The Kid , No kid.
6) บทที่6
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเดี๋ยววิ่งเดี๋ยวหยุดไปตลอดทางเช่นนี้ช่างเป็นอะไรที่หนักหนาสาหัสสำหรับเซโตะเหลือเกิน โชคดีที่ลูกเห็บหยุดตก ร่างที่หดเล็กลงจึึงถูกคาโอรุอุ้มไปได้ เขาทั้งเพลียทั้งง่วง อยากจะหลับแต่การโดนอุ้มวิ่งไม่ได้เรียบรื่นเลย เหมือนนอนอยู่บนรถที่มีทางขรุขระเลย
เจ้าหน้าที่ยังคงสิ่งตามมาไม่หยุด "คุณหนูทั้งสอง ช่วยวางเด็กคนนั้นไว้ก่อนได้ไหมคะ โธ่!"
พวกเจ้าหน้าที่วิ่งไล่กวดมาไม่หยุด ถึงจะเคยมาแต่ก็ใช่ว่าจะรู้ทุกทาง ยิ่งโดยเฉพาะทางออกที่พอจำได้ก็โดนดักไว้หมด ถ้ายังวิ่งต่อไปก็รังแต่จะทำให้หลงลึกยิ่งขึ้นไปอีก อัลลิวีนนี่มันยังไงนะ สร้างศูนย์วิจัยให้ใหญ่ไปทำไมนักหนา!
คาโอริหยิบปืนคู่ออกมาจากเอวแล้วเริ่มต้นกราดยิงที่พื้น แน่นอน ถึงเธอจะเป็นนักพัฒนาอาวุธตัวยงก็ตาม แต่การฆ่าคนไม่ใช่งานของเธอนี่นา และมันก็เป็นคำขู่ที่ใช้ได้ผลเมื่อพวกเจ้าหน้าทีุ่ชุดกาวน์ได้แต่ยืนดักอยู่ตรงนั้น ไม่กล้าเข้าไปใกล้ แม้จะไม่ถอยก็ตามที
มือเล็กๆของเซโตะเบบี้สัมผัสร่างอีกฝ่ายเบาๆแล้วหลุด สัมผัสแล้วอ่อนแรงจนจับไม่อยู่เช่นนั้นหลายครั้ง ในที่สุด คาโอรุก็สังเกตถึงอาการได้ ท่าทางของเซโตะดูแย่ยิ่งกว่าตอนที่เขาเพิ่งมาถึงซะอีก ลมหายใจก็ไม่เป็นปกติ กำลังอยู่ในสภาวะที่เลวร้ายลงชัดๆ!
"เซโตะคุงจะไม่ไหวแล้วนะ" คาโอรุพูดอย่างร้อนรน "ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปต้องแย่แน่เลย"
เจ้าหน้าที่สาวซึ่งต้อนรับในต้อนแรกวิ่งมาดักหน้าไว้ทัน ส่งผลให้คาโอริจะยิงกราดเข้าไปอีก ถ้าหากไม่ใช่เพราะเข็มฉีดยาสีขาวเรืองแสงในมือของเธอ เจ้าหน้าที่คนนั้นเดินเข้าไปช้าๆ "ส่งให้ดิฉันเถอะค่ะ อาการของเด็กคนนั้นแย่แล้วนะคะ"
คาโอรุส่ายหน้าแล้วกอดเด็กน้อยผมแดงแน่นขึ้นไปอีก "พวกเธอถ่ายเทเลือดเขาออกจำนวนมหาศาล เอาเขาไปทดลองอะไรต่อมิอะไรตั้งเยอะแยะ คิดว่าฉันจะส่งตัวเซโตะคุงให้อีกครั้งงั้นเหรอ"
"ถ่ายเทเลือด?" เจ้าหน้าที่สาวทวนคำเบาๆแล้วกล่าวอย่างหนักแน่น "ดิฉันยอมรับว่ามีเหตุการณ์เช่นนั้นจริงๆ แต่อยู่ในลิมิตต่อวันที่เหมาะสม ไม่เป็นอันตรายนะคะ"
คาโอริแย้งถึงอาการของเด็กน้ิอยผมแดง แค่ถ่ายเลือดในระยะที่เหมาะสมทำไมถึงมีอาการหนักขนาดนี้กันล่ะ
เจ้าหน้าสาวคนนั้นอ้ำอึ้งอยู่ชั่วครู่แล้วยอมรับว่าฉีดตัวยาพิเศษให้กับเซโตะจริงๆ เพราะจะทำการทดลองบางอย่าง ถ้าหากคาโอรุไม่พาออกมากระทันหันคงจะไม่มีอาการแย่ลงเช่นนี้ แต่ยาในมือเธอก็เปรียบเสมือนยาถอนพิษตัวนั้น ถ้าหากว่ายังลังเลต่อไป คนที่จะอันตรายก็คือเซโตะเอง
"พวกเราคือสมาชิกองค์กรอัลลิวีน มีหน้าที่เชื่อฟังและมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับท่านทั้งสอง ฉะนั้น วางใจพวกเราเถอะค่ะ ส่งตัวเขามาให้ดิฉันนะคะ"
คาโอรุตัดสินใจก้าวเข้าไปหาเธอคนนั้น แม้จะได้ยินเสียงห้ามของคาโอริก็ตาม เด็กสาวไม่มีทางไว้ใจคนพวกนี้เหมือนที่พี่ชายของเธอแน่ ความทรงจำช่วงสมัยเด็กมันยังฝังลึกอยู่ในใจ ในตอนนั้น ถ้าพวกเธอมาไม่ทัน เด็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่จะโดนอะไรบ้างก็ไม่รู้!
ยาสีเขียวเรืองถูกฉีดเข้าไปในร่างกายของเซโตะทีละน้อยๆจนสุด อาการทรมานเมื่อครู่จึงเริ่มคลาย แต่ถึงกระนั้น เด็กน้อยผมสีแดงสลบไปในทันที เจ้าหน้าที่หญิงรีบพูดว่านี่เป็นอาการปกติ
"ฉันจะดูอาการเขาต่อเอง" คาโอรุพูดอย่างรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอีกนิดเมื่อเห็นอาการที่ดีขึ้นตามลำดับ เมื่อเห็นสายตาน้องสาวก็กล่าวต่อว่า "แค่ส่งข้อมูลมาก็พอ ในหลายวันมานี้เธอทำอะไรเขาบ้าง"
เจ้าหน้าที่สาวพยักหน้ารับคำสั่งแล้วสั่งคนเตรียมห้องหมายเลขศูนย์สามให้พร้อมก่อนที่พวกเขาจะเดินไปถึงและบางส่วนสำหรับพิมพ์ข้อมูลทั้งหมด ไม่มีใครบ่นว่าสักคำ เพราะมันคือคำสั่งที่ทำเพื่อคุณหนูทั้งสอง
พวกคาโอรุเองไม่เข้าใจมานานแล้วว่าทำไมคนในอัลลิวีนถึงต้องทำตามคำสั่งเขาขนาดนี้
"เพราะงั้นฉันถึงรอดมาได้สินะ" เซโตะที่กลับมายังบ้านของสองพี่น้องหลังอาการเป็นปกติกอดอก "สรุปก็คือ ถึงจะเสียเวลาไปหลายวัน ฉันก็ยังไม่ได้กลับคืนร่างเดิมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์สินะ เ็ป็นความผิดของนายชัดๆเลย"
"คนผิดคือนายที่กลายเป็นเด็กเองต่างหาก"
ผู้มีเนตรราตรีส่ายหน้าชี้ไปมาตรงหน้าเด็กน้อยผมแดงอย่างผู้ที่ตัดสินในเรื่องนี้ว่าคนผิดคือตัวเซโตะเอง ด้วยหลักตรรกะที่บอกว่า ถ้าตัวเด็กน้อยผมแดงไม่หด ก็คงไม่ต้องมารู้เรื่องอัลลิวีน ไม่ต้องโดนยัดเข้าศูนย์วิจัยและโดนทารุณกรรมหรอก ช่างเป็นเหตุผลที่ตัวเด็กน้อยฟังแล้วโมโหจริงๆ
คาโอริเดินเข้ามากระดกกาแฟพรวดๆอีกเช่นเคย พลางเล่าว่าข้อมูลที่อัลลิวีนส่งมาให้เกี่ยวกับเซโตะมีประโยชน์มาก สร้างอาวุธได้อีกหลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว
เซโตะอดสงสัยไม่ได้ คาโอริดูแล้วคงจะเป็นมืออาชีพด้านการพัฒนาอาวุธอย่างแน่นอน แต่ของที่สร้างมานั้น เธอเอามันไปขายให้ใคร คงไม่ใช่อัลลิวีนแน่ เพราะดูท่าทางเด็กสาวจะเกลียดองค์กรนั้นเข้าไส้ หรือว่าจะพัฒนาขึ้นมาใช้เอง? ช่างเถอะ อยู่ไปนานๆเดี๋ยวก็คงรู้เองล่ะนะ
เสียงกดออดดังขึ้นมาในเช้าอันแสนสดใส ไร้พายุหิมะ เด็กสาวผมทองมัดแกละโผล่หน้าเข้ามาทักทายอย่างสบายอารมณ์ "ไฮ! วันนี้สดชื่นจังเลยเนอะ หิมะไม่ค่อยมีเหมือนวันก่อนๆเลย"
ตัวก่อเรื่องมาแล้ว...
เซโตะได้รับฟังเรื่องราวต่างๆและสรุปได้ว่าต้นเหตุของเรื่องวุ่นวายที่หมดก็เพราะโรซารี่พูดจาอะไรเกิืนจริง ใช่แล้ว! คนผิดคือเด็กสาวผมทองคนนี้นี่แหละ
"เอาน่าๆ อย่าเพิ่งโมโหโกรธาโอ้ลันล้าไป ที่มาวันนี้ก็มีของน่าสนใจมาให้ด้วยนะจ๊ะ!"
คาโอรุพูดอย่างเย็นชาว่าเซโตะไม่ใช่เด็ก ไม่ต้องได้รับของเล่นอะไรสักหน่อย บอกมาซะดีๆว่าเธอต้องการอะไรและรู้เรื่องที่ทำไมเซโตะถึงกลายเป็นเด็กใช่ไหม โรซารี่ยิ้มยียวนอย่างน่าหมั่นไส้แบบที่เด็กน้อยผมแดงว่าแล้วชูบัตรสวนสนุกขึ้นมา
"Kid Kid Land ดินแดนสวนสนุกที่อบอวลไปด้วยความตื่นเต้นและรื่นเริง เหมาะไปกับครอบครัว เพื่อน แฟน หรือมนุษย์ต่างดาว นัดเดทก็ได้ นัดเลิกก็ดี น่าสนใช่ไหมล่ะ!"
ทั้งสามคนมองหน้ากันเลิ่กลั่กแต่ไม่มีใครรับบัตรของสวนสนุกมาสักคนเดียว ความจริงสวนสนุกแห่งนั้นก็เป็นสถานที่มีชื่อเสียงพอสมควร ตามระดับความน่าสนใจ ความตื่นเต้นและสนุกสนาน ไม่ว่าใครได้บัตรฟรีก็ล้วนดีใจ แต่ไม่รวมการได้จากคนแปลกๆท่าทางน่าสงสัยอย่างโรซารี่แน่นอน!
สาวผมทองทำหน้ามุ่ยๆบอกว่ามันเป็นแค่ของขอโทษที่พูดจาอะไรเกินจริงจนเดือดร้อนกันไปใหญ่พลางยัดบัตรใส่มือคาโอรุและเซโตะเป็นการขีดเส้นเลืือกคนที่จะได้ไป แต่แน่นอนว่าเธอไม่ได้เมินคาโอริแน่นอน โรซารี่ยื่นปืนพลาสติกกระบอกหนึ่งให้พร้อมเปิดให้ดูว่าไม่ได้ใส่อะไรไว้ทั้งนั้น แต่เมื่อกดยิงกลับมาน้ำจำนวนมหาศาลออกมา
"เอาไว้ใช้ยามไฟไหมก็ได้ เอาไว้ร่วมประเพณีของต่างประเทศก็ดี เอาไว้แทนกระบอกน้ำยามเดินป่า หรือแม้แต่ตอนน้ำไม่ไหล ปืนสารพัดประโยชน์เลยนะ สนใจไหมล่ะ"
คาโอริกอดอกแสร้งหาวกล่าวว่าของเด็กเล่นแบบนี้เธอเองก็มีเช่นเดียวกัน แน่นอน ไม่ใช่แค่อาวุธที่ไว้ใช้สังหารหรือทำลายล้างแบบปกติเท่านั้น อาวุธที่ใช้สกัดหรือโจมตีคู่ต่อสู้แบบไม่ให้บาดเจ็บจำพวกน้ำ คาโอริต้องเคยประดิษฐ์แน่นอน โรซารี่ทำหน้ามุ่ยๆ
"เอาเป็นว่าไม่สนใจสินะ งั้นเปลี่ยนเป็นบัตรคอนเสิร์ตของสุดยอดไอดอล เมยามิ ริกะ ล่ะ? ไม่ก็ บัตรนักมายากลฟุรุคาอิ ทาเคชิ สนใจใช่ไหม... อ๊ะ อย่าเดินหนีสิ!"
โรซารี่เก็บบัตรทั้งสองการแสดงใส่กระเป๋าตามเดิมอย่างหงุดหงิด เอาเถอะ งานของเธอคือการไม่ให้คาโอริไปยุ่งย่ามกับการ 'เดทจำเป็น' นี่เท่านั้นล่ะนะ
เมื่อเห็นคนอื่นปฏิเสธได้ ทำไมตนเองจึงจะปฏิเสธไม่ได้คาโอรุส่งบัตรสวนสนุกคืนทันทีเพราะความไม่ไว้ใจ ผิดกับเด็กน้อยผมแดงเข้มที่ส่งคืนเพราะน่าเบื่อ เขาเป็นหนึ่งในพวกที่ไม่ชอบต่อแถวยืนนานๆ ทั้งรถไฟเหาะและเรือไวกิ้ง แต่ละอย่างกว่าจะได้เล่นก็ปาเข้าไปสองชั่วโมง เล่นได้สองสามอย่างก็ต้องพักทานข้าวแล้ว น่า้เบื่ออะไรแบบนี้
โรซารี่แสร้งทำใบหน้าที่แสดงอารมณ์โมโหแล้วเชิดปลายจมูกขึ้นนิดๆ
"ของที่ฉันให้ไปก็ล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งนั้น จะไม่เอาบัตรสวนสนุกก็ตามใจ!"
เซโตะชักมือกลับทันที ถึงจะไม่รู้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นคืออะไร แต่ถ้ามันทำให้เขาเป็นเด็กมัธยมอีกครั้งก็โอเคแล้ว ด้านคาโอรุซึ่งสาวผมทองกำลังหนักใจ รายนี้จะกล่อมยังไงให้ไปดีนะ? แต่ไม่ทันที่จะคิดออก ผู้มีเนตรราตรีก็บอกว่าจะไปเป็นเพื่อนเซโตะเอง
"นายจะไปทำไมกัน ที่ฉันไปก็มีเหตุผล...อุ๊บ อื้อๆ!"
เด็กน้อยผมแดงโดนโรซารี่ปิดปากทันที สำหรับเธอที่ยังนึกไม่ออกถึงแผนการที่จะทำให้คาโอรุไป อย่าหวังว่าจะยอทให้มาทำลายโอกาสกันง่ายๆ คาโอรุก้มหน้าเดินจ้ำเอาๆ พูดทิ้งท้ายไว้เพียงแค่ "ถ้าอยากไปโรงเรียนสายก็ตามใจ!" ด้วยน้ำเ้สียงอันเย็นชา...
วันอาทิตย์สำหรับเซโตะเป็นวันที่มาได้ไวมาก เพราะนับรวมวันที่โดนพวกอัลลิวีนพาตัวไปแล้ว เวลาเรียนจริงๆก็มีเพียงแค่สามสี่วัน แต่ไม่จำเป็นต้องห่วงว่าจะตามไม่ทันอะไร สปิริตของอาจารย์คิริเอะสูงเกินห้ามใจ จัดการลากลูกศิษย์มาติวเข้มตลอดทั้งเย็นจนครบในที่สุด
เพราะอย่างนี้ถึงไม่ชอบขาดเรียนไงเล่า!
เซโตะคิดอย่างหงุดหงิด ถึงจะทำตัวให้ภาพลักษณ์เป็นเด็กเกเรสุดอันธพาลก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่ทำคือการโดดเรียน หาใช่ด้วยนิสัยอันดีงามเกินกว่าใครจะเข้าใจไม่ แต่เป็นเพราะเขารู้ตัวอย่างจากพวกรุ่นพี่มานักต่อนักแล้วต่างหาก
คาโอรุแต่งตัวด้วยชุดเสื้อผ้า่ง่ายๆแต่สบาย สวมคลุมทับด้วยเสื้อแจ๊คเก็ต ดูแล้วก็เก๋ไปอีกแบบ แม้ว่ามันจะไม่ใช่สไตล์การแต่งตัวของเขาเลยก็ตาม ผิดกับเซโตะที่สวมเสื้อผ้ายังไงก็ยังงั้น
ในบรรดาเครื่องเล่นทั้งหมดสิ่งที่ทั้งคู่เลือกตรงกันเพียงอย่างเดียวคือไจแอนท์ เฮ้าส์ เพราะเซโตะไม่ชอบการรอคิวรถไฟเหาะนาน ถึงเรือไวกิ้งที่เด็กน้อยสนใจจะยังไม่มีคนมายืนต่อแถวมากนัก คาโอรุก็ไม่ชอบเล่นอะไรเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา จะมีก็แต่ไจแอนท์ เฮ้าส์ แห่งนี้เท่านั้นที่ไร้ซึ่งข้อตำหนิ
อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้ามาที่สถานที่จริง เซโตะรู้สึกทันทีว่าตนเองคิดผิดเต็มประตู เมื่อผู้มีเนตรราตรีกอดอกพูดขำๆ "จากมุมมองของพวก 'เด็กๆ' อะไรๆมันคงใหญ่กว่าปกติเนอะ"
อย่าย้ำได้ไหม!
เด็กน้อยผมแดงทำหน้าไม่สบอารมณ์เมื่อถูกอุ้มแนบอกอีกแล้ว ยังไงกันนะ ก็รู้แล้วไงว่าเขาคือใคร แต่เมื่อพิจารณาความหวังดีที่อุตสาห์ไม่ทำให้เขาเมื่อย ผลสรุปออกมาว่าคาโอรุแกล้งตอกย้ำเขาทางการกระทำ!
"เป็นถ้วยชาที่ใหญ่จังเลยเนอะ"
ถึงจะมีผู้เล่นในไจแอนท์ เฮ้าส์อยู่บ้าง แต่ถ้วยชาใบยักษ์นั้นมีแต่พวกคาโอรุ แน่นอน ระหว่างถ้วยชากับชามข้าวใบใหญ่ ชามข้าวที่ใบใหญ่กว่าก็เป็นอะไรน่าสนใจมากสำหรับผู้เล่นทั้งหลาย แต่เรื่องที่ไม่มีใครเข้ามาในนี้เลยก็ออกจะประหลาดอยู่บ้าง...
"ไม่ชอบใส่แจ๊คเก็ตเลยแฮะ" คาโอรุตัดสินใจถอดเสื้อนอกออกในที่สุด "นายจะเตรียมไว้ทำไมก็ไม่รู้"
เด็กน้อยผู้ถูกพาดพิงหันขวับมาหาทันที "ฉันเปล่าสักหน่อย ฉันจะไปยุ่งกับการแต่งตัวของนายทำไมกันล่ะ ถึงจะใส่ชุดอะไรๆก็ดูน่าเกลียดทั้งหมดก็เถอะ ไม่ได้ใส่แล้วดูน่ามองเลยจริงๆนะ"
คาโอรุคิ้วกระตุก พูดรวดเร็ว "งั้นเหรอ ความจริงฉันก็คิดมานานแล้วล่ะว่านายใส่ชุดได้แย่สุดๆ แค่ชุดนักเรียนยังเอาชายเสื้อออกมาเลย คิดว่าทำผิดกฏแล้วนึกว่าเท่นักงั้นเหรอ ดูสิ ขนาดกระดุมยังติดไม่หมดเลย อย่างน้อยฉันก็แต่งตัวได้เป็นผู้เป็นคนมากกว่านายล่ะกัน"
เซโตะได้แต่อ้าปากค้างเมื่อเจอด่ารัวมาเป็นชุดแถมยังเป็นการพูดที่ไม่เปิดช่องให้ตอบโต้ด้วย ถึงเขาจะเริ่มเถียงก่อนก็เถอะนะ แต่ว่าไม่จำเป็นต้องว่ากันรัวขนาดนี้สักหน่อย!
แน่นอน เมื่อไม่พูดคนอื่นก็ย่อมไม่รู้ คาโอรุได้แต่คิดอย่างหงุดหงิดว่าตนเองอุตสาห์มาเป็นเพื่อน เพราะผ่านเรื่องที่อัลลิวีนไปไม่กี่วันเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่ายังมีอาการอะไรเหลืออยู่บ้างไหม แต่ถ้าปากกล้าขาแข็งแบบนี้คงหายเป็นปลิดทิ้งแล้วล่ะ!
หลังจากที่เถียงกันในถ้วยชาจนพอใจ เสียงเป๊าะแป๊ะแปลกๆชวนให้คิดถึงก็ดังขึ้นมา ท่าทางเหมือนลูกเห็บจะตกอีกแล้ว...
"มันน่าแปลกนะ ลูกเห็บตกบ่อยเกินไปหรือเปล่า ตกบ่อยกว่าหิมะอีกมั้ง"
คาโอรุพึมพำแล้วยื่นแจ๊คเก็ตสีฟ้าของตนให้ด้วยสายตาเยาะๆ โชคดีที่มันเป็นเสื้อตัวใหญ่ พอให้คลุมกายได้ และคนที่อยู่ในไจแอนท์ เฮ้าส์ ก็ไม่เข้ามาในถ้วยชาเลย มันเป็นข้อสงสัยที่พวกเขาต่างคิดกันอยู่ แต่ถ้าหากเห็นเด็กสาวผมทองที่ยืนเอาหูแนบเป็นการแอบฟังจากด้านนอก คงจะสรุปกันได้ว่าเธอใช้วิธีพิลึกพิลั่นสักอย่างกันคนที่จะเข้ามาเป็นแน่
และหากโรซารี่พูดได้เธอคงตะโกนออกไปดังๆแล้วว่ามันยุ่งยากแค่ไหนกว่าลูกเห็บจะตกถี่ขนาดนี้ พวกเขาอย่ามัวทะเลาะกันจะได้ไหม ผิดกับโซราซี่ที่คิดว่าหากบรรยากาศไม่เป็นใจ อะไรๆก็คงไม่คืบหน้า เด็กสาวผมทองน่าจะลองสร้างโอกาสอะไรแบบนั้นดูบ้างนะ
"ก็ให้อยู่กันสองต่อสองในถ้วยชาเบ่อเริ่มเทิ่มนี่แล้วไงเล่า!"
โรซารี่พูดอย่างหงุดหงิดเบาๆ ไม่สร้างโอกาสตรงไหน นี่สร้างสุดๆแล้วนะ เหมือนฉากในละครทั้งหลาย ตัวเอกสองคนยืนหลบฝนใต้อาคารแล้วเกิดหวั่นไหววูบวาบ ทุกอย่างก็ควรเป็นเช่นนั้น ถ้าโรซารี่เข้าใจอะไรๆมากกว่านี้ เช่นที่ตกมันไม่ใช่ฝนหรือคนที่กำลังเถียงกันเรื่องเสื้อผ้าไม่มีอารมณ์จะโรแมนติคหวั่นไหววูบวาบ
"ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปมันจะไม่เป็นตามเป้าหมายเอานะ" โซราซี่มองดูใบปลิวเรื่องภัตตาคารสุดหรูหราในคิด คิด แลนด์ "อีกอย่าง เขาเขียนว่าฟรีเชิงเทียนเฉพาะคู่รัก ไม่ใช่กับพี่เลี้ยงเด็กนะ แล้วการทานอาหารใต้แสงเทียนควรเป็นเซโตะร่างวัยรุ่นด้วย จัดการอะไรๆให้เรียบร้อยซะล่ะ"
โรซารี่พยักหน้าแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือพลาสติกซึ่งเป็นของเล่นจากขบวนการแปลงร่างสักอย่างออกมาจากกระเป๋า หย่อนวิธีใช้และห่อเป็นกล่องของขวัญผูกริบบิ้นสวยๆ แล้วยื่นให้่โซราซี่จัดการต่อ สาวผมทองเพื่อนซี้รับมาอย่างเอือมๆแล้วปาเข้าไปในถ้วยชาใบยักษ์สุดแรง
มันต้องเป็นของขวัญที่โดนใจมากแน่นอน ก็นั่นนะมันคือ...
"โอ๊ย!" เสียงของเซโตะร้องลั่น "ใครนะ ปาอะไรเข้ามาได้ยังไง รู้มันว่ามันโดนหัวคนอื่นนะ!"
ดูท่าว่าคงไม่ใช่ของโดนใจอย่างที่โรซารี่คิดซะแล้วล่ะมั้งนี่?
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ