FBI Special Agent เล่ห์รัก...คุณผู้คุ้มกัน

8.4

เขียนโดย narami

วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.10 น.

  4 บทที่
  8 วิจารณ์
  10.67K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 มกราคม พ.ศ. 2557 09.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) โชตะและคานะ (รีไรท์)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

 
FBI Special Agent เล่ห์รัก...คุณผู้คุ้มกัน
 
บทที่3 โชตะและคานะ
 
        เมื่อคืน ทุกคนปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนานและมีความสุขกับอาหารที่คุณยายของฟาร์เซียร์ทำอย่างมี่ความสุข        วันนี้ ฟาร์เซียร์ตื่นแต่เช้าและแต่งตัวเตรียมจะไปเยี่ยมโชตะกับคานะที่โรงเรียน มัธยมของตระกูลวายามาชิ เธอแต่งตัวเรียบๆสบายๆด้วยกางเกงขาสั้นเอวสูงสีดำและเสื้อยืนสีขาวเรียบ ผมยาวสีดำเหลือบน้ำตาลช็อกโกแล้ตนั้นกล้าวขึ้นและผูกด้วยริบบิ้นสีฟ้า ปลาบผมม้วนเป็นลอนหน่อยๆ รองเท้าผ้าใบสีขาวดำเข้ากับชุดเป็นอย่างดี ถ้าเกิดใครที่ไม่รู้จักเธอคงคิดว่าเธอเป็นเด็กม.ปลายแน่ เพราะหน้าตาที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบานั้นดูอ่อนกว่าวัยอย่างคนรักษาผัวพรรณ        เธอเดินมาที่หน้าคฤหาสน์เล็ก เพราะเมื่อตืนเธอนอนที่ห้องในคฤหาสน์ใหญ่        “อรุณสวัสดิ์ แต่งตัวจะไปไหนแต่เช้าครับคุณหัวหน้า”        ฉาคส์ที่กำลังออกกำลังกายอยู่หน้าสนามกับคนอื่นๆในทีมทักขึ้นก่อนด้วยน้ำเสียงล้อเลียนแบบขันๆ        “จะ ไปหาน้องที่โรงเรียนน่ะ เมื่อเช้าตื่นไม่ทัน ออกจากบ้านกันเร็วเหลือเกิน นี่ขนาดฉันตื่น7โมงนะ ลงมาเจอแต่แม่บ้าน คนในครอบครัวละหายกันไปหมด”        “แต่งโทนสีขาวดำอีกแล้ว ฉันบอกเธอแล้วใช้มั้ยว่าให้แต่งสีสันบ้าง ใส่แต่อะไรขาวดำ ดูแล้วไม่สดใสเลย”          “วันนี้ฉันอุตส่าห์ผูกริบบิ้นสีฟ้าเลยนะ นี่นะ”        ฟาร์เซียร์ย้อนฉาคส์อย่างงอนๆ พร้อมกับหันหลังให้ดูริบบิ้นที่ผูกผมเอาไว้        “ครับๆ แล้วนี่ไม่เอาปืนไปด้วยเหรอ”        “ไม่ดีกว่า เดียวเด็กที่โรงเรียนแตกตื่น ขืนไปเดินพร้อมกับปืนที่เอวอย่างสบายอารมณ์ในโรงเรียนละก็ มีหวังน้องๆคงหนีฉันหมด”        “งั้นเอางี้ พวกฉันไปด้วย แล้วก็เอาปืนไปกันหมด ถือว่าอยู่ในเวร เด็กๆจะได้ไม่กลัวมาก”        ฉาคส์เสนอไอเดีย แต่ฟาร์เซียร์กลับคิดว่ามันไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่        “น้องๆได้แตกตื่นกันมากขึ้นละสิไม่ว่า พวกนายตัวใหญ่อย่างกับหมี หน้าตาก็ไม่ค่อยจะเป็นมิตรด้วย”        “เอาน่า ฉันอยากไปดูโรงเรียนของญี่ปุ่นว่าเป็นยังไง ไปพวกเรา ไปเปลี่ยนชุดกัน ขอเวลา10นาทีนะ”        พูดจบทุกคนก็เดินเข้าคฤหาสน์ไปเปลี่ยนชุดโดยทิ้งฟาร์เซียร์ไว้ด้านนอกคนเดียว        “เชื่อเขาเลย...”        เธอเดินลับไปที่ห้องเพื่อกลับไปเอาปืนพกและตราประจำตัว และถือโอกาศหยิบเสื้อคลุมสีดำมาใส่คลุมด้วยเลยเพราะอากาศข้างนอกเย็นกว่าที่คิด        รถหลายคันแล่นเข้ามาในโรงเรียน ฟาร์เซียร์เปิดประตูรถลงมาตามด้วยคนในทีมคนอื่นๆ นักเรียนในโรงเรียนต่างสนอกสนใจว่าพวกเขาเป็นใครกัน        ฟาร์เซียร์ เดินนำทุกคนขึ้นไปที่ชั้น5 เพื่อนไปหาลูกพี่ลูกน้องคนสนิท โชตะ วายามาชิ หนุ่มหล่อสุดทะเล้นอายุ17ปี 1ในนักกีฬาเบสบอลประจำทีมของโรงเรียน        “เออๆ แล้วนี่ ได้ดูแข่งเบสบอลเมื่อวานรึเปล่า เล่นดีมากเลย”        ทันทีที่เธอเดินเข้ามาในห้อง ก็เจอกับลูกพี่ลูกน้องกำลังคุยอย่างออกรสกับเพื่อนเกี่ยวกับการแข่งขันเบสบอลเมื่อวาน        “อะแฮ่ม โชตะ”        ฟาร์เซียร์แกล้งกระแอ่มไอด้านหลังโชตะ เหมือนป็นการบอกให้รู้ว่ามีคนยืนอยู่ด้านหลังเขา        “เจ๊! กลับมาตั้งเมื่อไหร่ โอ๊ยย ดีใจจัง ไม่ได้เจอกันนานเลย ขอกอดหน่อยนะ”        ทันทีที่โชตะเห็นพี่สาวคนสนิทก็ดีใจและรีบสวมกอดด้วยความคิดถึง        “โชตะ เบาๆหน่อย พี่หายใจไม่ออก นายตัวใหญ่กว่าพี่มากเลยนะ”        “เจ๊ มาทำอะไรที่ญี่ปุ่นนี่ ปกติไม่คิดจะกลับมาเพราะกลัวปู่จับไปแต่งงานนิ คราวนี้กลับมา ผมเดาว่าต้องเป็นเรื่องงานแน่เลย ไม่งั้นเจ๊ไม่กลับมาหรอก”        “ใช่ พี่กลับมาทำงาน มีเรื่องนิดหน่อยนะ แต่ช่างมันเถอะ วันนี้พี่มาเยี่ยมเรากับคานะ แต่ยังไม่เจอคานะเลย พาพี่ไปหาคานะหน่อยได้มั้ยโชตะ”        “ได้เลยเจ๊ ที่ไม่เจอคานะก็ไม่แปลกหรอก เพราะรายนั้นเขาซ้อมเชียร์อยู่ ว่าแต่ผู้ชายน่ากลัวด้านหลังเจ๊เป็นใครกัน พกปืนมาด้วย เอ๊ะ! เจ๊ก็พกปืนมานิ”        “นี่ทีมพี่เอง อย่าไปสนใจเลย ไปหาคานะกันดีกว่า”        “คานะ!”        โชตะที่พาฟาร์เซียร์มาหาคานะตะโกนเรียกชื่อน้องสาวเสียงดัง ทำให้สาวๆเชียร์ลีดเดอร์ที่กำลังซ้อมอยู่ชงักเพราะหนุ่มฮอตของลงเรียนลงมาหา ถึงที่ซ้อม        “พี่ฮิโตโมะ! คิดถึงจังเลย พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ มาทำอะไร พักที่ไหน จะกลับไปอเมริกาเมื่อไหร่”        คานะยิงคำถามใส่พี่สาวคนสนิทอย่างไม่ยั้ง        “ช้าๆก็ได้คานะ เดียวขึ้นไปข้างบนก่อนดีกว่า แล้วพี่จะเล่าให้ฟังทั้งหมดเลย”         ฟาร์เซียร์ เล่าเรื่องภารกิจของเธอให้น้องทั้ง2คนฟัง โชตะและคานะต่างตกใจในสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ฟาร์เซียร์เห็นเด็กๆตกใจเลยรีบเปลี่ยนเรื่องคุย        “แล้วเราสองคนเป็นไงบ้างละ เล่าให้พี่ฟังบ้างสิ”        “หนูสบายดีค่ะ ก็เหมือนเดิมทุกอย่าง”        “ผมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หัวหน้าทีมเบสบอลคนใหม่ไม่ได้เรื่องเลยครับเจ๊ เด็กเส้นก็งี้”        โชตะพูดด้วยความเซ็งเมื่อนึกถึงกัปตันทีมของเขา        “เด็กเส้น?เด็กเส้นใคร แล้วเราได้บอกคุณตาเรื่องนี้รึเปล่า”        “เด็กเส้นครูพละคนใหม่นะครับ ผมขี้เกียจบอกคุณปู่เรื่องนี้เพราะตอนแรกผมนึกว่ามันจะเล็กน้อย ที่ไหนได้หนักกว่าที่คิด”        “พี่ชักอยากเห็นฟอร์มการเล่นของกัปตันทีมคนนี้สะแล้ว เรามีซ้อมตอนเที่ยงด้วยนิ พี่ขอไปดูหน่อยแล้วกันนะ”        “ได้ ครับ เจ๊ช่วยดูหน่อยนะถ้าไม่ดีก็เตือนๆเขาหน่อย ผมไม่อยากแพ้ในการแข่งขันเยาวชนปีนี้ พวกเราซ้อมกันมามาก ไม่อยากจะมาตกม้าตายเพราะคนๆเดียว”        โชตะบอกด้วยสีหน้าเคร่งเครียดแบบที่ฟาร์เซียร์คาดไม่ถึงว่าปัญหามันจะหนักขนาดนี้         เพื่อนๆของโชตะและคานะที่รู้จักฟาร์เซียร์ต่างดีใจที่เจ๊ใหญ่กลับมาเยี่ยม        พักเที่ยงเธอพาทีมของเธอไปทานอาหารที่โรงอาหาร หลังจากนั้นก็ไปรอที่สนามเบสบอลเพื่อนดูฟอร์มการเล่นของทีมน้องชาย        “เธอนี่ก็ฮอตในหมู่เด็กๆเหมือนกันนะ เห็นไปทางไหนมีแต่คนมาทัก”        ฉาคส์พูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีระหว่างที่นั่งรอการซ้อมเบสบอลกับคนอื่นๆ        “ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก อ๊ะ! เกมเริ่มแล้ว”        ฟาร์เซียร์ ตั้งใจดูเกมครั้งนี้มาก แต่แล้วเธอก็พบว่ากัปตันทีมคนใหม่ของโชตะนั้นไม่มีความสามารถเลย นี่ขนาดแข่งกันเองยังไม่ได้เรื่อง พอลูกทีมไม่ทำตามคำสั่งก็ทะเลาะกัน เธอเลยตัดสินใจเดินเข้าไปหากัปตันคนนี้        ทันทีที่เธอมายืนอยู่กลางสนาม ทุกคนต่างงงและมองเธออย่างตกใจเพราะไม่คิดว่าเธอจะเดินลุยเข้ามาแบบนี้        “ขอโทษนะ นายเป็นกัปตันทีมคนใหม่ใช่มั้ย”        “ใช่ มีอะไรมิทราบ”        เด็กหนุ่มคนนั้นตอบรับอย่างไม่เกรงกลัว คนอื่นในทีมต่างทำหน้ายู่เพราะดูเหมือนว่ากัปตันของพวกเขาจะไม่รู้จะฟาร์เซียร์สะแล้ว        “ฉันดูฟอร์มการเล่นที่นายคุมแล้ว บอกตรงๆนะมันไม่ได้เรื่องเลย ขืนนายยืนยันจะซ้อมและเล่นแบบนี้ไปเรื่อยๆมีหวังการแข่งขันเยาวชนทีมนายตก รอบแน่”        ฟาร์เซียร์ พูดอย่างตรงไปตรงมา คนอื่นในทีมนั้นยิ้มกว้างออกมาในทันที่ที่รุ่นพี่สาวพูดออกมาแบบนี้ เพราะพวกเขาเคยบอกกับตันแล้วแต่เขาก็ไม่เชื่อ        “เธอเป็นใครมิทราบ กล้ามาออกคำสั่งกับฉันเหรอ!”        กัปตัน ผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรตะคอกใส่หญิงสาวอย่างไม่รู้กาละเทสะ ทุกคนในทีมต่างขนลุกซู่เพราะสัมผัสได้ถึงอารมณ์บางอย่างที่แผ่ออกมาจากรุ่น พี่สาวที่ยืนอย่ากลางวง        “ฉัน คือ ฮิโตโมะ ฟาร์เซียร์ แชมเบลล์ หลานสาวของท่านประทานและผู้อำนวยการโรงเรียนที่นายเรียนอยู่นี่ และฉันอายุมากกว่านาย กรุณาพูดดีๆด้วย”        “แล้วไง ก็แค่หลานสาว ฉันมั่นใจในฟอร์มของฉัน เธอมายุ่งอะไรด้วย”        “เอา งี้ ถ้านายไม่เชื่อ เรามาแข่งกันมั้ยละ ยังไงทีมของฉันก็มีไม่ครบคนอยู่แล้ว ฉันต่อให้แต่ถ้าทีมฉันชนะนายต้องยกเลิกการเป็นกัปตันทีมและห้ามมายุ่งเกี่ยว กับเบสบอลของโรงเรียนคุณตาฉันเด็ดขาด แต่ถ้าทีมฉันแพ้ นายก็เชิญซ้อมแบบของนายไปได้เลย”        ฟาร์เซียร์ ท้าขึ้นมาอย่างเหลืออด ถึงจะเห็นอย่างนี้แต่ทีมของเธอก็เล่นเบสบอลเก่งกว่าที่คิด เพราะหลายคนคนเคยเป็นตัวแทนของทีมมหาลัยมาแล้ว        “เอาซิ อย่างเธอคงแพ้ฉันราบคาบแน่ ฮึๆๆ อยากเห็นผู้แพ้ไวๆจริงๆ”        “นี่ กัปตัน ฉันว่าอย่าท้าแข่งกับเจ๊เลยนะ ถึงจะเห็นอย่างนี้แต่ก็ประมาทไม่ได้ ทางที่ดีปรับฟอร์มการซ้อมแบบที่เจ๊พูดดีกว่า”        โชตะเข้ามาเตือนเด็กหนุ่มที่กำลังคึก ถึงเขาจะไม่ชอบกัปตันคนนี้เท่าไหร่แต่ก็ไม่อยากเห็นเด็กหนุ่มต้องเสียหน้า เพราะความคึกคนองของตัวเอง        “นายจะมายุ่งอะไรด้วย ไปๆ ไปเตรียมตัวได้แล้ว”        พูดจบเขาก็เดินไปที่ข้างสนามเพื่อเตรียมตัวแข่ง ส่วนฟาร์เซียร์นั้นก็เดินกลับไปที่ม้านั่งคนดูข้างสนามเพื่อบอกแผนกับคนในทีมของเธอ         ทางด้านสนามซ้อมฟุตบอลของทีมTokyo Success ทุกคนกำลังซ้อมอย่างสนุกสนาม แต่แล้วก็มีทีมงานคนนึงวิ่งเข้ามาหาโค้ชและยื่นซองสีน้ำตาลในมือให้พร้อมกับกระซิบกระซาบอะไรกันบางอย่าง        “ปี๊ด! หยุดซ้อมกันก่อนทุกคน ฉันมีเรื่องด่วนจะบอก”        นักฟุตบอลทุกคนต่างหยุดการกระทำต่างๆอย่างงงวย แล้ววิ่งมารวมตัวกันที่ข้างสนาม        “ทางทีมFBIส่ง รูปของคนที่จะมาคุ้มกันพวกเราให้แล้ว ดูรูปแล้วจำหน้าตาเอาไว้ให้ดีนะ เพราะจะได้ไม่ไปเชื่อผิดคน เกิดพวกผู้ก่อการร้ายมันปลอมตัวขึ้นมาแล้วจะยุ่ง”        โค้ช ยื่นซองสีน้ำตาลพร้อมกับรูปภาพด้านในให้กับโชซุเกะ เขาเปิดพร้อมกับดูรูปภาพไปเรื่อยๆ แล้วก็มาสะดุดกับภาพผู้หญิงคนนึงที่สวยสง่าราวกับหงส์ แต่แววตานั้นกลับดูนิ่งเฉยราวกับพระจันทร์ในค่ำคืนที่มืดมิด        “คน นี้เหรอ อืมรู้สึกจะเป็นหัวหน้าทีมนะ เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-เยอรมัน-อังกฤษ คนที่ฉันเคยเล่าให้ฟังนะว่าคนในทีมเขาหวง รู้สึกว่าจะชื่อ ฮิโตโมะ ฟาร์เซียร์ แชมเบลล์ เป็นหลานของคุณวายามาชิด้วยละ”        พอชายชราพูดชื่อของผู้มีอิทธิผลอย่างวายามาชิขึ้นมา ก็ทำให้นักฟุตบอลทุกคนตกใจแล้วพากันมองหน้ากันอย่างนึกไม่ถึงว่าชายชราคนดังคนนั้นจะมีหลานสาวสวยขนาดนี้ และนึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะไม่รู้จักด้วย              “ทำไมพวกเราถึงไม่เคยได้ยินข่าวของเธอคนนี้เลยละครับ เป็นถึงหลายสาวของเจ้าตระกูลวายามาชิ สวยขนาดนี้ทำไมถึงไม่เคยได้ยินหรือเห็นเลยสักครั้ง”        โชซุเกะถามขึ้นอย่างประหลาดใจ        “ก็ เพราะเธอไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็กๆไงละ มิน่าละทำไมคนในทีมและคนในครอบครัวเองถึงหวง เพราะสวยขนาดนี้นี่เอง ว่าไงละ ชอบเขารึไงโชซุเกะ”        โค้ชหยอดกัปตันทีมหนุ่มที่มองรูปตาไม่กระพริบอย่าล้อเลียน คนอื่นในทีมเช่นกัน        “บ้าน่าครับ! ตัวจริงก็ยังไม่เคยเจอเลย จะไปชอบเขาได้ไงเล่า....”        กัปตันทีมหนุ่มรีบแก้ตัวขึ้นมาทันควัน พร้อมกับหลบตาทุกคนที่จ้องมองมาที่เขาคนเดียว        “ถ้า ไม่ชอบ แล้วทำไมถึงต้องหูแดงและอายขนาดนี้ด้วยละ แหมๆๆ แบบนี้ใช่มั้ยที่เขาเรียกว่ารักแรกพบ ขนาดเห็นแค่รูปถ่ายยังตกหลุมรักได้เลย แบบนี้สาวๆทั่วประเทศคงอกหักจากคุณพระอาทิตย์สุดร่าเริงคนนี้สะแล้ว ฮ่าๆๆ”        โค้ชยังแซวต่อไม่หยุด เพื่อนๆทุกคนต่างหัวเราะในอาการเขินอายของกัปตันทีมของพวกเขา           “เหมาะกันดีนะ พระอาทิตย์กับพระจันทร์ ถึงจะไม่มีวันมาบรรจบกันก็รักกันได้ ฮ่าๆๆๆ”        เพื่อนยังไม่หยุดแซวโชซุเกะ ส่วนเจ้าตัวนั้นหูแดงเขินอายวิ่งกลับไปซ้อมต่อแล้ว         “ทุกคนพร้อม เข้าใจสิ่งที่ฉันอธิบายนะ”        หลังจากที่ฟาร์เซียร์อธิบายแผนคล้าวๆแล้ว เธอก็ถอดปืนที่อยู่ที่เองวางไว้บนเก้าอี้มานั่งรวมกับของคนอื่นๆด้วย        “คานะ พี่ฝากดูปืนด้วย อย่าให้ใครมาเล่นหรือมาจับเด็ดชาด”        “ได้ค่ะ พี่สู่ๆนะ เอาชนะอีตากัปตันบ้าบอนั้นให้ได้เลย”        คานะเชียร์พี่สาวสุดขีด ฟาร์เซียร์ยิ้มนิดๆพร้อมกับเดินนำคนในทีมมุ่งหน้าไปประจำตำแหน่ง        อีก ด้าน ทันทีที่กัปตันทีมเบสบอลประจำโรงเรียนเห็นทีมของหญิงสาวที่มาท้าแข่งกับเขา ควักปืนออกจากเอวกันคนละบอกก็หน้าซีดเป็นไก่ต้ม และเริ่มรู้สึกว่าคิดผิดมากที่รับคำถ้าของเธอคนนั้น        “เป็นไงละ ฉันเตือนแล้วนายก็ไม่เชื่อ พี่สาวฉันเก่งกว่าที่นายคิด เตรียมเสียหน้าและหลุดออกจากตำแหน่งกับตันทีมได้เลย”        โชตะพูดกับเด็กหนุ่มและเดินออกไปประจำที่ตัวเองพร้อมกับส่ายหน้าอย่างระอา        “มันจะเก่งได้สักแค่ไหนเชียว”        เขายังไม่เชื่อในสิ่งที่โชตะพูด100% แต่ก็ยังแอบหวั่นๆอยู่บ้าง  
 

 

 
 
 
(รีไรท์ค่ะ)
 
มาอัพแล้วค่ะ #ตาย O<-<
อัพเอาวันสุดท้ายของการประกวดพอดี ช่วงนี้ยุ่งๆ กำลังจะย้ายบ้าน
เลยมาลงไว้ตอนนึงก่อนจะไม่มีเน็ต
ตอนนี้เริ่มดัดฟันแล้วด้วย เจ็บ TTvTT”
 
พระนางของเราก็ยังไม่เจอกันสักที เอาเห็นแค่รูปไปก่อนแล้วกันนะ แหะๆ
 
contact me!
Twitter :: narami_nara
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา