแกบอกซื้อมาแบ่งกันกินไง ซื้่อมา7ไม้ แกจะกินหมดเลยหรอวะ”เพื่อนที่นั่งข้างดาวหันมาต่อว่าที่ดาวกินส่วนของเธอไปด้วย
 
“เออน่า เดี๋ยวเลิกซ้อมจะซื้อให้ใหม่หล่ะกัน” ดาวแก้ตัวด้วยความรำคาญ เพราะสายตาเธอตอนนี้จ้องไปที่หน้าของพี่เอกที่กำลังยิ้มให้พี่กิ่งอย่างหยดย้อย ในใจดาวตอนนี้อยากจะพับกระโปรงเข้าหว่างขาแล้วกระโดดลงไปหน้าแสตนด์แล้วดึงโบว์รัดผมของพี่กิ่งออกซะให้สะใจ แต่มันคงทำไม่ได้เพราะดาวไม่ใช่นางร้าย
            หลังจากการพุดอันยาวยืดของพี่กิ่งจบลง การซ้อมกับหรีดกับกองเชียร์ก็เริ่มขึ้น หรีดส่งสัญญาณมือสั่งเพลงซูซ่ากับกองเชียร์เพื่อเริ่มการเต้น ถึงแม้ว่าดาวจะไม่ชอบพี่กิ่งแต่เธอก็ทำเต็มที่เพราะ The show must go on ที่สำคัญงานนี้ทำเพื่อพี่เอกล้วนๆ ว่าแล้วดาวก็ร้องเพลงอย่างเต็มที่ และตบมืออย่างสุดกำลังไปพร้อมกับกองเชียร์
 
“ซู่............ซ่าาาาา ""ซู่........ซ่าาาาาาา”
            ในจังหวะที่ดาวเปล่งเสียงร้องในท่อนนั้น ดาวรู้สึกว่าท้องเธอดังโคล่กคล่ากอย่างบอกไม่ถูก มันปั่นป่วนๆพิกล แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไร เธอร้องท่อนต่อไปอย่างสุดกำลังเสียง
“ซู่............ซ่า.........ซู่.....อุ้ย!”
ดาวหยุดร้องและรู้สึกได้ทันทีว่า มีบางอย่างมันกำลังรอระบายออกมาจากลำไส้เธอเป็นแน่ เธอรู้ตัวแล้วว่าเธอกำลังท้องเสีย แต่จะขอไปห้องน้ำตอนนี้ เพื่อนคงล้อ  เธอจึงคิดว่าเธอสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แน่นอน  ธรรมะตอนเช้าทางทีวีเคยสอนเรื่องนึงกับดาวว่า ตัวเราเป็นของเรา ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว ดังนั้นอาการปวดท้องมันเกิดจากจิตล้วนๆ  
 
“ซู่ๆซ่าๆ ปาทังก้าปาทั้งกี้ ซู่ๆซี่่ๆ.....”
พอท่อนเพลงนี้ขึ้นมา ทุกๆคนบนแสนตนเชียร์จะต้องลุกขึ้นและเต้นตามหรีดเดอร์เล็กน้อย และคนอย่างดาวมีหรอจะยอมน้อยหน้าหรีดเดอร์ เธอใส่แรงกระแทกจังหวะไปเต็มที่จนลืมไปว่าเธอท้องเสียอยู่  เท่านั้นแหล่ะ
“ปู๊ดดดดด.....”
เหมือนสายฟ้ามันฟาดมาที่หน้าดาว ดาวรู้เลยว่ามันออกมาแล้ว แต่ไม่มีใครรู้ มีเธอเท่านั้นที่รู้ แต่สิ่่งที่มันเร็วก็เสียงก็คือความแรงของกลิ่น
“ใครตดวะ”   เสียงเพื่อนข้างๆดาวบ่นพึมพำเล็กน้อย และคนทั้งแสตนด์เชียร์เริ่มทำหน้ามู้ทู่ มองกันไปมองกันมาเพื่อหาที่มาของกลิ่น ดาวรีบสูดจมูกฟุดฟิดเพื่อเก็บกลิ่นผายลมของตัวเองให้หมด แล้วแกล้งบ่นพึมพำลอยๆให้เพื่อนได้ยิน
 
“ไม่เห็นได้กลิ่นเลยอ่ะ เฮ้อเบื่อจังเป็นหวัดอีกแล้ว น้ำมูกไหลตลอดเลย ฟึดฟัดๆ”  แล้วทุกคนก็เลิกสนใจกลิ่นเพราะต้องเตรียมนั่งลงในท่อนตอนปิดของเพลง
 
“ ซู่....ซ่าาาาา.......ซู่....ซ่าา...”
“ปู้ดดดดดด!!!”
เสียงผายลมดังแทรกมาในท่อนเพลงที่่ทุกคนกำลังร้องแผ่ว แต่อานุภาพกลิ่นมาเร็วยิ่งกว่า
เพื่อนข้างดาวหันควับมาที่เธอ
“ดาว แกตดหรอ?”
 
เท่านั้นแหล่ะคนทั้งหมดมาที่ดาวด้วยสายตาเดียวกัน  ตอนนี้หน้าดำๆของดาวซีดเขียวเป็นไก่ต้มเน่า เธอไม่รู้จะทำหน้ายังไงหรือบอกยังไง เธอได้แต่อธิบายไปเสียงเบาๆว่า             
“คือ...คือ...หนู อุ้ย!”
“ปุ๋งง”
ไอ้เสียงลมทวารเจ้ากรรมมันดังมาอีกครั้ง แม้จะเบาแต่มันมาพร้อมกลิ่่นหนัก  และในสายตาของดาวช่วงนั้นดันไปเจอะกับสายตาของพี่เอกพอดีกันกับช่วงที่เสียงผายลมออกมา ดาวแทบไม่กล้าจ้องหน้าพี่เอกต่อเลยว่าเค้าหัวเราะอยู่หรือเปล่า ดาวจึงรีบก้มหน้าก้มตาหลบความอายทันที เพราะนี่คือความวิบัติสุดๆที่คนที่เธอแอบรักมาเห็นเธอในสถานการณ์แบบนี้  ทันใดนั้นดาวจึงแกล้งเป็นลมเพื่อกลบเกลื่อนทันที  
 หลังจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงดังระคนวุ่นวายไปหมด สักพัก เธอรู้สึกได้ว่ามีมือหนาๆมือนึงมาช้อนตัวเธอขึ้นมา และใช้มืออีกข้างนึงโอบไปที่ตัวเธอ
 
“น้อง น้อง น้องครับ....." เสียงนี้ดาวคุ้นเคยดี  มันคือเสียงพี่เอก"...เฮ้ยพวกเราเคลียร์ทางตรงแสตนด์หน่อย พี่จะพาน้องเค้าไปห้องพยาบาล “
            เสียงพี่เอกมันอยู่ใกล้หูดาวมากๆ ใช่แล้วมือสองข้างนั้นคือมือของพี่เอกแน่นอน  ดาวรู้่สึกได้ทันทีว่าพี่เอกอุ้มดาวขึ้นมาและพาออกไปจากตรงนั้น  แม้ดาวจะหลับตาอยู่ แต่ดาวก็พอจินตนาการได้ว่าฉากนี้มันแสนโรแมนติคแค่ไหน ดาวมโนภาพว่า ตอนนี้เอี้ยก้วยกำลังอุ้มอึ้งยงที่ป่วยมาหาเฒ่าทารก แล้วอีกไม่นานเอี้ยก๊วยต้องถ่ายทอดกำลังภายในเพื่อรักษาแก่อึ้งยงด้วยการจุมพิตแน่นอน            ตอนนี้เสียงสนทนาที่สับสนวุ่นวายมันค่อยๆเบาและเบาไปเรื่อยๆ แต่ยังคงมีเสียงหัวใจที่เต้นแรงของพี่เอกดังอยู่ใกล้ๆดาว หน้าของดาวตอนนี้อยู่ภายใต้อ้อมอกของพี่เอกจนได้ยินชัดเลยว่าหัวใจพี่เอกเต้นแรงมาก  มันเหมือนกับดาวฝันไป ตัวของพี่เอกทั้งอุ่นและหอม มันหอมมากด้วยน้ำหอมของพี่เอก มันหอมเย็นๆแบบสบายๆอย่างไม่ถูก กลิ่นน้ำหอมกลิ่นนั้นมันยังคงติดจมูกดาวจนมาถึงวันนี้
            จากวันนั้นพี่เอกกับดาวก็ได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งดาวก็ช่วยกิจกรรมพี่เอกทุกงานในโรงเรียนจนพี่เอกจบมัธยมเลยทีเดียว  ดาวถือว่าเป็นน้องคนสนิทที่สุดในช่วงเวลานั้นเลยก็ได้  แต่สำหรับดาว พี่เอกคือพี่ชายคนที่สนิทที่ดาวแอบหลงรักแบบจริงจัง  

“ดาว น้องดาวคะ “ เสียงหวานๆของพี่เอกเรียกดาวให้ตื่นมาจากภวังค์รอยยิ้มของเค้า
 
“คะพี่เอก? “ ดาวตอบกลับพี่เอกด้วยอาการเคอะเขิน
 
“คือ ดาวช่วยใส่สูทให้พี่หน่อยได้ไหมอ่ะ  พี่ใส่ไม่ถนัดเลยอ่ะ ใส่ให้พี่หน่อยนะคะ น้องดาว”
พี่เอกยังคงยิ้มอยู่ริมฝีปากพร้อมทั้งหน้าอ้อนวอนเหมือนเด็กๆ แค่พูดอย่างเดียวก็แทบละลายแล้วมาทำหน้าแบบนี้ดาวแทบตายไปเลยทีเดียว
 
“ได้ค่ะพี่เอก หันหลังมาสิคะ”
 
ทันทีที่พี่เอกเข้ามาใกล้ดาว กลิ่นน้ำหอมกลิ่นนั้นมาเตะจมูกเข้ามาอีกครั้ง
“พี่เอกยังใช้น้ำหอมกลิ่นนี้ตลอดเลยนะ ดาวไม่เคยเห็นพี่ใช้กลิ่นอื่นเลย”
 
“ก็พี่ชอบหนิ่ DKNY MEN มันหอมแบบเย็นๆดี ไม่ฉุนมาก ดาวชอบหรอคะ?”
 
“ค่ะ ดาวชอบ มันหอมดี” ดาวตอบด้วยน้ำเสียงเขินอายแต่พยายามเก็บอารมณ์ไว้
“ถ้าน้องดาวได้กลิ่นขนาดนี้ แสดงว่าพี่ฉีดมากไปหรอ “ พี่เอกหันมาถามด้วยความสงสัยหลังจากดาวใส่สูทให้เรียบร้อย
 
  “เอตรงข้อมือกลิ่นไม่มีเลยนะ แต่ต้องต้นคอพี่ไม่แน่ใจว่ามีกลิ่นหรือเปล่า น้องดาวดมให้พี่หน่อยได้ไหมอ่ะ ว่ากลิ่นมันอ่อนไปหรือเปล่า”
 
            ประโยคคำถามนี้ ทำให้ดาวถึงกับอึ้งและหยุดนิ่งไปในขณะที่กำลังจับปกคอสูทอยู่  ยังไม่ทันที่ดาวจะพูดอะไร พี่เอกก็โน้มคอมาใกล้ที่หน้าดาว ตอนนี้ลมหายใจของดาวที่เข้าออกแทบจะปะทะไปที่รูขุมขนบนต้นคอพี่เอกแบบระยะประชิดสุดๆ  ดาวไม่กล้าแม้จะหายใจออกแรงๆ ทั้งๆที่ใจข้างในมันเต้นเป็นประทัดไฟระรัว ดาวพยายามหายใจเข้าอย่างช้าๆที่สุดเพื่อรับไอกลิ่นน้ำหอมที่พี่เอกพรมไว้ที่ต้นคอด้านซ้าย ทำไมนะ ทำไมวันนี้ ไอ้เจ้ากลิ่นน้ำหอมกลิ่นนี้มันวนเวียนกับเธอตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้  มันเป็นน้ำหอมกลิ่นที่ผู้ชายนิยมหรือไง ดาวอยากจะบอกว่ากลิ่นนี้มันฆ่าดาวให้ตายศิโรราบได้เลยทีเดียว ดาวอย่างหยุดเวลานิ่งๆไว้ตรงนี้ให้นานที่สุด แต่ถ้านานเกินไปอาจจะดูออกอาการเกินงามไปหน่อย ไม่ทันไรเสียงประตูห้องก็เปิดมาพร้อมกับเสียงแจ๋นๆของแอ้ม
“อี๊ดำ”
           ถ้าเป็นในละคร ฉากนี้คงมีการเข้าใจผิดกันทั้งๆที่ไม่มีอะไร แต่คนอย่างดาวคงไม่อยากให้จบไปแบบนั้น ไหนๆก็จะเข้าใจผิดแล้ว ก็ทำให้มันถูกซิ ว่าแล้วดาวก็แกล้งทำขาตัวเองให้อ่อนยวบลง พร้อมใช้ขาขวาเกี่ยวขาซ้ายพี่เอกให้ล้มลงมาด้วย ซึ่งมันก็ออกมาเหมือนฉากในละครเป๊ะ พระนางล้มทับกันและหน้าใกล้ชิดกันแทบจูบ ดาวรู้ตัวดีว่าไม่ต้องลุก เดี๋ยวยัยตัวร้ายอย่างแอ้มก็มาดึงพี่เอกเอง
“อร้ายยย อีดำ ทำอะไรของแก พี่เองลุกขึ้นมาเดี่๋ยวนี่เลยนะ”
 
แอ้มเป็นอย่างดาวคิดไว้ไม่มีผิด ส่วนพี่เอกก็ได้แต่ทำท่าเหรอหราตามประสาพระเอกซื่อบื้อ ส่วนดาวเองงานนี้ยิงนกนัดเดียวแต่ได้นกถึงสองตัว ได้ทั้งล้างแค้นที่โดนยัยแอ้มด่าจิก กับได้กำไรเล็กๆที่ได้ใกล้ชิดพี่เอก
“ คุณแอ้มคะ ชุดเตรียมไว้ให้ตรงนี้แล้วนะคะ “ ดาวพูดเสร็จก็เดินผ่านหน้ายัยแอ้มไปอย่างลอยหน้าลอยตา พร้อมทิ้งพูดลอยๆตอนเดินไปหน้าประตูห้อง
“อืมม ประตูเค้ามีไว้เคาะใช่ไหมเนี้ย สงสัยแหวนจะปลอมกลัวทองลอก ตะกี้ไม่เห็นทีใครเคาะเลย เฮ้อ ไม่มีมรรยาท”
ดาวทิ้งทวนคำพูดยียวนตอกกลับที่แอ้มอย่างไม่สนใจ ถือว่าดาวทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้เลยทีเดียว เพราะไม่มีใครกล้ากระทบกระทั่งแอ้มแบบดาวมาก่อน
“อร้ายยยยยยยยย”
เสียงกรี๊ดวี๊ดว้ายฉบับนางร้ายละครน้ำเน่าดังตามหลังดาวมา แต่ดาวก็ไม่สนใจเพราะปิดประตูเดินหนีหน้าตาเฉยมาแล้ว แต่ในใจลึกๆดาวก็รู้ว่ามันเพิ่งเริ่มต้น อีกไม่นานเธอเตรียมเจอระเบิดลูกใหญ่ยิงใส่แน่นอน สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร แต่คนอย่างดาวมันวิ่งสู่ฟัดกัดไม่กลัวอยู่แล้ว
++++

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา