Dive into LOVE

Dive Round 3 : Jack Laugher and the hidden truth

                                ฉันจะบอกพ่อกับแม่ยังไงดีนะ แม่ คนตัวดีที่ชอบรวบรัดตัดความ สบถกับตัวเองพลางเช็ดผมที่เพิ่งสระหมาด ๆ อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์พีซี อีกมือหนึ่งก็เอื้อมไปปรับกล้องที่หนีบอยู่ตรงมอนิเตอร์ให้ได้มุมที่เมื่อ ออกกล้องแล้ว ไม่ทำให้หน้าเธอดูบานมากจนเกินไป เหตุผลที่ไม่ใช้แลปท็อปนั่นก็เพราะว่า กล้องที่มีมากับแลปท็อปนั้น ความละเอียดมีน้อยและเมื่อต้องเล่นในห้องส่วนตัวของเธอแล้ว ไม่ว่าจะหมุนไปมุมไหน ๆ มันก็ดูมืดไปเสียหมด จนเธอเห็นตัวเองบนหน้าจอแล้วนึกว่ากำลังดูคลิปวิดีโอชาวเกาะอยู่ก็มิปาน จึงต้องหันมาใช้เว็บแคมกับพีซีดีกว่า มีโคมไฟเพิ่มความไวเทนนิ่งให้กับใบหน้า ดูดีขึ้นเป็นกอง

                                ตรุ๊ง

                                เสียง แจ้งเตือนว่ามีคนออนไลน์ใหม่ดังขึ้นจากโปรแกรมสไกป์ เธอรีบคว้าเก้าอี้มานั่งอย่างร้อนรน รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าเรียวได้รูป ผิวอมชมพูอย่างคนมีสุขภาพดีบวกกับเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ยิ่งเสริมให้ดูน่ามองเข้าไปใหญ่ นานาเป็นผู้หญิงที่เป็นธรรมชาติมาก และมั่นใจในตัวเอง จะมีผู้หญิงสักกี่คนบนโลก ที่กล้าวีดิโอคอลกับผู้ชาย ทั้ง ๆ ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จบ้างล่ะ

                                " Hey Nana, how are things? "

                                ชายหนุ่มที่เธอรอคอยจะบอกข่าวดีนี้มาตลอดตั้งแต่ทราบข่าวดี ทักขึ้นมา สาวเจ้ายิ้มขวยเขินก่อนจะทำหน้าอมยิ้มแล้วตอบเขากลับไป

                                " Jack, I make it, I make it. "

                                " Goshhhhh, congrats my chick, just wow! "

                                ปลายทางอีกฝั่งของบทสนทนากระโดดดีใจ แหกปากจนคนฝั่งนี้ต้องหรี่เสียงลำโพงแล้วหัวเราะร่า Jack Laugher คือ เพื่อนในสไกป์ที่เธอวีดิโอคอลมาหลายเดือน คุยทุกเรื่อง ทั้งเรื่องมีสาระ และไม่มีสาระ จิปาถะไปทั่ว ทั้งสองชอบที่จะแลกเปลี่ยนสิ่งใหม่ ๆ ให้แก่กัน แจ็คชอบที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และนานาก็ชอบที่จะเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ในประเทศไทย รวมทั้งรับฟังเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่แจ็คคอยเล่าให้ฟังด้วย

                                นานา :

                                โอ๊ย ท่าดีใจของแจ็คนี่ตลกชะมัดเลย เก้าอี้นี่กระเด็นหายไปคนละทิศละทาง ฉันเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ ก็พอรู้อยู่นะว่าเขาจะต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่ฉันได้ทุนไปเรียนที่นั่น ก็เขาคอยเป็นกำลังใจให้ฉันมาตลอดนี่นา กระตุ้นให้ฉันทำได้ในวันนี้ รวมทั้งเป็นเพื่อนคุย คอยฝึกภาษาให้ฉันอีกด้วย

                                             แต่ อย่าเพิ่งคิดว่าฉันเป็นพวกหาฝรั่งคุยแล้วทำอะไรอย่างว่าไปวัน ๆ นะ ไม่รู้ล่ะสิว่าแจ็คคือใคร นี่ฉันกำลังคุยกับใครอยู่ ฮะฮะ ลองเอาชื่อของเขาไปเสิร์ชในกูเกิ้ลดูสิ Jack Laugher ก็จะรู้ว่าเขาเป็นใคร แต่สำหรับคนที่หมกมุ่นอยู่กับวงการกีฬากระโดดน้ำอย่างฉัน คงต้องร้องอ๋อเลยทีเดียว

                                             ใช่แล้วล่ะ เขาคือแจ็คคนนั้นนั่นแหละ เพื่อนในกลุ่มเดียวกับ Thomas Daley หรือ ทอมของฉันนั่นเอง นักกีฬากระโดดน้ำชื่อดัง ที่ฟีโรโมนกระแทกใจสาว ๆ ไปทั่วทั้งโลก ฮอทและหล่อเป็นบ้า โอยฉันล่ะหลงเสน่ห์เขาอย่างหัวปักหัวปำ ไม่ใช่แจ็คนะ ฉันหมายถึงทอมต่างหาก  ฉัน หลงรักเขาอย่างโงหัวไม่ขึ้นมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาไปแข่งกระโดดน้ำที่ ปักกิ่งตอนโอลิมปิกครั้งนั้น นี่ การได้ไปโอลิมปิกนี่มันคือสุดยอดของชีวิตนักกีฬาเชียวนะ ตอนนั้นเขาเพิ่งอายุ 14 ปีเอง ก็ฮอทตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และเมื่อโอลิมปิกที่ลอนดอนครั้งล่าสุดที่เขาเป็นเจ้าภาพนี่ เจ้าตัวก็อายุ 18 กำลังเป็นหนุ่มเต็มตัว เป็นว่าที่พ่อของลูกฉัน ซึ่งกลายเป็นคนที่สาว ๆ หมายปองมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยตอนนี้

                                             แต่ ปล่อยสาว ๆ พวกนั้นไปเถอะ ฉันค้นพบในเวลาไม่นานว่าการมานั่งกรี๊ดคนที่ตัวเองคลั่งไคล้แทบเป็นแทบ ตายอยู่แต่เพียงหน้าจอนั้น มันไม่เจ๋งเอาเสียเลย ฉันเลยต้องทำให้ความฝันของฉันมันจับต้องได้มากกว่านี้ ทำให้มันเป็นจริงมากกว่านี้

                                             ต้อง ขอบอกก่อนว่าฉันมันคนเจ้าแผนการ และฉันได้เริ่มแผนการนี้มาตั้งหลายปีที่แล้ว ตั้งแต่สมัยอินเตอร์เน็ตมันยังไม่บูมมากขนาดทุกวันนี้ ทุกวันนี้นี่ใครขยับตัวนิดหน่อย ก็ดังไปทั่วโลกได้แล้ว แต่เมื่อไม่กี่ปีก่อนนั้น การหาประวัติใครสักคนนี่ค่อนข้างทำได้ยากอยู่พอสมควร ฉันเคยติดต่อทอมไปเลยโดยตรง แต่ก็ต้องได้รับกลับมาแต่เพียงความว่างเปล่า และนั่นทำให้ฉันเสียใจอยู่หลายวันเชียว แต่ฉันก็คิดได้ว่า เรามันแค่คน ๆ หนึ่งที่ ไม่มีอะไรเลย  แถมอยู่ไกลจากชีวิต ของเขาเสียขนาดนี้ ฉันคงต้องทำอะไรบางอย่าง ให้เส้นทางมันใกล้ขึ้น ให้มันเป็นทางลัดขึ้น ซึ่งจะมาให้ฉันทำงานเก็บเงินซื้อตั๋วบินไปถ่ายรูปกับเขาสองสามแชะ มันคงจะไม่ดีแน่ คงต้องรออีกหลายปีแน่

                                             ฉันจึงจัดการสร้างเส้นทางลัดของฉันขึ้นมาเอง

                                             ฉัน ติดตามข่าวของทอมอย่างบ้าคลั่ง อย่าเรียกว่าติดตามเลย เรียกว่าเสพติดเลยจะดีกว่า การอ่านคอนเทนส์หรือบทความภาษาอังกฤษมาก ๆ ทำให้ฉันคล่องขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นฐานทางด้านภาษาที่ฉันมีดีอยู่แล้ว ให้ดีขึ้นไปอีก แต่ว่าถ้าเทียบกับเจ้าของภาษาแล้ว ก็คงต้องยอมรับว่าต่างกันอยู่หลายขุม และ เส้นทางลัด นั้น ก็ปรากฎตัวขึ้น ใช่แล้ว ในทุก ๆ ข่าวของทอม หรือสิ่งที่ทอมเป็นคนโพสลงไปนั้น เจ้าชายของฉันก็มักจะแท็กชื่อเพื่อนของเขาอยู่เสมอ และนั่นก็มีเพียงไม่กี่ชื่อหรอก ฉันปะติดปะต่อเรื่องราวชีวิตที่ทอมอัพเดท แล้วก็พบชื่อของแจ็คเนี่ยแหละ ที่ทอมพูดถึงอยู่บ่อย ๆ ถัดจากนักกระโดดน้ำหน้าหล่อไม่แพ้กันกับทอมอีกคน แต่ฉันไม่ได้สนใจอะไรหรอกนะ เจ็ทเคยชมว่าคนนั้นหล่อ ฉันก็เลยไม่สนใจเขาอีกเลย ฮะฮะ

                                             ใช่ แล้ว จะว่าฉันอย่างไรก็ได้ เพราะฉันยอมรับจริง ๆ ว่าแจ็คนั้นเป็นบันไดให้ฉันก้าวเข้าไปหาทอมได้เร็วขึ้น แจ็คที่ยังไม่โด่งดังเท่ากับทอม และยังมีฝีมือในการกระโดดน้ำดีในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ถึงกับเป็นตัวจริงในโอลิมปิกนั้น ทำให้เป็นคนที่สาว ๆ ยังไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก แต่ก็ยังพอมีอยู่บ้าง ซึ่งฉันคิดว่าก็คงจะมากจำนวนนึงนั่นแหละ แต่เทียบไม่ได้กับเจ้าชายของฉันที่ขยับไปทางไหนก็มีแต่แฟนคลับเต็มไปหมด ฉันจึงใช้ความจริงข้อนี้ให้เป็นประโยชน์ โดยสืบหาทางติดต่อกับแจ็คให้ได้เป็นการส่วนตัวที่สุด และโชคก็เข้าข้าง ฉันบังเอิญเจอรูป ๆ หนึ่งของเขาที่ถ่ายเล่นที่บ้าน ฉากหลังของรูปนั้นคือหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่กำลังจะล็อกอินโปรแกรมสไกป์ไว้ เชื่อไหมว่า ฉันนั่งแกะตัวอักษรอันเลือนลางนั้นจากช่องยูเซอร์เนม ซึ่งได้เป็นชื่อกว่า 54 ชื่อ ลองพิมพ์ทุกอัน จนกระทั่งเจออันที่ใช่ แล้วตัดสินใจแอดเขาเป็นเพื่อนในที่สุด โดยไม่ลืมใส่รูปดิสเพลย์ที่คิดว่าสวยที่สุดลงไปด้วย

                                             ฉัน ทำให้มันดูเหมือนอุบัติเหตุ โดยครั้งแรกที่เขารับแอดนั้น ฉันทำเป็นคุยเหมือนสนิทกับเขามานาน และจงใจเรียกชื่อให้ผิดคน ซึ่งคนที่หาเวลายากแบบแจ็ค นักกีฬาที่ต้องซ้อมหนักอยู่ตลอดเวลา ก็บอกปัดฉันว่าเขาไม่ใช่คนที่ฉันต้องการจะคุยด้วย ซึ่งโอ๊ยตามแผนเป๊ะเลย ฉันเลยใช้มารยาอีกนิด ๆ หน่อย ๆ คุยหยอดเขาไปบ้าง ยิ้มให้เยอะ ๆ บ้าง (ด้วยความคิดที่ว่ายิ้มของสาวไทยชนะใจทุกคนในโลก) ก็เลยทำให้เราได้คุยกันเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

                                             ฉัน บอกไปในช่วงที่เราคุยกันได้สักพักว่า ฉันรู้แล้วว่าเขาคือใคร และทำตัวไม่ให้เหมือนผู้หญิงที่เอาแต่บ้าอย่างไม่มีสติ ฉันวางตัวเหนือกว่านั้น บอกไปว่าฉันไม่สนใจว่าเขาคือใคร เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็พอ และถ้าฉันไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปล่ะก็ ฉันคิดว่าแจ็คก็คงรู้สึกดีกับฉันอยู่ไม่น้อยทีเดียว ไม่งั้นคงไม่มานั่งคุยกับฉันอยู่บ่อย ๆ หรอก ฉันชอบแอบลอบถามแจ็คเรื่องเพื่อน ๆ คนอื่นในวงการกีฬา ทำให้คำถามไม่ดูน่าสงสัยจนเกินไป บางครั้งเขาก็เล่าเรื่องทอมให้ฟังบ้าง เรื่องโค้ชบ้าง เรื่องการแข่งบ้าง ซึ่งทำเอาฉันใจเต้นโครมครามทุกครั้งที่ได้ยินชื่อทอม

                                             ฉัน บอกกับเขาไปว่าฉันจะหาทุนไปเรียนที่นั่น เขาแสดงอาการดีใจอย่างเก็บไม่อยู่ และบอกกลับมาว่าอยากพบฉันสักครั้ง พยายามเป็นกำลังใจ และถามไถ่ความคืบหน้าเรื่องทุนอยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่ฉันเจอทางตันเรื่องการไปเรียนที่โน่นนั้น ฉันก็มองไปที่รูปของทอม และบอกกับตัวเองว่า จะต้องทำให้มันเป็นความจริงให้ได้ ซึ่งแม้ความจริงที่ว่ามันจะมาช้าไปถึงหนึ่งปีก็ตาม ทำให้ฉันต้องมานั่งเรียนเป็นนักศึกษาปีสองอยู่ตอนนี้ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว ฉันได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับทอม คิดดูสิว่ามันเจ๋งแค่ไหน คิดดูสิว่าความพยายามของฉันมันประสบผลแค่ไหน

                                             และคิดดูสิ ว่าถ้าแจ็ครู้ความจริง เขาจะเสียใจแค่ไหน