The Tale Of Lilian.
-
เขียนโดย ปรัสรา
วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.52 น.
6 session
0 วิจารณ์
9,244 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 เมษายน พ.ศ. 2556 14.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) SS.5
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “เรายังหาพวกนางไม่เจอเลย” เสียงของชายผู้นั้นดูจะเศร้าโศกปนร้อนรน “ท่าน...พวกนางคือคำตอบทุกสิ่งได้จริงหรือ”
“แน่นอน! คำตอบของทุกสิ่งและตัวช่วยของทุกอย่าง” เสียงแหบห้าวไม่ระบุเพศได้กล่าวตอบ “เร่งมือเข้า! เจ้าเท่านั้นที่ช่วยข้าได้!”
ชายผู้นั้นโค้งศีรษะ ก่อนจะหมุนตัวกลับสู่แสงสว่างดังเดิม
ลัลล้า...โลกใบนี้นั้นมีแต่เครา แม้จะล้านเลี่ยนก็ยังมีเครา
เชอติสท์ร้องเพลงนี้มาตลอดตั้งแต่เริ่มเดิมทาง ในขณะที่นักบวชแห่งคาลุมพยายามหักห้ามใจไม่ให้ใช้ไม้เท้าฟาดผัวะลงไปเสียก่อน เขาเป็นนักบวชที่อดทนอดกลั้นกับเรื่องต่างๆมาเยอะ แค่ปากของเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนเดียว ไม่อาจมายั่วโมโหได้หรอก
ว่ากันก็ว่าเถอะ ทั้งที่เป็นศิษย์เอกของหัวหน้าลัทธิอัลโก้ การแต่งตัวนี่ตามใจอยากเหลือเกิน เสื้อแขนกุดสีเทาอ่อน ปลอกแขนกับกางเกงขาสั้น! ถ้าเจ้าไม่มีรองเท้าบูทที่ยาวมาชนเข่าล่ะก็ เจ้ามันก็แค่คนวิตถารที่แต่งตัวหน้าไม่อายเท่านั้นเอง!
ระหว่างคนที่ส่งเสียงร้องกับคนที่ต่อว่าในใจอย่างเจ็บแสบ ไม่มีผู้ใดทราบว่าสิ่งไหนหยุดไปก่อน เมื่อเห็นว่าตรงหน้ามีสองทาง ทางแรกคือทางสู่เมืองเวอร์ซันส์กับเชอโรล ส่วนอีกทางคือป่าและเส้นทางสู่อาณาจักรอีสเตอร์ คณะนักบวชแห่งคาลุมไปทั้งสามทางและทิศอื่นซึ่งไม่ถูกต้องด้วย
“ลุงที่ดีแต่เคราแพะ ท่านว่าทางไหนล่ะ” เชอติสท์หันซ้ายขวา “โยนเหรียญเสี่ยงทายไหม? เหรียญเสี่ยงทางของอัลโก้เราแม่นยำถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์เลยนะ”
ข้ามีเหรียญของคาลุมหรอก!
ควอนเต้หน้าตึงแต่ไม่ตอบอะไร โดยตั้งใจจะดูว่าอีกฝ่ายไปทางไหนกันแน่ เขาเบื่อเจ้าเด็กหนุ่มปากมอมนี่เต็มทนแล้ว เรื่องศีรษะล้านเลี่ยนมันถือเป็นเรื่องปกติของนักบวชชั้นสูง (บางคน) หรอกน่ะ!
ทว่า...ผ่านมาจะครบห้านาทีก็แล้ว หน้ายิ้มๆของเชอติสท์ยังเลือนหายไป แม้ทางที่มีต้นไม้บังจะอยู่ตรงหน้าก็ตาม ส่วนสถานที่ ณ ปัจจุบันช่างโล่งเตียนจนไอแดดแผดจ้า ราวกับว่าโลกนี้สร้างขึ้นมาจากก้อนลาวาและมันกำลังปะทุอยู่
เหงื่อไหลไคลย้อยทำให้นักบวชคาลุมต้องยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเป็นพักๆ ก่อนจะพบว่าผาเช็ดหน้าของตนนั้นชุ่มเหงื่อจนแทบบิดได้ แน่นอนว่าตอนนี้เหมือนรู้เขารู้เรา รู้ใจกันแล้วว่าใครออกเดินทางไปก่อนย่อมเป็นฝ่ายแพ้ ถึงจะไปดักทางเอาข้างหน้าได้ แต่น่ากลัวว่าอีกฝ่ายคงต้องการตามติดประชิดทุกฝีก้าวโดยแท้
ไม่มีทาง! เขาไม่ยอมเดินหน้าก่อนหรอก!
โอ้...เดี๋ยวก่อนสิ นี่เขากำลังทำภารกิจอยู่มิใช่รึ? ถ้าเด็กหนุ่มปากมอมนี่ตามเขาไปคงรู้ภารกิจลับกันพอดี หรือว่าเขาจะรีบเร่งม้าเผื่อว่าจะละทิ้งไปได้ ไม่ได้ๆ ถ้าถูกตามรอยเจอแล้วปัญหามันจะเกิดเอาเปล่าๆ หรือเห็นทีเขาจะกลายเป็นตัวล่อ? ไม่เอาหรอก! เขามีศักดิ์เป็นถึงหนึ่งในสี่ของนักบวชขั้นสูง รองจากท่านหัวหน้าเพียงผู้เดียวนะ จะมาเป็นตัวล่อแบบนี้ได้ไง!
โอย...นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ การเกิดเป็นนักบวชขั้นสูงนี่มันลำบากจริงๆ
“เอ่อ...ข้าไม่อยากทรมานคนแก่ และคิดว่าเราน่าจะออกเดินทางได้แล้วมั้ง” เชอติสท์เสนอแนะ เนื่องจากเขาไม่อยากลากคนที่แบกศักดิ์ศรีไว้จนหนักอึ้งไปหลบใต้ต้นไม้ แถมหยูกยาในกระเป๋าก็แก้ฟกช้ำ เว้นเสียแต่การดมถุงเท้าจะช่วยได้จริงตามคำร่ำลือ
คำตอบของข้อเสนอแนะคือความเงียบเพียงอย่างเดียว ไม่มีอะไรที่จะมาชักจูงให้เขาสนใจได้หรอก นักบวชแห่งคาลุมตั้งใจจะเงียบไปจนกว่าอีกฝ่ายจะเบื่อและผละจากไป คนหนุ่มทนอะไรได้ไม่นานหรอก อย่างน้อยเมื่อเทียบกับคนกระดูกเหล็กอย่างเขา ส่วนเรื่องแก่อะไรนั่นมันเป็นของแถม! มันเป็นเพียงตัวเลขห้าอันไร้ค่า!
คล้ายว่าเสียงสวรรค์เริ่มเป็นใจให้นักเดินทางที่ไม่ทันจะออกเริ่มต้นได้เท่าไหร่นักก็หยุดพักกันยาว เสียสวรรค์นั้นร้องดังครืน! ครืน! เมฆฝนดำทะมึนบังแดดได้เป็นอย่างดี แถมยังมีหยดฝนคอยหยดรดลงมาเพื่อสร้างความเย็นชุ่มฉ่ำ สบาย... โอ๊ะ...สบายเกินไป หนาว...
“ข้าไม่ได้มาแข็งความอดทนกับเจ้านะ!” คำเรียกขานเริ่มเปลี่ยนไปตามอุณหภูมิและเวลา “เลิกศักดิ์ศรีบ้าบอเรื่องลัทธิแล้วเลือกสักทางสิ!”
แม้จะไม่ได้พูดอะไรตามใจที่หยิ่งยะโสเอาไว้ตั้งแต่แรก นัยน์ตาที่มองปราดไปอย่างเอาเรื่องบ่งบอกชัดเจนว่าพูดอะไร ควอนเต้ ธัลเธอร์ กำลังกล่าวว่า ‘เจ้าหนู! ถ้าอยากหลบฝนเร็วๆก็เลิกตามข้าเสียทีสิ!’ ซึ่งเขาไม่ได้พูดเลยจริงๆ ใครได้ยินเสียงเขากันล่ะ?
หลังฝนตก นักบวชคาลุมพบว่าศัตรูตัวร้ายของตนเองล้มลงจากหลังม้าเป็นการเรียบร้อย พร้อมกับร่างกายอันร้อนจี๋ ไม่แปลกหรอก สำหรับเด็กหนุ่มกระดูกอ่อน การตากแดดแผดจ้าสลับกับสายฝนเย็นเจี๊ยบ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
ควอนเต้ลากร่างนั้นไปนอนพักใต้ต้นไม้ใหญ่ พร้อมสละชุดคลุมลายสัญลักษณ์คาลุมให้คลุมกาย โดยตากชุดที่เปียกไว้ใกล้ๆ นำชุดใหม่มาคลุมให้และตัวเขาใส่อีกชุดหนึ่ง ถ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ตื่นขึ้นเมื่อไหร่คงนำมันกลับไปให้ที่ศาสนสถานได้อยู่แล้ว
นัยน์ตาอ่อนแรงสะท้อนภาพของนักบวชผู้หนึ่งซึ่งหันหลังจากไป ก่อนจะบ้วนใบไม้ชนิดหนึ่งออกมา สีหน้าเขาของเริ่มเจือเลือดฝาดขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะสะบัดผ้าคลุมและปิดศีรษะไว้เรียบร้อย
“ยินดีต้อนรับสู่ข้า...คาลุม”
“ไว้วันหลังเรามาเล่นกันอีกเถอะ ท่านนักเดินทางตัวนุ่ม” จูเนียร์ใช้สองแขนรวบเอวบางไว้พร้อมดวงตาเป็นประกาย แม้จะอยากจิ๊กถุงทองหนักๆนี่มาแค่ไหน สายท่านนักรบหนุ่มด้านหลังช่างไม่ปรานีเอาเสียเลย เอาเถอะ...ได้แค่กอดรัดฟัดเหวี่ยงตลอดการเดินทางก็ดีแค่ไหนแล้ว เรื่องขนมค่อยแวะไปคุยพวกพี่สาวแดนตะวันออกก็ได้
ตอนนี้พวกเขาอยู่แถบชายแดนด้านในของอาณาจักรอีสเตอร์ ด้วยชุดที่แตกต่างกันเสียเต็มประดาทำให้ผู้คนอดให้ความสนใจไม่ได้ ความแตกต่างที่ว่าไม่ใช่เกราะหรอกนะ เพราะเซอนาร์ถอดเก็บไว้ในหีบเดินทางตั้งแต่เริ่มต้นได้ไม่เท่าไรแล้ว ถึงจะเป็นเกราะดีเลิศแค่ไหน การใส่เหล็กเดินไปเดินมาเขาถือว่าทรมานตนเองแท้ๆ แถมใครบางคนข้างๆยังเป็นพวกชอบทรมานตัวเองเสียด้วยสิอุตส่าห์จะแบ่งหีบใบหนี่งให้แล้วแท้ๆ
เหนืออื่นใด การเดินทางครั้งนี้ทำให้เด็กหนุ่มรู้ว่าสหายร่วมชะตากรรมไม่ได้บื้อหรือเคร่งครัดกฏเกณฑ์อยู่ตลอดเวลาเลย มิหนำซ้ำยังแอบเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก ลำพังตัวเขามาคนเดียวคงเดินทางฝ่าด่านตรวจคนเข้าเมืองมาตรงๆเลย อำนาจท่านเสนาบดีใช่ว่าจะมีแค่ในอาณาจักรสักหน่อย นั่นสิ...
แล้วทำไมเราไม่บุกเข้ามาตรงๆเล่า! ปล่อยให้เจ้าเด็กนั่นกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่ได้เป็นวันๆ! พวกเขาไม่ใช่เจ้าหญิงแห่งโชคชะตาหรือคนที่ทางการหาตัวอยู่สักหน่อย!
เฮอลิออนพยายามดึงคอเสื้อให้หลุดจากมือคนโวยวาย สุดท้ายก็กระแทกหน้าผากลงไปตรงๆจนบุตรชายขุนนางมึนศีรษะอ่อนแรงอยู่ในอ้อมแขนพยุงนั่นเอง “ที่เราต้องทำเพราะว่าพวกพ่อค้าเถื่อนจะมีที่ลับเฉพาะในการลำเลียงสินค้า หากพวกนางเดินทางมาด้วยวิธีนี้จริงๆ ข่าวคราวคงหาได้ไม่ยากนัก”
ที่พูดนั่นก็ถูก...
เซอนาร์ยอมปล่อยมือแต่โดยดีแล้วทำตัวเหมือนคนจะเป็นลม ซึ่งเขาขอยืนยันว่าไม่เอาถุงเท้าของใครทั้งนั้น การกระทำของเด็กหนุ่มทำให้คนรอบข้างเริ่มซุบซิบสงสัย เนื่องจากไม่ทันสังเกตตอนเสียงโป๊กปริศนาดังขึ้นมา ดูยังไงๆคนแต่งตัวดีท่าทางทะมัดทะแมงนั่นก็เป็นผู้ชายนะ? ถึงจะหน้าหวานก็เถอะ แต่ดูทำเข้าเถอะ บางทีอาจจะแพ้ท้องจะใกล้เป็นลมแล้วก็ได้ แดดตอนนี้ยังไม่แรงเท่าไรแต่อาจจะเดินทางมาเหนื่อยๆ!
หนึ่งในชาวขนของเถื่อนเป็นเด็กสาวคนหนึ่ง นางเป็นนักต้มตุ๋นฝีมือฉกาจที่เลือกเหยื่อเสมอ วิธีการเลือกของนางคือตัวเป็นพวกตาเฒ่าหัวงูที่ไม่รู้จักดูสังขารตัวเอง ทั้งยังคิดว่าผู้หญิงทุกคนในโลกหล้าอยู่เบื้องล่าง จ่ายเงินเล็กน้อยก็สามารถปรนนิบัติพัดวี เชอะเข้าสิ! คนแบบนั้นก็เป็นแค่ขุมทองเคลื่อนที่ให้นางไปช่วงชิงมาเท่านั้นเอง
ส่วนคนใกล้เป็นลมน่ะ นางมีน้ำใจพอในการถามไถ่พร้อมยาสมุนไพรแก้ววิงเวียน เพราะหลายส่วนแสดงชัดเจนว่าเป็นบุรุษเพศ นางเลยไม่บ้าจี้ตามคณะว่าเป็นคนท้องอ่อนๆ บ้าสิ! ผู้ชายตั้งครรภ์ได้ที่ไหนกัน อย่างมากก็แค่เวียนหัวคลื่นไส้เพราะเดินทางมาเหนื่อยจริงๆ พวกคุณหนูผิวอ่อนไงล่ะ ต้อนรับดีๆอาจมีรางวัล ไม่มีให้ก็แล้วไป ของแบบนี้มันอยู่ที่น้ำใจล้วนๆ
เฮอลิออนจึงถือโอกาสนี้ในการถามเรื่องของเจ้าหญิงแห่งชะตากรรม ซึ่งพวกค้าของเถื่อนหรือพวกใต้ดินจะมีสัมผัสพิเศษในการระบุชนชั้น อย่างเซอนาร์เองดูแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ธรรมดา แววตามุ่งร้ายมีโดยทั่วไป หากว่าท่าทางองอาจดูแข็งแกร่งของนักรบหนุ่มไม่คุ้มกันไว้ เขาอาจโดนทำร้ายและช่วงชิงทรัพย์สินไปตั้งแต่เข้ามาก้าวแรกแล้ว!
ดังนั้น คนที่เขาตามหาต้องมีลักษณะพิเศษอะไรสักอย่าง ซึ่งขบวนของนางหยุดพักที่นี่เกือบครบอาทิตย์แล้ว เพราะต้องย้ายของข้าวของหลายประการ หญิงสาวสองคนที่ว่ายังไม่เคยเจอแม้แต่ปลายเล็บ
ก่อนจะถูกเฮอลิออนลากเข้าสู่ตัวเมือง บุตรชายขุนนางไม่ลืมจับมือกับนางไว้อย่างแน่นหนาพร้อมประทับจุมพิตลง “ขอบใจเจ้ามาก หากเราได้พูดคุยกันนานกว่านี้คงดีไม่น้อย ตั้งแต่เกิดมาจนครบสิบเก้าปี ไม่มีสตรีคนใดที่งดงามทั้งกายใจเช่นเจ้าเลย”
“ไปกันได้แล้ว!” เฮอลิออนส่งเสียงดุเบาๆพร้อมใช้แรงลากแบบไม่บันยะบันยัง สาวน้อยยกมือขึ้นบ๊ายบายเบาๆ ก่อนจะก้มหน้ามาพิจารณาทองคำสามเหรียญในมือ
“ถ้าเจ้าไม่เจ้าชู้เสียก็สิ้นเรื่อง เอาเถอะ...ถือเป็นรางวัลแล้วกัน”
‘อัลโก้ เดอะ ฟอร์จูน’
“ถามจริง เราต้องเข้าร้านทำนายดวงก่อนกินข้าวด้วยรึ?” นักรบหนุ่มมองคนตัวดีที่ดูมีประกายแวววับ ครอบครัวเขานับถือคาลุมมาโดยตลอด รวมทั้งท่านเสนาลบดีก็เคยเห็นตราสัญลักษณ์กับธงคาลุมประดับบ้านแท้ๆ ไม่นึกเลยว่าบุตรชายจะนับถือกันคนละลัทธิ
ความจริงเซอนาร์นับถือคาลุมเช่นเดียวกับบิดาและชาวเมืองที่เติบโตขึ้นมาแบบคาลุม แต่เพื่อนสาว...นัยว่าอดีตเคยทำความรู้จักกันลึกซึ้งมาก่อน เคยลากเข้าไปในร้ายทำนายของพวกอัลโก้มาก่อน ความแม่นยำนับได้ว่าเป็นเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์เชียวนะ
ภารกิจครั้งนี้ไม่มีใครรู้เหนือใต้ พึ่งพาพวกหยั่งรู้อนาคตไว้ก่อนเป็นการดี แถมยังไม่ต้องกลัวว่าใครจะมามองเห็นเรื่องราวในอนาคตด้วย เพราะการทำนายสามารถเลือกประเภทใด ครั้งนั้นเขาดูแบบลูกแก้วก็จริง แต่ครั้งนี้ใช้จับลูกแก้วอัลโก้คงปลอดภัยกว่า
ด้วยเหตุนี้...สีหน้าอิหลักอิเหลื่อของเฮอลิออนจึงมานั่งอยู่หน้านักทำนายประจำลัทธินั่นเอง ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่ใช่ศาสนาสถาน แต่เป็นพวกร้านที่ใช้การทำนายด้วยคนที่นับถือหรือศิษย์ลัทธิอัลโก้มากกว่า อย่างคนตรงหน้าสวมชุดคลุมที่สีฉูดฉาดจนดูจะเกินปกติไป อ้อ...จากการกระซิบของบุตรชายขุนนาง ดูเหมือนว่าจะเป็นนักบวชหญิงมีอายุที่ไม่ได้มีพลังด้านการติดต่อกับเทพเจ้ามากนัก ทว่า...กลับมีพลังด้านการทำนายพอใช้ได้ และนี่คือการหาเงินและศรัทธาเข้าลัทธิรูปแบบหนึ่ง...
เสียงชราของนางอธิบายแก่ผู้เข้ารับการทำนายช้าๆ ลูกแก้วอัลโก้มีวิธีทำนายหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือวิธีการคำตอบของปริศนาทั้งหมดทั้งมวลจากลูกแก้วเพียงสามก้อนเท่านั้น ลูกแก้วที่ว่ามีลักษณะขุ่นและสัมผัสหยาบมือ ไม่เรียบลื่นเหมือนผิวแก้วทั่วไป ส่วนคำทำนายจะได้จากการจับสี แถบสีสี่ทิศของลูกแก้วคือลักษณะของการทายนั้น
นางหันมาทางเซอนาร์พร้อมโถแก้วคริสตัลขุ่น “ท่านก่อน”
เซอนาร์ยืดอกอย่างมั่นใจพร้อมจับอย่างแรกขึ้นมา เมื่อวางลงไปใหม่เพื่อเขย่าแปลี่ยนตำแหน่งและจับขึ้นมา ทำเช่นนี้ครบสามครั้ง คำทำนายจึงปรากฏ
“ไร้สีคือโชคชะตาและเทพเจ้า บางทีเจ้าอาจจะกำลังเดินทางเพื่อบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ใช่ขุมทองของมนุษย์” นางวางลูกแก้วไร้สีลงตรงหน้าเขา
“สีดำสามทิศและสีขาวหนึ่งทิศ หมายถึงความลับที่เปิดเผยได้ แต่กลับถูกซุกซ่อนไว้ในใจ อาจหมายถึงความหมายของลูกแก้วแรก...หรือลูกแก้วที่สาม” นางวางลูกแก้วที่สองตาม สีหน้าเริ่มส่อแววนึกสนุกกับความลับของผู้อื่น ดูเผินๆอาจไม่มีอะไร แต่หญิงชราชอบที่สุดคือความลับที่ถูกปิดบัง และความลับของคนนับร้อยพันล้วนมากองตรงหน้านางด้วยกันทั้งสิ้น แค่เพียงพวกเขาก้าวเข้ามาเพื่อรับคำทำนาย
“และนี่คือคำตอบที่สาม...สีชมพูหนึ่งแถบ สีแดงหนึ่งแถบและสีดำหนึ่งและน้ำตาลหนึ่ง...แดงและชมพูคือรัก ดำคือมีความลับในรัก...หรือรักผิดธรรมชาติ อาจหมายถึงระหว่างวรรณะ เผ่าพันธุ์หรือ...เพศ สีน้ำตาลคือพื้นดินและการเดินทาง เจ้าเดินทาง...อาจจะหรือกำลังมีความรักระหว่างทาง...เพียงแต่เป็นความรักที่ผิดประเภท”
เฮอลิออนคล้ายมีสีหน้าว่างเปล่าเมื่อสหายร่วมโชคชะตาหันมาส่งแววตาเหลือเชื่อให้ ก่อนจะรีบก้มหน้าลงพลางส่ายหน้าปฏิเสธโดยเร็ว นั่นทำให้เขานึกถึงตอนที่กลับมาจากการพบปะเหล่าเจ้าหญิงแห่งโชคชะตา ทั้งคำพูดทุ่มเถียงและแววตาเหมือนเศร้าสลด คงไม่ใช่ว่า... ไม่หรอก! ไม่ใช่แน่นอน!
หญิงชราเลื่อนโถคริสตัลขุ่นมาตรงหน้าเขาพร้อมแสยะยิ้ม “แล้วท่านล่ะคะ?”
“แน่นอน! คำตอบของทุกสิ่งและตัวช่วยของทุกอย่าง” เสียงแหบห้าวไม่ระบุเพศได้กล่าวตอบ “เร่งมือเข้า! เจ้าเท่านั้นที่ช่วยข้าได้!”
ชายผู้นั้นโค้งศีรษะ ก่อนจะหมุนตัวกลับสู่แสงสว่างดังเดิม
ลัลล้า...โลกใบนี้นั้นมีแต่เครา แม้จะล้านเลี่ยนก็ยังมีเครา
เชอติสท์ร้องเพลงนี้มาตลอดตั้งแต่เริ่มเดิมทาง ในขณะที่นักบวชแห่งคาลุมพยายามหักห้ามใจไม่ให้ใช้ไม้เท้าฟาดผัวะลงไปเสียก่อน เขาเป็นนักบวชที่อดทนอดกลั้นกับเรื่องต่างๆมาเยอะ แค่ปากของเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนเดียว ไม่อาจมายั่วโมโหได้หรอก
ว่ากันก็ว่าเถอะ ทั้งที่เป็นศิษย์เอกของหัวหน้าลัทธิอัลโก้ การแต่งตัวนี่ตามใจอยากเหลือเกิน เสื้อแขนกุดสีเทาอ่อน ปลอกแขนกับกางเกงขาสั้น! ถ้าเจ้าไม่มีรองเท้าบูทที่ยาวมาชนเข่าล่ะก็ เจ้ามันก็แค่คนวิตถารที่แต่งตัวหน้าไม่อายเท่านั้นเอง!
ระหว่างคนที่ส่งเสียงร้องกับคนที่ต่อว่าในใจอย่างเจ็บแสบ ไม่มีผู้ใดทราบว่าสิ่งไหนหยุดไปก่อน เมื่อเห็นว่าตรงหน้ามีสองทาง ทางแรกคือทางสู่เมืองเวอร์ซันส์กับเชอโรล ส่วนอีกทางคือป่าและเส้นทางสู่อาณาจักรอีสเตอร์ คณะนักบวชแห่งคาลุมไปทั้งสามทางและทิศอื่นซึ่งไม่ถูกต้องด้วย
“ลุงที่ดีแต่เคราแพะ ท่านว่าทางไหนล่ะ” เชอติสท์หันซ้ายขวา “โยนเหรียญเสี่ยงทายไหม? เหรียญเสี่ยงทางของอัลโก้เราแม่นยำถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์เลยนะ”
ข้ามีเหรียญของคาลุมหรอก!
ควอนเต้หน้าตึงแต่ไม่ตอบอะไร โดยตั้งใจจะดูว่าอีกฝ่ายไปทางไหนกันแน่ เขาเบื่อเจ้าเด็กหนุ่มปากมอมนี่เต็มทนแล้ว เรื่องศีรษะล้านเลี่ยนมันถือเป็นเรื่องปกติของนักบวชชั้นสูง (บางคน) หรอกน่ะ!
ทว่า...ผ่านมาจะครบห้านาทีก็แล้ว หน้ายิ้มๆของเชอติสท์ยังเลือนหายไป แม้ทางที่มีต้นไม้บังจะอยู่ตรงหน้าก็ตาม ส่วนสถานที่ ณ ปัจจุบันช่างโล่งเตียนจนไอแดดแผดจ้า ราวกับว่าโลกนี้สร้างขึ้นมาจากก้อนลาวาและมันกำลังปะทุอยู่
เหงื่อไหลไคลย้อยทำให้นักบวชคาลุมต้องยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเป็นพักๆ ก่อนจะพบว่าผาเช็ดหน้าของตนนั้นชุ่มเหงื่อจนแทบบิดได้ แน่นอนว่าตอนนี้เหมือนรู้เขารู้เรา รู้ใจกันแล้วว่าใครออกเดินทางไปก่อนย่อมเป็นฝ่ายแพ้ ถึงจะไปดักทางเอาข้างหน้าได้ แต่น่ากลัวว่าอีกฝ่ายคงต้องการตามติดประชิดทุกฝีก้าวโดยแท้
ไม่มีทาง! เขาไม่ยอมเดินหน้าก่อนหรอก!
โอ้...เดี๋ยวก่อนสิ นี่เขากำลังทำภารกิจอยู่มิใช่รึ? ถ้าเด็กหนุ่มปากมอมนี่ตามเขาไปคงรู้ภารกิจลับกันพอดี หรือว่าเขาจะรีบเร่งม้าเผื่อว่าจะละทิ้งไปได้ ไม่ได้ๆ ถ้าถูกตามรอยเจอแล้วปัญหามันจะเกิดเอาเปล่าๆ หรือเห็นทีเขาจะกลายเป็นตัวล่อ? ไม่เอาหรอก! เขามีศักดิ์เป็นถึงหนึ่งในสี่ของนักบวชขั้นสูง รองจากท่านหัวหน้าเพียงผู้เดียวนะ จะมาเป็นตัวล่อแบบนี้ได้ไง!
โอย...นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ การเกิดเป็นนักบวชขั้นสูงนี่มันลำบากจริงๆ
“เอ่อ...ข้าไม่อยากทรมานคนแก่ และคิดว่าเราน่าจะออกเดินทางได้แล้วมั้ง” เชอติสท์เสนอแนะ เนื่องจากเขาไม่อยากลากคนที่แบกศักดิ์ศรีไว้จนหนักอึ้งไปหลบใต้ต้นไม้ แถมหยูกยาในกระเป๋าก็แก้ฟกช้ำ เว้นเสียแต่การดมถุงเท้าจะช่วยได้จริงตามคำร่ำลือ
คำตอบของข้อเสนอแนะคือความเงียบเพียงอย่างเดียว ไม่มีอะไรที่จะมาชักจูงให้เขาสนใจได้หรอก นักบวชแห่งคาลุมตั้งใจจะเงียบไปจนกว่าอีกฝ่ายจะเบื่อและผละจากไป คนหนุ่มทนอะไรได้ไม่นานหรอก อย่างน้อยเมื่อเทียบกับคนกระดูกเหล็กอย่างเขา ส่วนเรื่องแก่อะไรนั่นมันเป็นของแถม! มันเป็นเพียงตัวเลขห้าอันไร้ค่า!
คล้ายว่าเสียงสวรรค์เริ่มเป็นใจให้นักเดินทางที่ไม่ทันจะออกเริ่มต้นได้เท่าไหร่นักก็หยุดพักกันยาว เสียสวรรค์นั้นร้องดังครืน! ครืน! เมฆฝนดำทะมึนบังแดดได้เป็นอย่างดี แถมยังมีหยดฝนคอยหยดรดลงมาเพื่อสร้างความเย็นชุ่มฉ่ำ สบาย... โอ๊ะ...สบายเกินไป หนาว...
“ข้าไม่ได้มาแข็งความอดทนกับเจ้านะ!” คำเรียกขานเริ่มเปลี่ยนไปตามอุณหภูมิและเวลา “เลิกศักดิ์ศรีบ้าบอเรื่องลัทธิแล้วเลือกสักทางสิ!”
แม้จะไม่ได้พูดอะไรตามใจที่หยิ่งยะโสเอาไว้ตั้งแต่แรก นัยน์ตาที่มองปราดไปอย่างเอาเรื่องบ่งบอกชัดเจนว่าพูดอะไร ควอนเต้ ธัลเธอร์ กำลังกล่าวว่า ‘เจ้าหนู! ถ้าอยากหลบฝนเร็วๆก็เลิกตามข้าเสียทีสิ!’ ซึ่งเขาไม่ได้พูดเลยจริงๆ ใครได้ยินเสียงเขากันล่ะ?
หลังฝนตก นักบวชคาลุมพบว่าศัตรูตัวร้ายของตนเองล้มลงจากหลังม้าเป็นการเรียบร้อย พร้อมกับร่างกายอันร้อนจี๋ ไม่แปลกหรอก สำหรับเด็กหนุ่มกระดูกอ่อน การตากแดดแผดจ้าสลับกับสายฝนเย็นเจี๊ยบ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
ควอนเต้ลากร่างนั้นไปนอนพักใต้ต้นไม้ใหญ่ พร้อมสละชุดคลุมลายสัญลักษณ์คาลุมให้คลุมกาย โดยตากชุดที่เปียกไว้ใกล้ๆ นำชุดใหม่มาคลุมให้และตัวเขาใส่อีกชุดหนึ่ง ถ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ตื่นขึ้นเมื่อไหร่คงนำมันกลับไปให้ที่ศาสนสถานได้อยู่แล้ว
นัยน์ตาอ่อนแรงสะท้อนภาพของนักบวชผู้หนึ่งซึ่งหันหลังจากไป ก่อนจะบ้วนใบไม้ชนิดหนึ่งออกมา สีหน้าเขาของเริ่มเจือเลือดฝาดขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะสะบัดผ้าคลุมและปิดศีรษะไว้เรียบร้อย
“ยินดีต้อนรับสู่ข้า...คาลุม”
“ไว้วันหลังเรามาเล่นกันอีกเถอะ ท่านนักเดินทางตัวนุ่ม” จูเนียร์ใช้สองแขนรวบเอวบางไว้พร้อมดวงตาเป็นประกาย แม้จะอยากจิ๊กถุงทองหนักๆนี่มาแค่ไหน สายท่านนักรบหนุ่มด้านหลังช่างไม่ปรานีเอาเสียเลย เอาเถอะ...ได้แค่กอดรัดฟัดเหวี่ยงตลอดการเดินทางก็ดีแค่ไหนแล้ว เรื่องขนมค่อยแวะไปคุยพวกพี่สาวแดนตะวันออกก็ได้
ตอนนี้พวกเขาอยู่แถบชายแดนด้านในของอาณาจักรอีสเตอร์ ด้วยชุดที่แตกต่างกันเสียเต็มประดาทำให้ผู้คนอดให้ความสนใจไม่ได้ ความแตกต่างที่ว่าไม่ใช่เกราะหรอกนะ เพราะเซอนาร์ถอดเก็บไว้ในหีบเดินทางตั้งแต่เริ่มต้นได้ไม่เท่าไรแล้ว ถึงจะเป็นเกราะดีเลิศแค่ไหน การใส่เหล็กเดินไปเดินมาเขาถือว่าทรมานตนเองแท้ๆ แถมใครบางคนข้างๆยังเป็นพวกชอบทรมานตัวเองเสียด้วยสิอุตส่าห์จะแบ่งหีบใบหนี่งให้แล้วแท้ๆ
เหนืออื่นใด การเดินทางครั้งนี้ทำให้เด็กหนุ่มรู้ว่าสหายร่วมชะตากรรมไม่ได้บื้อหรือเคร่งครัดกฏเกณฑ์อยู่ตลอดเวลาเลย มิหนำซ้ำยังแอบเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก ลำพังตัวเขามาคนเดียวคงเดินทางฝ่าด่านตรวจคนเข้าเมืองมาตรงๆเลย อำนาจท่านเสนาบดีใช่ว่าจะมีแค่ในอาณาจักรสักหน่อย นั่นสิ...
แล้วทำไมเราไม่บุกเข้ามาตรงๆเล่า! ปล่อยให้เจ้าเด็กนั่นกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่ได้เป็นวันๆ! พวกเขาไม่ใช่เจ้าหญิงแห่งโชคชะตาหรือคนที่ทางการหาตัวอยู่สักหน่อย!
เฮอลิออนพยายามดึงคอเสื้อให้หลุดจากมือคนโวยวาย สุดท้ายก็กระแทกหน้าผากลงไปตรงๆจนบุตรชายขุนนางมึนศีรษะอ่อนแรงอยู่ในอ้อมแขนพยุงนั่นเอง “ที่เราต้องทำเพราะว่าพวกพ่อค้าเถื่อนจะมีที่ลับเฉพาะในการลำเลียงสินค้า หากพวกนางเดินทางมาด้วยวิธีนี้จริงๆ ข่าวคราวคงหาได้ไม่ยากนัก”
ที่พูดนั่นก็ถูก...
เซอนาร์ยอมปล่อยมือแต่โดยดีแล้วทำตัวเหมือนคนจะเป็นลม ซึ่งเขาขอยืนยันว่าไม่เอาถุงเท้าของใครทั้งนั้น การกระทำของเด็กหนุ่มทำให้คนรอบข้างเริ่มซุบซิบสงสัย เนื่องจากไม่ทันสังเกตตอนเสียงโป๊กปริศนาดังขึ้นมา ดูยังไงๆคนแต่งตัวดีท่าทางทะมัดทะแมงนั่นก็เป็นผู้ชายนะ? ถึงจะหน้าหวานก็เถอะ แต่ดูทำเข้าเถอะ บางทีอาจจะแพ้ท้องจะใกล้เป็นลมแล้วก็ได้ แดดตอนนี้ยังไม่แรงเท่าไรแต่อาจจะเดินทางมาเหนื่อยๆ!
หนึ่งในชาวขนของเถื่อนเป็นเด็กสาวคนหนึ่ง นางเป็นนักต้มตุ๋นฝีมือฉกาจที่เลือกเหยื่อเสมอ วิธีการเลือกของนางคือตัวเป็นพวกตาเฒ่าหัวงูที่ไม่รู้จักดูสังขารตัวเอง ทั้งยังคิดว่าผู้หญิงทุกคนในโลกหล้าอยู่เบื้องล่าง จ่ายเงินเล็กน้อยก็สามารถปรนนิบัติพัดวี เชอะเข้าสิ! คนแบบนั้นก็เป็นแค่ขุมทองเคลื่อนที่ให้นางไปช่วงชิงมาเท่านั้นเอง
ส่วนคนใกล้เป็นลมน่ะ นางมีน้ำใจพอในการถามไถ่พร้อมยาสมุนไพรแก้ววิงเวียน เพราะหลายส่วนแสดงชัดเจนว่าเป็นบุรุษเพศ นางเลยไม่บ้าจี้ตามคณะว่าเป็นคนท้องอ่อนๆ บ้าสิ! ผู้ชายตั้งครรภ์ได้ที่ไหนกัน อย่างมากก็แค่เวียนหัวคลื่นไส้เพราะเดินทางมาเหนื่อยจริงๆ พวกคุณหนูผิวอ่อนไงล่ะ ต้อนรับดีๆอาจมีรางวัล ไม่มีให้ก็แล้วไป ของแบบนี้มันอยู่ที่น้ำใจล้วนๆ
เฮอลิออนจึงถือโอกาสนี้ในการถามเรื่องของเจ้าหญิงแห่งชะตากรรม ซึ่งพวกค้าของเถื่อนหรือพวกใต้ดินจะมีสัมผัสพิเศษในการระบุชนชั้น อย่างเซอนาร์เองดูแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ธรรมดา แววตามุ่งร้ายมีโดยทั่วไป หากว่าท่าทางองอาจดูแข็งแกร่งของนักรบหนุ่มไม่คุ้มกันไว้ เขาอาจโดนทำร้ายและช่วงชิงทรัพย์สินไปตั้งแต่เข้ามาก้าวแรกแล้ว!
ดังนั้น คนที่เขาตามหาต้องมีลักษณะพิเศษอะไรสักอย่าง ซึ่งขบวนของนางหยุดพักที่นี่เกือบครบอาทิตย์แล้ว เพราะต้องย้ายของข้าวของหลายประการ หญิงสาวสองคนที่ว่ายังไม่เคยเจอแม้แต่ปลายเล็บ
ก่อนจะถูกเฮอลิออนลากเข้าสู่ตัวเมือง บุตรชายขุนนางไม่ลืมจับมือกับนางไว้อย่างแน่นหนาพร้อมประทับจุมพิตลง “ขอบใจเจ้ามาก หากเราได้พูดคุยกันนานกว่านี้คงดีไม่น้อย ตั้งแต่เกิดมาจนครบสิบเก้าปี ไม่มีสตรีคนใดที่งดงามทั้งกายใจเช่นเจ้าเลย”
“ไปกันได้แล้ว!” เฮอลิออนส่งเสียงดุเบาๆพร้อมใช้แรงลากแบบไม่บันยะบันยัง สาวน้อยยกมือขึ้นบ๊ายบายเบาๆ ก่อนจะก้มหน้ามาพิจารณาทองคำสามเหรียญในมือ
“ถ้าเจ้าไม่เจ้าชู้เสียก็สิ้นเรื่อง เอาเถอะ...ถือเป็นรางวัลแล้วกัน”
‘อัลโก้ เดอะ ฟอร์จูน’
“ถามจริง เราต้องเข้าร้านทำนายดวงก่อนกินข้าวด้วยรึ?” นักรบหนุ่มมองคนตัวดีที่ดูมีประกายแวววับ ครอบครัวเขานับถือคาลุมมาโดยตลอด รวมทั้งท่านเสนาลบดีก็เคยเห็นตราสัญลักษณ์กับธงคาลุมประดับบ้านแท้ๆ ไม่นึกเลยว่าบุตรชายจะนับถือกันคนละลัทธิ
ความจริงเซอนาร์นับถือคาลุมเช่นเดียวกับบิดาและชาวเมืองที่เติบโตขึ้นมาแบบคาลุม แต่เพื่อนสาว...นัยว่าอดีตเคยทำความรู้จักกันลึกซึ้งมาก่อน เคยลากเข้าไปในร้ายทำนายของพวกอัลโก้มาก่อน ความแม่นยำนับได้ว่าเป็นเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์เชียวนะ
ภารกิจครั้งนี้ไม่มีใครรู้เหนือใต้ พึ่งพาพวกหยั่งรู้อนาคตไว้ก่อนเป็นการดี แถมยังไม่ต้องกลัวว่าใครจะมามองเห็นเรื่องราวในอนาคตด้วย เพราะการทำนายสามารถเลือกประเภทใด ครั้งนั้นเขาดูแบบลูกแก้วก็จริง แต่ครั้งนี้ใช้จับลูกแก้วอัลโก้คงปลอดภัยกว่า
ด้วยเหตุนี้...สีหน้าอิหลักอิเหลื่อของเฮอลิออนจึงมานั่งอยู่หน้านักทำนายประจำลัทธินั่นเอง ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่ใช่ศาสนาสถาน แต่เป็นพวกร้านที่ใช้การทำนายด้วยคนที่นับถือหรือศิษย์ลัทธิอัลโก้มากกว่า อย่างคนตรงหน้าสวมชุดคลุมที่สีฉูดฉาดจนดูจะเกินปกติไป อ้อ...จากการกระซิบของบุตรชายขุนนาง ดูเหมือนว่าจะเป็นนักบวชหญิงมีอายุที่ไม่ได้มีพลังด้านการติดต่อกับเทพเจ้ามากนัก ทว่า...กลับมีพลังด้านการทำนายพอใช้ได้ และนี่คือการหาเงินและศรัทธาเข้าลัทธิรูปแบบหนึ่ง...
เสียงชราของนางอธิบายแก่ผู้เข้ารับการทำนายช้าๆ ลูกแก้วอัลโก้มีวิธีทำนายหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือวิธีการคำตอบของปริศนาทั้งหมดทั้งมวลจากลูกแก้วเพียงสามก้อนเท่านั้น ลูกแก้วที่ว่ามีลักษณะขุ่นและสัมผัสหยาบมือ ไม่เรียบลื่นเหมือนผิวแก้วทั่วไป ส่วนคำทำนายจะได้จากการจับสี แถบสีสี่ทิศของลูกแก้วคือลักษณะของการทายนั้น
นางหันมาทางเซอนาร์พร้อมโถแก้วคริสตัลขุ่น “ท่านก่อน”
เซอนาร์ยืดอกอย่างมั่นใจพร้อมจับอย่างแรกขึ้นมา เมื่อวางลงไปใหม่เพื่อเขย่าแปลี่ยนตำแหน่งและจับขึ้นมา ทำเช่นนี้ครบสามครั้ง คำทำนายจึงปรากฏ
“ไร้สีคือโชคชะตาและเทพเจ้า บางทีเจ้าอาจจะกำลังเดินทางเพื่อบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ใช่ขุมทองของมนุษย์” นางวางลูกแก้วไร้สีลงตรงหน้าเขา
“สีดำสามทิศและสีขาวหนึ่งทิศ หมายถึงความลับที่เปิดเผยได้ แต่กลับถูกซุกซ่อนไว้ในใจ อาจหมายถึงความหมายของลูกแก้วแรก...หรือลูกแก้วที่สาม” นางวางลูกแก้วที่สองตาม สีหน้าเริ่มส่อแววนึกสนุกกับความลับของผู้อื่น ดูเผินๆอาจไม่มีอะไร แต่หญิงชราชอบที่สุดคือความลับที่ถูกปิดบัง และความลับของคนนับร้อยพันล้วนมากองตรงหน้านางด้วยกันทั้งสิ้น แค่เพียงพวกเขาก้าวเข้ามาเพื่อรับคำทำนาย
“และนี่คือคำตอบที่สาม...สีชมพูหนึ่งแถบ สีแดงหนึ่งแถบและสีดำหนึ่งและน้ำตาลหนึ่ง...แดงและชมพูคือรัก ดำคือมีความลับในรัก...หรือรักผิดธรรมชาติ อาจหมายถึงระหว่างวรรณะ เผ่าพันธุ์หรือ...เพศ สีน้ำตาลคือพื้นดินและการเดินทาง เจ้าเดินทาง...อาจจะหรือกำลังมีความรักระหว่างทาง...เพียงแต่เป็นความรักที่ผิดประเภท”
เฮอลิออนคล้ายมีสีหน้าว่างเปล่าเมื่อสหายร่วมโชคชะตาหันมาส่งแววตาเหลือเชื่อให้ ก่อนจะรีบก้มหน้าลงพลางส่ายหน้าปฏิเสธโดยเร็ว นั่นทำให้เขานึกถึงตอนที่กลับมาจากการพบปะเหล่าเจ้าหญิงแห่งโชคชะตา ทั้งคำพูดทุ่มเถียงและแววตาเหมือนเศร้าสลด คงไม่ใช่ว่า... ไม่หรอก! ไม่ใช่แน่นอน!
หญิงชราเลื่อนโถคริสตัลขุ่นมาตรงหน้าเขาพร้อมแสยะยิ้ม “แล้วท่านล่ะคะ?”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ