EXPLOSIVE BAND ระเบิดฝันสู่ดาว
9.7
เขียนโดย Yuren
วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.17 น.
5 บท
3 วิจารณ์
8,396 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556 23.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) บท 4
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 4
ณ มหาลัยแห่งหนึ่ง ในย่านตัวเมือง
"กวางทำไมฉันต้องมามหาลัยกับเธอด้วยละเนี้ย" สันบ่นขึ้นด้วยความไม่พอใจ
"เอาเถอะน่า นายเป็นหัวหน้าวงนะ นายก้อต้องมาตกลงเจรจาด้วยตัวเองสิ"
"แต่นี้มันเป็นหน้าของผู้จัดการวงอย่างเธอไม่ใช้หรอหะ"
ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังโต้เถียงกันอยู่นั้นได้มีเสียงชายปริศนาคนหนึ่งพูดขัดขึ้นมา
"เฮ้กวางมาทำอะไร วันนี้เธอไม่มีมีเรียนไม่ใช้หรอ" และเจ้าของเสียงนั้นก็คือแคน
มือกีตาร์วงเงินสะพัดแบนนั้นเอง "ว๊าย!พี่แคนมาได้ไงเนี้ย" กวางพูดด้วยท่าทางน้ำเสียง
และทาทางงตกใจ "ออ พี่เดินเล่นเพลินแล้วผ่านมาพอดีนะ เห็นกวางพี่เลยเดินเข้ามา
ทักทายตามภาษาคนรู้จักกันนะ กวางมาทำอะไรกวางยังไม่ตอบพี่เลย"
"ออ กวางมาทำรายงานนะค่ะ" กวางตอบพร้อมยิ้มให้กับแคน
"ออ แล้วคนที่ยืนข้างๆกวางนี้ใครหรอ" แคนถามกวางพร้อมกับหันหน้ามองไปที่สัน
"ออ เพื่อนกวางเองนะค่ะ เขาอย่างมาเที่ยวโรงเรียนนี้กวางเลยพาเดินเล่น"
"เพือนหรือหมาเนี้ยถงึต้องพามาเดินเล่น ฮาๆๆ" แคนหันหน้าไปพูดกับกวางและหัวเราะ
ขึ้นเสียงดัง ถึงแคนจะพูดยังนั้นกับสันแต่ดูเหมือนว่าสันก็ไม่มีอาการโมโหหรือโกรธแคน
เลย "เออ..ผมขออนุญาตแนะนำตัวเพื่อนของกวางรู้จักนะคับ ผมชื่อ สายธาร เทพพนา
หรือเรียกว่าแคนก็ได้คับ" แคนแนะนำตัวพร้อมยืนมือออกมาเพื่อต้องการจับมือกับสัน
"ออ ฉันชื่อสันโดษ รัตนฐากุล หรือเรียกว่าสันก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก"
และสันก็ยืนมืออกไปจับมือกับแคน ทั้งๆที่ในใจลึกๆสันไม่อยากจะรู้จักก็เถอะ
ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็ผมได้นะคับคุณสัน แคนพูดบอกสันด้วยหน้าที่ยิ้มแย้มเป็นกันเอง
ออ ขอบคุณมากคับแต่ผมคงไม่มีอะไรให้คุณช่วยหรอก สันพูดพร้อมกับยิ้มกวนๆกลับไป
ให้แคนแต่แคนก็ทำไม่ได้สนใจที่สันพูดและหันหน้าไปคุยกับกวางต่อ
ทำเหมือนกับว่าไมมีสันยืนอยู่ตรงนั้น แต่สันก็ไม่มีอาการแสดงท่าทางอารมณ์เสียใดๆ
แต่ในใจลึกๆแล้วเขาคงโมโหมาก แต่ที่เขาเก็บอาการไว้คงเพราะอยากจะรักษาหน้ากวาง
"ถ้าไม่มีอะไรกันแล้วพี่ขอตัวไปเรียนก่อนนะ ผมขอตัวไปก่อนนะคับคุณสัน"
แคนยิ้มและพูดพร้อมกับยกมือขึ้นโบกมือบายๆกวางและสัน
สันก็ยืนเฉยๆไม่สนใจที่แคนพูดและโบกมือ แต่แคนก็ไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจอะไร
"คะโชคดีค่ะพี่" กวางพูดและยกมือบายๆแคน
พอแคนเดินจากไปกวางก็หันหน้าไปหาสันและมองไปที่สันและพูดขึ้น
"สันทำไมแสดงท่าทีอย่างนั้นกับพี่เขาละ"
"ป่าวววววนี้ฉันก็แสดงท่าทางปกติ" สันพูดเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง
"เห็นอยู่ชัดๆว่านายไม่ชอบพี่เขา"
"เหอๆ ใช้ฉันไม่ชอบและมันก็คงไม่ชอบฉัน เจ้านั้นกวนทีนจริงไรจริง"
สันพูดด้วยเสียงนิ่งๆเรียบๆและออกแนวกวนๆ
"ช่างเหอะไปหาสมาชิกคนแรกของวงกันดีกว่า" กวางพูดแบบขอไปทีเถอะ
ระหว่างเดินหาสมาชิกกันอยู่นั้นผมเกิดอาการสงสัยขึ้นว่า
ทำไมกวางถึงไม่บอกความจริงกับแคนไปว่าพวกเรามาหานักดนตรีเข้าวงพวกเรา
ผมอดสงสัยไม่ได้ผมเลยถามกวางขึ้น "นี้กวางทำไมเธอถึงไม่บอกความจริง
คนที่ชื่อแคนนั้นไปละ ว่าเรามาตามหาสมาชิกเขาร่วมวงนะ"
"ไม่เอาอะไม่อยากให้พี่เขารู้ว่าเรากำลังจะเป็นคู่แข่งพี่เขา ในเส้นทางของดนตรีนะ ปล่อย
ให้พี่เขารู้เองดีกว่า" "อืม..แล้วตอนนี้เธอคบกับคนชื่อแคนนั้นอยู่หรอ
เห็นสนิทสนมกันจังเลย" "ออป่าวหรอไม่ได้คบ เราแค่ปลื้มพี่เขาน่ะ ไม่ได้ชอบไม่ได้รักซัก
หน่อย จะให้ไปคบได้ไงละ" "ออเข้าใจและ" คำพูดของกวางที่พูดว่าไม่ได้คบกับคนที่ชื่อ
แคนอะไรนั้นมันทำให้ผมรู้สึกโล่งใจแบบประหลาดๆยังไงก็ไม่รู้นะ
ผมคงคิดไปเองอีกแล้วละมั้งเนี้ย ฮาๆๆ
"สันที่นี้แหละที่เราจะมาตามหาสมาชิกคนแรกของวง" กวางหยุดเดินและพูดมาพร้อมกับชี้
นิ้วไปทาง ชมรม เพาะกาย "หะเราจะมาหาสมาชิกวงกันที่นี้หรอ คิดได้ไงนี้กวาง ฉันขอตัว
กลับก่อนละกัน เฮ้อ" ผมถอนหายใจยาวๆและกำลังจะเดินออกไปจากจุดที่ยืนกันอยู่ แต่ก็
เดินไปไม่ได้เหมือนมีอะไรมาดึงที่เสื้ออยู่
"อย่าพึ่งไปสิลองเขาไปดูก่อนแล้วถ้าไม่ถูกใจแล้วค่อยกลับ" กวางพูดขึ้นมาพร้อมกับจับ
ชายเสื้อผมและมองผมตาขวาง "เออก็ได้เข้าก็เข้า ผมต้องยอมตกลง อย่างไม่มีทางเลี่ยง
ได้เลย" แล้วในชมรมเพาะกายจะมีคนที่เล่นดนตรีเป็นหรอ" สันถามขึ้นด้วยความสงสัย
เพราะที่ที่ทั้งสองคนกำลังจะเข้าไปกันนั้นมันเป็นไปไม่ได้ว่าที่ ณ ที่แห่งนี้จะมีนักดนตรีสิง
สถิตอยู่ "สันที่ฉันจะแนะนำให้นายรู้จักน่ะ แต่ก่อนเคยเป็นมือกลองระดับพระกาฬ แต่เขา
ได้เลิกเล่นไปแล้ว เพราะเขามีปัญหากับวงที่เขาเคยเล่นให้อยู่เลยลาออกมาจากวงและ
เลิกยุ้งกับดนตรีอย่างเด็ดขาดมาเป็นเวลานานแล้ว" กวางพูดและสำรวจรอบๆโรงยิม
"กวางแต่ว่าเราไม่มีธุระอะไรกับคนที่หมดไฟในการเล่นดนตรีหรอกนะ" สันพูดขึ้นด้วย
ท่าทางไม่พอใจที่จะเอาคนที่หมดศรัทธาความเชื่อหมั้นในดนตรีกลับมาเล่นดนตรีอีกครั้ง
"เอาเถอะน่า พวกเรามาทำให้เขากลับมอยากเล่นดนตรีอีกครั้งกันเถอะนะ"
กวางพูดด้วยท่าทางน้ำเสียงและหน้าตาที่มุ่งมัน "เหอ ก็แล้วแต่เธอ เขาคนนั้นชื่ออะไรละ"
"ออ เขาคนนั้นชื่อ เออ..."กวางหยิบกระโน๊ตอะไรสักอย่างออกมจากกระเป๋าถือแล้วก็คลี่
กระดาษที่หยิบออกมาและอ่าน
"เขาชื่อ ไท ชื่อจริงชื่อ พนาไทย ศิริธารา" พอกวางอ่านเสร็จเขาก็เก็บกระดาษโน๊ตเอา
เข้าไปในกระเป๋าที่เดิม "ปะเราเข้าไปหาเขาข้างในโรงยิมกันเลยดีกว่า กวางพูดชวน
สันเขาไปหาไทในโรงยิม" ผมละสงสัยว่าหมอนั้นมันมีอะไรที่น่าสนใจ ถึงทำให้กวาง
ต้องการตัวขนาดนี้ และทั้งสองคนก็ได้เดินเข้ามาข้างในโรงยิม โรงยินนี้มีขนาดใหญ่
เต็มไปด้วยเครื่องออกกำลังกาย และพวกมีกล้ามท้อง กล้ามแขน
"แล้วเราจะตามหาตัวคนชื่อไทได้ที่ไหนละ" สันถามขึ้นและมองไปรอบๆโรงยิม
"ไม่รู้สิ แต่รู้ว่าเขาต้องอยู่ในนี้แน่" กวางตอบอย่างหมั้นใจ
"อืม..งั้นลองถามพวกคนในนี้ดูก็ได้" พอกวางพูดจบกวางก็เดินเขาไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่
วิดพื้นอยู่ตรงมุมลืบมุมหนึ่งของโรงยิม เขามีร่างกายใหญ่กำยำ ท่าทางแข็งแรง
มาก "เออ…ขอโทษนะคะ รู้จักคนที่ชื่อไทไหมคะ" ผู้ชายคนนั้นก็ยังวิดพื้นต่อไป
เขาทำเหมือนกับว่าไม่เห็นกวางยืนยุตรงนั้น
"ขอโทษนะคะรู้จักคนชื่อ ไท ไหมคะ" กวางถามด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น
จนทำให้คนทั้งโรงยิมหันมามองกวางเกือบทั้งหมด ถึงกวางจะถามด้วยเสียงที่ดังขึ้น
กว่าเดิน ชายคนนั้นก็ยังคงวิดพื้นและทำท่าทางไม่สนใจกวางเหมือนเดิม จึงเริ่มทำให้กวาง
หมดความอดทนพร้อมที่จะระเบิดความโกรธเต็มที่ กวางเตรียมที่จะอ้าปากตะโกนอย่างสุด
เสียง "นี้คุณ…" แต่ก็ยังไม่ทันจะอ้าปากพูดก็มีมือมือหนึ่งมาปิดปากเขาไว้
"ไม่เอาน่ากวางใจเย็นไว้ เดี่ยวฉันคุยเอง" และเจ้าของมือนั้นก็คือ “สัน” กวางพูดขึ้นด้วย
เสียงตกใจเพราะเธอนึกว่ามีพวกของนายคนที่วิดพื้นอยู่มาทำร้ายเธอซะอีก
"ว่าไง เป๋า นายจะก้มหน้าก้มหน้าก้มตาวิดพื้นไปอีกนานไหม เพื่อนเก่าเพื่อนแก่อุสาแวะ
มาทักทายนายนะ สนใจกันหน่อยสิ สันพูดขึ้นพร้อมทำสายตาเฉือดเฉือนพร้อมกะตุกยิ้มมุม
ปาก "สันนายรู้จักเขาด้วยหรอ" กวางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจ
"รู้จักสิ รู้จักดีด้วยแหละ" สันยังคงพูดด้วยและน้ำเสียงกวนๆและทำสายตาเชือดเชือน
ใส่เป๋า "ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นเพื่อนวะโทษที่" เป๋าเลิกวิดพื้น และลุกขึ้นยืนมาจองตากับ
สัน "นายจะมาตามหาไททำไม"
"นั้นมันก็ธุระของฉัน" สันตอบด้วยคำพูดกวนๆและท่าทางหาเรื่อง
"นายพูดอย่างนี้ก็สนุกนะเซ่" เป๋าพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกและทำหน้าตาโมโห
"ถ้าคิดว่าเจ๋งก็เข้ามา" สันพูดท้าเป๋าด้วยเสียงเรียบๆกวนๆ ในเมื่อเป๋าโดนหยามถึงถิ่น
ตัวเองมีรึจะยอม เป๋าวิ่งเข้าไปและง้างหมัดจะต่อยไปที่หน้าของสัน แต่ด้วยการตอบสนอง
ของปราสาทที่ทำให้สันสันหลบหมัดของเป๋าได้ทุกหมัดได้
คนในโรงยิมพยายามวิ่งเข้าไปห้ามทั้งสองคน
แต่ไม่สามารถมีใครเข้าไปห้ามทั้งสองคนได้เลย
และกวางก็ทำได้แต่ยืนอึ่ง เพราะไม่เคยเห็นสันเป็นแบบนี้มาก่อน ปกติสันเป็นคนใจเย็น
มาก ใครจะว่าจะด่าอะไรเขาก็ไม่เคยโกรธใครง่ายๆเลย นี้เป็นครั้งแรกที่กวางเห็นสัน
เป็นแบบนี้ สันกับเป๋าสู้กันไปได้สักพัก ก็มีเสียงปริศนาเสียงหนึ่ง ตะโกนขึ้นมา
"หยุดเดี๋ยวนี้!" แค่ประโยคสั้นๆ ทำให้สั้นและเป๋าหยุดสู้กัน และหันไปมองเจ้าของเสียงที่
ตะโกน รวมถึงคนในโรงยิมต่างก็หันไปมองกัน คนที่พวกเขาหันไปมองกันนั้นมีรูปร่างใหญ่
สูงประมาณ 177 ใครดูใครก็รู้ทันที่ว่าเขาเป็นนักเพาะกายแน่ เพราะดูจากกล้ามกล้ามเขา
ใหญ่มากทำให้เห็นเขาแล้วดูมีพลังและน่าเกรงขามและเขาคนนั้นก็คือ… "พี่ไท"
กวางพูดขึ้นด้วยสีหน้าตกใจ "หัวหน้าไท" คนในโรงยิมพูดขึ้นพร้อมเพรียงกัน
พอสันและเป๋าเห็นไท ทั้งสองก็หยุดสู้และถอยห่างออกจากกัน
และไทก็ค่อยๆเดินมาหาทั้งสองและถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"มีเรื่องอะไรกัน ไหนเล่ามาให้ฉันฟังหน่อยสิ"
"ก็ไอ้ตี๋นรกนี้มันพูดท้าทายฉันนี้หว่าฉันจะยอมได้ไงละมันมาหยามฉันถึงที่นี้"
เป๋าพูดด้วยความโมโหและมีรอยแดงที่ริมฝีปากของเขาซึ่งช่ำและมีเลือดไหลออกมา
ไทหันมองที่สันและพูดขึ้น "มีรุ่นน้องที่โรงยิมฉันมาบอกว่านายอยากเจอฉัน นายมีธุระ
อะไรกับฉัน ถึงได้ท่อมาหาฉันถึงที่นี้" ไทพูดด้วยเสียงเรียบๆแข็งๆ เสียงของไทนั้น
เป็นเสียงทุมต่ำพอพูดออกมาทำให้ดูน่าเกรงข้ามมาก
"คนที่มีธุระนะไม่ใช้ฉันแต่เป็นเธอคนนี้ต่างหาก" สันพูดด้วยเสียบเรียบๆและหันหน้าไปทาง
กวางพร้อมกับจัดคอเสื้อปัดฝุ่นที่ตัวและไหล่แต่บนใบหน้าและร่างกายของสันไม่มีรอยช่ำ
และเลือดเลย เพราะสันหลบทุกหมัดของเป๋าและสวนกลับคืนใส่เป๋าได้หมด
"แล้วนายมาทำร้ายคนของฉันทำไมละ" ไทพูดขึ้นด้วยเสียงนิ่งๆเรียบๆและมองไปที่หน้า
ของสัน "ออ ก็แค่ทักทายเพื่อนเก่าปกติตอนเป็นเพื่อนกันก็ทักทายอย่างนี้อยู่แล้วนะ"
"ฉันไม่ใช้เพื่อนแกโว้ยไอ้ตี๋นรก" เป๋าเริ่มก้าวเท้าเดินเข้าไปหาสัน
"อ้าวเพื่อน พูดงี้ก็สวยสิ" สันทำหน้าและเสียงกวนบาทาใส่เป๋า
"ได้เสียสิไอ้ตี้นรกแกเข้ามาเลย" และทั้งสองก็เริ่มก้าวท้าวเข้าหากันพร้อมต่างคนต่าง
ง้างหมัด พร้อมจะสู้กันเต็มที่ แต่มิวายมีเสียงห้ามตะโกนขึ้นมาอีกอย่างกึ่งก้อง
"หยุด! พอได้แล้ว" ทำให้ทั้งสองที่ง้างหมัดอยู่หยุด
"ถ้าไม่หยุดฉันจะโยนแกสองคนออกไปฟัดกันข้างนอก"
พอไทพูดจบทั้งสองลดหมัดลงและถอยห่างออกมาจากกัน สันถอยออกมาและเดินไปหา
กวาง เขาเห็นกวางยืนนิ่งและตัวสันเหมือนกำลังกลัวอะไรสักอย่าง
"กวางเธอเป็นอะไรนะไม่สบายรึป่าว" สันถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงกวางมากแต่กวางก็
เงียบไม่ตอบอะไรสัน
"กวาง!" สันเรียกอีกรอบพร้อมเอามือไปจับที่ไหล่กวาง
"ห…หะ" กวางเริ่มตั้งสติได้จากการเห็นเหตุการณ์ไม่คาดฝันว่าจะเห็นสันในโหมดน่ากลัว
ก็พูดมาขึ้นมาทันที่ "มีอะไรหรอสัน" "เธอไม่สบายป่าว"
"ป่าวๆปกติดี" กวางพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มให้สัน ตอนที่สันกับกวางกำลังคุยกันอยู่นั้น
ไทก็ได้ไปคุยกับเป๋าเพื่อทำให้เขาสงบสติอารมณ์ลง หลังจากเขาจัดการกับเป๋าเสร็จเขาก็
เดินเขามาหากวางและสัน "ว่าไงกวางมีอะไรกับพี่รึป่าว" ไทพูดและยิ้มให้กวาง
"เออ…หนูมีเรื่องอยากจะขอให้พี่ช่วยน่ะคะ หนูไม่รู้ว่าถ้าพูดตอนนี้มันจะเหมาะรึป่าว
เพราะเพื่อนหนูเพิ่งต่อยเพื่อนพี่ไป" กวางพูดก้มหน้าด้วยท่าทางรู้สึกผิด
"เรื่องนี้ช่างมันเถอะมันจบไปแล้วน่ะ ปล่อยๆมันไป ไอ้เป๋ามันก็เป็นอย่างนี้แหละ
อารมณ์มันร้อน มีอะไรให้พี่ช่วยบอกมาเลย"
"เออ..ตอนนี้พี่ได้ตีกลองให้กับวงไหนอยู่รึป่าว" กวางถามด้วยน้ำเสียงกล้าๆ กลัว
"ไม่มีนี้ตอนนี้พี่ไม่ได้ตีให้วงไหนเลย พี่ลาวงการนี้มานานแล้ว ทำไมรึ?"
"เออ…คือว่าหนู…อยากจะชวนพี่มาเล่นให้กับวงหนูอะคะ ไม่รู้ว่าจะได้ไหม"
กวางพูดด้วยเสียงที่เบาแต่ได้ยิน สันที่ยืนอยู่ข้างหลังกวางก็ยืนนิ่งอยู่อย่างเงียบๆ
"วงของกวาง กวางเป็นนักร้องนำหรอ! น่าตกใจจริงๆ ผู้หญิงขี้อายอย่างเธอนี้นะ
จะกล้าร้องเพลงต่อหน้าผู้คนมากๆหนะ" ไทพูดขึ้นพร้อมด้วยเสียงหัวเราะที่ดังลั่นโรงยิม
ทำให้ผู้คนทั้งโรงยิมหันมามองที่ทั้งสามคนยืนกันอยู่ พอไทหัวเราะเสร็จก็หันมาเห็นว่า
กวางทำท่าทางเหมือนว่างอน "โอ้ๆ พี่ล้อเล่นหรอกน่า" ไทพูดยิ้มๆให้กับกวาง
"หนูไม่ใช้นักร้อง หนูเป็นแค่ผู้จัดการคะ"
กวางพูดด้วยเสียงดุเล็กน้อยพร้อมกับอาการน้อยใจที่ถูกไทแซวและหัวเราะ
"แล้วใครละที่เป็นนักร้องนำ" กวางไม่พูดอะไรแล้วชี้มือไปทางสันซึ่งยืนอยู่ข้างหลังกวาง
"ว่าไงคะพี่สนใจจะรวมวงกับพวกเราไหม?" กวางถามด้วยหน้าตาแอ๊บแบ๊ว
เพื่อให้ไทเห็นใจและเข้าร่วมวงด้วย
"แล้วนายจะตั้งวงไปทำไมละ" ไทถามพร้อมกับมองไปทางสัน
"ฉันก็แค่อยากพิสูจน์ว่าตัวเอง อยากให้ทุกคนที่เคยดูถูกฉันได้รู้ว่าฉันไม่ได้เป็นอย่างที่พวก
เขาเคยดูถูกฉันไว้ และอีกอย่างฉันรักในเสียงดนตรี ฉันมีความสุขเวลาได้ร้องได้คลุกคลี่
อยู่กับมัน" สันมองไปที่ไทและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
"ว่าไงแล้วนายยังรักในเสียงดนตรีอยู่รึป่าว ถ้านายยังรักและหลงใหลมันอยู่ ฉันอยากจะขอ
ให้นายมาเดินบนเส้นทางเดียวกับฉัน"
สันยื่นมือออกมาข้างหน้าเพื่อต้องการให้ไทแสดงว่าอยากจะร่วมทางไปกับสันจริงๆ
ผ่านไปสักพักใหญ่ไทก็ยังยืนนิ่งเงียบอยู่เหมือนเดิมเหมือนกับว่าไทกำลังคิดอะไรอยู่
แต่สันก็ยังคงไม่ชักมือกลับ ยังคงยื่นมือเพื่อรอคำตอบจากไทอยู่
"ฉันคิดได้แล้วแหละ ฉันว่าฉันยังคงหลงใหลในเสียงดนตรีอยู่ ฉันตัดมันไม่ขาดจริงๆ
ให้ฉันร่วมทางไปกับนายได้ไหม" ไทยื่นมือขวาออกมาจับมือขวาของสันที่ยื่นรออยู่
"เยี่ยมต้องอย่างนี้สิ" สันพูดขึ้นและยิ้ม
"ฉันชื่อไท พนาไท ศิริธารา ตั้งวันนี้ไปฉันจะเล่นกลองให้นาย"
"โอเคได้ ฉันชื่อ สัน สันโดษ รัตนฐากุล ยินดีที่ได้รู้จัก สันพูดด้วย
เสียงทีดีใจและมีความสุขที่ได้คนเดินร่วมทางเพิ่มอีกคน
"ไทว่าแต่นายพร้อมจะซ้อมวันไหน" สันถามไทขึ้นมาหลังจากแนะนำตัวกันเสร็จ
"วันเสาร์นี้ละกัน ฉันว่างวันนั้นพอดี"
"โอเคได้ แต่เดี่ยวฉันโทรนัดสถานที่ไปอีกที่หนึ่ง" สันพูดและหยิบโทรศัพท์ขึ้มาดูวันที่
และ ณ ตอนนี้วงของสันก็มีสมาชิกทั้งหมด 3 คนด้วยกัน แต่รู้สึกเขายังมีอีกเรื่องหนึ่งที่
พวกเขาเหมือนว่าจะลืมไปนะ
"เออ…ว่าแต่ ชื่อวง นายตั้งชื่อวงหรือยัง?" ไทถามขึ้น
"ชื่อวงนะหรอ ตั้งไว้แล้วแหละ ฉันจะขอประกาศชื่อวงของพวกเราไว้ ณ ที่นี้
ชื่อวงของพวกเราใครได้ยินก็ต้องหยุดและฟังเพลงของพวกเรา
เพราะพวกเราคือ Explosiveeeee"
การระเบิดครั้งใหญ่ของพวกเขากำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
ฮาๆๆๆ มันละสิ ตอนนี้เป็นตอนที่ได้สมาชิกของวงคนแรกละตอนต่อไป
สมาชิกคนที่สองจะเปิดตัวแล้วววววว ฝากติดตามด้วยนะค๊าบบบบบบบบ ขอบคุณครับบบ
By Yuren(betllove)
ณ มหาลัยแห่งหนึ่ง ในย่านตัวเมือง
"กวางทำไมฉันต้องมามหาลัยกับเธอด้วยละเนี้ย" สันบ่นขึ้นด้วยความไม่พอใจ
"เอาเถอะน่า นายเป็นหัวหน้าวงนะ นายก้อต้องมาตกลงเจรจาด้วยตัวเองสิ"
"แต่นี้มันเป็นหน้าของผู้จัดการวงอย่างเธอไม่ใช้หรอหะ"
ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังโต้เถียงกันอยู่นั้นได้มีเสียงชายปริศนาคนหนึ่งพูดขัดขึ้นมา
"เฮ้กวางมาทำอะไร วันนี้เธอไม่มีมีเรียนไม่ใช้หรอ" และเจ้าของเสียงนั้นก็คือแคน
มือกีตาร์วงเงินสะพัดแบนนั้นเอง "ว๊าย!พี่แคนมาได้ไงเนี้ย" กวางพูดด้วยท่าทางน้ำเสียง
และทาทางงตกใจ "ออ พี่เดินเล่นเพลินแล้วผ่านมาพอดีนะ เห็นกวางพี่เลยเดินเข้ามา
ทักทายตามภาษาคนรู้จักกันนะ กวางมาทำอะไรกวางยังไม่ตอบพี่เลย"
"ออ กวางมาทำรายงานนะค่ะ" กวางตอบพร้อมยิ้มให้กับแคน
"ออ แล้วคนที่ยืนข้างๆกวางนี้ใครหรอ" แคนถามกวางพร้อมกับหันหน้ามองไปที่สัน
"ออ เพื่อนกวางเองนะค่ะ เขาอย่างมาเที่ยวโรงเรียนนี้กวางเลยพาเดินเล่น"
"เพือนหรือหมาเนี้ยถงึต้องพามาเดินเล่น ฮาๆๆ" แคนหันหน้าไปพูดกับกวางและหัวเราะ
ขึ้นเสียงดัง ถึงแคนจะพูดยังนั้นกับสันแต่ดูเหมือนว่าสันก็ไม่มีอาการโมโหหรือโกรธแคน
เลย "เออ..ผมขออนุญาตแนะนำตัวเพื่อนของกวางรู้จักนะคับ ผมชื่อ สายธาร เทพพนา
หรือเรียกว่าแคนก็ได้คับ" แคนแนะนำตัวพร้อมยืนมือออกมาเพื่อต้องการจับมือกับสัน
"ออ ฉันชื่อสันโดษ รัตนฐากุล หรือเรียกว่าสันก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก"
และสันก็ยืนมืออกไปจับมือกับแคน ทั้งๆที่ในใจลึกๆสันไม่อยากจะรู้จักก็เถอะ
ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็ผมได้นะคับคุณสัน แคนพูดบอกสันด้วยหน้าที่ยิ้มแย้มเป็นกันเอง
ออ ขอบคุณมากคับแต่ผมคงไม่มีอะไรให้คุณช่วยหรอก สันพูดพร้อมกับยิ้มกวนๆกลับไป
ให้แคนแต่แคนก็ทำไม่ได้สนใจที่สันพูดและหันหน้าไปคุยกับกวางต่อ
ทำเหมือนกับว่าไมมีสันยืนอยู่ตรงนั้น แต่สันก็ไม่มีอาการแสดงท่าทางอารมณ์เสียใดๆ
แต่ในใจลึกๆแล้วเขาคงโมโหมาก แต่ที่เขาเก็บอาการไว้คงเพราะอยากจะรักษาหน้ากวาง
"ถ้าไม่มีอะไรกันแล้วพี่ขอตัวไปเรียนก่อนนะ ผมขอตัวไปก่อนนะคับคุณสัน"
แคนยิ้มและพูดพร้อมกับยกมือขึ้นโบกมือบายๆกวางและสัน
สันก็ยืนเฉยๆไม่สนใจที่แคนพูดและโบกมือ แต่แคนก็ไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจอะไร
"คะโชคดีค่ะพี่" กวางพูดและยกมือบายๆแคน
พอแคนเดินจากไปกวางก็หันหน้าไปหาสันและมองไปที่สันและพูดขึ้น
"สันทำไมแสดงท่าทีอย่างนั้นกับพี่เขาละ"
"ป่าวววววนี้ฉันก็แสดงท่าทางปกติ" สันพูดเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง
"เห็นอยู่ชัดๆว่านายไม่ชอบพี่เขา"
"เหอๆ ใช้ฉันไม่ชอบและมันก็คงไม่ชอบฉัน เจ้านั้นกวนทีนจริงไรจริง"
สันพูดด้วยเสียงนิ่งๆเรียบๆและออกแนวกวนๆ
"ช่างเหอะไปหาสมาชิกคนแรกของวงกันดีกว่า" กวางพูดแบบขอไปทีเถอะ
ระหว่างเดินหาสมาชิกกันอยู่นั้นผมเกิดอาการสงสัยขึ้นว่า
ทำไมกวางถึงไม่บอกความจริงกับแคนไปว่าพวกเรามาหานักดนตรีเข้าวงพวกเรา
ผมอดสงสัยไม่ได้ผมเลยถามกวางขึ้น "นี้กวางทำไมเธอถึงไม่บอกความจริง
คนที่ชื่อแคนนั้นไปละ ว่าเรามาตามหาสมาชิกเขาร่วมวงนะ"
"ไม่เอาอะไม่อยากให้พี่เขารู้ว่าเรากำลังจะเป็นคู่แข่งพี่เขา ในเส้นทางของดนตรีนะ ปล่อย
ให้พี่เขารู้เองดีกว่า" "อืม..แล้วตอนนี้เธอคบกับคนชื่อแคนนั้นอยู่หรอ
เห็นสนิทสนมกันจังเลย" "ออป่าวหรอไม่ได้คบ เราแค่ปลื้มพี่เขาน่ะ ไม่ได้ชอบไม่ได้รักซัก
หน่อย จะให้ไปคบได้ไงละ" "ออเข้าใจและ" คำพูดของกวางที่พูดว่าไม่ได้คบกับคนที่ชื่อ
แคนอะไรนั้นมันทำให้ผมรู้สึกโล่งใจแบบประหลาดๆยังไงก็ไม่รู้นะ
ผมคงคิดไปเองอีกแล้วละมั้งเนี้ย ฮาๆๆ
"สันที่นี้แหละที่เราจะมาตามหาสมาชิกคนแรกของวง" กวางหยุดเดินและพูดมาพร้อมกับชี้
นิ้วไปทาง ชมรม เพาะกาย "หะเราจะมาหาสมาชิกวงกันที่นี้หรอ คิดได้ไงนี้กวาง ฉันขอตัว
กลับก่อนละกัน เฮ้อ" ผมถอนหายใจยาวๆและกำลังจะเดินออกไปจากจุดที่ยืนกันอยู่ แต่ก็
เดินไปไม่ได้เหมือนมีอะไรมาดึงที่เสื้ออยู่
"อย่าพึ่งไปสิลองเขาไปดูก่อนแล้วถ้าไม่ถูกใจแล้วค่อยกลับ" กวางพูดขึ้นมาพร้อมกับจับ
ชายเสื้อผมและมองผมตาขวาง "เออก็ได้เข้าก็เข้า ผมต้องยอมตกลง อย่างไม่มีทางเลี่ยง
ได้เลย" แล้วในชมรมเพาะกายจะมีคนที่เล่นดนตรีเป็นหรอ" สันถามขึ้นด้วยความสงสัย
เพราะที่ที่ทั้งสองคนกำลังจะเข้าไปกันนั้นมันเป็นไปไม่ได้ว่าที่ ณ ที่แห่งนี้จะมีนักดนตรีสิง
สถิตอยู่ "สันที่ฉันจะแนะนำให้นายรู้จักน่ะ แต่ก่อนเคยเป็นมือกลองระดับพระกาฬ แต่เขา
ได้เลิกเล่นไปแล้ว เพราะเขามีปัญหากับวงที่เขาเคยเล่นให้อยู่เลยลาออกมาจากวงและ
เลิกยุ้งกับดนตรีอย่างเด็ดขาดมาเป็นเวลานานแล้ว" กวางพูดและสำรวจรอบๆโรงยิม
"กวางแต่ว่าเราไม่มีธุระอะไรกับคนที่หมดไฟในการเล่นดนตรีหรอกนะ" สันพูดขึ้นด้วย
ท่าทางไม่พอใจที่จะเอาคนที่หมดศรัทธาความเชื่อหมั้นในดนตรีกลับมาเล่นดนตรีอีกครั้ง
"เอาเถอะน่า พวกเรามาทำให้เขากลับมอยากเล่นดนตรีอีกครั้งกันเถอะนะ"
กวางพูดด้วยท่าทางน้ำเสียงและหน้าตาที่มุ่งมัน "เหอ ก็แล้วแต่เธอ เขาคนนั้นชื่ออะไรละ"
"ออ เขาคนนั้นชื่อ เออ..."กวางหยิบกระโน๊ตอะไรสักอย่างออกมจากกระเป๋าถือแล้วก็คลี่
กระดาษที่หยิบออกมาและอ่าน
"เขาชื่อ ไท ชื่อจริงชื่อ พนาไทย ศิริธารา" พอกวางอ่านเสร็จเขาก็เก็บกระดาษโน๊ตเอา
เข้าไปในกระเป๋าที่เดิม "ปะเราเข้าไปหาเขาข้างในโรงยิมกันเลยดีกว่า กวางพูดชวน
สันเขาไปหาไทในโรงยิม" ผมละสงสัยว่าหมอนั้นมันมีอะไรที่น่าสนใจ ถึงทำให้กวาง
ต้องการตัวขนาดนี้ และทั้งสองคนก็ได้เดินเข้ามาข้างในโรงยิม โรงยินนี้มีขนาดใหญ่
เต็มไปด้วยเครื่องออกกำลังกาย และพวกมีกล้ามท้อง กล้ามแขน
"แล้วเราจะตามหาตัวคนชื่อไทได้ที่ไหนละ" สันถามขึ้นและมองไปรอบๆโรงยิม
"ไม่รู้สิ แต่รู้ว่าเขาต้องอยู่ในนี้แน่" กวางตอบอย่างหมั้นใจ
"อืม..งั้นลองถามพวกคนในนี้ดูก็ได้" พอกวางพูดจบกวางก็เดินเขาไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่
วิดพื้นอยู่ตรงมุมลืบมุมหนึ่งของโรงยิม เขามีร่างกายใหญ่กำยำ ท่าทางแข็งแรง
มาก "เออ…ขอโทษนะคะ รู้จักคนที่ชื่อไทไหมคะ" ผู้ชายคนนั้นก็ยังวิดพื้นต่อไป
เขาทำเหมือนกับว่าไม่เห็นกวางยืนยุตรงนั้น
"ขอโทษนะคะรู้จักคนชื่อ ไท ไหมคะ" กวางถามด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น
จนทำให้คนทั้งโรงยิมหันมามองกวางเกือบทั้งหมด ถึงกวางจะถามด้วยเสียงที่ดังขึ้น
กว่าเดิน ชายคนนั้นก็ยังคงวิดพื้นและทำท่าทางไม่สนใจกวางเหมือนเดิม จึงเริ่มทำให้กวาง
หมดความอดทนพร้อมที่จะระเบิดความโกรธเต็มที่ กวางเตรียมที่จะอ้าปากตะโกนอย่างสุด
เสียง "นี้คุณ…" แต่ก็ยังไม่ทันจะอ้าปากพูดก็มีมือมือหนึ่งมาปิดปากเขาไว้
"ไม่เอาน่ากวางใจเย็นไว้ เดี่ยวฉันคุยเอง" และเจ้าของมือนั้นก็คือ “สัน” กวางพูดขึ้นด้วย
เสียงตกใจเพราะเธอนึกว่ามีพวกของนายคนที่วิดพื้นอยู่มาทำร้ายเธอซะอีก
"ว่าไง เป๋า นายจะก้มหน้าก้มหน้าก้มตาวิดพื้นไปอีกนานไหม เพื่อนเก่าเพื่อนแก่อุสาแวะ
มาทักทายนายนะ สนใจกันหน่อยสิ สันพูดขึ้นพร้อมทำสายตาเฉือดเฉือนพร้อมกะตุกยิ้มมุม
ปาก "สันนายรู้จักเขาด้วยหรอ" กวางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจ
"รู้จักสิ รู้จักดีด้วยแหละ" สันยังคงพูดด้วยและน้ำเสียงกวนๆและทำสายตาเชือดเชือน
ใส่เป๋า "ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นเพื่อนวะโทษที่" เป๋าเลิกวิดพื้น และลุกขึ้นยืนมาจองตากับ
สัน "นายจะมาตามหาไททำไม"
"นั้นมันก็ธุระของฉัน" สันตอบด้วยคำพูดกวนๆและท่าทางหาเรื่อง
"นายพูดอย่างนี้ก็สนุกนะเซ่" เป๋าพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกและทำหน้าตาโมโห
"ถ้าคิดว่าเจ๋งก็เข้ามา" สันพูดท้าเป๋าด้วยเสียงเรียบๆกวนๆ ในเมื่อเป๋าโดนหยามถึงถิ่น
ตัวเองมีรึจะยอม เป๋าวิ่งเข้าไปและง้างหมัดจะต่อยไปที่หน้าของสัน แต่ด้วยการตอบสนอง
ของปราสาทที่ทำให้สันสันหลบหมัดของเป๋าได้ทุกหมัดได้
คนในโรงยิมพยายามวิ่งเข้าไปห้ามทั้งสองคน
แต่ไม่สามารถมีใครเข้าไปห้ามทั้งสองคนได้เลย
และกวางก็ทำได้แต่ยืนอึ่ง เพราะไม่เคยเห็นสันเป็นแบบนี้มาก่อน ปกติสันเป็นคนใจเย็น
มาก ใครจะว่าจะด่าอะไรเขาก็ไม่เคยโกรธใครง่ายๆเลย นี้เป็นครั้งแรกที่กวางเห็นสัน
เป็นแบบนี้ สันกับเป๋าสู้กันไปได้สักพัก ก็มีเสียงปริศนาเสียงหนึ่ง ตะโกนขึ้นมา
"หยุดเดี๋ยวนี้!" แค่ประโยคสั้นๆ ทำให้สั้นและเป๋าหยุดสู้กัน และหันไปมองเจ้าของเสียงที่
ตะโกน รวมถึงคนในโรงยิมต่างก็หันไปมองกัน คนที่พวกเขาหันไปมองกันนั้นมีรูปร่างใหญ่
สูงประมาณ 177 ใครดูใครก็รู้ทันที่ว่าเขาเป็นนักเพาะกายแน่ เพราะดูจากกล้ามกล้ามเขา
ใหญ่มากทำให้เห็นเขาแล้วดูมีพลังและน่าเกรงขามและเขาคนนั้นก็คือ… "พี่ไท"
กวางพูดขึ้นด้วยสีหน้าตกใจ "หัวหน้าไท" คนในโรงยิมพูดขึ้นพร้อมเพรียงกัน
พอสันและเป๋าเห็นไท ทั้งสองก็หยุดสู้และถอยห่างออกจากกัน
และไทก็ค่อยๆเดินมาหาทั้งสองและถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"มีเรื่องอะไรกัน ไหนเล่ามาให้ฉันฟังหน่อยสิ"
"ก็ไอ้ตี๋นรกนี้มันพูดท้าทายฉันนี้หว่าฉันจะยอมได้ไงละมันมาหยามฉันถึงที่นี้"
เป๋าพูดด้วยความโมโหและมีรอยแดงที่ริมฝีปากของเขาซึ่งช่ำและมีเลือดไหลออกมา
ไทหันมองที่สันและพูดขึ้น "มีรุ่นน้องที่โรงยิมฉันมาบอกว่านายอยากเจอฉัน นายมีธุระ
อะไรกับฉัน ถึงได้ท่อมาหาฉันถึงที่นี้" ไทพูดด้วยเสียงเรียบๆแข็งๆ เสียงของไทนั้น
เป็นเสียงทุมต่ำพอพูดออกมาทำให้ดูน่าเกรงข้ามมาก
"คนที่มีธุระนะไม่ใช้ฉันแต่เป็นเธอคนนี้ต่างหาก" สันพูดด้วยเสียบเรียบๆและหันหน้าไปทาง
กวางพร้อมกับจัดคอเสื้อปัดฝุ่นที่ตัวและไหล่แต่บนใบหน้าและร่างกายของสันไม่มีรอยช่ำ
และเลือดเลย เพราะสันหลบทุกหมัดของเป๋าและสวนกลับคืนใส่เป๋าได้หมด
"แล้วนายมาทำร้ายคนของฉันทำไมละ" ไทพูดขึ้นด้วยเสียงนิ่งๆเรียบๆและมองไปที่หน้า
ของสัน "ออ ก็แค่ทักทายเพื่อนเก่าปกติตอนเป็นเพื่อนกันก็ทักทายอย่างนี้อยู่แล้วนะ"
"ฉันไม่ใช้เพื่อนแกโว้ยไอ้ตี๋นรก" เป๋าเริ่มก้าวเท้าเดินเข้าไปหาสัน
"อ้าวเพื่อน พูดงี้ก็สวยสิ" สันทำหน้าและเสียงกวนบาทาใส่เป๋า
"ได้เสียสิไอ้ตี้นรกแกเข้ามาเลย" และทั้งสองก็เริ่มก้าวท้าวเข้าหากันพร้อมต่างคนต่าง
ง้างหมัด พร้อมจะสู้กันเต็มที่ แต่มิวายมีเสียงห้ามตะโกนขึ้นมาอีกอย่างกึ่งก้อง
"หยุด! พอได้แล้ว" ทำให้ทั้งสองที่ง้างหมัดอยู่หยุด
"ถ้าไม่หยุดฉันจะโยนแกสองคนออกไปฟัดกันข้างนอก"
พอไทพูดจบทั้งสองลดหมัดลงและถอยห่างออกมาจากกัน สันถอยออกมาและเดินไปหา
กวาง เขาเห็นกวางยืนนิ่งและตัวสันเหมือนกำลังกลัวอะไรสักอย่าง
"กวางเธอเป็นอะไรนะไม่สบายรึป่าว" สันถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงกวางมากแต่กวางก็
เงียบไม่ตอบอะไรสัน
"กวาง!" สันเรียกอีกรอบพร้อมเอามือไปจับที่ไหล่กวาง
"ห…หะ" กวางเริ่มตั้งสติได้จากการเห็นเหตุการณ์ไม่คาดฝันว่าจะเห็นสันในโหมดน่ากลัว
ก็พูดมาขึ้นมาทันที่ "มีอะไรหรอสัน" "เธอไม่สบายป่าว"
"ป่าวๆปกติดี" กวางพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มให้สัน ตอนที่สันกับกวางกำลังคุยกันอยู่นั้น
ไทก็ได้ไปคุยกับเป๋าเพื่อทำให้เขาสงบสติอารมณ์ลง หลังจากเขาจัดการกับเป๋าเสร็จเขาก็
เดินเขามาหากวางและสัน "ว่าไงกวางมีอะไรกับพี่รึป่าว" ไทพูดและยิ้มให้กวาง
"เออ…หนูมีเรื่องอยากจะขอให้พี่ช่วยน่ะคะ หนูไม่รู้ว่าถ้าพูดตอนนี้มันจะเหมาะรึป่าว
เพราะเพื่อนหนูเพิ่งต่อยเพื่อนพี่ไป" กวางพูดก้มหน้าด้วยท่าทางรู้สึกผิด
"เรื่องนี้ช่างมันเถอะมันจบไปแล้วน่ะ ปล่อยๆมันไป ไอ้เป๋ามันก็เป็นอย่างนี้แหละ
อารมณ์มันร้อน มีอะไรให้พี่ช่วยบอกมาเลย"
"เออ..ตอนนี้พี่ได้ตีกลองให้กับวงไหนอยู่รึป่าว" กวางถามด้วยน้ำเสียงกล้าๆ กลัว
"ไม่มีนี้ตอนนี้พี่ไม่ได้ตีให้วงไหนเลย พี่ลาวงการนี้มานานแล้ว ทำไมรึ?"
"เออ…คือว่าหนู…อยากจะชวนพี่มาเล่นให้กับวงหนูอะคะ ไม่รู้ว่าจะได้ไหม"
กวางพูดด้วยเสียงที่เบาแต่ได้ยิน สันที่ยืนอยู่ข้างหลังกวางก็ยืนนิ่งอยู่อย่างเงียบๆ
"วงของกวาง กวางเป็นนักร้องนำหรอ! น่าตกใจจริงๆ ผู้หญิงขี้อายอย่างเธอนี้นะ
จะกล้าร้องเพลงต่อหน้าผู้คนมากๆหนะ" ไทพูดขึ้นพร้อมด้วยเสียงหัวเราะที่ดังลั่นโรงยิม
ทำให้ผู้คนทั้งโรงยิมหันมามองที่ทั้งสามคนยืนกันอยู่ พอไทหัวเราะเสร็จก็หันมาเห็นว่า
กวางทำท่าทางเหมือนว่างอน "โอ้ๆ พี่ล้อเล่นหรอกน่า" ไทพูดยิ้มๆให้กับกวาง
"หนูไม่ใช้นักร้อง หนูเป็นแค่ผู้จัดการคะ"
กวางพูดด้วยเสียงดุเล็กน้อยพร้อมกับอาการน้อยใจที่ถูกไทแซวและหัวเราะ
"แล้วใครละที่เป็นนักร้องนำ" กวางไม่พูดอะไรแล้วชี้มือไปทางสันซึ่งยืนอยู่ข้างหลังกวาง
"ว่าไงคะพี่สนใจจะรวมวงกับพวกเราไหม?" กวางถามด้วยหน้าตาแอ๊บแบ๊ว
เพื่อให้ไทเห็นใจและเข้าร่วมวงด้วย
"แล้วนายจะตั้งวงไปทำไมละ" ไทถามพร้อมกับมองไปทางสัน
"ฉันก็แค่อยากพิสูจน์ว่าตัวเอง อยากให้ทุกคนที่เคยดูถูกฉันได้รู้ว่าฉันไม่ได้เป็นอย่างที่พวก
เขาเคยดูถูกฉันไว้ และอีกอย่างฉันรักในเสียงดนตรี ฉันมีความสุขเวลาได้ร้องได้คลุกคลี่
อยู่กับมัน" สันมองไปที่ไทและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
"ว่าไงแล้วนายยังรักในเสียงดนตรีอยู่รึป่าว ถ้านายยังรักและหลงใหลมันอยู่ ฉันอยากจะขอ
ให้นายมาเดินบนเส้นทางเดียวกับฉัน"
สันยื่นมือออกมาข้างหน้าเพื่อต้องการให้ไทแสดงว่าอยากจะร่วมทางไปกับสันจริงๆ
ผ่านไปสักพักใหญ่ไทก็ยังยืนนิ่งเงียบอยู่เหมือนเดิมเหมือนกับว่าไทกำลังคิดอะไรอยู่
แต่สันก็ยังคงไม่ชักมือกลับ ยังคงยื่นมือเพื่อรอคำตอบจากไทอยู่
"ฉันคิดได้แล้วแหละ ฉันว่าฉันยังคงหลงใหลในเสียงดนตรีอยู่ ฉันตัดมันไม่ขาดจริงๆ
ให้ฉันร่วมทางไปกับนายได้ไหม" ไทยื่นมือขวาออกมาจับมือขวาของสันที่ยื่นรออยู่
"เยี่ยมต้องอย่างนี้สิ" สันพูดขึ้นและยิ้ม
"ฉันชื่อไท พนาไท ศิริธารา ตั้งวันนี้ไปฉันจะเล่นกลองให้นาย"
"โอเคได้ ฉันชื่อ สัน สันโดษ รัตนฐากุล ยินดีที่ได้รู้จัก สันพูดด้วย
เสียงทีดีใจและมีความสุขที่ได้คนเดินร่วมทางเพิ่มอีกคน
"ไทว่าแต่นายพร้อมจะซ้อมวันไหน" สันถามไทขึ้นมาหลังจากแนะนำตัวกันเสร็จ
"วันเสาร์นี้ละกัน ฉันว่างวันนั้นพอดี"
"โอเคได้ แต่เดี่ยวฉันโทรนัดสถานที่ไปอีกที่หนึ่ง" สันพูดและหยิบโทรศัพท์ขึ้มาดูวันที่
และ ณ ตอนนี้วงของสันก็มีสมาชิกทั้งหมด 3 คนด้วยกัน แต่รู้สึกเขายังมีอีกเรื่องหนึ่งที่
พวกเขาเหมือนว่าจะลืมไปนะ
"เออ…ว่าแต่ ชื่อวง นายตั้งชื่อวงหรือยัง?" ไทถามขึ้น
"ชื่อวงนะหรอ ตั้งไว้แล้วแหละ ฉันจะขอประกาศชื่อวงของพวกเราไว้ ณ ที่นี้
ชื่อวงของพวกเราใครได้ยินก็ต้องหยุดและฟังเพลงของพวกเรา
เพราะพวกเราคือ Explosiveeeee"
การระเบิดครั้งใหญ่ของพวกเขากำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
ฮาๆๆๆ มันละสิ ตอนนี้เป็นตอนที่ได้สมาชิกของวงคนแรกละตอนต่อไป
สมาชิกคนที่สองจะเปิดตัวแล้วววววว ฝากติดตามด้วยนะค๊าบบบบบบบบ ขอบคุณครับบบ
By Yuren(betllove)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ