I'm not your playmate : กูไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงครับ!

8.4

เขียนโดย Master

วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 14.16 น.

  25 บท
  18 วิจารณ์
  58.92K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) Special Part I [Jean x Na] : Together…

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

คำเตือนก่อนอ่านตอนต่อไป...

1. เนื้อเรื่องนี้ไม่ใช่เนื้อเรื่องหลัก อย่าเอามาปนกันนะค่ะ

2. เนื้อเรื่องนี้ ผู้แต่งแอบจินตนาการขึ้นมาเล็กๆน้อยๆ

3. ด้วยเหตุผลขั้นต้นทั้งหมด ตอนนี้เลยได้ชื่อว่าเป็นตอนพิเศษ Special Part ค่ะ

4. และด้วยเหตุผลที่อ้างมาทั้งหมด ในเนื้อเรื่องจริง คู่นี้ "อาจจะ" ไม่ได้คู่กันนะค่ะ

 

คำแนะนำ

... อ่านจบ เม้นท์สักนิด จิตแจ่มใส 5555 ...

 

 

 

 

Special Other Part 1

Jean x Na : Together… เคียงข้าง

 

 

เรื่องมันเกิดขึ้นตอนหลังเลิกเรียนวันหนึ่ง เป็นเหตุการณ์ที่ผมจะจำไว้ในใจ ไม่ว่านานเท่าไหร่ก็คงไม่ลืม เพราะมันทำให้ผม... แปลกไป

 

 

“เชี่ยนะ หยุด หยุดตรงนั้นเลยมึง”

 

“หา?”

 

เสียงเรียกของจีน เพื่อนสนิทที่สนิทที่สุดในกลุ่มตะโกนเรียกมาอย่างไกล ดีที่มันเรียกเสียงดังมาก ไม่งั้นผมคงขึ้นขี่มอเตอร์ไซต์บิดหนีออกไปแล้ว ไม่มายืนรออยู่ตรงนี้หรอก

 

“มีไรว่ะ?” ผมถามเมื่อมันวิ่งมาถึง

 

“ไปเที่ยวกัน”

 

“...?”

 

“ไปเที่ยวกันไง ควายเอ๊ย!”

 

อ่าว... มันด่าผมทำไมอ่ะครับ ด่าผมเฉยเลย ผมทำอะไรผิดเหรอ?

 

ขณะที่ผมยังยืนมึนอยู่ ก็โดนมันเรียกให้ขึ้นรถ ยังไม่ทันรู้เรื่องอะไรเลย ไม่รู้ด้วยว่าเมื่อไหร่ที่มันแย่งกุญแจไปจากมือผม สวมหมวกกันน็อคเรียบร้อย สตาร์ทเครื่องรอผมเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้ผมเลยยืนจ้องประท้วงมัน รถผมนะ ทำไมต้องให้มันขับด้วยล่ะ?

 

ก็ผมจะขี่เองอ่า... แต่เนื่องจากสภาพสายตาดุจดั่งน้ำแข็งจากเขตไซบีเรียที่อยู่ในตามันและรวมไปถึงสายตาที่แปลกไปจากทุกครั้ง ทำให้ผมต้องขึ้นซ้อนหลังอย่างช่วยไม่ได้ แถมมันยังมีน้ำใจ หยิบหมวกกันน็อคมาใส่ให้ผมอีกล่ะ

 

แหม เป็นคนดีจัง แต่จะให้ดีกว่านี้ช่วยให้ผมขับเองเถอะนะ

 

ผมห่อไหลด้วยความหนาวเย็น ลมที่มาปะทะ ทำให้ผมหน้าชามาก ผมชอบความเย็นนะ เย็นมากผมก็ชอบ แต่ว่าผมไม่ชอบความรู้สึกตอนนั่งซ้อนหลังเลย ไม่รู้ความรู้สึกของคนขับเพราะมองไม่เห็นหน้า ลมที่ลอดมาปะทะหน้าก็ทำให้ผมรู้สึกแปลก และอาจจะเป็นเพราะคนที่ขับอยู่คือมันที่แปลกไปจากทุกวัน

 

ผมเลยรู้สึกแปลกอยู่ในใจ...

 

ทำไมไม่ให้ผมเป็นคนขี่เองน้า ฮึ่ยๆ ผมก็ได้แต่ปะท้วงความแค้นอยู่ในใจ แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา

 

“จะไปไหนกันว่ะจีน?”

 

ผมถาม ไม่รู้ว่ามันได้ยิน แต่มันไม่อยากตอบ หรือไม่ได้ยินอะไรก็ไม่รู้ แต่มือมันบิดมอเตอร์ไซต์เร็วขึ้น

 

นี่มันจะพาผมไปตายเหรอครับเนี่ย จีน~

 

นั่งซ้อนไปเรื่อยอย่างไร้จุดหมาย ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันเป็นอะไร หรือมันเกิดอะไรขึ้น หรือมอเตอร์ไซต์มันเองก็มี ทำไมไม่ใช้ ผมก็ไม่เข้าใจทั้งนั้น

 

มอเตอรืไซต์สีดำแดงของผมขับออกนอกเขตตัวเมือง ภาพต้นไม้บังแสงอ่อนของดวงอาทิตย์ เป็นภาพสวยงามที่ผมไม่เห็นมานานแล้ว ผมเงยหน้าขึ้นมอง รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ผมไม่ได้สนใจธรรมชาติตั้งแต่ตอนไหนนะ? รู้สึกว่าจะตั้งแต่ขึ้นม.ปลายแล้วอะไรหลายอย่างเกินกว่าที่จะมีเวลาว่างพอมานั่งชมต้นไม้ทำให้ผมไม่ได้สนใจมันเลย

 

ผมลืมแม้แต่ลมที่มาปะทะ เงยหน้ายืดตัวขึ้นมามองหน้าฟ้าสีอ่อน และต้นไม้ตามสองข้างทาง ถนนในตอนนี้โล่งมาก ทำให้สามารถมองดูได้อย่างเต็มอิ่ม ผมตบบ่าจีนเป็นเชิงให้ขับช้าลงหน่อย เหมือนมันจะรู้ใจผมโดยที่ไม่ต้องพูดอะไรออกมามากมาย มันก็ชะลอช้าลงให้ผมได้มองนานขึ้นอีกหน่อย

 

เหมือนมันจะพูดอะไรสักอย่างออกมา แต่ผมไม่ได้ยิน ผมตะโกนกลับไปว่าไม่ได้ยิน ก็ทั้งลม ทั้งหมวกกันน็อค แถมมันยังพูดเบาด้วย ใครมันจะไปได้ยินว่ะ

 

เอี๊ยด~

 

จู่ๆ มันก็หยุดรถกะทันหันจนผมเกือบจะตก มือเลยรีบยกขึ้นจับเอวมัน จีนสะดุ้งเล็กหน่อย ปัดมือออกเหมือนไม่อยากให้จับ

 

จะเล่นเนื้อเล่นตัวรึไงครับ? ผมไม่ได้พิศวาสมันหรอกนะ จับนิดจับหน่อยก็ไม่ได้ ชิ!

 

ผมลงมายืนบนทางเท้าก่อน รอให้มันจอดรถจนมันลงรถลงมา มันมองผมด้วยสายตาแบบเดิมอีกครั้ง ก่อนถอนหายใจออกมาอย่างระอาใจ

 

เง้อ... ถอนหายใจทำไมอ่า

 

“หมวกกันน็อค”

 

“หา?”

 

ไม่รอให้ผมสงสัยนาน มือมันก็เอื้อมมาปลดหมวกกันน็อคให้ผม จนทำให้ผมสงสัยว่าตัวเองอาจจะเป็นเด็กก็ได้ ขามามันก็ใส่ให้ ลงมามันก็ถอดให้ เออ ดีเว้ย ไม่ต้องทำอะไรเลย ... ไม่ใช่เฟ้ย! ผมไม่ได้เป็นง่อยน้า!!!

 

ว่าแต่ ผมขี้ลืมขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ?

 

ช่างเถอะ ถ้าหาคำตอบละก็... ก็คงตั้งแต่จำความได้มั้ง?

 

ซึ้งใจจริงๆ เพื่อนผมนิสัยดีจริงๆ...

 

“อย่ามองอย่างนั้น กูแค่ไม่อยากถูกจับ เพราะคนซ้อนไม่ใส่หมวกกันน็อค”

 

“ถ้ารถกูมีหมวกใบเดียว มึงจะให้กูใส่มั้ยว่ะครับจีน?”

 

“ก็ต้องให้มึงใส่ดิ” มันพูดหน้านิ่ง

 

อยากเถียงใจจะขาดว่าผมไม่เชื่อโว้ย แต่ก็เงียบเอาไว้ดีกว่า เดินนำมันไปนั่งเก้าอี้แถวนั้น มันก็เดินตามมาอย่างว่าง่าย คงเหนื่อยที่จะเถียงผมแล้วมั้ง

 

ผมมองไปรอบด้านสวนสาธารณะที่นี่จัดสวนได้สวยมาก ทำเป็นซุ้มดอกไม้ ซุ้มต้นไม้ได้น่านั่งมาก สวนหย่อมใหญ่ๆให้ความรู้สึกแบบนี้นี่เอง

 

“กูไปเจอมาเมื่อไม่กี่วันก่อน” จีนหย่อนตัวลงนั่งด้านข้าง สายตามันมองไปทางสวนเหมือนผมแล้วพูดอะไรออกมา “พอดีวันนั้น มีเรื่องนิดหน่อย เลยขับรถออกมาเล่น บังเอิญมาเจอพอดีเลยคิดถึงมึง... คิดว่ามึงน่าจะชอบ”

 

“อือ กูชอบ” ผมตอบ

 

“มึงชอบ กูก็ชอบ” พูดแปลกๆวุ้ย!

 

ตึก... ตึก... ตึก...

 

แล้วทำไมใจมันต้องเต้นแรงด้วยว่ะ ไม่เข้าใจเลย... มันพูดแปลกๆมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ทำอะไรก็แปลกๆไปหมดเลย ผมรู้ว่ามันไม่ค่อยสนใจมองธรรมชาติแบบผมหรอก เพียงแต่มันรู้ว่าผมชอบ มันเลยพามาแค่นั้นแหละ

 

ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี มันเงียบ ผมก็เงียบ เราสองคนก็เงียบ เงยหน้ามองท้องฟ้าทั้งคู่ ถ้าตอนนี้ผมเจอนกสีฟ้าล่ะก็ ผมคงคิดว่ามันคือนกสีฟ้าแห่งความสุขแล้ว ผมชอบความรู้สึกในตอนนี้มาก

 

อาจเป็นเพราะคนด้านข้างด้วยล่ะมั้ง

 

“เฮ้อ~”

 

“มึงเป็นไรป่ะว่ะจีน”

 

“...” จีนหันมามองผม “กูกำลังอาจจะเลิกกับแฟนว่ะ”

 

มันพูดถึงแฟนมัน แฟนมันชื่ออะไรผมก็จำไม่ได้หรอก และเพราะมันคงรู้ดีเลยไม่ได้พูดชื่อแฟนออกมาให้ผมนั่งนึก

 

ผมก็เห็นอยู่ว่าช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นมันอยู่กับแฟนเท่าไหร่ อยู่กับพวกผมตลอด ทะเลาะกันบ้าง เดินแยกกันบ้าง เหมือนอยู่ในช่วงห่างกันก่อนเลิกไม่มีผิด

 

“ทำไมว่ะ”

 

“ไม่รู้ว่ะ เขาขอกูเลิก”

 

“อ่อ...” มันดูจริงจังกับคนนี้มากจนผมไม่รู้จะพูดอะไรกลับไปดี

 

ในอกรู้สึกเจ็บขึ้นมา เหมือนมีอะไรมาติดขัดไว้ แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามันคืออะไร...

 

“มึงไม่ต้องห่วงหรอก ผู้หญิงมีเป็นล้าน ไม่ตายก็หาใหม่ได้” เอาเข้าจริงผมคิดว่ามันหล่อกว่าผมอีกนะ เพียงแต่อารมณ์มันไม่ค่อยคงที่แค่นั้นเอง “เดี๋ยวพี่ช่วยมั้ยน้อง? ฮ่าๆ”

 

“ใครจะไปชิวแบบมึงล่ะครับไอ้คุณชายนะ” จีนด่ายิ้มๆ

 

ก็คงจะจริงของมัน แต่ว่านะ...

 

ก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้วนี่ ความจริงในใจมันแจ่มชัดมาตั้งนานแล้ว ไม่ว่าจะตอนนี้ หรือตอนไหน มีแค่ผมพยายามจะเปลี่ยนมันไปแค่นั้นเอง

 

อาจเป็นเพราะมันเป็นเพื่อนคนแรก และเพื่อนที่สนิทที่สุด ผมยังจำได้ดีถึง ตอนที่เจอมันครั้งแรก ตอนม.ต้น ด้วยความที่มันเป็นคนที่อยู่เฉยๆก็เด่น ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มันทำให้ผมที่ยังไม่ค่อยสนิทกับใครมองมันตลอดเวลา

 

รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มันมาทักผมว่าผมจะจ้องมันอีกนานมั้ย

 

...และไม่รู้อีกว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สุดท้ายเราสองคนก็เป็นเพื่อนสนิทกัน

 

ทุกอย่างมันแจ่มชัดตั้งแต่แรกแล้ว...

 

“แต่ถ้ามึงเลิกกันจริง กูจะอยู่เป็นเพื่อนมึงเอง”

 

กูจะอยู่ข้างๆมึงเอง… นั่นแหละ เรื่องนี้น่ะ มันแจ่มชัดมาแต่แรกแล้ว

 

“มึงไม่ได้พูดเล่นใช่มั้ยเนี่ย?”

 

“แหงอยู่แล้วดิ ก็กูไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนี่ที่ต้องมาพูดเล่นกับมึง” ผมตอบ “ตรงนี้มีแค่มึงกับกู แค่นี้พอจะยืนยันคำพูดของกูว่ากูจะอยู่กับมึงได้ป่ะว่ะ?”

 

“อ่าฮะ ขอบใจว่ะนะ”

 

“เออ กูจะอยู่กับมึงจนกว่ามึงจะไม่ต้องการกูเนี่ยแหละ...”

 

มันยื้ม ผมก็ยิ้ม...

 

เราสองคนยิ้มให้กัน หัวเราะให้กันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่เนอะ

 

ขอแค่ตรงนี้ ตอนนี้ มีมึงกับกูก็พอแล้ว... ไม่ว่าจะมีอะไร มึงกับกูจะอยู่ข้างกันตลอดไป

 

... ใช่มั้ย?

 

“เออ กูก็เหมือนกัน จะอยู่กับมึงไปตลอดนั่นแหละ แต่คงไม่ตลอดไปนะ เพราะกูยังอยากมีแฟนว่ะ ฮ่าๆ”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา