อมตะ

-

เขียนโดย ญินทร์

วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.47 น.

  2 บท
  1 วิจารณ์
  5,809 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มกราคม พ.ศ. 2556 15.49 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ตอนที่ 2 - ปฐมบท

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
     เบื้องหน้าห้องโถงใหญ่ที่ปูพื้นด้วยหินอ่อนขัดเป็นมันสีดำสนิท หากแต่เจือริ้วสีขาวแทรกประปราย มีร่างของบุรุษในชุดสูทโบราณสไตล์ยุโรปแท้สิบห้าคนกำลังคุกเข่ากระจายเป็นครึ่งวงกลามอย่างเป็นระเบียบไปรอบโถง ทุกร่างต่างก้มหน้าจนคางแทบชิดติดอก ปอยผมปรกลงจนราวกับไร้เครื่องหน้า หันเข้าหาสู่ส่วนลึกสุดของโถง
 
     บนยกพื้นขนาดใหญ่ บัลลังค์สีดำฝังโกเมนสีชาดช่างดูโดดเด่น แต่หาได้ตรึงสายตาเท่ากับร่างที่นั่งอยู่บนนั้นไม่ ผิวสีขาวซีดหากแต่ดูบริสุทธิ์ราวกับปุยหิมะขับให้ร่างบนบัลลังค์ดูแตกต่าง ริมฝีปากหยักสีเนื้อปนชมพูอ่อนแบบธรรมชาติทำให้รูปลักษณ์ที่ถือว่าทรงเสน่ห์ลึกลับที่สุดในเผ่าพันธุ์กลับยิ่งทวีความสำคัญแห่งเลือดเนื้ออย่างเห็นได้ชัด
 
     เมื่อรูปลักษณ์ที่คล้ายมนุษย์ที่สุด คือรูปลักษณ์แห่งสายเลือดแท้อันเข้มขลัง
 
     เพราะผู้ล่าที่แท้จริง เหยื่อไม่จำเป็นต้องรู้ตัว
 
     ต่อเมื่อถูกล่าแล้ว ก็ยังไม่ตระหนักถึงการคงอยู่ของผู้ล่า
 
     นัยน์ตาเรียวคมเฉียบไม่ฉายแววอื่นใดนอกจากความเย็นชาที่ยิ่งกว่าไร้ความรู้สึก คือความเหี้ยมโหด ไม่อำมหิต แต่ก็ใช่ว่ามีความปราณี สีเงินยวงที่เป็นสัญลักษณ์สุดท้ายแห่งทายาทของผู้ล่าดูราวกับจะดูดกลืนทุกสิ่งเข้าสู่ก้นบึ้งแห่งทะเลสาปน้ำแข็งอันแสนเหน็บหนาวจนแทบสำลัก
 
     ไม่แข็งกร้าว แต่สั่นคลอนห้วงจิตจนสั่นเกรง
 
     ภายใต้สภาวะนิ่งเงียบกลับมีความกดดันมหาศาลซ้อนทับอยู่จนทุกร่างหายใจแทบไม่ออก เวลาเนิ่่นนานราวกับวินาที ร่างบนบัลลังค์ก็เอื้อนเอ่ย
 
     "ข้าบอกให้พวกเจ้าจับตัวผู้ที่อยู่ในพันธะสัญญามาใช่หรือไม่"
 
     แววตาไม่แยแสสิ่งใดกับน้ำเสียงทุ้มต่ำแต่ไร้สิ้นซึ่งความอบอุ่นพาให้เหล่าคนที่กำลังคุกเข่าต่างสะท้านวาบ ทุกคนนิ่งเงียบ ผู้เป็นหัวหน้าจึงจำต้องเอ่ยปากอยา่งเด็ดเดี่ยวแต่แสนเกรง
 
     เพราะรู้ว่าจ้าวแห่งสายเลือดเกลียดความเยิ่นเย้อ คำตอบจึงกระชับ สั้น ง่าย ได้ใจความ
 
     "ใช่ขอรับ"
 
     "นี่คือผล?"
  
     "ใช่ขอรับ"
 
     หลังซอกใบหูที่เรียวกว่ามนุษย์ปกติอย่างเห็นได้ชัดปรากฏเม็ดเหงื่อไหลบางๆ ทั้งที่อากาศช่วงยามค่ำคืนแห่งฤดูสารทหนาวเข้าทรวง ผู้เป็นหัวหน้าใช้มือข้างที่กำลังวางทาบกับหน้าอกตัวเองขยุ้มอกเสื้อข้างซ้ายจนยับ
 
     เสียงหัวใจเต้นโครมคราม มือกำแน่นสั่นระริก
 
     หาใช่ลักษณาแห่งความโกรธ มันคือความหวาดกลัวอย่างที่สุด
 
     "นางหนีไปได้"
 
     ร่างสง่าบนบัลลังค์นิ่งไป หัวคิ้วเรียวเริ่มขมวดมุ่น เขาจำเป็นต้องได้ตัวผู้ที่ถูกกำหนดให้อยู่ในพันธะสัญญาอย่างเร็วที่สุด ก่อนคืนจันทร์เพ็ญที่กำลังจะถึงในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
 
     พันธะสัญญา.. เปรียบดังห่วงโซ่เส้นหนาคล้องเกี่ยวเผ่าพันธุ์ของเขาไว้อย่างรัดรึง
 
     ดังสัตว์เลี้ยงที่ถูกล่ามโซ๋ ไม่อาจเคลื่อนไหวอิสระตามแต่ใจปรารถนา
 
     เผ่าพันธุ์แห่งความมืดมีประวัติมาช้านานนับหมื่นนับแสนปี ชีวิตที่เป็นนิจนิรันดร์ถูกปิดกั้นด้วยราตรีกาล กระนั้นพลังต้องสาปก็ยังไหลเวียนจากเลือดในกายมนุษย์เข้าสู่คมเขี้ยวขาวกริบอยู่เสมอ..
 
     พันธะสัญญาจึงถูกกำหนดขึ้นมาและตรีตราด้วยคำสาป มนุษย์ไม่อาจล่วงรู้ถึงการดำรงอยู่แห่งเผ่าพันธุ์ความมืดหลายสิบเผ่าพันธุ์ หากเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งและถือเป็นจ้าวชีวิตของทุกเผ่ามักจะถือครองรูปร่างที่คล้ายมนุษย์มากที่สุด รูม่านตายาวรีเป็นขีดตั้ง และมีนัยน์ตาสีเงินยวงดุจแสงจันทร์ยามค่ำคืน..
 
     จ้าวชีวิตมักถูกเปลี่ยนมือไปเรื่อยๆ ตามแต่อายุขับของเผ่าพันธุ์ เมื่อคนหนึ่งตาย.. อีกคนก็จะเกิดขึ้นมาใหม่.. เวียนไปตามเผ่าพันธุ์ต่างๆ หากครานี้ถึงกาลชะตาเปลี่ยนผัน นิรันดรถูกครอบครองโดยจ้าวชีวิต
 
     จ้าวชีวิตไม่มีวันตาย.. เผ่าพันธุ์พิเศษแห่งความมืดกำชัยแห่งอำนาจชั่วนิจนิรันดร์!
 
     เหตุใดไม่อาจรู้ โชคชะตานำพาหรืออาจกลายเป็นความผิดพลาดที่บังเกิด อำนาจไม่ควรถูกผูกชาดอยู่ในมือคนๆ เดียวนานไป
 
     รุ่งโรจน์หรือล่มสลาย หนทางเป็นไปมีเพียงสอง
 
     หากพันธะสัญญานั้นไซร้ จะมีผลและปฏิกิริยาขึ้นมาก็ต่อเมื่อมีการเปลี่ยนมือจ้าวชีวิตจากอีกคนเป็นอีกคน หมายความว่า 'คน' จริงๆ คนหนึ่งจะถูกเลือกให้รับหน้าที่ล่าสังหารเผ่าพันธุ์แห่งความมืด และมีตระกูลมนุษย์เก่าแก่ที่ทำหน้าเชื่อมต่อเครือข่ายพันธะสัญญาเป็นผู้ให้ความดูและและเื้ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สังหาร
 
     เพราะช่วงเวลาเปลี่ยนมือคือความวุ่นวาย อำนาจถูกสับเปลี่ยน กลายเป็นช่องว่างเหมาะแก่การล่าสังหารเผ่าพันธุ์แห่งความมืดที่แข็งแกร่งอยู่เสมอที่สุด!
 
     หากต้องกการควบคุม คนธรรมดาที่ไร้พลังจะต่อกร หรือหากมีพลังก็ไร้จำนวนคนที่เพียงพอ เหตุไฉนเลยจะคุมได้ถ้าไม่เร่งฉวยคว้าโอกาสเอาไว้ตอนอีกฝ่ายเผยช่องโหว่!
 
     "ส่งคนไปตามล่า จับตัวมาให้ได้ ข้าไม่ต้องการให้นางตาย"
 
     หางเสียงที่ลงหนักช่างจับขั้วหัวใจยิ่งกว่าต้นประโยค การฆ่าไม่ถือเป็นสันดานดิบ หากแต่เป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ในชีวิตของพวกเขา ให้ยั้งมือ.. เพื่ออะไรกัน
 
     สงสัยได้ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากจะก้าวและทำไปตามบัญชาแห่งจ้าวชีวิต
 
     เพราะสายเลือดของทุกเผ่าพันธุ์ประสานพันธะกันจนแนบแน่น หากต่างเผ่ายังเกรงขาม นับประสาอะไรกับเผ่าพันธุ์เดียวกันเล่า..
 
     ชายที่กำลังคุกเข่าเบื้องหน้าสิบกว่าคนเอ่ยพร้อมกันจนเสียงก้องสะท้อนไปตามผนังหิน กังวานกลับไปกลับมาราวกับจะตอกย้ำความเป็นจริงและความภักดีที่ถวายสุดชีวิต
    
     "ได้ตามแต่ที่บัญชาขอรับ!"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา