Cutie.s Burn ขอโทษทีนี่ผู้หญิงของผม

10.0

เขียนโดย LittleAngel

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 20.16 น.

  7 chapter
  2 วิจารณ์
  12.64K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
1
 
 
(วันรุ่งขึ้น)
  ตาบวมมมม =_= โอ๊ย ตอนนี้ตาฉันบวมยังกับหนังคากคกน่าเกลียดชะมัด ถ้าฉันโผล่ไปโรงเรียนในสภาพนี้ฉันคงเสียอิมเมจแน่เลย หรือจะโทรลาหยุดดีนะ T.T แต่วันนี้มันเป็นวันสอบปลายภาคหนิ ถ้าขืนลาฉันคงต้องมานั่งแก้ศูนย์ต้องปิดเทอมแหงๆ -_-
 ฉันไล้นิ้วไปตามแก้มอย่างกังวลมือของยัยนั่นมีเชื้อโรคติดมารึปล่าวนะ นอกจากหุ่นที่สวยเช้งสมบูรณ์แบบแล้วฉันต้องใช่หน้าทำมาหากินด้วยนะยะ -__-
  อ้อ! ฉันทำงานรับจ๊อบถ่ายแบบให้กับโมเดลลิ่งชื่อดังอย่าง Holic.G Studio อยู่ ที่จริงฉันไม่ได้ไปสมัครหรอกแต่พี่เปรียวซึ่งทำหน้าที่หานางแบบให้กับโมเดลลิ่งดันไปเจอรูปฉันในโพสต์เว็บบอดร์หลายเว็บ (ฉันไม่ดันเอาไปโพสต์ไว้นะ -_-) เลยติดต่อฉันให้ลองมาออดิชั่นเป็น นางแบบดู  ตอนแรกฉันก็ไม่กล้าทำหรอกแต่พอทำไปทำมาก็เริ่มสนุกขึ้น -..- งานง่ายๆ รายได้งาม แถมยังดังอีกถ้าฉันมาเอาจริงทางวงการนี้คงดังระเบิดระเบ้อไปแล้วนะเนี่ย ^o^
   ฉันลงมาที่ลานจอดรถของคอนโดแล้วสตารท์รถพอรท์สีแดงสดสุดเฉี่ยว ผู้ชายที่อยู่รถข้างหันมายิ้มให้ฉันดวงตาของหมอนั่นเปล่งประกายราวกับทั้งชีวิตนี้ไม่เคยเห็นผู้หญิงสวย =_= ฉันยิ้มให้เขาตามมารยาทก่อนจะขับรถออกมา
   คิดไปแล้วน่าเจ็บใจชะมัดฉันชอบบรัสมาตั้งหลายปีเรารู้จักกันตั้งแต่ยังเด็กและเขาก็เป็นสาเหตุเดี๋ยวที่ทำให้ฉันไม่ย้ายตามครอบครัวไปอยู่ที่เกาหลี ฉันทั้งรักและทุ่มเทให้เขาขนาดนั้นแต่ทำไมเขาไม่รู้บ้างล่ะ ถ้าผู้หญิงที่บรัสคว้ามาเป็นแฟนดูดีมีการศึกษาและหน้าตาสวยพอจะสู้กับฉันได้(=_=) ฉันสาบานเลยว่าจะไม่มีวนมานั่งร้องไห้เสียใจเลย แต่ยัยนี่... อ๊ากกก คิดแล้วเจ็บใจชะมัดหงส์อย่างฉันต้องแพ้ยัยลูกเป็ดเหรอ TT_TT

 
 
(โรงเรียนเซนต์โอลิแวนเนอร์)
   ร่างสูงโปร่งของดูรามิเดินเข้ามาในห้องสอบท่ามกลางสายตาเคลืบแคลงปนสงสัยจากบรรดาเพื่อนร่วมห้องบางส่วนที่ไปร่วมงานกินไอศครีมเมื่อวาน บะหมี่เกี๊ยวเพื่อนสนิทของดูรามิกำลังนั่งทบทวนหนังสือเรียนอยู่หลังห้องเรียนเมื่อเธอเห็นยัยผมแดงกำลังเดินเข้ามาเธอจึงโบกมือให้ดูรามิเดินมาหา
“ไง เกี๊ยว”
“มิสุ!”
“ฉันชื่อดูรามินะ -_-”
บะหมี่เกี๊ยวดึงเพื่อนสาวให้นั่งลงข้างๆก่อนจะเปิดประเด็นถามคำถามที่ทุกคนอยากรู้มากที่สุด
“เธอชอบบรัสเหรอ”
“...”
“ดูรามิ”
“ปล่าว...”
“แล้วทำไมเธอถึงไปตบแฟนเขาอย่านั้นล่ะ”
“ฉันแค่หมั่นไส้ -_-”
“ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่คนไร้เหตุผลนะมิสุ แล้วเธอก็จะไม่ทำก่อนที่จะคิดให้รอบคอบด้วย มันต้องมีเหตุผลสิ”
“หมั่นไส้ไงคือเหตุผล -*-”
“มิสุ บอกมาเถอะ...”
“ฉันจะอ่านหนังสือสอบแล้วนะ ห้องคำณวนเขาจะเข้าห้องสอบแล้วด้วย -o-”
   บะหมี่เกี๊ยวมองตามทิศทางที่นิ้วของดูรามิชี้ไป ปรากฏว่าเด็กห้องศิลป์คำณวนเข้าห้องสอบกันเกือบจะหมดอยู่รอมร่อบะหมี่เกี๊ยวยู่ปากอย่างไม่พอใจแล้วรีบเก็บหนังสือใส่กระเป๋าเป้อย่างรวดเร็ว
“เจอกันที่ลานทรัมเบิ้ลนะ วันนี้พี่ฟ้าใสจะให้เธอช่วยร้องเพลงให้ด้วย”
“อืมๆ ฉันรู้แล้วล่ะ เจอกัน ^-^”
   บะหมี่เกี๊ยวโบกมือลาเพื่อนสาวก่อนจะรีบมุ่งหน้าไปยังห้องสอบของตัวเอง ดูรามิถอนหายใจออกมายาวๆก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะเรียนอย่างเหนื่อยอ่อน เธอชอบบรัสเซลล์ก็จริงแต่ก็ไม่ต้องการให้ใครรู้หรอกนะโดยเฉพาะเมื่อเขามีแฟนแล้ว เพราะมันจะทำให้เธอดู’อ่อน’ ที่แพ้ผู้หญิงจากโรงเรียนที่ได้ชื่อว่ากากเดนสังคมและเธอไม่ต้องการให้ตัวเองไปพัวพันในฐานะมือที่สามของใครด้วย
   มิสที่ทำหน้าที่คุมห้องสอบเรียกเด็กทุกคนให้เข้าห้องสอบ วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายแล้ววิชาที่สอบเลยเป็นวิชาเอกของแต่ะสาย ดูรามิใช้สมาธิทั้งหมดทุ่มให้กับการทำข้อสอบ เพื่อนร่วมห้องหลายคนได้แต่เหล่อมองเธอด้วยความอิจฉาปนความชื่นชม ทั้งผมสีไวน์แดงสยาย ดวงตาโตคม ใบหน้าเรียว และยังรูปร่างทรงนาฬิกาทรายแสนเพอร์เฟ็คนั่นอีก หลายคนถึงกับตั้งคำถามในใจว่าทำไมพระเจ้าไม่ยุติธรรมในการเสกสรรค์ใบหน้าของมนุษย์ให้เท่าเทียมกันบ้างเลย
   ดูรามิผ่อนคลายลงเมื่อเธอทำข้อสอบทั้งหมดได้ ทั้งภาษาฝรั่งเศษ ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่นที่เป็นวิชาเอกของเธอและภาษาอิตาเลียนที่เป็นวิชาเลือก เธอสอบได้คะแนนดีเยี่ยมในทุกวิชาที่เป็นภาษาแต่ตกทุกวิชาที่ใช้การคำณวน -_-
 ออด~ ออด~
“เอาละนักเรียน วางปากกาและออกจากห้องสอบได้”
   นักเรียนทุกคนรีบวางปากกาก่อนจากห้องอย่างรวดเร็วเหลือแต่เพียงดูรามิ เท่านั้นที่ยังนั่งนิ่งอยู่เพราะเธอเห็นใครบางคนกำลังรอเธออยู่นอกห้อง 
“มิสยูน เธอมีปัญหาอะไรรึปล่าว”
“ไม่มีค่ะ มิส -_-;”
“งั้นเธอควรออกจากห้องสอบได้แล้วนะ ทุกคนเขาลงไปกันหมดแล้ว”
   ดูรามิเลยต้องออกจากห้องอย่างเสียไม่ได้ ไม่งั้นเธออาจจะต้องช่วยป้าแม่บ้านทำความสะอาดสระว่ายน้ำตลอดปิดเทอมเดือนตุลาฯก็ได้ -_-;;;
“ไง ดูรามิ”
“มีอะไร”
“ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
“แต่ฉันไม่มี”
   ดูรามิเบี่ยงตัวหลบเพื่อที่จะได้เดินออกจาสถานการณ์อันน่าอึดอัดใจแบบนี้ แต่บรัสกลับคว้าแขนของเธอเอาไว้
“เธอชอบฉันใช่มั้ย
“...”
“ตอบมาสิ”
   บรัสเซลล์จ้องใบหน้าของดูรามิตรงๆ ดวงตาสีดำสวยวาววับด้วยน้ำตาริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มเม้นเข้าหากันอย่างอดกลั้น ดูรามิกลืน ก้อนสะอื้นลงไปในลำคอย่างยากลำบากเธออยากจะบอกเขาใจจะขาดว่าเธอรักเขารักมา ตลอดรักมาตั้งนานแต่เธอยังรักศักดิ์ศรีของตัว เองนางแบบชื่อดังต้องลดตัวลงมาแย่งผู้ชายจากยัยผู้หญิงที่ไม่มีอะไรดีแบบ นั้นมันเหมือนว่าเธอไร้ค่าจนน่าสมเพช
ไม่...ไม่ ฉันจะไม่เป็นแบบนั้น ฉันไม่ได้จนตรอกขนาดนั้น
“ไม่”
“...!”
“ไม่เคยแม้แต่จะคิดเป็นอย่างอื่นเลยนอกจากเพื่อน”
   บรัสเซล์ผงะไปนิดหนึ่ง เขาไม่คิดว่าจะได้คำตอบแบบนี้จากดูรามิ คนรอบข้างพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าดูรามิชอบเขาแน่ๆแต่ทำไม
เธอถึงปฎิเสธเขาล่ะ?
   ดูรามิเหยีดยิ้มอย่างสะใจที่ได้เห็นแววตาที่ตกใจของบรัสเซลล์ เธอรู้สึกสะใจที่ทำให้เขามีปฏิกิริยาแบบนี้มันเหมือนว่าเขารู้ตัวแล้วว่าได้สูญเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดไป นั่นก็คือเธอ
“ฉันไม่รู้ว่านายเป็นคนยังไงบรัส ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมนายต้องมาถามฉันทั้งที่นายมีแฟนอยู่แล้ว”
“ฉันรักเธอมากนะดูรามิ แต่ฉันมัน ฮึ่ย!”
   ดูรามิตกใจเมื่อบรัสเซลล์เตะทั้งขยะที่ตั้งอยู่ข้างตัวเธอจนกระเด็นไปไกล เธอรู้ว่าถ้าเขาโกรธเขาจะดูน่ากลัวมากแค่ไหน  บรัสเซลล์มองดูรามิด้วยสายตาเจ็บปวดอย่างที่สุด ถ้าเขาไม่ตกลงรับปากกับพ่อของตัวเองว่าจะยอมคบกับบลายธ์ ถ้าเขารู้ว่าดูรามิชอบเขา...
   แต่จะทำไงได้ล่ะ ลูกชายคนเดียวของอัยการที่ทำคดีเกี่ยวกับผู้ทรงอิทธิพลและเขาก็เป็นตำรวจลับแค่นี้ก็ทำให้เขาเสี่ยงอันตรายมากอยู่แล้วยิ่งถ้าพวกนั้นรู้ว่าดูรามิคือคนที่เขารัก พวกนั่นต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตัวเธอมาแน่นอน

‘ตัดใจซะบรัส ไม่งั้นเธอตาย’

   บรัสเซลล์มองดูรามิเหมือนจะจดจำทุกอย่างเกี่ยวกับเธอไว้ ใบหน้าสวยคม ดวงตาที่มองเขา ริมฝีปากสวยที่เคยส่งยิ้มให้เขา อ้อมแขนที่เคยกอดเขาไว้ยามที่เขากลัวและปลอบโยนในยามที่เขาเสียใจ บรัสเซลล์หลับตาลงแล้วพยายามจะจดจำทุกอย่างไว้ เขาค่อยๆปล่อยมืออกจากแขนของเธออย่างช้าๆ
“ที่จริง ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอด้วยซ้ำ เพราะสายตาคลั่งไคล้ที่เธอมองมามันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด”
   ดูรามิยักไหล่สบายๆก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปพร้อมกับรับโทรศัพท์ในมือไปด้วย เมื่อเธอเดินลงบันไดไปแล้วน้ำตาของบรัสเซลล์ค่อยๆไหลออกมา เขาขบเขี้ยวของตัวเองลงกับปากจนได้รสและกลิ่นของเลือด เขารู้สึกอึดอัดที่อกเหมือนหายใจไม่ออก ใช่เขาหายใจไม่ออก
‘ผมจะหายใจได้ไงเมื่อขาดอากาศอย่างเธอไป’
 
(Bahmei-keaw special! @ลานทรัมเบิ้ล)

 

“มิสุ! เธอเกือบทำให้งานพี่ฟ้าใส...ล่ม”
   ฉันกลืนคำพูดคำสุดท้ายลงคอเมื่อเห็นใบหน้าที่มีแต่คราบน้ำตาของมิสุ ฉันหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองจุ่มกับน้ำเย็นๆแล้วเช็ดใบหน้าของเธอเบาๆ มิสุกลืนก้อนสะอื้นลงคอเธอเหมือนจะพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา
“ไหวไหม ฉันไปบอกพี่ฟ้าใสว่าเธอไม่ไหวได้นะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ร้องแค่เพลงเดียวเอง”
“แต่ว่าเธอดูเหมือนไม่ไหวนะ”
“ฉันไหวน่า นี่ต้องไปแต่งหน้าใช่มั้ย”
“ไม่ต้องหรอก ฉันแต่งให้เองแค่ทาลิปกับปัดแก้มนิดเองๆ”
   มิสุพยักหน้าก่อนจะรับตาลง ฉันให้เด็กที่อยู่หลังเวทีไปบอกพี่ฟ้าใสว่านักร้องพิเศษมาถึงแล้ว ฉันปัดแก้มของมิสุให้เป็นสีชมพูอ่อนๆ ผิวของเธอขาวจนเขียวด้วยซ้ำยิ่งตอนนี้มันยิ่งดูซีดเซียวเข้าไปใหญ่ ฉันเห็นมิสุหลับตาลงดวงตาของเธอสั่นไหวไปด้วยน้ำตายัยนี่ไปโดนอะไรมานะ ปกติมิสุแทบจะไม่ร้องด้วยซ้ำ ฉันต้องไปถามบรัสแล้วว่ายัยผมแดงเป็นอะไร
“น้องมิสุ แสตนด์บายเลยนะคะ”
มิสุพยักหน้าก็จะลุกขึ้นเธอหันมายิ้มให้ฉันอย่างอ่อนแรง แล้วเดินขึ้นเวทีไป
หวังว่าเธอจะไม่เป็นไรนะ มิสุ
 
(Durami part!)
“สวัสดีค่ะ วันนี้มิสุจะมาร้องเพลงเพื่อส่งท้ายมินิคอนเสิรต์วันนี้นะคะ ^-^”
“เฮฮฮฮฮฮอ >_<”
“มิสุ! มิสุ! ยูน ดูรามิ! กรี๊ดดดดดด”
  ฉันยิ้มออกมาเมื่อเห็นผู้คนมากมายรอที่จะฟังเพลงจากฉัน พี่ต้นกับวงของเขาพยักหน้าว่าดนตรีพร้อมแล้วเพลงที่ฉันเลือกมาร้องในวันนี้ มันคือเพลงที่ฉันตั้งใจจะสารภาพรักกับบรัสแต่ตอนี้คำพูดร้ายกาจของเขาทำให้หัวใจฉันร้าวจนปวดไปหมด

‘ที่จริง ฉันไม่อยากเห็นเธอด้วยซ้ำ เพราะสายตาคลั่งไคล้ที่เธอมองมา มันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด’

ขอโทษนะบรัส ขอโทษที่หลายปีมานี้ฉันทำให้นายอึดอัด ขอโทษจริงๆ
 
 

ไม่ต้องคิดเลย ถ้าในวันนี้ไม่มีเธอ

ชีวิตมันจะเป็นไปอย่างไร

ลำพังตัวฉันคนเดียวคงไม่พอ

จะเติมเต็มทุกทุกอย่าง
 
ใช่ ฉันไม่สามารถจะเติมเต็มทุกอย่างได้ ขอบคุณนะที่นายเข้ามาในชีวิตฉัน
 
 

แต่ปากฉันเอง ไม่ได้บอกเธอให้เข้าใจ

แต่มันคิดเองเออเองแค่ข้างใน

ว่ากำลังใจฉันที่มีคือเธอ เธอ

แต่ยังไงก็ตาม

 

ใช่ ฉันมันเป็นคนปากหนักฉันไม่ยอมบอกนายเองว่าฉันรักนาย รักจนไม่รู้ว่าจะหยุดรักนายได้ไหม

 

ก็รู้ รู้ตัวว่าเธอน่ะคือเบื้องหลังทุกความสุข

และอยากบอกเธอว่าฉัน รู้สึกดี

 

หนึ่งวันที่รักเธอ หนึ่งเดือนที่ให้ใจ

กี่ปีที่ให้ไป ยังเป็นอย่างนั้นไม่สิ้นสุด

ขอแค่เธออยู่ตรงนี้
 
ใช่ นายคือความสุขทุกอย่างของฉันบรัสครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่านายคือคนที่ใช่ เป็นเวลาสิบกว่าปีที่ฉันรู้สึกรักนายจนถอนตัวไม่ขึ้น
...!
   พระเจ้า เขา… ฉันเห็นบรัสเซลส์ยืนอยู่ข้างหลังสุดของเด็กนักเรียนที่เข้ามาดูการแสดง เขากำลังมองฉันอยู่
   ทำไมล่ะบรัสนายบอกว่าไม่อยากมองฉัน เกลียดสายตาของฉันที่มองนายแล้วนายมายืนดูฉันทำไม ทำไม
 



หนึ่งวันที่รักเธอ มันคือทั้งหัวใจ

ตั้งแต่ได้พบเจอ ก็ไม่มีเหลือให้ใครแล้ว

ขอมีเธออยู่อย่างนี้ ได้รึเปล่า

 

ได้รึปล่าวบรัส นายมายืนอยู่เคียงข้างใช่ได้มั้ย ?
 
   เมื่อเพลงจบทุกคนเงียบไปจนทำให้ฉันเริ่มใจเสีย นี่ฉันร้องผิดท่อนรึปล่าวนะแต่แล้วฉันก็ได้ยินเสียงปรบมือจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสิบจากสิบเป็นร้อย จนดังสนั่นไปทั่วทั้งลานทรัมเบิลน้ำตาของฉันไหลออกมาด้วยความรู้สึกหลากหลาย ฉันเห็นบรัสมองมาทางฉัน เราสบตากันเขาเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรงแล้วเดินจากไป น้ำตาของฉันไหลมาอีกรอบ คนอื่นคงคิดว่าฉันร้องไห้ เพราะซึ้งใจในเสียงปรบมือซึ่งนั่นก็ดี ฉันไม่อยากให้ใครรู้สึกสมเพชฉันแค่บรัสรู้สึกแบบนั่นฉันก็อยากหายไปจากตรง นี้ซะ
….
  งั้นฉันก็จะหายไปจากชีวิตของนายจริงๆเลยละกัน
ลาก่อนบรัสเซล์ ฉันรักนาย
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา