I'm not your playmate : กูไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงครับ!

8.4

เขียนโดย Master

วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 14.16 น.

  25 บท
  18 วิจารณ์
  58.94K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) 11 - Friend Secret

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
11
Friend Secret… ความลับของเขา... กับผม?
 
 
“ตามึงบวมเว่อร์อ่ะเก้า”
 
“เรื่องของกูเถอะ” ผมด่าไอ้ปายไป ตาบวมบ้าอะไรล่ะครับ ผมไม่ได้ร้องไห้ซะหน่อยเหอะ!!
 
“ตาแบบนี้ไม่ได้เรียกว่าบวมเว้ย มันเรียกว่าดำ คล้ำ มืด!”
 
“จะย้ำทำห่าอะไรครับ ไอ้หนัง”
 
พอมาตอนเช้า เพื่อนๆก็ตกใจกับการปรากฏตัวของผมเลย นอกจากหน้าตาที่ผมคิดว่ามันก็ไม่ได้หล่อน้อยไปกว่าเดิมตรงไหน แค่เพิ่มความคล้ำใต้ขอบตาไปนิดเดียวเอง ก็ไม่มีอะไรซะหน่อย... ตกใจเว่อร์เกินไปได้!!!
 
ตามปกติผมก็หล่ออยู่แล้ว หรือวันนี้หล่อกว่าเดิม?
 
“กูรู้นะว่าในใจมึงกำลังชมตัวเองอยู่”
 
“มึงรู้ได้ไงครับนนท์”
 
“หน้ามึงฟ้อง” ว่าแล้วนนท์และผองเพื่อนก็ระเบิดหัวเราะออกมา
 
“อย่าให้กูแกล้งพวกมึงได้บ้างเหอะ!” พอผมพูดจบ ทุกคนก็หัวเราะฮาออกมา ผมไม่ได้เล่นมุขนะ ไม่ได้เล่นอะไรทั้งนั้นแหละ ทำไม่ต้องหัวเราะด้วยฟ่ะ!
 
ผมมองหน้าพวกมันอย่างไม่เข้าใจ พวกมันก็ไม่สนใจ พากันหัวเราะต่อไป ผมเลยได้แต่ทำหน้าบึ้งอยู่คนเดียว
 
เอ้อ~ หัวเราะกันเข้าไป อย่าให้ถึงทีเอาคืนนะ! ชิ!
 
“หัวเราะไรกันแต่เช้าว่ะ”
 
“คิง...” ใครสักคนอุทานขึ้นมาเบาๆ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ผม แม้แต่เงยหน้าขึ้นไปมองมัน ผมยังไม่หันขึ้นไปมองเลย
 
ความรู้สึกบอกว่าคุณคิงมันส.ใส่เกือกเลือกมาหย่อนตัวลงนั่งด้านข้างผม รู้สึกต่อว่าโดนจ้องมองด้วยสายตาสองคู่ หนึ่งในนั้นมีคิงอย่างแน่นอน แต่อีกคู่...
 
“นนท์?”
 
“ฮะ?”
 
“อ้อ เปล้า มึงมองหน้ากูทำห่าอะไรว่ะ?” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ
 
“อ้อ~” มันลากคำว่าอ้อยาวมาก พร้อมมองผมด้วยสายตาเป็นห่วง “กูอยากกินขนมปังว่ะ ไปซื้อเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ”
 
“มึงก็ไปหาแดกเองสิครับ” บ้าป่ะเนี่ย แค่อยากแดกหนมปังเสือกจะให้ผมเดินไปเป็นเพื่อน มันทำเหมือนส่งสายตามาให้ “ตามึงเป็นไรว่ะ”
 
“เป็นสามียายมั้ง! พ่อง! กูบอกว่าไปเป็นเพื่อนก็ไปเป็นเพื่อนกูดิว่ะ”
 
“งั้นกูเกิดหลังมึง กูขอเป็นน้องแทนได้ป่ะ”
 
“แป้ก” ห่าจีน! ใครใช้ให้มึงพูดว่ะ “ไปกับห่านนท์ไป กูรำคาญพวกมึงสองคนจะตาย ไปไกลๆเลยมึง”
 
“ซ่าส์ใหญ่ๆ เมื่อวานใครแม่งหงอยว่ะ!”  นะตบหัวจีนเบาๆเหมือนหยอกล้อ แต่จีนหัวไปมองตาเขียว จนนะต้องนั่งนิ่ง
 
หงอย? ใครหงอยว่ะ? ผมส่งสายตาไปถามไอ้นนท์ที่น่าจะรู้เรื่องบ้าง แต่มันยักไหล่ปฏิเสธ ไม่รู้สินะ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะไม่รู้ ว่าแต่ผมไม่เห็นสังเกตเลยว่ามันหงอย
 
“พวกมึงอ่ะ ไปได้แล้วไป ไปทั้งสองตัวเลย นั่งจีบกันแต่เช้ารำคาญสายตาว่ะ ไปซื้อหนมแดกด้วยกันไป แต่อย่าแดกกันเองนะเว้ย!”
 
ปึง!!!
 
ก่อนที่ผมจะพูดอะไรออกไปเพื่อด่าไอ้หนังที่พูดคนข้างตัวผมที่เพิ่งหยิบหนังสืออกมาวางก็กระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรง ช่วงนี้มันชอบทำลายข้าวของจริงเว้ย เดี๋ยวโต๊ะหัก(?) ผมไม่ช่วยชดใช้นะเออ อารมณ์ยิ่งกว่าหญิงสาวมีประจำเดือนอีก!
 
แต่มันก็ทำแค่นั้น แล้วก้มลงอ่านหนังสือเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บรรยากาศบนโต๊ะที่ปกคลุมด้วยความเงียบก็กลับเข้าสู่บรรยากาศปกติ
 
“อย่าให้กูด่ามึงนะหนัง” ในที่สุดผมก็คิดว่าผมควรจะด่ามันต่อ พร้อมส่งสายตาโหดไปให้หนัง แต่เหมือนมันไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรเลย มันน่าโมโหนัก!!
 
ทีตอนไอ้คิงทำมึงนั่งเงียบเลยนะ ทีผมล่ะ ฮึ๋ย!!!
 
ใครๆแม่งก็ว่าผม ให้ผมเป็นตุ๊ด ชอบยกผมให้คนนู้นคนนี้ เห็นผมเป็นคนอย่างนั้นรึไงว่ะ!
 
เอะอะก็ให้คิง! เอะอะก็ให้นนท์! เดี๋ยวผมเป็นจริงแล้วพวกมันจะเสียใจ ชิชะ! โว้ยยยยย!!!
 
“เอาน่าๆ ไปเป็นเพื่อนกูแปบนึงๆ นะ?”
 
ผมมองสายตาของมัน มันชวนผมออกไปเพราะสาเหตุของเมื่อวานรึเปล่านะ? ที่เมื่อวานผมทะเลาะกับคิง?
 
มันคงเป็นห่วงผม ไม่อยากให้ผมทะเลาะกับคิง... ใช่มั้ย?
 
ถ้าเป็นอย่างนั้นน่ะนะ...
 
“เออๆ ไปก็ไป”
 
ผมทนสายตาของมันไม่ได้เลยลุกขึ้นตัดรำคาญ คิงจับข้อมือผมไว้แน่น ผมส่งสายตาเป็นเชิงคำถามว่าจับมือผมทำไม มันก็มองผมกลับด้วยสายตาอ่านยากแล้วปล่อยข้อมือผมให้เป็นอิสระ แล้วก้มหน้าลงไปอ่านหนังสือเหมือนเดิม
 
ผมไม่เข้าใจบ้างครั้งมันก็ทำเหมือนจะห่วงผม ไม่อยากให้ผมไปกับใคร เหมือนกลัวว่าผมจะเป็นอะไรไป ทำท่าทางเหมือนให้ความสำคัญ...
 
แต่ทำไม... ทั้งที่ความจริงแล้วผมก็ไม่ได้เป็นคนสำคัญในรูปแบบนั้น
 
แล้วผมเป็นอะไรล่ะ?
 
ผมเริ่มสับสนไม่เข้าใจกับความจริงข้อนี้ ผมไม่อยากจะสับสนอะไรแบบนี้อีกแล้ว สิ่งที่ผมเป็น... ฐานะที่ผมเป็นในตอนนี้คือเพื่อนสนิทของมันอย่างเดียวไม่ใช่เหรอ?
 
ไม่สิ... เป็นแค่เพื่อนต่างหากล่ะมั้ง?
 
เพราะคำว่าสนิท มันคงไม่ใช่... เพราะไม่อย่างนั้น เมื่อวานมันต้องฟังผมพูดบ้างแล้ว ไม่ใช่ฟังแต่ผู้หญิงคนนั้น
 
แต่ที่แปลกใจมากที่สุดคือตัวผมเองต่างหาก ทำไมผมต้องอยากให้มันให้ความสำคัญกับตัวเองมากขนาดนั้น? ผมต้องการอะไร แล้วผมกำลังหวังอะไรอยู่?
 
สิ่งที่ผมรู้สึกตอนนี้คืออะไร?
 
ผมไม่อยากเข้าใจ และไม่คิดจะเข้าใจเลยสักนิด... เพราะผมกลัว
 
กลัวที่จะต้องรู้ความจริงบางอย่างก็เป็นได้...
 
...มันเป็นอย่างนั้นสินะ
 
“พี่คิง~”
 
คิงหันไปมองตามเสียงเรียกแล้วส่งยิ้มให้คนมาใหม่ ทีพวกผมมาตอนเช้าทำหน้าตาซะนิ่ง พอเจอยัยเด็กคนนั้นแล้วยิ้มหน้าบานเลยนะ
 
ใช่สิ ก็พวกผมน่ะ สำคัญไม่เท่ายัยนั่นหรอก...
 
“คิง ยัยเด็กตอของมึงมาแล้ว พวกกูไปนะ เจอกันบนห้องล่ะ”
 
นนท์มันลากกึ่งจูงผมออกมาเลย ผมไม่รู้ว่าคิงมันเข้าใจความหมายที่นนท์ต้องการจะสื่อรึเปล่า แต่มันเน้นคำๆนั้นอย่างแรงก็คงต้องรู้สึกอะไรบ้างละนะ
 
มึงคงไม่ได้โง่ขนาดหรอกใช่มั้ยคิง?
 
“ตออะไรว่ะ” ผมแกล้งโง่ถามมัน
 
“อย่าแกล้งโง่ดิ ก็ตอแหลไง สาส~”
 
“ด่ากูอีก โอ๊ย~”
 
ผมแกล้งขึ้นเสียงสูง นนท์มันเอามือมายีๆหัวผม ยีไปยีมา ผมก็ยีมันกลับ แต่ด้วยกรรมพันธุ์ตัวเตี้ยที่ติดมาแต่ชาติปางก่อน ผมเลยยีหัวมันไม่ถึง น่าเจ็บใจนัก
 
ดีที่แถวนี้ไม่มีคน ไม่งั้นคนคงหาว่าพวกเราบ้าแน่เลย เหอๆ
 
“ช่วยไปหยอกล้อกันที่อื่นได้มั้ยว่ะ เกะกะลูกหูลูกตา!!” เสียงเข้มคุ้นหูดังขึ้นมาใกล้ๆ
 
คิงเดินมาพร้อมกับมิ้นท์ที่เกาะแขนคิงอย่างกับตุ๊กแก ความจริงแล้วน้องเขาตัวเตี้ยกว่าผมนิดนึง แต่พอยืนกับคิงแล้ว...
 
“เหมือนพ่อลูกเลยว่ะ”
 
ขอบคุณที่ช่วยพูดแทนผมว่ะ นนท์ มันให้ความรู้สึกแทนนั้นมาก... มาก...
 
“หะ?”
 
“อ้อ เปล่า กูหมายถึงคุณลุงภารโรงที่ไกล๊~ ไกลตรงนู้น ไม่ได้หมายถึงความสูงของมึงกับน้อง...มิ้งค์หรอก”
 
“มิ้นท์ค่ะ!”
 
“อ๋อ เหรอคะ? พี่นึกว่าน้องชื่อน้องมิ้งค์ซะอีก พอดีว่าพี่จำชื่อคนไม่เก่งอะค่ะ เพราะน้องไม่ค่อยสำคัญ... กับชีวิตพี่เท่าไหร่”
 
นนท์ทำท่าจีบปากจีบคอพูด ดูมันทำ น่าตลกจริงๆนะนั่น แต่ว่านะ...
 
กูให้สามดาวเลยว่ะนนท์... น้องเขาทำท่าจะกรี๊ดเลยนะนั่น
 
..สะใจเล็กๆเว้ยเฮ้ย
 
“ทำไมพี่นนท์ถึงพูดอย่างนั้นล่ะคะ?”
“พี่จะพูดดีกับคนสองพวกค่ะ พวกแรกพวกที่สนิทๆกัน ส่วนพวกที่สองเนี่ย พวกที่ไม่...กระแดะ ตอแหล... ค่ะ” นนท์พูดไปยิ้มไป ผมก็แอบยิ้มมุมปากเหมือนกัน
 
“พี่นนท์หาว่ามิ้นท์ตอแหลเหรอคะ?”
 
“พี่หมายความว่าพี่ยังไม่สนิทกับน้องมิ้นท์ค่ะ ไม่ได้ว่าว่าน้องมิ้นท์ กระแดะ... ตอแหล!!”
 
“พี่นนท์!!”
 
“อ๋อ อีกอย่างนะค่ะ พี่ไม่เคยนับญาติกะน้องอ่ะ อย่าเรียกพี่ว่าพี่นะ จะเรียกห้วนๆ หรืออะไรก็แล้วแต่เถอะ พี่ไม่ถือ แต่ไม่ชอบให้เรียกว่าพี่... เราไม่ได้รู้จัก หรือสนิทกันมากขนาดนั้นค่ะ!”
 
“นนท์!!”
 
“อย่าด่า อย่าว่า อย่าโมโหใส่กู คิง ดูแลแฟนมึงดีๆเถอะ กูว่ามึงก็เรียนเก่งนะ อย่าเป็นความเพราะโดนใครสวมเขาล่ะ หึ!!” นนท์ มึงโคตรใจกล้าอ่ะ ไม่เคยกลัวไอ้คิงต่อยเลย “เอาเป็นว่า กูไปซื้อหนมแดกนะ หิวมากแล้ว กูไปนะ ไปเก้า ไปๆๆ ไม่อยากคุยกับว่าที่ควายแถวนี้”
 
โอ๊ะๆๆ โดนไปหลายดอกแล้วนะเนี่ย ฮ่ะๆ
 
ผมแอบยิ้มขำ ผมไม่อยากจะหัวเราะหรอกนะ แค่เห็นหน้าน้องเขาก็อยากฮาแล้ว แต่ผมไม่อยากหัวเราะต่อหน้าไอ้คิงหรอก สงสารมัน...
 
หรือไม่กล้า???
 
“มึงไม่หัวเราะ?”
 
พอเดินออกมาจากตรงนั้นได้ไกลพอสมควร แล้วคิงกับยัยเด็กคนนั้นก็เดินไปอีกทางแล้ว นนท์ก็ถามผม ยักคิ้วข้างเดียวนิดๆ เหมือนจะกวน แต่ก็ดูเป็นท่าเท่ห์เหมาะสมกับมันดี จนผมแอบยิ้มออกมานิดนึงกับท่าของมัน
 
“ไม่มีอารมณ์ว่ะ”
 
“แต่มึงแอบยิ้มนะ กูเห็น” ผมแกล้งเอานิ้วมาจิ้มมุมปากผม “หัวเราะได้แล้ว กูไม่ว่าหรอก”
 
“ฮ่าๆ” ผมหัวเราะออกมาลั่น ความจริงแล้วผมก็ทั้งสะใจ แต่ก็แอบสงสารน้องเขานะ
 
แต่ช่างเถอะ ขอผมฮาเถอะ ไม่ไหวจริงๆ
 
“ม.. มึง ฮ่ะๆ สุดยอดว่ะนนท์ ฮ่าๆ กูให้สิบดาวเลย”
 
“อื้อ” มันส่งยิ้มมาให้ผม
 
ทุกๆครั้งที่มันส่งยิ้มมาให้ผมจะเป็นรอยยิ้มที่แสนดีเสมอ แต่วันนี้รอยยิ้มมันแปลกไป...
 
“วันนี้มึงเป็นไรป่ะ”
 
“ไม่รู้ดิ” มันบอกพร้อมเงยหน้ามองท้องฟ้า “กูไม่ค่อยสบายมั้ง”
 
“หา? เป็นไรมากป่ะ?”“เป็นไข้ไม่เท่าไหร่แต่กำลังหนักใจว่ะ”
 
“หนักใจ?”
 
“กูแอบรักคนอยู่คนนึง คนๆนั้นไม่เคยรู้ และเข้าใจว่ากูคือเพื่อนมาตลอด”
 
“เหยด! ใครว่ะ?”
 
“กูบอกมึงไม่ได้หรอก” มันมองผมเหมือนกำลังสื่อความหมายอะไรมาให้
 
“ไมว่ะ?”
 
“มันเป็นความลับเว้ย ความลับขั้นสุดยอด”
 
“แล้วมึงบอกเขาไปยัง?”
 
“ยัง” มันเงียบ “กูไม่กล้าบอกว่ะ แล้วมึงอย่าพูดกับใครนะ”
 
“...”
 
“ให้มันเป็นความลับของกูกับมึง... ได้มั้ย?”
 
“เออๆ กูไม่บอกใครหรอก มึงว่ากูชอบเอาความลับความรักของใครไปป่าวประกาศรึไง”
 
“เปล่า แต่เพราะกูไว้ใจมึงไง กูเลยบอก”
 
“เออ ขอบใจว่ะ”
 
“ไม่เป็นไร” มันยิ้ม “เพราะมึงเป็นเพื่อนที่กูสนิทมากที่สุดกูเลยบอก... ถึงมึงจะไม่ได้สนิทกับกูมากที่สุดก็เถอะ”
 
“แต่ว่าต่อไปนี้ กูจะสนิทกับมึงมากที่สุดแล้วว่ะ”
 
“...?” มันส่งคำถามมาทางสายตา
 
“เพราะเพื่อนสนิทกูไปมีแฟนแล้วอ่ะดิ”
 
“เออ งั้นกูกับมึงก็เป็นคนที่สนิทกันที่สุดแล้วอ่ะดิ”
 
“เอออ่ะดิ”
 
มันยิ้มกว้าง แต่ผมกลับส่งยิ้มบางไปให้ มันเป็นเพื่อนที่ดีมาก ดีสุดๆ
 
แต่ทำไมกันนะ? ผมไม่เข้าใจ...
 
ที่ผมพูดแบบนั้นออกไป เป็นเพราะผมน้อยใจใคร
 
หรือผมคิดแบบนั้นจริงๆ?
 
ผมไม่อยากจะคิดต่อจากนั้น ผมหลบสายตาที่ส่งมาของนนท์ มันมองผม แล้วก็ส่ายหน้าเล็กน้อย ผมไม่ตอบ ไม่ได้พูดอะไรอีก
 
มันชวนผมไปซื้อขนมตามที่มันใช้ข้ออ้างแบบนี้เดินออกจากกลุ่มมาจริงๆ จนผมแอบคิดว่ามันหิวจริง ไม่ได้ตั้งใจชวนผมออกมาเพราะเหตุผลอื่น
 
หรือผมจะคิดไปเอง? ช่วงนี้คิดอะไรไปเองเยอะแยะเลยแฮะ
 
...ที่เป็นแบบนี้ คงเพราะอ่านหนังสือมากเกินไปมั้ง?
 
“บางทีกูก็คิดว่ามึงน่ากลัวอ่ะนนท์”
 
คิดไปคิดมา ผมก็ได้พูดในสิ่งที่ตัวเองเคยคิดไว้เมื่อนานมากแล้ว เคยจะบอกมันอยู่ หรือว่าเคยบอกมันแล้วไม่รู้ แต่ผมอยากจะพูดออกมา
 
“ทำไมว่ะ?”
 
“เหมือนมึงรู้สิ่งที่กูคิดทุกอย่าง ทั้งเรื่องที่กูคิด และก็เรื่องที่กูคิดแต่ไม่รู้ตัว”
 
“มึงนั่นแหละที่กำลังปฏิเสธตัวเอง...”
 
“...”
 
“...แต่ก็ดีแล้วแหละ เพราะเมื่อไหร่ที่มึงไม่ได้ปฏิเสธตัวเอง กูเนี่ยแหละ จะเป็นคนที่ต้องจากไป”
 
“มึงหมายความว่าไงว่ะ”
 
“เดี๋ยวมึงก็รู้ ก็นั่นมันตัวมึงเองนี่นา”
 
“เออเนอะ”
 
ใช่... บางครั้งมันก็น่ากลัวมาก
 
เหมือนมันมองทะลุทุกอย่าง ทั้งความคิด คำพูด และสิ่งที่ผมพยายามปกปิดไว้ทั้งหมด
 
“ตกลงว่า ยังไงกูก็คิดว่ามึงน่ากลัวที่สุดอยู่ดี” มันหัวเราะ ไม่ตอบ แต่เดินมาตบบ่าผม แล้วพวกผมก็เดินกันขึ้นไปยังห้องเรียน
 
“ก็ดีกว่าคิดว่ากูน่ารักล่ะกัน ฮ่าๆ”
 
ตลก... ตลกกันเข้าไป กูไม่ใช่ตัวตลกขำขันของมึงนะเฮ้ย!!
 
จำไว้นะ ผมจะไม่พูดอะไรอีกแล้ววววววว!!!
 
 
 
:: TALK ::
 
 
ช่วงนี้อัพเร็วมั้ย? อัพเร็วแล้วขอเม้นท์นะ (ฮา)
ใกล้สอบทีไร ไรท์อัพยาว ความคิดแล่นเร็วเว่อร์ หรือไรท์เครียดกับการสอบ??
 
เด็กๆที่ดีไม่ควรเอาอย่างนะฮะ เพราะไม่งั้นเข้าห้องสอบไปจะมีแต่ชื่อตัวละครไปเข้าห้องสอบ ฮ่าๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา