The Magic Saintrios
เขียนโดย PigzyNaTT
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 23.03 น.
แก้ไขเมื่อ 17 มกราคม พ.ศ. 2556 23.14 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) ชัยชนะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้นในเซทแรก ผู้คนรอบๆคอร์ทเริ่มเข้ามาดู ทันทีที่เอเดรียลเริ่มเสิร์ฟ แดเนียลก็พึมพำบางอย่างทำนองว่า “ร้ายกาจ” ฝีมือของทั้งคู่สูสีกันพอสมควร ในเซทแรกเอเดรียลแพ้ไปสี่ต่อหก เซทที่สองชนะไปหกต่อสาม และเซทสุดท้ายชนะหกต่อสอง ทั้งแมทธิว แดเนียล ราเชลและเซมัสลงมาจากอัฒจันทร์
“เก่งไม่เบาเลยนี่เจ้าหนู” แดเนียลเอ่ยปากชม
“โธ่ ก็แค่ฟลุ๊คล่ะน่า จะชมอะไรกันมากมาย” สตีเฟ่นทำท่าไม่พอใจ
“ไม่เอาน่าสตีวี่ แพ้แล้วก็อย่าพาลซี่” แดเนียลปราม
“เฮอะ ก็แค่เด็กปีหนึ่ง ที่ชนะเพราะฉันเล่นไม่เต็มที่หรอก”
“ตอนแรกฉันก็คิดแบบนั้น ถึงให้นายเป็นคู่ซ้อมให้เอเดรียล และคิดว่านายจะทำให้เขาแสดงความสามารถได้เต็มที่เพื่อจะเอาชนะนาย ความจริงนายต่างหากที่เล่นจนเต็มความสามารถ แต่ก็ยังเอาชนะไม่ได้” สตีเฟ่นเริ่มแสดงสีหน้าขุ่นเคือง “เซทแรกเขายอมแพ้นายเพื่อดูเชิงต่างหาก” แมทธิวสาธยาย
“ฮึ ฉันไม่สนหรอก” พูดจบสตีเฟ่นก็เดินจากไป
“เป็นแบบนี้เสมอล่ะน๊าเจ้าสตีวี่เนี่ย” แดเนียลส่ายหัว
“โห ยอดไปเลยนะเพื่อน ไม่น่าเชื่อเลยว่านายจะเก่งขนาดนี้” เซมัสเอ่ยชมไม่ขาดปาก
“แหม หน้าตาก็หล่อแถมยังฝีมือดีอีกต่างหากนะเนี่ย” ราเชลพูดพลางเดินเข้าไปใกล้เอเดรียล
“ขอบคุณครับ” เอเดรียลรับคำชม “ผมขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ อีกเดี๋ยวต้องไปเรียนแล้ว”
“ตามสบายเถอะ” แมทธิวยิ้ม เอเดรียลกับเซมัสเดินไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อพร้อมกัน
“หล่อขรึมแบบนี้ล่ะสเป๊คฉันเลย” ราเชลยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ฉันก็เห็นเธอชอบไปซะหมดแหละราเชล” แดเนียลแซว
“อย่างน้อยก็เว้นเธอไว้คนหนึ่งแหละแดน” ราเชลค้อนขวับ
“นี่เธอจะเห็นฉันเป็นรุ่นพี่บ้างได้ไหมเนี่ยราเชล” แดเนียลถามยิ้มๆ
“ก็เธอมันทำตัวสมกับเป็นรุ่นพี่เสียเมื่อไหร่ล่ะ ฝีมือน่ะเจ๋งอยู่หรอก แต่เรื่องทะลึ่งทะเล้นเนี่ยยกให้เลย”
“สองคนนี่ก็ ทะเลาะกันได้ตลอดเวลาสิน่า” แมทธิวเอ่ยอย่างปลงๆ
“แหมนายไม่รู้อะไรแมท ถูกผู้หญิงสวยๆด่าเนี่ยกำไรออก” แดเนียลยักคิ้ว
“ปากเธอนี่นะ” ราเชลเงยหน้าขึ้นไปมองแดเนียล แล้วยิ้มหวาน “น่ารักถูกใจฉันซะจริงๆ” แดเนียลยิ้มแฉ่ง “แต่ขอโทษทีพอดีฉันชอบคนหล่อขรึมมากกว่า” พูดจบเธอก็สะบัดเรือนผมยาวสลวยเดินจากไป
“เป็นไง สมใจไหมล่ะ” แมทธิวหัวเราะร่า
“ผู้หญิงก็เงี้ย ปากไม่ตรงกับใจ” แดเนียลยังยิ้มเข้าข้างตัวเอง
เมื่อเอเดรียลเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เขากับเซมัสก็เดินเข้ามาหาแมทธิวอีกครั้ง
“เย็นนี้เราจะฝึกสอนเป็นทางการให้สมาชิกที่ยังเล่นไม่เป็น แล้วก็นัดพบสมาชิกใหม่ทุกคนด้วยนะอย่าลืมมาล่ะ เราจะประชุมเรื่องการฝึกผู้เล่นไว้แข่งขันด้วยกันด้วย” แมทธิวเอ่ย
“แข่งขัน....แข่งขันอะไรหรือครับ” เอเดรียลถาม
“ก็การแข่งขันกีฬาฤดูหนาวประจำโรงเรียนเราไง เราจะต้องเริ่มฝึกผู้เล่นตั้งแต่เปิดเทอมเลย เมื่อใกล้การแข่งคนที่มีฝีมือที่สุดแปดคนจะได้เป็นตัวจริง ยังไงก็อย่าลืมมาล่ะ” แดเนียลบอก
“ครับ” เอเดรียลและเซมัสตอบ
“งั้นผมสองคนขอตัวก่อนนะครับ” เซมัสบอกลาทั้งแมทธิวและแดเนียล
“โอเคแล้วเย็นนี้เจอกัน” แมทธิวยิ้ม
เอเดรียลและเซมัสออกมาจากชมรมเทนนิส และรีบขึ้นไปชั้นเรียนประวัติศาสตร์ทันที แต่ก็พบว่านักเรียนทั้งหมดเพิ่งจะเข้าห้องไป เมื่อเขาทั้งสองก้าวเข้าไปในห้อง ก็เจอสายตาไม่เป็นมิตรของปีเตอร์ ฟาคัสมองอยู่
“พวกคุณมาสายนะคุณออสบอร์นคุณฟิลคินสัน” ปีเตอร์มองอย่างไม่วางตา
“พวกผมไปสมัครเข้าชมรมเทนนิส และต้องทดสอบด้วยการลงแข่งนิดหน่อยครับอาจารย์” เอเดรียลตอบ
“นั่นไม่ใช่ข้ออ้างในการมาสาย นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกฉันจะให้อภัย แต่ถ้ามีครั้งต่อไปคงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“ขอบคุณครับ” เซมัสพึมพำตอบอย่างไม่เต็มใจนัก และทั้งสองคนก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้
“ทำไมเธอมาสายนักล่ะ” เทรเซียกระซิบถามเมื่อเอเดรียลกับเซมัสนั่งลง
“แข่งไปแมทช์นึงเลยยืดเยื้อไปหน่อยน่ะ” เอเดรียลเอียงหน้าไปกระซิบตอบ
“แต่ฝีมือเอดีน่ะเจ๋งมากเลยนะเอาชนะรุ่นพี่ปีสามโดยไม่เหนื่อยเลยสักนิด” เซมัสพูดมีแววคุยโว แต่เสียงดังไปเลยโดนปีเตอร์เขม่นเอาอีก
“ถ้าคุณยังมีเรื่องคุยไม่หมดก็เชิญออกไปคุยข้างนอกนะคุณฟิลคินสัน คุณแม็คลาเรน”
“หมดแล้วค่ะ เชิญอาจารย์สอนต่อเถอะค่ะ ขอโทษด้วยค่ะที่เสียมารยาท” ปีเตอร์มองเทรเซียครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็สอนต่อไปเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากหมดคาบวิชาประวัติศาสตร์แล้ว ทั้งหมดก็รีบออกมาจากห้องโดยไม่รอช้า เพราะรู้สึกว่าถ้าอยู่ในห้องนี้นานๆแล้วอาจจะเป็นบ้าขึ้นมาก็เป็นได้
“เธอโชคดีนะเซมัสที่เทรซี่รีบออกรับผิดไป ไม่งั้นล่ะเธอโดนไล่ออกจากห้องแน่ อาจารย์ยิ่งชอบเขม่นเธออยู่ด้วย” เอ็มม่าเอ่ย
“ใช่ๆ ฉันยังไม่ได้ขอบใจเธอเลยนะเทรซี่ ขอบใจมาก” เซมัสยิ้มเจื่อนๆแบบยอมรับผิด
“ช่างเถอะ ไม่เป็นไรหรอก ถึงเธอไม่ทำผิดฟาคัสก็จ้องเล่นงานเธออยู่แล้วล่ะ” เทรเซียกระซิบ
“มีเวลาพักชั่วโมงนึงก่อนจะเรียนศิลปะ เราจะไปไหนกันดี” จิมมี่ถาม
“ไปห้องนั่งเล่นรวมดีกว่า จะได้ไม่ต้องเดินไกล” เอเดรียลตอบ
ห้องนั่งเล่นของนักเรียนแต่ละชั้นปีนั้น แน่นอนว่าอยู่ที่หอนอน ซึ่งถ้าจะเดินจากตึกเรียนไปจะค่อนข้างเสียเวลา ดังนั้นจึงมีห้องนั่งเล่นรวมอยู่ในตึกเรียน อยู่ชั้นเดียวกับห้องประชุมใหญ่
“ดี งั้นไปกันเถอะ” เซมัสว่า
เมื่อมาถึงห้องนั่งเล่นรวม พวกเขาก็พบว่ามีเด็กชั้นปีอื่นๆอยู่ในห้องนั่งเล่นไม่กี่คน อาจเป็นเพราะว่าหลายคนกำลังเรียนกันอยู่ พวกเขาจึงนั่งลงที่โซฟาตัวหนึ่งที่นุ่มสบาย
“นี่ๆฉันได้ยินว่าที่นี่มีกฎว่า ผู้ชายห้ามขึ้นไปชั้นบนที่ผู้หญิงนอนใช่ไหม แล้วถ้ามีคนขึ้นไปจริงๆอาจารย์จะรู้ได้ยังไงล่ะ” เซมัสผู้ซึ่งอยากรู้อยากเห็นที่สุดเป็นคนเอ่ยปากถาม
“จริงสิ เธอไม่รู้ใช่ไหมล่ะว่าพอขึ้นบันไดไปที่ห้องนอนน่ะ จะมีประตูบานนึงอยู่ด้วย และคนที่จะผ่านประตูไปได้จะต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้น” เทรเซียตอบยิ้มๆ
“แล้วมันจะรู้ได้ยังไงล่ะ ประตูนั่นมันมีตาเรอะ” เซมัสถามกวนๆ
“ถ้าเธอคอยแต่ขัดอย่างนี้ เมื่อไหร่จะรู้เรื่องเล่า” เอ็มม่าเล่าต่อไม่สนใจสีหน้างงงวยของเซมัส “ที่ประตูจะมีช่องวางเหรียญ ก็เหรียญประจำตัวที่ได้ตอนมาสมัครเรียนไง” เมื่อเล่าถึงตอนนี้ทุกคนก็ก้มลงมองเหรียญที่ห้อยคออยู่ “เหรียญนั่นจะมีข้อมูลประวัติส่วนตัวของเราทั้งหมด และเมื่อวางเหรียญที่ช่องนั่นประตูก็จะรู้และเปิดให้นักเรียนหญิงเท่านั้นที่ผ่านเข้าไปได้”
“อ้าว แล้วถ้าเดินเข้าไปพร้อมกันล่ะจะรู้ได้ไง” เซมัสซักอีก
“ไม่มีทาง เพราะเมื่อเธอเดินเข้าไปคนนึงแล้ว ประตูจะปิดทันทีแล้วถึงจะให้คนต่อไปวางเหรียญได้ และนี่ก็เป็นการตรวจเช็คว่านักเรียนเข้ามาที่หอนอนเกินเวลารึเปล่า หรือว่ามีใครไม่เข้ามาบ้าง” เอ็มม่าสาธยาย
“ทุกคนก็มีเหรียญนี่แล้วทำไมถึงไม่เช็คผู้ชายด้วยล่ะ ว่าละเมิดกฎของโรงเรียนหรือเปล่า” จิมมี่ถามบ้าง
“ที่เช็คน่ะไม่ได้เช็คว่าละเมิดกฎหรือเปล่า แต่เช็คเพราะโรงเรียนเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนหญิงมากกว่านักเรียนชายน่ะสิ เพราะผู้ชายย่อมดูแลตัวเองและป้องกันตัวได้ดีกว่าผู้หญิง ถ้าหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นกับตัว จึงไม่จำเป็นต้องเช็คว่าผู้ชายเข้าหอนอนตรงเวลาหรือเปล่า แต่ถ้าโดนอาจารย์จับได้ก็อีกเรื่อง” แองเจล่าเป็นฝ่ายเล่าบ้าง
“แล้วเธอจะพยายามขึ้นไปหอนอนหญิงทำไมกันฮึเซมัส” เอ็มม่าจ้องเซมัสอย่างไม่วางตา
“ฉัน...ฉันก็แค่ถามดู” เซมัสยักไหล่
“เป็นอะไรหรือเปล่าเอเดรียล นายไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่เข้ามาแล้วนะ” จิมมี่ถาม
“เปล่าหรอก แค่ทึ่งในวิธีรักษาความปลอดภัยของนักเรียนหญิงที่พวกผู้หญิงเขาเล่ามาน่ะ” เอเดรียลตอบ มีรอยยิ้มระบายที่ใบหน้า
“และอีกอย่างนะห้องพักของอาจารย์ก็เหมือนกัน เธอจะไม่สามารถเข้าไปได้ถ้าอาจารย์ไม่อยู่ นอกเสียจากว่าเธอจะไปขโมยเหรียญที่ตัวอาจารย์มาได้”
“ร้ายกาจ” จิมมี่กับเซมัสพึมพำ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ