CurseSchool คำสาปโรงเรียนผี
เขียนโดย WinnerShadow
วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.48 น.
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 14.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ความหายนะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Chapter
The Holocaust.
เมื่อพวกเขาทั้งสาม ฮินาตะ ยูยะ และคลาวน์ จึงลงมาจากดาดฟ้า ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายและเสียงพูดกันเกี่ยวกับเหตุการณ์การตายของนักเรียนหญิงด้วยความสยดสยองอย่างไม่ทันคาดคิด แต่ฮินาตะและยูยะก็หยุดชะงักเพราะคลาวน์ที่หยุดเดิน ทำให้เพื่อนทั้งสองทำหน้างงๆ
“ ขอโทษนะ ฉันอยากอยู่คนเดียวสักแปป ไปกันก่อนเลย ”
เพื่อนทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะพยัคหน้าเพราะรู้ว่าคลาวน์ต้องการเวลา เขาต้องทำความเข้าใจกับสิ่งที่ เค พูดไว้ นั้นคือ ‘คำสาป’ และนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับคลาวน์มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อตอน ม.ต้น
“ เข้าใจแล้ว ” ยูยะพูดด้วยสีหน้าเป็นห่วงเพื่อนคนสำคัญ
“ แล้วรีบตามนะ คลาวน์คุง ” ฮินาตะเองก็พูดด้วยความรู้สึกเดียวกับยูยะ
“ อืม ”
เพื่อนทั้งสองเดินไปยังชั้นล่างเพื่อเข้าห้องเรียน และที่พวกเขายอมนั้น ไม่ใช่แค่จะให้เพื่อนทำใจหรือทำความเข้าใจ และจริงๆ พวกเขารู้ดีว่าเพื่อนคนนี้จบมาจากโรงเรียนอะไร
โรงเรียนมัธยมต้น ไซเรนคุ
และนั้นคือชื่อโรงเรียนที่ปิดไปเมื่อสองปีที่แล้ว เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น นั้นคือการที่อาจารย์ผู้สอนร่วม 10 คน ถือมีด ดินสอ และคัตเตอร์ วิ่งไล่ฟันนักเรียนทุกคน ก่อนจะฆ่าตัวตายตามกันไป เรื่องนี้จึงถูกปิดคดีไปโดยมีผู้เหลือรอดเพียงคนเดียว นั้นคือ คลาวน์
เด็กหนุ่มรู้แค่ว่า ตัวเองโดนแทงที่ท้องและหมดสติไป โดยไม่รู้เหตุการณ์หลังจากนั้นอีก และให้ปากคำจากตำรวจว่า พอตื่นขึ้นมา ตัวเองก็นอนจมกองเลือดและเห็นศพของนักเรียนมากมายตายในสภาพที่อนาถมากๆ ก็เท่านั้น
และตอนนี้... ตัวของคลาวน์กำลังภาวนาว่าที่ตัวเองรอดมา ก็เหมือนเป็นตัวแพร่คำสาปให้มาเกิดที่โรงเรียนนี้ ที่เคพูดก็เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลกับเรื่องที่เกิดขึ้นพอดี และมันก็ทำให้คลาวน์รู้สึกไม่ดีเลย ตั้งแต่ต่อนที่เห็นนักเรียนหญิงรุ่นน้องตายในสภาพที่ไม่ค่อยต่างจากเพื่อนๆ ของตัวเอง
.
.
เด็กชายร่างบางที่กำลังนั่งเรียนอยู่ในห้องเรียนอย่างตั้งใจ พร้อมกับเพื่อนๆ ที่นั่งตามที่นั่งของตัวเอง ทั้งนักเรียนหญิงและนักเรียนชาย พวกเขากำลังเรียนกันอย่างสนุกสนานกับวิชาภาษาญี่ปุ่น ที่อาจารย์ผู้สอนเป็นคนตลก พวกเขาทั้งหลายเป็นเด็ก ม.3 กันหมด และกำลังจบชั้นปีในอีก 2 อาทิตย์ บางคนวาดฝันว่าตัวเองกำลังใส่ชุดสูทของโรงเรียนมัธยมปลาย บางคนก็กำลังนึกภาพว่าตัวเองประสบความสำเร็จในการสอบ
แต่แล้ว
ความคิดพวกนั้นก็หยุดลง เมื่อที่ทางเดินเกิดเสียงของนักเรียนที่ฮือฮากัน ทั้งๆ ที่เป็นชั่วโมงเรียนแท้ๆ แต่พวกเขาเหล่านี้ไม่ค่อยสนใจมากนัก จนกระทั่งอาจารย์ของพวกเขาที่กำลังสอนอยู่นั้นเกิดชะงัก และหยิบดินสอแหลมมาถือไว้ในมือด้วยความนิ่งเหมือนกำลังยืนสมาธิ
“ อาจารย์ค่ะ ไม่สอนต่อเหรอค่ะ ” นักเรียนหญิงที่ดูท่าจะเป็นคนใจร้อนพูดขึ้นด้วยความงง และเพื่อนในห้องที่สงสัยและเริ่มหันหน้าคุยกัน
“ อาจารย์ครับ ถ้าไม่สอน พวกเราจะโดดแล้วน้า ” นักเรียนชายคนหนึ่งพูดด้วยคำจาที่ยี่ยวนกวนประสาท และทำท่าทางน่าเบื่อ เพราะอาจารย์นิ่งไปโดยไม่ตอบอะไรกลับ
ทุกคนเริ่มสงสัยว่า อาจารย์เป็นอะไร เด็กสาวที่เอ่ยปากถามเป็นคนแรกจึงลุกขึ้นเดินไปหาอาจารย์เพื่อจะไปสะกิดว่าเป็นอะไร และเมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็ทำให้คนอื่นที่นั่งมองเหตุการณ์สะดุ้งอย่างตกใจ เมื่ออาจารย์ที่แสนจะตลกและใจดีคนนั้นเอาดินสอที่ถืออยู่ในมือแทงเข้าไปที่คอของเด็กสาวอย่างแรกจนเลือดสีแดงสดพุ่งกระจายใส่นักเรียนที่นั่งหน้าห้อง ดินสอที่อยู่ในคอถูกบิดไปมาด้วยความสนุกของอาจารย์ที่หัวเราะอย่างน่ากลัว “ ฮ่าฮ่าฮ่า ”
“ กรี๊ดดดดดดดดดดดด ”
เสียงกรี๊ดของนักเรียนหญิงผู้เห็นเหตุการณ์ที่ทนมองภาพนั้นไม่ไหวร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวที่เพื่อนต้องโดนทำร้ายต่อหน้า เมื่อเด็กหนุ่มคนหนึ่งตั้งสติได้และสังเกตุเห็นอาจารย์ของตนที่มีดวงตาที่เหลือกขึ้นไปอย่างน่ากลัวเหมือนคนตายที่กำลังโดนอะไรบางอย่างควบคุม จึงบอกให้เพื่อนๆ ทุกคนออกไปจากห้อง บางคนได้ยินแบบนั้นก็ได้สติแล้วรีบวิ่งออกไปโดยเร็ว บางคนก็ช๊อคถึงขนาดลุกไปขึ้น
เด็กหนุ่มบางคนเป็นห่วงเพื่อนจึงพยายามเข้าไปพยุงเพื่อหาเพื่อนออกมา เขาที่เป็นคนสั่งให้เพื่อนออกมาจากห้องก็เข้าไปพยุงผู้หญิงกลุ่มนึงโดยการตอบบ่าไปรอบหนึ่ง จึงทำให้พวกเธอรีบหนีไป โดยปล่อยให้ศพของหญิงสาวที่ถูกแท่งด้วยดินสอลงไปนอนจมกองเลือด ผู้เป็นคนทำก็ยังหัวเราะอย่างสนุกสนาน ก่อนจะพุ่งเข้าหาเด็กหนุ่มที่เดินเข้ามาพาเพื่อนออกไป ดินสอแทงเดิมแทงเข้าที่กลางหลังของเด็กหนุ่ม ก่อนจะโดนแทงซ้ำที่เดิมหลายครั้งจนสิ้นใจ
“ โมโตยามะ!!! ฮือ....!! ” เพื่อนที่ถูกพาออกมาร้องเรียกชื่อเพื่อนของตนที่ตายต่อหน้าต่อตา
“ รีบหนีเร็ว! ”
เด็กสาวคนหนึ่งที่ยังร้องไห้อยู่พูดด้วยท่าทางที่ยังหวาดกลัว และจูงมือเพื่อนที่คนหนึ่งหนี โดยมีเพื่อนๆ ภายในห้องวิ่งตามกันเต็ม เมื่อวิ่งผ่านห้องข้างๆ ก็เห็นนักเรียนห้อง 2 ห้อง ถูกขังและถูกฆ่าตายภายในห้องอย่างทารุน ทุกคนวิ่งหนีกันหัวซุกหัวซุน และมาหยุดที่ชั้นล่างสุด ที่มีนักเรียนมากมายตายกันเป็นกอง จนน่ากลัว บางคนก็อ้วกออกมาเพราะสภาพศพ บางคนก็ฉี่ราดออกมาเรียบร้อย
“ นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นมาว่ะ ” ชายหนุ่มหน้าโหดสบถขึ้นมากลางกลุ่มเพื่อนที่ขวัญผวากันไป
“ ยังไงก็หนีกันให้ได้ก่อนเถอะ แบบนี้มันไม่ใช่เล่นๆ แล้วนะ ”
“ อ๊ากกกกกกกกกกกก ”
เสียงร้องทรมาณดังขึ้นจากด้านหลังของกลุ่ม และนั้นคือ เด็กชายที่ถูกเอาคัตเตอร์กีดที่กลางหลังอย่างแรงและลึกเพราะความคม ก่อนจะโดนเอาเก้าอีกฝาดซ้ำด้วยฝีมืออาจารย์ทั้งสอง ทางด้านหลังไป ก็มีอาจารย์สองสามคนเดินตามลงมา พร้อมกับของมีคมที่ไม่น่าจะหาได้ในห้องเรียนแน่ๆ
“ ทำไม..ฮึก ถึงเป็นแบบนี้...ฮือ... ” หญิงสาวนั่งตัวสั่นลงไปกับพื้น น้ำตาเริ่มไหลริน
“ เธอ! ลุกเร็วเข้า!! ” คลาวน์ที่มีสติในตอนนี้คนเดียว อยากใจช่วยเพื่อนจากวิญญาณร้ายที่สิงในตัวของอาจารย์แต่ละคน จึงเข้าไปดึงตัวเด็กสาวที่ตัวแข็งไปเพราะความกลัวตาย คนอื่นๆ ที่คิดว่าตัวเองจะไม่รอดก็วิ่งไปที่ประตูทางออกอาคาร แต่กลับล๊อคทั้งที่ไม่น่าเป็นไปได้เลยแท้ๆ ทุกคนทุบกระจกกันแบบไม่คิดชีวิต แต่ไม่ได้ผล เพราะกระจกนั้นสั่งทำมาเหนียวเป็นพิเศษ
“ ปล่อยพวกเราออกไป! ”
“ ทำไมประตูถึงล๊อคล่ะ! ไม่เอานะ!!! ”
“ ใครก็ได้ช่วยด้วยยยย!!! ”
เสียงร้องมากมายดังขึ้น จนฟังไม่รู้เรื่อง ตัวคลาวน์ก็ยังคงคิดจะช่วยเด็กสาวไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะเธอคนนี้เป็นคนหนึ่งที่ทำให้คลาวน์รู้ว่า ชีวิตน่ะ ไม่ว่าจะมองเห็นผีหรือไม่ คนเราก็ยังคงสนุกไปกับเรื่องราวที่สนุกสนานได้ เธอเป็นคนเดียวเท่านั้นที่คลาวน์อยากจะช่วยไว้ในตอนนี้
ฉึก!
เสียงแทงจากมีดที่แหลมคมซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของในห้องหัตถกรรม พุ่งเข้าหาท้องของคลาวน์โดยไม่ทันตั้งตัว คลาวน์ถึงกับทรุดตัวลงไปนอน เด็กสาวที่เห็นแบบนั้นก็กีดร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ คลาวน์คุง คลาวน์คุง คลาวน์คุง!! ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ ”
เธอกุมมือของชายหนุ่มที่โดนแทงจนลงไปนอนกองกับเลือด เธอร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าโศก แต่ในตาก็โกรธแค้นกับสิ่งที่อาจารย์ประจำชั้นเขาทำ เธอคิดว่าทำไมวันที่สดใส ทั้งๆ ที่ใกล้จบ ม.ต้น แล้วแท้ๆ กลับต้องมาเจอกับเรื่องบ้าๆ แบบนี้
พวกเขาที่ร้องเรียกความช่วยเหลืออยู่ตอนนี้ กับการเรียกร้องสิ่งที่สูญเสียไป มันก็ไม่ต่างกับการขอชีวิตวิญญาณที่เข้ามาสิ่งสู่อาจารย์ทั้งหลายในตอนนี้ นักเรียนทุกคนร้องกันจนไม่เป็นภาษา และไม่นานทุกอย่างก็เงียบลง พร้อมกับกลิ่นเลือดที่คุ้งไปทั่วบริเวณตัวอาคารเรียน ที่เกิดเหตุแบบนี้ มีทั้งโรงอาหารที่แม่บ้านหยิบมีดขึ้นมาฟันกันเอง และภารโรงที่บีบคอกันตาย
และเรื่องเหล่านี้ก็เกิดขึ้น...
นั้นเป็น...
คำสาปสินะ....
“ นี่เธอ!! ”
คลาวน์สะดุ้งตื่นจากความคิดในเรื่องที่ผ่านมาถึงสองปี และนั้นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขาต้องทนทรมาณกับการจากไปของคนที่เขารักอย่างเธอคนนั้น ที่มาดึงเขาออกมาจากความหม่นหมอง
“ ทำไมเธอมาอยู่ที่นี้ กลับห้องเรียนไปซะ! ”
อาจารย์ใส่แว่น ตัวอ้วน และถือไม้ก้านยาว พูดกับคลาวน์ที่ได้สติอีกครั้ง ด้วยความไม่สบอารมณ์ ที่คลาวน์ยังคงเหม่อลอยไม่ฟังเสียงประกาศจากลำโพง
“ ผะ..ผมกำลังจะกลับห้องครับ ”
“ งั้นก็ไปซะ ”
คลาวน์เดินไปด้วยความนิ่งเงียบไม่พูดอะไร ในตาของเขาดูเย็นชา และแฝงไปด้วยความเศร้าที่ไม่สามารถช่วยคนที่รักได้ แถมยังเสียเพื่อนภายในห้องไปมากมาย
“ บ้าเอ้ย! ” เขาสบถกับตัวเองพร้อมสีหน้าที่ดูกังวลกับการโกรธตัวเอง
แต่ตอนนี้เขาต้องใจเย็นก่อน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น มันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุก็ได้ ระหว่างที่เขากำลังคิดนั้น เคก็ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมเสียงหัวเราะ
“ นายอีกแล้วเหรอ? อย่าผุบๆ โผล่ๆ แล้วก็มาหัวเราะแบบนี้ได้มั้ย? ”
“ แหม... กำลังจะบอกนายเรื่องนักเรียนสาวสามคนนั้นสักหน่อยน่ะนะ ”
“ แล้วว่าไง? ”
“ ดูจะไม่ค่อยตื่นเต้นเลยนะ..ทั้งๆ ที่นั้นอาจจะเป็นพวกผีมนตร์ดำอย่างพวกคำสาปก้ได้ ”
“ ....? ” คลาวน์มองหน้าเคด้วยความงุงงง แต่ก็ยังเย็นชาเข้าไว้
“ เด็กสาวสามคนนั้นพูดออกมาว่า เห็นเงาดำตรงตู้แก้วนั้นสักพักแล้ว แต่เห็นว่ามันไม่ขยับไปไหน จึงคิดว่าเป็นแค่เงาจากต้นไม้ข้างนอกธรรมดาๆ แต่พอจะกลับออกมาเงานั้นกลับหายไป และตู้ก็ล้มทับใส่หนึ่งในกลุ่มของเธอเข้า ”
“ งั้นก็หมายความว่า... ”
“ ยังคอนเฟิมไม่ได้ว่าจะเป็นวิญญาณที่ติดตัวเธอมา หรือคำสาปที่เหมือนที่นั้นจะมาเกิดขึ้นที่นี้หรอกนะ แต่ฉันคิดว่ามันไม่ดี้ ก็แค่นั้น ”
คำท้ายในประโยค เคพูดออกมาด้วยความขอไปที และยียวนกวนประสาท แต่คลาวน์ที่เป็นคนเย็นชาไม่สะทบสะท้านแล้วเดินกลับไปที่ห้องเรียน แต่เขาก็คิดว่าเงานั้นอาจจะไม่ใช่เงาธรรมดา จึงไปเล่าให้ ฮินาตะกับยูยะฟัง ในสิ่งที่เคได้ยินมา
“ ไม่จริงน่า!! ” ยูยะพูดขึ้นด้วยความตกใจเสียงดัง จนทำให้ทุกคนหันมามองในทางเดียว
“ ขะ..ขอโทษ ไม่มีอะไร ” ยูยะว่าพลางเคกหัวตัวเองอย่างน่ารัก เพื่อนทุกคนจึงยิ้มและหันกับไปคุยเรื่องของตัวเอง เพราะคาบนี้กลายเป็นคาบว่าง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น
“ แล้วจะเอายังไงเหรอ? ถ้านั้นเป็นวิญญาณร้ายจริงน่ะ ” ฮินาตะถาม แต่สีหน้าก็ไม่ดีนัก
“ จริงๆ ฉันอยากให้เคไปจัดการมากกว่า เพราะพวกเราก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว ถ้านั้นเป็นแค่อุบัติเหตุน่ะนะ ”
“ ที่นายพูดแบบนี้ก็เพราะวิญญาณดวงนั้น อาจจะไม่ใช่วิญญาณธรรมดางั้นเหรอ? ” ยูยะคิ้วขมวดแล้วถามออกมาเพราะรู้นิสัยเพื่อนดี
“ คลาวน์คุง กับฉันรู้สึกไม่ดีมาตั้งแต่เมื่อเช้า นั้นอาจจะหมายความว่า วิญญาณตนนั้นมีพลังวิญญาณที่ไม่ใช่เล่นๆ งั้นสินะ” ฮินาตะว่าแล้วจับคาเหมือนพวกนักสืบ
“ จริงๆ ฉันก็ไม่อยากไปยุ่งนักหรอกนะ แต่พอคิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้นอีกมั้ย มันก็เกิดใจไม่ดีขึ้นมาอีก จนฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว ” คลาวน์ว่าพลางกุมหน้าผากตัวเองด้วยความเหนื่อยกับเรื่องนี้
แต่ใจคลาวน์ก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้จริงๆ แต่เพราะกลัวว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นมาภายหลัง เลยกระซิบบอกให้เคไปสืบๆ ดูหน่อย ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น และให้คอยจับตาดูไว้ ซึ่งเคก็ยอมรับที่จะทำให้ แต่เคเป็นวิญญาณที่แปลก เพราะเขาจู่ๆ ก็ติดตามคลาวน์ออกมาตั้งแต่ที่รอดออกมาจากโรงเรียน และยังบอกว่า..จะช่วยคลาวน์ทุกอย่าง แต่ขอแค่
สักวันหนึ่ง..นายจะต้องช่วยฉัน...ออกจากวังวนปริศนาของคำสาปนี้...
--------------------------------------
ถ้าผิดพลาดตรงไหนให้เม้นไว้นะคับ
เพราะคอมเม้นทำให้เราได้ปรับปรุงและพัฒนาฝีมือคับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ