Hireko Story เรื่องราวของฮิรีโกะ
เขียนโดย ShineLove
วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 01.32 น.
แก้ไขเมื่อ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556 22.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ความฝันกับความจริง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่ฉันต้องพลัดพรากจากความอบอุ่น..ฉันก็เริ่มย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของชายด์ ที่อยู่กันเป็นครอบครัว มีพ่อแม่และตัวเธอเอง ชายด์บอกว่าเธอมีความสุขเเล้ว ถึงแม้ว่าจะอยู่กันแค่สามคนก็ตาม แต่ชายด์ก็มีความสุข เพราะว่าชายด์ ได้เห็นหน้าพ่อแม่ยิ้มเสมอและได้ทานข้าวด้วยกัน ...
เมื่อฉันคิดเเล้ว ฉันก็รู้สึกอบอุ่นเมื่อได้ฟังเรื่องที่เธอบอกฉัน..แต่ก็ยังอดไม่ได้ ที่ตัวของฉันจะย้อนไปนึกถึง
ภาพ ของฉัน และ.. แม่ ที่เคยอยู่ด้วยกัน เคยกินข้าวด้วยกัน ..ทำอะไรหลายอย่างด้วยกัน ฉันมองเห็นภาพรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นของแม่ในความคิด...ฉันไม่เคยที่จะลืมมันเลย มันเข้าไปบันทึกในหัวใจฉันเเล้วหล่ะ ฉันเศร้าและคิดอยู่ในใจคนเดียว โดยที่ไม่บอกชายด์ให้รู้ ... ถึงยังไงก็ตามเถอะ คิดไปมันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรเเล้วหล่ะ .. ใช่สินะ ตอนนี้แม่คงไม่อยากเห็นฉันเศร้า ฉันควรจะมีความสุข เพื่อให้แม่เป็นเช่นเดียวกับฉัน... พอพูดเสร็จเเล้วฉันจึงยิ้มต่อ คิดภาพว่า แม่บอกให้ฉันยิ้มและมีความสุข... :D
ตอนนี้เป็นเวลา 8-9 โมงเช้า ฉันอยู่ในรถของชายด์ ชายด์เธอมีรถเก๋ง ยี่ห้อมิราเคิ้ล ซึ่งก็เป็นรถที่สามารถเปิดประทุนและปิดได้เช่นกัน มันมีสีขาว รอบๆตัวรถมีรูปลายดอกไม้อยู่ ชายด์บอกว่า มันเป็นรถที่ซื้อและใช้งานมา ได้ประมาณ 2-3 ปีเเล้ว ชายด์รู้สึกชอบมันก็เพราะว่า เวลาฤดูร้อนเธอก็สามารถเปิดประืุทุน หรือสั่งให้เปิดหลังคารถได้ด้วย....เวลาหนาวก็ปิด นอกจากนี้ยังมีเพลงฟัง และระบบนำทาง GPS อีกด้วยช่างเป็นรถที่ดีจริงๆ.... :)
"ฮิรีโกะ" ชายด์เรียก
"มีอะไรหรอ ชายด์" ฉันถาม
"เธอชอบรถของฉันหรือเปล่า" ชายด์ถามฉัน
"ชอบสิ รถของเธอสวยและก็มีเพลงเพราะๆฟังด้วยนะ" ฉันตอบ
"ฉันดีใจนะ ที่เธอพูดแบบนี้"ชายด์พูด
"ไม่เป็นไร ถึงแม้มันจะแย่ซักเท่าไหร่ฉันก็นั่งได้อยู่เเล้ว" ฉันให้กำลังใจชายด์
"ขอบคุณนะ" ชายด์ขอบคุณ
"ยินดีเสมอ"ฉันยิ้มด้วยใบหน้าอันสดใส เพื่อให้ชายด์มีความสุข
"ออกเดินทางด้วยกันเลย !" ชายด์พูดอย่างน่าตื่นเต้น"
"ได้้เลย ยา ฮู๊วว!" ฉันตื่นเต้นเช่นเดียวกับชายด์
และเเล้วเราทั้งสองคนก็หัวเราะด้วยกัน ฮ่าๆๆๆๆ ..ช่างเป็นรถที่เต็มไปด้วยความสุขจริงๆ...
เราทั้งสองคนขี่และนั่งรถผ่าน ถนนหลายเส้นทาง.. ส่วนมากจะเป็นทางตรงซึ่งง่ายต่อการขับขี่
ฉันเห็นใบไม้พร้อมกับต้นไม้สีเหลืองหลายต้นเลย ข้างทางเปล่งประกายด้วยใบไม้ เมื่อมารวมกับ ท้องฟ้าที่แจ่มใส และพระอาทิตย์ที่เจิดจ้า ..มันช่างสวยงามเหลือเกิน :D
แล้วชายด์ ก็ขี่ผ่านถนนโค้งอยู่เส้นหนึ่ง เมื่อมองไปทางขวามือของฉันและชายด์ ก็มองเห็นทะเลสีใส
อันกว้างใหญ่และหาดทราย เมื่อดูไกลๆเเล้วมองเห็น เป็นสีฟ้าครามที่สดใส มีคนเล่นน้ำและอาบแดดอยู่เต็มไปหมดเลย
"ขอบคุณนะ คุณทะเล คุณหาดทรายและท้องฟ้าที่ทำให้ฉันเย็นสดใสขึ้น"
"ขอบคุณนะคุณดวงอาทิตย์ที่ทำให้ฉันอบอุ่น"..
"และขอบคุณคุณแม่ ที่ทำให้ฉันยิ้มได้ .."
"ตอนนี้ลูกของแม่มีความสุขเเล้วนะ .." ฉันนำสร้อยของคุณแม่ขึ้นมาและพูดกับมัน.. ชายด์ก็ได้ยินในสิ่งที่ฉันพูด
แล้วน้ำตาแห่งความสุขของฉันก็ไหล พร้อมกับรอยยิ้มและแววตาแห่งความอบอุ่นที่คุณแม่ของฉันมอบให้ผ่านทางสร้อยเส้นนี้ .. ชายด์ส่งยิ้มให้ฉันด้วยกำลังใจ :)
"ไม่เป็นไรนะ ฮิรีโกะ ฉันเป็นกำัลังใจให้เธอ สู้ต่อไปนะ อย่ายอมแพ้ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเองนะ"
ชายด์ให้กำลังใจฉันอีกครั้งหนึ่ง
"อะ..อืม.."ฉันตอบรับพร้อมกับสะอื้นเล็กน้อย
ในที่สุดฉันก็นั่งรถกับชายด์จนมาถึงบ้านของเธอ ..ชายด์และฉัน ค่อยๆเดินเข้าไปในบ้านหลังนี้ ชายด์บอกฉันว่ามันเป็นบ้านที่ทำจากปูน แต่พื้นเดินเป็นไม้ที่เงา มีอยู่ทั้งหมดสี่ชั้น รอบๆตัวของบ้าน ชายด์กับพ่อและแม่ของเธอ ปลูกต้นไม้ไว้เต็มไปหมดเลย เพราะว่า พ่อกับแม่ของเธอรักต้นไม้มากๆ .. ทุกๆเช้า พ่อและแม่ของชายด์ จะมารดน้ำดูแลมันเสมอ มันเปรียบเสมือนร่มเงาของบ้านและความสดชื่น บ้านหลังนี้มีห้องนอนอยู่ ประมาณ 4-5 ห้องเพราะว่า ญาติๆมักจะเข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่ แ่ต่ตอนนี้ .. ไม่ได้เข้าอยู่ในบ้านของชายด์เเล้ว .. ญาติของชายด์ ไม่ได้อยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์แล้ว แต่ไปทำงานและอาศัยอยู่ที่อเมริกาแทน
ฉันและชายด์พากันเดินเข้าไปในบ้าน ห้องของแ่ต่ละชั้น ทีเห็นเมื่อมองจากทางหน้าบ้าน มันมีระเบียงด้วย ถ้าขึ้นไปยืนอยู่บนนั้น ก็จะสามารถเห็นเมืองทั้งเมืองได้เลย เนื่องจากบ้านของชายด์ตั้งอยู่้บนเทือกเขาที่สูง
ก่อนหน้านี้ชายด์ บอกพ่อและแม่แล้ว ว่าฉัน จะย้ายเ้ข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของเธอ ตอนที่ชายด์พูดแบบนั้นกับพ่อและแม่ของเธอ ก็ดีใจ เพราะว่ามีสมาชิกเพิ่มอีกหนึ่งคน จะได้อบอุ่นมากยิ่งขึ้น .. น่าแปลกนะ ที่พ่อแม่ของชายด์ ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้านเลย ...
"พ่อคะ แม่คะ นี่ฮิรีโกะเพื่อนของหนูค่ะ" ชายด์แนะนำฉันให้พ่อแม่ของเธอ
"สวัสดีค่ะ ชื่อฮิรีโกะ ฝากตัวด้วยนะคะ" ฉันพูดให้พ่อแม่ของเธอ
"ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฮิรีโกะ นี่สามีของฉัน เขาชื่อ คุณ 'โรเบิร์ด เจมส์' หรือเรียกสั้นๆว่า 'เจมส์' ก็ได้นะ" แม่ของชายด์แนะนำพ่อของเธอ
"สวัสดี ฮิรีโกะ หวังว่าเธอคงจะชอบบ้านหลังนี้นะ" คุณเจมส์พูด
"ขอบคุณค่ะ" ฉันตอบและส่งยิ้ม
"ส่วนฉันชื่อ 'มิสึตะ คิมิโตะ' ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฮิรีโกะ" แม่ของชายด์พูดแนะนำตนเอง
"เช่นกันค่ะ" ฉันพูดและส่งยิ้มอีกครั้ง
แล้วชายด์ก็เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวกับฉันให้พ่อแม่ของเธอฟัง .. พ่อแม่ของชายด์สงสารและเข้าใจในตัวฉัน :)
เมื่อทักทายทำความรู้จักกันเสร็จ ชายด์ก็มุ่งหน้าพาฉันขึ้นไห้องนอน ที่ต้องอาศัยอยู่ .. ชายด์และฉันเดินขึ้นบันไดไปด้วยกันพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าของฉัน.. จนฉันกับชายด์ก็มาถึงหน้าประตูห้องนอนที่ฉันต้องมาอาศัยอยู่ ซึ่งอยู่ประมาณชั้นที่ 4 ซึ่งเป็นชั้นสุดท้ายของบ้าน ..
"ถึงเเล้วหล่ะ ฮิรีโกะ เข้าไปพักผ่อนได้เลยนะ หรือจะออกมาเดินเล่นก็ได้ ได้หลังของบ้านไม่มีรั้ว แต่เป็นป่าที่ไม่อันตรายนะ มีแม่น้ำหรือลำธาร เธอสามารถลงไปเดินเล่นแถวๆบริเวณนั้นได้ ส่วนเรื่องอาหารกับเครื่องดื่ม ถ้าเธอต้องการ สามารถเปิดเอาได้ในตู้่เย็น หรือถ้ามีเรื่องอะไรอีกก็บอกฉันได้นะ ฉันยินดีช่วยเธอเสมอ" ชายด์แนะนำฉัน
"ขอบคุณ ชายด์" ฉันขอบคุณ
"ด้วยความยินดี ..ตอนนี้ฉันต้องไปทำธุระเเล้วหล่ะ โชคดีนะ บาย" ชายด์อำลาฉัน
"โชคดีเช่นกันค่ะ" ฉันอวยพรชายด์
ฉันเปิดประตูเข้าไปในห้อง รู้สึกถึงความกว้างของห้องนี้ เป็นบ้านที่น่าอยู่มาก สิ่งแรกที่ฉันเห็นคือเตียงนอน ที่กว้างประมาณ 2-4 เมตร คงจะนอนได้ถึง 3 คน.. ฉันคิดถึงเตียงที่บ้านเกิดของฉัน มันเล็กกว่าที่นี่มาก ฉันกับแม่ต้องนอนคนละเตียงเลย
ทุกครั้งเมื่อทำงานแล้วนอนดึก แม่ก็จะคอยลืมตา และเป็นห่วงฉันอยู่เสมอ แม่คนนี้แสนดีต่อฉันมาก ไม่เหมือนแม่คนไหนๆเลย
ข้างๆเตียงนอนมีด้วยโตะเครืื่องแป้งที่วางไว้ติดกับฝาผนัง มีกระจกทรงวงรีอยู่ ซึ่งเหมาะที่จะแต่งหน้าำทำผมได้
ถัดไปจากตู้กระจก ทางซ้ายมีก็มีประตูเลื่อน ใส่ๆอยู่มีผ้าม่านปิด เมื่อเปิดออกเเล้วก็จะเห็นระเบียงซึ่งเราสามารถ ไปยืนตรงบริเวณนั้นได้ และมองเห็นได้ทั่วเมืองเลย .. มีห้องน้ำอยู่ในห้องด้วย เป็นบ้านที่พิเศษในสายตาฉันมากๆเลย.....
ฉันเก็บและจัดเสื้อผ้าของต่างๆให้เรียบร้อย เหยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมา แล้วโยนตัวลงบนเตียงนุ่มๆ นึกถึงเรื่องต่างๆเเล้วเผลอหลับไป....
ณ ตอนนี้ ในความฝัน
ฉันอยู่ที่ไหนกันนะ ... ฉันลืมตาและค่อยๆลุกขึ้นมา ตอนนี้ฉันยืนอยู่บนทุ่งหญ้าสีเขียวเต็มไปหมด มีดอกไม้มากมาย ท้องฟ้าแจ่มใส .. ฉันเดินไปสำรวจทุ่งหญ้ารอบๆ เมื่อเดินไปเรื่อยๆ ฉันก็ด้านหลังที่เหมือนกับคุณแม่ของฉัน ...
ฉันวิ่งตามคุณแม่ไป ไปเรื่อยๆเเล้วก็วิ่งอีก จนตอนนี้ฉันแทบจะไม่มีแรงเเล้ว
"คุณแม่คะ อย่าพึ่งไป กลับมาหาลูกได้ไหม!!" ฉันตะโกนและวิ่งตามคุณแม่ไป
"คุณแม่ !!!!!" ฉันตะโกนอีกครั้งและเริ้มร้องไห้
แต่..คุณแม่ก็ไม่หันหน้ามา เดิินไกลจากฉันเรื่อยๆ สุดท้ายฉันก็เป็นลมไป..
แล้วเมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งในความฝัน ฉันอยู่ในป่้ามีสีเขียวอยู่เต็มไปหมดแสงลอดผ่านใบไม้ทำให้ดูสดใสขึ้น
"คุณแม่...."ฉันพูดเบาๆ เผื่อว่าคุณแม่จะได้ยินฉัน
................ คุณแม่ไม่อยู่กับฉัน คุณแม่ไปไหนเเล้วหล่ะ?
ฉันถือสร้อยเส้นนั้น แล้วก้มมองรูปทูตองค์รักษ์ที่อยู่บนวัตถุทรงกลม.........
ฟึบ !!!!!!!!
ฉันรู้สึกเหมือนมีตัวอะไรกำลังผ่านด้านหน้าของฉัน..
ฟืบ !!!!!!!!
และตอนนี้ก็อยู่ด้านหลังของฉัน .. ทำให้ฉันขนลุกและตกใจมาก ฉันรวบรวมๆความกล้า แล้วหันไปข้างหลัง !!!
ภาพที่อยู่ต่อเบื้องหน้าของฉัน .... คือ มารที่มีใบหน้าผอมแห้ง สวมชุดสีดำ มีไอหรือควันสีม่วงดำๆครื้มๆ ออกจากตัว มีฟันและเล็บที่แหลมคม มีรอยขาดที่เสื้อตรงบริเวณไหล่ ตรงนั้นมีรูปหัวกระโหลก ตาสีแดง ทุกอย่างของมัน ดูหน้ากลัวมาก ......... ไอและควันมืดสีม่วงเข้ามาปกคลุมตัวฉัน ตอนนี้ฉันไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เเล้ว นอกจากไอและควันของมัน
"แม่ !!!!!!!!!!!!!" ฉันตะโกนสุดเสียงด้วยความกลัวสุดขีด
หลังจากที่ฉันตะโกน ก็มีแสงสีขาวออกมาจากสร้อยเส้นนั้น ... มันช่วยกำจัดควันไอสีม่วงๆมืดๆ ออกไปหมด
แสงสีขาว เมื่อมองเเล้วดูแสบตามาก ราวกับมีพลังมากมายออกมาจากสร้อยเส้นนั้น...
ฉันได้ยินเสียงของมาร มันร้องดังลั่น
อ๊ากกกกกกกกกก !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
สุดท้าย เมื่อแสงนั้นค่อยๆเลือนลางหายไป ฉันก็พบเจอกับทูตสวรรค์องค์รักษ์นั้น !! เธอใส่ชุดสีขาว มีผมสีขาวยาวจนถึงประมาณ น่องขา ถือคทาเวทย์มนต์อันใหญ่ เป็นรูปวงกลมมีดาวห้าแฉกอยู่ ..... ฉันตกใจมากในตอนนี้ เพราะไ่ม่เคยพบเรื่องราวแบบนี้มาก่อน ... และไม่คิดว่าเรื่องที่แม่เล่าจะเป็นจริง ...
"ฉันมีนามว่า 'ไลท์ แอนเจิ้ล' ฉันมีหน้าที่คอยปกป้องคนที่ใส่สร้อยเส้นนี้ ..ซึ่งก็คือสร้อยที่เธอ" ทูตองค์นั้นพูด
"แล้วแม่ของฉันหล่ะ แม่ของฉันเป็นยังไงบ้าง" ฉันถามทูต
"ตอนนี้แม่ของเธอ อยู่ในโลกอีกมิติหนึ่ง ที่มนุษย์อย่างเธอไม่สามารถมองเห็น มันเป็นโลกที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ ความสุขและความอบอุ่น เป็นโลกที่สิ่งเหล่านี้จะไม่สูญสลายไป รวมถึงชีวิตก็จะนิรันดร์อีกด้วย" ทูตเล่าเรื่องราวแก่ฉัน
"ฉันมีโอกาสที่จะเจอแม่ของฉันหรือเปล่า" ฉันถามทูตอีกครั้ง
"จนถึงวันนั้นที่เธอจากโลกมิตินี้ไป" ทูตตอบ
"........" ฉันคิดและเงียบไป
"เเล้ว...." ฉันสงสัย
แล้วทูตองค์นั้นก็หายตัวไป พร้อมกับรูปของคุณแม่ ที่ค่อยๆร่วงหล่นลงมา ...
ณ ปัจจุบัน
ฉันตกใจตื่นขึ้้นมา หารูปนั้นที่พบในความฝันทั่วห้อง แล้วมันก็มาอยู่ใต้หมอนของฉัน
เป็นรูปของฉันตอนที่ยังเล็กๆ ซ้อนท้ายรถจักรยานของแม่
และแล้วฉันก็ร้องไห้ น้ำตาของฉันก็ไหลอาบแก้ม ....
"แม่คะ ..หนูรักแม่นะ"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ