Love Complex รักหลอน สูตรซับซ้อนสมการหัวใจ
4.7
เขียนโดย autam
วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 22.24 น.
3 ตอน
1 วิจารณ์
6,529 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 22.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) Intro 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ. ในห้องเรียน
หลังจากที่รอยัยกระแตวิ่งแก้บนเสร็จก็เข้าเรียนในช่วงบ่ายแต่เนื่องจากจะสอบไฟนอลอาจารย์เลยขอชั่วโมงคาบบ่ายหมดเพื่อติวข้อสอบฟิสิกทั้งสูตรต่างๆ ที่อาจารย์สั่งให้เด็กในห้องจดทุกคนจดยกเว้นฉันซึ่งนอนหลับน้ำลายยืดไหลใส่ชีทที่แกแจกให้เพราะสูตรที่แกสอนมามันไม่เข้าหัวข้าวสวยอย่างฉันหรอกโฮ่ๆ ^O^ อันที่จะว่าไปจะเรียกว่าหลับไม่ได้หรอกเพราะแค่ก้มหน้าฟุบลงกับโต๊ะไม่มองกระดานแต่หูยังฟังอยู่นี่แหละหลักการเรียนโดยใช้จินตนาการที่ไอน์สไตน์บอก-__,- จะว่าไปฉันก็ถือว่าเกิดมากับดวง สอบเข้าได้ห้องพิเศษโครงการพิเศษของโรงเรียนซึ่งมีเครือข่ายโยงถึงกันทั่วประเทศทำให้นึกถึงแมงมุมที่เวลามันชักใยที่ระโยงระยาง อี๋! เห็นแล้วขนลุก-__-
“เห้ย เมื่อวานเว้ย ข้าได้จูบน้องนิวเยียร์มาแล้วว่ะ ฮ่าๆ” เสียงของอาร์ทเพื่อนผู้ชายที่หน้าตาดีนิสัยเจ้าชู้ในห้องเป็นแฟนของผู้หญิงรุ่นน้องที่ชื่อนิวเยียร์เล่าให้เพื่อนผู้ชายในห้องฟังกับเหตุการณ์สยึมกึ๋ยขณะที่อาจารย์ยังคงติวข้อสอบฟิสิกอย่างเมามันส์ มันบ้าหรือมันดีกันแน่มีอารมณ์เล่าตอนติวข้อสอบ -__-
“แม่- เด็ดสุดยอด สงสัยคงผ่านมาโชกโชนฮ่าๆ ” ฉันเซ็นเซอร์คำหยาบทันทีแต่ว่าเรื่องจริงมันหยาบทั้งประโยคไอพวกนี้มันเลวจริงๆ เอาเรื่องแบบนี้มาคุยกันแต่เรื่องเรียนพวกมันก็ไม่น้อยหน้าเรียนได้ต้นๆ ของห้องและระดับส่วนเรื่องกีฬาก็ยังเป็นดาวเด่นของโรงเรียนซึ่งต่างจากฉันที่เรียนจะตกแหล่มิตกแหล่แถมกีฬายังจะห่วยอีก - -
หลังจากที่เรียนพร้อมติวข้อสอบเสร็จฉันและเพื่อนๆในห้องอีกสามสิบชีวิตก็เดินเหมือนคนพึ่งผ่านสมรภูมิรบที่โคตรแสนจะดุเดือดหน้าตาเหมือนคนกินแค่ปลากระป๋องกับหัวที่ฟูฟ่องเหมือนไอนสไตน์ เนื่องจากเกาหัวเพราะคิดไม่ออกนั้นเอง
“ เว้ยย!! อาจารย์โหดอ่ะ ติวข้อสอบยากมาก แม่- ติ๊ดดดดดดดดดดดดดด (เซ็นเซอร์ กลัวนิยายขายไม่ออก- - ) ” ฉันหันไปตามเสียบ่นงึมงำสุดจะหยาบรับไม่ได้ของเพื่อนผู้ชายที่พึ่งเดินพ้นจากประตูห้อง มันลืมอะไรไปหรือเปล่านะว่าอาจารย์ยังอยู่ในห้องแบบโคตรเกรงใจอาจารย์แกมาก- -
“ ข้าวสวย ไปเดินเที่ยวกันดีกว่า วันนี้ติวเยอะไปเดินเที่ยวให้หายเครียดกันเถอะโฮ่ๆ ^O^” ตัวชวนคือยัยกระแต
“ ดีเลย ฉันอยากไปดูหนังถล่มแผงลอยแม่ค้าอ่า แบบทุ่มทุนสร้าง โฮ่ๆ *O* ” ฉันแทบจะจิตเสียกับเสียงหัวเราะชวนสยองลำไส้ม้ามตับของเพื่อนในกลุ่มแต่ละคน- -
“ โอเคๆ ไปก็ไปแล้วกันที่ไหนก็ได้ฉันอยากไปตากแอร์โฮ่ๆ ” ฉันตอบพวกมันไปอย่างปรีดา ที่อยากไปเนี่ยเพราะอากาศมันร้อนหรอกนะจะไปตากแอร์ เปิดที่บ้านมันเปลืองพลังงาน เอ่อ.... ยอมรับก็ได้ว่าเปลืองตังค์ที่บ้าน><
ฉันและเพื่อนในกลุ่มอีกสามคนเดินเที่ยวเลียบไปทางถนนคนเดินซึ่งเป็นย่านถนนคนเดินที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินเบียดเสียดซื้อของ ส่วนเพื่อนสาวฉันหลังจากออกจากห้องติวที่หนักปานสมรภูมิรบสามชายแดนภาคใต้ก็วี๊ดว้ายกระตู้วู้ดูสิ่งของรอบกายวิ่งเข้าออกร้านนู้นร้านนี้เป็นว่าเล่นให้ตายเหอะ! ช่วยทำตัวให้เหมือนเด็กห้องหนึ่งได้ไหม-O-
‘Good luck’
ฉันสะดุดกับร้านที่มีชื่อสุดคลาสสิคที่ชอบออกมาจากปากคนเรามาที่สุด หน้าร้านตั้งเป็นกระจกใสโชว์ของกระจุกกระจิกราคาย่อมเยาซึ่งมันทำให้ฉันสนใจร้านนั้นอีกเป็นเท่าตัว
“นี่ๆ ฉันเข้าร้านนี้ไปดูของก่อนนะ ฉันอยากได้สร้อยคอน่ะ” ฉันหันไปบอกบรรดาคุณเพื่อนๆที่หอบหิ้วข้าวของเหมือนอีเพิ้งพึ่งลงจากดอย ดูไม่ได้กันเลยทีเดียวเชียว-___-
“โอเคๆ แกไปคนเดียวได้นะ? ” เพื่อนในกลุ่มถามเพื่อความแน่ใจ สงสัยมันกลัวฉันหลงทางแล้วจะโดนคนหล่อลากไปขอเบอร์ คิคิ
“ ฉันโตแล้วนะยะ - -+ ”
“ ย่ะ-A-! ฉันไปนั่งรอที่ร้านกาแฟนั้นนะ พนักงานเสริฟหล่อมันทั้งร้าน!” กระแตพูดขึ้นด้วยความหมั่นไส้พร้อมกับไม่ลืมว่าซื้อของเสร็จแล้วไปเจอกันที่ไหน ถึงไม่บอกก็รู้อยู่ดีนังนี่จะมักไปอยู่ที่มีคนหล่อออร่ากระจายอยู่ -,.- พอคุณเธอบอกตำแหน่งและพิกัดร้านที่มีพนักงานหล่อเสร็จ ก็รีบวิ่งไปที่ร้านกันทันที เรื่องแบบนี้ไวจริงๆ - - เอาเป็นว่าฉันเดินไปดูของดีกว่า
งุ๊ง งิ๊ง ~
เสียงกระดิ่งดังกังวานเมื่อฉันเปิดประตูไปกระทบกับมันเข้าร้านนี้ตกแต่งประดับไปด้วยชั้นว่าที่เป็นกล่องไม้หลายไซส์ว่างเรียงกันเป็นบล๊อกๆ ใช้ที่หนีบกระดาษคละสีคละลายมาหนีบยึดไว้เพื่อความแข็งแรงไม่ให้ล้ม แล้ววางเรียงของกระจุกกระจิกเล็กๆน่ารักเอาไว้เพื่อให้ลูกค้าสนใจที่จะซื้อ ฉันเดินไปหยิบแหวนวงหนึ่งขึ้นมาซึ่งเป็นแหวนสีเงินสลักเอาไว้ว่า Two faced มันทำฉันชอบแหวนวงนี้เอามากๆ อย่างนี้มันต้องซื้อ! เมื่อฉันตัดสินใจได้เลยหยิบแหวนวงนั้นไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ เสร็จก็เดินออกมาจากร้าน ‘Good luck’ อย่าอารมณ์ดี พร้อมกับเดินไปที่ร้านกาแฟที่นัดเอาไว้พลางกับคิดไปเรื่อยว่าๆ ยัยพวกนั้นต้องอิจฉารสนิยมฉันชัวร์ โฮ่ๆ ^O^
ฉันเดินไปถึงร้านที่นัดกันเอาไว้พร้อมกับใช้สายตาสอดส่องทั่วร้านพลางคิดถึงไอเดียของเจ้าของร้านที่ตกแต่งได้อย่างเก๋ไก๋สไลเดอร์ดีไซน์แม้กระทั่งเพดานฝ้าจนไปถึงพื้นในร้านที่เหยีบอยู่แต่ก็แอบโมโหเจ้าของร้าน ทำไมถึงไม่ใช้ไม้ฝาเจอร่าที่มีจิ้งจกพลอดรักกันจนตกลงไปตายแต่พอมาคิดอีกที่ว่าในนี้มันเป็นตึกของห้างสรรพสินค้ามันจะใช้ไม้ทำได้ไง-___- คิดไปคิดมาจนไปเจอโต๊ะที่เพื่อนๆ ฉันยืนโบกไม้โบกมือให้รู้ว่าอยู่ตรงนี้ ฉันจึงเดินเข้าไปหาพร้อมกับนั่งข้างๆ ยัยกระแตที่พร้อมสั่งคาร์ปูชิโน่เครื่องดื่มสุดโปรดของฉัน
“นี่ๆ ฉันดีใจมากเลยที่กีต้าร์เลิกกับยัยแป้ง” กระแตเริ่มบ่งบอกความสุขว่าตนนั้นมีความสุขมากเพียงใดที่ได้แลกจากการวิ่งแก้บน-___- จะว่าไปฉันก็ไม่ค่อยจะชอบยัยแป้งเพื่อนร่วมห้องคนนี้ซักเท่าไรตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุรถชนครั้งนั้นฉันก็จำความอะไรไม่ค่อยได้ประมาณเบลอๆ นั้นเอง แต่ฉันยังได้เพื่อนในกลุ่มสุดน่ารักเพื่อนที่รู้จักและรุ่นพี่ที่เคารพนับถือช่วยกันเตือนความจำให้ฉันเหตุการณ์นี่ก็ผ่านไปประมาณสองปีกว่าๆ แล้วแต่ฉันก็ยังรู้สึกว่าเหมือนตัวเองลืมอะไรไปซะทุกทีแล้วอีกอย่างสิ่งที่ฉันติดใจก็คือว่าฉันทำไมเดินไปให้รถชนและเมื่อฉันถามใครทุกคนจะตอบว่าโง่นั้นเอง โฮ่ๆ =O=
“นี่ๆ นั่นยัยแป้งนี่! ” เสียงของสไกป์เพื่อนในกลุ่มชี้ให้เห็นแป้งบุคคลที่กำลังตกอยู่ในวงสนทนาหรือเรียกง่ายๆ ว่านินทานั้นเอง-*- โดยที่เจ้าหล่อนกำลังเดินตรงทางฟุตบาธถือถุงชอปปิ้งยี่ห้อดังแต่หน้าตาของหล่อนนั้นไม่กลับบูดบึ้งทำให้ฉันเดาได้ว่าคงชอปปิ้งระบายอารมณ์ก็อย่างว่าพึ่งจะอกหักใครจะยิ้มได้
“ฉันจะเดินไปหายัยแป้งเอง! ” เสียงของกระแตดังขึ้นพร้อมกับลุกไปหาอย่างหาญกล้า เพื่อนฉันแต่ละคนชักเริ่มจะไม่ไหว-O-
“เห้ย!! อย่าไปนะ”
หลังจากที่รอยัยกระแตวิ่งแก้บนเสร็จก็เข้าเรียนในช่วงบ่ายแต่เนื่องจากจะสอบไฟนอลอาจารย์เลยขอชั่วโมงคาบบ่ายหมดเพื่อติวข้อสอบฟิสิกทั้งสูตรต่างๆ ที่อาจารย์สั่งให้เด็กในห้องจดทุกคนจดยกเว้นฉันซึ่งนอนหลับน้ำลายยืดไหลใส่ชีทที่แกแจกให้เพราะสูตรที่แกสอนมามันไม่เข้าหัวข้าวสวยอย่างฉันหรอกโฮ่ๆ ^O^ อันที่จะว่าไปจะเรียกว่าหลับไม่ได้หรอกเพราะแค่ก้มหน้าฟุบลงกับโต๊ะไม่มองกระดานแต่หูยังฟังอยู่นี่แหละหลักการเรียนโดยใช้จินตนาการที่ไอน์สไตน์บอก-__,- จะว่าไปฉันก็ถือว่าเกิดมากับดวง สอบเข้าได้ห้องพิเศษโครงการพิเศษของโรงเรียนซึ่งมีเครือข่ายโยงถึงกันทั่วประเทศทำให้นึกถึงแมงมุมที่เวลามันชักใยที่ระโยงระยาง อี๋! เห็นแล้วขนลุก-__-
“เห้ย เมื่อวานเว้ย ข้าได้จูบน้องนิวเยียร์มาแล้วว่ะ ฮ่าๆ” เสียงของอาร์ทเพื่อนผู้ชายที่หน้าตาดีนิสัยเจ้าชู้ในห้องเป็นแฟนของผู้หญิงรุ่นน้องที่ชื่อนิวเยียร์เล่าให้เพื่อนผู้ชายในห้องฟังกับเหตุการณ์สยึมกึ๋ยขณะที่อาจารย์ยังคงติวข้อสอบฟิสิกอย่างเมามันส์ มันบ้าหรือมันดีกันแน่มีอารมณ์เล่าตอนติวข้อสอบ -__-
“แม่- เด็ดสุดยอด สงสัยคงผ่านมาโชกโชนฮ่าๆ ” ฉันเซ็นเซอร์คำหยาบทันทีแต่ว่าเรื่องจริงมันหยาบทั้งประโยคไอพวกนี้มันเลวจริงๆ เอาเรื่องแบบนี้มาคุยกันแต่เรื่องเรียนพวกมันก็ไม่น้อยหน้าเรียนได้ต้นๆ ของห้องและระดับส่วนเรื่องกีฬาก็ยังเป็นดาวเด่นของโรงเรียนซึ่งต่างจากฉันที่เรียนจะตกแหล่มิตกแหล่แถมกีฬายังจะห่วยอีก - -
หลังจากที่เรียนพร้อมติวข้อสอบเสร็จฉันและเพื่อนๆในห้องอีกสามสิบชีวิตก็เดินเหมือนคนพึ่งผ่านสมรภูมิรบที่โคตรแสนจะดุเดือดหน้าตาเหมือนคนกินแค่ปลากระป๋องกับหัวที่ฟูฟ่องเหมือนไอนสไตน์ เนื่องจากเกาหัวเพราะคิดไม่ออกนั้นเอง
“ เว้ยย!! อาจารย์โหดอ่ะ ติวข้อสอบยากมาก แม่- ติ๊ดดดดดดดดดดดดดด (เซ็นเซอร์ กลัวนิยายขายไม่ออก- - ) ” ฉันหันไปตามเสียบ่นงึมงำสุดจะหยาบรับไม่ได้ของเพื่อนผู้ชายที่พึ่งเดินพ้นจากประตูห้อง มันลืมอะไรไปหรือเปล่านะว่าอาจารย์ยังอยู่ในห้องแบบโคตรเกรงใจอาจารย์แกมาก- -
“ ข้าวสวย ไปเดินเที่ยวกันดีกว่า วันนี้ติวเยอะไปเดินเที่ยวให้หายเครียดกันเถอะโฮ่ๆ ^O^” ตัวชวนคือยัยกระแต
“ ดีเลย ฉันอยากไปดูหนังถล่มแผงลอยแม่ค้าอ่า แบบทุ่มทุนสร้าง โฮ่ๆ *O* ” ฉันแทบจะจิตเสียกับเสียงหัวเราะชวนสยองลำไส้ม้ามตับของเพื่อนในกลุ่มแต่ละคน- -
“ โอเคๆ ไปก็ไปแล้วกันที่ไหนก็ได้ฉันอยากไปตากแอร์โฮ่ๆ ” ฉันตอบพวกมันไปอย่างปรีดา ที่อยากไปเนี่ยเพราะอากาศมันร้อนหรอกนะจะไปตากแอร์ เปิดที่บ้านมันเปลืองพลังงาน เอ่อ.... ยอมรับก็ได้ว่าเปลืองตังค์ที่บ้าน><
ฉันและเพื่อนในกลุ่มอีกสามคนเดินเที่ยวเลียบไปทางถนนคนเดินซึ่งเป็นย่านถนนคนเดินที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินเบียดเสียดซื้อของ ส่วนเพื่อนสาวฉันหลังจากออกจากห้องติวที่หนักปานสมรภูมิรบสามชายแดนภาคใต้ก็วี๊ดว้ายกระตู้วู้ดูสิ่งของรอบกายวิ่งเข้าออกร้านนู้นร้านนี้เป็นว่าเล่นให้ตายเหอะ! ช่วยทำตัวให้เหมือนเด็กห้องหนึ่งได้ไหม-O-
‘Good luck’
ฉันสะดุดกับร้านที่มีชื่อสุดคลาสสิคที่ชอบออกมาจากปากคนเรามาที่สุด หน้าร้านตั้งเป็นกระจกใสโชว์ของกระจุกกระจิกราคาย่อมเยาซึ่งมันทำให้ฉันสนใจร้านนั้นอีกเป็นเท่าตัว
“นี่ๆ ฉันเข้าร้านนี้ไปดูของก่อนนะ ฉันอยากได้สร้อยคอน่ะ” ฉันหันไปบอกบรรดาคุณเพื่อนๆที่หอบหิ้วข้าวของเหมือนอีเพิ้งพึ่งลงจากดอย ดูไม่ได้กันเลยทีเดียวเชียว-___-
“โอเคๆ แกไปคนเดียวได้นะ? ” เพื่อนในกลุ่มถามเพื่อความแน่ใจ สงสัยมันกลัวฉันหลงทางแล้วจะโดนคนหล่อลากไปขอเบอร์ คิคิ
“ ฉันโตแล้วนะยะ - -+ ”
“ ย่ะ-A-! ฉันไปนั่งรอที่ร้านกาแฟนั้นนะ พนักงานเสริฟหล่อมันทั้งร้าน!” กระแตพูดขึ้นด้วยความหมั่นไส้พร้อมกับไม่ลืมว่าซื้อของเสร็จแล้วไปเจอกันที่ไหน ถึงไม่บอกก็รู้อยู่ดีนังนี่จะมักไปอยู่ที่มีคนหล่อออร่ากระจายอยู่ -,.- พอคุณเธอบอกตำแหน่งและพิกัดร้านที่มีพนักงานหล่อเสร็จ ก็รีบวิ่งไปที่ร้านกันทันที เรื่องแบบนี้ไวจริงๆ - - เอาเป็นว่าฉันเดินไปดูของดีกว่า
งุ๊ง งิ๊ง ~
เสียงกระดิ่งดังกังวานเมื่อฉันเปิดประตูไปกระทบกับมันเข้าร้านนี้ตกแต่งประดับไปด้วยชั้นว่าที่เป็นกล่องไม้หลายไซส์ว่างเรียงกันเป็นบล๊อกๆ ใช้ที่หนีบกระดาษคละสีคละลายมาหนีบยึดไว้เพื่อความแข็งแรงไม่ให้ล้ม แล้ววางเรียงของกระจุกกระจิกเล็กๆน่ารักเอาไว้เพื่อให้ลูกค้าสนใจที่จะซื้อ ฉันเดินไปหยิบแหวนวงหนึ่งขึ้นมาซึ่งเป็นแหวนสีเงินสลักเอาไว้ว่า Two faced มันทำฉันชอบแหวนวงนี้เอามากๆ อย่างนี้มันต้องซื้อ! เมื่อฉันตัดสินใจได้เลยหยิบแหวนวงนั้นไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ เสร็จก็เดินออกมาจากร้าน ‘Good luck’ อย่าอารมณ์ดี พร้อมกับเดินไปที่ร้านกาแฟที่นัดเอาไว้พลางกับคิดไปเรื่อยว่าๆ ยัยพวกนั้นต้องอิจฉารสนิยมฉันชัวร์ โฮ่ๆ ^O^
ฉันเดินไปถึงร้านที่นัดกันเอาไว้พร้อมกับใช้สายตาสอดส่องทั่วร้านพลางคิดถึงไอเดียของเจ้าของร้านที่ตกแต่งได้อย่างเก๋ไก๋สไลเดอร์ดีไซน์แม้กระทั่งเพดานฝ้าจนไปถึงพื้นในร้านที่เหยีบอยู่แต่ก็แอบโมโหเจ้าของร้าน ทำไมถึงไม่ใช้ไม้ฝาเจอร่าที่มีจิ้งจกพลอดรักกันจนตกลงไปตายแต่พอมาคิดอีกที่ว่าในนี้มันเป็นตึกของห้างสรรพสินค้ามันจะใช้ไม้ทำได้ไง-___- คิดไปคิดมาจนไปเจอโต๊ะที่เพื่อนๆ ฉันยืนโบกไม้โบกมือให้รู้ว่าอยู่ตรงนี้ ฉันจึงเดินเข้าไปหาพร้อมกับนั่งข้างๆ ยัยกระแตที่พร้อมสั่งคาร์ปูชิโน่เครื่องดื่มสุดโปรดของฉัน
“นี่ๆ ฉันดีใจมากเลยที่กีต้าร์เลิกกับยัยแป้ง” กระแตเริ่มบ่งบอกความสุขว่าตนนั้นมีความสุขมากเพียงใดที่ได้แลกจากการวิ่งแก้บน-___- จะว่าไปฉันก็ไม่ค่อยจะชอบยัยแป้งเพื่อนร่วมห้องคนนี้ซักเท่าไรตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุรถชนครั้งนั้นฉันก็จำความอะไรไม่ค่อยได้ประมาณเบลอๆ นั้นเอง แต่ฉันยังได้เพื่อนในกลุ่มสุดน่ารักเพื่อนที่รู้จักและรุ่นพี่ที่เคารพนับถือช่วยกันเตือนความจำให้ฉันเหตุการณ์นี่ก็ผ่านไปประมาณสองปีกว่าๆ แล้วแต่ฉันก็ยังรู้สึกว่าเหมือนตัวเองลืมอะไรไปซะทุกทีแล้วอีกอย่างสิ่งที่ฉันติดใจก็คือว่าฉันทำไมเดินไปให้รถชนและเมื่อฉันถามใครทุกคนจะตอบว่าโง่นั้นเอง โฮ่ๆ =O=
“นี่ๆ นั่นยัยแป้งนี่! ” เสียงของสไกป์เพื่อนในกลุ่มชี้ให้เห็นแป้งบุคคลที่กำลังตกอยู่ในวงสนทนาหรือเรียกง่ายๆ ว่านินทานั้นเอง-*- โดยที่เจ้าหล่อนกำลังเดินตรงทางฟุตบาธถือถุงชอปปิ้งยี่ห้อดังแต่หน้าตาของหล่อนนั้นไม่กลับบูดบึ้งทำให้ฉันเดาได้ว่าคงชอปปิ้งระบายอารมณ์ก็อย่างว่าพึ่งจะอกหักใครจะยิ้มได้
“ฉันจะเดินไปหายัยแป้งเอง! ” เสียงของกระแตดังขึ้นพร้อมกับลุกไปหาอย่างหาญกล้า เพื่อนฉันแต่ละคนชักเริ่มจะไม่ไหว-O-
“เห้ย!! อย่าไปนะ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ