The Tale Of Lilian.

-

เขียนโดย ปรัสรา

วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.52 น.

  6 session
  0 วิจารณ์
  9,389 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 เมษายน พ.ศ. 2556 14.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) SS.5

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
      “เรายังหาพวกนางไม่เจอเลย”  เสียงของชายผู้นั้นดูจะเศร้าโศกปนร้อนรน  “ท่าน...พวกนางคือคำตอบทุกสิ่งได้จริงหรือ”
 
     “แน่นอน!  คำตอบของทุกสิ่งและตัวช่วยของทุกอย่าง”  เสียงแหบห้าวไม่ระบุเพศได้กล่าวตอบ  “เร่งมือเข้า!  เจ้าเท่านั้นที่ช่วยข้าได้!”
 
     ชายผู้นั้นโค้งศีรษะ  ก่อนจะหมุนตัวกลับสู่แสงสว่างดังเดิม
 
 
 
     ลัลล้า...โลกใบนี้นั้นมีแต่เครา  แม้จะล้านเลี่ยนก็ยังมีเครา
 
     เชอติสท์ร้องเพลงนี้มาตลอดตั้งแต่เริ่มเดิมทาง  ในขณะที่นักบวชแห่งคาลุมพยายามหักห้ามใจไม่ให้ใช้ไม้เท้าฟาดผัวะลงไปเสียก่อน  เขาเป็นนักบวชที่อดทนอดกลั้นกับเรื่องต่างๆมาเยอะ  แค่ปากของเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนเดียว  ไม่อาจมายั่วโมโหได้หรอก
 
     ว่ากันก็ว่าเถอะ  ทั้งที่เป็นศิษย์เอกของหัวหน้าลัทธิอัลโก้  การแต่งตัวนี่ตามใจอยากเหลือเกิน  เสื้อแขนกุดสีเทาอ่อน  ปลอกแขนกับกางเกงขาสั้น!  ถ้าเจ้าไม่มีรองเท้าบูทที่ยาวมาชนเข่าล่ะก็  เจ้ามันก็แค่คนวิตถารที่แต่งตัวหน้าไม่อายเท่านั้นเอง!
 
     ระหว่างคนที่ส่งเสียงร้องกับคนที่ต่อว่าในใจอย่างเจ็บแสบ  ไม่มีผู้ใดทราบว่าสิ่งไหนหยุดไปก่อน  เมื่อเห็นว่าตรงหน้ามีสองทาง  ทางแรกคือทางสู่เมืองเวอร์ซันส์กับเชอโรล  ส่วนอีกทางคือป่าและเส้นทางสู่อาณาจักรอีสเตอร์  คณะนักบวชแห่งคาลุมไปทั้งสามทางและทิศอื่นซึ่งไม่ถูกต้องด้วย
 
     “ลุงที่ดีแต่เคราแพะ  ท่านว่าทางไหนล่ะ”  เชอติสท์หันซ้ายขวา  “โยนเหรียญเสี่ยงทายไหม?  เหรียญเสี่ยงทางของอัลโก้เราแม่นยำถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์เลยนะ”
 
     ข้ามีเหรียญของคาลุมหรอก! 
 
     ควอนเต้หน้าตึงแต่ไม่ตอบอะไร  โดยตั้งใจจะดูว่าอีกฝ่ายไปทางไหนกันแน่   เขาเบื่อเจ้าเด็กหนุ่มปากมอมนี่เต็มทนแล้ว  เรื่องศีรษะล้านเลี่ยนมันถือเป็นเรื่องปกติของนักบวชชั้นสูง (บางคน) หรอกน่ะ!
 
     ทว่า...ผ่านมาจะครบห้านาทีก็แล้ว  หน้ายิ้มๆของเชอติสท์ยังเลือนหายไป  แม้ทางที่มีต้นไม้บังจะอยู่ตรงหน้าก็ตาม   ส่วนสถานที่ ณ ปัจจุบันช่างโล่งเตียนจนไอแดดแผดจ้า  ราวกับว่าโลกนี้สร้างขึ้นมาจากก้อนลาวาและมันกำลังปะทุอยู่
 
     เหงื่อไหลไคลย้อยทำให้นักบวชคาลุมต้องยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเป็นพักๆ  ก่อนจะพบว่าผาเช็ดหน้าของตนนั้นชุ่มเหงื่อจนแทบบิดได้  แน่นอนว่าตอนนี้เหมือนรู้เขารู้เรา  รู้ใจกันแล้วว่าใครออกเดินทางไปก่อนย่อมเป็นฝ่ายแพ้  ถึงจะไปดักทางเอาข้างหน้าได้  แต่น่ากลัวว่าอีกฝ่ายคงต้องการตามติดประชิดทุกฝีก้าวโดยแท้
 
     ไม่มีทาง!  เขาไม่ยอมเดินหน้าก่อนหรอก!
 
     โอ้...เดี๋ยวก่อนสิ  นี่เขากำลังทำภารกิจอยู่มิใช่รึ?  ถ้าเด็กหนุ่มปากมอมนี่ตามเขาไปคงรู้ภารกิจลับกันพอดี  หรือว่าเขาจะรีบเร่งม้าเผื่อว่าจะละทิ้งไปได้  ไม่ได้ๆ  ถ้าถูกตามรอยเจอแล้วปัญหามันจะเกิดเอาเปล่าๆ  หรือเห็นทีเขาจะกลายเป็นตัวล่อ?  ไม่เอาหรอก!  เขามีศักดิ์เป็นถึงหนึ่งในสี่ของนักบวชขั้นสูง  รองจากท่านหัวหน้าเพียงผู้เดียวนะ  จะมาเป็นตัวล่อแบบนี้ได้ไง!
 
     โอย...นั่นก็ไม่ได้  นี่ก็ไม่ได้  การเกิดเป็นนักบวชขั้นสูงนี่มันลำบากจริงๆ
 
     “เอ่อ...ข้าไม่อยากทรมานคนแก่  และคิดว่าเราน่าจะออกเดินทางได้แล้วมั้ง”  เชอติสท์เสนอแนะ  เนื่องจากเขาไม่อยากลากคนที่แบกศักดิ์ศรีไว้จนหนักอึ้งไปหลบใต้ต้นไม้  แถมหยูกยาในกระเป๋าก็แก้ฟกช้ำ  เว้นเสียแต่การดมถุงเท้าจะช่วยได้จริงตามคำร่ำลือ
 
     คำตอบของข้อเสนอแนะคือความเงียบเพียงอย่างเดียว  ไม่มีอะไรที่จะมาชักจูงให้เขาสนใจได้หรอก  นักบวชแห่งคาลุมตั้งใจจะเงียบไปจนกว่าอีกฝ่ายจะเบื่อและผละจากไป  คนหนุ่มทนอะไรได้ไม่นานหรอก  อย่างน้อยเมื่อเทียบกับคนกระดูกเหล็กอย่างเขา  ส่วนเรื่องแก่อะไรนั่นมันเป็นของแถม!  มันเป็นเพียงตัวเลขห้าอันไร้ค่า!
 
     คล้ายว่าเสียงสวรรค์เริ่มเป็นใจให้นักเดินทางที่ไม่ทันจะออกเริ่มต้นได้เท่าไหร่นักก็หยุดพักกันยาว  เสียสวรรค์นั้นร้องดังครืน!  ครืน!  เมฆฝนดำทะมึนบังแดดได้เป็นอย่างดี  แถมยังมีหยดฝนคอยหยดรดลงมาเพื่อสร้างความเย็นชุ่มฉ่ำ  สบาย...  โอ๊ะ...สบายเกินไป  หนาว...
 
     “ข้าไม่ได้มาแข็งความอดทนกับเจ้านะ!”  คำเรียกขานเริ่มเปลี่ยนไปตามอุณหภูมิและเวลา  “เลิกศักดิ์ศรีบ้าบอเรื่องลัทธิแล้วเลือกสักทางสิ!”
 
     แม้จะไม่ได้พูดอะไรตามใจที่หยิ่งยะโสเอาไว้ตั้งแต่แรก  นัยน์ตาที่มองปราดไปอย่างเอาเรื่องบ่งบอกชัดเจนว่าพูดอะไร  ควอนเต้ ธัลเธอร์ กำลังกล่าวว่า ‘เจ้าหนู!  ถ้าอยากหลบฝนเร็วๆก็เลิกตามข้าเสียทีสิ!’  ซึ่งเขาไม่ได้พูดเลยจริงๆ  ใครได้ยินเสียงเขากันล่ะ?
 
     หลังฝนตก  นักบวชคาลุมพบว่าศัตรูตัวร้ายของตนเองล้มลงจากหลังม้าเป็นการเรียบร้อย  พร้อมกับร่างกายอันร้อนจี๋  ไม่แปลกหรอก  สำหรับเด็กหนุ่มกระดูกอ่อน  การตากแดดแผดจ้าสลับกับสายฝนเย็นเจี๊ยบ  อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
 
     ควอนเต้ลากร่างนั้นไปนอนพักใต้ต้นไม้ใหญ่  พร้อมสละชุดคลุมลายสัญลักษณ์คาลุมให้คลุมกาย  โดยตากชุดที่เปียกไว้ใกล้ๆ  นำชุดใหม่มาคลุมให้และตัวเขาใส่อีกชุดหนึ่ง  ถ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ตื่นขึ้นเมื่อไหร่คงนำมันกลับไปให้ที่ศาสนสถานได้อยู่แล้ว
 
     นัยน์ตาอ่อนแรงสะท้อนภาพของนักบวชผู้หนึ่งซึ่งหันหลังจากไป  ก่อนจะบ้วนใบไม้ชนิดหนึ่งออกมา  สีหน้าเขาของเริ่มเจือเลือดฝาดขึ้นเล็กน้อย  ก่อนจะสะบัดผ้าคลุมและปิดศีรษะไว้เรียบร้อย
 
     “ยินดีต้อนรับสู่ข้า...คาลุม”
 
 
 
     “ไว้วันหลังเรามาเล่นกันอีกเถอะ  ท่านนักเดินทางตัวนุ่ม”  จูเนียร์ใช้สองแขนรวบเอวบางไว้พร้อมดวงตาเป็นประกาย  แม้จะอยากจิ๊กถุงทองหนักๆนี่มาแค่ไหน  สายท่านนักรบหนุ่มด้านหลังช่างไม่ปรานีเอาเสียเลย  เอาเถอะ...ได้แค่กอดรัดฟัดเหวี่ยงตลอดการเดินทางก็ดีแค่ไหนแล้ว  เรื่องขนมค่อยแวะไปคุยพวกพี่สาวแดนตะวันออกก็ได้
 
     ตอนนี้พวกเขาอยู่แถบชายแดนด้านในของอาณาจักรอีสเตอร์  ด้วยชุดที่แตกต่างกันเสียเต็มประดาทำให้ผู้คนอดให้ความสนใจไม่ได้  ความแตกต่างที่ว่าไม่ใช่เกราะหรอกนะ  เพราะเซอนาร์ถอดเก็บไว้ในหีบเดินทางตั้งแต่เริ่มต้นได้ไม่เท่าไรแล้ว  ถึงจะเป็นเกราะดีเลิศแค่ไหน  การใส่เหล็กเดินไปเดินมาเขาถือว่าทรมานตนเองแท้ๆ  แถมใครบางคนข้างๆยังเป็นพวกชอบทรมานตัวเองเสียด้วยสิอุตส่าห์จะแบ่งหีบใบหนี่งให้แล้วแท้ๆ
 
     เหนืออื่นใด  การเดินทางครั้งนี้ทำให้เด็กหนุ่มรู้ว่าสหายร่วมชะตากรรมไม่ได้บื้อหรือเคร่งครัดกฏเกณฑ์อยู่ตลอดเวลาเลย  มิหนำซ้ำยังแอบเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก  ลำพังตัวเขามาคนเดียวคงเดินทางฝ่าด่านตรวจคนเข้าเมืองมาตรงๆเลย  อำนาจท่านเสนาบดีใช่ว่าจะมีแค่ในอาณาจักรสักหน่อย  นั่นสิ...
 
     แล้วทำไมเราไม่บุกเข้ามาตรงๆเล่า!  ปล่อยให้เจ้าเด็กนั่นกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่ได้เป็นวันๆ!  พวกเขาไม่ใช่เจ้าหญิงแห่งโชคชะตาหรือคนที่ทางการหาตัวอยู่สักหน่อย!
 
     เฮอลิออนพยายามดึงคอเสื้อให้หลุดจากมือคนโวยวาย  สุดท้ายก็กระแทกหน้าผากลงไปตรงๆจนบุตรชายขุนนางมึนศีรษะอ่อนแรงอยู่ในอ้อมแขนพยุงนั่นเอง  “ที่เราต้องทำเพราะว่าพวกพ่อค้าเถื่อนจะมีที่ลับเฉพาะในการลำเลียงสินค้า  หากพวกนางเดินทางมาด้วยวิธีนี้จริงๆ  ข่าวคราวคงหาได้ไม่ยากนัก”
 
     ที่พูดนั่นก็ถูก...
 
     เซอนาร์ยอมปล่อยมือแต่โดยดีแล้วทำตัวเหมือนคนจะเป็นลม  ซึ่งเขาขอยืนยันว่าไม่เอาถุงเท้าของใครทั้งนั้น  การกระทำของเด็กหนุ่มทำให้คนรอบข้างเริ่มซุบซิบสงสัย  เนื่องจากไม่ทันสังเกตตอนเสียงโป๊กปริศนาดังขึ้นมา  ดูยังไงๆคนแต่งตัวดีท่าทางทะมัดทะแมงนั่นก็เป็นผู้ชายนะ?  ถึงจะหน้าหวานก็เถอะ  แต่ดูทำเข้าเถอะ  บางทีอาจจะแพ้ท้องจะใกล้เป็นลมแล้วก็ได้  แดดตอนนี้ยังไม่แรงเท่าไรแต่อาจจะเดินทางมาเหนื่อยๆ!
 
     หนึ่งในชาวขนของเถื่อนเป็นเด็กสาวคนหนึ่ง  นางเป็นนักต้มตุ๋นฝีมือฉกาจที่เลือกเหยื่อเสมอ  วิธีการเลือกของนางคือตัวเป็นพวกตาเฒ่าหัวงูที่ไม่รู้จักดูสังขารตัวเอง  ทั้งยังคิดว่าผู้หญิงทุกคนในโลกหล้าอยู่เบื้องล่าง  จ่ายเงินเล็กน้อยก็สามารถปรนนิบัติพัดวี  เชอะเข้าสิ!  คนแบบนั้นก็เป็นแค่ขุมทองเคลื่อนที่ให้นางไปช่วงชิงมาเท่านั้นเอง
 
     ส่วนคนใกล้เป็นลมน่ะ  นางมีน้ำใจพอในการถามไถ่พร้อมยาสมุนไพรแก้ววิงเวียน  เพราะหลายส่วนแสดงชัดเจนว่าเป็นบุรุษเพศ  นางเลยไม่บ้าจี้ตามคณะว่าเป็นคนท้องอ่อนๆ  บ้าสิ!  ผู้ชายตั้งครรภ์ได้ที่ไหนกัน  อย่างมากก็แค่เวียนหัวคลื่นไส้เพราะเดินทางมาเหนื่อยจริงๆ  พวกคุณหนูผิวอ่อนไงล่ะ  ต้อนรับดีๆอาจมีรางวัล  ไม่มีให้ก็แล้วไป  ของแบบนี้มันอยู่ที่น้ำใจล้วนๆ
 
     เฮอลิออนจึงถือโอกาสนี้ในการถามเรื่องของเจ้าหญิงแห่งชะตากรรม  ซึ่งพวกค้าของเถื่อนหรือพวกใต้ดินจะมีสัมผัสพิเศษในการระบุชนชั้น  อย่างเซอนาร์เองดูแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ธรรมดา  แววตามุ่งร้ายมีโดยทั่วไป  หากว่าท่าทางองอาจดูแข็งแกร่งของนักรบหนุ่มไม่คุ้มกันไว้  เขาอาจโดนทำร้ายและช่วงชิงทรัพย์สินไปตั้งแต่เข้ามาก้าวแรกแล้ว!
 
     ดังนั้น  คนที่เขาตามหาต้องมีลักษณะพิเศษอะไรสักอย่าง  ซึ่งขบวนของนางหยุดพักที่นี่เกือบครบอาทิตย์แล้ว  เพราะต้องย้ายของข้าวของหลายประการ  หญิงสาวสองคนที่ว่ายังไม่เคยเจอแม้แต่ปลายเล็บ
 
     ก่อนจะถูกเฮอลิออนลากเข้าสู่ตัวเมือง  บุตรชายขุนนางไม่ลืมจับมือกับนางไว้อย่างแน่นหนาพร้อมประทับจุมพิตลง  “ขอบใจเจ้ามาก  หากเราได้พูดคุยกันนานกว่านี้คงดีไม่น้อย  ตั้งแต่เกิดมาจนครบสิบเก้าปี  ไม่มีสตรีคนใดที่งดงามทั้งกายใจเช่นเจ้าเลย”
 
     “ไปกันได้แล้ว!”  เฮอลิออนส่งเสียงดุเบาๆพร้อมใช้แรงลากแบบไม่บันยะบันยัง  สาวน้อยยกมือขึ้นบ๊ายบายเบาๆ  ก่อนจะก้มหน้ามาพิจารณาทองคำสามเหรียญในมือ
 
     “ถ้าเจ้าไม่เจ้าชู้เสียก็สิ้นเรื่อง  เอาเถอะ...ถือเป็นรางวัลแล้วกัน”
 
 
 
     ‘อัลโก้  เดอะ  ฟอร์จูน’
 
     “ถามจริง  เราต้องเข้าร้านทำนายดวงก่อนกินข้าวด้วยรึ?”  นักรบหนุ่มมองคนตัวดีที่ดูมีประกายแวววับ  ครอบครัวเขานับถือคาลุมมาโดยตลอด  รวมทั้งท่านเสนาลบดีก็เคยเห็นตราสัญลักษณ์กับธงคาลุมประดับบ้านแท้ๆ  ไม่นึกเลยว่าบุตรชายจะนับถือกันคนละลัทธิ
 
     ความจริงเซอนาร์นับถือคาลุมเช่นเดียวกับบิดาและชาวเมืองที่เติบโตขึ้นมาแบบคาลุม  แต่เพื่อนสาว...นัยว่าอดีตเคยทำความรู้จักกันลึกซึ้งมาก่อน  เคยลากเข้าไปในร้ายทำนายของพวกอัลโก้มาก่อน  ความแม่นยำนับได้ว่าเป็นเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์เชียวนะ 
 
     ภารกิจครั้งนี้ไม่มีใครรู้เหนือใต้  พึ่งพาพวกหยั่งรู้อนาคตไว้ก่อนเป็นการดี  แถมยังไม่ต้องกลัวว่าใครจะมามองเห็นเรื่องราวในอนาคตด้วย  เพราะการทำนายสามารถเลือกประเภทใด  ครั้งนั้นเขาดูแบบลูกแก้วก็จริง  แต่ครั้งนี้ใช้จับลูกแก้วอัลโก้คงปลอดภัยกว่า
 
     ด้วยเหตุนี้...สีหน้าอิหลักอิเหลื่อของเฮอลิออนจึงมานั่งอยู่หน้านักทำนายประจำลัทธินั่นเอง  ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่ใช่ศาสนาสถาน  แต่เป็นพวกร้านที่ใช้การทำนายด้วยคนที่นับถือหรือศิษย์ลัทธิอัลโก้มากกว่า  อย่างคนตรงหน้าสวมชุดคลุมที่สีฉูดฉาดจนดูจะเกินปกติไป  อ้อ...จากการกระซิบของบุตรชายขุนนาง  ดูเหมือนว่าจะเป็นนักบวชหญิงมีอายุที่ไม่ได้มีพลังด้านการติดต่อกับเทพเจ้ามากนัก  ทว่า...กลับมีพลังด้านการทำนายพอใช้ได้  และนี่คือการหาเงินและศรัทธาเข้าลัทธิรูปแบบหนึ่ง...
 
     เสียงชราของนางอธิบายแก่ผู้เข้ารับการทำนายช้าๆ  ลูกแก้วอัลโก้มีวิธีทำนายหลายรูปแบบ  หนึ่งในนั้นคือวิธีการคำตอบของปริศนาทั้งหมดทั้งมวลจากลูกแก้วเพียงสามก้อนเท่านั้น  ลูกแก้วที่ว่ามีลักษณะขุ่นและสัมผัสหยาบมือ  ไม่เรียบลื่นเหมือนผิวแก้วทั่วไป  ส่วนคำทำนายจะได้จากการจับสี  แถบสีสี่ทิศของลูกแก้วคือลักษณะของการทายนั้น
 
     นางหันมาทางเซอนาร์พร้อมโถแก้วคริสตัลขุ่น  “ท่านก่อน”
 
     เซอนาร์ยืดอกอย่างมั่นใจพร้อมจับอย่างแรกขึ้นมา  เมื่อวางลงไปใหม่เพื่อเขย่าแปลี่ยนตำแหน่งและจับขึ้นมา  ทำเช่นนี้ครบสามครั้ง  คำทำนายจึงปรากฏ
 
     “ไร้สีคือโชคชะตาและเทพเจ้า  บางทีเจ้าอาจจะกำลังเดินทางเพื่อบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ใช่ขุมทองของมนุษย์”  นางวางลูกแก้วไร้สีลงตรงหน้าเขา 
 
     “สีดำสามทิศและสีขาวหนึ่งทิศ  หมายถึงความลับที่เปิดเผยได้  แต่กลับถูกซุกซ่อนไว้ในใจ  อาจหมายถึงความหมายของลูกแก้วแรก...หรือลูกแก้วที่สาม”  นางวางลูกแก้วที่สองตาม  สีหน้าเริ่มส่อแววนึกสนุกกับความลับของผู้อื่น  ดูเผินๆอาจไม่มีอะไร  แต่หญิงชราชอบที่สุดคือความลับที่ถูกปิดบัง  และความลับของคนนับร้อยพันล้วนมากองตรงหน้านางด้วยกันทั้งสิ้น  แค่เพียงพวกเขาก้าวเข้ามาเพื่อรับคำทำนาย
 
     “และนี่คือคำตอบที่สาม...สีชมพูหนึ่งแถบ  สีแดงหนึ่งแถบและสีดำหนึ่งและน้ำตาลหนึ่ง...แดงและชมพูคือรัก  ดำคือมีความลับในรัก...หรือรักผิดธรรมชาติ  อาจหมายถึงระหว่างวรรณะ  เผ่าพันธุ์หรือ...เพศ  สีน้ำตาลคือพื้นดินและการเดินทาง  เจ้าเดินทาง...อาจจะหรือกำลังมีความรักระหว่างทาง...เพียงแต่เป็นความรักที่ผิดประเภท”
 
     เฮอลิออนคล้ายมีสีหน้าว่างเปล่าเมื่อสหายร่วมโชคชะตาหันมาส่งแววตาเหลือเชื่อให้  ก่อนจะรีบก้มหน้าลงพลางส่ายหน้าปฏิเสธโดยเร็ว  นั่นทำให้เขานึกถึงตอนที่กลับมาจากการพบปะเหล่าเจ้าหญิงแห่งโชคชะตา  ทั้งคำพูดทุ่มเถียงและแววตาเหมือนเศร้าสลด  คงไม่ใช่ว่า...  ไม่หรอก!  ไม่ใช่แน่นอน!
 
     หญิงชราเลื่อนโถคริสตัลขุ่นมาตรงหน้าเขาพร้อมแสยะยิ้ม  “แล้วท่านล่ะคะ?”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา