Yes! you are..ไม่ว่าจะยังไง เสียงหัวใจมันก็บอกว่าใช่เธอ!!

8.8

เขียนโดย HAJIKO

วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.39 น.

  10 บท
  16 วิจารณ์
  14.91K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 19.45 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) แผนร้าย แกล้งยัยคุณหนูปากดี

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

[แผนร้าย แกล้งยัยคุณหนูปากดี : โหมดไอ้ ธูป]

 

...

 

9.30 น.     ร้านคอฟฟี่ช็อป

 

ได้ฤกษ์ที่ผมจะต้องบรรยายบ้างแล้วสิครับ หลังจากที่ให้น้องเนื้อ นางเอกของเราบรรยายไปกว่าห้าตอน  -. .-;;

 

ผมชื่อธูป เป็นเด็กเกรียนที่สุดในสายชั้นนั่นแหละ และวันๆนึงก็คงไม่พ้นเรื่องเกรียนๆ หาเรื่องคนอื่นไปวันๆ แล้วครั้งนี้ผมก็เจอเหยื่อรายใหม่แล้วสิครับ ^ ^;; จะใครซะอีกล่ะ ก็คุณหนูมาม่าเนื้อน้ำตกที่คนทั้งโรงเรียนเรียกกันไง ฮ่าๆๆ

 

“ทอธง อออ่าง สระเอ...ทอธง อออ่าง สระเอ...ทอธง อออ่าง สระ.....”

 

“อะไรของนายวะคีย์บอร์ด เห็นนั่งพึมพำอะไรตั้งนานแล้ว” ผมหันไปใช้เท้าสะกิดไอ้คีย์บอร์ดที่มันนั่งข้างๆผม  ตอนนี้พวกสาวๆที่ไปสั่งน้ำมายังไม่กลับโต๊ะ

 

“ธ อ เ ... ก็ เธอ...ไม่เหมือนเดิมไงวะ” มันตอบด้วยน้ำเสียงห่อเหี่ยวสุดๆ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่สามในรอบปี มันจะทำตัวแบบนี้ก็ต่อเมื่อมันอกหักเท่านั้นครับ

 

“โหย อกหักมาแล้วยังจะเสี่ยวอีกนะมึ ง -*-“

ผมใช้เท้าถีบมันไปเต็มๆ จนมันเกือบตกเก้าอี้ แต่ดูเหมือนว่าไอ้คีย์บอร์ดมันจะไม่รู้สึกอะไร นั่งทำหน้าห่อเหี่ยวเหมือนเดิม

 

“อกฮงอกหักอะไรวะ...แค่รักคนที่เค้าไม่รักเราแค่นั้น...”

 

“มันต่างกันตรงไหนวะ?”

 

“ไม่รู้ว่ะ แต่ถึงจะต่าง มันก็เหมือนกันตรงที่เธอไม่เหมือนเดิม....”

คำตอบของมันทำให้ผมอยากจะอัดมันให้ชักดินชักงอไปตรงๆนี้เลย -*-  

 

“เออๆ ”  ผมขี้เกียจพูดกับมันแล้วตักไอติมเข้าปากแทน เพราะขืนคุยกับมันตอนนี้ล่ะก็ ไม่มีทางรู้เรื่องหรอก

 

วันนี้เป็นวันหยุด พวกเราห้าคนจึงนัดกันมาร้านคอฟฟี่ช็อปที่อยู่ใกล้ๆกับโรงเรียนของพวกเรา อันที่จริงเมื่อก่อนพวกเราออกจะมากันบ่อย เรียกได้ว่ามากันทุกอาทิตย์เลยก็ว่าได้ครับ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะรวมตัวกันแล้ว คงเป็นเพราะตั้งแต่กลุ่มไอ้ไคซัสมันเข้ามาเรียนในโรงเรียนนี้ล่ะมั้ง

บุ้งกี๋ก็ชอบหายตัวไป เดี๋ยวไอ้คนที่มันนั่งข้างๆผมก็ไม่สบายบ้าง เดี๋ยวก็ติดธุระบ้าง

 จะไปอยู่กันครบห้าคนได้ไงล่ะครับ - -;;

 

“มาแล้วๆๆๆ”

สามสาวพูดพร้อมกัน พลางนั่งลงที่เก้าอี้ บุ้งกี๋นั่งตรงข้ามกับคีย์บอร์ด เกรซก็นั่งลงตรงด้านขวามือของบุ้งกี๋ เจแปนนั่งทางซ้ายมือของบุ้งกี๋อีกเช่นกัน

 

“คิดถึงบรรยากาศแบบนี้จังเลยเนอะ” เจอแปนพูดขึ้นพลางมองไปรอบๆร้านที่เปลี่ยนไปนิดหน่อย คงเป็นเพราะเขาลงต้นไม้เพิ่มล่ะมั้ง แถมยังจัดโต๊ะและเปลี่ยนผ้าคลุมใหม่อีก ไฉไลกว่าเดิมมมม -0-

 

“อืม” ผมตักไอติมเข้าปากแล้วคาบช้อนเอาไว้ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้เจแปน

 

“นายกินๆไปเหอะธูป - -;; ว่าแต่ไอ้คีย์บอร์ดมันเป็นอะไรอ่ะนั่ง ซึมเชียว” ข้อความแรกเกรซหันมาพูดกับผม ส่วนข้อความที่สองเธอหันไปพูดกับคีย์บอร์ด

 

“นั่นสิ นายเป็นอะไรของนาย ความห่อเหี่ยวของนายมันครอบคลุมพื้นที่ร้านนี้จนเกือบหมดแล้วนะ” ตามด้วยบุ้งกี๋ที่พูดขึ้นบ้าง

 

“ก็ฉันมันเป็นผู้ชายน่าเบื่อนี่ ก็ต้องห่อเหี่ยวอย่างนี้แหละ...”

 

คำตอบของมันทำให้พวกเราสี่คนมองหน้ากันแทบจะทันที

 

เรื่องที่มันห่อเหี่ยวเพราะอะไรมีผมรู้คนเดียวเท่านั้นครับ ส่วนอีกสามสาวนั้นไม่มีทางรู้หรอก ^ ^;; ผมจะบอกเรื่องที่มันเป็นแบบนี้ให้ก็ได้  ไอ้คีย์บอร์ดน่ะ มันชอบยัยบุ้งกี๋ครับ ^_^ แถมชอบมานานมากแล้วด้วย แต่ก็ไม่เคยบอกไปซักที อ้ำๆอึ้งๆอย่างนั้นอยู่ได้

 

เมื่อวานหลังจากที่ผมโทร.ไปหามันที่นอนซมอยู่บ้านว่าบุ้งกี๋หายตัวไปหลังจากที่พี่บรรณารักษ์เรียก มันก็แทบจะถ่อมาโรงเรียนหาพวกเราสามคนทันทีทั้งๆที่มันก็ยังออกอาการซึมอย่างชัดเจน 

พวกเราจึงตกลงกันว่าจะไปที่บ้านของบุ้งกี๋กัน พอเราไปกันถึงหน้าบ้านแล้วก็ต้องหยุดชะงักครับ เมื่อเห็นไอ้ไคซัสมาส่งบุ้งกี๋ แถมยังกอดจากลาก่อนที่ยัยบุ้งจะเข้าบ้านอีก

 

วันนี้มันก็เลยเป็นอย่างที่เห็นล่ะครับ ฮ่าๆๆๆ เจอคู่แข่งตัวร้ายเข้าแล้วสิเพื่อนผม [ที่นายรู้เพราะนายมีประสบการณ์เรื่องผู้หญิงใช่มั้ย? ไอ้ธูป - -;; ◄ HAJIKO]

 

“คีย์บอร์ด เอาความจริงนะ นายเป็นอะไร..” บุ้งกี๋พยายามเค้น

จะบอกให้อย่างนะ ยิ่งเป็นเธอมันก็ยิ่งไม่อยากพูดเลยยัยเนื้อเอ๊ย! 

 

“มันอกหักน่ะ” ผมช่วยพูดให้ มันหันมามองผมทันที

 

“ใครเป็นผู้หญิงผู้โชคดีคนนั้นน๊า~” เจแปนขึ้นเสียงสูงเชิงถาม

 

“แถวๆนี้แหละ” ผมตอบแบบกวนๆ มันยิ่งมองผมใหญ่เลยครับ ด้วยสายตาประมาณว่า

‘ถ้าขืนพูดอะไรออกมา เอ็งไม่ได้แก่ตายแน่!’

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

“เห้ยๆๆๆ เปลี่ยนเรื่องดีกว่า บรรยากาศมันคุๆแล้ว”

เกรซโพล่งขึ้นเมื่อเห็นว่าบรรยากาศของโต๊ะเรามันจะคุๆครึ้มๆ คลายกับว่าฝนจะตกยังไงอย่างนั้นแล้ว

 

“ฉันก็ว่างั้น”

 

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป

 

“ฮ่าๆๆๆ ถ้าวันนั้นนายอยู่ด้วยนะคีย์บอร์ด รับรองได้ฮาก๊ากแน่อ่ะ!”

ผ่านมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว ในที่สุดเราก็หาเรื่องอื่นคุยกันได้ ตอนนี้เรากำลังคุยเรื่องเก่าๆของพวกเราอยู่ครับ โดยมียัยเกรซเป็นตัวเปิดประเด็น

 

“นั่นสิเนอะ ^_^” ต่อด้วยเจแปนที่นั่งยิ้ม

พวกเราสี่คนหัวเราะอย่างสนุกสนานเพื่อบิ้วต์อารมณ์ให้มันสดใส โดยหวังว่าคีย์บอร์ดจะดีขึ้นบ้าง แต่เปล่าเลยครับ กลับหนักเข้าไปอีก มันนั่งเงียบ เอาแต่คนไอ้ติมที่ละลายในถ้วยไปมา

มันคงเจ็บล่ะนะที่เห็นรอยยิ้มที่สดใสของยัยบุ้งกี๋ในเวลาแบบนี้ ^_^

 

“ไม่เอาอ่ะทาร์ชี่ ฉันจะเข้าร้านนี้!!!”

ผมหันออกไปตามที่มาเสียงที่คุ้นหูทันที เสียงดังวี้ดว้ายแถมแสบแก้วหูที่คุ้นมากๆดังอยู่นอกร้าน

 

“อ่ะๆ ก็ได้ๆ เดี๋ยวฉันไปรับไอ้ไคซ์ก่อนละกัน”

 

“ไม่ต้องหรอกย่ะ! ที่รักของฉันยังไงก็ไม่หนีไปไหนอยู่แล้ว”

คำว่า ‘ที่รัก’ ที่หลุดจากปากยัยคุณหนูออกมาทำให้ผมรีบหันไปมองอาการบุ้งกี๋ทันที ดูเหมือนว่าเธอก็รู้ว่านั่นคือคุณหนูคริสติน่ากับคุณชายทาร์ชี่

เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างช้าๆโดยที่ไม่รู้เลยว่าผมสังเกตอยู่ บุ้งกี๋คงชอบไคซัสเข้าจริงๆแล้วสิทีนี้

 

“ดัดจริตจริงจริ๊ง -0-“ เสียงนี้เป็นใครไม่ได้ถ้าไม่ใช่เกรซ

 

“ชี่...ไปนินทาเค้า -*-“ ตามด้วยแม่พระเจแปน

 

“ฉันมีเรื่องสนุกๆทำแล้ว”

ผมพูด แผนการร้ายแล่นเข้าสู่หัวสมองทันทีที่เจอยัยคุณหนู  ผมกระดิกนิ้วให้ทั้งสามคน ที่ยกเว้นคีย์บอร์ดที่นั่งคนไอติมอยู่เข้ามาสุมหัวใกล้ๆ ก่อนจะซุบซิบๆ

หึๆๆๆ เสร็จฉันแน่ ยัยคุณหนูปากจัด J

 

 

ผมรอให้ทาร์ชี่เดินออกไปจากบริเวณนั้นก่อนจึงจะเริ่มแผนการณ์ร้ายโดยตัวผมเอง

 

...ปึก...

 

“ว้าย! เดินยังไงเนี่ย ตาไม่มีหรือไง!!!”  ยัยคุณหนูร้องวี้ดว้ายก่อนจะปัดปลายเดรสสีครีมของตัวเอง

 

“^_^”

 

“นาย!!!”

 

“ครับ ผมเอง ^ ^ สวัสดีครับคุณหนูมาม่าเนื้อน้ำตก มาทำอะไรที่นี่ครับ ระวังโดนฉุดนะ”

ผมพูดพลางมองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วยิ้มแถมยักคิ้วให้อย่างเท่! แต่ถ้าใครได้มาเห็นคงบอกว่ากวนตีนมากกว่าเท่!!!

 

“กรี๊ดๆๆๆๆ” เป็นไปตามแผนครับ ยัยคุณหนูกรี๊ดแล้ว “หยาบคาย!!!”

 

“ครับ ไปนั่งทานไอติมข้างในมั้ยครับ เห็นบอกจะเข้าร้านนี้”

รู้สึกกระดากปากมากครับที่ต้องพูดเพราะๆกับยัยคุณหนูคนนี้ = =;;

 

“อ้อ ร้านอย่างนั้นอ่ะฉันไม่เข้าหรอกย่ะ! อย่างฉันต้องร้านหรูๆตรงนั้น”

ยัยคุณหนูพูด ผมแอบเบ้ปากอยู่ในใจ

 

“เหรอครับ งั้นเวลาคุณจะเลือกใครซักคนมาเป็นแฟน ถ้าคนๆนั้นไม่หล่อ ก็รวยโครตใช่มั้ยครับ ^ ^”

 

“แน่นอนย่ะ! แล้วนายจะมาถามฉันทำไมยะ? หรือว่านายอยากเป็นแฟนฉัน” ยัยคุณหนูพูดแล้วเบ้ปาก มองผมอย่างดูถูก

หึ...ได้เป็นแน่ ยัยคุณหนู!

 

“ครับ ^_^”

 

ยังไม่ทันที่ยัยคุณหนูจะพูดอะไร ผมกระชากแขนที่ใส่กำไลข้อมือไว้ทั้งสองข้างเข้ามาหาตัวผมทันที ก่อนจะประกบจูบลงไปอย่างนุ่มนวลเพราะไม่อยากให้ยัยคุณหนูช้ำ (เดี๋ยวไอ้ไคซัสมันจะมาฆ่าผม) ถึงแม้ว่ายัยคุณหนูจะดิ้นมากเท่าไหร่ แต่ก็หลุดจากผมไม่ได้หรอก เพราะเธอตัวเล็กมากแถมสูงแค่ไหล่ผมเองด้วยซ้ำ

 

“เห้ย! ไอ้ธูป”

เสียงนี้คือเสียงจากเพื่อนของผมทั้งสี่คน ที่ไม่เว้นแม้แต่ไอ้คีย์บอร์ดก็ตะโกนออกมาพร้อมๆกัน หึ! ผมสะใจที่ยัยคุณหนูผู้ปากดีตรงหน้านี่ก็ดูเหมือนว่าก็จะตกใจไม่น้อยเลยเหมือนกัน

 

“อ่อย อั้น อ๊ะ! อ่อยยยย”

พูดอะไรของเธอวะ? ไม่รู้เรื่อง -*- [นายประกบปากเธออยู่เธอคงจะพูดได้ถนัดเนอะไอ้ธูป!!!]

 

...เพี๊ยะ...

 

ทันทีที่ยัยคุณหนูหลุดออกจากพันธนาการ ฝ่ามือน้อยๆก็ประเคนลงที่แก้มซ้ายผมทันที หน้าของผมหันไปตามแรงตบ

 

“ฉันเกลียดนาย!!”

คุณหนูคริสติน่าพูดพลางปาดน้ำตาแล้ววิ่งหนีออกไปทันที แต่ผมกลับยิ้มกระหย่องเมื่อสามารถแก้เผ็ดยัยคุณหนูคนนี้ได้

 

แต่ทำไมผมถึงรู้สึกสงสารประหลาดๆ ไม่สิ มันเป็นความรู้สึกประหลาดเลยมากกว่า ความสะใจในตอนแรก ตอนนี้หายไปหมดแล้วทันทีที่เห็นน้ำตาของเธอ

 

“เห้ยธูป! นายทำแบบนี้ได้ไงวะ?” บุ้งกี๋เป็นคนแรกที่วิ่งมาหาผม เธอผลักไหล่ของผมให้หันไป

 

“ใช่ มันเป็นการย่ำยีศักดิ์ศรีผู้หญิงนะเว้ย!!!!”

 

‘ศักดิ์ศรี’ เหรอ? มันคืออะไร เอาไปต้มยำได้มั้ยครับ แล้วถ้าทานแล้วจะอร่อยมั้ย? -0-;;

 

=======================================================

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา