Love Gameเกมส์รัก เกมส์ร้ายป่วนหัวใจยัยมาเฟีย
เขียนโดย nori
วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.26 น.
แก้ไขเมื่อ 2 มีนาคม พ.ศ. 2557 15.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) Game Stat
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"นี่แกคิดยังไงถึงตกลงคบนายเรียวนั่นน่ะ!!"ยัยโชกี้ตะโกนเสียงดังลั่นจนทุกคนในห้องหันมามองที่กลุ่มพวกฉัน
"ทำไมอ่ะ ก็ถ้าไม่ทำอย่างนั้นหมอนั่นก็จะไปบอกอาจารย์ฝ่ายปกครองเรื่องที่เรย์ไปต่อยน่ะสิ แล้วถ้าเรื่องนี้ถึงฝ่ายปกครองหล่ะก็คราวนี้ได้โดนพักการเรียนแน่ๆเลย"ก็ไอหมอนี่มันใช่ย่อยที่ไหนกันเข้าห้องฝ่ายปกครองบ่อยอย่างกับว่าห้องนั้นเป็นห้องของมันเองงั้นแหละ -_-
"แกรู้ไหมว่าเรียวน่ะ ก็ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ไม่แพ้ไอเรย์เลยหล่ะ"ยัยโชกี้บอกยัยนี่เหมือนหน่วยรับข่าวสารของกลุ่มเลยหล่ะถ้าอยากรู้เื่รื่องอะไรมาถามยัยนี่ได้หมด
"เฮ้ย จริงหรอวะ แล้วนี่ฉันจะไว้ใจให้หมอนั่นดูแลยัยนานาได้หรือเปล่าเนี่ย"ยัยเปเป้พูดขึ้น ฉันว่ายัยนี่ห่วงฉันมากกว่าแม่แท้ๆของฉันอีกมั้ง
"แล้วนี่พวกเราจะทำยังไงกับปัญหานี้ดีเนี่ย"อ้ายถามขึ้นมา
"ก็ไม่เห็นจะยาก"สายไหมพูดเหมือนกับว่าเธอมีทางแก้
"ทำยังไงหรอ"พวกเราทุกคนถามขึ้นมาพร้อมกัน
"ก็ปล่อยไปเลยตามเลย~"ยัยนั่นพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี เฮ้อ~พวกฉันไม่น่าตั้งความหวังไว้กับยัยนี่เลยให้ตายสิ!
วันต่อมา
ดีนะที่เมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้นดีจังที่คุณพ่อไม่รู้เรื่องที่ฉันไปตกลงเล่นเกมกับเรียว ไม่งั้นฉันต้องซวยแน่ๆT^T
แต่เมื่อฉันมาถึงห้องเรียนก็มีคนๆนึงนั่งรอฉันอยู่ที่โต๊ะของฉันนั่นก็คือ แท่น แท้น!! เรียวนั่นเอง
"นายมาทำอะไรที่โต๊ะเพื่อนฉัน"ยัยเปเป้ที่เดินตามหลังฉันมาตั้งแต่หน้าโรงเรียนพูดขึ้น
"ก็มารอแฟนฉันน่ะสิ"
"ใครเป็นแฟนแกกัน"
"เพื่อนเธอไง"
"มันก็แค่เกม!!"เปเป้โมโหขึ้นมาอย่างเหลืออดกับท่าทีกวนประสาทของเรียว
"ใช่ ถึงจะเป็นแค่เกมแต่เพื่อนเธอก็เป็นแฟนฉันอยู่ดี"
"เอาน่า หยุดเถียงกันได้แล้ว เปล่าประโยชน์น่า~"ฉันพูดขึ้นมาเพื่อไม่ให้สองคนนี้เถียงกันต่อ
"ก็ได้ๆ"ยัยเปเป้ยอมหยุดเถียงกับเรียวแต่โดยดีและยอมไปนั่งที่ตัวเองในที่สุด
"แล้วนายมารอฉันทำไม"ฉันถามเรียวขึ้นมา
"เปล่าหรอก ก็แค่กะว่าจะรอชวนเธอไปกินข้าวที่โรงอาหารน่ะ"เขาว่าพลางยิ้มให้ แต่คราวนี้กลับไม่ใช่รอยยิ้มที่กวนประสาทอย่างที่ยิ้มให้กับยัยเปเป้
"อืม ไปสิฉันก็ไม่ได้กินอะไรมาเหมือนกัน"ฉันตอบตกลงไป พอฉันตอบตกลงปุ๊บเขาก็รีบลากฉันไปยังโรงอาหารทันที
พอมาถึงโรงอาหารก็พบว่ามีมีนักเรียนหลายคนที่มองมายังพวกเราสองคนแล้วพากันซุบซิบเรื่องที่ฉันกับเรียวเป็นแฟนกัน ผู้หญิงบางคนถึงกับจ้องมองมาทางฉันด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร
"เธอจะกินอะไรหล่ะ เดี๋ยวฉันไปสั่งให้"เรียวถามขึ้นมาเมื่อเขาเห็นว่ามีคนจ้องมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร
"งั้นฉันเอาเป็นก๋วยเตี๋ยวก็ได้ เอาเส้นบะหมี่นะ"ฉันทำเป็นไม่สนใจมองยัยพวกนั้นแล้วหันไปหาเรียวแทน
"อืมๆเดี๋ยวฉันมานะ อย่าไปไหนหล่ะ"เขาหันมาบอกฉันก่อนที่จะรีบวิ่งไปสั่งอาหาร
"แหม เรียวเพิ่งจะมาไม่ทันไร ก็ถูกเธอแย่งไปเป็นแฟนซะแล้ว"เสียงของหนึ่งในกลุ่มผู้หญิงที่ยืนจ้องฉันพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแดกดัน
"ฉันแย่งอะไรใครมิทราบ"
"เธอก็น่าจะรู้นะว่าถึงแม้ว่าเขาเพิ่งจะเข้ามาอยู่ที่โรงเรียนนี้ได้ไม่นานแต่เขาก็ฮอตมากในหมู่ผู้หญิง ไม่แพ้้เรย์กับโซลเลยนะ"
"แล้วยังไง เกี่ยวอะไรกับฉันหล่ะ"ฉันถามกลับไปด้วยความไม่ทุกข์ร้อน
"ก็เธอเป็นคนที่คว้าเขาไปเป็นแฟนด้วยเวลาไม่ถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำ"
"แล้ว?..."
"เธอก็ควรจะสำนึกในการกระทำของเธอนะ ยัยผู้หญิงใจง่าย ผู้หญิงที่ยอมตกลงเป็นแฟนกับผู้ชายที่รู้จักกันได้ไม่นาน ก็เหมือนกับว่าเธอง่ายไงหล่ะ ฮ่าๆๆ"พอยัยหัวหยิกพูดจบก็หัวเราะขึ้นมาอย่างสะใจ
"หึ!"
"แกหัวเราะอะไร"ยัยนั่นหยุดหัวเราะแล้วหันมาถามฉันแทน
"น่ารำคาญ"
"แกจะหาเรื่องกับพวกฉันอย่างนั้นหรอ"
"ไม่หล่ะ ฉันไม่อยากลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับคนอย่างพวกเธอหรอกนะ วันๆคิดแต่เรื่องต่ำๆ แถมยังไม่อยากให้เรียวเขามีแฟนอีก ถ้าพวกเธอคิดที่จะเก็บเขาไว้กับพวกเธออย่างเดียว ฉันขอบอกเลยนะว่านะว่าเห็นแก่ตัว แล้วอีกอย่างถ้าไม่มีปัญญาทำให้ผู้ชายสนใจได้แต่เห่าก็เชิญเธอไปเห่าที่อท่นเถอะ มันน่ารำคาญ"
"กรี๊ด~ๆๆๆ"ยัยหัวหยิกนั่นกรี๊ดขึ้นอย่างอารมณ์เสียและพาพวกของตนเองวิ่งออกไปจากโรงอาหาร
"ไม่น่าเชื่อนะว่าเห็นเธอนิ่งๆอย่างนี้แต่ก็ปากร้ายใช่ย่อย"เสียงของเรียวดังขึ้นหลังจากที่ยัยพวกนั้นไปแล้ว
"..."
"อ่ะนี่~ก๋วยเตี๋ยวของเธอ"
"ขอบใจ"
"เออใช่ ฉันเพิ่งนึกได้ว่าจะถามอะไรเธอซักอย่าง"
"อะไรหล่ะ"
"ทำไมเธอถึงไม่ค่อยยิ้มเลยหล่ะ"
"...ฉันคงลืมวิธียิ้มไปแล้วหล่ะมั้ง"
"ทำไมหล่ะ"
"ฉันจำเป็นที่ต้องเล่าเรื่องส่วนตัวให้นายฟังด้วยหรอ"
"เอาเถอะน่า ฉันอยากฟัง"
"เฮ้อ~ก็ได้"ฉันถอนหายใจและยอมเล่าแต่โดยดี"แต่ก่อนมีแต่คนบอกว่าฉันเป็นเด็กที่ร่าเริงและน่ารักมากคนหนึ่งเลยนะ แต่ว่ามีอยู่วันหนึ่งที่ฉันและพวกพี่ๆจะต้องนำผลสอบของตนเองไปให้คุณพ่อดูฉันดีใจมากที่ฉันได้ที่หนึ่งของชั้นเรียนแถมยังได้คนแนนตั้งเก้าสิบแปดคะแนน แต่พอพี่เนสที่อยู่ข้างหน้าฉันนำกระดาษข้อสอบที่ได้คะแนนเต็มไปให้คุณพ่อดูท่านถึงกลับชมพี่เนส ว่าเป็นลูกที่ท่านภูมิใจ และพอถึงเวลาที่ฉันต้องนำกระดาษข้อสอบไปให้ดูท่านกลับบอกฉันว่าฉันพยายามไม่มากพอ และหลังจากนั้นคุณพ่อก็ไม่เคยไปวันประชุมผู้ปกครองหรือวันสำคัญไหนๆของฉันอีกเลย แล้วยิ่งนานวันเข้ารอยยิ้มของฉันก็หายไป เหลือไว้แต่เพียง...สีหน้าเย็นชานี้หล่ะมั้ง"
"..."พอเขาฟังที่ฉันเ่ล่าจนจบ เขาก็ไม่พูดอะไร ฉันจึงก้มหน้าก้มตากินก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าไป แต่แล้วเขาก็พูดบางอย่างออกมา
"เชื่อเถอะว่าฉันจะเอารอยยิ้มของเธอกลับคืนมาเอง"
...มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน นายคิดจะทำลายกำแพงที่ปิดกั้นหัวใจของฉันให้ได้อย่างนั้นหรอ กำแพงที่ฉันสร้างขึ้นมาเพื่อปกปิดความอ่อนแอข้างใน แล้วทำไมฉันถึงรู้สึกอบอุ่นจากคำพูดเมื่อกี๊ของเขาด้วยหล่ะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ