EXPLOSIVE BAND ระเบิดฝันสู่ดาว
เขียนโดย Yuren
วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.17 น.
แก้ไขเมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556 23.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
5)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 5
ณ ห้องซ้อมดนตรีแห่งหนึ่งแถวชานเมือง เวลา 13.00 น ห้องซ้อมแห่งนี้มีชื่อว่า Music
Show เป็นสถานที่ ที่เอาไว้สำหรับซ้อมดนตรี เรียนกีตาร์ เรียนร้องเพลง และอื่นๆที่
เกี่ยวข้องกับดนตรี และตอนนี้สันและกวางก็อยู่ในห้องซ้อม ณ สถานที่แห่งนี้ ขนาดห้อง
กว้าง ยาว 15x15 มีกลองหนึ่ง กีตาร์สอง เบสหนึ่ง ไมค์สองตัว วันนี้คือการนัดรวมวงครั้ง
แรกของพวกเขา และเป็นวันแรกที่สันจะได้เวลาเริ่มจริงจังกับดนตรีจริงๆสักที่ ตอนนี้สัน
และกำลังจดจ่อตั้งใจกับการซ้อมมาก กวางนั่งกด บีบี ส่วนสันก็ เออ…คร่อก คร่อก
กวางค่อยๆลุกขึ้นจากมุมห้องแล้วเดินตรงที่สัน “สันนายจะมาซ้อมหรือจะมาหลับเนี้ย”
กวางตะโกนเรียกสันลั้นห้อง “หะ..หืม ไทมาแล้วหรอ” สันสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจและ
มองไปรอบห้อง “ยังหรอก ยังไม่เห็นวีแววเลย” “ทำไมไทมันมาช้าจังฟะ นี้ขนาดโทรไป
บอกล่วงหน้าเป็นชั่วโมงนะเนี้ย” สันบ่นให้กวางฟังแบบเซ็งๆ “เอาเถอะน่า สายนิดเดี่ยว
เองทำเป็นบ่นเป็นคนแก่ไปได้.” แกร๊ก แอ๊ด… เสียงประตูเปิด ทั้งสองคนค่อยๆหันไปมอง
ที่ประตู ก็ได้เห็นชายร่างใหญ่คนหนึ่งเดินเข้ามาและเขาคนนั้นก็คือไทนั้นเอง
“ถ้านายจะมาสายขนาดนี้นะ” สันพูดแซวไท “เหอๆ ฉันไปผิดที่น่ะ โทษที่” ไทยิ้มและพูด
ด้วยท่าทางเขินๆ“อายุปูนนี้แล้วยังจะหลงทิศอีกหรอ แล้วนายไปที่ไหนมาละ”. สันเคาะ
ไมค์และพูดถามไทผ่านไมค์ “ฉันไปลงผิดที่ Museum show นะ" ไทพูดและยักคิ้วให้
สันและกวาง “เออ…ไทฉันนัดนายที่ Music show นะ นายไปพิพิธพันธุ์ทำมะเขืออะไร
ถ้าหูนายจะเพี้ยนขนาดได้ยิน Music เป็น Museum ละก็ก่อนซ้อมพวกเราคงต้องมาจูน
ประสาทหูให้นายก่อนละนะ” สันพูดเชิงติดตลกทำให้กวางที่นั้งฟังอยู่แอบหัวเราะเบาๆ
“สันจะได้เวลาซ้อมกันหรือยัง หรือว่าจะรอให้หมดชั่วโมงห้องซ้อมก่อนหรอ” กวางพูด
กระตุ้นทั้งสองให้เริ่มซ้อม“ใช้ๆยัยกวางพูดถูก เพราะรอนายกว่าจะมาหมดเวลาซ้อมไป
หลายนาทีและมาเริ่มกันเลยดีกว่า ไทนายพร้อมยัง” “ฉันพร้อมตลอดแหละ”ไทพูดและ
เดินเอาของไปวางที่มุมห้อง” งั้นเข้าประจำตำแหน่งเลย" และทั้งสองก็เดินเข้าประจำ
ตำแหน่งแหน่งเครื่องดนตรีที่ตัวเองต้องเล่น ไทเดินไปที่กลองและนั้งลงเตรียมพร้อมที่จะตี
ส่วนสันเดินไปที่ไมค์และหยิบกีตาร์ไฟฟ้าขึ้นมาสะพายเตรียมพร้อม “สันพร้อมนะ” ไทพูด
และมองไปที่สัน สันพยักหน้าตอบ ก๊อก ก๊อก ก๊อก ไทเคาะไม้เพื่อให้จังหวะ โต๊ะ ตึม ตึม
โต๊ะ ตึม ตึม โต๊ะ ตึม ตึม โต๊ะ ตีม… เสียงกลองดังขึ้นและสักพักหนึ่งมันก้ค่อยๆเบาลงไป
จนเงียบ “เออ……สันแล้วนายจะเล่นเพลงอะไรละ” “แล้วแต่นายเลย นายตีเพลงอะไรได้ก็
ตีเลย เดี่ยวถ้าฉันจับจังหวะได้เดี่ยวร้องเองแหละ” สันตอบเหมือนว่าเป็นเรื่องง่ายๆ
“เหอๆๆๆ แล้วนายเล่นกีตาร์เพลงอะไรได้ละ” ไทพูดพร้อมหัวเราะแบบกุมกิม และหันหน้า
ไปถามสัน “ออ..เพลงที่เล่นได้นะหรอ ไม่มีอะ ฉันเล่นกีตาร์ไม่เป็น” สันหันหน้าไปทางไท
และยิ้มตอบแบบหน้ากวนๆ “หะ…นายเล่นไม่เป็น… แล้วนายจะสะพายทำมะเขืออะไรฟะ”
ไทตะโกนเสียงแหลมไปทางสัน “ฮาๆ เห็นมันเท่ดีเลยอยากลองสะพายนะ” สันพูดโดย
ไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลยสักนิด “แล้วกวางเล่นกีตาร์ไม่เป็นหรอ” ไทพูดด้วยน้ำเสียงร่นราน
“หนูเล่นไม่เป็นหรอกคะ หนูเป็นแค่ผู้จัดการมีหน้าที่ดูแลอย่างเดี่ยวคะ” กวางตอบไทและ
ยิ้มด้วยหน้าตาซื่อๆใสๆไม่รู้ร้อนรู้หนาวแบบสันอีกคนหนึ่ง ไทสตันไป 10 วิ ด้วยความ
แปลกของวงนี้ไม่มีอะไรเลยมีแต่มือกลองกับนักร้องแค่นั้นแต่กลับนัดรวมวงกันมาซ้อมยัง
กับมีสมาชิกครบแล้วอย่างงั้นแหละ เฮ้อเศร้า ถึงจะยังไงก็เถอะไทคงคิดได้แค่ในใจถึงเขา
จะพูดออกมาพวกสันคงจะไม่รู้สึกรู้สาอะไร “สันนายคิดยังไงมารวมวงซ้อมเนี้ย ทั้งที่
สมาชิกก็มีแค่นี้ เล่นไม่ได้หรอก” ไทพูดด้วยท่าทางเซ็งๆ
“ก็อย่างเล่นนะก็เลยเรียกรวมซ้อมวงนะ” สันพูดด้วยท่าทางไม่รู้ประสีประสาอะไรเลย
ทำให้ไทสตั๊นไปอีก 15 วิ ออ มันเป็นอย่างงี้นี้เอง ออ เหอๆๆ ฮาๆๆ “นี้ฉันฝันใช้ไหมเนี้ย
เหอๆๆ อยากตืนเร็วๆจังเหอๆๆ” หัวเราะแบบหลุดและพูดเพ้อไปเรื่อยเหมือนคนไม่ยอมรับ
ความจริงที่เกิดขึ้นอยู่ “สันพี่ไทบ้าไปแล้วเพราะนายนนั้นแหละ ฉันบอกแล้ว ว่าอย่าพึ่งรีบ
รวมซ้อม สมาชิกยังไม่ครบเลย” กวางหันไปบ่นใส่สันชุดใหญ่ “ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้ นึกว่า
มีมือกลองเจ๋งๆคนเดี่ยว ก็สามารถเล่นได้อะ” สันพุดแบบรู้ผิดและเอามือเกาหัว
“เล่นได้ก็เจ๋งไปแล้วมีมือกลองกับนกร้อง ขาดเบสกับกีตาร์เขาคงเรียกว่าวงละเนอะทำไป
ได้.” หลังจากไทพอตั้งสติกลับมาจากความฝันมาสู่ความจริงได้ เขาก็หันไปพูดกับสัน
“แล้วนายหามือเบสและมือกีตาร์ได้ยังละ ถ้ายังหาไม่ได้ฉันมีคนที่จะมาเสนอให้นาย
พิจารณานะ”ไทพูดพลางยิ้มให้กับสัน “ฉันยังหามือกีตาร์กับเบสไม่ได้นายตามตัวมิอกีตาร์
กับเบสนายมาเลยก็ได้เอามาเทสดูว่าจะเข้าตาฉันไหม” สันพูดและนำเอากีตาร์กลับไปว่าง
ทีเดิม “อืมได้เลยเด๋วฉันโทรเรียกเขามาที่นี้” ไทพูดและหยิบโทรศัพท์ออกมาจาก
กระเป๋า “อย่าบอกสถานที่ผิดแล้วไปหลงทิศอย่างนายซะละ” สันพูดแซวไทขึ้นมา
แล้วไทก็เดินออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกห้องซ้อมสักพักหนึ่งเขาก็เดินกลับเข้ามา ในห้องซ้อม “ว่าไงเขาตอบรับคำชวนของนายไหม” สันถามด้วยความรีบร้อน
“อืม เด๋วเขามา” ไทตอบอย่างยิ้มๆ "แล้วเขาคนนั้นเล่นกีตาร์เก่งไหม"สันถามต่อทันที่
“ถ้านายจะถามขนาดนี้นายไม่ต้องให้เขามาที่นี้หรอกโทรถามเลยดีกว่าไหม” กวางพูดขัด
ขึ้นมา “เออใช้ๆ งั้นฉันโทรถามเขาเลยดีกว่า” สันทำท่าหยิบโทรสับขึ้นมาทำท่าจะโทร
ปัง! เสียงถาดคุกกี้ฟาดลงไปที่หัวของสัน “ฉันพูดประชดหรอกย่ะ” “อุ๊ย…เจ็บนะยัยบ้าตี
มาได้ไง ฉันก็ทำประชดเธอเหมือนกันเฟ้ย” สันพูดและเอามือลูบตรงที่โดนกวางตี ไทที่ยืน
อยู่หัวเราะอยู่หลังห้องเบาๆกับการทะเลาะที่เหมือนเด็กทะเลาะกัน “ถ้าทั้งสองคนเป็นแฟน
กันคงจะเหมาะน่าดูนะว่าไหม” ไทพูดแซวทั้งสองคนขึ้นมาทำให้สันและกวางเกิดอาการ
หน้าแดงขึ้น “หึ ถ้าจะให้ฉันไปเป็นแฟนกับยัยโหดนี้ ฉันยอมโสดตายดีกว่าวะ” สันพูดหัน
หน้าไปทางกวางและทำหน้าตาเยาะเย้ยใส่ “ชิ ไอ้ตี๋ใจโหด ฉันก้ไม่มีวันเอานายเป็นแฟน
หรอกย่ะ ชิชิ” “เอาน่า เอาน่า ฉันแซวเล่น ทั้งสองคนใจเย็นๆลงก่อนนะ เดี่ยววงจะล่ม
ก่อนจะได้แจ้งเกิด” ไทเข้าเดินเข้ามาห้ามและแยกทั้งสองคนออกจากกันไปคนละฝัง
แกร๊ก แอ๊ดดดด เสียงประตูเข้ามา “เอาละมือกีตาร์ของวงเรามาแล้ว ได้เวลาเปิดตัวมือ
กีตาร์ของวงพวกเราแล้วเขาคนนั้นคือ….” “น้องคับหมดชั่วโมงแล้ว จะต่อไหมเอ๋ย”
“เออ………….ต่อครับต่อ” ไทอึ่งไปพักหนึ่งถึงจะพูดออกมา และพนักงานก็เดินออกไป
ทิ้งไว้แต่เสียงหัวเราะของสันและกวาง “ฮาๆๆๆๆๆๆ นี้หรอมือกีตาร์ของวงเรา เล่นซะลุ้นตัว
แข็งเลย แต่ตอนนี้ไม่ลุ้นและ อยากจะหัวเราะให้มากกว่า ฮาๆๆๆ” สันหัวเราะออกมาอย่าง
ดังลั่น “เอาน่าผิดพลาดเล็กน้อย” ไทพูดและเอามือลูบหัวแบบอายๆ “แต่นายกับกวางเลิก
หัวเลาะฉันสักเถอะ เพราะเดี๋ยวมันจะทำให้ฉันอับอายไปมากกว่านี้” “เออ เออ ได้ๆ โทษ
ที่มันน่าขำจริงๆ” สันพูดทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาจากการหัวเราะ ก๊อกๆ ทั้งห้องต่างหันไป
มองที่ประตูอีกครั้ง สันก็คิดว่าคร่าวนี้คงเป็นมือกีตาร์ที่ไทโทรตามมาจริงๆจึงเรียกให้เข้ามา
“เข้ามาเลยประตูไม่ได้โยกหัว”ทั้งห้องอึ่งไปแปปหนึ่ง “อะไรของนายประตูไม่ได้โยก
หัว“ไทถามด้วยท่าทางงงๆ ก็ ประตูไม่ได้ร็อคไง” สันทำมือเป็นมือชาวร๊อคพร้อมกับโยก
หัว “เออ…” ทั้งไทและกวางเอ๋ยออกมาพร้อมกันด้วยท่าทางอึ่งๆ ขณะที่ทั้งสองคนกำลัง
อึนรับประทานกับมุขของสันอยู่ ได้มีเสียงเปิดประตูและมีเสียงเล็กๆเสียงหนึ่งพูดขึ้นมา
“สวัสดีคับพี่ไท ผมมาแล้วโทษที่ที่มาช้า” และชายที่พูดขึ้นมานี้เขาคนมีรูปร่างผอม ผิวสี
แทน สูงประมาณ 165 หน้าตาออกแนว ลูกครึ่งไทย-ยุโรป ซึ่งเขาเป็นน้องของไท มาพอ
เลย สก๊อต “เดินเข้ามาข้างในสิ เดี่ยวฉันจะแนะนำเพื่อนของฉันให้รู้จัก” สก๊อตเดินเข้ามา
ในห้องและไปหยุดยืนอยู่ที่ข้างๆไท “สัน กวาง นี้ สก๊อต น้องชายของฉันเอง” “สวัสดีคับ
ผมสก๊อต อายุ 12 ขวบคับ” สก๊อตยกมือไหว้สันและกวาง สันและกวางก็ยกมือขึ้นรับไหว้
สันยืนมองสก๊อตอยู่พักหนึ่งจึงเดินเข้าไปหาไทและกระซิบข้างๆหู
“น้องเล่นกีตาร์ได้แน่นะ” “นายรอดูเองดีกว่านะ” ไทขยิบตาให้สัน
“เออขอถามอีกอย่างว่าแต่ไททำไมน้องนายกับนายหน้าตาไม่เหมือนนายเลยอะ” สันถาม
และมองสลับไปมาระหว่างหน้าของไท และสก๊อต “ออ เราสองคนเป็นพี่น้องคนละแม่กัน
นะ หลังจากที่แม่ฉันตายพ่อฉันก็แต่งงานใหม่แล้วก็มีสก๊อตออกมา”ไทพูดตอบสัน
“ออ เข้าใจแล้วมือเบสละเมื่อไรจะมา” “พอดีมือเบสที่ไม่ว่างมานะ เขาบอกว่าคงเป็น
โอกาสหน้านั้นแหละ” “อืมงั้นไม่เป็นไรถึงจะขาดมือเบสแต่พวกเราก็น่าจะซ้อมกันได้
มาพวกเราเขาประจำที่ของตัวเองเลย” ทั้งสามคนเดินเข้าไปเครื่องดนตรีของตัวเอง
”เออ สก๊อต นายเล่นเพลงอะไรได้บ้าง” สันถาม “เอาเพลงไทยหรือเพลงสกลละคับ”
"สากล" ไทแก้คำให้พูดให้สก๊อต “ฮาๆ น้องนายมุขเยอะเนอะ” สันพูดแซวสก๊อตพร้อมหัว
เราะนิดๆ “ไม่ใช้มุขหรอก น้องฉันยังพูดไม่ชัดบ้างคำนะ” ไทพูดบอกกับสัน
“งั้นเอาเพลงไทยลกัน เพราะสากลฉันร้องไม่เป็น งั้นเริ่มกันเลยดีกว่า มา” และพวก
เขาวง Explosive เริ่มเล่น เริ่มซ้อมกันจนไปถึงเวลา 15.00 น. ก็หมดชั่วโมงห้องซ้อม
พวกเขาจึงเดินออกมาข้างนอก music show ทุกคนเดินออกมาด้วยหน้าตายิ้มแย้มสดใส
“เป็นไงฝีมือการเล่นกีตาร์ของน้องฉันพอรับเข้าวงได้ไหม” ไทหันมองไปที่สันและถามขึ้น
“ก็โออยู่นะ ตกลงฉันรับน้องนายเข้าวงละกัน.” “เย้ ขอบคุณมากคับพี่สัง”
“สัน” สันพูดแก้ประโยคให้สก๊อตและทำหน้าเคืองๆ “เออ ว่าแต่นายไปเรียนร้องเพลงมา
จากไหนหรอเสียงดีใช้ได้เลยนะ” ไทถามขึ้นระหว่างกำลังเดินไปทีรถซึ่งจอดอยู่ข้างตึก
ของห้องซ้อม “ฉันไม่ได้เรียนหรอก ฉันฝึกเองนะ ดูตามยูทูป ทีวี สื่อต่างๆนะ เรียนรู้เอา
เองง่ายกว่า”สันตอบ “แล้วนายละไทไปเรียนตีกลองจากไหน” สันถามไทบ้าง “ฉันเรียน
มาจากพ่อฉันนะ พ่อฉันเคยเล่น back up ให้กับเวทีประกวดต่างๆมาก่อน” ไทตอบ
และเดินไปเปิดประตูรถ “แล้วนายละสก๊อตเรียนมาจากไหน” สันถามและและหันไปมอง
สก๊อต “ผมเรียนที่โรงเรียนสอนดนตรีที่The Quizemusicนะคับ” “เรียนมานานยัง” สัน
ถามต่อ “ออ สองปีแล้วคับ” “ถึงว่าทำไมถึงเล่นได้ขนาดนี้ทั้งที่อายุยังน้อยอยู่” สันพูด
พร้อมกับยิ้มกว้างให้สก๊อต “งั้นเราแยกย้ายกันตรงนี้แหละเดี๋ยวนัดซ้อมเมื่อไรเด่วฉันโทร
ไป” สันหันไปพูดกับไท “อืมโอเค เดี่ยวเจอกันฉันไปละ” พอพูดจบไทก็ขึ้นไปนั่งบนที่นั่ง
คนขับ ส่วนสก๊อตก็เดินขึ้นไปนั่งเบาะข้างๆไท รถของไทเป็นรถกระบะสี่ประตู
ยี้ห้อ Consumer RE4 รุ่น Skyhill สีขาว ซึ่งเป็นตัวใหม่ที่เพิ่งออกมาได้เมื่อไม่นานมา
นี้ “เออกวางแล้วเธอจะกลับยังไงหรอ” สันถามด้วยท่าทางเป็นห่วง แต่กวางกลับทำหน้า
เขม็นใส่เขา “นี้นายถามแปลกๆ แล้วตอนมาฉันมายังไงละ” “มากับฉันไง” สันพูดและชี้นิ้ว
มาที่ตัวเอง “แล้วนายจะให้ยังไงเล่าตาบ้า” กวางพูดด้วยน้ำเสียงเคืองๆ “ฮาๆๆ ฉันพูด
แกล้งเธอไปงั้นแหละ ไม่เห็นจะน่าเคืองเลย” สันพูดไปหัวเราะไป ทำให้กวางหันหน้าหนี
และเงียบไม่พูดอะไร พอสันเห็นอาการก็รู้ทันทีว่าอาการอย่างนี้คงจะงอนแน่นนอน
“ฮาๆๆขอโทษ เคืองจริงหรอเนี้ยขอโทษขอโทษ ปะเพื่อเป็นการไถ่โทษเดี่ยวพาไปกินไอ
ติม” พอสันพูดคำว่าจะพาไปเลี้ยงไอ้ติมจบท่างทางของกวางก็เปลี่ยนไปทันที่ทันใดจาก
หน้าบึ่งๆตึงๆกลายมาเป็นหันหน้ามายิ้มแฉ่งให้กับสัน “งั้นยกโทษให้ก็ได้” “หึหึ ผู้หญิงเนี้ย
เห็นแก่กินจริงๆ” สันรำพึงรำพัน “หะว่าไงนะนายสัน” กวางหันมามองค้นใส่สัน
“ออป่าวๆๆไปกันเถอะเดี่ยวฉันจะพาไปกินที่อร่อยๆ ขึ้นรถสิ” สันเดินไปที่รถและเปิดประตู
ขึ้นไปที่นั่งตรงที่นั่งคนขับ ส่วนกวางก็เดินขึ้นมานั้งเบาะข้างๆสัน รถของสันเป็นรถสปอร์ต
ยี้ห้อ Minai<มินาอิ> รุ่น M1 Limited Edition รถสปอตสีแดง สองประตู
เป็นรถญี่ปุ่นที่พ่อซื้อให้สันเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อสองปีที่แล้วซึ่งเป็นคันเดี่ยวใน
ประเทศ เพราะเป็นรุ่นที่ต้องสั่งทำพิเศษ “รัดเข็มนิรภัยด้วย”สันพูดและชี้ที่เข็มขัดนิรภัย
ข้างขามือของกวาง“ร้านอร่อยๆที่นายจะพาไปกินเนี้ยร้านไหน” “ร้านเดิม” สันตอบสั้นๆ
ได้ใจความด้วยท่าทางนิ่งๆ “แล้วท่านสันจะบอกดิฉันทำพระซากอะไรคะว่าจะพากินร้านอ
ร่อยๆ ดิฉันก็คิดว่าจะพาไปกินร้านใหม่ๆซะอีก” กวางพูดด้วยน้ำเสียประชดประชันคืนใส่ให้
กับสัน “ฮาๆๆ ฉันพูดให้เธอลุ้นไปงั้นแหละ”สันพูดและขับรถออกไปจากข้างตึกของห้อง
ซ้อมดนตรี สันขับรถมาได้ประมาณ 15 นาทีก็มาถึงร้าน Heart Ice Cream เป็นร้าน
ไอติมเล็กๆ ที่เอาไว้มานั้งชิว ชิว กินสบายๆ ไม่เร่งรีบ กวางกับสันเปิดประตูเดินลงมาจาก
รถและทั้งคู่ก็เดินตรงเข้าไปที่ร้าน กริ้ง กริ้ง เสียงกระดิ้งที่แขวนอยู่กับเปิดประตูร้านเวลามี
คนเดินเข้ามามันจะดังขึ้นเบาๆเพื่อแจ้งเตือนพนักงานที่ร้านให้ได้รู้ว่ามีลูกมาเพื่อจะได้
เตรียมตอนรับ “สวัสค่ะยินดีตอบรับสู่สวรรค์ของไอศกรีมHeart Ice Creamเชิญเลือกที่
นั่งได้เลยค่ะ” พนักงานตอนรับที่ยืนอยู่หน้าประตูร้านพูดขึ้น ทั้งสองคนจึงเดินไปนั้งโต๊ะที่
5 ซึ่งอยู่ติดผนังด้านซ้ายของร้าน ทั้งร้านนั้นมีคนนั่งกินไอติมอยู่ทั้งหมด 2 โต๊ะ โต๊ะ1 2
คน โต๊ะ8 3 คน ซึ่งในร้านมีโต๊ะทั้งหมด 12 ตัว เรียงกันเป็นแถวละสี่ตัว “เธอจะกินอะไร
สั่งเลย อย่าเยอะละ” สันพูดพร้อมกับยื่นเมนูมาให้กวาง “ง่าซะงั้น มีกำหนดด้วยหรอว่า
ห้ามสั่งเยอะ ตอนแรกไม่ได้บอกนี้น่าว่าห้ามสั่งเยอะ” กวางพูดด้วยหน้าตาน้อยใจ
“อย่าทำหน้าอย่างงั้นสิฉันล้อเล่นน่า” สันยิ้มและเอามือลูบหัวกวางและสักพักหนึ่งพนักงาน
ก็เดินมาที่โต๊ะของสันเพื่อมารับออเดอร์ไอศกรีมที่จะสั่ง “จะรับอะไรดีค่ะ" พนักงานของ
ร้านพูดขึ้น” กวางมองที่เมนูและชี้นิ้วไปรอบเมนูไอศกรีมแล้วจึงจะพูดขึ้น “เอาไอศครีม
ซ็อคโกแล็ต ลาวา มะนาว และอืม…”กวางพูดและยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะที่ริฝีปาก
“เออ..กวางแน่ใจนะว่าเธอกินหมดถ้ากินไม่หมดเธอจ่ายนะ” สันพูดและหยิบกระเป๋าออกฃ
มาจากกระเป๋ากางเกงเพื่อเช็คดูเงินทั้งหมดที่มีอยู่ในกระเป๋า
“หมดอยู่แล้วย่ะ” กวางพูดและแลบลิ้นให้สัน “งั้นขอทวนเมนูนะค่ะ ไอศกรีมลาวา ไอศครีม
ช็อคโกแล็ต ไอศกรีมวะนิลลา และก็ไอศกรีมนะนาว เมนูถูกต้องนะค่ะ กรุณารอสักครู่ค่ะ”
พอพนักงานพูดเสร็จก็เดินตรงเข้าไปที่เคาร์เตอร์และยืนออเดอร์ให้กับพนักงานที่รอรับออ
เดอร์นั้นอยู่ “เออ..กวาง” “นายไม่ต้องพูดฉันรู้ว่านายจะพูดอะไร” สันพูดยังไม่ทันจบกวาง
ก็พูดขัดขึ้นมาเหมือนกัยรู้ใจสันว่าสันจะพูดอะไร “ฉันรู้นะว่านายมีปัญหาอยากจะปรึกษาละ
สิ นายเลยชวนฉันมากินไอติมฉันรู้ทันนายหรอกน่า” กวางพูดพร้อมกับยิ้มทีมุมปากและยัก
คิ้วให้กับสัน “ทำเป็นรู้มากนะเธอ อืมใช้ฉันมีเรื่องจะปรึกษาหน่อยนะ” สันพูดด้วยท่าทาง
หง่อยๆ “ไอศครีมมาเสริฟแล้วคะ” พนักงานพูดและวางถ้วยไอศครีมลงบนกลางโต๊ะ
“ขอให้รับประทานให้อร่อยนะค่ะ” พนักงานพูดและยิ้มให้ทั้งสองคน ”ขอบคุณครับ” สัน
พูดตอบพนักงานเสริฟตามมารยาทและพนักงานก็เดินกลับที่เคาร์เตอร์ของร้าน
“เออสัน เรื่องที่นายจะปรึกษาฉันคงเป็นผู้หญิงละสิท่าทางเศร้าๆหง่อยๆอย่างนี้อะ” กวาง
พูดหน้านิ่งๆและหยิบถ้วยไอติมมาและตักเข้าใส่ปาก “บ้าหรอไม่ใช้เรื่องนั้นหรอก เวลานี้
มันไม่ใช้เวลามานั่งกลุ้มเรื่องนี้หรอกน่า” สันพูดและนั้งมองดูกวางกินไอติม
“อืม ออ..หรอ” กวางยังทำนิ่งเหมือนไม่สนใจที่สันพูดและยังคงตักไอติมเข้าใส่ปาก
ทำให้สันเริ่มโมโหขึ้นเล็กน้อย นี้กวางเธอตั้งใจฟังฉันไหมเนี้ย สันพูดด้วยน้ำเสียงดุๆพร้อม
ท่าทางโมโห “ฉันตั้งใจฟังอยู่ นายก็น่าจะรู้นี้ว่าเวลาฉันกินไอติมหน้าตาฉันมันจะอินไปกับ
รสชาติของไอติมด้วย” กวางยังพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆหน้าตานิ่งๆเหมือนเดิม
“โอเคฉันเข้าใจฉันผิดเอง” สันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “คุยก่อนแล้วค่อยกินดีกว่านะเดี่ยว
วันนี้มันจะคุยกันไม่รู้เรื่องเอา” สันพูดและยังมองไปที่กวางที่กำลังนั้งกินไอติมอย่าง
เอร็ดอร่อย “อะเครจ๊ะ มีไรพูดมาเลย” กวางพูดและเปลี่ยนอริยาบทจากนิ่งๆมาเป็นหน้าตา
ที่ยิ้มแย้มมากขึ้น “เอาเหอะช่างมันเถอะ” สันเอามือกุมขมับเพราะโรคอารมณ์ไม่คงที่ของ
กวางที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนจนทำให้สันต้องปวดหัวตึบๆ “ฮาๆๆ ฉันแกล้งนายเล่นหรอกน่าเห็น
นายเครียดๆ จะได้หายเครียดไง อิอิ” กวางพูดและยิ้มแบบใส่ซื่อใส่สันทำให้สันถึงกับ
ตาค้างให้กับความน่ารักสดใส่ของกวางของกวาง สันพยายามเรียกสติของตัวเองกลับมา
จากวังวนความน่ารักของกวาง “อะ อะ เออ คร่าวหลังอย่าล้อเล่นอย่างนี้อีกละ ถ้าคร่าว
หลังทำอีกฉันไม่พาเธอมาเลี้ยงไอติมแล้วน่ะ” “จ๊ะ” กวางพูดและทำหน้าตาใส่ซื่อทำให้สัน
ถึงกับหน้าแดง “เป็นอะไรรึป่าวสันหน้าแดงเชียวไม่สบายอีกแล้วหรอ” กวางพูดด้วย
ท่าทางเป็นห่วงและเอื้อมมือมาจับที่หัวของสัน
“มะ มะ ไม่เป็นไรหรอกคงไม่สบายนิดหน่อยนะสงสัยวาแอร์ที่นนี้มันจะแรงไปนะ” สันพูด
และยิ้มเหมือนไม่มีมีอะไรเกิดขึ้น “เฮ้อ!เราเป็นบ้าอะไรอีกเนี้ย หรือว่าเราจะแอบชอบยัยนี้
เข้าจริงซะแล้ว อย่าคิดเลยดีกว่าถ้าเกิดเราชอบยัยนี้เข้าไปจริงๆ และถ้ายัยกวางรู้
ความสนิทความสัมพันธ์ ของเราจะเปลี่ยนไปไหม” สันคิดในใจอย่างเศร้าๆโดยพยายาม
หักห้ามใจตัวเองไม่ให้สมองทำตามที่หัวใจตัวเองต้องการเพื่อรักษามิตรภาพให้คงอยู่
ยืนยาวอย่างนี้ตลอดไป แต่กลับเข้าหารู้ไม่ว่ากกวางก็แอบมีใจให้เข้าเช่นกัน
“สัน สัน สัน”กวางเรียกสดังขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับเขย่าๆแขนของสัน
“หะ…หะ มีอะไรหรอกวาง” สันตอบด้วยท่าทางตกใจ “เป็นอะไรรึป่าวเห็นช่วงนี้เวลาอยู่
กับฉันเหม่อบ่อยจัง มีปัญหากลุ่มใจอะไรบอกฉันมาได้นะ” กวางพูดด้วยหน้าตาท่าทางเป็น
ห่วง” “ออ ช่างมันเถอะ มาคุยเรื่องที่ฉันจะคุยกับเธอต่อดีกว่าน่ะ” สันรีบพูดเปลี่ยนเรื่อง
เพราะกลัวว่าตัวเองจะหลุดเผยความลับจริงๆที่อยู่ข้างในใจออกมา
“อืมพูดมาสิ มีเรื่องอะไรจะคุยละฉันรอฟังมานานและ” กวางพูดและเอามือเท้าค้างและเอา
อีกมือหนึ่งเขี่ยไอติมเล่น “ฉันคิดว่าจะปรึกษาเธอที่เป็นผู้จัดการวงมานานแหละ มันเป็น
เรื่องภายในวงนี้แหละ” “เธอมีปํญหากับใครในวงหรอสัน” กวางพูด
“ไม่ใช้เรื่องนั้นหรอกมันเป็นเรื่องแนวแนวดนตรีที่เราจะเล่นกันน่ะสิ ฉันไม่รู้ว่าแต่ละคนชอบ
แนวไหนกัน ถ้าเกิดฉันเป็นคนกำหนดแนวดนตรีเองมันจะยังไงยังไงอยู่นะ ฉันเลยเอามา
ถามเธอที่เป็นผู้จัดการวงดีกว่า” สันพูดและก้มหน้าเขียนแผ่นกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งบนโต๊ะ
ที่เขานั่ง พอเขียนเสร็จเขาจึงเลื่อนกระดาษโน๊ตไปไว้ข้างหน้าของกวาง “นี้กวางฉันเขียน
แนวดนตรีทั้งหมดลงในกระดาษแผ่นนี้แล้วให้เธอเลือก..” สันเงยหน้ามองกวางและค่อยๆ
พูดช้าลงเรื่อยๆ เพราะสิ่งที่สันเงยหน้ามาเห็นก็คือกวางนั้งกดโทรศัพท์แชทคุยกับคนอื่น
ระหว่างที่เขาพูดอยู่ “เออ..กวางเธอได้ฟังที่ฉันพูดไหม” สันมองหน้ากวางและพูดด้วยน้ำ
เสียงเศร้าๆ “ห…หะ พูดมาต่อสิฉันฟังอยู่” กวางเงยหหน้าจากโทรศัพท์พูดกับสันแล้วก้ม
หน้ากดโทรศัพท์ต่อ “อืมฉันเข้าใจ” สันพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและมีน้ำไหลออกมาจากตา
กวางยังคงนั้งกดโทรศัพท์โดยที่ไม่สังเกตเห็นว่าสันมีอาการผิดปกติของสัน สันลุกขึ้นยืน
หยิบเงินและคุณแจรถของตัวเองวางไว้บนโต๊ะ และเดินออกจากร้านโดยที่ไม่พูดบอกอะไร
กวางเลย พอกวางเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์ ก็เห็นแต่คุณแจของรถสันและเงินที่วางเอา
ไว้เท่านั้น แต่เขากลับไม่เห็นสันเลย กวางจึงลุกขึ้นด้วยท่าทางตกใจ และเดินไปที่เคาร์
เตอร์ของร้าน Heart Ice Cream และเดินเข้าไปถามพนักงาน
“เออ..ขอโทษนะคะไม่ทรายว่าเห็นผู้ชายที่มากับฉันไหม” กวางพูดด้วยท่าทางตกใจที่เงย
หน้าขึ้นมาแล้วไม่พบกับสัน “ออ ฉันเพิ่งเห็นเข้าเดินออกไปจากร้านเมื่อกี้เองน่ะคะท่าทาง
เข้าจะร้องไห้ด้วยน่ะคะ มีอะไรกันรึป่าวคะ” พนักงานทีเคาเตอร์พูดบอกและถามด้วยความ
เป็นห่วง “ออไม่มีอะไรหรอกคะ” กวางตอบปฏิดสธและรีบหยิบกระเป๋าเงินของตัวเองจาก
กระเป๋าถือ และหยิบแบงค์ห้าร้อยออกมาและวางลงบนเคาเตอร์ และรีบหันหลังเดินกลับ
ไปหยิบคุณแจและเงินของสันวางอยู่บนโต๊ะ หลังที่กวางเดินไปหยิบกุญแจรถที่โต๊ะ และ
กำลังจะเดินออกไปจากร้านนั้น มีเสียง เสียงหนึ่งพูดเรียกกวางขึ้นมา
“เออคุณลูกค้าคะเงิน..” “เออเงินทอนไม่เป็นไรคะ” พนักงานพูดยังไม่ทันจบกวางก็
พูดแทรกขึ้นมา “เออ…ไม่ใช้เงินทอนคะ เงินที่จ่ายมามันยังไม่พอน่ะค่ะ” พนักงานพูดด้วย
ท่าทางเขินๆที่ต้องพูดท่วงกวางที่ท่าทางเหมือนว่าตัวเองจ่ายเงินครบแล้ว
“เออ..”กวางนิ่งไปแปปหนึ่งด้วยท่าทางเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก “ขาดเท่าค่ะ” กวางจึง
เดินกลับไปที่เคาเตอร์และรีบถามพนักงาน “ขาดห้าบาทค่ะ” กวางรีบหยิบแบงค์ยี่สิบจาก
กระเป๋าวางลงบนเคาเตอร์และรีบเดินออกไปขึ้นรถที่สันทิ้งเอาไว้และขับออกไปทันที"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ