CurseSchool คำสาปโรงเรียนผี

9.8

เขียนโดย WinnerShadow

วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.48 น.

  14 chapter
  23 วิจารณ์
  20.43K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 14.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) Chapter 14 โดนหักหลัง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
Chapter14
 
 
            คลาวน์ลืมตาตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก เขาลุกขึ้นมองไปรอบๆ สิ่งที่เขาเห็นคือโต๊ะเรียนที่ล้มมากมาย และรอยเลือดที่เปรอะเปื้อนตามกำแพงและพื้นที่สาดกระเซ็น คลาวน์ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นรู้ได้ทันทีว่ารอยเลือกพวกนี้เกิดจากอะไร ก่อนจะทำสีหน้าเครียดและรู้สึกสมเพชตัวเองที่รอดมาคนเดียว
            เปรี้ยง!!
            เสียงฟ้าผ่าดดังอย่างรุนแรงจนคลาวน์ถึงกับสะดุ้ง แต่ที่สะดุ้งนั้นมันก็อาจจะไม่ใช่เรื่อง เพราะคลาวน์ที่หันออกไปมองด้านหลงนั้นก็เจอกับเคที่ยืนด้วยใบหน้าที่ยิ้มแสยะพลางหัวเราะในลำคอ
            “หึหึหึ”
            “เค!นี่นาย..ไหนบอกว่าไม่เอาด้วยแล้วไง!”
            “ก็เปล่านี่..แค่แว่ะมาดูซะหน่อย แถมไม่เสียเที่ยวที่จะมาด้วยหึหึ”
            “นี่นายหัวเราะอะไรของนาย”
            คลาวน์ถามด้วยความสงสัย เมื่อเคที่ยืนอยู่ตอบเขาด้วยความสนุกสนานเหมือนกำลังเย้ยอะไรสักอย่าง แล้วทำไมเคถึงดูแปลกๆ
            “ฉันมาที่นี้เพราะมีคนยื่นข้อเสนอมาให้” เคเริ่มเดินไปรอบๆ ห้องเหมือนสำรวจอะไรสักอย่าง
            “ข้อเสนอ?”
            “ใช่.. คนๆ นั้นบอกว่าถ้าฉันฆ่าแล้วเอาร่างขางนายมาได้ เขาจะจ่ายค่ารักษาแม่ฉันและจะช่วยให้ฉันได้ไปพบแม่ได้ตลอดด้วย”
            “นี่นาย..จะฆ่าฉันเหรอไง?”
            เคที่เดินไปรอบห้องหยุดลงตรงหน้าคลาวน์แล้วยิ้มแสยะอีกครั้งพลางหัวเราะในลำคอ คลาวน์ที่ยืนรอคำตอบก็เหงื่อตกพร้อมกับความกังวล และความแปลกใจที่ไม่คิดว่าเคจะขัดขวางและหักหลังเขาแบบนี้
            “นี่คลาวน์..นายเคยโดนแทงที่ท้องมาแล้วสินะ” นิ้วของเคสำผัสที่ท้องของคลาวน์อย่างช้าๆ
            “แล้วนายจะทำไม?” คลาวน์ถามกลับ
            “ความเจ็บนั้นเป็นไงเหรอ?ฉันที่ตายทันทีน่ะ ไม่รู้สึกถึงความเจ็บหรอกนะ”
            “หึ ฉันถึงได้ถามไง?ว่านายจะ-”
            ฉึก!
            เอ๊ะ?
            ความเจ็บแพร่ไปทั่วทั้งตัว จนไม่รู้สึกอะไรอีกนอกจากความตกใจที่โดนวิญญาณตรงหน้าแทงเข้าที่ท้องซึ่งซ้ำรอยกับที่เดิมเมื่อตอนนั้น เลือดไหลออกมาจากบาดแผลและไหลออกมาจากมุมปากเพราะสำลักความเจ็บนั้น
            “หึหึหึ”
            เคหัวเราะในลำคอพร้อมกับร่างของคลาวน์ที่เอนมาพิงไหล่เขาเพราะความเจ็บจนยืนไม่ไหว เคที่เป็นวิญญาณรับร่างคลาวน์อย่างสนุกสนานก่อนจะดึงมีดออกแล้วผลักร่างคลาวน์ออกไป จนล้มลงไปนอนหงายกับพื้นที่มีรอยเลือด และตอนนี้ก็มีเลือดของคลาวน์นองอีกครั้ง
            “อั่ก..นะ..นี่นาย...!”
            “หึ นายคิดว่าฉันไม่กล้าทำเหรอไง?ฉันสนใจร่างของนายมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ พอมาเจอกับข้อเสนอเลยดีใจจนทนไม่ได้ที่จะได้ร่างของแกไงล่ะ”
            “ฮา..ฮา..” เสียงของคลาวน์เริ่มหายใจแบบแหบๆ เพราะพิษบาดแผลที่โดนแทง เคนั่งลงมองร่างของคลาวน์อย่างดีใจ ก่อนจะขึ้นค่อมร่างนั้นเพื่อเย้ยจริงๆ
            “เอาล่ะ ฉันจะใช้ร่างของนายล่ะนะ”
            “เค..นี่แก!”
 
            เปรี้ยง!!
            ทางด้านของพวกฮินาตะที่กำลังวิ่งมาถึงอาคารกลางซึ่งอาจจะเป็นที่เดียวที่คลาวน์อยู่ พวกเขาวิ่งอย่างรวดเร็วเพราะฝนที่ตกหนักจนฟ้าผ่าลงมาอย่างรุนแรง รวมทั้งวิญญาณอีกสาสตนที่ขอตามมาด้วย เพื่อที่จะได้พบคลาวน์นั้นเองทุกคนวิ่งมาจนถึงภายในตัวตึก ก่อนจะพักกันสักพักด้วยความที่วิ่งหนีฝนมา
            “หมอนั้นจะปลอดภัยรึเปล่าเนี้ย” ฮินาตะพูด
            “ฉันหวังแค่ให้คลาวน์ปลอดภัยเท่านั้น เพราะดูจากการให้วิญญาณยูกิมาฆ่าคนรอบข้างที่โรงเรียนน่ะ มันอาจจะเป็นการล่อให้คลาวน์มาที่นี้ก็ได้” โคโมะพูด ด้วยความที่เธอรู้สึกมาตั้งแต่ตอนที่ก้าวเข้ามาภายในโรงเรียนคำสาปนี้
            “งั้นตอนนี้คลาวน์อาจจะตกอยู่ในอันตรายงั้นเหรอ?”ยูยะถาม
            “ถ้ามีเคอยู่ด้วยอาจจะไม่ต้องเป็นห่วงอะไร แต่เคกลับไม่อยู่นี่สิ” โคโมะตอบไป ยูยะหน้าเปลี่ยนและวิ่งขึ้นอาคารไปอย่างรวดเร็วก่อนทุกคนจะเรียกตามหลังมา
            “ยูยะ!”
 
            ยูยะวิ่งขึ้นไปตามชั้นเรียนที่ร้างและมืดนั้นอย่างกังวล เขาเปิดดูทุกห้องที่เห็น และดูทุกห้อง แต่ไม่ว่าจะดูสักกี่ห้องก็ไม่เห็นตัวของคลาวน์ฝนตกลงลงมาอย่างหนักนั้นดังไปทั่วโรงเรียนแห่งนี้ เพื่อนๆ ที่วิ่งตามยูยะขึ้นมาก็ช่วยกันหา จนในที่สุดก็มาถึงชั้นบนซึ่งเป็นชั้นสุดท้าย และมีเพียงห้องริมสุดเท่านั้นที่มีประตู
            “นี่ห้องสุดท้ายแล้วนะ” ยูยะพูดซ้ำเติมเพื่อพบว่าห้องนี้เป็นห้องสุดท้ายที่คลาวน์จะอยู่จริงๆ ทุกคนพยักหน้าและทำใจนิดหน่อย ก่อนจะเปิดออกอย่างแรง
            ปัง! เปรี้ยง!!
            ฟ้าที่ผ้าลงมาพร้อมกับเสียงประตูที่เปิดออกนั้นสร้างความตกใจให้กับคนที่ก้าวเข้ามาเป็นอย่างมาก แสงกระพริบภายในห้องที่มืดสะท้อนเงาทุกอย่างที่อยู่ในห้องเพียงไม่กี่วินาที หากแต่มีอีกอย่างที่ทำให้ตกใจ นั้นคือภาพของเพื่อนที่นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น
            “คลาวน์!” ยูยะวิ่งเข้าไปพยุงร่างของเพื่อนที่นอนอยู่ด้วยสีหน้าที่ตกใจและกังวลอย่างเห็นได้ชัด
            “นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี้ย?” ไอคาว่าที่ตามมาด้วยถามอย่างตกใจ
            “ทำไม?คลาวน์..ทำไมถึง...” ฮินาตะขาล้าขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกและนั่งคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความท้อที่เห็นนอนจมกองเลือดอยู่
            “ไม่จริง...” โคโมะพึมพำออกมา
            ยูยะที่เข้าไปพยุงร่างของคลาวน์ก็เรียกชื่อของเพื่อนที่หลับอยู่อย่างไม่มีสติ ด้วยความที่หวังจะให้เพื่อนลืมตาตื้นขึ้นมา เลือดอยู่ที่บริเวณท้องมาก นั้นอาจหมายถึงโดนแทงด้วยมีดหรือของมีคม ทุกคนช็อกกับสิ่งที่เห็นอย่างที่ไม่คาดคิด
            “คลาวน์!คลาวน์! นี่! คลาวน์!”
            “หึหึหึ”
            “เอ๋!?”
            ทุกคนตกใจเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะสยดสยองและเยือกเย็นของคนที่คุ้นเคย นั้นคือเสียงของคนที่บอกว่าจะไม่เอาด้วยกับเรื่องนี้ และเป็นวิญญาณที่ชอบโผล่มาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียงเสมอ และตอนนี้ก็เกิดเสียงทำให้ตกใจ ยิ่งไปกว่านั้นยังมาจากร่างของคลาวน์!
            “คลาวน์...” ยูยะเรียกด้วยความสงสัย
            “หึหึหึ ไม่ต้องเรียกหรอก กำลังจะลุกเดี๋ยวนี้ล่ะ” ร่างของคลาวน์ลุกขึ้นจากตักของยูยะ จนทุกคนตกใจเพราะนั้นเป็นเสียงของเคจริงๆ ไม่ผิดแน่นอน
            “เค..นั้นนายเคใช่มั้ย!?” ฮินาตะถามออกไปพลางลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
            “ใช่..ฉันเองหึ ในที่สุดก็ได้ร่างของหมอนี้มาจนได้”เคว่าพลางยกมือขึ้นมามองร่างเนื้อของตัวเองซึ่งนั้นคือคลาวน์อย่างภาคภูมิที่ทำสำเร็จตามแผน
            “นี่นาย!ทำอะไรกับคลาวน์น่ะ” ยูยะพูดด้วยความรู้สึกโมโห เคในร่างคลาวน์หันมามองหน้ายูยะ ก่อนจะแสยะยิ้มให้
            “ก็แค่แทงหมอนี้ไปรอบหนึ่ง จนขัดขืนไม่ได้ไงล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า” เมื่อเคพูดจบก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งท่ามกลางสายตาตื่นตกใจของทุกคนในที่นี้ รวมทั้งดวงวิญญาณสามตนซึ่งเป็นเพื่อนของคลาวน์ด้วย
            “ทำไมนายถึงทำแบบนี้ล่ะเค?” ฮิซุยถามด้วยสีหน้าเย็นชาและเดินหน้าออกมายืนอย่างท้าทายซึ่งสร้างความพอใจให้กับคนตรงหน้าเป็นอย่างมาก
            “นั้นสินะ..ก็แค่อยากได้ร่างของหมอนี้..ไปทำตามที่ตัวเองคิดเท่านั้นเอง และแน่นอนว่านี่เป็นข้อเสนอของคนๆ หนึ่งที่ฉันอยากจะร่วมมือด้วยมากกว่านะ หึหึหึ” เคพูดและเดินเข้าไปใกล้ฮิซุยพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย
            “นี่นาย..หักหลังพวกเรางั้นเหรอ?” ฮิซุยที่โกรธจนได้ที่มองเคอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะเกิดแสงหิ่งห้อยมากมายโผล่ออกมาจนเยอะเต็มรอบตัว พวกยูยะมองอย่างตกใจ เพราะไม่เคยเห็นฮิซุยโกรธจนเกิดแสงออกมามากขนาดนี้
            “หึ จะพูดแบบนั้นก็ได้” เคแสยะยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะหัวเราะในลำคอ ตอนนั้นเองที่ฟ้าผ่าลงมาอีกครั้ง และเกิดแสงสีดำเล็กๆ ลอยขึ้นมาจากใต้เท้าของเคจนเต็มไปหมด ไม่แพ้ฮิซุยเลย แต่ฮิซุยยังคงทำหน้านิ่งเย็นชาไม่ทุกข์ร้อนอะไร จนฮินาตะห้ามปรามอย่างเป็นห่วงและอดไม่ได้
            “ฮิซุย!พอเถอะ! ถ้านายสู้กับเคล่ะก็..วิญญาณนายจะแตกสลายเอานะ!”
            “ขอโทษนะฮินาตะ ฉันคงทำตามที่นายห้ามไม่ได้ เพราะตอนนี้ฉันโกรธจริงๆ แล้ว!”ฮิซุยพูดแล้วชี้นิ้วไปทางเค แสงหิ่งห้อยมากมายพุ่งเข้าหาเคจนมองเกือบไม่ทัน แรงพวกนั้นล้อมเคอย่างรวดเร็วจนเคก็แอบตกใจไปเหมือนกัน
            “แหมๆ ไม่คิดว่าเอาจริงจะทำได้แซบขนาดนี้นะเนี้ย”
            “หุบปาก!คนแบบแกน่ะ ฉันจะทำลายเอง!” แสงหิ่งห้อยที่เพิ่มเข้ามาตามแรงความโกรธพุ่งเข้าหาเคอย่างไม่ลดละ แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย เพราะแสงสีดำของเคกลับทวีความหน้ากลัวขึ้นและกลายเป็นแรงกดดันให้คนรอบข้างไปในทันที ยูยะที่ทำได้แค่ยืนอยู่ดูก็เริ่มกัดฟันเพราะเขาไม่สามารถเข้าไปยุ่งกับพลังพวกนั้นได้เลยแม้แต่น้อย
            “เอาละ ฉันต้องไปแล้วนะ หึหึหึ” เมื่อเคพูดจบแสงสีดำก็พุ่งเข้าทำร้ายฮิซุยจนลงไม่ดิ้นทุรนทุรายกับพื้นเพราะความทรมาณที่แสงสีดำนี้เริ่มคลุมวิญญาณของเขา เคหัวเราะในลำคอก่อนจะใช้ร่างของคลาวน์วิ่งหนีออกไปจากห้องโดยใช้จังหวะที่ทุกคนตกใจ และแสงกระพริบของฟ้าที่ผ่าลงมาอีกครั้ง
            “อ้า!!”
            “ฮิซุย!” ฮินาตะรีบวิ่งเข้ามาจับร่างวิญญาณของฮิซุยไว้ ก่อนโคโมะจะทำให้แสงพวกนั้นหายไปด้วยวิญญาณหมอกขาว ฮิซุยเริ่มหายทรมาณและหายใจเข้าปอดอย่างติดขัด ฮินาตะเห็นเช่นนั้นก็ถามด้วยความเป็นห่วง
            “เป็นไงบ้าง?ฮิซุย”
            “อ่า ค่อยยังชั่วแล้วล่ะ”
            ฮิซุยยิ้มให้ฮินาตะก่อนจะดันตัวลุกขึ้นอย่างลำบาก โคโมะเดินไปทางยูยะด้วยท่าทีที่นิ่งก่อนจะถามออกไป
            “นายโอเคมั้ย?”
            “อืม ฉันโอเค แต่คลาวน์เนี้ยสิ..ฉันว่าเรารีบตามเขาไปเถอะนะ! ฉันคิดว่าหมอนั้นยังไม่ตายหรอก” ยูยะพูดอย่างมีหวัง ก่อนโคโมะจะยิ้มแล้วพยักหน้าให้
            “มันต้องแน่นอนอยู่แล้วล่ะ ฉันยังสำผัสได้ถึงวิญญาณของคลาวน์นะ”
            “งั้น..ที่โรงเรียนนี้มีที่ๆ ที่ไม่มีหน้าต่างมั้ย?” ฮิซุยที่ลุกขึ้นมาได้ ถามดวงวิญญาณที่เป็นเพื่อนของคลาวน์อย่างจริงจัง ฮินาตะกับยูยะและโคโมะมองฮิซุยที่ถามออกมาด้วยความสงสัย ดวงวิญญาณทั้งสามมองหน้ากันก่อนจะนึก และรินะก็นึกขึ้นได้ว่ามีที่หนึ่ง
            “รู้สึกว่าจะเป็นโรงเก็บอุปกรณ์กีฬานะ ที่นั้นทั้งเก่าทั้งไม่ค่อยมีคนผ่าน แถมได้ข่าวว่าจะเปลี่ยนเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อของนักเรียนด้วยจ้ะ” วิญญาณเด็กสาวว่า
            “งั้นเหรอ?จะพาพวกเราไปได้มั้ย?”
            “ได้จ้ะ” เด็กสาวว่าพลางพยักหน้า เพื่อนที่สองตนก็พยักหน้าด้วยความร่วมมือเช่นกัน
            “นี่ฮิซุย ทำไมถึงเป็นที่ๆ ที่ไม่มีหน้าต่างล่ะ?”ยูยะถามด้วยความสงสัย
            “ก็เพราะวิญญาณพวกนี้เป็นวิญญาณหมอกดำ และที่ฉันสังเกตก็คือวิญญาณพวกนั้นจะไม่อยู่ใกล้แสง เพราะตอนนี้ฝนตกเลยเข้าทางของมันที่จะออกมาเล่นงานวิญญาณดวงอื่น และพวกเราก็ใช้พลังแสงขาวซะส่วนใหญ่มันเลยสลายไปไง ดังนั้นคนที่จะอัญเชิญหรือเรียกดวงวิญญาณหมอกดำออกมานั้น ต้องอยู่ในที่ๆ ไม่ค่อยมีแสงสิ” ฮิซุยตอบยูยะ ก่อนทุกคนจะทำหน้าเข้าใจ
            “นั้นสินะ แบบนี้ก็มีแต่ที่ๆ ที่ไม่มีหน้าต่างเท่านั้น” โคโมะย้ำ
            “อืมงั้นเราไปกันเถอะ เพราะตอนนี้ก็เป็นเวลาที่จะได้เผชิญกับตัวการแล้วล่ะ” ฮิซุยพูดแล้วหันไปมองหน้าทุกคนเพื่อเป็นเชิงว่าเรื่องทุกอย่างใกล้จะจบลงแล้ว
            พวกเราทุกคนไม่รู้สึกเลยว่า...
            มีวิญญาณเด็กสาวหมอกดำกำลังจ้องมองมาทางพวกเขาด้วยสายตาที่เย็นชา...
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา