CurseSchool คำสาปโรงเรียนผี
เขียนโดย WinnerShadow
วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.48 น.
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 14.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) รายละเอียด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Chapter 10
The fact that slip.
หลังจากที่คลาวน์ตั้งสติและผ่อนคลายลง ทั้งสามคนก็ตรงกลับไปที่บ้านของอาจารย์ที่พอจะรู้เรื่องโรงเรียนไรเซ็นคุอยู่บ้าง พวกเขาทั้งสามคนผิดหวังลงทันใดเมื่อกดออดหน้าบ้านแล้ว กลับไม่มีใครออกมาเปิดจนต้องยืนรอกันสักพัก จนมีคนเดินผ่านมาเลยถามพวกเรา
ทั้งสามคนบอกว่ามาหาเจ้าของบ้านนิดหน่อย แต่ก็ได้รู้ว่าเขาไม่อยู่บ้านมา 2 วันแล้ว เพราะมีเรื่องที่โรงเรียนว่าจะมีจัดเข้าค่ายกัน และนั้นก็ทำให้พวกเขามองหน้ากันเพราะไม่คิดว่าจะเหมาะเจาะขนาดนี้ แต่เคก็พอจะรู้แล้วล่ะว่าหน้าตาของอาจารย์คนนั้นเป็นยังไง
“นายท่าน กลับมาแล้วเหรอค่ะ”
สาวเมดสามคนซึ่งมีทรงผมทวินเทล กล่าวต้อนรับลูกค้าสามหนุ่มหล่อที่เดินเข้ามาอย่างตกใจแต่ก็ผสมกับความผิดหวังนิดหน่อย ผู้หญิงบางสวนหันมามองทั้งพวกเขาอย่างเขินๆ บางคนก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแอบถ่าย ก่อนสาวเมดจะพาลูกค้าไปนั่งลงที่โต๊ะว่างข้างหน้าต่างด้านในของร้าน
“จะรับอะไรดีค่ะนายท่าน”
“อะ..เอ่อ พาเฟ่ต์แล้วกัน..นะ” ยูยะพูดอย่างตะกุกตะกัก
“ผมชาร้อนแล้วกันครับ” ฮินาตะสั่งบ้าง
“กาแฟร้อนครับ” คลาวน์มองออกไปนอกหน้าต่างแต่ก็ยังคงสั่งไป
“งั้นรอสักครู่นะค่ะ” สาวเมดจดรายการแล้วก้มหัวให้ ก่อนจะเดินไปเพื่อทำรายการที่สั่ง
ทั้งสามคนถอนหายใจออกมาพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมาย จนเคกับฮิซุยซึ่งโผล่ออกมายืนนั้นทำหน้างงๆ แล้วเคก็พูดจาที่แทงใจพวกเขามากๆ
“นี่พวกนายเข้ามาในร้านโดยไม่รู้ว่าเป็นร้านสาวเมด หรือจงใจเดินเข้ามากันแน่เนี้ย”
“อะจึ่ย...” ยูยะสะดุ้งขึ้นกับฮินาตะและคลาวน์ที่ทำท่าจะวางตัวลำบากกับร้านที่มีแต่พวกโอตาคุจอมลามกทั้งหลายแหล่ และวพกสาวๆ ที่มองมาทางนี้เป็นพักๆ
“พูดอะไรน่ะเค เห็นๆ อยู่ว่าเดินเข้ามาในร้านนี้อย่างจงใจชัดๆ เลย” ฮิซุยพูดพลางยิ้มเย้ยพวกคลาวน์อย่างจริงใจ จริงใจซะจนพวกคลาวน์หน้าเสียกันไปเลย
เมื่อของที่สั่งถูกเอามาเสิร์ฟโดยสาวเมดใส่แว่นน่าตาน่ารักซะจนพวกคลาวน์น่าแดงขึ้นมา แต่ก็ไม่สนใจเพราะเดี๋ยวโดนเหมารวม สาวเมดโค้งให้ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะอื่นต่อ พวกคลาวน์เริ่มถอนหายใจอีกครั้งจนเคกับฮิซุยที่ยังยืนอยู่หัวเราะคิกๆ กันเพราะความสะใจ
“แล้วเอาไงดีล่ะ อาจารย์คนนั้นไม่ค่อยได้เข้าสังคมด้วยนะ คนแถวนั้นเลยไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาเมื่อไรด้วยสิ” ยูยะเปิดประเด็นเพราะเห็นว่าพวกเพื่อนๆ ก็คงไม่รู้จะทำยังไงในสถานการณ์แบบนี้ดี
“ฉันก็ไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน เพราะได้คิดวิธีเผื่อไว้ซะด้วย” คลาวน์ตอบหลังจากยกกาแฟดื่มไปรอบหนึ่งและยิ่งอาจจะสร้างความเครียดเข้าไปอีกก็ได้
“มีอีกอย่างนะ พรุ่งนี้ระดับชั้นเราต้องไปทัศนศึกษากัน 2 วัน 1 คืนด้วยนี่สิ”
“หา!? ไม่เห็นรู้เรื่องนิ” หลังจากฮินาตะพูด ยูยะก็ตกใจขึ้นมา
“อะ..เอ๋? ฉันว่าฉันบอกนายไปแล้วนะ”
“บอกตอนไหนน่ะ?”
“อ่อ..ตอนนั้นหมอนี้แอบเล่นเกมส์ในห้องเรียนน่ะ เลยไม่ค่อยฟังตอนที่ฮินาตะประกาศหน้าห้องละมั้ง?” คลาวน์พูด พอยูยะที่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจอีกครั้ง จนทำให้ฮินาตะคิดขึ้นมาว่า ‘วันนี้พวกเราถอนหายใจกันกี่รอบแล้วเนี้ย
แต่การทัศนศึกษาครั้งนี้อาจจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นมาก็ได้ เพราะตอนนี้วิญญาณเด็กสาวกำลังร้องไห้อย่างทรมาณเพราะเงาดำบางอย่างที่ปกคลุมอยู่รอบกลายภายในโรงเรียนแห่งโศกนาฏกรรมหรือคำสาปอย่างโรงเรียนไรเซ็นคุนั้นเอง...
ที่ออนเซ็นชื่อดัง
ในวันนี้ก็คือวันทัศนศึกษาของชั้นเรียนระดับมัธยมปลายปีสอง ซึ่งตั้งอยู่ที่เกาะโอไดบะในอ่าวโตเกียว นั้นเป็นระยะทางที่ไกลไม่มากนักของพวกคลาวน์ที่จะนั่งรถบัสแอร์มาที่นี้ แต่นั้นก็นับว่าเป็นการผ่อนคลายที่ดีในระดับหนึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์การตายของนักเรียนภายในโรงเรียน
“อึ้ย...อย่างน้อยๆ ก็ได้มาผ่อนคลายอ่านะ” ฮิซุยที่อยู่ในร่างฮินาตะพูดขึ้นพลางยืดเส้นยืดสายอย่างสบายใจเมื่อมีลมพัดมาเบาๆ จนอยากจะนอน
“เอาล่ะ! นักเรียนฟังนะ ครูจะพูดแค่ครั้งเดียว! ครูจะให้นักเรียนเอาสัมภาระไปเก็บในห้องพักของแต่ละห้องที่ติดป้ายเลขห้องเรียนไว้นะ ภายในห้องจะมีเบาะนอนทั้งหมด 35 เบาะ ให้เลือกตามใจชอบได้เลย และทำธุระส่วนให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจะเป็นเวลาอิสระ มีนักเรียนจากโรงเรียนอื่นมาพักด้วย ให้ทำตัวดีๆล่ะ แล้วให้มาเจอกันที่นี้ตอนหกโมงเย็นนะ”
“ครับ/ค่ะ”
เมื่ออาจารย์นัดหมายให้นักเรียนทั้งห้อง ทุกคนก็รับทราบเข้าใจตรงกัน ก่อนจะเดินเป็นแถวตรงไปที่ห้องพักของแต่ละห้องเรียน ภายในห้องก็เป็นห้องขนาดใหญ่กว้างจนสามารถเล่นวิ่งไล่จับหรือวิ่งเปี้ยวก็ยังได้เลย ทั้งสามคนเลือกที่จะนอนริมห้องเพื่อจะได้ดูเป็นการส่วนตัวละหว่างกลุ่ม แต่เพราะห้องพักนี้มีทั้งชายและหญิง ทางที่พักเลยเตรียมผ้าผืนใหญ่มากันไว้เป็นสองฝั่ง หญิงทางขวาของประตู ส่วนผู้ชายทางซ้ายของประตู โคโมะก็เลือกที่จะนอนริมเช่นกัน
นักเรียนหลายคนเริ่มทยอยออกมาจากที่พักและเดินไปที่รวมขายของฝากหรือของที่ระลึกกัน บางคนก็เลือกที่จะไปแช่น้ำในร่มหรือกลางแจ้งกันเรียบร้อย ที่นี้เป็นสถานที่ที่ให้บรรยากาศเป็นออนเซ็นอย่างแท้จริง ทั้งโคมไฟที่ประดับประดา ทั้งพื้นไม้ที่ขัดเงาอย่างดี และกลิ่นของธรรมชาติที่ติดจมูกของทุกคนนั้นช่างเป็นสุดยอดของความผ่อนคลาย
ไม่นานมากทั้งสามคนก็จัดสัมภาระเสร็จเรียบร้อย และเลือกที่จะไปด้านหลังของออนเซ็นซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆ และเป็นทางหน้าผาที่กั้นรั้วไว้อย่างสวยงายและมีโต๊ะม้านั่งให้สองสามตัว เมื่อมองลงไปด้านล่างก็เป็นป่าขนาดเล็ก ก่อนจะมองเลยไปนิดหน่อยเพราะมีทะเลที่สวยมากๆ จนคิดว่าถ้าพระอาทิตย์ตกจะสวยขนาดไหนกันนะ โคโมะบอกว่าจะอยู่ในห้องจนกว่าจะถึงเวลารวมตัวเลยไม่ได้มาด้วยกัน
“เอาล่ะ จะเอายังไงดีล่ะเนี้ย” ฮิซุยในร่างฮินาตะพูด
“อืม...”
คลาวน์และยูยะยืนคิดไปได้สักพัก เมื่อมีชายผมยาวสีขาวเดินขึ้นมาเหมือนกับพวกเขา จนทำให้พวกเขามองตามไปในทางเดียว ก่อนเคจะออกมาแล้วพูดด้วยสีหน้าตกใจมาก
“อาจารย์เรียวมะ!”
“เอ๋? อะไรเหรอเค” ยูยะถามด้วยความงง
“ก็อาจารย์ที่พวกนายกำลังจะถามรายละเอียดน่ะ ก็คนๆ นี้ล่ะ!” เคตอบกลับไปอย่างจริงจัง จนพวกคลาวน์ตกใจและหันไปมองหน้าคนๆ นั้นที่ขึ้นมาได้ไม่นาน แต่มันก็ไม่แปลกเลยถ้าจะมาเจอกันที่นี้ เพราะเขาเป็นครูที่โรงเรียน ถ้าโรงเรียนที่อาจารย์ของพวกเขาบอกว่าจะมาพักด้วยนั้นเป็นโรงเรียนของอาจารย์คนนี้ก็จะไม่แปลกเลยแม้แต่น้อย พวกเขาทั้งสามรู้สึกว่าพวกเขารู้สึกดีจริงๆ ก่อนจะเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“พวกเธอมีอะไรเหรอ? รีบเดินมาเชียว” ชายคนนี้ถามขึ้นเมื่อสังเกตุว่าเด็กหนุ่มทั้งสามเดินเข้ามาด้วยสีหน้าจริงจังซะน่ากลัวและความเร็ว
“คุณคืออาจารย์ที่ลาออกมาจากโรงเรียนไรเซ็นคุรึเปล่าครับ” ฮิซุยออกจากร่างฮินาตะก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยถาม
“ใช่ แล้วพวกเธอเป็นใครน่ะ จู่ๆ ก็เข้ามาถามแบบนี้น่ะ” เขาตอบอย่างงงๆ แต่คำตอบนั้นทำให้พวกคลาวน์ยิ้มออกมาและมองหน้ากันอย่างดีใจเหมือนคนเจอสมบัติ ก่อนคลาวน์จะถามชายคนนี้ด้วยสีหน้าที่เย็นชาเพราะได้รู้มาว่าอาจารย์คนนี้เป็นคนที่คุยด้วยยากพอสมควร
“ผมชื่อ คลาวน์ เป็นเด็กคนหนึ่งที่บังเอิญรอดออกมาจากโรงเรียนไรเซ็นคุได้เมื่อสองปีก่อน ตอนนี้พวกผมกำลังโดนคำสาปจากที่นั้นไล่ล่า และกำลังหาวิธีแก้ไขกับเหตุการณ์ที่เดิกขึ้น เพราะฉะนั้นผมอยากจะถามคุณว่า ในช่วงที่คุณลาออกน่ะ มีอาจารย์คนไหนที่กำลังจะออกตามมั้งมั้ยครับ”
คำถามของคลาวน์ทำให้อาจารย์ที่ชื่อเรียวมะถึงกับอึ้งไป จนทำให้มีสีหน้าที่ดูจะเครียดอย่างเห็นได้ชัด ทำไมถึงเป็นคนที่กำลังจะออกตามนั้นก็เพราะ ถ้าเขาจะสร้างคำสาปหรือทำอะไรบางอย่างก็อาจจะต้องไปเตรียมการหลบหนีร่วงหน้าเพราะจะได้ไม่ต้องโดนคำสาปไปด้วย และเมื่อปีของเคก็ออกไปเรียนต่อกัน อาจารย์คนนี้ก็ออกพอดี และอีกสองปีต่อมาคลาวน์ก็เข้าชั้นเรียนมัธยมสาม ในช่วงเวลานั้นเหมาะแก่การร่ายคำสาปหรือสร้างเหตุการณ์ได้อย่างดีในมุมของเชมันอย่างโคโมะที่มองสถานการณ์ออก
“นี่เธอ..คงไม่ใช่ว่า เป็นเด็กที่มองเห็นวิญญาณอะไรนั้นใช่มั้ย?”
“ใช่ครับ พวกผมทั้งสามคนมองเห็นวิญญาณทุกคน” ฮินาตะตอบแทนเพื่อนทั้งสองอย่างมั่นใจถึงตอนแรกเขาจะมองไม่เห็น แต่ตอนนี้เขามองเห็นแล้ว เขาก็ควรจะช่วยเพื่อนที่กำลังลำบากให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
“งั้นเธอคือ ริกเตอร์ คลาวน์ ที่เป็นลูกชายของเพื่อนบ้านฉันสินะ”
“....!” คำพูดของเรียวมะทำให้คลาวน์ถึงกับจะหยุดหายใจ แต่ตอนนี้ควรตั้งสติไว้ก่อน เพราะวิธีแก้คำสาปมันอาจจะอยู่กับคนที่กำลังตามตัวในตอนนี้อยู่ก็ได้
“พอดีว่าเขาเคยมาเล่าให้ฉันฟังว่า ลูกชายน่ะมองเห็นวิญญาณ และดูเป็นเด็กที่น่ากลัว”
คลาวน์ถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินคำว่า ‘น่ากลัว’ จากปากของคนๆ นี้ ที่ได้ยินมาจากครอบครัวของเขา และเริ่มจะออกอาการขึ้นมา แต่ฮินาตะก็เตือนสติเพื่อนด้วยการตบบ่า และยูยะที่สะกิดมือของคลาวน์เป็นเชิงว่าต้องอดทนไว้ ตอนนี้เรากำลังจะได้รู้เรื่องคำสาปแล้ว คลาวน์มองหน้าเพื่อนทั้งสองก่อนจะพยักหน้า แล้วหันไปถามต่อจากเมื่อกี้
“สรุป คุณช่วยตอบพวกผมได้มั้ยครับ ว่ามีใครลาออกมาหลังจากคุณบ้างมั้ย?”
“ถ้ามีก็มีนะ มีอาจารย์สอนวิชาภาษาญี่ปุ่นและก็ได้เลื่อนมาเป็น ผอ. แต่ไม่นานก็มาลาออกอย่างกะทันหันน่ะ ฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจหรอกนะว่าตอนนี้เขาไปอยู่ที่ไหน”
“แล้วชื่อล่ะครับ พอจะรู้มั้ย?” คลาวน์ถามต่อ
“อะ..อ่อ ฉันไม่ค่อยได้คุยกับคนอื่นน่ะ เลยไม่รู้ ขอโทษนะที่ฉันช่วยได้แค่นี้ ตอนนี้ฉันไม่อยากไปยุ่งกับเรื่องเก่าๆ หรอก ถ้ายังไงขอตัวนะ”
เรียวมะเดินกลับไปด้วยสีหน้าเครียด แต่พวกคลาวน์กับเครียดกว่า เพราะคำตอบของเรียวมะนั้นทำให้เขามีความหวัง แต่ก็ต้องมาหยุดเพราะไม่รู้ชื่อของอาจารย์คนที่ว่า แต่มีอย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนกันคือ...
เคที่ทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอย่างงจริงจังโดยมีฮิซุยมองอย่างสงสัยอยู่ข้างๆ ก่อนจะตบบ่าเคอย่างแรงจนเจ้าตัวสะดุ้ง
“เป็นไรอ่ะ” ฮิซุยถาม
“อ่อ เปล่าๆ แค่คิดอะไรเพลินๆ น่ะ”
คำตอบของเค ทำให้ฮิซุยไม่หายสงสัย แต่ก็ยอมปล่อยไป เพราะตอนนี้ทั้งสามคนที่ยืนนิ่งก็กำลังเครียดเพราะคำตอบของเรียวมะที่บอกว่า ‘ฉันไม่รู้’
--------------------------------------------
มาต่อแล้วนะคับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ